ตอนที่ 15 : Under red 15
Under red 15
กลิ่นธูปกำยานลอยละล่องออกจากศาลเจ้าผสมปนเปควันหอมกรุ่นจากซึ้งนึ่งซาลาเปา หมั่นโถว ขนมจีบ ถัดไปเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวปลาน้ำใสและยังมีร้านน้ำชาเปิดตั้งรอรับลูกค้าทั้งหลายที่แวะเวียนเข้ามาสู่ถนนเยาวราช
ที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมชนชาวจีนผู้อพยพจากทางเหนือทำมาหากินปักหลักก่อร่างสร้างตัวในประเทศไทย บ้างก็มาเก็บเงินและส่งกลับไปบ้านเกิดก็มี คนไทยแถวนี้มีเดินมาซื้อข้าวของ จับจ่ายใช้สอยไม่ขาดสายก็จริงแต่เห็นความต่างของชนชั้น
ตุบ!
"ขอโทษค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ นี่ครับกระเป๋า"
"ขอบ- อี๋! เจ๊ก" คุณหญิงนางหนึ่งในชุดผ้าไหมตัดสวยสีชมพูหรี่ตาสบถคำเรียกเหยียดชาติพันธุ์..นั่นคือคำแทน รวมถึงไทยเชื้อสายจีนอย่างคริสด้วย
ตึก!
พอเห็นคนยืนคุ้มด้านหลังหนุ่มเชื้อสายจีน หล่อนหน้าเจื่อนทันตา ก้มหน้างุดเดินหิ้วกระเป๋าน้อยจากไป คริสเหลียวมองไปยังต้นเหตุอาการกลัวหัวหดของเจ้าหล่อน ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากทหารที่ยังอยู่ในเครื่องแบบติดยศพันเอกคอยเดินตามประกบเขาไม่หยุดตั้งแต่จอดรถริมถนน
"ร้านพ่อกูอยู่ลึกไปอีก" คริสย้ำเตือนความจำให้คนแก่กว่าหลายสิบกว่าปี หน้ากลมแหงนมองป้ายด้านหน้าอันคุ้นชินตามาตั้งแต่จำความได้
'ศาลเจ้ากวนอูและเจ้าพ่อม้า'
"ไปไหว้กัน" พันเอกสิงโตเอ่ยชวนหน้าตาย
"มึงเป็นคนไทย นับถือท่านด้วยเหรอ?" คริสเลิกคิ้ว อีกฝ่ายพยักหน้าในระหว่างตรงเข้าไปซื้อของไหว้ต่างๆเน้นตกแต่งสีแดงอันเป็นมงคลของชาวจีนในร้านรถเข็นหน้าศาลเจ้า
พิลึก..
คริสอดประหลาดใจเสียไม่ได้มองดูคนที่พามาไหว้พระ ไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทหารเชื้อชาติไทยแท้ไม่ควรจะมาโผล่หัวในสถานที่สักการะเทพของคนจีนด้วยซ้ำ อย่างที่รู้กันว่าระดับสังคมคนจีนโดนกดให้อยู่คนละชั้น กลิ่นธูปเทียนกำยานคลุ้งคลั่กชวนแสบจมูกในโถงไหว้บูชาเทวรูปเทพเจ้ากวนอู พระพักตร์สีแดง หน้าตาดุขมึงเกลียวตรงหน้า พวกเขานั่งคุกเข่าข้างกันพนมมือถือธูปไว้ ตั้งสมาธิจดจ่อกับตัวแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้า
"....."
"....."
นิ่งค้างเนิ่นนานพักใหญ่จนในที่สุดคริสเป็นฝ่ายลุกไปปักธูปลงกระถางก่อน เขาลุกออกมาจากโถงไหว้ หลีกทางให้อาม่าอายุเยอะคนหนึ่งเข้ามาไหว้ต่อ
"อาตี๋ไม่เสี่ยงเซียมซีเรอะ" อาแปะไว้เคราขาวผู้ดูแลสถานที่เอ่ยทัก
"ไม่ดีกว่าแปะ อั๊วขี้เกียจ" โบกมือปฏิเสธไป ตากลมโตเหลือบมองแผ่นหลังกว้างใหญ่กำลังในเครื่องแบบยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิมตรงหน้ารูปปั้นเทพพระพักตร์สีแดง นานเกือบร่วม 15 นาทีได้ ในที่สุดทหารหนุ่มผิวสีแทนเข้มกร้านแดดขยับตัวปักธูปลงข้างของคริสและเดินออกมาจากประตู สมทบคนผิวขาวในเสื้อกล้ามอากงยืนรออยู่
ไม่คิดถามว่าขอพรอะไร ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใคร่รู้เรื่องทหาร อดีตแกนนำหัวขบถถูกอีกฝ่ายสะกิดศอกเร่งให้เดินตามกันมายัง..กระดานเซียมซี
แคว้ก!
ฉีกออกใบหนึ่งในมือแกร่งสีเข้ม สิงโตกวาดตาอ่านเงียบๆ คริสมุ่นคิ้วพลางปัดควันโขม่งรมหนักขึ้นให้ออกจากหน้า ย่นจมูกเหม็นแสบควันร้อน ต่อให้เกิดมาในดงชุมชนนี้ก็ใช่ว่าคุ้นชินเสียเมื่อไหร่ มือแกร่งสีเข้มขย้ำยัดคืนลงกระถางต้นไม้แถวนั้น คนมีเชื้อจีนอย่างคริสรับรู้ได้ทันที หากเขาอยากรู้ก็แค่หยิบมาและคลี่อ่าน
"คริส" เสียงเร่งรัดจากที่รถประจำตำแหน่งริมถนน คริสสะดุ้ง จังงังกับตัวเอง
อีกนิดเดียว..ปลายนิ้วจะแตะก้อนกระดาษเซียมซีขย้ำทิ้ง..
"...." คริสซุกมือลงในกางเกงขาสั้นเดินกลับไปขึ้นรถ ปล่อยกระดาษขย้ำก้อนนั่นคาไว้ในกระถางต้นไม้
.
.
.
ร้านข้าวมันไก่แสงโพธิรัตน์เป็นร้านขนาด 1 ห้องแถวติดริมถนน เป็นทั้งบ้านและแหล่งทำมาค้าขายในเวลาเดียวกัน เสียงสับไก่บนเขียงดังป๊อกๆคุ้นชินมาตั้งแต่เยาว์วัย คริสลงจากรถเดินเข้ามาในร้านพร้อมทหารหนุ่มอายุมากกว่าหลายปี ร้านในช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาที่คนน้อยสุดตามปกติและจะแน่นอีกครั้งเมื่อเข้าสู่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจนปิดร้านในเวลา 3 ทุ่มครึ่ง
"นั่งก่อนนะครับผู้พัน" พ่อเป็นอาแปะเจ้าของร้านข้าวมันไก่เช็ดโต๊ะ เก้าอี้ จัดที่นั่งให้คริสกับทหารอย่างดีก่อนจะรีบล้างมือกลับไปสับไก่ต่อให้ลูกค้าที่รอกินข้าวอยู่โต๊ะถัดไป
โกรธที่พ่อขาย แต่พอรู้ว่าพ่อ..
ไม่อยากนึกว่าจะก้มหัวขนาดไหน แน่นอนว่าลูกชายไม่ได้ซาบซึ้งด้วยซ้ำกับวิธีการไร้ศักดิ์ศรี ต่อให้เกิดเป็นคนจีน เป็นคนจน เป็นต่ำชั้นในด้านเชื้อชาติทั้งที่เขาก็ใช่ว่าจะชอบใจ แต่อย่างน้อยการมีศักดิ์ศรีก็ทำให้คริสก้าวขึ้นไปเหยียบเวที เป็นแกนนำการชุมนุมเพื่อเรียกศักดิ์ศรีทางประชาธิปไตยกลับคืน
สุดท้าย..พ่อก็ทำมันพัง..
เหตุผลของพ่อกับวิธีการ
พ่อเต็มใจอยากให้เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
"ป๊า คริสช่วย" นั่งรอเฉยๆก็ยังไงอยู่ ลูกชายลุกไปช่วยงานเหมือนที่ทำมาตลอด น่าแปลก..ทั้งที่เป็นเรื่องชินตา เขาเห็นแววตาของพ่อหลังแว่นกรอบสีลอกคลอเบ้าก่อนจะรีบหันหน้าหนี ใช้ผ้ากันเปื้อนเช็ดหน้าลวกๆแล้วหันมายิ้ม เขยิบที่ให้ลูกชายเข้ามาช่วยสับไก่หน้าร้าน จัดจาน ทุกอย่างเร็วขึ้นเมื่อลูกชายกลับมาเป็นลูกมือ คนไทยเชื้อสายจีนอาศัยในตึกแถวเล็กๆบนถนนเยาวราช บ้านขายแค่ข้าวมันไก่ ร้านก็ไม่ได้มีชื่ออะไรมากมาย ใครจะรู้คนบ้านนี้กลับริอาจหาญถือโทรโข่งเป็นผู้นำกระบอกเสียงในวัน 14 ตุลาปีที่แล้ว
"ข้าวมันไก่จานครับ"
"ได้..."คริสค่อยๆหุบยิ้ม สบตาเด็กวัยมหาลัยตรงหน้าเครื่องแบบมหาลัยเก่าที่เคยอยู่..
"คริส"
"ครับป๊า!!" ขานรับแล้วมัดข้าวมันไก่ใส่ถุงส่งให้แก๊งเด็กมหาลัยแถวสนามจันทร์ ลูกค้าเบาลงพอใกล้ปิดร้าน ทีนี้พวกเขาเลยได้นั่งพักคุยกันส่วนใหญ่เป็นทหารกับพ่อเสียมากกว่าจนคริสแทบไม่ได้อ้าปาก ในทุกครั้งยามสนทนากัน พ่อดูเกร็งชัด ไม่แปลกเสียเท่าไหร่เพราะสิงโตเป็นทหาร ส่วนลูกชายเป็นแกนนำ เป็นขั้วตรงข้ามที่ไม่น่ามาอยู่ร่วมชายคาด้วยซ้ำ
"ป๊า คริสไปซื้อซีอิ๋วก่อนนะ เห็นมันจะหมด"
หมับ!!
"กูไปร้านข้างๆ เอง" คริสบอกสิงโต ชักหน้าหงุดหงิดใส่คนที่คว้าแขนรั้งไว้ อีกฝ่ายมองดูร้านขายของชำทีว่าอยู่ไม่ไกลจากสายตาเขา
"ซื้อเสร็จรีบกลับ มืดค่ำอันตราย" ยอมปล่อยและกลับไปคุยกับเจ้าของร้านข้าวมันไก่ต่อ ส่วนลูกชายเจ้าของร้านยืนตัวแข็งทื่อกับประโยคเรียบๆดูไม่มีอะไร
ร้อนหน้า..
คริสคนหน้าร้อนวาบจนนึกฉงนเดินเกาหัวออกมาซื้อซีอิ๋ว อันที่จริงคนย่านนี้ก็รู้จักกันหมด ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมากังวล ระแวดระวังแต่อีกฝ่ายอาจเพราะเป็นคนนอกถิ่นก็เลย..ห่วง
สะบัดหัวแรงจนผมพลิ้วสะบัด ตั้งสติกลับมาที่การล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบแบงค์ 1 บาทที่ได้จากลูกค้าเด็กมหาลัย
'ขอคุย'
คริสจำได้แม่น เด็กคนนั้น..ไม่นานก็มายืนข้างกายในชุดเสื้อยืดสีดำทำทีเป็นไล่นิ้วเลือกขวดซีอิ๋วบนแผง
"ผมจะคุยกับพี่หลายครั้งแล้ว แต่พี่ดันย้ายออกไปก่อน"
"ขอโทษนะ.." คริสกล่าวตอบโดยไม่หันหน้าไปสบตา ทำเหมือนคนมาเดินในร้านตามปกติ
เด็กคนนี้ชื่อ 'ธีร์' เคยอยู่ในกลุ่มทีมทำป้ายประท้วงใน 14 ตุลา
"มีเรื่องพี่"
"เรื่องไรวะ?"
"มีข่าวว่าถนอมจะกลับประเทศ"
"....."คริสตาโต มือที่จับขวดซีอิ๋วสั่น
"เราไล่มันแทบตาย มันจะกลับมาอีกเหรอ"กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ กลืนน้ำลายลงคอยากลำบาก จอมพลบ้าอำนาจหนีไปไกลต่างประเทศด้วยแรงขับไล่ของการชุมนุมกำลังจะคืนถิ่นฐานที่พวกเขาสละชีวิตปกป้อง นี่คือข่าวใหม่จากธีร์เล่าให้ฟังก่อนเลือกหยิบขวดน้ำปลาแทนซีอิ๋วขาว
"จากสายข่าวน่าจะปีหน้า ปีที่จะเริ่มเลือกตั้ง เรารู้แล้วว่าพรรคไหนจะให้การสนับสนุนมันกลับมา" เด็กอธิบายสถานการณ์และตีจุดประสงค์ที่เลือกเข้าหาอดีตแกนนำหัวขบถคนสุดท้ายที่ยังอยู่ดีกินดี ไม่สิ..นั่นเป็นเพียงสายตาคนนอกมอง โดยไม่รู้ว่าคริสต้องเจออะไรบ้าง
"จะดีถ้าพี่เป็นสายทหารให้ พี่ยังไม่ลืมอุดมการณ์เราใช่ไหม?"
คนที่เลือกขวดซีอิ๋วขาวกำขวดแน่น เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ
"พวกนาย..ไม่เกลียดพี่เหรอ?" เกลียดแบบที่เอ็ม แบบที่ทุกคนในมหาลัยเก่าชิงชัง เหยียดหยามดั่งเป็นคนขายเพื่อน ขายชาติ ขายร่างกายให้กับทหาร ลดศักดิ์ศรีเอาตัวรอด ทว่าธีร์กลับส่ายหัว
"ผมเข้าใจพี่คริส พวกพี่เอ็มอคติเกินไป พวกผมเชื่อใจว่าพี่คริสไม่มีทางเป็นคนของทหารอย่างเต็มใจ"
ขอบตาร้อนผ่าว คริสกัดปากกลั้นเสียงสะอื้น
"อย่าร้องนะพี่ เดี๋ยวคนจับได้"
"อ...อืม...ขอโทษ.."
"แล้วค่อยเจอกันใหม่ ผมจะติดต่อไป"
ธีร์จากไปแล้วดั่งสายลมผ่านมาวูบหนึ่งแต่แรงกระแทกใจคริส อุดมการณ์ยังคงอยู่ หากสิ่งที่เขาเชื่อมั่นถูกสั่นคลอนเขาก็เลือกแล้วที่จะหวนกลับไปโดยไม่คิดลังเล ไม่มีวันที่จะต้องทนทุกข์กับวงจรเดิมกับพวกทหารเลว!
"ไม่.." คริสตกตะกอนได้บางสิ่งจากภาพจำของเหล่าทหารในชุดพรางบุกป่าในหัวหิน
ไม่ใช่ทุกคน
ทหาร กษัตริย์ ประธานาธิบดีหรือใครก็ตามขึ้นปกครองล้วนไม่ผิด แต่เมื่อใดที่วิธีการปกครองเป็นบ้าอำนาจ ไล่กดขี่สิทธิเสรีภาพ เอารัดเอาเปรียบ ขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน นี่ต่างหากคือสิ่งผิดและพวกเขาจะไม่ยอมให้เรื่องผิดนี้กลายเป็นความถูกต้องอย่างเด็ดขาดก็เท่านั้น
คริสเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจ ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเดินกลับมาที่ร้านข้าวมันไก่
"ขอบคุณผู้พันมากนะครับ"
กึก..
หยุดฝีเท้าและเงียบ แอบยืนฟังผ่านหน้าต่าง
"ผมได้ยินทหารคุยกันเรื่องผู้พันแลกสวัสดิการบำเหน็จบำนาญหลังเกษียณกับเพื่อลูกชายผม เอ่อ.." พ่อของคริสผงกหัวไปมายามคุยอย่างนอบน้อม ตื่นเกร็ง
"ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ขอคืนสิทธิ์ คริสจะปลอดภัย"
เจ้าของร้านร่างท้วมถอนหายใจเฮือก มือทาบอกโล่งใจ น้ำเสียงสดใสขึ้น พูดไทยแบบไม่ชัดกล่าวขอบคุณทหารพลางรินชาร้อนให้
"ขอบคุณผู้พันมากนะครับ ผมในฐานะพ่อละอายใจมาก จะบอกก็ไม่กล้าว่าได้เงินจากผู้พันเรียนหนังสือมาตลอด ลูกชายผมก็ดันไปอยู่กับเพื่อนหัวรุนแรงซะได้"
เพล้ง!!!
ขวดซีอิ๋วตกแตก พ่อคริสตกใจหันมองลูกชายยืนช็อคอยู่ริมหน้าต่าง
"ค...คริส"
"....." ขายาวขาวขยับ...ก้าวถอยหลัง
"คริส!!!"
ลูกชายวิ่งหนีไปจากร้าน หนีพ่อ หนีไปให้ไกลจากสถานที่เป็นบ้านเกิดในเยาวราช
โลกถล่ม
เด็กหนุ่มคนหนึ่งกับความจริงที่ได้เห็น วิ่งฝ่าฝนตกหนัก เปียกร่างเด็กหนุ่มไทยเชื้อจีนกลางถนนเยาวราช ใต้ฟ้ามืดสนิทปกคลุมเมฆหมอกเต็มไปหมด
"คริส!!!" เสียงทุ้มกรรโชกไล่หลัง คริสปิดหูแน่น ปิดการรับรู้เสียงคำรามดุดันสู้ฟ้าร้องครึนครัน สิงโตตะโกนเรียก วิ่งไล่ล่าเขาจนมาถึงศาลเจ้ากวนอูและเจ้าพ่อม้า
หมับ!!
"ปล่อยกู!!!!" ดวงหน้ากลมแป้นร้องไห้ออกมา แยกไม่ออกว่าฝนหรือน้ำตา ทุกสิ่งปะปนไปหมดดั่งชีวิตประเดประดังความจริงซัดกระแทกจนเอียงกะเทเร่ เขาดิ้นสู้ด้วยแรงผู้ชายที่มีแต่เหนือกว่าคือชายชาติทหาร พันเอกสิงโตแทบไม่สะทกสะท้านและกระชากอีกฝ่ายเข้าไปหลังศาล ไม่สนว่าดินโคลนเลอะขาแค่ไหน
"ไอ้เหี้ย...ร..เรื่องเหี้ยอะไร...ฮึก" พังไม่มีชิ้นดี ชีวิตที่ผ่านมา อาจไม่ร่ำรวยมากแต่คิดเสมอว่าเงินทุกบาทมาจากพ่อ ของทุกชิ้นที่ได้มาจากพ่อ พ่อที่ลำบากสู้ชีวิตเลี้ยงลูกและต้องเลี้ยงต่อคนเดียวหลังแม่ตายเมื่อคริสอายุ 12 ปี
ชีวิตกินเงินทหารที่เกลียดมาตลอด
หน้าคมเข้มกัดฟันกรอดจับจ้องเด็กมหาลัยช็อค ร้องแหกปากขาดสติรับไม่ได้กับความจริง..ความจริงที่เป็นเขาคอยอุ้มชู
"คริสจะทำตัวให้ฉันผิดหวังไปถึงเมื่อไหร่!"พันเอกสิงโตคำรามเสียงดุกร้าว กดร่างเด็กหนุ่มส่ายหัวรับความจริงไม่ได้กับกำแพงกลาฃสายฝน ดวงตาเทพเจ้ากวนอูในศาลจ้องมองบุรุษ 2 ร่างต่อสู้ขัดขืนกัน เปลวเทียนไหววูบต้องแรงลมดับและติดเป็นระยะ โคลนตมที่ไม่กระเด็นเข้ามาในเขตศาล เรื่องบัดสีหลังความศักดิ์สิทธิ์
สัญญาพังก่อน เขาจึงพังตามในคืนฝนตกพรำไม่ขาดสาย บ่งบอกถึงอารมณ์ชายต่างวัย ต่างบริบท
"อ๊า!!!!!!!!!ออกไป!!!!!ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!!!!"
บังคับร่วมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เทพเจ้าก็ไม่อาจช่วยมนุษย์ได้ นอกจากมนุษย์ด้วยกันเอง คริสตาแดงก่ำมองผ่านช่องกำแพงไปยังรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูที่หลบเงาฝน ประดิษฐานในนั้น
"อา..." เสียงทุ้มคำรามแหบพร่า โสโครกยิ่งกว่าโคลนเลอะขาขาวสั่นระริก ข้างหลังสาหัสนัก
หยดน้ำฝนเม็ดสุดท้ายหล่นจากกันสาดกระทบพื้นหลังศาลละเลงเละเทะไปหมด
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ดั่งพายุผ่านมาและจากไป
"ไอหยา ต้องซ่อมสวนใหม่" คนดูแลศาลเจ้าส่ายหัวแต่เช้า แหงนหน้าบ่นฟ้าโทษฝนทำพังไปเสียหมด มือหยาบย่นคว้าไม้กวาดก้านมะพร้าวมาจัดการปัดเศษกระถางแตกละเอียดก่อน รวบทิ้งไปยันใบเซียมซีเปียกชุ่มจนตัวอักษรเลือนลาง
'เซียมซีใบที่ 21
พิรุณร้ายโปรยปรายสู่ชะตา
หวังได้ม้าคว้าฝุ่นฟุ้งขจร
หวังอาทรคว้าช้ำระกำใจ
รวมแล้วไซร้ไร้ทางดั่งฝันใฝ่
ถามหาลาภหายศต้องมานะ
อุตสาหะฟาดฟันเป็นหนักหนา
ถามหารักหาคู่จำใจลา
ล้มสิ้นท่าจมน้ำลึกไปไกล'
TBC
++++++++
เพิ่มเดทมั้งนะ55555 เรียกว่าเดทไหม ทำบุญทำทานกันเถอะเรา
#ฟิคผู้พัน
บายจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

168 ความคิดเห็น
-
#62 Namfonthip (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 23:09ถึงว่าทำไมผู้พันไม่เก็บใบเซียมซีไว้ ไรท์ขอจบดีๆนะ อย่าเป็นแบบคู่กรรมนะ แค่นี้ก็หน่วงจะแย่แล้ว อ่านแล้วใจกระตุกมากกก อินมากกกก#621
-
#61 mimmii_boo (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 20:16เดาความคิดน้องไม่ออกเลยบางครั้งก็เหมือนจะว่างอคติลงได้แต่ก็ไม่อยู่ดี#611
-
#60 AumKMT (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 19:39เหมือนความสัมพันธ์จะเริ่มดีขึ้น หวังว่ามันคงไม่แย่ลงไปกว่าเดิมนะ#601
-
#59 071727 (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 17:41ความจริงที่คริส ไม่เคยรู้ มาฟังผล คริส คิดหนักกว่าเดิม มันเลวร้ายกว่าเดิมจริงหรอ ควรจะคุยกันดีๆก่อนนะ จบลงด้วยดีไหมนะ บอกตรงๆนะ เราอ่าน Fic ของคุณ มาหลายเรื่อง อีกเรื่องนึงก็หัวเราะน้ำตาเล็ด พอมาเรื่องนี้ ร้องไห้น้ำตาเล็ดเหมือนกัน ความรักความรู้สึก เศร้าจังเลย ถ้า จะเข้าใจกัน มันคงจะดี บอกไม่ถูกเลย เดาไม่ออก ว่าจะจบแบบไหน แต่ขอ ให้ จบด้วยดี#591
-
#58 PHATTHARAWADEE (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 17:12อ่านในรีดแล้วมาในเด็กดีอีก ติดแหละดูออก#580
-
#57 CharinKaenkong (จากตอนที่ 15)วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 / 15:29จะจบด้วยดีป่าวเนี่ย กลัว#570