ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องราวของผู้ที่ภายหลังได้ชื่อว่ามอนสเตอร์

    ลำดับตอนที่ #3 : การต่อสู้

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 58


    ตอนที่ 2 : การต่อสู้

    วันที่ 15 เดือน 3 ปี 2113

    หลังจากสิ่งที่น่าจะเป็นมอนสเตอร์โผล่ออกมาก็เป็นเวลาสองนาทีแล้ว
    แต่ในสถานที่แห่งนี้ยังไม่มีใครขยับออกจากจุดเดิมเลยแม้แต่คนเดียว

    ที่ไม่มีใครขยับจากที่เลยเป็นเพราะว่าบางคนกำลังรอดูสถาณการณ์
    หรือไม่ก็บางคนกำลังกลัวจนก้าวขาไม่ออก

    ส่วนมอนสเตอร์นั้นก็ยังอยู่ที่เดิมและจ้องสายตามาทางพวกผม
    พูดให้ถูกก็คือผมกับพี่คนตะกี้แล้วก็อีกสองสามคนล่ะนะ

    ในช่วงเวลาสองนาทีที่ผ่านมาทำให้ผมสามารถสังเกตุได้หลายๆอย่างจากมอนสเตอร์ตัวนั้น

    เช่นรูปร่างสูงประมาณสองเมตรกว่า มีผิวสีแดงส้มคล้ายๆเปลวไฟ ดวงตาเป็นสีแดงสด
    มีหางสองแฉกที่โผล่ออกมาด้านหลังซึ่งขนาดใหญ่ไม่สมส่วน

    ถึงจะมีคนเคยบอกใว้ว่าอย่าดูคนจากภายนอกก็เถอะ
    แต่นั้นมันไม่ใช่คน แถมดูยังไงมันก็ไม่เป็นมิตรแน่ๆ

    จากการวิเคราะห์ด้วยความรู้จากการ์ตูนของผมเจ้านี่น่าจะใช้หางเป็นอาวุธ

    ในขณะที่กำลังเหงื่อตกเพราะกำลังคิดอย่างหนักว่าจะหนีหรือสู้อยู่นั้นเอง
    ช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะยาวนานนั้นในที่สุดก็ได้สิ้นสุดลง

    มอนสเตอร์ตัวนั้นดูเหมือนว่าจะหมดความอดทน จึงวิ่งอย่างรวดเร็วเข้ามาหาพวกผม
    ผมก็เลยตัดสินใจได้ในตอนนั้นทันทีแล้วทำการหันหลังแล้วออกวิ่งเต็มแรง

    ในขณะที่กำลังวิ่งอย่างไม่สนใจใครอยู่นั้นเองก็ดูเหมือนมีบางอย่างวิ่งตามมาอยู่ข้างๆ
    พอหันไปดูก็เห็นว่าเป็นใครก็ไม่รู้แต่สงสัยจะคิดได้แบบเดียวกันกับผมละมั้ง

    พอวิ่งไปได้สักพักก็ดันสบสายตาไปเจอกับหลุมหลบภัยที่รัฐบาลเคยสร้างใว้ช่วงสงครามโลกเมื่อหลายปีก่อน
    แต่พอพวกผมวิ่งใกล้จะถึงทางเข้า ก็ดันมีประตูเหล็กหนากำลังปิดลงมา

    "เฮ้ย !"

    ผมพยายามวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด แต่ว่าไม่ทันการณ์เพราะว่าประตูปิดได้ลงไปซะก่อน

    "เปิดสิว่ะ เฮ้ย !"

    ดูเหมือนว่าชายที่วิ่งมาพร้อมกับผมก็เข้าไปไม่ทันเหมือนกัน

    ผมพยายามทุบประตูแล้วตะโกนให้เปิด แต่ก็ดันนึกขึ้นได้ว่าในการ์ตูนที่อ่านมานั้นก็เรื่องมีแบบนี้อยู่เช่นกัน
    พอคิดได้ว่าคนที่อยู่ข้างในคงไม่มีทางเปิดประตูแน่ก็เลยหันหลังมาเพื่อจะหาทางอื่นต่อ

    แต่ว่าก็ไม่ทันซะแล้วเพราะเมื่อหันกลับมา ก็เห็นมอนสเตอร์ตัวนั้นยืนห่างออกไปไม่เกินสิบเมตร

    เรียกได้ว่าเป็นระยะที่พอจะทำให้เห็นชัดทุกรายละเอียดได้เลยล่ะ

    สถานการณ์แบบนี้ผมก็เลยหันไปดูซ้ายขวาว่ามีทางหนีไปอีกไหมแต่ว่าทั้งสองทางเป็นทางตัน

    ผมเลยตัดสินใจที่จะลองสู้กับมอนสเตอร์ตัวนั้นดูเพื่ออาจจะมีความหวังอันน้อยนิดที่ทำให้พวกเราชนะได้
    หลังจากที่ตัดสินใจได้ก็หันไปสบตากับชายอีกคนเพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าจะสู้

    ชายคนนั้นก็พยักหน้าเหมือนว่าจะเข้าใจกลับมา

    หลังจากนั้นผมก็จ้องกลับมาที่มอนสเตอร์ตัวเดิมแล้วส่งสัญญาณที่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่เอาชีวิตเข้าแลก
    ในขณะที่ผมกำลังวิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์นั้นเอง ชายคนนั้นก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง

    อ้าว

    ผมที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกตกใจอย่างมากและหยุดเท้าลงและหันกลับมาทางที่มอนสเตอร์อยู่อย่างช้าๆ
    ก็เห็นมันกำลังจะวิ่งมาหาผมก็เลยหลับตาลงและเตรียมใจพร้อมจะถูกฆ่า

    หนึ่งวิผ่านไป

    สองวิผ่านไป

    สามวิผ่านไป

    หลายวิผ่านไป

    "..."

    หลังจากสงสัยว่าทำไมถึงยังไม่โดนโจมตีอยู่นั้นเองก็ได้ยินเสียงร้องกับเสียงกระทบของอะไรบางอย่างดังขึ้น

    พอผมลืมตาขึ้นมามอนสเตอร์ก็ไม่อยู่ตรงหน้าแล้ว

    ผมก็เลยหันไปทางที่ชายคนนั้นหนีไปแล้วก็เห็นสิ่งบางสิ่งกำลังใหญ่ขึ้น
    ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกคือกำลังลอยเข้ามาทางด้านหน้าผมต่างหาก

    ก่อนที่จะได้ทันขยับร่างกายก็โดนสิ่งนั้นกระแทกจนผมปลิวไปติดกำแพง

    "อั๊ก"

    ผมส่งเสียงออกมาหลังจากโดนกระแทกอย่างแรงถึงสองครั้ง

    รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัวเลยสงสัยคงเป็นเพราะการกระแทกเมื้อตะกี้แน่
    แต่ก็ยังดีที่ดูเหมือนว่ากระดูกยังไม่หักเลยสักท่อนล่ะมั้ง

    "เหอะ แบบนี้เรียกว่ากรรมตามสนองได้ไหมน่ะ"

    ผมพูดออกมาหลังจากพอมองดูดีๆแล้วพบว่าสิ่งที่ลอยมาก็คือชายที่หนีไปคนนั้นนั่นเอง

    "เกราะกันกระแทกเรียนรู้"
    "เกราะกันฟิสิกข์ดาเมจ เรียนรู้"

    เสียงที่เหมือนกับเสียงที่ได้ยินตอนได้รับสกิลแรกดังขึ้นมา

    ดูเหมือนว่าที่โดนชนจนตัวปลิวตะกี้ไม่ได้เสียเปล่าอย่างเดียวสิน่ะ
    แต่ว่านะแค่จะลุกขึ้นยืนก็แทบจะไม่ไหวซะแล้วด้วยสิ

    ผมก็เลยหลับตาลงช้าๆ สิ่งที่ได้เห็นคือภาพของมอนสเตอร์ที่เดินเข้ามาใกล้และมีไฟอยู่ในปาก

    "เป็นแค่มอนสเตอร์ตัวแรกแท้ๆ ดูเหมือนจะโหดเกินไปหรือเปล่าเนี่ย"

    หลังจากที่บ่นคนเดียวเสร็จก็ยิ้มแห้งๆ จากนั้นก็รู้สึกเหมือนมีอะไรร้อนๆมาโดนที่ผิว

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    หนึ่งวิผ่านไป

    สองวิผ่านไป

    สา----------

    ผมลืมตาขึ้นทันที

    และก็พบว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังพ่นไฟใส่อยู่อย่างต่อเนื่อง
    แต่ทำไมก็ไม่ทราบผมจึงรู้สึกแค่เหมือนโดนไอของน้ำร้อนเท่านั้น

    กลับกันชายที่ลอยมากระแทกผมกลับกลายเป็นอะไรบางอย่างที่สีดำๆไปแล้ว
    หรือว่าจะเป็นเพราะสกิลเกราะกันไฟที่พึ่งได้รับมานั้น

    แต่ว่ามันพึ่งจะเลเวลหนึ่งเองไม่ใช่หรอกหรอความสามารถมันไม่น่าจะขนาดนี้นี่นา

    ในตอนที่สงสัยนั้นเองเจ้ามอนสเตอร์ก็หยุดพ้นไฟลงแล้วจ้องเขม็งใส่ผม
    มันคงจะสัยเช่นเดียวกันกับตัวผมในตอนนี้

    ส่วนผมที่เห็นมันกำลังสับสนอยู่ก็เลยรีบลุกขึ้นมาแล้ววิ่งออกข้างมอนสเตอร์ตัวนั้นไปทันที

    ถ้าถามว่าทำไมผมลุกได้เร็วจังทั้งที่เมื่อกี้ไม่มีเหลือแรงแล้ว
    คงเป็นเพราะผมฝื้นตัวได้เร็วไม่ก็เมื้อกี้สิ้นหวังมากเกินไปเลยรู้สึกหมดแรงมากกว่าความเป็นจริงล่ะมั้ง

    เอาเถอะตอนนี้คงต้องหนีก่อนล่ะ

    ในตอนที่ออกห่างจากมอนสเตอร์มาได้ยังไม่ถึงห้าเมตรนั้นเองก็ดันสดุดกับทางเดินต่างระดับเข้า

    "โอ๊ย"

    ผมกลิ้งลงไปนอนกับพื้นอีกรอบแต่ครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่าไหร่เลยสามารถลุกขึ้นมาได้ทันที
    แต่ก็ยังช้าไปนิดหน่อยหน่อยเพราะมอนสเตอร์อยู่ห่างจากผมไม่ถึงเมตรแล้ว

    พอถึงระยะมอนสเตอร์ตัวนั้นก็ทำการโจมตีผมโดยการใช้หางฟาดใส่อย่างแรง
    ผมที่ออกวิ่งไปไม่ทันก็เลยเอาแขนสองข้างมาซ้อนกันเพื่อป้องกันหางของมันแม้จะรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ก็ตาม

    แต่ว่าทั้งที่พลังของมันน่าจะพอทำให้คนปลิวไปได้ไกลมากแท้ๆ
    แต่ผมกับไม่ขยับไปไหนเลยแถมรู้สึกแค่เหมือนโดนคนต่อยแรงๆเท่านั้น

    ก่อนที่จะได้ทันสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรก็มีหน้าต่างสเตตัสเด้งขึ้นมา
    ดูเหมือนว่าถ้าได้รับสกิลใหม่แล้วจะเด้งขึ้นมาอัตโนมัติสิน่ะ

    แต่ก็จะออกก็ออกมาผิดเวลาไปนิดหน่อยน่ะ แต่ช่างมันเหอะ
    พอลองเหล่ไปดูก็เห็นตรงช่องมีสกิลโผล่ขึ้นมาอีกสองอย่าง

    [สกิล]
    เรียนรู้
    เลเวลอัพ
    เกราะกันไฟ เลเวล 1
    เกราะกันกระแทก เลเวล 1
    เกราะกันฟิสิกข์ดาเมจ เลเวล 1

    หลังจากที่อ่านจบก็ปิดหน้าจอสเตตัสนั้นไปและหันกลับมาจ้องมอนสเตอร์
    สงสัยที่ความสามารถมันเกินกว่าที่เขียนก็คงเป็นเพราะสกิลที่ได้มาตอนแรกงั้นสิน่ะ

    สำหรับเจ้ามอนสเตอร์ที่ดูเหมือนยังแปลกใจไม่หายว่าทำไมถึงโจมตีไม่เข้าถึงสองครั้งเลยก็จ้องผมกลับมาเหมือนจะหาคำตอบ

    ตัวผมที่เห็นแบบนั้นก็เลยลองต่อยสวนเต็มสุดแรงไปทีนึง

    แต่ว่าดูเหมือนจะไม่มันจะไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียวแถมผมก็เจ็บมือแทนอีกต่างหาก
    และดูเหมือนว่ามันจะเริ่มโกรธแล้วด้วยสิ

    ตัวผมที่พยายามใช้สมองอย่างหนักเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด
    ก็ดันบังเอิญสบสายตาไปเห็นกับก้อนกลมๆอันหนึ่งกลิ้งอยู่พื้นถนน

    สีที่เหมือนระเบิดกับรูปร่างที่เหมือนระเบิดแบบนั้นแถมยังมีสลักที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของระเบิดอีก

    "เฮ้ย ระเบิดนี่หว่า"

    ผมรู้สึกตกใจมากที่เพราะเห็นสิ่งที่มันไม่ควรจะอยู่ในใจกลางเมืองแบบนี้
    แต่ก็ยังดีที่สลักยังไม่ถูกดึงออกไปไม่งั้นผมคงไม่กล้าวิ่งเข้าไปเก็บแน่ๆ

    แถมดูเหมือนว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นจะหายแปลกใจแล้วเลยง้างหางเตรียมตัวจะฟาดใส่ผมอีกที
    แต่ว่าด้วยความที่ผมเคยมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่นบ่อยๆจึงสามารถเคลื่อนไหวได้ดีในระดับนึง

    ผมจึงสามารถกลิ้งหลบหางของมันได้อย่างเฉียดฉิว และวิ่งตรงไปก้มหยิบระเบิดทันที

    ได้การล่ะ ด้วยระเบิดลูกนี้ผมจึงคิดว่าน่าจะล้มมันได้
    ด้วยข้อมูลที่เคยเห็นในการ์ตูน(อีกแล้ว)ถ้าข้างนอกทำอะไรไม่ได้ก็เล่นมันจากข้างในแทนเลยก็แล้วกัน

    พอคิดแผนแบบลวกๆได้ก็เลยเริ่มขยับออกมาจากจุดที่ยืนอยู่
    ฝ่ายมอนสเตอร์ก็ไม่ต่างกันมันเตรียมพร้อมที่จะใช้หางโจมตีอีกครั้งแล้ว

    ผมจึงวิ่งเข้าทางด้านข้างของมอนสเตอร์เพื่อให้มันสับสนแม้สักนิด
    แต่ว่ามันก็สะบัดหางลงมาทางผมได้อย่างรวดเร็วไม่สมกับรูปร่างของมัน

    แต่ว่าตัวผมก็ออกแรงจนกระโดดขึ้นมาสูงพอที่จะหลบหางมันได้แล้วก็ดึงสลักระเบิดออก
    ในจังหวะที่มันหันหน้ามาหาผมแล้วอ้าปากผมก็ไปลูกระเบิดเข้าไปในปากมันทันที

    แต่โชคดันไม่เข้าข้างเลย เพราะที่มันอ้าปากออกเพราะมันกำลังจะพ้นไฟใส่นั้นเอง
    ลูกระเบิดมันก็เลยไปกระทบกับไฟนั่นเข้าจนเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×