ตอนที่ 11 : Under red 11
Under red 11
"หาว~"
หนุ่มนักศึกษาหาวหวอดน้ำตาเล็ด นั่งยองแปรงฟันตอนเช้าบริเวณริมธารน้ำตกป่าละอู มือนึงถือแก้ว อีกมือขยับแปรงสีฟันขัดฟอกไปมา ชำเลืองตาแอบมองอีกคนนึงตื่นมาด้วยอาการปกติดี ยืนแปรงฟันอยู่ข้างๆทั้งตัวเปลือยท่อนบนตามนิสัย
ไม่คืนไม่ปวดตัวเลยรึไงวะ? อดคิดสงสัยในใจเสียไม่ได้
ทั้งคืนกับที่แคบและแข็ง
เลิกคิด ช่างมันไป ไม่ใช่สาระที่ควรเก็บมาสงสัย บ้วนปากเสร็จสรรพหิ้วแก้วกับแปรงสีฟันกลับเข้ามาเช็กข้าวในหม้อสนาม สุกได้ที่แล้ว จึงถอดหม้อออกจากไม้คาน คดใส่จานเล็กๆ อีกกระป๋องเป็นยำปลากระป๋อง ทั้งหมดเป็นฝีมือการทำอาหารของเด็กรับใช้ทหาร
อาหารจากวัตถุดิบง่ายๆ ไร้จัดจานปรุงรสให้เลิศเลอสมภัตตาคาร ปรุงแต่งไปเท่าที่หาได้ทั่วไปในป่ากับที่ตระเตรียมไว้เป็นสำรับสำหรับเดินทางในเป้ กระนั้นทหารหนุ่มยศพันเอกกลับดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษกับอาหารมื้อนี้ทั้งที่คนทำพ่นลมหายใจแรงเบื่อหน่ายเหลือทน
"เล่นน้ำต่อไหม?" สิงโตถาม คริสชั่งใจหนัก ตอนแรกอดทน ยอมมาและคิดว่าถ้าถึงที่หมายสมใจอีกฝ่ายก็จะได้รีบไสหัวกลับบ้านพักตากอากาศ แต่พอมาถึงน้ำตกแล้ว..
"ไม่ แต่ขอนั่งเสพบรรยากาศอีกสักพัก" วิวสวย บรรยากาศดี ก็แค่นั้นที่ทำให้ คริส พีรวัส ไม่อยากจมอยู่กับที่แห่งนี้อีกหน่อย เขานั่งกอดเข่ามองวิวสายน้ำในป่าจากที่สูงไหลลงต่ำโอบล้อมต้นไม้เขียวชอุ่มหนาทึบ โดยเฉพาะต้นไผ่ขึ้นดงมากเป็นพิเศษสมนาม 'ละอู' ไหวกิ่งก้านยามต้องสายลม
"ชอบไหม เดินป่า" สิงโตชวนคุย พยายามที่จะคุย จะเข้าหาเด็กรับใช้ตามที่หมอเด่นแนะนำ เขาพึ่งตระหนักว่าตนรุนแรงเอาแต่ใจกับคริสมากเกินไปจริงๆ
"...." เงียบใส่ หน้าคมชาวาบ นึกหัวร้อนจนอยากจะบังคับ..แต่จำต้องยับยั้งชั่งใจ...สัญญากันแล้วจะดีต่อกัน
"ฉันชอบ ถ้าเป็นป่าแบบนี้" ไม่เป็นไรหากคริสไม่อยากคุยตอบโต้ เขาจะเป็นฝ่ายเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ
"ชอบป่าไผ่เนี่ยนะ?" คริสเลิกคิ้วสูงก่อนนึกขึ้นได้ว่าเผลอคุยตอบโต้ รีบสะบัดหน้าไปมองวิวน้ำตกแทน คนเปิดเรื่องยกยิ้มมุมปากขยับส่ายหัวช้าๆ กล่าวต่อทั้งเสียงทุ้มเย็นตามนิสัย
"เพราะสถานการณ์"
คนฟังกระพริบตาปริบๆ ขมวดคิ้วไม่เข้าใจยกใหญ่ หยิบก้อนกรวดมนปาเล่นลงไปในแอ่งธาร จมจ่อมกระจายตัวเป็นวงคลื่นบนผิว สลายหายไปใต้ฟ้ายามเช้าสดใสทอแสงตะวันอ่อนๆทอดลงมา
จ๋อม!
สู่ก้นบึ้งอันหนาวเย็นกว่าเบื้องบน
นั่งทอดอารมณ์ ซึมซับบรรยากาศมากพอชื่นใจ ชายต่างวัย 2 คนจึงเริ่มเดินทางกลับหมายออกจากป่าด้วยเส้นทางเดิม เพียงครึ่งทางคริสเหนื่อยหอบเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด
"ขึ้นมา" ภาพเดิม ทหารหนุ่มผิวเข้มนั่งหันหลังให้ วันนี้ไม่เถียง คริสว่าง่ายกว่าเมื่อวานปล่อยให้อีกฝ่ายแบกขึ้นหลังพาเดินต่อ แดดไม่แรงจัดแต่ก็ถือว่าร้อนใช้ได้ ร่มเงาของป่าก็ยังไม่มากพอให้คริสและสิงโตรู้สึกเย็นสบาย
"พรุ่งนี้อยากไปไหน?" พันเอกสิงโตถาม
"ทำไมวะ มึงจะพาไปเหรอ?"
"ใช่" เขารับคำ ตากลมโตมองดวงหน้าคมด้านข้างสลับทางทอดยาวเบื้องหน้าแสนขรุขระรกชันไปหมด
มาเที่ยว พักผ่อนกับทหาร นับเป็นการเสวยสุขบนความเดือดร้อนประชาชนหรือไม่?
"ไม่รู้.." ตัดสินใจไม่บอกและดึงตัวเองให้เลิกคิดหาความสุขเข้าตัว ย้อนมองกลับไปทุกวันคืนนับตั้งแต่พ่อถีบส่งเป็นเด็กรับใช้ ชีวิตของ คริส พีรวัส มีแต่โดนกดขยี้ศักดิ์ศรีลงเสียจนน่าละอาย หากแกนนำอีก 13 คนมาเห็น หากเพื่อนที่ตายไปมาเจอ..นึกถึงเอ็มกับคำด่าทอสาดกระแทกเข้ามาก็ละอายใจจนสุดแสน
"ไม่รู้ ไม่ไป ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น" ย้ำให้ชัดทั้งใจสำนึกผิดที่หลงระเริงสนุกไปกับน้ำตกป่าละอู..
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันหาเอง"
"ก็บอกว่า-"
"คริส ข้อตกลง"
กลืนคำโต้แย้ง แสดงออกด้วยการพ่นลมหายใจพรืดประชดประชัน
"ตามนั้น" ทหารหน้าตายสรุปเสร็จสรรพและเดิน...
กึก
ขายาวชะงักนิ่ง ท่าทีแปลกไป จู่ๆก็ปล่อยคริสลงจากหลัง
"อะไร?" คริสถาม กลับโดนมือแกร่งดันอกเด็กนักศึกษาถอยไปในพุ่มไม้
"เฮ้-"
"อยู่นี่" พันเอกสิงโตออกคำสั่งดุดัน คริสจะอ้าปากต่อจำต้องรีบปิด กลืนน้ำลายลงคอ หลุบตามองมือสีเข้มจับด้ามปืนสั้นเหน็บไว้ด้านหลัง
1...2...
อดีตแกนนำ 14 ตุลาหายใจถี่แรงตื่นกลัว ขณะที่สิงโตดูสงบนิ่งมาก..มากจนไม่เข้าใจว่าทหารไม่รู้จักความกลัวเลยหรือ
อาจเป็นโจรป่า
หรือ..
สัตว์ร้าย
"!!!!!!!!!!!!!"
เงาร่างพุ่งออกมาจากป่า หันปืนจ่อหน้ากันและกัน ไอเย็นแผ่ซ่านมาถึงคนซุ่มซ่อนไร้้อาวุธแอบมอง..คนปริศนาที่โผล่มาจ่อปืนใส่พันเอกสิงโต เขามีรูปร่างสันทัด ผิวขาวเหลืองใส่ชุดทหารลายพรางมีรอยถากกระสุน
"ผู้พันสิง?"
"..ไอ้กิ่ง?"
ไม่ทันได้คุยต่อ กลิ่นคาวเลือดคลุ้งจากด้านหลังชายในชุดลาดตระเวน มีร่างเจ้าหน้าที่อีกคนแบกคนบาดเจ็บมาในสภาพโดนยิงที่ท้องเลือดทะลักชุ่มเสื้อลายพราง
"เกิดอะไรขึ้น?"
"คอมมิวนิสต์ครับผู้พัน"
พลัน หน้าของสิงโตเครียดทันที
"มันมาแถวนี้ด้วยเหรอ?"
"ครับ"
ทหารลาดตระเวนในป่าเหลือ 6 คนในสภาพบอบช้ำเอาเรื่อง สิงโตยังตีหน้านิ่งด้วยท่าทางเยือกเย็น ต่างจากเด็กรับใช้พอเห็นเลือดก็ช็อคตาค้าง มือสั่นไปหมด
"ฉันคุ้มกันเอง" สิงโตดึงปืนยาวจากพลทหารบาดเจ็บขึ้นแบกหลัง ตลอดกาลเดินทางคราวนี้ไม่สามารถแบกคริสขึ้นหลังได้อีกแล้วและยังต้องเร่งฝีเท้าควบคู่ระแวดระวัง จะล่าช้าไม่ได้ มีคนเจ็บต้องการถึงมือหมออยู่
"อย่าห่างฉัน" ออกคำสั่งคนที่อ่อนประสบการณ์อาวุธสุด คริสจำต้องทำตามพันเอกสิงโตไป ระหว่างเดินกลับ..เขารู้สึกว่าป่าในอุทยานครั้งนี้หนาวเย็นกว่าเมื่อวานนักทั้งที่อากาศร้อนแดดเปรี้ยงแท้ๆ
"โอ๊ย.." เสียงร้องเจ็บทำให้คริสหันไปดูทหารนอนกุมท้องละเมอเพ้อไข้จากพิษบาดแผล มือกำรูปถ่ายขาวดำไว้ รูปของเด็กผู้หญิงตัวน้อยกับหญิงสาวกระโปรงบานผมดัดลอนสั้น คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาและลูกน้อย
โรงเรียนสั่งสอนไว้เสมอจากตำราว่าทหารเป็นอาชีพที่ออกปากยินดีตายเพื่อชาติได้เสมอ จนกระทั่งโตถึงจุดหนึ่งจึงได้รู้ว่าคำเล่านั้นก็เหมือนที่เหล่าแกนนำประท้วงกล่าวไว้ คริสกุมขมับจู่ๆความทรงจำและคำสอนจากครูสมัยประถมและมัธยมอันเลือนรางไปหมดสิ้นกลับนึกถึงขึ้นมา
'ทหาร' โกหกเพื่อตัวเอง อำนาจมาพร้อมอาวุธคอยข่มเหง ริดรอนประชาธิปไตย ความคิดนี้..เกิดขึ้นเมื่อรู้ถึงความไม่เป็นธรรมในอำนาจ
ยังมีอยู่จริงหรือ..
"ผิง..พิมพ์.." แม้ในเวลาโอดครวญ ทหารที่ดูแข็งแรงไร้ความรู้สึกกลับร้องหาลูกเมีย..เหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ทหารที่ยอมตายเพื่อประเทศชาติ?
และในที่สุดเป็นโชคดีที่คอมมิวนิสต์หรือที่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆว่า 'พวกแดง' ตามล่าไม่ถึง พลทหารบาดเจ็บนำส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาลใกล้สุด เหล่าทหารที่รอดชีวิตรุดหน้ากลับมารายงานสถานการณ์ให้ทหารในกรมปกครองแถวหัวหินรับทราบ หนีมาได้ก็ใช่ว่าจบในเมื่อทางนั้นต้องการปะทะปั่นป่วนเอาอาณาเขตพื้นที่แห่งนี้
"มันเผาหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงในนั้นวอดวายหมดเลยครับผู้กอง"
"ช่วยได้ไหม?"
"ไม่มีใครรอดเลยครับ เราสะกดรอยตามสังเกตการณ์จนไปเจอคลังแสงของมัน มีมากในโกดังเต็มไปหมด ตอนนี้มันรู้ตัวแล้ว ผมคาดว่าคืนนี้น่าจะรวมพลบุกออกมากินพื้นที่ในเมือง"
เรื่องในยังไม่พอคลาย เรื่องแผ่นดินก็มาแทรก ไหนจะกำลังพลทหารที่เข้าไปในพื้นที่ก็หลุดรอดมาน้อยนาย คริสยืนหน้าซีดอยู่หน้าประตู รอสิงโตที่เข้าไปร่วมประชุมในกรม เสียงเล็ดรอดดังเป็นระยะจนในที่สุดก็จบเรื่องลง ทหารทุกนายแยกย้ายออกจากห้อง
"กลับกัน" 2 ทหารสุดท้ายในห้องเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการณ์ยศผู้กองกับผู้พัน พันเอกสิงโต ปราชญา สะกิดศอกคริสให้เดินตามกันกลับมาบ้านพักตากอากาศแสนหรูหราริมหาดทราย
"....."
คริสเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้ามอากงกับกางเกงขาสั้นนั่งบนโซฟาชั้นล่างแตกต่างจากสิงโตที่กลับมาเปลี่ยนเป็นชุดทหาร..ชุดที่ไม่ใช่เครื่องแบบประดับยศทางตำแหน่ง
ลายพราง..
ชุดลายพรางที่เคยเห็นบ่อยจากรูปวาดในแบบเรียน โตขึ้นจึงเข้าใจว่ายามใดที่ใส่แปลว่าออกรบ
ใส่รองเท้าคอมแบทสีดำเป็นอย่างสุดท้าย ทั้งหมดเป็นเครื่องแบบหยิบยืมจากกรม เวลาเดินผ่านไปทุกนาทีและอีกไม่นานผู้ชายผิวเข้มคนนี้จะต้องออกไปทั้งที่งานตรงนี้ไม่ใช่เรื่องในสังกัดตัวเองด้วยซ้ำ
เพื่ออะไร?
คริสนั่งมองนิ่งๆจนอีกฝ่ายแต่งตัวเสร็จ เขาลุกขึ้นยืน เหลียวมองเด็กรับใช้
ต่างคนต่างมอง เอาแต่เงียบใส่กัน
งานของทหารเป็นเรื่องเสี่ยง
โตพอรู้ดี..อาจไม่เจอกันอีก
"ขอโทษนะ"คนกล่าวเปิดเป็นพันเอกสิงโต
"ขอโทษที่ทำให้นายเที่ยวได้ไม่เต็มที่" เว้นวรรคแล้วย้ำคำขอโทษออกมาอีกครั้งโดยที่คริสไม่คิดถามไถ่เหมือนเดิม..ไม่ว่าจะยังไง..ไม่เคยเลย...
ได้เพียงเงียบใส่ไปเสียทุกครั้ง เท้าสวมคอมแบทขยับ หันหลังให้และก้าวออกไป
"มันไม่ใช่เรื่องของมึง"
ครั้งแรกที่คริสพูดถึงเรื่องงานทหารนอกจากคำก่นด่าสาปแช่งและทหารผู้ถูกถามไถ่ชะงักเท้า ยืนนิ่งโดยที่ไม่เหลียวหลังกลับมาสักนิด
"มึงไปทำไมวะ?" ที่ถามเพราะอยากรู้ เขาไม่เข้าใจ ในเมื่อความเข้าใจในตัวทหารที่ผ่านมาคืออาชีพสวมเครื่องแบบพิทักษ์สันติราษฏร์จอมปลอม ใช้เปลือกอ้างรักชาติ ศาสนา องค์ราชา มิใช่หรือ?
"มันเป็นหน้าที่ เพื่อชาติ" นั่น..คือคำตอบที่ได้ คริสเงยหน้าจากพื้นเขาออกไปจากบ้านพักแล้ว เคลื่อนสายตาไปนอกหน้าต่างมุ้งลวด มีทหารยศน้อยยืนรออยู่ยกมือตะเบ๊ะเคารพสิงโตอย่างแข็งขัน
"ขอบคุณครับผู้พัน"
"ไม่เป็นไร คนขาดก็ต้องเติมให้เต็ม รายงานสถานการณ์คร่าวๆให้ฉันฟังด้วย"
"ครับ!!"
รถทหารขับออกไปไกลจนไม่ได้ยินเสียงล้อหมุน ดูท่าคราวนี้จะหนักเอาการ ประเทศนี้ที่ร่อแร่กับการเมืองไม่พอยังต้องเจอศึกนอกเข้ามาอีก เด็กรัฐศาสตร์อย่างเขานั่งอึ้งกับคำตอบและภาพที่เห็น
คนที่รับคำสั่งเด็ดใบไม้ร่วงระนาว
กลับกลายเป็น..คนอาสาช่วยขจัดภัยปกป้องประชาชน
TBC
+++++++++++++++
มีเพิ่ม มีเติมเป็นคีย์ค่ะ ให้เข้าใจมากขึ้น
#ฟิคผู้พัน
ไปก่อนนะ บายจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

การกระทำทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันผู้พันทำงานในหน้าที่ได้ดีแต่เวลาส่วนตัวมันก็มีบ้างที่จะไม่สบอารมณ์ใครคริสยังต้องเห็นยังต้องรับรู้อีกมากเชือว่าต้องเข้าใจสักวันขอให้เข้าใจกันนะ
เเต่ก็ดีเเล่ว จะได้มีเวลาอ่าน😆
💗💗💗