ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shark Prince of Demon World(ทดลอง)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 57


     บทที่ 1

        “...เฮ้ย....เตียงเลขที่สี่สิบสี่มีคนนอนอยู่ด้วยว่ะ”เสียงกระซิบพูดของเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งพูด ดวงตาสีไพลินมองไปยังร่างร่างหนึ่งที่มีวับแวมให้เห็นจากที่กั้นเตียงที่อยู่สูงเกินระดับสายตาไปเล็กน้อย

    “คระ...ใครวะ”เด็กผู้ชายที่มีดวงตาสีส้มถามด้วยความ...เกือบกล้า

    “ก็คงเป็นเด็กใหม่แหล่ะ เรื่องแค่นี้คิดกันไม่ได้รึไง เหอะ!!!”เสียงบ่นพึมพำของเด็กหนุ่มตาสีชมพูเอ่ย แต่ไม่มีใครพูดต่อเสียงโหดๆของผู้ที่เป็นหัวข้อสนทนาก็ดังขึ้นจนหลายคนเสียวสันหลัง

    “หุบปากไปซะไอ้พวกลูกหมา คิดว่าเป็นใครมาส่งเสียงเอะอะโวยวายขนาดนี้ เก็บปากเก็บลิ้นลงชักโครกไปซะไอ้ตูดหมึก ก่อนมึงจะไม่มีลิ้นให้พล่าม”คำพูดมาพร้อมดวงตาสีแดงคมกริบตวัดมองราวกับกำลังเฉือนเนื้อแล่ออกเป็นแผ่นๆ

    “ฮ่าๆๆ ชาคุจัง จุ๊ๆ นอนไปเถอะนะไม่มีอะไรหรอก”เสียงลั้นลาขององค์ลูซิเฟอร์ดังขึ้นให้ทุกคนหันไปมองแล้วรีบก้มหัวลงทันที

    “สวัสดีครับ ท่านอธิการบดี!!”การที่ลูซิเฟอร์ลงมาเป็นเรื่องปกติตามนิสัยของเจ้าตัว

    “อืมๆ ตามสบายนะ ฉันจะแนะนำให้รู้จัก....”มือแกร่งเอื้อมไปคว้าคอเสื้อของชาร์คแล้วรั้งลงมาจนหล่นบนพื้นดังลั่น....เหมือนได้ยินเสียงกระดูกลั่นด้วย

    “เจ็บนะ”เสียงเย็นๆว่าแล้วพยุงตัวเองขึ้น

    “เด็กคนนี้ชื่อ ชาร์ค เป็นนักเรียนใหม่ อยากให้เธอช่วยดูแลเขาหน่อย เขาเข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง และมีรสนิยมที่ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาซักเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากดูเขาด้วยล่ะกัน เขาพึ่งออกมาเจอโลกกว้างครั้งแรก”ลูซิเฟอร์ตบบ่าชาร์คที่ทำตาขวางเบาๆ

    “แต่นี่มัน...เปิดเรียนมาได้ซักพักแล้วนะครับ”เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งพูด เขามีเรือนผมสีขาวพิสุทธิ์กับดวงตาสีฟ้าอมเขียว

    “อืมนั่นแหล่ะ...แบบว่า ก่อนหน้านี่มีปัญหาด้านสุขภาพนิดหน่อย ก็เลยต้องมาเลทแบบนี้”เมื่อได้คำตอบทุกคนก็พยักหน้าเข้าใจ

    “เอ้า ฉันจะมาบอกแค่นี้แหล่ะ ไปพักผ่อนได้แล้วไป”

    ทุกคนก้มห้ามทำความเคารพท่านอธิกายขี้เล่นจนลับสายตา ชาร์คเดินอาดๆไปค้นตู้เสื้อผ้า...หวังจะอาบน้ำซักหน่อย เพราะถูกปลุกกลางคันแบบนี้คงจะนอนไม่หลับเป็นแน่

    “เฮ้ ไม่คิดจะทำความรู้จักกันรึไง”รุ่นพี่คนเดิมเดินเข้ามาถาม ดวงตาสีแดงปรายมองก่อนจะเงียบลงหมดทุกคน

    “ฉัน....”

    “เอวาลอน เซอร์เดริค”ไม่ทันที่รุ่นพี่หนุ่มจะแนะนำตัวเสียงเข้มๆของคนถูกรั้งก็พูดออกไป จนหลายคนงงๆ...รู้ได้ไง

    “....รู้ได้ไง”

    “หัวขาว ตาสีน้ำทะเล ตระกูล เซอร์เดริคแน่นอน เพราะในเผ่าเอลฟ์มีแค่ครอบครัวนั้นตาสีนี้ ครอบครัวเซอร์เดริค มีลูกชายสองคน คนโตอยู่เนเวอร์ทาน์ว และตอนนี้ก็ยังอยู่ที่นั่น งั้นก็เหลือแค่คนน้อง ซึ่งก็คือนาย”เสียงเข้มตอบแล้วหันกลับไปหยิบกางเกงนอนกับเสื้อกล้ามออกมา

    “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ขออาบน้ำ...และอย่าเข้าตามมาเด็ดขาด ไม่งั้น แกจะได้กลายเป็นซากเน่าๆอาหารของหนอนโสโครก”พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปทันที โดยที่คนอื่นมองตามตาปริบๆ

    “โหดจัง”หนุ่มผมสีส้มพูดแล้วหลบอยู่หลังเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงิน

    “....เออ....ก็ว่างั้น...แถมตางี้ สีแดงเชียว น่ากลั๊วน่ากลัว”หนุ่มผมสีน้ำเงินพูดแล้วยิ้มเล่ห์ๆอย่างนึกสนุก

    “แต่ดูตู้สิ....เป็นระเบียบมากเลยนะ เรียบร้อยเชียวอย่างกับผู้หญิงจัดแหน่ะ”หนุ่มผมชมพูพูดแล้วเดินวนรอบๆตู้ที่ข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ

    “หืม....น่าสนใจจังน๊า”หนุ่มผมสีน้ำเงินก็ยังไม่หยุด....เห็นที ชาร์คจะเจอวิกฤตจากหนุ่มคนนี้แล้วสิ

     

     

     

    ชาร์คนอนแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่สีไข่มุกนวลสะอาด ควันสีขาวลอยฟุ้งจากไอน้ำที่ระอุขึ้น ใบหน้าคมเข้มระเรื่อด้วยความร้อนแผงอกกว้างปรากฏรอยแผลฉกรรจ์หน้ากลางกลางอกเป็นรูปแมงมุม  ดวงตาสีแดงเลือดมองขึ้นไปเหนือเพดานที่ถูกตกแต่งเป็นท้องฟ้ายามราตรี ดวงจันทราสีเหลืองนวลไร้ชีวาหยุดนิ่งที่กลางห้องเป็นโคมไฟ แพขนตาปรือลงด้วยความผ่อนคลาย ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดตัว สวมกางเกงทั้งสามชั้นอย่างรวดเร็ว กลางหลังให้เห็นแผลเป็นที่บริเวณบั้นเอวและใต้สะบัก เป็นแนวดิ่งเรียงกันราวกับมีบางอย่างเคยอยู่ตรงนั้นแล้วถูกกระชากออกไป หลงเหลือไว้เพียงบาดแผลที่ทวีความเจ็บแสบมากขึ้นทุกทีที่นึกถึงสาเหตุที่มีมัน ก่อนจะถูกบดบังด้วยเสื้อกล้ามสีขาวสะอาด

    ครืด

    บานประตูกระจกพร่าๆเปิดออก ให้เห็นร่างของคนเกือบสิบชีวิตกำลังนั่งๆนอนๆเล่นกันอยู่บนเตียงของตนเอง ดวงตาคมปราดมองอย่างลวกๆ ก่อนจะเดินเอาผ้าขนหนูสีดำของตนเองไปผึ่งให้แห้งนอกระเบียง

    “ชาร์ค มานี่สิ ฉันจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก และจะอธิบายกฎคร่าวๆด้วย”เอวาลอนพูดแล้วกวักมือเรียกชายหนุ่มให้เดินมาแล้วจับนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆตัว

    “เราจะอยู่กันเป็นหอนอน บ้านพัก หลังละห้าคนอย่างต่ำมีประมาณห้าหลังต่อหนึ่งกิลล์ ทั้งโรงเรียนมีอยู่ สี่กิลล์”เอวาลอนอธิบาย

    “นี่  ซาลี วารัน / ไซรัส ไอโร /ซาไมร์ ลีลาโต”เอวาลอนแนะนำเรียงตัวไป หัวส้ม หัวน้ำเงิน หัวชมพู ตามลำดับ

     “อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าอยู่กันห้าคนอย่างที่เห็น ก็ต้องมีกฎระเบียบเรื่องการทำความสะอาด รวมถึงอื่นๆ แต่อาหารการกินก็เวฟเอาเพราะไม่มีใครทำกับข้าวเป็น เราจะออกไปซื้อของกันทุกวันอาทิตย์และต้องไปพร้อมกันทุกคน...มันเป็นกฎที่ตั้งเองน่ะต้องตื่นก่อนหกโมงครึ่ง จะกี่โมงก็ได้แต่อย่าหลังหกโมงครึ่ง จะกลับดึกกลับช้าต้องบอกหรือถ้าไม่ได้บอกก็โน้ตไว้หน่อย ซักผ้าวันเสาร์จะเอาไปส่งที่ร้านซักให้เพราะถ้าซักกันเองมีหวังเละเทะ ห้องครัวอยู่ทางนั้น มีเตาอะไรพร้อมแต่ไม่ได้ใช้ ตะกร้าผ้าจะวางอยู่ข้างตู้นี่ก็เป็นกฎคร่าวๆของบ้านนี้”ไซรัสบอกแล้วนั่งไขว่ห้างแบบผู้ดี...ตีนแดงที่ชอบตะแคงตีนเดิน

    “ส่วนเรื่องกิลล์จะอธิบายคร่าวๆให้ฟัง”ซาไมร์ บอก ก่อนจะเริ่มบรรยาย “กิลล์ทั้งสี่มีชื่อเรียกที่ต่างกัน ตามนิสัยของคนตั้งกิลล์และผู้อาศัยในกิลล์

    สปิริตส์ กิลล์ที่รวมความลุ่มหลงเมามาย ร้อนแรง ได้ใจดั่งแอลกอฮอล์ที่กำลังหลอมละลายตัวตนออกไป

    โรส กิลล์ที่คุณต้องกลายเป็นลูกสุนัขที่ดวงตามืดบอกเมื่อได้ลิ้มรส ได้เข้าไปเผชิญ ดั่งถูกหนามกุหลาบยึดตรึงร่างเอาไว้แน่นหนา

    ดีเซิร์ท กิลล์ลูกพี่ลูกน้องของสปิริตส์ เป็นเหมือนของหวานหรือกลับแกล้มกินคู่กับไวน์รสเลิศที่รวบรวมผู้มีมันสมองเอาไว้จบฉากทุกๆอย่าง

    แฟรี่ กิลล์แห่งความงงงวย เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไม่ละอายต่ออะไร แต่ก็ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเช่นกัน

    ในสี่กิลล์นี้จะแยกบ้านพักเข้าไปอีกห้าหลัง ซึ่งแต่ละบ้านก็จะมีชื่อเรียกเช่นกัน อย่างของกิลล์เราคือ เตกีล่า วอดก้า วิสกี้ มาตินี่ รัม บ้านหลังนี้คือบ้าน เตกีล่า”

    “ส่วนที่มีกิลล์นั้นก็จะเป็นเรื่องของกิจกรรม และคะแนน ถ้ามีกิจกรรมโรงเรียนก็จะแข่งกันระหว่างกิลล์ ถ้ามีกิจกรรมกิลล์ก็จะแข่งกันระหว่างบ้าน และคะแนนเป็นคะแนนจิตพิสัยจากอาจารย์ที่แบ่งเป็นสามระดับ คือ คะแนนกิลล์ คะแนนบ้าน และ คะแนนบุคคล แล้วแต่ที่ครูจะให้ และถ้าต้องการก็สามารถ เอาคะแนนของตัวเองให้บ้าน หรือ กิลล์ เอาคะแนนของบ้านให้กิลล์ ได้เช่นกัน กิลล์บางครั้งจะถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ป่า แต่ว่านอกจากเจ็ดบาปก็ไม่มีคนเรียกป่าหรอก มันไม่แนว”ไซรัสบอกแล้วยักไหล่

    “ต่อไปเรื่องชั้นปี โรงเรียนนี้มีหกชั้นปี ปีหนึ่งคือพวกเธอ และบ้านทั้งห้าหลังจะ มีพี่ปีสองอยู่อย่างน้อยคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะไปเรียนหลังกำแพงฝั่งนู้น เช่นเดียวกับพี่ปีสามถึงหก ถ้าจะสรุปง่ายๆก็คือ บ้านพักในช่วงนี้ที่มี เป็นการต้อนรับปีหนึ่ง เป็นสมบัติของปีหนึ่ง และรุ่นพี่ปีสองในแต่ละบ้านนั้นจะมาจากการอาสา หรือโดน องค์ลูซิเฟอร์บังคับมาเพราะเห็นแวว แต่ฉันอาสามาเอง ขี้เกียจเรียนมันเยอะไป และถ้าข้ามไปกำแพงฝั่งนู้นก็จะมีเหมือนที่นี่ เพียงจะเปลี่ยนจากบ้านพักเป็นหอ บ้านละสิบคน เป็นห้องละสองคน ส่วนเรื่องกิลล์ยังเหมือนเดิม และถ้ามีกิจกรรมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของปีหนึ่งโดยตรง พวกพี่ชั้นปีอื่นๆก็จะมาด้วยเช่นกัน มาดู มาชม มาช่วย มาเชียร์นั้นแหล่ะ แต่สำหรับกิลล์เรา เหมือนมากดดันมากกว่า ก็ธรรมดา กิลล์ของคนงกเงินรางวัล”เอวาลอนบอก

    “....ชื่อผู้ก่อตั้งกิลล์ล่ะ”เสียงเข้มถามแล้วกอดอก ทั้งเก้ามองหน้ากันแล้วยิ้ม ที่ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องความสนใจ

    “คนก่อตั้งกิลล์ สปิริตส คือท่านเซติส เอลาเดรอส กิลล์โรส คือ ท่าน แกรนดีนส์ ช๊อต กิลล์ ดีเซิร์ท ครามเบล จิงเจน กิลล์ แฟรี่ ท่าน ฟอคอร์ด เทอร์นัน เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนรุ่นแรก...แต่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว”ไซรัสตอบแล้วเท้าคางยิ้ม

    “....อธิบายอื่นๆต่อสิ”ชาร์คบอก

    “เราจะมีเรียนกันแค่ห้าวันคือ จันทร์ถึงศุกร์ เริ่มเรียน เก้าโมงยี่สิบ เลิกเรียน ห้าโมงเย็น พักเที่ยง สองชั่วโมง ประตูโรงเรียนจะเปิดตอนหกโมงเช้า และปิดตอนสองทุ่ม ประตูอาคารจะเปิด แปดโมงครึ่ง และปิดตอนเก้าโมงยี่สิบห้า ก่อนจะเปิดอีกทีตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบแล้วปิดตอนเที่ยงให้นักเรียนไปกินข้าว แล้วเปิดตอนบ่ายครึ่ง ปิดตอนบ่ายสอง แล้วไปเปิดอีกทีเลิกเรียน แล้วปิดทันทีที่ตะวันลับฟ้า

    วันจันทร์ให้ใส่ชุดธรรมดาไป วันจันทร์เป็นวันชมรม ให้เลือกชมรมและทำกิจกรรมชมรม

    วันอังคารใส่ชุดพละ เป็นสปอร์ตเดย์...เดี๋ยวแล้วแต่อาจารย์ว่าให้ทำอะไร

    วันพุธกับพฤหัส ใส่ชุดนักเรียน สูทนักเรียนน่ะ เรียนวิชาภาคทฤษฎี

    วันศุกร์ ใส่ชุดสีดำ ซับในด้วยเสื้อลายทหาร เราเรียกว่าชุดไว้ทุกข์ ที่จริงก็แค่กันมันเปื้อนนั่นแหล่ะ

    วันเสาร์อาทิตย์ ประตูจะเปิดไว้ตลอดตั้งแต่ตีหนึ่งวันเสาร์ถึงห้าทุ่มวันอาทิตย์ ตารางสอนเดี๋ยวไปดูเอาที่บอร์ดล่ะกัน วันอาทิตย์ ตอนหกโมงเราจะออกไปซื้อข้าวซื้อของนู่นนี่นั่น ได้ครบก็กลับทันที...ตอนนั้นซาลีต้องหาซื้อองุ่นสีรุ้ง กว่าจะเจอก็ปาไปเกือบห้าทุ่ม ต้องกระโดดปีนกำแพงเข้ามา”เอวาลอนอธิบาย

    “ชุดนักเรียน..เป็นสูท....มีเนกไทน์ไหม”ชาร์คถาม คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย

    “มี”สิ้นคำหนุ่มผิวซีดก็ถอนหายใจออกมาซะเหือกใหญ่

    “...ฉันผูกเนกไทไม่เป็น”

    “เดี่ยวค่อยสอนก็ได้ ไม่เป็นไร นายได้ล๊อกเกอรรึยัง...หนังสือ...ชุดพละ ไว้ทุกข์ สูท...”

    “เออ เขาจัดการให้หมดแล้ว ฉันนอนล่ะ”เมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วชาร์คก็ปีนขึ้นที่นอนตัวเอง แล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว

    “อา พวกนายก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้านะ”เอวาลอนบอกแล้วต้อนทุกคนไปนอนให้เรียบร้อย แล้วปิดไฟ

    ...............................

    มาแล้วกับตอนแรกหลังจากบทนำ ฝากด้วยน๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×