คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 จบแล้วจ้า
“คนบ้า..เกลียดคุณที่สุด..” มุคุโร่นอนซุกร้องไห้อยู่กับหมอนบนเตียง จนตาบวม มือบางขยำผ้าปูแน่นจนยับ แสดงถึงความรู้สึกคับแค้นและเสียใจ
ร่างบางในชุดแซกสีดำยันตัวขึ้นมานั่งคุกเข่าบนเตียงอย่างช้า นัยน์ตาต่างสีคู่งามช้อนมองพระจันทร์สีขาวนวลยามค่ำคืนส่องสว่างเรืองรองในผืนนภารัตติกาล
-พระจันทร์เต็มดวงสวยเหมือนวันนั้นไม่มีผิด..-
ใบหน้าสวยชักสีหน้าเศร้าสลดลง ก่อนก้มลงมองนิ้วนางข้างซ้ายประดับแหวนสีทองเกลี้ยงวงหนึ่ง สลักประโยคภาษาอิตาลีไว้บนแหวน ที่ทำให้ใจของร่างบางเต้นรัวทุกครั้งที่ได้อ่าน
.
.
.
1 ปีที่แล้ว
ในวันเดียวกันนี้ ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
ท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวง ..แบบนี้
“อะไรกันครับ..จู่ๆก็พาผมมาออกมาแบบนี้” มุคุโร่เอ่ยขำขันกับการที่บอสมิลฟิโอเล่พาเขาออกมานั่งรถเที่ยวเล่นกลางคืนดึกดื่น แทนที่จะพาเขาขึ้นเตียงตามนิสัย
เบียคุรันฉีกยิ้มระรื่นยากแก่การคาดเดาตามปกติ แต่จากที่คบกันมานานตั้ง 1 ปี เขาก็พอจะรู้ว่า ท่าทางแบบนี้คนรักของเขาต้องคิดอะไรบางอยย่างออกมาแน่นอน
รถฟอร์ลูร่าสีดำคับหรูจอดลงสนิทลงข้างถนนเงียบสงัดอย่างช้าๆ บุรุษผมขาวเปิดประตูลงจากรถ และเดินมาเปิดประตูให้ชายผมสีไพลินยาวสลวยรวบไว้อย่างลวกๆ
มุคุโร่เดินลงจากรถลงมา พร้อมรอยยิ้มลึกลับมีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง “คึหึหึ ทำแบบนี้เหมือนผมเป็นผู้หญิงเลยนะครับ” เรือนผมขาวฉีกยิ้มหวานตอบพร้อมจูงมือนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายเดินไป “หึหึ ฉันทำแบบนี้กับเธอเท่านั้นนะ”
นัยน์ตาสองสีหรี่มองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า เขาไม่ใช่คนโง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสื่ออะไร แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยจะพูดเถรตรงเท่าไหร่ จึงเลือกตอบยียวนกวนประสาทกลับไป
“คึหึหึหึ หรอครับ..ผมควรตอบว่ารู้สึกดีใจไหมนะ”
ไม่มีเสียงตอบกลับจากอีกฝ่าย ทำเอาร่างเพรียวชะงักตัวอึ้งและเกิดความกลัวขึ้นมาว่าร่างสูงอาจโกรธเขาเป็นได้
-ทำไมถึงเงียบไป..-
แม้มือหนาจะไม่ได้ปล่อยมือเขา แต่ตัวมุคุโร่เองก็กลัวว่าคนเบื้องงหน้าจะสลัดมือเขาทิ้ง
หมับ!!!
เบียคุรันสะดุ้งตกใจเมื่อร่างเพรียวผมสีน้ำเงิน กุมมือตอบแน่นมาทันที แถมยังเดินมาอยู่ข้างๆเขาอีก
นัยน์ตาสีน้ำแข็งมองใบหน้าสวยที่ก้มลงต่ำจนผมสีไพลินซอยสไลด์คลอเคลียแก้ม ปรกลงมามิดใบหน้า ก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์เข้าใจถึงความคิดอ่านของอีกฝ่าย “ฉันไม่มีวันทิ้งมุคุโร่คุงหรอกนะ ..”
ไม่มีเสียงตอบกลับจากร่างบาง มีเพียงแรงบีบมือเพื่อต้องการถามความแน่ใจของร่างสูง
“ตามฉันมาซิ ฉันจะแสดงให้เธอรู้ว่าฉันไม่วันทิ้งเธอ..” ชายผมขาวในชุดเครื่องแบบมิลฟิโอเล่เดินจูงมือคนรักข้างกายไปยังจุดมุ่งหมายตรงหน้า
ตาสองสีไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองทาง ไม่กล้ามแม้จะสบตาคู่คมอบอุ่นของอีกฝ่าย
เพียงเพราะกลัว...
หากดวงตาคู่นั้นไม่ได้จับจ้องเขาอีกแล้ว
หากทางตรงหน้าจากนี้ไป เขาไม่ได้กุมมือเดินไปด้วยกัน
มันคงเจ็บปวดจนรับไม่ได้..
.
.
เท้าทั้งคู่ของคนตรงหน้าหยุดลง ทำให้มุคุโร่หยุดตาม ใบหน้าสวยค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้า
ภาพที่พบคือทุ่งดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งไปทั่ว ริมธารน้ำใส ที่สำคัญมีหิ่งห้อยมากมายต่างพากันส่องแสงระยิบระยับราวกับดาวบนฝากฟ้า มุคุโร่อึ้งกับความงดงามเบื้องหน้าจนเผลอลืมตัวเคลิ้มกับบรรยากาศไปชั่วขณะก่อนจะได้สติกับความรู้สึกเย็นเรียบที่นิ้วนางข้างซ้าย
“เอ๋!!?” มุคุโร่มองดูนิ้วนางของตัวเอง ที่เคยว่างเปล่า บัดนี้ประดับด้วยแหวนวงเกลี้ยงสีทองสะท้อนแสงจันทราเต็มดวง เผยให้เห็นการสลักภาษาอิตาลีบนผิวโลหะ ความหมายของมันทำให้แก้มสวยแดงเรื่อทันที
‘Ti amo’
ร่างเพรียวถูกรั้งตัวให้หมุนตัวเข้ามาสบตาชายหนุ่มร่างสูง หน้าคมคายหล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นของเทวดา
ทั้งที่เมื่อก่อนคือความจอมปลอม
ทว่า..
บัดนี้มันคือความจริง
ที่มีให้เขาเพียงผู้เดียว
.
.
“Ti amo (ฉันรักเธอ..)” เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหู ตามด้วยอีกประโยคที่ทำให้อกซ้ายของมุคุโร่แทบหยุดเต้น
“แต่งงานกับฉันนะ..” สิ้นเสียงทุ้มริมฝีปากหนาเข้าประทับจูบลงบนหน้าผากลาดมน ก่อนจะค่อยเลื่อนลงมาที่ปากเรียวอิ่มอย่างนุ่มนวล
“เบียคุรัน..” มุคุโร่เบิกตากว้างตกตะลึง ใบหน้าสวยถึงกับรีบหลุบสายตาลงกับความรู้สึกเออล้นเต็มอก แก้มใสแดงจนเป็นสีของผลตำลึงสุก ทั้งสีหน้าและท่าทางของมุคุโร่ปรับตัวแทบจะไม่ถูกด้วยซ้ำยามมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้
เรือนผมขาวหัวเราะขำๆในลำคอกับก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดไว้ จมูกโด่งได้รูปสูดดมกลิ่นหอมแชมพูจากเส้นผมนุ่มสลวย ดวงตาสีน้ำแข็งมองคนในอ้อมอกงุดหน้าลงราวกับสาวน้อยไร้เดียวสาอย่างขำขัน
-มุคุโร่ ก็มีส่วนใสซื่อเหมือนกันแหะ..-
“น่ารักจัง..”
.
.
.
ประตูห้องนอนปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมการปรากฏตัวของชายร่างสูงผมขาว โกรธอยู่รึเปล่านะ..-
เบียคุรันคิดตก พลางเอามือเกาหัวตัวเองไปมา ดวงตาสีน้ำแข็งมองเจ้าของผมสีน้ำเงินยาวสลวยนอนหลับพริ้มลงบนเตียงนุ่ม
ชายหนุ่มกล้วยไม้ขาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น และรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างช้าๆ
จนถึงเตียงกว้าง ก่อนค่อยทุดลงนั่งข้างภรรยาตัวเอง มือแกร่งเกลียปอยผมที่ปรกข้างแก้มใสออกช้าๆ ทำให้เห็นดวงตาคู่งามบวมเบ่งอย่างเห็นได้ชัด และความเปียกชื้นบนขนตาแพยาว
..ร้องไห้งั้นหรอ...
“อื้อ..” มุคุโร่มุ่นคิ้วลงอย่างหงุดหงิด ร่างบางขยับตัวช้าๆพร้อมเปลือกตาบางค่อยๆเปิดออก “คุณเบียคุรัน!!”
มุคุโร่ร้องเสียงหลง และรีบเด้งตัวลุกขึ้น แต่กลับถูกร่างสูงไหวตัวทันจับแขนอรชรทั้งสองกดลงบนเตียงไว้
“ปล่อยผมนะ!!” ชายร่างบางดีดดิ้นให้หลุดจากการพันธนาการของคนเบื้องบน เบียคุรันเห็นท่าไม่ดีเลยตัดสินใจดึงมุคุโร่เข้ามากอดไว้แน่น “อึก...”
“ฉันคง..ล้อเล่นหนักไปซินะ” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบบอก ดวงตาสองสีคลอเบ้าสั่นระริกก่อนจะค่อยๆ ช้อนมองคนรักตัวเอง
“หมายความ..ว่าไง?”
อ้อมแขนแกร่งค่อยๆคลายตัวออก มือหนาเชยคางคนในอ้อมอกขึ้น ก่อนจะปาดน้ำตาจากอัญมณีสองสีอย่างช้าๆทั้งรอยยิ้มอ่อนโยน “ฉันไม่เคยลืมหรอกนะ..ก็วันนี้ เป็นวันครบรอบวันแต่งงานนี้ของเรา...”
ดอกกุหลาบสีขาวสลับแดงช่อโตปรากฏขึ้นต่อหน้ามุคุโร่ ดวงหน้าสวยขึ้นสีทันทีก่อนจะยืนมือไปรับช่อดอกไม้
ตาสองสีคู่งามเฉหลบคนยิ้มระรื่นตรงหน้า ก่อนจะพึมพำว่ากล่าวอีกฝ่าย “ผมนึกว่า..คุณลืมไปซะอีก..”
ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ เรือนผมสีน้ำเงินกลับถูกอีกฝ่ายดึงให้มานั่งบนตักแถมยังถูกสวมกอดด้านหลังอีก
“อ๊ะ!!คุณเบียคุรัน!!ดะ..เดี๋ยว!!!” มุคุโร่ปรามคนที่ละลาบละล้วงไล้วนยอดอกสีชมพู และขาขาวเนียนตามรอยแหวกของเสื้อแซกสีดำสนิท “ทำฉันอารมณ์ตื่นแล้วทิ้งกันไปแบบนี้ ต้องลงโทษ..”
กล้วยไม้ขาวฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ และจับคนช่างยั่วกดลงไปนอนราบกับเตียงนุ่ม “คนเจ้าเล่ห์...” มุคุโร่พูดเสียงเขียวใส่แต่ก็หาได้มีปฏิกิริยาต่อต้านไม่ วงแขนอรชรโอบรอบคออีกฝ่ายและรั้งให้คนเบื้องบนเข้าทาบทับเรือนกายตนเองพร้อมการแลกจูบแสนเร้าร้อนยาวนานตลอดค่ำคืน .
.
.
.
.
ประตูห้องทำงานของผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของมิลฟิโอเล่เปิดขึ้นพร้อมกองงานเป็นกองพะเนินสูงเกือบชิดเพดานห้อง ทำเอาเจ้าของตำแหน่งอ้าปากค้าง “เอ๋!!ทำไมมันเยอะอย่างงี้ละ!!!”
“ท่านเบียคุรันก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วนี้ครับ” เสียงว่าของหนุ่มแว่นผมส้มดังขึ้นจากด้านหลัง หน้าคมคายหันไปมองเลขาของตนในชุดเสื้อลายดอกสีสันแปลกตาจและกางเกงสามส่วน ตามด้วยรองเท้าแตะ ผิดวิสัย พร้อมรอยยิ้มแห้งๆ “ฮะๆโชจังละก็...ทำหน้าจริงจังเชียว ..”
“จะไม่ให้จริงจังได้ไงครับ คุณเล่นไม่เข้างานตั้ง 5 วันเต็มๆแบบนี้” โชอิจิโวยวายใส่ ก่อนจะถอนใจอย่างเอือมระอา
เจ้าคนตัวดียังคงฉีกยิ้มหน้าระรื่นไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเคย กับการที่ตัวเองทำกิจกรรมใต้ร่มผ้า 5 วันติดๆกันไม่ยอมหยุด ถ้าไม่ใช่ว่าภรรยาคนสวยของเขาดุเสียงเขียวไล่ให้ไปทำงานละก็ วันนี้ให้ตายก็ไม่ยอมเข้าก้าวขาออกจากห้องนอนหรอก
“แต่ปกติโชจังเคลียร์งานให้ฉันไม่ใช่หรอ ไหงงวดนี้ไม่ทำให้ละ” กล้วยไม้ขาวเอ่ยถาม
หนุ่มผมส้มดันแว่น พร้อมหยักยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่บอสแห่งมิลฟิโอเล่ยังต้องอึ้ง “ก็..ถือเป็นค่าตอบแทนที่ให้ผมไปสืบข้อมูลวันสำคัญของมุคุโร่ไงครับ” เบียคุรันถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อน “อะ..เออ โชจังอย่าบอกนะว่า โชจังจะไม่ช่วยผมทำงาน..”
“ครับ ผมเองก็อยากมีเวลาพักร้อนของผมเหมือนกัน...เพราะงั้น..”
ร่างบางผมสีทองม้วนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ ยืนเลียอมยิ้มสุดโปรดสะพายเป้ใบใหญ่ไว้ด้านหลัง
“โชอิจิเร็วๆเข้าเดี๋ยวขึ้นเครื่องไปเกาะฮาวายไม่ทัน”
“จ้าๆสปาน่า “ โชอิจิพูดเสียงหวานใส่แฟนหนุ่มหน้าหวานจ๋อยใสซื่อน่ารัก ก่อนจะหันมายิ้มระรื่นตามแบบฉบับของเบียคุรัน “ไปก่อนจะครับ ท่านเบียคุรัน แล้วถ้าคิดจะฟ้องวองโกเล่ละก็ ผมจะเอาเรื่องที่คุณลืมวันครบรอบแต่งงานไปบอกมุคุโร่”
คำขู่ของโชอิจิทำเอาร่างสูงผมขาวชะงักตัวอ้าปากค้างตะลึงทันที นัยน์ตาสีมรกตมองบอสที่เอาแต่แจกงานให้เขาทำเป็นว่าเล่นด้วยความรู้สึกสะใจ ก่อนเดินไปโอบไหล่สปาน่าที่ยืนรออยู่ไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าตึกฐานบัญชาการ
“ไม่น้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
FIN
ความคิดเห็น