ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ออกเดินทาง
ตอนที่ 5 ออกเดินทาง
วันที่ 18 เดือน 3 ปี 2113
ผมที่ลองตรวจดูคร่าวๆ แล้วคิดว่าอยู่ในบ้านคนเดียวนั้น
รู้สึกสงสัยกับเสียงนั้นมาก
"มีใครอยู่งั้นหรอ"
ผมพูดกับตัวเองเบาๆ
ถึงจะไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ก็คิดว่าจะวางหนังสือใว้ที่เดิม
แล้วค่อยเดินออกจากห้องแล้วลองลงไปดูก่อน
แต่ตอนที่กำลังที่จะวางหนังสือก็มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา
<นำ[ตำนานที่สาบสูญ]ใส่กระเป๋ามิติหรือไม่>
ตกลง
ยกเลิก
ดูเหมือนว่าถ้าเป็นสิ่งของบางอย่างจะสามารถนำใส่ในกระเป๋ามิติได้เลย
จะว่าไปก็ลืมเรื่องกระเป๋านี้จนถึงเมื่อกี้เลยนี่หว่า
หลังจากแปลกใจกับความสามารถในการลืมเรื่องสำคัญของตัวเองเสร็จ
ก็จัดการกดปุ่มตกลงและหนังสือที่อยู่ในมือก็กลายเป็นแสงหายไปในอากาศ
อลังการดีจริง
หลังจากชื่นชมความสวยงามของระบบเสร็จผมก็เดินลงมาด้านล่าง
พึ่งมารู้ตัวเอาปานนี้ว่าเวลาที่บ้านไม่เปิดไฟแล้วเงียบๆนี่มันรู้สึกไม่ดีแบบแปลกๆ
แถมบันไดเจ้ากรรมที่ปกติจนถึงเมื่อกี้ก็ส่งเสียงขึ้นมา
แอ๊ด.... แอ๊ด....
ผมหยุดขาลงที่ตรงกลางครึ่งระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างของบันได
จะไปต่อดีไหมเนี่ย
อ๊ะ นี่ไม่ได้กลัวอะไรหรอกน่ะครับ แค่รู้สึกไม่ค่อยดีเฉยๆ
พอเริ่มจะทำใจได้ก็เริ่มออกเดินทางต่อ
แต่ไม่ทันที่จะได้เหยียบบันไดขั้นต่อไป
ก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา
ปกติแบบนี้มันไม่ดีแล้วใช่ไหม มันไม่ดีแล้วแน่ๆอ่ะ
ถึงจะบอกว่าเป็นขโมยก็เถอะ จังหวะนี้ปล่อยให้มันขโมยของไปก็แล้วกัน
ถือว่าเป็นการทำบุญล่ะนะ
ตัวผมจึงพยายามลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็วและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
พอถึงพื้นก็รีบวิ่งไปที่ทางออกสุดชีวิตเพียงแค่สามวิประตูก็อยู่ตรงหน้าแล้ว
แต่ความซวยมีอยู่จริงและมีมากมายเกินพอสำหรับผม
ผมเลยวิ่งไปสะดุดเข้ากับรองเท้าที่ผมถอดทิ้งใว้แล้วล้มลงอย่างแรง
"โอ้ย..."
ผมรู้สึกเจ็บกับการที่หัวไปชนตู้เก็บของเล็กน้อยแต่ก็ลุกขึ้นมา
เพื่อจะเปิดประตูแล้วออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากอยู่ในบ้านนี้แล้ว
แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความหวังชั่วครู่
เพราะเมื่อหันกลับมาก็เจอกับสิ่งที่น่าจะเป็นมนุษย์มีแผลเน่าเฟะและมีเลือดตามร่างกาย
อยู่ห่างจากผมไม่เกินห้าเมตรและนั่นทำให้ผมเห็นหน้าตาอันสยดสยองแบบสามมิติกันเลยทีเดียว
เดี๋ยวก่อนสิไอ้นี่มัน ? ซอมบี้ ? ใช่ไหม ? จริงดิ ?
ของแบบนี้ผมก็เคยเห็นในหนังกับเกมหลายๆเรื่องอยู่น่ะ
แต่ว่าถึงผมจะต่อยตีกับคนมาเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าเคยต่อยกับซอมบี้น่ะครับ
และในตอนนี้ผมก็ไม่มีอาวุธอะไรสักอย่างติดตัวเลย
การชนะมันด้วยมือเปล่าคงเป็นอะไรที่สิ้นคิดที่สุดแน่ๆ
ผมก็เลยมองไปรอบๆเพื่อเจออาวุธอะไรบ้างสักอย่างพลางมองเจ้าซอมบี้นั่นไปด้วย
และสิ่งที่ผมพบในบริเวณนี้ก็คือ
ร่มที่เสียบอยู่ในที่เก็บร่มบริเวณด้านหลังของซอมบี้,รองเท้าที่ผมถอดทิ้งใว้แล้วสะดุดกับมันจนล้มหัวคว่ำ,และสุดท้ายมือของผมเอง
เอ่อ มันไม่มีอะไรที่น่าจะเรียกว่าอาวุธได้เลยไม่ใช่หรอครับ
ผมอยากจะร้องไห้แล้วน่ะเนี่ย
เอายังไงดีล่ะจะถ้าจะใช้มือก็คงไม่ได้
พอคิดได้อย่างงั้นก็เลยตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย
ใช้รองเท้านี้ล่ะเป็นอาวุธอย่างน้อยถ้ามันกัดก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะยังไม่แน่ใจเลยว่าถ้าโดนกัดแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่า
แต่ก็ต้องปลอดภัยใว้ก่อนใช่ไหมล่ะ ให้โดนกัดแล้วต้องตัดแขนทิ้งแบบหนังบางเรื่องนี่ก็ไม่เอาด้วยดีกว่า
แผนที่คิดใว้ก็คือจะเอารองเท้าเนี่ยทำให้มันเสียหลักแล้วอ้อมกลับไปเอาร่มมาสู้
อืมอย่างนั้นน่าจะปลอดภัยมากกว่า
พอตัดสินใจได้ก็เอื้อมมือไปหยิบรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา
เจ้าซอมบี้ที่เห็นผมเริ่มขยับก็เลยพุ่งตัวเขามาหาผมอย่างรวดเร็ว
ผมก็ใช้จังหวะนั้นออกแรงหลบนิดหน่อยแต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันรู้สึกว่าเหมือนหลบได้ดีกว่าปกติ
แต่พอหลบได้ก็อาศัยจังหวะที่เจ้าซอมบี้นั่นยังอยู่ในแรงหน่วงฟาดรองเท้าใส่หัวไปหนึ่งที แต่ปรากฏว่า
ปึ้ง ! ตุ๊บ...
หัวของซอมบี้กระเด็นออกจากร่างอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งไปชนประตูก่อนที่จะร่วงลงพื้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้าว
หลังจากนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนและหน้าจอเด้งขึ้นมา
"ไอเท็มดรอป"
ผมที่ยังไม่หายตกใจก็หันสายตามาเพ่งมองที่จอแทนแล้วจึงหายข้องใจ
[รางวัลจากการฆ่า บอดี้อะไลฟ์: เลเวล 5]
[ไอเท็มดรอป]
ก้อนเนื้อเน่า
[สกิล]
กินเนื้อสด เลเวล 1
เลเวลแค่ห้านี่เอง
ว่าแต่ชื่อนี่มันอะไรครับ
ใช้ซ้ำกับชาวบ้านชาวช่องแล้วจะตายหรอครับ
ผมที่เริ่มรู้สึกหน่ายหน่อยๆก็เลยลองเปิดอ่านรายละเอียดของไอเท็มที่ดรอปดู
[ก้อนเนื้อเน่า]
รายละเอียด : ก้อนเนื้อเน่าๆ
ความสามารถ : ถ้าทิ้งใว้อาจจะมีหนอนขึ้น
ขอบคุณทั้งสำหรับรายละเอียดกับความสามารถที่ทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้นน่ะครับ
*กดปุ่มทิ้งอย่างไม่ลังเล*
ต่อมาก็ถึงกับส่วนของสกิล
"กินเนื้อสดงั้นหรอ ?"
พอคิดว่ามันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้เลยกดรับไปแล้วก็มีเสียงดังขึ้นเหมือนเดิม
"กินเนื้อสด เลเวล1 ได้รับ"
ชักจะรำคาญเสียงบ้านี่แล้วแหะจะปิดมันไปได้ไหมเนี่ย
และหลังจากที่บ่นไปก็มีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาอันหนึ่ง
[ตั้งค่าเสียง]
เสียงแจ้งเตือนได้รับไอเท็ม เปิด/ปิด
เสียงแจ้งเตือนได้รับสกิล เปิด/ปิด
เสียงเอฟเฟคสกิล เปิด/ปิด
เสียงเอฟเฟคมอนสเตอร์ เปิด/ปิด
เสียงผู้เล่นคนอื่น เปิด/ปิด
เป็นอะไรที่สะดวกเกินไปแล้ว !
หลังจากตะโกนในใจเสร็จก็เลยลองดูค่าที่ตั้งใว้
ดูเหมือนว่าตอนแรกจะตั้งเป็นเปิดใว้ทั้งหมดเลยสิน่ะ
จากนั้นผมก็ตั้งค่าเป็นปิดให้หมดทุกอย่างเลยจะได้ไม่ต้องมีเสียงรบกวรอีก
พอตั่งค่าเสร็จผมก็ไปสำรวจในบ้านอย่างจริงจังอีกครั้งจะได้ไม่พบมอนสเตอร์แบบเจ้าซอมบี้โดยไม่ได้ตั้งตัวอีก
หลังจากสำรวจจนทั่วทุกตารางเมตรแล้วก็ไม่พบกับอะไรเลยตัดสินใจกลับไปวางแผนที่ห้องของตัวเอง
ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรต่อจะให้นอนอย่างเดียวอยู่ในบ้านมันก็ไม่ใช่เรื่องด้วย
ในตอนที่คิดอะไรไม่ออกอยู่นั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"ตื๊ด... ตื๊ด..."
ผมรีบคว้าโทรศัพท์มาดูทันที
และพบว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ไม่ค่อยจะมีของผมโทรมา
ผมเลยกดรับสายทันที
"อ้าวไง โทรมาทำไมงั้นหรอ"
ผมเริ่มพูดออกไปก่อน
"โทรมาทำไมบ้านนายสิ ว่าแต่แกยังอุตส่าห์รอดมาได้อีกน่ะทั้งที่พวกเราก็หายไปเยอะแท้ๆ"
คนที่พูดกลับมานั่นคือเพื่อนคนสำคัญของผมนั่นเอง
ซึ่งปกติแล้วเราจะรวมตัวกันเพื่อไปทะเลาะวิวาทกับกลุ่มอื่นอยู่บ่อยๆ
"ทำไงได้ก็คนมันรอดนี่หว่า"
"ตอบได้กวนส้นดีน่ะนายเนี่ย"
"เอาเถอะตอนนี้กำลังรวบรวมคนในกลุ่มนี้ที่ยังเหลืออยู่ ถ้าเป็นไปได้นายก็มาเจอกันที่รวมตัวปกติของกลุ่มน่ะ แค่นี้ล่ะ"
"เดี๋ยวสิ... เฮ้ !"
ไม่ทันการณ์สายตัดไปแล้ว
แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่มีอะไรทำอยู่พอดี
ถ้าไปที่นั่นอาจจะได้พบสิ่งที่อยากจะทำก็ได้
พอคิดได้แบบนั้นก็เลยเริ่มเตรียมของที่จะต้องใช้
และเนื่องจากของส่วนใหญ่อยู่ในลิ้นชักอันเดียวก็เลยเตรียมง่ายหน่อย
เริ่มจากเอานิ้วลากเป็นแนวนอนเพื่อเรียกกระเป๋าออกมาแล้วเทของจากในลิ้นชักที่พึ่งดึงออกมาลงไป
เสร็จล่ะ
จากนั้นพอรูดซิปกระเป๋าเสร็จมันก็กลายเป็นกลุ่มก้อนแสงลอยหายไปในอากาศ
เป็นภาพที่เห็นกี่ครั้งก็รู้สึกแปลกตาดีแหะ
พอเดินมาถึงประตูก็หายใจเข้าลึกๆที่หนึ่งและหันหลังกลับมา
"ไปก่อนน่ะครับ"
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองพูดกับใคร หรือไม่นั่นก็อาจจะเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่าได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่แล้วก็ได้
จากนั้นก็เอื้อมมือไปผลักประตูออกด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความดีใจ
และเมื่อประตูเปิดออกก็มีแสงแดดอันสว่างสดใสสาดมากระทบใบหน้าจนต้องเอามือมาปิดตา
ก็อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่หรอกแต่นี้มันห้าทุ่มแล้วนี่สิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น