ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ห้องสมุด
ตอนที่ 4 ห้องสมุด
วันที่ 12 เดือน 5 ปี 2113
หลังจากเล่าความเป็นมาพอสมควรแล้วก็กลับมาถึงเวลาปัจจุบันเลยก็แล้วกัน
ตอนนี้หินที่ผมดีดสวนไปตอนแรกก็กระทบกับเสาคอนกรีทจนปลิวไปแล้วล่ะ
ใช่ครับเสาคอนกรีทบินไปแล้ว
แต่ดูเหมือนพวกศัตรูก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้เลยโจมตีสวนมาอย่างต่อเนื่อง
มันคงเป็นภาพที่ไม่น่าจะหาได้ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆแน่
อย่างน้อยผมก็อยากให้เป็นวันธรรมดาๆแบบนั้นมากกว่า
และถ้าจะให้พูดว่าทำไมผมถึงมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้ล่ะก็
ขออนุญาตย้อนความอีกสักเล็กน้อยก็แล้วกัน
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์"New World"
อ้อ หมายถึงเหตุการณ์ที่คนหายไปกว่าครึ่งแล้วที่เหลือได้พลังพิเศษนั่นล่ะ
ในภายหลังได้มีคนรวมกลุ่มกันตั่งชื่อให้กับเหตุการณ์นั้นว่า"New World"
ก็แปลตามความหมายนั่นแหละ มันหมายถึงโลกใบใหม่
ถามว่าทำไมถึงใช้คำนี้ เป็นเพราะว่าโลกที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิมยังไงล่ะ
แต่เรื่องที่มีการตั่งชื่อนี้ก็อยู่ถัดจากหลังเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าไปนิดหน่อย
เริ่มจุดสำคัญเลยก็แล้วกัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านมาได้ไม่นานก็เริ่มมีกลุ่มคนจำพวกหนึ่งที่ออกตามล่าผู้อื่น
จุดประสงค์ของคนกลุ่มนั้นยังไม่แน่ชัดแต่อาจจะเป็นเพราะอยากได้สกิลหรือไอเท็มของคนอื่น
ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปฆ่ามอนสเตอร์แล้วดรอปเอาล่ะ ?
คำตอบก็ง่ายๆ
ได้บอกไปเมื่อกี้แล้วใช่ไหมว่าเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนหายไปประมาณเกินครึ่งหายไปน่ะ
ที่หายไปก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาวคนแก่หรือเด็กอย่างใดอย่างเดียวหรอกน่ะ
แต่มันซุ่มหายอย่างเดียวเลยต่างหาก
เพราะคนที่เหลืออยู่ก็อาจจะมีอายุได้ตั่งแต่ทารกยันทวดของใครสักคนเลย
เนื่องจากล่าคนอ่อนแอมันง่ายกว่าใช่ไหมล่ะ
กว่าจะรู้เรื่องพวกนี้ก็หลังจากมาเข้ากับกลุ่มๆหนึ่งที่กำลังจะพูดนี่ละ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 18 เดือน 3 ปี 2113
มันเริ่มขึ้นหลังจากผมที่พึ่งจะกลับมาถึงที่บ้าน
ก็เตรียมใจใว้แล้วล่ะว่าพ่อแม่อาจจะโดนลบทิ้งไปแล้วก็ได้
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่รู้สึกเสียใจอะไรสักเท่าไหร่เลย
หรือว่าคงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ความรักจากพ่อแม่สักเท่าไหร่ล่ะมั้ง
พอเข้ามาภายในบ้านก็สังเกตุได้ว่าไฟปิดอยู่ทั้งที่ปกติจะเปิดใว้ตลอดเวลา
หลังจากถอดรองเท้าทิ้งแบบไม่เป็นระเบียบใว้ตรงทางเข้าก็เอื้อมมือไปเปิดไฟ
"ไฟดับงั้นหรอ..."
หลังจากที่ลองเปิดปิดดูอีกครั้งก็มั่นใจว่าใช้ไม่ได้
"มีใครอยู่ไหมครับ !"
ผมก็เลยลองตะโกนส่งเสียงเรียกไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบสงัด
ก็เลยคิดว่าน่าจะไปสำรวจภายในบ้าน ก็เลยเริ่มออกเดินจากทางเข้า
หลังจากตรวจสอบอย่างคร่าวๆว่าชั้นแรกไม่มีใครอยู่ก็เลยเดินขึ้นไปชั้นบนแทน
และเนื่องจากบรรไดไปชั้นสองอยู่กลางบ้านทำให้ผมต้องเดินกลับออกมาเพื่อขึ้นไปชั้นสอง
บนชั้นสองนั้นมีอยู่สามห้องคือห้องของผม,ห้องทำงานของพ่อ,ห้องสมุดที่ถูกล็อคเอาใว้
ผมจึงเริ่มจากไปสำรวจที่ห้องของผมก่อน
แต่แล้วก็ไม่เจออะไรสักอย่าง ทุกอย่างดูเหมือนเดิมกับตอนที่ผมออกไปข้างนอก
หลังจากนั้นผมก็เลยตัดสินใจเดินไปสำรวจที่ห้องทำงานของพ่อแทน
แต่ก็ยังไม่พบกับใครอยู่ดี
"ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่สิน่ะ"
แต่ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป สายตาของผมก็ดันไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์ของพ่อ
พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็สามารถอ่านเนื้อหาได้ดั่งนี้
ถึงลูก
พ่อเคยคิดใว้แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึงจึงได้จัดเตรียมของพวกนี้ใว้ก่อน
และที่พวกเราต้องทำไม้แข็งกับลูกก็เพราะไม่อยากให้ลูกมายุ่งกับเรื่องราวของฝั่งนี้
แต่ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจนได้ ซึ่งตอนนี้พวกเราจะขอออกเดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่ง
ลูกไม่จำเป็นต้องตามหาพวกเรา สุดท้ายแล้วขอฝากสิ่งของพวกนี้ใว้กับลูก
ด้วยกุญแจที่อยู่ในลิ้นชักที่สองของโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร์ตั้วนี้
ลูกจะสามารถเปิดประตูห้องสมุดได้ ข้างในนั้นมีเรื่องที่ลูกจำเป็นต้องรู้อยู่
ขอโทษที่ปิดบังลูกมาโดยตลอด
จากพ่อ
"อืม"
เริ่มสับสนขึ้นมานิดนึงแล้วสิตกลงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาแกล้งทำอย่างนั้นหรอ
แต่รู้สึกเหมือนคิดอะไรไม่ออกเลย เพราะมันมีหลายเรื่องมันพุ่งเข้ามาหามากเกินไป
เอาเป็นว่าหยิบกุญแจออกมาแล้วกัน
หลังจากนั้นผมก็เอื้อมมือไปลิ้นชักที่สองแล้วดึงมันออก
ดึงไม่ออก
"ล็อคอยู่นี่หว่าเฮ้ย"
ผมที่เผลอส่งเสียงออกมาก็เอามือปิดปากตัวเอง
และเนื่องจากไม่รู้ว่าจะเปิดยังไงก็เลยพังลิ้นชักทิ้งไปนิดหน่อย
รู้สึกเหมือนพลังเพิ่มขึ้นมาสักหน่อยหรือเปล่าน่ะ ?
แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นมา
"พังข้าวของ เรียนรู้"
จะเรียนรู้ไปทำไมเนี่ย ?
ได้สกิลแบบนี้มาคงต้องระวังมากกว่าเดิมอีกสิเนี่ย ไม่งั้นได้ทำสิ่งของพังรัวๆแน่
ที่พูดแบบนี้เพราะพึ่งคิดได้ระหว่างกำลังเดินทางกลับมา
เนื่องสกิลที่ผมตอนแรกเลยมีอยู่สองสกิล คือ เรียนรู้,เลเวลอัพ
จากการวิเคราะห์ที่ค่อยจะชอบทำสักเท่าไหร่นั้น ก็ได้ข้อสรุปต่อจากคราวที่แล้วว่า
1.สกิลเรียนรู้น่าจะเป็นสกิลพื้นฐานที่มีกันทุกคนแต่เนื่องจากผมยังไม่ได้ถามใครก็เลยยังไม่แน่ใจเท่าไหร่
2.สกิลเลเวลอัพของผมจะทำให้สกิลอื่นที่มีอยู่แสดงผลมากกว่าความเป็นจริง
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงโดนพ้นไฟใส่แล้วรู้สึกแค่ร้อนๆต่างจากที่อีกคนกลายเป็นก้อนสีดำๆไป
และเหตุเดียวกันที่โดนมอนสเตอร์ตัวเมื่อวานโจมตีแล้วไม่ค่อยรู้สึกเจ็บอะไร
ความสามารถแบบนี้จะเรียกกว่าโกงได้หรือเปล่าน่ะ
แต่เรื่องโกงไม่โกงเนี่ยช่างมันก็แล้วกันแค่เอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ก็พอ
กลับมาที่โต๊ะเก็บของที่หายไปครึ่งนึง
แล้วผมก็เห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกุญแจถูกวางอยู่บนลิ้นชัก
หลังจากหยิบขึ้นมาพิจารณาดูก็สามารถบอกลายระเอียดได้คร่าวๆว่า
มันมีสีเงินเงาวาวและมีน้ำหนักดูมากกว่าที่ตาเห็นแต่ก็ไม่หนักจนเกินไป
หลังจากตรวจสอบอยู่พักหนึ่งก็นำมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกงเพื่อที่จะเดินไปเปิดห้องสมุด
ตอนนี้ผมมายืนอยู่ที่หน้าห้องสมุดแล้วตอนนี้กำลังตั้งคำถามกลับตัวเองอยู่ว่าควรจะเข้าไปดีไหม
เพราะถึงตอนเด็กๆพ่อแม่จะไม่ค่อยเข็มงวดมากมายแต่ก็แค่ห้องนี้ห้องเดียวที่บอกว่าห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด
ตอนนั้นผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่ามันจะมีอะไรอยู่ข้างในแต่เนื่องจากหาทางเปิดไม่ได้ก็เลยเริ่มลืมๆมันไป
แต่ตอนนี้ผมได้กุญแจที่จะสามารถไขความข้องใจในหลายปีของผมได้แล้ว
ก็เลยไม่รอช้าแล้วรีบไขกุญแจเพื่อที่จะเข้าไปข้างในด้านใน
แกร๊กๆ แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูดังขึ้น แล้วผมก็ต้องพบกับภาพอันน่าตื่นตกใจ
"แค่กๆ"
ผมไอเบาๆ เนื่องจากมีฝุ่นกับใยแมงมุมเต็มไปหมดเลย
ทั้งชั้นหนังสือที่มีความสูงมากกว่าผมหรือแม้กระทั่งโต๊ะที่วางอะไรบางอย่างเอาใว้
ไอ้ห้องบ้านี้มันปิดตายมาใว้กี่ร้อยปีแล้วเนี่ย
หลังจากที่บ่นในใจเสร็จก็เอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟที่อยู่ข้างๆ
ลืมไปเลยว่าไฟดับ
พอนึกขึ้นได้ก็เอื้อมมือกลับมาแล้วเดินกลับไปที่ห้องของผมเนื่องจากที่นั่นมีไฟฉายอยู่
แล้วก็เดินกลับมา
พร้อมกับไฟฉายในมือก็เลยเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับส่องไฟไปมา
รูปร่างห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าประมาณสิบคูณสิบห้าเมตร
เนื่องจากเดินสำรวจแปปเดียวก็สุดทางแล้วเลยตัดสินใจมาสำรวจที่ชั้นวางหนังสือแทน
เนื่องจากมีหนังสือจำนวนมากมายอัดแน่นเต็มชั้นไปหมดจนไม่เหลือช่องว่าง แต่ก็ไม่เห็นอะไรอย่างอื่นอีก
เลยคิดว่าสิ่งที่พ่ออยากให้รู้น่าจะเป็นบางสิ่งที่อยู่ในเนื้อหาของหนังสือบางเล่มมากกว่า
และเนื่องจากมันมีจำนวนมากก็เลยไม่รู้ว่าเป็นเล่มไหน ถ้าหมายถึงทั้งหมดเลยก็ไม่น่าจะใช่
เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นเล่มที่มีอะไรแตกต่างกว่าเล่มอื่น ก็เลยทำการหาเล่มที่ว่านั่น
หลังจากหามาสักพักหนึ่งก็เจอชั้นหนึ่งที่มีช่องว่างอยู่
ทั้งที่ปกติหนังสือมันน่าจะเต็มทุกชั้นแต่ว่าชั้นนี้กลับหายไปเหมือนมีคนมาหยิบออกไป
แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะตั้งแต่เกิดมาห้องนี้ก็ปิดอยู่แล้วแถมไม่มีกระจกเลยสักบาน
หรือว่าจะไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ซึ่งตอนที่คิดอยู่นั้นก็นึกขึ้นได้ว่าตรงเท้าเข้ามีโต๊ะที่มีอะไรใว้อยู่
ก็เลยเดินกลับไปที่โต๊ะตัวนั้นแล้วก็พบกับหนังสือเล่มหนึ่ง
[ตำนานที่สาบสูญ]
ชื่อหนังสือแบบนี้มันจะต้องมีอะไรให้ตกใจเล่นแน่ๆ
ผมคิดและหยิบมันขึ้นมาเพื่อปัดฝุ่นออก
แต่ก่อนที่จะทันได้เปิดอ่านมันนั้นเอง
ผมก็ได้ยินเสียงจานในห้องครัวด้านล่างร่วงลงมาแตก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น