ตอนที่ 16 : ปลอกคอ 2 : ตอนที่ 7
ปลอกคอ 2 : ตอนที่ 7
เพลงบรรเลงดังกระหึ่มกึกก้องใต้แสงสีม่วงสลับน้ำเงินส่องสว่างจากไฟดิสโก้ในผับขนาดใหญ่ที่สุดแถวรัชดา เหล่าหนุ่มสาว 3 สายพันธุ์เต้นแร้งเต้นกา มัวเมากับสุราเมรัยเลิศรส กลิ่นควันบุหรี่คลุ้งฉุนกึกชัดเจนโดนเฉพาะในห้องน้ำแสนแออัด ยังไม่รวมเหล่าผู้คนนัวเนียกันไปมา ทั้งอัลฟ่า เบต้า และโอเมก้าไร้ปลอกคอที่ดูเหมือนจะเนื้อหอมเป็นที่สุดและน่าโอชะสำหรับเหล่าอัลฟ่าพากันเข้ามาเกี้ยวพาราสีหมายขอเซ็กส์ที่เด็ดดวงพาไปถึงจุดรัทได้ถึงทรวง
“อุ้ย..ที่รัก สนใจมาร์ตินี่กันไหม” โอเมก้าสาวในชุดรัดรูปทำทีเดินเข้ามาชนพลางลูบไล้แผงอกแกร่งสวมสูท เธอส่งสายตาโปรยเสน่ห์ใส่คนมีฟีโรโมนอัลฟ่าเข้มข้นทรงพลังน่าสนใจกว่าตัวอื่นๆ แม้จะน่าเย้ายวนเพียงใด ปลายนิ้วเรียวสวยประดับเล็บสีแดงไล้กรอบหน้าชวนเชิญ ทว่า..คนหน้าไทยคมเข้มกลับปัดมือทิ้งแล้วเดินผ่านไปอย่างไม่ใยดี พาเหล่าลูกน้องอีก 10 คนที่หน้านิ่งไม่ต่างขึ้นไประเบียงชั้น 2
..สถานที่ส่วนตัวของบัตร VIP..
เดินตัดผ่านฟลอร์เต้นลอยฟ้าที่ใหญ่และอลังการกว่าเบื้องล่าง หรูหราเลิศรสด้วยเครื่องดื่มที่เหนือชั้นกว่าสมราคาที่ต้องจ่าย เหล่าชายชุดดำในสูทหยุดฝีเท้าลงอยู่โซนโซฟาหนังสีเลือดหมูครึ่งวงกลม ปล่อยให้ชายชุดดำหน้าไทยคมเข้มเป็นฝ่ายเข้าไปนั่งโซฟาบนฝั่งตรงข้าม จ้องมองคนแก่ลงพุงใส่เสื้อฮาวายสีฟ้าเหลืองแสบสันต์กำลังนัวเนียจูบสาวเบต้าและโอเมก้าชายผู้เป็นดาวเต้นเด่นดังในย่านบันเทิงแห่งนี้
“อา..แขกเฮียมาแล้ว ไปรอที่ห้องนะ” ดาวเต้นลุกเดินจากไปโดยไม่วายโดนตาแก่ตบตูดไปคนละทีทิ้งท้าย ก่อนหันสูบซีก้าร์อัดเข้าปอดกวักมือเรียกลูกน้องให้นำเอกสารใส่ซองสีน้ำตาลมาส่งให้เขาก่อนยื่นส่งให้หนุ่มสูทดำเสยผมเรียบตรงหน้า
“….”
“….”
ทว่า..ชายแก่กลับชักเอกสารกลับเสียอย่างนั้นก่อนคนอายุน้อยกว่าเอื้อมมือถึง ปากคาบซีก้าร์กระตุกยิ้มเอียงคอมองคนหน้านิ่งเบื้องหน้า
“คุณสิงโตไปไหน?” ถามหาถึงบอสผู้ยิ่งใหญ่..คิงอัลฟ่า..
“พอดีว่าบอสไม่สบาย เป็นหวัดนิดหน่อย ไม่ต้องห่วงเรื่องธุรกิจ คุยกับพวกเรา ยังไงก็ถึงบอสเหมือนกัน” เตเจรจากับคู่ค้ามีศักดิ์เป็นถึงหัวหน้าแก๊งค้าอาวุธมีชื่อเสียงในแดนตะวันออกกลางที่หรี่ตามองทำท่าทีใคร่รู้ระคนสงสัย เอียงคอพินิจพิจารณาอัลฟ่าผู้เป็นมือซ้ายของ สิงโต ปราชญา บอสลีโอนิกแฟมิลี่ทำหน้านิ่งไร้อารมณ์พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจยอมส่งเอกสารให้ตามการนัดเจอเพื่อการค้าขาย
“งั้นเหรอ..ก็ดี ผมได้ข่าวลือมาว่าคุณสิงโตประสบอุบัติเหตุที่อเมริกาจนทำงานไม่ได้…หรือไม่ก็..ตายไปแล้ว” คนแก่มองจับผิดไม่เลิกรา ขณะเดียวกันก็บอกเล่าถึงข่าวลือหนาหูในช่วง 3 เดือนมานี้ในแวดวงการมืด
เตกระตุกยิ้มเค้นหัวเราะระหว่างเปิดเอกสารตรวจสอบข้อมูลภายใน ทั้งสัญญา ทั้งเอกสารราชการปลอม และเช็คเงินสดหลักหลายล้านที่วางกลปิดเส้นทางการเงินให้รอดพ้นจากการตรวจสอบของตำรวจแล้ว ทุกอย่างในนั้นตรงตามที่ตกลงกันไว้ เขาจึงสอดเอกสารดังกล่าวกลับคืนลงซอง หมุนเชือกปิดผนึกส่งให้ลูกน้องที่ยืนรออยู่เก็บรักษาไว้
“เป็นเรื่องปกติกับอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝันสำหรับวงการนี้ แต่บอสสบายดี ไม่มีอะไรที่คุณอาลีต้องกังวล ลีโอนิกจะอยู่ทำธุรกิจกับคุณไปอีกยาวครับ”
แสร้งนิ่ง..หลอกลวง..
ไม่มีมิตรแท้ที่ถาวรในวงการใต้ดิน รักกันด้วย ‘ผลประโยชน์’
อาลีพยักหน้า ละครของเต ตะวัน เล่นได้เนียนแนบสนิท อาจจะไม่เชื่อใจได้ 100% แต่ก็สามารถทำให้เจ้าพ่อค้าอาวุธแห่งแดนตะวันออกกลางหายตะขิดตะขวงใจ ปลายนิ้วคีบซีก้าร์ออกผ่อนควันบุหรี่เหม็นคลุ้งออกมาด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้น
“ก็จริง ลีโอนิกแฟมิลี่ใหญ่ขนาดนี้ ใครจะทำอะไรได้ แต่ในฐานะที่เราก็เพื่อนธุรกิจมานาน ช่วงนี้ทั้งบนดินและใต้ดินเริ่มสงสัยที่คุณสิงโตไม่ปรากฏตัวออกมาข้างนอก และอย่างที่รู้บอสพวกคุณคือ ‘คิง’ มันสั่นคลอนเรื่องธุรกิจหลายอย่างมาก”
..คำเตือนในฐานะเพื่อนคู่ผลประโยชน์ ต่างตอบแทนและเกื้อหนุนกัน..
“ผมว่าหาทางกลบข่าวลือหน่อยก็ดี ที่ผมขายของได้เพราะพวกคุณการันตีอยู่” ควันซีก้าร์ทิ้งท้ายเอาไว้ กระจายตัวและสลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นเหมือนกับ อาลี มุสตาฟา ชายแก่หนังเหนียวตายยาก เจ้าพ่อค้าอาวุธขายให้ทั้งผู้ก่อการร้ายและฝ่ายสันติภาพxหั่นกันอย่างไม่แยแสความถูกต้อง ขอแค่มีเงินตราและอำนาจเขาก็พร้อมจะตอบแทนอย่างสุดซึ้งแต่ใครจะรู้ว่าการที่อาลีได้ขึ้นแท่นเป็นผู้ทรงอิทธิพลการค้าอาวุธ ก็เพราะมีแบ็คอัพอย่างลีโอนิกแฟมิลี่หนุนหลังอยู่
.
.
.
การเจรจาทางธุรกิจในวันนี้กลับมารายงานผลด้วยความเครียดเห็นได้ชัด นับตั้งแต่เกิดเรื่องในอเมริกาเตและนิวต่างพลัดกันรับหน้า แบ่งเบาขับสู้เป็นหัวเรือแทนบอสที่อยู่ในสภาพสูญเสียความทรงจำ หนำซ้ำยังมีร่างกายไม่แข็งแรงพอ แต่ดูเหมือนว่าการเอาผ้าหน้ารอดกำลังจะสิ้นสุดลง
“งานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดนายพลเจต บอสต้องไป..พวกเขาเจาะจงเชิญบอส ครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้แล้ว” เตยื่นบัตรเชิญที่อาลี มุสตาฟาแนบติดมาด้วยในซองเอกสาร จ่าหน้าซองชัดเจนว่า ‘เรียนเชิญ ปราชญา เรืองโรจน์’ ให้มือขวาแห่งลีโอนิกดู
“ไอ้เฒ่าอสรพิษ แม่งคงอยากรู้ว่าบอสเป็นยังไงถึงได้รับฝากบัตรเชิญมาด้วย แต่มึงก็รู้ว่าบอสในตอนนี้ไม่ปกติ” นิวคำรามในลำคอ มองบัตรเชิญกัดฟันหัวเสีย
“แต่ถ้าไม่ไป คนจะตีความออกและก็รู้อยู่ดีรึเปล่าวะ ไอ้นิว”
มือซ้ายมือขวาหน้าเครียดจัด เดินเถียงกันระหว่างเข้าบ้าน ก่อนหยุดชะงักลงยามเห็นนายเหนือหัวในห้องรับแขก นั่งบนโซฟาขยับแขนขวาทำกายภาพบำบัดหลังถอดเฝือกออกไปได้ 2 วัน ดวงตาคู่คมไร้แววเย็นชาดุดันน่าสะพรึง แทนที่ด้วยแววตาใสซื่อแบบคนปุถุชนทั่วไปเหลียวมองคนสนิททั้งสองอย่างนึกฉงนสนเท่ห์ เตและนิวสบตากันเป็นเชิงถามว่าจะเอาอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี สุดท้ายเตตัดสินใจหยิบบัตรเชิญในมืออีกฝ่ายกลับคืน เดินเข้าไปหาสิงโต
“บอสครับ ผมและนิวมีเรื่องอยากคุยด้วย”
ห้องทำงานหรูที่ถูกปิดตายเอาไว้มาหลายเดือนเปิดออก สิงโตก้าวเดินเข้าไปช้าๆ กวาดตามองห้องทรงกลมที่มีโต๊ะทำงานสีดำตั้งขนาบซ้ายขวาด้วยชั้นหนังสือใส่เอกสารแน่นเอียดกับหน้าต่างบานใหญ่สูงชิดเพดานห้องปิดม่านสีเข้มเอาไว้ มือแกร่งไล้จับขอบโต๊ะเบาๆ สัมผัสเรียบลื่นก่อนหันไปจดจ้องเก้าอี้นวมหนังสีน้ำตาลอมแดงเลือดหมู
“ห้องของปู่..” สิงโตพึมพำ
“ปัจจุบันเป็นห้องของบอสแล้วครับ” นิวบอก
ใบหน้าคมเหลียวมองมือซ้ายและมือขวาที่ยืนอยู่ตรงหน้า บอกเล่าความทรงจำที่ขาดหายไปคร่าวๆให้ฟัง สิงโตเม้มปากแน่นเป็นแนวเส้น ขอบตาร้อนผ่าวจนต้องรีบเงยหน้าขึ้นกลืนก้อนน้ำลายพร้อมความเศร้าลงคอ เตเดินเข้ามาใกล้สิงโตพร้อมยื่นบัตรเชิญงานเลี้ยงวันเกิดให้อีกฝ่าย “มีข่าวลือเกี่ยวกับบอส ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของลีโอนิกแฟมิลี่และธุรกิจในเครือของพวกเรา ผมเกรงว่าถ้าบอสซ่อนตัวแบบนี้ต่อไป..อาจความแตกเข้าซักวัน”
“ผม..ควรทำยังไง ตอนนี้ผมรู้ธุรกิจทั้งหมดไม่ครบด้วยซ้ำ” สิงโตทำหน้าลำบากใจ ใคร่ขอความเห็นจากลูกน้องทั้งสองคนที่น่าเป็นคนสนิทที่สุดในปัจจุบันของเขา ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้..ไม่มีใครรู้ว่าควรหาวิธีแก้ไขเช่นไร จึงได้แต่ก้มหน้าเงียบคิดหาวิธีกันหัวแทบแตก
แอ๊ด..
ประตูห้องทำงานเปิดออก เรียกสายตาอัลฟ่าทั้งสามไปยัง..โอเมก้าเพียงหนึ่งที่วิสาสะเดินเข้ามา
“ผมจะไปด้วย”
“ค..คุณคริส!?” นิวอุทานตกใจ คาดไม่ถึงว่าถูกคริสแอบฟัง คริสปิดประตูสนิทกวาดตามองมือซ้ายและมือขวาก่อนหยุดสายตาที่ร่างสูงผิวสองสียืนถือการ์ดสีโอรสทำหน้ามึน ก่อนจะโดนคริสตบแย่งการ์ดเชิญออกจากมือไปเฉยชิบเปิดอ่านดูใบการ์ดกระดาษสตาร์ดัสต์สีนวลพิมพ์ข้อความด้วยฟอนด์สวยเรียนเชิญเข้าร่วมฉลองงานวันเกิดพลเอกเจตณรงค์ ณ อยุธยา หรือนายพลเจต ผู้ทรงอิทธิพลทางกระทรวงกลาโหมของประเทศไทยในปัจจุบัน
“ขอแค่ให้พวกเขาเชื่อว่าคุณสิงโตปกติดีอยู่ก็พอใช่ไหม”
“ผมว่าอย่าไปเลยครับ ถ้าบอสจำได้ บอสไม่มีวันให้คุณไปแน่” นิวค้านหัวชนฝา แต่กลับถูกเตยกมือปรามไว้ไม่ให้แย้งต่อ
“คุณคริสรู้จักงานทั้งหมดดีเหรอครับ” สิงโตถามกลับ เรียกสายตากลมโตให้ละจากการ์ดเชิญงานวันเกิดมาสบตาเขา
“ก็ดีกว่าคุณตอนนี้ ถึงไม่เคยเห็นหน้าพวกเขา แต่ผมรู้ชื่อหมดทุกคนที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับลีโอนิกแฟมิลี่ คุณเตสืบข้อมูลให้ผมหน่อยได้ไหมว่ามีใครบ้างที่ได้รับบัตรเชิญงานวันเกิด”
“ได้ครับคุณคริส กรุณารอซักครู่”
คริสคืนการ์ดให้สิงโตรับไปถือ ก่อนเดินตรงไปยังชั้นวางหนังสือ โกยยกกองแฟ้มเอกสารด้วยความช้ำชองขนมากองตั้งไว้บนโต๊ะทำงานโล่งเตียน แล้วดึงเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวเล็กมานั่งไล่เปิดแฟ้มข้อมูลรายบุคคลอ่านและจำหน้าตาแต่ละคน ส่วนเตหยิบมือถือกดโทรหาเส้นสายของตนให้ไปจัดการตามเรื่อง ไม่นานเกินรอเพียง 15 นาทีต่อมาข้อมูลรายชื่อแขกทั้งหมดส่งข้อความมาในเมลขยะ เตเปิดเมลส่งให้คริสดูเพื่อจำกัดวงการจำหน้าให้แคบขึ้น สิงโตมองการทำงานแสนคล่องแคล้วด้วยความรู้สึกอึ้งทึ่งจนต้องหันมาถามนิวที่ยืนกุมขมับเครียด
“ปกติภรรยาผมทำงานด้านนี้เหรอ?”
“เปล่าครับ เอ่อ..จะว่ายังไงดีล่ะครับ คือ..คุณคริสไม่ได้ออกจากนอกบ้านมา 5 ปีแล้ว ถ้าไม่นับวันคลอดคุณหนู”
“หือ!? ทำไมอ่ะ?”
ทุกอย่างชะงักนิ่ง เงียบชี่..ทั้งเต นิว และคริส..ทั้งสามคนหันไปจ้องมองคนที่ยืนเด๋อด๋าคนเดียวในห้องทำงาน
“ผมสั่งเหรอ?” สิงโตถาม
“คุณสิงโตช่วยเงียบได้ไหมครับ ผมจำอยู่” คริสกล่าวทั้งเสียงดุโดยที่ตาจ้องเอกสารในแฟ้ม อัลฟ่าไร้ความทรงจำอ้าปากเหมือนยากจะถามต่อ แต่พอเห็นตากลมโตตวัดมองค้อนเข้าให้ จึงตัดสินใจหุบปากลงเงียบกริบแล้วเดินเข้ามายืนเตร่มองแฟ้มกองพะเนินบนโต๊ะไม่รู้เล่มไหนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
“คุณอ่าน 6 เล่มนี้ไป เกี่ยวกับแผนขยายเครือข่ายธุรกิจ 3 ปีข้างหน้า เอาให้เข้าใจ ส่วนตัวเลขผมจะได้แล้ว คุณไม่ต้องจำ”
“อ่า..ครับ..” บอสลีโอนิกแฟมิลี่ได้แต่ขานรับทั้งเสียงอ่อย หยิบเอาแฟ้ม 6 เล่มดังกล่าวไปนั่งที่ประจำของตนเปิดอ่านศึกษาข้อมูลเงียบๆ นิวลากเตออกมาจากห้องทำงาน ปล่อยให้ทั้ง 2 คนจมกองงานที่จำต้องค้นมาศึกษากันอย่างหนักหน่วง ตาตี๋เล็กฉายแววไม่พอใจเห็นได้ชัด
“ไอ้เหี้ยเต! มึงก็รู้ว่าบอสสั่งไม่ให้พวกเราปล่อยคุณคริสออกไปข้างนอกแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าเกิดบอสความจำกลับมา เอาพวกเราตายแน่!!”
“เฮ้ย มึงก็เห็นอยู่ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ บอสต้องเข้าใจสิวะ กูว่าพวกเราไปเตรียมการเรื่องคนกันดีกว่า” มือซ้ายแห่งลีโอนิกแฟมิลี่ตัดบทสนทนา เดินลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมแผนรับมือคุ้มครองนายเหนือหัวกับภรรยาที่จะออกสู่สังคมในอีก 4 วันข้างหน้า นิวได้แต่เกาหัวแรงปวดกบาลเป็นหนักหนา มองห้องทำงานของบอสสลับแผ่นหลังเพื่อนสนิทของตน สุดท้ายก็จำยอมต้องเลือกขัดคำสั่งเด็ดขาดที่ได้รับเอาไว้เฉกเช่นทุกคนไหลไปตามน้ำเสียไม่ได้
เอาวะ!! เป็นไงเป็นกัน!!!
.
.
.
ติ๊ก..ติ๊ก..ติ๊ก..
นาฬิกาบนฝาผนังทำจากไม้สักแกะสลักเป็นบ้าน กลไกไขลานดังเป็นระยะทำลายความเงียบโรยตัวห้องทำงานทรงกลมขนาดใหญ่ แฟ้มเอกสารเล่มแล้วเล่มเล่าอ่านจบแล้ววางแยกกองกับเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน ดวงหน้าคมหล่อเหลารับเกศาสีดำดั่งอีกาที่ปล่อยปรกหน้าผากเหลือบมองดวงหน้าขาวค่อนหวานของโอเมก้าหนุ่มที่ขะมักเขม้นจำหน้าตาบุคคลต่างตามรายชื่อที่เตหาไว้ให้ เป็นอีกครั้งที่ได้อยู่กับภรรยา 2 ต่อ 2 นับตั้งแต่คริสเล่าเรื่องที่สิงโตสูญเสียความทรงจำไป หลังจากนั้นคริสแทบไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขาเลย เจอหน้ากันแค่มื้ออาหารเท่านั้น ส่วนเวลานอนอีกฝ่ายจะแยกไปนอนห้องเดียวกับหวานน้อย เป็นเช่นนี้มาตลอด
แต่งงานกันจริงหรือ?
แหวนก็ไม่มี..รูปถ่ายคู่ก็ไม่มี..รูปงานแต่งก็ไม่มี เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่สื่อชัดว่าได้ คริส พีรวัส เป็นภรรยาด้วยซ้ำนอกจาก ‘ลูก’ ที่เป็นพยานรักเชื่อมเอาไว้ ดูเป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยปริศนาไปหมด ถามลูกน้อง คำตอบก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเดิมนอกจาก ‘คุณคริสเป็นภรรยาบอสถูกต้องแล้วครับ/ค่ะ’
“คุณคริส คุณเป็นเลขาผมเหรอครับ ดูเก่งเรื่องเอกสารมากเลย” ถือซะว่าใช้เวลานี้ทำความรู้จักกันไว้ ถึงจะจำไม่ได้ว่ารักกัน แต่หน้าที่ก็คือการเป็นสามีภรรยา เขาควรจะผูกมิตรไว้เป็นการดี
“เปล่า”
“ถ้างั้นเป็นลูกน้องมาก่อน”
“คุณก็เห็นอยู่ว่าแฟมิลี่คุณรับแต่อัลฟ่าทำงาน ผมเป็นโอเมก้านะ” และ..เหมือนการผูกมิตรล้มเหลว แถมสร้างความขุ่นเคืองใจให้อีกฝ่ายเสียอย่างนั้น..ใบหน้าคมค่อนหวานแบบบุรุษเพศชักสีหน้าหงุดหงิดใส่
ทำไมต้องดุกันด้วย.. สิงโตคิดต่อว่าคริสอย่างเลี่ยงไม่ได้
“แล้วทำไมรู้ลึกล่ะ?” คำถามที่ทำเอาคริสชะงักพลิกกระดาษไปยังหน้าต่อไป เฉหลบตาเต็มไปด้วยความอยากรู้มายังแฟ้มเอกสารกองพะเนินมากมาย รวมถึงที่ตั้งอยู่บนชั้นวางไม่หยิบออกมา
“เพราะ..คุณเล่าให้ผมฟัง..” ตอบคำถามทั้งเสียงแผ่วเบา
“แสดงว่าผมต้องไว้ใจคุณคริสมาก ๆ”
“ไม่รู้ ผมก็ไม่เข้าใจ..บางทีก็บ่นคู่ค้ากับศัตรูให้ผมฟังทั้งที่ผมเป็นโอเมก้า…”
.
.
.
ประตูห้องทำงานเปิดออกและปิดสนิท นัยน์ตากลมโตสะท้อนแผ่นหลังบุรุษร่างสูงสวมสูทเสื้อกั๊กสีดำทับเชิ้ตขาวพับศอก ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงแสลตสีดำสูบบุหรี่ทอดมองวิวนอกหน้าต่างเป็นทะเลสาบกว้างสุดลูกหูลูกตา ในคฤหาสน์หลังใหญ่ไม่มีที่ไหนที่บอสแห่งลีโอนิกไม่สูบบุหรี่ทิ้งเอาไว้ แต่ห้องทำงานของเจ้าตัว..คือสถานที่กลิ่นบุหรี่จัดมากที่สุด
“จะมีการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ฉันหวังว่าอองตัวร์จะชนะและเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่” สิงโตเอ่ยถึงข่าวสารการเมืองอันเป็นที่จับตามองของโลก ณ เวลานี้ เชือดเฉือนคะแนนกันระหว่าง 2 พรรคการเลือกตั้ง ปากหนาได้รูปอัดนิโคตินเข้าปอดแล้วผ่อนลมออกช้าๆ
“ปากว่าตาขยิบ” คริสพึมพำ หากแต่..ได้ยินชัดเจน ดวงหน้ามองเงาสะท้อนบนกระจกใส..สบตากลมโตฉายแววไม่พอใจเด่นชัดผ่านกระจก ก่อนกระตุกยิ้มมุมปาก
“ฉันต้องการคนแบบนั้น เอาอุดมการณ์สวยหรูไว้บังหน้าแต่ลับหลังทำธุรกิจฟอกเงินให้มาเฟีย ถ้าเขาชนะ ฝรั่งเศสจะเป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดของฉัน” เขาเว้นวรรคครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองคู่สนทนาที่เรียกให้เข้ามาพบหลังส่งลูกน้อยเข้านอนเสร็จสรรพ “จำไว้ ที่ๆอันตรายมักเป็นที่ปลอดภัยเสมอ”
คำสอนของปิศาจ
คริสถอนหายใจ เบือนหน้าหนีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ สิงโตดึงเก้าอี้นวมออกแล้วนั่งลงรอคอยให้คริสเดินเข้ามานั่งมาหาอย่างรู้งาน ขายาวขาวเนียนสวมกางเกงบ็อกเซอร์สีดำก้าวคร่อมนั่งบนตัก แน่นอนว่าการกระทำของเขาเรียกแววตาพออกพอใจออกมาเห็นได้ชัด ตรงข้ามกับคริสที่กล้ำกลืนฝืนทนทำไปให้พ้นวันหนึ่งก็เท่านั้น
เกลียดสายตาโลมเลียเรือนร่าง น่าแขยง..
เอกสารฉบับหนึ่งเย็บมุมส่งให้ คริสรับมาอ่านอย่างงุนงง เนื้อหาภายในว่าด้วยธุรกิจเปิดบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่แถวทางใต้ของประเทศไทย แถมสถานที่จัดตั้งดันกลายเป็นเขตพื้นที่ทางศาสนาของอิสลามที่ออกข่าวประท้วงทุกวัน นั่นทำให้เขาปะติดปะต่อได้ถึงสถานการณ์กลุ่มโจรใต้ที่เริ่มก่อวินาศกรรมจนชาวบ้านตายเกลื่อนถี่ยิบในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
อำมหิตเกินคน
“อ่านหน้า 5 ” สิงโตสั่งพลางลูบต้นขาขาว คริสกัดฟันแน่นกลั้นความรู้สึกขยะแขยงรีบเปิดหน้าไปที่หน้า 5 โดนพลัน กลับกลายเป็นธุรกิจเกี่ยวกับโรงกลั่นน้ำมันที่อิรักที่กำลังจะก่อสร้างโครงการในปีหน้า จากเนื้อหาโดยคร่าวเป็นเพียงเอกสารเชิญชวนร่วมธุรกิจเสียมากกว่า
“นายคิดว่าไง”
“ถามผม?”
“ใช่”
“ผมไม่ชอบงานของพวกคุณ ผิดกฎหมายทั้งนั้น”
“ฉันรู้ แต่ที่อยากรู้คือความคิดของนาย” อัลฟ่าผู้ได้รับสมญานามว่า ‘คิง’ บอกวัตถุประสงค์แท้จริง ก่อนหยิบบุหรี่ที่คีบไว้ขึ้นสูบอัดต่อแล้วผ่อนควันออก พิศมองดวงหน้าภรรยานั่งคร่อมตักเขาอ่านเอกสารงานทั้งหน้านิ่วคิ้วขมวด ระหว่างนั้นใช้อีกมือไล้ลูบต้นขาเนียนแน่นแบบผู้ชายแต่มีความนิ่มเนื้อมากกว่าผู้ชายโดยทั่วไป
“ถ้าวิเคราะห์ตัวเลข ตัวนี้เติบโตได้ดีกว่าโรงกลั่นอื่น แต่อาจจะต้องเข้าไปถือหุ้นด้วยและถ้าไม่อยากเกิดเหตุแบบทางใต้ ผมว่าเอากระแสประชาสัมพันธ์เรื่องรักษ์โลกอะไรเถือกนี้มาบังหน้าไว้จะดีกว่า” ออกความคิดเห็นไปตามที่สิงโตต้องการ
“คิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ ไอเดียดี”
“ผมก็คิดตามที่ผมเรียนเท่านั้น”
“ฉันชอบนาย”
คำพูดต่อมา ทำเอาคริสตัวแข็งทื่อ สบตาคมกริบสีดำดั่งอีกากริบแสนแวววาว
“ชอบแนวคิดของนาย พรุ่งนี้จะสั่งคนให้เอาตามนี้” สิงโตตัดสินใจทำตามไอเดียโอเมก้าตัวน้อยเฉย คริสสะดุ้งเฮือกตกใจ สัมผัสล้วงลึกละลาบละล้วงสอดใต้ขากางเกง บดขยี้กอบกุมแกนกลางความเป็นชาย บุหรี่ในมือดับก้นลงในถาดทิ้งอย่างไร้ค่าแล้วหันมาโอบรัดเอวให้สัมผัสถูไถการตื่นตัวของอัลฟ่าหนุ่มที่เริ่มหอบครวญส่อเค้าอาการรัทขึ้นมา ลำคอขาวถูกสูดดมซุกไซร้ ขบเม้นจนได้ยินเสียงดูดก้องชัดข้างหู..โดยเฉพาะบริเวณรอยกัด
ปลอกคอ
“เริ่มทำหน้าที่ของนายได้แล้ว คริส พีรวัส”
.
.
.
“คริสๆ”
“!!!!!”
หนุ่มผิวขาวจัดดั่งหิมะสะดุ้งตื่นจากการนึกถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อน ด้วยคำเรียกจากสิงโต นัยน์ตากลมโตสบสายตาคนเดียวกับวันวานแต่ไม่เหมือนวันวานที่เคยรู้จัก โดยเฉพาะแววตาที่แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ก่อนหันไปมองนาฬิกาลามไปถึงเที่ยงคืนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้
“โทษที ผมเหม่อไป นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาต่อแล้วกันครับ” คริสรวบเอกสารอย่างรีบเร่งหมายเก็บเข้าชั้น ดันเผลอลกลนจนปัดตกพื้นกระจายทั่วห้อง เขาก้มลงรวบเก็บอีกครั้ง โดยสิงโตเข้ามาสมทบย่อตัวลงอาสาช่วยเก็บอีกแรง
“ผมช่วย”
“คุณเนี่ยนะ?”
“ครับ ทำไมทำเหมือนผมช่วยคุณไม่ได้ล่ะ?”
คริสหรี่ตามองอัลฟ่าที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดตกในสภาวะความจำเสื่อม จากคนเย็นชา โหดเหี้ยม เอาแต่ใจ กลับกลายเป็นคนใสซื่อ อ่อนโยน แสนสุภาพ..พลิกตาลบัตรราวกับหน้ามือหลังเท้า หนำซ้ำยังเอาแต่ถามไถ่เรื่องโหดร้ายที่ตัวเองทำลงไปอยู่ได้อย่างน่าหงุดหงิด
เชือกอารมณ์อดกลั้นตึงแน่น..ใกล้เข้ามาทุกขณะ..
“ไม่ต้อง” คริสปัดไล่ด้วยเสียงเย็นชา
“ไม่เป็นไร ให้ผมช่วยนะ”
“ก็บอกว่าไม่ต้องไง!!!”
ขาดสะบั้น!!
โอเมก้าหนุ่มหลุดตวาดเสียงดังลั่น ปัดมือแกร่งที่ยื่นมาด้วยเจตนาหวังดีออกไป ถลึงตามองคนหนุ่มที่สะดุ้งตกใจถอยผงะ รองรับแรงอารมณ์ที่เขากด…กดและกดไว้มาตลอดเวลา ระเบิดออกมาสาดใส่ตัวต้นเหตุที่เอาแต่ตีหน้าเซ่ออยู่ได้เหมือนกับชีวิตของตนช่างใสสะอาดเป็นผ้าขาว ดั่งทารกน้อยไร้เดียงสามานานหลายเดือน
“ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ทั้งที่คุณทำเรื่องแย่ยังมีหน้ามาทำดีหน้าซื่อตาใส!! ไม่รู้เรื่องอะไรได้ลงคอ!!”
“ผมขอโทษ ผมจำไม่ได้”
“แต่ผมจำได้ ทุก อย่าง!!!!”
ต่อให้อยู่สุขสบายแค่ไหน ไม่มีวันลืมเรื่องผวาทุกวันเวลา
แค้นจนยากให้อภัย..ไม่มีวัน!
ทำตัวเป็นทารกแรกเกิด เดินเหินในบ้านมองมาที่คริสกับหวานน้อยดั่งคนไม่รู้จัก รู้ว่ามันสุดวิสัยแต่แล้วยังไง..คนที่โดนกระทำถึงต้องอยู่อย่างชอกช้ำ ทั้งที่ ‘ทุกอย่าง’ ลุกลามไปขนาดนี้เพราะเรื่องโสมนเห็นแก่ได้ของสิงโตเพียงคนเดียว ต้องอยู่ทนมองคนที่ทำผิดลอยนวลกำลังมีชีวิตแสนสุขกับรักเก่า ยิ้มหัวเราะเหมือนทิ้งผลการกระทำของตัวเองไว้เบื้องหลัง
“คุณคริส..ผมทำเรื่องไม่ดีให้คุณเกลียดใช่ไหม”
“....”
“ผมขอโทษที่จำไม่ได้ ผมขอโทษจริงๆ” สิงโตก้มหน้าสำนึกผิด กล่าวคำขอโทษที่ไม่เข้าใจอะไรเลยซักอย่าง
“....”
“ผม..ขอบคุณที่คุณคริสใจดีช่วยผมนะ ถึงแม้ว่าตัวผมในปัจจุบันน่าจะทำเรื่องไม่ดีกับคุณไว้ ทั้งที่คุณไม่ต้องทำก็ได้ ผม-” ทุกคำพูด ทุกคำวอนขอการให้อภัยถูกปรามให้หยุดลงโดยมือขาวป้อมที่ยกขึ้นมากางกั้นระหว่างพวกเขา น้ำตาเปี่ยมไปด้วยอารมณ์คดแค้น โกรธ โมโหจนสติแตกปาดเช็ดออกไปอย่างลวกๆ แล้วมารวบเอกสารยัดเก็บลงในชั้นต่อจนเสร็จ
“ผมช่วยเพราะมันคือความปลอดภัยต่อตัวผมและลูก คุณสิงโตไม่เกี่ยว”
..ไฟแค้นของราพันเซล ต่อให้คลื่นสมุทรก็มิอาจดับลง..
TBC
++++++++++++++++++++++
จำได้มีคนอยากรู้สิงโตทำธุรกิจเป็นไง ตอนนี้น่าจะรู้แล้ว
ขอใส่รูปบอสเวอร์ชั่นอ๊องความจำเสื่อม กลับไปสมัยเรียนหมอ
ไปก่อนนะ บายยยย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่เห็นแววครอบครัวสุขสันต์เลยอ่ะ..
สงสารหวานน้อย.. แย่จัง
เค้าจะรักยังไง❤❤❤🦁🐢
บอสเวอร์นี้น่ารักจัง น่าแกล้งมากด้วย
โดนซะบ้าง ทท
พาร์ทนี้ธุรกิจเข้มข้นมาก บอสจำได้เมื่อไหร่ มือซ้ายมือขวามีเสียววูบอ่ะ
คุณแม่โกรธจนน้ำตาไหลเลย มันอัดอั้นอ่ะ โดนกระทำมาตลอด ผัวสั่งทีเดียวก็ตัวสั่นแล้ว ฮรือออ
อันนี้เหมือนได้เอาคืนหน่อยๆ มีแจกค้อนด้วยนะ ตวาดด้วย แมวขู่สุด
มาต่อเร็วมาก ดีต่อใจสุดๆ เต็มที่น้า
น้องมีความเกรี้ยวกราดขึ้น ให้น้องได้ระบายอารมณ์บ้าง สงสารน้องงงง วงวารพี่สิงเหมือนกันนะ พอพี่แกใสๆ แล้วก็ไปกระตุ้นต่อมโมโหน้องอีก