คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : B D B D : ตอนที่ ๒
ตอนที่ ๒
‘ ยิ่งเกลียด ยิ่งเจอ ’
ผมไม่เคยเชื่อคำๆนี้ จนกระทั่งมาเจอกับตัวเอง
.
.
.
ปี2 ห้องB
“มินซอก นี่ของนาย”
คิมมินยอง หัวหน้าห้องผู้ที่สวยมากที่เรียกได้ว่าสวรรค์ช่างสรรค์สร้างหน้าตาเธอคนนี้ มินยองเดินออกไปนอกห้องแล้วกลับมาพร้อมกับพวกขนมและจดหมายมากมายให้กับเพื่อนๆตามที่มีชื่อเขียนไว้ และมาที่โต๊ะของมินซอกที่ตอนนี้สวมแว่นสายตากำลังอ่านหนังสือเรียนทบทวนอย่างตั้งใจ แล้วเอาขนมห่อใหญ่ห่อหนึ่งที่มีจดหมายแนบมาด้วยมาวางไว้บนโต๊ะ มินซอกเงยหน้ามองแล้วพนักหน้าเป็นเชิงบอกว่าขอบคุณ
ผ่านไปได้สี่วันแล้วกับการเปิดเทอม วันนี้ถือเป็นโชคดีของนักเรียน เพราะช่วงบ่ายนี้มีประชุมจึงทำให้ไม่ต้องเรียนในสองคาบสุดท้าย บางคนก็ลงไปเล่นกีฬา บ้างก็กลับหอกันเลย แต่นักเรียนปี2ห้องBยังออกจากห้องไม่ได้เพราะอาจารย์แกไม่ปล่อยให้เด็กได้สบาย จึงสั่งงานทิ้งไว้แล้วขู่ทิ้งท้ายไว้ว่าต้องเสร็จและส่งก่อนประชุมเสร็จ ซึ่งตอนนี้ก็เสร็จกันไปบ้างแล้ว รวมทั้งมินซอกเองด้วย
ช่วงนี้เทศกาลแลกขนมแลกจดหมายของบัดดี้บัดเดอร์กำลังครึกครื้น ถ้าจับได้เพศเดียวกันก็พอจะเอาไปให้ที่หอได้ แต่ถ้าได้เพศตรงข้ามซึ่งไม่สามารถไปหากันถึงที่หอได้อยู่แล้ว ก็ต้องรอเอามาให้ที่โรงเรียนอย่างเดียว การเอามาวางไว้หน้าห้องเรียนก็เป็นอีกวิธี
“ไม่ขยันซักวันจะตายมั้ยเนี่ย”
ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Nobody Perfect คิมมินยองก็เช่นกัน หน้าตาดีเรียนเก่งเงินพร้อม แต่ที่นิสัยเอาแต่ใจและชอบแขวะคนอื่นที่แก้ไขไม่ได้นี่แหละที่เป็นข้อเสีย
“แล้วเธอล่ะ ไม่แซะชาวบ้านซักวันจะตายมั้ย” ถึงเขาจะพอรู้ตัวว่าเป็นคนพูดจาร้ายกาจ แต่นี่ไม่ใช่คำพูดของเขาแน่นอน
โอเซฮุน เจ้าของผมสีเทาที่ตอนแรกนอนหลับโดยใช้หนังสือเรียนแทนหมอนอย่างสบายใจข้างๆเขา ตอนนี้ตื่นขึ้นมาตอบมินยองแทนเขาด้วยหน้าตาหาเรื่อง มินยองกอดอกมองเซฮุนอย่างไม่สบอารมณ์
“แล้วนายจะยุ่งอะไรด้วยล่ะ”
“ปกติฉันก็ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอก แต่กับเธอนี่พิเศษสุดๆเลยนะไม่ดีใจหน่อยหรอ”
“ฉันไม่อยากเถียงกับคนอย่างนายล่ะ กลับหอล่ะบาย โชคดีสำลีแปะหัว แบร่!”
“จะไปไหนก็ไปเลยยัยบ้า!” เซฮุนตะโกนไล่หลังมินยองที่ซึ่งวิ่งออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว
โอเซฮุน คิมมินยอง คู่กัดตลอดกาล
สักพักมินซอกและเซฮุนก็ย้ายจากห้องเรียนมาโรงอาหารเพื่อทานมื้อเย็นในตอนบ่าย เพราะว่ามันยังไม่ใช่ช่วงเวลาอาหารเย็นสำหรับคนทั่วไป คนที่อยู่ในโรงอาหารจึงมีไม่มาก
“เฮ้ย ละนี่ได้อะไรมาอ่ะดูหน่อยดิ” ยังไม่ทันที่เจ้าของได้อนุญาต เซฮุนที่เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวจนตามไม่ทันก็ละความสนใจจากจานอาหารตรงหน้าไปหยิบห่อขนมที่มินซอกเพิ่งได้มาไปซะแล้ว
“มินซอก! กูว่ากูรู้ละใครเป็นบัดเดอร์มึง” อยู่ดีๆเซฮุนที่อ่านจดหมายที่ติดมากับซองขนมก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ทำเอาเขาที่กำลังยกแก้วดื่มน้ำแทบจะสำลัก เยี่ยมมากเลยเพื่อน
“ใคร ?” มินซอกเป็นคนใจเย็น ไม่งั้นคงคบกับมันไม่ได้หรอก
“ไอ้ชานยอลแน่ๆ”
“เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้น”
“นี่ มึงดูนี่ เห็นป่ะลายมือเหี้ยๆขนาดนี้มีมันคนเดียว แล้วดูโค้ดย่อ C.10 ก็ชานยอลไงมึง” เขาดูในกระดาษตามที่เพื่อนหัวสีเทาบอก ปีที่แล้วชานยอลเคยอยู่ห้องเดียวกับเขาและเซฮุน เขาก็พอจะจำได้อยู่ หรือบางทีอาจจะจำลายมืออันเป็นเอกลักษณ์นี้ไปจนวันตาย “แล้วเมื่อวานเย็นอ่ะกูเห็นมันกำลังจ่ายตังซื้อขนมอยู่ แล้วหนึ่งในนั้นแม่งมีขนมห่อนี้ด้วยเว้ย กูฟันธง”
“แล้ว ?”
“กูจะได้เอาคืนมันแล้วไง บังอาจมากที่ตัดหน้าแย่งพี่โซฮีของกูไป” พี่โซฮี คือรุ่นพี่ที่เพิ่งจบไป เรื่องศึกชิงนางนี้มันตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดได้ยินมาว่าเลิกกันไปแล้ว แต่ไอ้นี่มันเป็นพวกแค้นฝังหุ่น
เหมือนกันเขานี่แหละ
“แล้วจะเอาคืนยังไงวะ” มินซอกขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แต่เซฮุนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับมื้อเย็นของตนเองไม่ได้รับรู้สิ่งที่มินซอกถาม จนมินซอกต้องสะกิดเจ้าตัว
“ก็ไปขู่มันไงว่าเรารู้แล้วมันเทคใคร”
“แล้วทำไมไม่ไปบอกสภานักเรียนเลยวะ”
“เอ้า! ถ้าไปบอกสภาเลยก็ไม่หนุกดิ” เซฮุนตอบเพื่อนหัวส้มที่ตอนนี้กำลังทำหน้าตาซื่อ(บื้อ)ใส่เขาอยู่ เรื่องชั่วๆขอให้บอกโอเซฮุนครับของถนัด “เห้ยมันอยู่นั่นเว้ย หูกางเด่นเป็นสง่าเลย”
มินซอกมองไปตามทิศที่นิ้วเซฮุนชี้ เป็นบริเวณที่มีต้นไม้นับสิบต้นสำหรับให้ร่มเงาที่อยู่ติดกับโรงอาหาร บริเวณนั้นจะเป็นพวกเครื่องออกกำลังกายและมีโต๊ะที่ทำจากหินอ่อน หนึ่งในโต๊ะหินอ่อนหลายตัวมีปาร์คชานยอลนอนฟุบโดยใช้กระเป๋าเรียนแทนหมอนอยู่ ถ้าถามว่านอนฟุบอยู่แล้วรู้ได้ยังไง ตัวที่ผอมสูงดูเก้งก้างประกอบกับหูที่กางเกินกว่าปกติที่เซฮุนบอกเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนได้ดีพอๆกับเห็นหน้า
“ไปกันเถอะเพื่อน ไปล้างแค้น” เซฮุนพูดด้วยเสียงอู้อี้เพราะยังเคี้ยวอาหารไม่ทันหมดปาก พลางกระตุกแขนเสื้อให้มินซอกลุกขึ้น ยังไม่ทันที่เขาจะลุกออกไปเซฮุนก็เดินนำลิ่วไปหาอดีตเพื่อนร่วมห้องซะแล้ว มินซอกส่ายหน้าเบาๆแล้วเก็บสัมภาระ จานข้าวของตัวเองและของเซฮุนที่เจ้าตัวลืมเก็บไปใส่อ่างสำหรับใส่ภาชนะที่โรงเรียนจัดไว้ให้
“ไม่ใช่เว้ย! มึงเอาอะไรมาพูดวะ” ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึงตรงม้าหินอ่อนก็ได้ยินเสียงโทนต่ำของชานยอลแล้ว เขาลืมนึกไปว่าเพื่อนเขาคนนี้หาเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นเก่งแค่ไหน เมื่อคิดได้ก็รีบพาตัวเองไปยังที่เกิดเหตุทันที
“ไม่ใช่แล้วนี่อะไร หรือมึงจะบอกว่าลายมือขี้ตีนแบบนี้ไม่ใช่ของมึง” เมื่อเซฮุนเห็นว่าเพื่อนของตนมายืนข้างๆ ก็คว้าจดหมายกับซองขนมที่มือมินซอกมาโชว์
“อะ เออสิ ไม่ใช่ของกูเว้ย ลายมือกูพัฒนาแล้ว!” ชานยอลเถียงกลับด้วยเสียงตะกุกตะกักขนาดที่ให้เด็กประถมมาฟังยังรู้เลยว่าชายคนนี้โคตรแถ
“หึ เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่” เซฮุนยิ้มอย่างเหนือกว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา “น่าเสียดาย เวลานี้ห้องสภาคงจะปิดแล้ว ค่อยไปแจ้งก็ได้” ด้วยน้ำเสียงของเซฮุนที่จัดว่าโคตรกวนตีนทำให้ชานยอลชักสีหน้าทันที
“มึงอยากมีเรื่องกับกูมากใช่มั้ยไอ้ตุ๊ด”
“ว่าไงนะไอ้หูกาง”
“นี่โค้กของมึง มีเรื่องอะไรกัน”
ขณะที่ทั้งคู่เตรียมจะวางมวยกัน ก็มีผู้ร่วมวงสนทนาเพิ่มมาอีกคน คนที่มินซอกไม่อยากจะเจอหน้ามากที่สุด เสี่ยวลู่หาน
ลู่หานเดินไปซื้อขนมและเครื่องดื่มที่สหกรณ์ พอกลับมาเขาก็เห็นชานยอลยืนเถียงกับเซฮุนซึ่งเขาไม่ได้สนิทอะไรกับหมอนั่น แต่ที่ตกใจก็คือข้างๆร่างสูงโปร่งของเซฮุนมีอีกคนตัวเล็กที่ชื่อคิมมินซอกยืนอยู่ด้วย ลู่หานส่งยิ้มไปให้ แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มแบบผูกมิตร สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาขุ่นมัวที่แสดงถึงความไม่พอใจเท่านั้น
“เชี่ยนี่มันหาเรื่องกู” ชานยอลรีบฟ้องเพื่อนรักทันที เมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นทะเลาะกับไอ้บ้าเซฮุนไม่ชนะแน่ๆ คิดแล้วก็เหงื่อตก หน้าตาแม่งไม่น่าฉลาดขนาดจะดูออกว่าเขาเป็นบัดเดอร์มินซอก ชานยอลคนนี้ต้องไม่แพ้มัน เขาต้องหาวิธีแก้ให้ได้
“หาพวกเลยนะมึง” เซฮุนกอดอก สายตามองไปที่ลู่หาน จากนั้นก็เบนสายตามามองเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ตั้งแต่เดินมาถึงมันยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ ใบ้แดกหรอครับมินซอก “แล้วมึงอ่ะไม่คิดจะช่วยกูเลยหรอวะ”
“ไม่ล่ะ ทะเลาะกันอย่างกับเด็ก เรื่องของมึง มึงจัดการเอง” พูดจบมินซอกก็หยิบหูฟังที่ต่อกับมือถือไว้แล้วมาใส่หูตัวเองทั้งสองข้างเพื่อเข้าสู่โลกส่วนตัว สายตาก็หันไปจดจ่อกับสนามฟุตบอลที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ซึ่งกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เซฮุนเห็นมินซอกไม่ได้สนใจตนแม้แต่น้อยก็ได้แต่ชื่นชมเพื่อนอยู่ในใจ
ไอ้เตี้ยมินซอก ไอ้เพื่อนเลว ไอ้เพื่อนชั่ว กูงอนมึงครับฟัค
มินซอกปล่อยให้ทั้งสองคนกัดกันต่อไป แล้วมาสนใจนักเรียนชายนับสิบคนที่กำลังไล่เตะลูกหนังสีขาวดำในสนามฟุตบอลแทน บวกเสียงเพลงที่ดังก้องอยู่ภายในหัวตอนนี้ถือว่าเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ แต่สายตาก็พลันไปเห็นใครบางคนอยู่ข้างสนามฟุตบอลกำลังโบกไม้โบกมือมาทางนี้อยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย อาจเพราะจะไกลเกินไปบวกกับสายตาของมินซอกที่สั้นอยู่เล็กน้อย ทำให้ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใครและไม่รู้ด้วยว่าโบกมือให้เขาหรือเปล่า
คนๆนั้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งมานี้ มินซอกจึงเห็นชัดขึ้นซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน มยองจีน้องสาวเขานี่เอง เขาจึงก้าวขาเดินไปหา มยองจีหอบเล็กน้อย ด้านหลังของมยองจีก็ผู้หญิงคนนึงเดินตามมา เธอคนนั้นก้มหัวให้มินซอกเล็กน้อยเป็นเชิงสวัสดี มินซอกส่งยิ้มไปให้ เขาเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนของน้องสาวตน
“วิ่งมาทำไมเนี่ยมีอะไรหรือเปล่า” มินซอกถามพลางถอดหูฟังออก
“แค่จะเอาหนังสือการ์ตูนมาคืนเฉยๆ” มยองจีหยิบหนังสือการ์ตูนสองสามเล่มจากในกระเป๋าสะพายแล้วส่งคืนให้พี่ชายหัวส้ม
“เป็นไงสนุกเปล่า”
“สนุกมากอ่ะ เมื่อคืนกว่าจะอ่านจบก็เกือบตีหนึ่งแหนะ”
“บอกแม่ดีมั้ยเนี่ย อ่านหนังสือการ์ตูนจนไม่ยอมหลับยอมนอน”
“เฮ้ย พี่มินซอกอ้ะ คราวหลังไม่นอนดึกแล้วแต่อย่าบอกแม่เลยนะ” มยองจีกอดแขนมินซอกทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ชายตนจะรายงานเรื่องกับแม่ แล้วงัดไม้ตายมาใช้นั่นคือการอ้อนที่พี่ชายตัวเล็กของเขาต้องยอมแพ้เสมอ
“นั่นมยองจีใช่มั้ย ?”
“พี่ลู่หาน..” มยองจีมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนเอ่ยชื่อคนตรงหน้าด้วยแผ่ว
“ไง คิดไงมาเรียนต่อนี่เนี่ยเรา” ลู่หานลอบสังเกตจากตรงม้าหินอ่อนมาตั้งแต่ต้นว่ามินซอกนั้นคุยอยู่กับใคร พอเห็นว่าเป็นคนที่เขาเองก็รู้จักดี จึงยิ้มให้และสาวเท้าเข้ามาคุยด้วย ปล่อยให้ชานยอลกับเซฮุนยืนเถียงกันต่อไป
“คิดถึงพี่มินซอกเลยตามมาค่ะ พี่ลู่หานสบายดีมั้ยคะ”
“ก็ดี เปลี่ยนเป็นผมสั้นก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย” ลู่หานยื่นมือไปยีหัวด้วยความเอ็นดู
มินซอกที่ยืนนิ่ง มองทั้งคู่สนทนากันมาตั้งแต่ต้น มินเดินไปขั้นกลางทั้งคู่ ยื่นมือไปปัดข้อมือลู่หานข้างที่กำลังยีหัวมยองจีอยู่ออก สายตาจ้องไปทางลู่หานนิ่ง และพูดกับมยองจีเสียงเรียบโดยที่ตายังคงจ้องไปที่ลู่หาน
“กลับได้แล้วมยองจี เพื่อนยืนรอนานแล้ว”
“พี่มินซอก ” สาวน้อยเรียกชื่อพี่ชายตัวเองที่ตอนนี้เห็นได้เพียงแต่ด้านหลังเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามินซอกไม่ตอบอะไรกลับมาจึงถอนหายเบาๆแล้วพูดต่อ “โอเค หนูกลับหอล่ะนะพี่ บายค่ะพี่ลู่หาน”
ลู่หานยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยให้กับมยองจี เมื่อสองสาวเดินออกไปแล้วลู่หานก็กลับมามองคนตัวเล็กอีกคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“อย่ายุ่งกับน้องฉัน” มินซอกพูดเสียงเย็นใส่ลู่หาน
“หืม? ทำไมล่ะ แค่ทักทายกันปกติเอง” ลู่หานเลิกคิ้ว แล้วยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“หึ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” มินซอกส่งรอยยิ้มสมเพชไปให้ แล้วพูดต่อ “เลวยังไง ก็เลวยังงั้นเหมือนเดิม”
ลู่หานหุบยิ้มพลัน แววตาที่จ้องแข็งกร้าวขึ้น เขากำมือแน่นเพื่อระงับอารมณ์ และดูเหมือนมันจะได้ผล เพียงแค่พริบตา แววตาคู่นั้นของลู่หานก็เปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิม แววตาเจ้าเล่ห์ สองมือก็ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆเหมือนเดิม
“เลว? ยังไงหรอ” ลู่หานก้มตัวลงมาและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ให้อยู่ในระดับตาเดียวกันกับมินซอก นัยน์ตาดุจกวางยังคงฉายแววสนุกสนานไว้ มินซอกเองก็ยังคงมองด้วยสายตานิ่ง
“…”
“นี่ ฉันมีข้อเสนอดีๆมาให้” ลู่หานเว้นระยะคำพูด “ไหนๆนายก็คอยขัดแข้งขัดขาไม่ให้ฉันได้สละโสดมาตลอดอยู่แล้ว..” จากนั้น ลู่หานยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของมินซอก
“…”
“งั้นเรามาคบกันเลยดีมั้ยล่ะ”
“ขอโทษนะ” มินซอกเงียบไปสักพักหลังจากที่ได้ยินข้อเสนอจากคนตรงหน้า ก่อนจะใช้มือข้างเดียวผลักไหลลู่หานให้ห่างออกไป “เพ้อเจ้ออะไรของนายอยู่หรอลู่หาน”
“เห้ยๆ อะไรกันเนี่ย” เซฮุนที่เห็นท่าไม่ดีจึงเลิกสนใจชานยอลแล้วเดินมาทางมินซอกกับลู่หาน แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจเซฮุนแม้แต่น้อย เขาได้แต่มองไปที่เพื่อนรักกับเพื่อนร่วมสายชั้นสลับไปมาด้วยสายตางุนงง อะไรวะ นอกจากจะไม่ช่วยกูตอนทะเลาะกับไอ้ชานยอล กูยังต้องมาห้ามศึกมึงกับลู่หานด้วยใช่มั้ย
“ฉันไม่ได้มีรสนิยมชอบของแปลก เลิกคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นซะเถอะ” มินซอกพูดต่อ ใบหน้ายังคงไม่ได้แสดงความรู้สึกได้ออกมา
“จะถือว่าเป็นคำท้าละกันนะ” คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของแปลกยังคงยิ้มอย่างสนุก
“…”
“แล้วฉันยิ่งชอบอยู่ด้วยสิ เรื่องท้าทายเนี่ย”
ฝอย’s time
เยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ในที่สุดมันก็จบไปอีกตอน ยังมีคนอ่านอยู่ม้าย
คิมมินยอง ก็คือเอลลิน(ดิท)จากเครยอนป็อปนะ (ตัวประกอบจะเยอะไปไหน)
ทำไมแต่งฟิคมันยากขนาดนี้ ยากมั่ก กว่าจะกลั่นออกมาได้แต่ละประโยค ฮอล
พี่ลู่กับพี่ซอกนี่จะมีปมหลังอะไรกันเยอะแยะห้ะ (อ่าว)
ตอนต่อไปคงจะเป็นคู่ไคฮุนละ บอกตรงยังไม่มีพลอตเลย *หัวเราะอย่างขมขื่น*
เม้นด้วยนะ ชมหรือติก็ได้เราพร้อมจะรับฟัง และเราต้องการกำลังใจมากๆ orz
แถมหน้าฟิคยังเป็นไรไม่รู้เหมือนโค้ดจะเสีย แก้บานเลยจย้า
พอละ ก่อนที่ทอร์คมันจะยาวกว่าฟิค เจอกันตอนหน้าค่ะ
ปล. ถึงเม้น6ที่ถามเรื่องฟ้อนต์นะ ชื่อว่า The only exception น้า
ความคิดเห็น