ตอนที่ 53 : Special : The king 5
The king 5
เอ็นชิลาด้าถูกจัดเสิรฟ์ลงบนโต๊ะอาหารริมถนนในกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงที่เจริญที่สุดของประเทศคนเถื่อนซึ่งภาพรวมแล้วก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าชานเมืองเสียเท่าไหร่ สิงโตละสายตาจากจานอาหารพื้นเมืองไปยังบอสพันธมิตรฝั่งตรงข้ามจัดมารวดเดียว 4 จานแล้วยังเพิ่มทาคอสอีก 2 ชิ้น กินหน้ายิ้มระรื่นจนเห็นลักยิ้มที่ร่องแก้มทั้ง 2 ข้าง มื้อเช้าของวันใหม่ หลังจากจับมือตกลงเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ เด็กหนุ่มอัลฟ่าหัวหน้าแก๊งซิริอุสโพล่งขึ้นมาว่า ‘ก่อนอื่นนะ ผมหิวข้าวอ่ะ หาร้านดีๆกินกันเถอะ’ จึงเป็นที่มาของการมานั่งโต๊ะกินร้านอาหารริมถนนของเหล่าสมาชิกลีโอนิกแฟมิลี่และซิริอุสแฟมิลี่
นนนก็ยังเด็กกำลังโตนั่นล่ะนะ..
สิงโตมองทุกคนที่ยังกินข้าว พูดคุยเรื่องราวสัพเพเหระได้อย่างชินชาเหมือนเลือดบนเสื้อเป็นแค่จกตา ขณะที่ตัวเขากลับกินไม่ลงเอาเสียเลย
“ที่ไทยเป็นไงบ้าง” สิงโตเปิดประเด็นถามเรื่องงานนนนที่กำลังเลียซอสมะเขือเทศบนปาก
“มีการตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่จากตำรวจยศผู้กองดำรงที่จู่ๆ ก็มีผลงานว่าจับทุจริต ผบ.ตร.เก่าได้ ส่วนบ่อนในอีสาน ลีโอนิกกู้กลับมาได้แล้ว ธุรกิจต่างๆในเครือเริ่มกลับมากระเตื้องในทิศทางที่ดี” เท่าที่ฟังจากนนนเล่า ณัฐจัดการบริหารได้ดีสมเป็นคนที่คลุกกับธุรกิจมาเฟียมาตลอด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตำแหน่ง ‘กุนซือ’ ไม่ได้เป็นเพียงหัวโขนไว้ประดับเล่น ยอมรับจากใจเลยว่าลูกพี่ลูกน้องเป็นคนทำงานเก่งจริงๆ ผิดกับสิงโตที่อ่อนประสบการณ์ในงานธุรกิจมืด
อย่างที่บอก ทุกคนเริ่มจาก 0
เริ่มช้า ก็ดีกว่า ไม่เริ่ม
“อ๋อใช่! อันนี้เด็ด ล่าสุดแต่งตั้งมือซ้ายมือขวาขึ้นใหม่แล้วนะ” นนนกวักนิ้ว ชิม่อนเปิดมือถือส่งรูปแอบถ่ายให้ลีโอนิกทั้ง 3 คนดู รูปลีโอนิกคนพี่ลงจากลีมูซีนโดยมีอัลฟ่าชายหญิงในชุดสูทสีดำอารักขาไม่ห่างหาย
“เมฆมุก..ตัวท็อปเด็กปี 56” นิวเอ่ยหน้าเครียด
“ภาพรวมตอนนี้ลูกน้องดูชอบพี่ณัฐมาก คู่ค้าก็เชื่อใจแล้วศรัทธา บางคนถึงกับพูดว่าถ้าเป็นคุณณัฐเซนปากกาให้โดยไม่ต้องคิดมากด้วยซ้ำ” นนนออกความเห็น ในความเห็นแฝงไปด้วยการเปรียบเทียบกับคนที่ถูกแย่งตำแหน่งบอสไป สิงโตเงียบรับฟัง ยอมรับว่าที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง เถียงไม่ออก
บอสแห่งซิริอุสแฟมิลี่จัดการทาคอสชิ้นสุดท้ายเสร็จตบท้ายด้วยโคล่ารวดเดียวหมดกระป๋อง เป็นคนสุดท้ายที่กินเสร็จและกินเยอะที่สุดในกลุ่ม พวกเขาลุกขึ้นหลังจ่ายค่าอาหารเสร็จสรรพเดินทอดน่องไปยังริมถนนที่มีรถคันงามสีดำจอดอยู่
“ผมจะให้คนไปส่งพวกพี่ที่บ้านของแบรดลีย์”
“แล้วนายล่ะ?”
“ผมขอเที่ยวเม็กซิโกซักหน่อย ที่นี่ถิ่นพี่แล้ว พันธมิตรอย่างผมเตร่สบายๆ” นนนยิ้มยิงฟันขาวเห็นลักยิ้มโบกมือลา มองส่งตามรถสีดำอาศัยการขับของลูกน้องเขาบางส่วนนำพาสิงโตกับมือซ้ายและมือขวาแห่งลีโอนิกที่บัดนี้โดยไล่ออกจากตำแหน่งไปเป็นที่เรียบร้อยไปส่งที่อยู่ของอดีตนายก รถขับออกไปไกลจนลับสายตา รอยยิ้มสดใสค่อยๆหุบลง ชิม่อนลอบมองเด็กหนุ่มอัลฟ่าวัย 17 ปีอย่างเงียบงัน
.
.
.
“ซิริอุส แก๊งมาเฟียรุ่นใหม่ ก้าวขึ้นมาโดดเด่นไม่นานมานี้ภายใต้การบุกเบิกของวิกานดา บอสมาเฟียหญิงผู้เป็นเบต้าและเป็นแม่ของนนน แต่ไม่นานเธอก็เกษียณอายุให้ลูกชายผู้เป็นอัลฟ่าสานต่อ” เตอ่านข้อมูลพันธมิตรตัดสินใจเลือกข้างมาหาคนน้องในมือถือเสร็จก่อนปิดหน้าจอลง มองนายเหนือหัวยืนมองวิวนอกหน้าต่างในห้องทำงานของแบรดลีย์ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทรัพย์สินของ สิงโต ปราชญา
“ข่าวที่อยากให้รู้” นิวพูดเสริมต่อ สิงโตหันกลับมามองลูกน้องคนสนิททั้งสอง วางมือเท้าขอบหน้าต่างกระจกบานใหญ่
“คิดยังไงกับเด็กอายุแค่นั้น แต่เป็นบอสมาเฟีย” สิงโตถามความเห็นจากเตกับนิว
ทั้ง 2 มองตากัน ก่อนหันกลับมาตอบนาย
“ไม่ธรรมดาครับ”
คำตอบจากลูกน้องเรียกรอยยิ้มพึงพอใจบนหน้าคมเข้มหล่อเหลา ขายาวสวมกางเกงยีนส์ไปยังโต๊ะทำงานทำจากกระจกใส ตัวฐานเป็นไม้มะฮอกกานีสีดำสนิทขัดเงาให้ความรู้สึกกึ่งโมเดิร์น ผู้นำคนใหม่นั่งลงบนเก้าอี้หนังสีดำแทนที่ผู้นำเก่าซึ่งไม่รู้เป็นหรือตายหลังจากส่งให้โสเภณีรับไปจัดการต่อและไม่คิดจะใส่ใจความเป็นไปของนายกจิตวิปริตคนนั้น
“โลกนี้มีคนที่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น ไม่ธรรมดาน้อยมากกว่าก็เท่านั้น” สิงโตกล่าว เอนกายพิงพนักเก้าอี้นายกที่เขาช่วงชิงมา
“สิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้ ต้องเอาความไม่ธรรมดามาใช้ให้เป็น ฉันจะงีบซักหน่อย ถ้าออกไปข้างนอก ซื้อบุหรี่ให้ฉันด้วยซองนึง”
เสียงประตูเปิดและปิดลงพร้อมฝีเท้าย่ำก้าวออกไปไกลโสตประสาท เตกับนิวออกไปจากห้องแล้ว ปล่อยให้สิงโตได้ใช้เวลาส่วนตัวในการพักผ่อนหย่อนใจเพียงลำพังในที่พักอาศัยที่แย่งมาด้วยแผนการเจ้าเล่ห์ สีหน้าเคร่งขรึมคลายออกไปแทนที่ด้วยตาคู่คมจ้องมองเพดานอย่างอ่อนล้า..ความจริงในหัวใจที่ไม่แสดงออกไปให้ใครเห็นกระทั่งมือซ้ายและมือขวา
..เหนื่อย..
บุหรี่ในซองมวนสุดท้ายจุดสูบ..บุหรี่ที่ลุงผู้มีพระคุณมอบให้
“ใครๆก็อยากเกิดเป็นอัลฟ่า แต่ใครจะรู้ว่าการเกิดมาเป็นอัลฟ่านี่ลำบาก จะอ่อนแอก็ไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ ก็มีแต่บุหรี่นี่ล่ะ ที่ใช้ระบายความเครียดได้”
นึกถึงฟ้ายามเย็นริมคลอง นึกถึงผู้มีพระคุณช่วยให้เขามีชีวิตต่อไป ชี้ให้หูตาสว่างมองโลกความจริงที่เป็นอยู่ ตื่นจากความหลงระเริงว่าตัวเองจะเป็นคนธรรมดาเดินดิน สุดท้ายในวันหนึ่งมือจำต้องเปื้อนเลือดเพื่อสนองตัณหาการมีชีวิตของตน หาใช่เปื้อนเพื่อช่วยต่อชีวิตคน ทุกย่างก้าว..ระยะทางจากไทย เป็นคนเร่ร่อนหนีไปฮ่องกงขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรไม่ลงนามจนมาถึงเม็กซิโก หลายคนตายกับเลือกคนที่เหมาะสมจะเป็นบอสแห่งลีโอนิก ต้องมีอีกกี่คนที่ตาย สิงโตไม่อาจรู้ได้ แต่ที่รู้คือเขาต้องไปต่อ ต่อให้ต้องเหยียบซากศพทับถมเป็นกองภูเขาขึ้นไปก็ตาม
หากคิดจะทำธุรกิจ ใจดีไม่มีอีกแล้ว
ธุรกิจได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังตั้งแต่ตัดสินใจหลังตะวันตกดิน
ราตรีอับแสง เวลาของเทวดาสิ้นสุด
สีดำ ต่อให้ถมขาวเท่าไหร่ ก็ยังเป็นสีดำวันยังค่ำ
.
.
.
ตรอกซอยมืดมิดย่านสลัมของเม็กซิโก เหม็นอับไปด้วยน้ำเน่าจากขยะมูลฝอยถูกชะล้างจากสายฝนเจิ่งนองไปทั่วพื้นชวนสำรอก เท้าสวมแตะสีน้ำเงินย่ำเหยียบไปตามทางในท้องฟ้ายามค่ำคืนปกคลุมไปด้วยหมอกควันโรงงานอุตสาหกรรม กันสมายกระชับฮูทสีดำอำพรางใบหน้าฟกช้ำกับรอยแผลถากกระสุนบนแก้มเอาไว้มาพร้อมกับคนของลีโอนิกที่รอดชีวิตอีก 3 คนเตรียมพากันลักลอบหนีออกไปกับเรือเถื่อนที่นัดแนะกันไว้
เวลาตี 1 ครึ่งตรงตามกำหนดการเรือออก อัลฟ่าทั้ง 4 คนเดินมายังท่าเรือสับปะรังเคสีลอกจอดนิ่งอยู่ริมท่า กันสมายก้าวขึ้นไปในเรือตรงไปหาผู้เฝ้ายามนั่งลงลังไม้ถือตะเกียงไฟฟ้าสวมเสื้อคลุมกันฝนสีดำรออยู่
“ตั๋ว?” คนเดินเรือถาม กันสมายหยิบตั๋วเถื่อนที่ซื้อไว้ส่งมอบให้ อีกฝ่ายรับมาพิจารณาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
ปัง ปัง ปัง!!!
คนของลีโอนิกทั้งหมดโดนยิงดับสนิทต่อหน้าเจ้าของซ่องควบพ่อค้าข่าว ตาตี่เล็กหลังแว่นแฟชั่นเงยขึ้นไปมอง พบลูกเรือทั้งหมดถูกแขวนคอห้อยหัวบนเสาประดงเรือ
แกร๊ก!!
ปืนจ่อหลังศีรษะกันสมาย เจ้าของเรือลุกขึ้นยืนฮูทเสื้อกันฝนออก..เผยใบหน้าที่กันสมายจำได้ไม่ลืม บอสแห่งซิริอุสแฟมิลี่
“อ้าว คุณบอสหมาป่า งั้นด้านหลังก็บอดี้การ์ดคนสนิทงั้นใช่ไหม?” เดาได้ไม่ยาก นายมาผู้ติดตามคนสนิทไม่มาได้อย่างไร กันสมายยิ้มสู้ตอบหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ยิ้มหวานให้ไม่แพ้กัน
“มาคุยกันหน่อยดีไหม?”
.
.
.
โครม!!!!
อัลฟ่าผู้หมายมั่นหลบหนี ถูกซ้อมเลือดอาบในห้องโถงใต้เรือ ร่างสูงโปร่งผิวขาวบอบช้ำนอนกลิ้งบนพื้นโอดครวญกับความเจ็บระบมไปทั่วทั้งร่าง พอจะหยัดกายลุกกลับถูกฝ่าเท้าสวมรองเท้าหนังขัดเงาตวัดเตะซ้ำๆ ตามด้วยกำปั้นหนักต่อยเข้าที่หน้าหมัดแล้วหมัดเล่า
ผัวะ!! ผัวะ!! ผัวะ!!
เงาร่างอัลฟ่าโดนโอเมก้าซ้อมอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มอายุไม่บรรลุนิติภาวะ แว่นกันแดดแฟชั่นกระเด็นไปกระทบปลายเท้าสวมรองเท้าผ้าใบหัวหน้าแก๊งซิริอุสแฟมิลี่ ชิม่อนจิกกระชากหัวกันสมายให้เงยหน้าขึ้นสบตานายเหนือหัวที่นั่งอยู่บนลังไม้บรรจุสินค้าเถื่อนในเรือ
“ไอ้..ลูกหมา..” ดวงหน้าพังยับ กล่าวคำเสียดสีแทนตัวเด็กหนุ่มผ่านปากกระอักเลือดไหล
“อยากได้ข่าวแม่หมา ควรขอกันดีๆมากกว่าไหมวะ?”
“รู้สถานะไหม มึงอยู่ในจุดที่เรียกร้องไม่ได้อีกแล้ว” นนนเลิกคิ้วมองชิม่อน บอดี้การ์ดจับเอาหัวกันสมายกระแทกพื้นทีเดียวฟันหลุด
โครม!!!!
“กูจะถามซ้ำอีกครั้ง แม่กูอยู่ไหน?”
“ฮะๆ ไม่อยู่..ที่เม็กซิโกแล้ว แต่..รู้ไหมกูเห็นอะไร” เจ้าของซ่องโสเภณีผู้เป็นนักโทษหลบหนีหัวเราะร่า สบตาดุกร้าวของเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนตรงหน้า “เบต้าที่ชูคอเชิดหน้าใส่ในฐานะบอสมาเฟีย แต่ยอมโดนจับในห้างเพื่อแลกกับชีวิตลูกหมาน้อยอายุเพียง 10 ขวบที่งอแงอยากได้ของเล่นใหม่โดยไม่รู้เลยว่าซิริอุสกำลังอยู่ในสภาวะย่ำแย่ กูทำให้การชูคอหยิ่งผยองนั่นกลายเป็นอีตัวดีๆ เป็นสินค้าราคางามที่ทุกคนอยากจ่ายเงินมาซื้อ แล้วก็..ปัง..ขาดใจตาย”
นนนตาแดงก่ำวาวโรจน์จ้องเข้าไปในดวงตาคนที่ไม่เหลือความเป็นมนุษย์ ฆ่าได้กระทั่งน้องสาวแท้ๆของตน
“คนที่ทำให้เธอตายก็คือมึงนั่นแหละ!”
ความจริงที่นนนไล่ล่ามาตลอด 7 ปี
“ฆ่ามัน”
กระสุนยิงหลังหัวทะลุปลิดชีวิตกันสมาย ชิม่อนเก็บปืนลง มองคนที่กำล็อคเกตสวมติดคอไว้ไม่เคยถอดออกแน่นจนเส้นเลือดขึ้นหลังมือ เขาเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ เจ้านายที่ยังจ้องมองร่างไร้วิญญาณจมกองเลือดด้วยแววตาเคียดแค้นสุดแสน
“บอส..”
“ผมไหวพี่”
รองเท้าผ้าใบเหยียบแว่นแฟชั่นจนแตกละเอียด ละเอียดไปพร้อมกับหัวใจยามรู้ความจริงแสนเจ็บปวด ชิม่อนมองลูกน้องที่เหลือ ทุกคนทยอยออกไปจนหมดเหลือแค่นายเหนือหัวกับบอดี้การ์ดคนสนิท
“ผมแม่งทำแม่ตาย 7 ปีดูจะช้าเกินไป..ฮะๆ” นนนหัวเราะเสียงแห้ง
“นายยังเด็ก 10 ขวบเอง ต้องใช้เวลา”
“แต่แม่..ไม่รอ..”
ชิม่อนจับไหล่หนาใหญ่ บีบเบาๆ ปลอบโยน เด็กอายุน้อยกว่ารอบนึงที่เขาเลี้ยงดูมาตลอดแทนมารดาที่ยอมแลกตัวเองเพื่อให้ลูกรอด เป็นทุกอย่างให้ตั้งแต่นนนตัวเล็กจนบัดนี้ตัวสูงใหญ่กว่าเขาและขึ้นแท่นหัวหน้าแก๊งมาเฟียได้อย่างน่าภาคภูมิใจเป็นที่ยอมรับของลูกน้องทุกคนในซิริอุสแฟมิลี่
จ่าฝูงหมาป่า ใต้คืนจันทราเต็มดวง
“เอาไงต่อดี” ชิม่อนถาม
“ดันลีโอนิกคนน้อง คนพี่ไม่สนใจเรื่องของเรา แต่เขาต่างออกไป” นนนเอ่ยขึ้นถึงการตัดสินใจนับจากนี้ต่อไปในฐานะหัวหน้าแก๊งมาเฟีย นึกย้อนไปถึงวันที่อีกฝ่ายส่งมือขวามาเจรจาให้เลือกเมื่อข้าง 1 เดือนก่อน
.
.
.
“คนพี่ หรือ คนน้อง”
ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลีชื่อดังในห้างสรรพสินค้าในกลางกรุงเทพมหานครช่วงเย็นเต็มไปด้วยผู้ใหญ่และเด็ก ทั้งมาเป็นกลุ่มก้อนครอบครัว ไม่ก็แก๊งเพื่อนมารวมตัวกันรับประทานอาหารมื้อเย็นในห้าง นนน กรภัทร์ เป็นหนึ่งในลูกค้าของร้านแต่มานั่งกินไก่ทอดเพียงคนเดียวกับชุดพิเศษเพิ่มข้าวตามประสาวัยรุ่นชายกำลังโต เขาละปากจากการแทะน่องไก่ทอดแสนอร่อยเงยหน้าขึ้นมาสบตาชายวัยผู้ใหญ่รูปร่างเจ้าเนื้อ ผิวขาว หน้าตี๋ ในชุดเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนสวมหมวกแก็ปสีขาววิสาสะมานั่งลงฝั่งตรงข้ามเปิดบทสนทนาด้วยคำถามกับเด็กในชุดนักเรียน ม.ปลาย
“ถ้าเลือกแล้วจะได้อะไร?”
“คุณหญิงวิกานดา”
ไก่ในมือหล่นจาน นนนหรี่ตามอง ท่าทีเด็กวัยรุ่นร่าเริง เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เปิดเผยตัวตนที่ซ่อนไว้ใต้รอยยิ้มสดใส
บอสมาเฟีย นี่แหละของจริง
นิวเหลือบตามองทางซ้ายและขวา ภายนอกเหมือนกับนนนมาเที่ยวห้างคนเดียว แท้จริงแล้วมีคนของซิริอุสแฟมิลี่แฝงตัวคอยคุ้มกันตลอดตามจุดต่างๆในคราบสามัญชน ถึงอย่างนั้นก็ยังใจดีปล่อยให้มือขวาแห่งลีโอนิกแฟมิลี่เข้ามาพูดคุย เด็ก ม.ปลายวางไก่ทอดลงในจาน เอนกายพิงพนัก กอดอกฟังข้อเสนออีกฝ่าย
“คนน้องเขาว่าไก่อ่อน” ข่าวเล่าลือถึงชื่อเสียงเรียงนามสิงโต ไม่ได้เป็นในทิศทางที่ดี ใครต่อใครก็รู้ แต่ถึงกับพูดเรื่องความลับที่ซิริอุสปิดบังเอาไว้มาตลอดได้ แสดงว่าฝั่งนี้ให้ความสนใจเรื่องของเขาไม่หยอก
“แล้วจะรู้ได้ไง ว่าผมจะเจอแม่”
“คุณนนนอยากไปเม็กซิโกไหมล่ะครับ อีก 3 วันข้างหน้า บอสและพวกผมจะเข้ายึดเม็กซิโก” สิ้นคำกล่าว นนนถึงกับขำพรืด หัวเราะจนตัวงอ
“ฮ่าๆๆๆๆ พวกพี่จะล้มแบรดลีย์ ชายที่มีอิทธิพลโลกใต้ดินในแดนคนเถื่อน? ที่นั่นมันยิ่งกว่านรก มาเฟียบางคนยังไม่อยากเข้าไปเลยเหอะ”
“แต่มาเฟียอย่างคุณนนนเหมือนมีเรื่องจำเป็นอยากเข้าไปในเม็กซิโกไม่ใช่เหรอครับ” นิวอ่านใจเขาออกหรือไม่ก็อาจเป็นคนที่ส่งนิวมาต่างหากที่อ่านใจเขาออกเสียมากกว่า นนนหยุดหัวเราะแล้วยิงคำถามกลับไปบ้าง
“รู้ได้ไงว่าแม่ผมไม่ได้เกษียณ”
“เราก็มีแหล่งข่าวของเรา และคุณณัฐก็รู้ แต่ไม่ใส่ใจเท่าไหร่” นิวเว้นวรรคแล้วพูดต่อ
“แต่บอสใส่ใจนะครับ”
นนนสบตามือขวาแห่งลีโอนิกที่ชัดเจนว่าอยู่ฝั่งคนน้อง มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่หยิบมาใส่สีตีไข่เพิ่มนิดหน่อยก็เป็นได้ แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนสามารถเข้ากันดีด้วยผลประโยชน์ นั่นคือข้อสำคัญของการเป็นพันธมิตรในวงการสกปรกเช่นนี้
“แล้วถ้าผมเลือก ผมจะได้อะไรนอกจากเรื่องแม่” ถึงนนนจะเด็ก แต่ก็เป็นธุรกิจ นักธุรกิจที่ดีย่อมมองของที่อยากได้รองลงมาเช่นกัน “ผมสนใจเกาะตุ๊กตา ที่นั่นเงียบสงบและสยองดี ทำเลเหมาะกับสร้างโกดังเก็บเด็กของผม”
ค้ามนุษย์ ค้าขายเด็ก สินค้าของซิริอุส
ขายเด็กโดยที่เจ้าพ่อก็เป็นเด็ก
“ถ้าตกลงตามนี้ เราก็ดีลกัน” นนนหยิบทิชชู่เช็ดมือยกยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ให้มือขวาแห่งลีโอนิกแฟมิลี่
.
.
.
นั่นคือข้อตกลงหลังล้มแบรดลีย์ได้สำเร็จ นนนได้เกาะตุ๊กตา ปู่เหลียงได้ท่าเรืออากาบุลโก ส่วนสิงโตขึ้นแท่นคุมเม็กซิโก ทุกอย่างพร้อมประกาศแน่ชัดถึงการเปิดสงครามการทวงตำแหน่งบอสแห่งลีโอนิกคืนมา ข่าวสารแพร่กระจายถึงเรื่องราวของอัลฟ่าคนน้องที่ยังมีชีวิต กลับมาล้มแบรดลีย์ชายผู้ทรงอิทธิพลในโลกใต้ดิน หลังจากนั้นไม่นาน เริ่มมีแก๊งมาเฟียอาสาเข้ามาสมัครเป็นพันธมิตร รวมถึงคนที่พร้อมใจอยากสวามิภัคเป็นคนของลีโอนิกฝั่งน้องด้วยศรัทราก็มี เรียกได้ว่าแทบไม่จำเป็นต้องออกตะลอนไปถามด้วยตัวเองอีก
ไม่มีใครคิดปฏิเสธอำนาจและผลประโยชน์
นิยามของคำว่า ‘ธุรกิจ’
TBC
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บางทีก็สงสารเด็กนะ
นี่อ่านไปอ่านมา ก็เถียงกับตัวเองว่า แม่นนนคือเจอหรอ เจนแน่เลย เป็นน้องสาวแล้วก็เป็นอีตัวดีดี แล้วก็โดนยิง ปัง!!! แต่เอ๊ะ!!! เจนเป็นโอเมก้านี่หว่าาา ไม่ใช่ล่ะ แม่นนนเป็นเบต้า เอ้า แล้วไงต่อนิ เอ้า งง เอ้าาาราาาา
55555555555 อ่านต่อล่ะกัน
ปล.ก็คือมีเอ๋อๆนิดนึงที่มีคนอ่านเม้นเราด้วย เวิ้นโคตรเยอะ นอกจากคุณบลัดก็ไม่คิดว่าจะมีใครอ่านแล้วนะ 5555555