[S.Fic K-Project] Kiss's Day
Paring : sarumi
Rate : PG-13
Story by: blood_hana
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้มันวันอะไรกัน!!!!??
ยาตะ มิซากิ เด็กแนวหน้าของสมาชิกกลุ่มโฮมุระเดินหน้านิ่วคิ้วขมวด กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก้มหน้าก้มตา พวงแก้มใสขาวนวลขึ้นสีเข้มแดงระเรื่อออกมาตลอดเส้นทาง…
…ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อเขินอาย…
สาเหตุนะหรือ…วันนี้เป็นวันที่เขาตั้งใจว่าจะออกมาเดินแกร่วเล่นเกมส์เซนเตอร์ซักหน่อย พอก้าวขาออกจากโฮมุระเดินออกมาสุดซอยก็พบเข้ากับ…หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังจูบปากอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์
แน่นอนคนไม่ประสีประสาเรื่องเพศ..แม้จะอายุใกล้เลข 2 แต่ขาดประสบการณ์ทางเพศ ขนาดขอสาวเดทก็ยังไม่เคย เว้นเสียแต่โดนหนุ่มๆมาขอเดท และทักว่าเป็นเด็กสาวด้วยส่วนสูงกับใบหน้าหวานน่ารักเหมือนผู้หญิง ต่อให้ทำเถื่อนแค่ไหนทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ชายมาขอเกี้ยวพาราสีอยู่ร่ำไป…
จึงเป็นสาเหตุให้ ยาตะการาสุ ผู้แข็งกร้าว ไร้เดียงสาและปิดกั้นเรื่องเพศมาตลอดต้องหน้าแดงร้อนวาบเสียไม่ได้ เผลอตะโกนโวยวายอีกต่างหาก แทนที่ไอ้คู่หนุ่มสาวนั่นจะหยุดกลับมองเขาพลางยิ้มเยาะอีก…
..คนไร้เดียงสา ก็ยังไร้เดียงสา ทนไม่ได้ที่ต้องมองอะไรแบบนั้นเลยวิ่งหนีเตลิดมา..
ตลอดเส้นทางเขาก็ต้องพบกับ…หนุ่มสาวคู่รักมากมายเล่นจูบ…จูบกันกลางที่สาธารณะ…มากมายจนผิดวิสัย มากจนมิซากิหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย นี่ยังไม่นับคู่ชายชาย หญิงหญิงที่เดินควงกันดูดปากสวนทางผ่านเขาไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก!!!
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่เรียกว่า ญี่ปุ่น ฟร่ะ!!!!
หรือวัฒนธรรมมันพัฒนาตามตะวันตกไปแล้ว
“โอ๊ยยย ไม่ไหวแล้วๆ” มือเล็กยกขึ้นมาดึงหมวกไหมพรมสีดำลงปิดลูกตาสีอำพันให้รู้แล้วรู้รอดวิ่งตรงไปข้างหน้า จะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนั้น และในขณะนั้นด้วยตาที่มิอาจมองเห็นร่างผอมบางจึงชนกับร่างๆหนึ่งเต็มแรง
โครม!!!!
“โอ๊ยยยย” เสียงปริศนานั่นร้องครวญเสียงหลง..เจ้าหนุ่มน้อยผมสีน้ำตาลไหม้รีบกระวีดกระวายขึ้นมานั่ง ดูเหมือนว่าเขาจะวิ่งชนคนจนอีกฝ่ายหงายหลังเป็นเบาะรองนั่งให้ มือเล็กดึงหมวกไหมพรมตัวเองขึ้น ปากอิ่มที่กำลังจะขยับคำกล่าวขอโทษชะงักแล้วกลืนคำต่างๆลงในลำคอ เมื่อพบว่าคนที่เขานั่งคร่อมอยู่…คือ..
“ไอ้ลิงบ้า!!!”
“ทำอะไรของนายน่ะ มิซากิ” ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ กล่าวทั้งเสียงห้วน บุรุษร่างสูงโปร่งผมสีควันบุหรี่จ้องมองใบหน้าหวานน่ารักด้วยสายตาหงุดหงิดระคนเจ็บ ชายหนุ่มค่อยๆยันกายขึ้นมานั่งพลางเอามือลูบท้ายทอยที่กระแทกกับพื้นปูนเต็มๆ ความระบบนั่นกระเทือนไปถึงสมองเหมือนได้เห็นดาวหมุนวนรอบๆใกล้ๆตา
“ก..ก็แก..มาขวางฉันทำไมเล่า!!!” ทิฐิ…ทั้งๆที่ครานี้เป็นความผิดของร่างผอมบอบบาง ทว่าด้วยอคติที่ว่าอดีตเพื่อนรักตรงหน้าทรยศความไว้เนื้อเชื้อใจไปอยู่ฝั่ง scepter4 ฝ่ายตรงข้ามกับโฮมุระ
ฟุชิมิเหลือบตาสีเข้มมองใบหน้าหวาน..สายตาดุนั่นทำเอามิซากิสะอึกแล้วเงียบปากลง
เจ้าลิง…กำลังอารมณ์เสีย..
“ลุก..”
“เห?”
“ฉันบอกให้ลุก..อย่ามาเกะกะ”
เสียงทุ้มติดห้วนผิดวิสัยยียวนกวนประสาทดังขึ้น สร้างความฉงนงุนงงแก่ร่างผอมบาง กระนั้นมิซากิก็ยอมถอยตามที่อีกฝ่าย นัยน์ตาสีอำพันสังเกตเห็นสีหน้าร้อนรน แถมสายตาสีเข้มเหลียวหลังมองแบบระแวดระวังเช่นนี้อีก..แสดงว่าซารุฮิโกะกำลังหนีอะไรบางอย่าง
“ท่านซารุฮิโกะ!!!!!!”
ยาตะหันไปมองต้นเสียงหวานแหลมปรี๊ดแสบแก้วหัวประสานเสียงเรียกนามคนหนุ่มแนวหน้า scepter4 ด้วยถ้อยคำหวานเลี่ยนเอาเสียมาก เด็กหนุ่มร่างเล็กถึงกับขนลุกซู่หน้าแดงเสียไม่ได้..กับสาวๆนับสิบอายุระนามก็มีตั้งแต่วัยมัธยมไปจนถึงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาวิ่งตรงมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“ชิ!!” ซารุฮิโกะสบถคำหยาบ รีบลุกขึ้นยืนวิ่งหนีเหล่าสตรีทั้งหลายที่วิ่งไล่กวดด้วยสีหน้าฟินนาเร่จนมิซากิรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
“เฮ้ย!!เดี๋ยวสิซารุ นี่มันเรื่องอะไร!!!” หนุ่มร่างผอมวิ่งตามตะโกนถามชายผมสีควันบุหรี่ด้วยเช่นกัน นัยน์ตาสีคมเข้มเหลียวมองคนบ้าโฮมุระเข้าเส้นวิ่งกระหืดหอบตามเขามาด้วยเช่นกัน ทำเอาฟุชิมิอย่างเอามือตบกบาลอีกฝ่ายโทษฐานสอดรู้ไม่เข้าเรื่อง ประกอบกับหงุดหงิดที่ ยาตะ มักทำไม่สนใจเขาในเวลาที่เขากวนประสาทเรียกร้อง พอเวลาไม่อยากให้ยุ่งด้วยดันมาเกาะติดเป็นหมาบ้าน่ารำคาญอีก
“นายนี่มันยุ่งไม่เข้าเรื่อง” มือหนาแกร่งที่มักจับมีดและด้ามดาบจนด้านคว้ามือนุ่มนิ่มแล้วพาวิ่งหนีเตลิดไปไหนต่อไหน วิ่งหลบซิกแซกเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ กระโดดข้ามถนนข้ามรถ…
ในที่สุดทั้งคู่ก็มาหยุดเหนื่อยหอบตรงกลางสวนสาธารณะใจกลางเมืองชิทสึเนะ ยาตะ มิซากิ ขาอ่อนล้าทรุดนั่งกับพื้นหญ้าอย่างไม่แคร์สายตาผู้คน หายใจหอบหนักจนตัวโยนไม่ต่างจากร่างสูงโปร่งที่ยืนเท้ามือเท้าเข่าทั้งสองตัวเอง ใบหน้าคมหล่อเหลาเปียกชื้นด้วยเหงื่อเช่นเดียวกับเรือนผมสีเข้มเซทตั้ง
“แฮ่ก..แฮ่ก..ดูเหมือน..แฮ่ก..พวกนั้น..จะหาย..ไปแล้ว” เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลไหม้ตัดสั้นคลอเคลียคลอระหงกล่าวทั้งเสียงเหนื่อยหอบแฮ่กๆ ฟุชิมิ ซารฮิโกะ ไม่ตอบ เจ้าตัวยังคงค่อยๆยืดตัวยืนตรงใช้หลังมือปาดเหงื่อที่ชื้นตามไรผมบนหน้าผาก มิซากิลอบมองท่าทางของอีกฝ่ายแล้ว..ไม่อยากจะบอกเลยว่าสภาพเปียกเหงื่อชุ่มเหมือนพึ่งผ่านการเล่นกีฬามาหมาดๆของซารุฮิโกะนั่น…มัน..
…ร้อนแรง…
“อะไร?” คนถูกมองเอ่ยถาม ตาสีเข้มหลังแว่นตากรอบสีดำทรงเหลี่ยมตวัดกลับมายังอดีตคู่หูเบื้องล่าง ซึ่งกำลังหน้าขึ้นสีแดงเข้มแปร๊ดดั่งผลมะเขือเทศสุก..ไม่รู้ว่าแดงจากอาการเหนื่อยหอบหรืออะไร แต่ดวงเนตรสีอำพันรีบเฉไปมองอย่างอื่นแทน “ป..เปล่า…”
“เอ่อ..ผู้หญิงพวกนั้นเป็นใคร?ทำไมถึงไล่ตามแก?” ยาตะเปิดประเด็นถาม
ฟุชิมิ ซารุฮิโกะเงียบนิ่ง ทว่า…กลับชี้นิ้วไปยังด้านหลังของยาตะ ใบหน้าหวานเหลียวไปมองตามก็พบเข้ากับเหล่าหนุ่มสาวที่กำลังนั่งบนม้านั่งตัวยาวใต้ต้นไม้ กอดรัดฟัดเหวี่ยงจูบกันอย่างดูดดื่ม!!!
“อ..ไอ้บ้า!!แกเรียกให้ฉันดูอะไรหา!!!” มิซากิหันกลับมาโวยวายเสียงดังใส่ซารุฮิโกะ ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วครานี้แดงก่ำยิ่งกว่าเก่าจนปากหนาได้รูปอดคลี่ยิ้มขำขันเสียไม่ได้
“โห..นายมันยังเวอร์จิ้นถึงขนาดดูคนจูบกันไม่ได้เลยเหรอ มิ-ซา-กิ~” กลับมาแล้วไอ้น้ำเสียงยียวนกวนประสาทด้วยเฉพาะไอ้คำลากยาวตรงชื่อต้นที่ไปจี้ต่อมโมโหของเขาหลายครั้งต่อหลายครั้ง..ชื่อที่เป็นเหมือนปมด้อยเพราะพ่อแม่อยากได้ลูกสาวเลยตั้งชื่อที่มันหวานแหววให้..แต่ดันออกมาเป็นลูกชายเขาก็เลยซวยต้องรับชื่อนั่นไปแทน
“เงียบปากไปเลยไอ้ลิงงี่เง่า!!!” ด่าคืนด้วยฉายางี่เง่าที่ร่างผอมตั้งให้..กระนั้นคนฟังทำเพียงยกไหล่อย่างไม่ยี่หระ ปากกระตุกยิ้มเยาะจนน่าหมั่นไส้เต็มประดา อยากจะต่อยปากซักหมัดถ้าไม่ติดที่เวลานี้เขาเหนื่อยจนไม่อยากขยับแขนขาหรือขยับตัวไปไหนทั้งสิ้นทั้งปวง “ตกลงแกยังไม่ตอบฉันเลย ว่าทำไมพวกนั้นถึงไล่ตามแก”
“มิซากิไม่รู้จริงๆเหรอ..” หน้าคมคายเลิอกคิ้วสูงด้วยความฉงน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าระอาใจ และนั่นยิ่งไปกระตุ้นต่อมโมโหให้คนผมสีน้ำตาลไหม้ฟูยุ่งใต้หมวกไหมพรมสีดำส่งเสียงดังโวยวายกลบเกลื่อนความละอายในความไม่รู้ของตน
“ก็ไม่รู้นะสิโว้ยยย!!!ถ้ารู้จะถามแกไหมห่ะ!!”
ซารุฮิโกะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเครื่องแบบสีน้ำเงิน มองคนที่..ไร้เดียงสาผิดท่าทีขี้โวยวายทำกร่างจนน่าเตะตูด ร่างสูงโปร่งถอนหายใจเบื่อหน่ายแล้วจึงขยับปากอธิบายถึงสิ่งที่ร่างบอบบางสงสัย
“วันนี้เป็นวันจูบน่ะ..เป็นการฉลองหนังเรื่องแรกของญี่ปุ่นที่อนุญาติให้มีฉากจูบได้”
“หา!!!มีวันแบบนั้นด้วยเหรอ!!!” มิซากิฟังเสียงทุ้มกล่าวเสร็จ ก็ร้องอุทานเสียงหลง
“เออ…แถมเป็นวันที่น่ารำคาญยิ่งกว่าวันวาเลนไทน์ด้วย จิ๊!!!” คนมีเสน่ห์ทั้งๆที่ใส่แว่นเชยๆแบบนั้นอย่างฟุชิมิ ซารุฮิโกะส่งเสียงคำรามในลำคอไม่พอใจ เมื่อดวงเนตรหลังแว่นกรอบเหลี่ยมพบเข้าไปกับกลุ่มสาวๆโขยงใหญ่ที่วิ่งว่อนตามหาเขาจนเจอ ใบหน้าของพวกเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ พ้นลมหายใจแรงถี่รัวจ้องมองชายหนุ่มชุด scepter4 ด้วยตามันวาววับ สถานการณ์ดังกล่าวถูกประมวลผลในสมองของมิซากิ..เจ้าของฉายาอีกาแห่งโฮมุระจึงสรุปได้ว่า..สาเหตุทีเหล่าสตรีไล่ตามคนทรยศโฮมุระคงไม่พ้น..คิดจะจูบปากของไอ้ลิงใส่แว่นนี่เป็นแน่แท้!!!
พูดไปก็อิจฉาโว้ยยยย
ทำไมคนอย่างเขาไม่มีสาวๆมาสน ส่วนไอ้บ้านี่มีสาวมาสนแต่มันไม่แคร์ผู้หญิงซักนาง
“เลิกยุ่งกับฉันซักที!!!พวกผู้หญิงน่ารำคาญ!!!” ซารุฮิโกะตะคอกใส่สาวๆด้วยวาจาร้ายกาจจนยาตะอยากจะออกโรงปกป้องสาว แล้วสั่งสอนว่า พูดจากับผู้หญิงให้มันดีๆหน่อยสิ!!! ทว่า..เหมือนสาวๆพวกนั้นหาได้สะทกสะท้าน ยิ่งฉีกยิ้มกว้างหน้าแดงเรื่อหายใจแรงกว่าเก่า ราวกับว่า..สุขสมที่โดนซารุฮิโกะด่า!!!
พวกเธอเป็น M กันหมดแล้วหรือไงเนี้ยยยยยยยยยย
“ฉันมีคนรักอยู่แล้ว…” คำตอบของบุรุษผมสีควันเซทตั้ง ทำเอาสาวๆอ้าปากค้างตะลึง มิซากิเองก็เช่นกันความสงสัยก่อกุมในหัวอยากรู้นักว่าใครหน้าไหนมันเอาชนะใจไอ้ลิงซาดิสต์นี่ได้ แต่แล้ว..ความคิดนั่นหายไปพร้อมกับแรงกระชากดึงที่ต้นแขนจนหนุ่มร่างบางลุกยืนตัวเซถลาเข้าสู่อ้อมกอดของแนวหน้า scepter4 ตามด้วย…ริมฝีปากหนาเข้าบดเบียดปากอิ่มเล็กบางสีชมพูอ่อนอย่างรุนแรงหนักหน่วง!!!
“อื้อ!!!!!!!!!!!!!!” ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ยาตะพยายามขืนตัวดิ้นให้หลุด วงแขนแกร่งนี่ก็ยิ่งกอดรัดไม่ปล่อยแถมยังสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากคนไม่เคยมีประสบการณ์ด้านเพศ จูบซ้ำไปซ้ำมานานแสนนาน..นานไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่จนยาตะหายใจไม่ออก หัวสมองขาวโพลนทุกอย่างรอบตัวดูอื้ออึงไปหมด โสตประสาทพอจับเค้าได้ว่าได้ยินเสียงอิสตรีหลายคนกรี๊ดปะปนกับร้องไห้ตามด้วยฝีเท้าที่ทยอยจากไป
ในที่สุด..ซารุฮิโกะเป็นฝ่ายถอนปากออกจากร่างเล็กแล้วปล่อยร่างผอมบาง มิซากิทรุดหวบไปนั่งกองกับพื้นหน้าแดงก่ำเช่นเดียวกับริมฝีปากบวมเบ่งราวกับสีกุหลาบแดงสด..
“ฮ้า…” นัยน์ตาสีอำพันคลอเบ้าไปด้วยน้ำตาเนื่องจากความร้อน ทรมาน และความรู้สึกเสียวซ่านแปลกๆในทรวงอก เจ้าตัวอ้าปากหายใจหอบหนักยิ่งกว่าครั้นวิ่งเตลิดเสียอีก ซารุฮิโกะมองสภาพอ่อนระทวยเป็นเยลลี่ของอีกฝ่ายก็อดหน้าขึ้นสีเสียไม่ได้..ทั้งทิ่คิดว่าแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไล่พวกผู้หญิงน่ารำคาญไป..ทว่าพอเห็นสีหน้าแบบนั้นแล้ว…
อยาก..จูบอีกซักรอบ…
“มิซากิ..”
“!!ไอ้บ้า!!ไอ้ลิงงี่เง่า!!!!แกมันทุเรศ!!!!” มือเล็กบางปัดมือแกร่งที่กำลังเอื้อมมาหาทิ้งอย่างไม่ใยดี ใบหน้าหวานน่ารักรือชื้นน้ำตาก่อนที่จะไหลอาบแก้ม เจ้าตัวลุกขึ้นผลักคนตัวสูงให้ถอยห่างแล้วขี่เสก็ตบอร์ดสีขาวหนีไปไกลจนลับสายตา
…สีหน้าเมื่อกี้….
ซารุฮิโกะมองมือข้างที่โดนปัดปฏิเสธ แล้วค่อยๆยกขึ้นมาแตะริมฝีปากเบาๆ สัมผัสนิ่มร้อนหวาน ยังคงตราตรึงติดอยู่มิจางหาย…พลัน!!ปากหนาคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ แฝงความกระหาย คนหนุ่มแว่นหน้าหล่อเหลาเลียริมฝีปากเพื่อระลึกถึงรสชาติหอมหวานที่เขาเป็นคนแรกที่ได้ลิ้มลอง
“มิซากิ…”
คราวหน้า..ฉันจะไม่ปล่อยให้หยุดแค่ปากแน่ หึหึ…
.
.
ร่างเล็กขี่เสก็ตบอร์ดกระโดดข้ามรั่วสิ่งกีดขวางตามท้องถนน น้ำตาแห้งเหือดไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังติดตรึงบนปากบวมนี่..สัมผัสร้อนระอุ..ความเร้าร้อนชวนหลอมละลายจนก่อให้เกิดความรู้เบาหวิวแปลกๆนั่นอีก
“ชิ!!ไอ้ลิงบ้า!!!” ยกหลังมือเช็ดปากพยายามถูแรงๆ ราวกับว่าจะชะล้างได้ทั้งที่ยิ่งทำยิ่งบวมเจ่อก็ตามที..ต้องหาทางล้างปากของตัวเองออกคิดแล้วก็ก็เบนเป้าหมายจากที่เคยวางแพลนว่าจะเล่นเกมส์เซนเตอร์ ซึ่งก็มีอันต้องล้มเลิกไป เจ้าตัวจึงเลือกที่จะเลี้ยวกลับเข้าซอยโฮมุระ..ซึ่งเป็นที่ตั้งของบาร์..สถานที่สุ่มหัวของเหล่าพลังเพลิงสีแดงฉาน..
วันนี้คุซานางิไม่อยู่เห็นว่าออกไปเดทกับสาวปริศนานางหนึ่ง..คงไม่พ้นวันจูบ..ไหนจะคนอื่นๆอีกที่พากันพร้อมใจออกจากบาร์เพื่อไปหาสาวที่ตัวเองชอบ ขนาดแอนนาเองก็ยังมีเด็กชายที่เธอชื่นชอบอีก คิดๆดูจะเหลือก็เพียงราชาสีแดงผู้แสนเฉื่อยชา สุโอ มิโคโตะ กับ ยาตะ มิซากิ ที่ไม่มีแนวโน้มจะไปโลดแล่นหาสาวมาจุ๊บตามเทศกาลงี่เง่านี่
ใช่แล้ว..ไปกินเหล้าเอาแอลกอฮอล์ล้างปาก
และก็คุยกับมิโคโตะซังดีกว่า…
ในที่สุดเสก็ตบอร์ดสีขาวหยุดลงหน้าประตูไม้ของบาร์โฮมุระ ร่างเล็กใช้เท้าดีดปลายเสก็ตบอร์ดขึ้นทำให้มันลอยจากพื้นมือเล็กคว้าบอร์ดไว้แนบกับข้างเอว เท้าใต้รองเท้าพละสีน้ำเงินก้าวเดินตรงไปยังบานประตูนั่นแล้วผลักเปิดออก
“กลับมาแล้ว มิโค…โตะ..ซัง…”
นัยน์ตาสีอำพันเบิกกว้างตกตะลึง จ้องมองร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้เป็นราชาสีแดง อันทรงอำนาจ ที่เขาเคารพเชิดชูเหนือหัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ชายในอุดมคติที่ยาตะ มิซากิ วาดฝันอย่างจะเป็น..กำลังขึ้นคร่อมร่างสูงโปร่งบาง..สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยจนเห็นยอดอกสีชมพูหวานชูชัน..คนด้านใต้นั้นถ้าจำไม่ผิด…นั่นมัน..
“โอ๊ะ!!นั่นยาตะการาสุไม่ใช่เหรอครับ” เสียงทุ้มหวานชวนอบอุ่นแต่แอบแฝงอำนาจล้นฟ้าทัดเทียมมิโคโตะ ดวงเนตรสีไพลินใต้ขนตาแพยาวหลังแว่นไร้กรอบทรงรีปรายมองเด็กหนุ่มร่างเล็กบางยืนตาค้างหน้าประตู โดยที่มือเรียวขาวยังคงละวนลูบไล้แผงอกแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามมัดของคนที่อยู่เบื้องบน
“อา..นั่นสิ มุนาคาตะ” สุโอกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบห้าว ตาสีเหลืองคมกริบจ้องมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเฉยเมยราวกับเป็นเพียงธาตุอากาศ ก่อนจะหันกลับมาโน้มใบหน้าจูบบนริมฝีปากเรียวที่หยักยิ้มยั่วยวนอย่างดูดดื่มไล่ลงไปยังลำคอระหง..และไล่ลง…
“แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” มิซากิหวีดร้องเสียงดัง ทนกับภาพดังกล่าวอันไร้ยางอายไม่ได้ จึงเผ่นวิ่งหนีกระเจิงออกจากสถานที่สุ่มหัวโฮมุระซึ่งได้กลายเป็นที่เริงรักระหว่างราชาด้วยกันเสียเอง!!! ใบหน้าวานแดงก่ำไปถึงหู หน้าแดงไม่รู้จะกี่รอบของวันนี้
ฉันเกลียดวันจูบที่สุด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
FIN
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 30 ตุลาคม 2557 / 18:36
ให้ซารุปิดบัญชีเร็วๆนะ มิจัง 555555+
น่าสงสารจริง
ฉากสุดท้ายมันช่างฟินนนนนนนนนนน=.,=
ซารุโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วฉากคิงนั้นมันอารายยย เสียเลือดค่ะ ><
สงสารมิซากี้จริงๆ 5555555
เรียกซารุมาจัดให้ซักดอก (?)
จะได้ไม่น้อยหน้าพวกราชาไง อิอิ