ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { lumin fic } Buddy ♥ Budder

    ลำดับตอนที่ #3 : B D B D : ตอนที่ ๒

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 57


     

    ตอนที่ ๒

     

    ยิ่งเกลียด ยิ่งเจอ

    ผมไม่เคยเชื่อคำๆนี้ จนกระทั่งมาเจอกับตัวเอง

     

    .

    .

    .

     

    ปี2 ห้องB

               

                “มินซอก นี่ของนาย

     

                คิมมินยอง หัวหน้าห้องผู้ที่สวยมากที่เรียกได้ว่าสวรรค์ช่างสรรค์สร้างหน้าตาเธอคนนี้ มินยองเดินออกไปนอกห้องแล้วกลับมาพร้อมกับพวกขนมและจดหมายมากมายให้กับเพื่อนๆตามที่มีชื่อเขียนไว้ และมาที่โต๊ะของมินซอกที่ตอนนี้สวมแว่นสายตากำลังอ่านหนังสือเรียนทบทวนอย่างตั้งใจ แล้วเอาขนมห่อใหญ่ห่อหนึ่งที่มีจดหมายแนบมาด้วยมาวางไว้บนโต๊ะ มินซอกเงยหน้ามองแล้วพนักหน้าเป็นเชิงบอกว่าขอบคุณ

     

                ผ่านไปได้สี่วันแล้วกับการเปิดเทอม วันนี้ถือเป็นโชคดีของนักเรียน เพราะช่วงบ่ายนี้มีประชุมจึงทำให้ไม่ต้องเรียนในสองคาบสุดท้าย บางคนก็ลงไปเล่นกีฬา บ้างก็กลับหอกันเลย แต่นักเรียนปี2ห้องBยังออกจากห้องไม่ได้เพราะอาจารย์แกไม่ปล่อยให้เด็กได้สบาย จึงสั่งงานทิ้งไว้แล้วขู่ทิ้งท้ายไว้ว่าต้องเสร็จและส่งก่อนประชุมเสร็จ ซึ่งตอนนี้ก็เสร็จกันไปบ้างแล้ว รวมทั้งมินซอกเองด้วย

                ช่วงนี้เทศกาลแลกขนมแลกจดหมายของบัดดี้บัดเดอร์กำลังครึกครื้น ถ้าจับได้เพศเดียวกันก็พอจะเอาไปให้ที่หอได้ แต่ถ้าได้เพศตรงข้ามซึ่งไม่สามารถไปหากันถึงที่หอได้อยู่แล้ว ก็ต้องรอเอามาให้ที่โรงเรียนอย่างเดียว การเอามาวางไว้หน้าห้องเรียนก็เป็นอีกวิธี

     

                ไม่ขยันซักวันจะตายมั้ยเนี่ย

     

                ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Nobody Perfect คิมมินยองก็เช่นกัน หน้าตาดีเรียนเก่งเงินพร้อม แต่ที่นิสัยเอาแต่ใจและชอบแขวะคนอื่นที่แก้ไขไม่ได้นี่แหละที่เป็นข้อเสีย

     

                “แล้วเธอล่ะ ไม่แซะชาวบ้านซักวันจะตายมั้ยถึงเขาจะพอรู้ตัวว่าเป็นคนพูดจาร้ายกาจ แต่นี่ไม่ใช่คำพูดของเขาแน่นอน

     

                โอเซฮุน เจ้าของผมสีเทาที่ตอนแรกนอนหลับโดยใช้หนังสือเรียนแทนหมอนอย่างสบายใจข้างๆเขา ตอนนี้ตื่นขึ้นมาตอบมินยองแทนเขาด้วยหน้าตาหาเรื่อง มินยองกอดอกมองเซฮุนอย่างไม่สบอารมณ์

     

                แล้วนายจะยุ่งอะไรด้วยล่ะ

                “ปกติฉันก็ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอก แต่กับเธอนี่พิเศษสุดๆเลยนะไม่ดีใจหน่อยหรอ

                “ฉันไม่อยากเถียงกับคนอย่างนายล่ะ กลับหอล่ะบาย โชคดีสำลีแปะหัว แบร่!”

                “จะไปไหนก็ไปเลยยัยบ้า!” เซฮุนตะโกนไล่หลังมินยองที่ซึ่งวิ่งออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว

     

    โอเซฮุน คิมมินยอง คู่กัดตลอดกาล

     

     

     

                สักพักมินซอกและเซฮุนก็ย้ายจากห้องเรียนมาโรงอาหารเพื่อทานมื้อเย็นในตอนบ่าย เพราะว่ามันยังไม่ใช่ช่วงเวลาอาหารเย็นสำหรับคนทั่วไป คนที่อยู่ในโรงอาหารจึงมีไม่มาก

     

                เฮ้ย ละนี่ได้อะไรมาอ่ะดูหน่อยดิยังไม่ทันที่เจ้าของได้อนุญาต เซฮุนที่เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวจนตามไม่ทันก็ละความสนใจจากจานอาหารตรงหน้าไปหยิบห่อขนมที่มินซอกเพิ่งได้มาไปซะแล้ว

     

                “มินซอก! กูว่ากูรู้ละใครเป็นบัดเดอร์มึงอยู่ดีๆเซฮุนที่อ่านจดหมายที่ติดมากับซองขนมก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ทำเอาเขาที่กำลังยกแก้วดื่มน้ำแทบจะสำลัก เยี่ยมมากเลยเพื่อน

     

                ใคร ?มินซอกเป็นคนใจเย็น ไม่งั้นคงคบกับมันไม่ได้หรอก

     

                ไอ้ชานยอลแน่ๆ

                “เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้น

               

                “นี่ มึงดูนี่ เห็นป่ะลายมือเหี้ยๆขนาดนี้มีมันคนเดียว แล้วดูโค้ดย่อ C.10 ก็ชานยอลไงมึงเขาดูในกระดาษตามที่เพื่อนหัวสีเทาบอก ปีที่แล้วชานยอลเคยอยู่ห้องเดียวกับเขาและเซฮุน เขาก็พอจะจำได้อยู่ หรือบางทีอาจจะจำลายมืออันเป็นเอกลักษณ์นี้ไปจนวันตาย แล้วเมื่อวานเย็นอ่ะกูเห็นมันกำลังจ่ายตังซื้อขนมอยู่ แล้วหนึ่งในนั้นแม่งมีขนมห่อนี้ด้วยเว้ย กูฟันธง

     

                “แล้ว ?

     

                “กูจะได้เอาคืนมันแล้วไง บังอาจมากที่ตัดหน้าแย่งพี่โซฮีของกูไปพี่โซฮี คือรุ่นพี่ที่เพิ่งจบไป เรื่องศึกชิงนางนี้มันตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดได้ยินมาว่าเลิกกันไปแล้ว แต่ไอ้นี่มันเป็นพวกแค้นฝังหุ่น

     

                เหมือนกันเขานี่แหละ

     

                แล้วจะเอาคืนยังไงวะมินซอกขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แต่เซฮุนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับมื้อเย็นของตนเองไม่ได้รับรู้สิ่งที่มินซอกถาม จนมินซอกต้องสะกิดเจ้าตัว

                ก็ไปขู่มันไงว่าเรารู้แล้วมันเทคใคร

                “แล้วทำไมไม่ไปบอกสภานักเรียนเลยวะ

                “เอ้า! ถ้าไปบอกสภาเลยก็ไม่หนุกดิเซฮุนตอบเพื่อนหัวส้มที่ตอนนี้กำลังทำหน้าตาซื่อ(บื้อ)ใส่เขาอยู่ เรื่องชั่วๆขอให้บอกโอเซฮุนครับของถนัดเห้ยมันอยู่นั่นเว้ย หูกางเด่นเป็นสง่าเลย

     

                มินซอกมองไปตามทิศที่นิ้วเซฮุนชี้ เป็นบริเวณที่มีต้นไม้นับสิบต้นสำหรับให้ร่มเงาที่อยู่ติดกับโรงอาหาร บริเวณนั้นจะเป็นพวกเครื่องออกกำลังกายและมีโต๊ะที่ทำจากหินอ่อน หนึ่งในโต๊ะหินอ่อนหลายตัวมีปาร์คชานยอลนอนฟุบโดยใช้กระเป๋าเรียนแทนหมอนอยู่ ถ้าถามว่านอนฟุบอยู่แล้วรู้ได้ยังไง ตัวที่ผอมสูงดูเก้งก้างประกอบกับหูที่กางเกินกว่าปกติที่เซฮุนบอกเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนได้ดีพอๆกับเห็นหน้า

     

                ไปกันเถอะเพื่อน ไปล้างแค้นเซฮุนพูดด้วยเสียงอู้อี้เพราะยังเคี้ยวอาหารไม่ทันหมดปาก พลางกระตุกแขนเสื้อให้มินซอกลุกขึ้น ยังไม่ทันที่เขาจะลุกออกไปเซฮุนก็เดินนำลิ่วไปหาอดีตเพื่อนร่วมห้องซะแล้ว มินซอกส่ายหน้าเบาๆแล้วเก็บสัมภาระ จานข้าวของตัวเองและของเซฮุนที่เจ้าตัวลืมเก็บไปใส่อ่างสำหรับใส่ภาชนะที่โรงเรียนจัดไว้ให้

     

                ไม่ใช่เว้ย! มึงเอาอะไรมาพูดวะยังไม่ทันที่จะเดินไปถึงตรงม้าหินอ่อนก็ได้ยินเสียงโทนต่ำของชานยอลแล้ว เขาลืมนึกไปว่าเพื่อนเขาคนนี้หาเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นเก่งแค่ไหน เมื่อคิดได้ก็รีบพาตัวเองไปยังที่เกิดเหตุทันที

     

                ไม่ใช่แล้วนี่อะไร หรือมึงจะบอกว่าลายมือขี้ตีนแบบนี้ไม่ใช่ของมึงเมื่อเซฮุนเห็นว่าเพื่อนของตนมายืนข้างๆ ก็คว้าจดหมายกับซองขนมที่มือมินซอกมาโชว์

                อะ เออสิ ไม่ใช่ของกูเว้ย ลายมือกูพัฒนาแล้ว!” ชานยอลเถียงกลับด้วยเสียงตะกุกตะกักขนาดที่ให้เด็กประถมมาฟังยังรู้เลยว่าชายคนนี้โคตรแถ

                หึ เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่เซฮุนยิ้มอย่างเหนือกว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา น่าเสียดาย เวลานี้ห้องสภาคงจะปิดแล้ว ค่อยไปแจ้งก็ได้ด้วยน้ำเสียงของเซฮุนที่จัดว่าโคตรกวนตีนทำให้ชานยอลชักสีหน้าทันที

                มึงอยากมีเรื่องกับกูมากใช่มั้ยไอ้ตุ๊ด

                “ว่าไงนะไอ้หูกาง

                นี่โค้กของมึง มีเรื่องอะไรกัน

               

                ขณะที่ทั้งคู่เตรียมจะวางมวยกัน ก็มีผู้ร่วมวงสนทนาเพิ่มมาอีกคน คนที่มินซอกไม่อยากจะเจอหน้ามากที่สุด เสี่ยวลู่หาน

                ลู่หานเดินไปซื้อขนมและเครื่องดื่มที่สหกรณ์ พอกลับมาเขาก็เห็นชานยอลยืนเถียงกับเซฮุนซึ่งเขาไม่ได้สนิทอะไรกับหมอนั่น แต่ที่ตกใจก็คือข้างๆร่างสูงโปร่งของเซฮุนมีอีกคนตัวเล็กที่ชื่อคิมมินซอกยืนอยู่ด้วย ลู่หานส่งยิ้มไปให้ แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มแบบผูกมิตร สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาขุ่นมัวที่แสดงถึงความไม่พอใจเท่านั้น

               

                เชี่ยนี่มันหาเรื่องกูชานยอลรีบฟ้องเพื่อนรักทันที เมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นทะเลาะกับไอ้บ้าเซฮุนไม่ชนะแน่ๆ คิดแล้วก็เหงื่อตก หน้าตาแม่งไม่น่าฉลาดขนาดจะดูออกว่าเขาเป็นบัดเดอร์มินซอก ชานยอลคนนี้ต้องไม่แพ้มัน เขาต้องหาวิธีแก้ให้ได้

                หาพวกเลยนะมึงเซฮุนกอดอก สายตามองไปที่ลู่หาน จากนั้นก็เบนสายตามามองเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ตั้งแต่เดินมาถึงมันยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ ใบ้แดกหรอครับมินซอก แล้วมึงอ่ะไม่คิดจะช่วยกูเลยหรอวะ

                ไม่ล่ะ ทะเลาะกันอย่างกับเด็ก เรื่องของมึง มึงจัดการเองพูดจบมินซอกก็หยิบหูฟังที่ต่อกับมือถือไว้แล้วมาใส่หูตัวเองทั้งสองข้างเพื่อเข้าสู่โลกส่วนตัว สายตาก็หันไปจดจ่อกับสนามฟุตบอลที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ซึ่งกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เซฮุนเห็นมินซอกไม่ได้สนใจตนแม้แต่น้อยก็ได้แต่ชื่นชมเพื่อนอยู่ในใจ

     

                ไอ้เตี้ยมินซอก ไอ้เพื่อนเลว ไอ้เพื่อนชั่ว กูงอนมึงครับฟัค

               

                มินซอกปล่อยให้ทั้งสองคนกัดกันต่อไป แล้วมาสนใจนักเรียนชายนับสิบคนที่กำลังไล่เตะลูกหนังสีขาวดำในสนามฟุตบอลแทน บวกเสียงเพลงที่ดังก้องอยู่ภายในหัวตอนนี้ถือว่าเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ แต่สายตาก็พลันไปเห็นใครบางคนอยู่ข้างสนามฟุตบอลกำลังโบกไม้โบกมือมาทางนี้อยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย อาจเพราะจะไกลเกินไปบวกกับสายตาของมินซอกที่สั้นอยู่เล็กน้อย ทำให้ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใครและไม่รู้ด้วยว่าโบกมือให้เขาหรือเปล่า

                คนๆนั้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งมานี้ มินซอกจึงเห็นชัดขึ้นซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน มยองจีน้องสาวเขานี่เอง เขาจึงก้าวขาเดินไปหา มยองจีหอบเล็กน้อย ด้านหลังของมยองจีก็ผู้หญิงคนนึงเดินตามมา เธอคนนั้นก้มหัวให้มินซอกเล็กน้อยเป็นเชิงสวัสดี มินซอกส่งยิ้มไปให้ เขาเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนของน้องสาวตน

                วิ่งมาทำไมเนี่ยมีอะไรหรือเปล่ามินซอกถามพลางถอดหูฟังออก

                แค่จะเอาหนังสือการ์ตูนมาคืนเฉยๆ มยองจีหยิบหนังสือการ์ตูนสองสามเล่มจากในกระเป๋าสะพายแล้วส่งคืนให้พี่ชายหัวส้ม

                เป็นไงสนุกเปล่า

                “สนุกมากอ่ะ เมื่อคืนกว่าจะอ่านจบก็เกือบตีหนึ่งแหนะ

                “บอกแม่ดีมั้ยเนี่ย อ่านหนังสือการ์ตูนจนไม่ยอมหลับยอมนอน

                “เฮ้ย พี่มินซอกอ้ะ คราวหลังไม่นอนดึกแล้วแต่อย่าบอกแม่เลยนะมยองจีกอดแขนมินซอกทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ชายตนจะรายงานเรื่องกับแม่ แล้วงัดไม้ตายมาใช้นั่นคือการอ้อนที่พี่ชายตัวเล็กของเขาต้องยอมแพ้เสมอ

               

                “นั่นมยองจีใช่มั้ย ?

                พี่ลู่หาน..” มยองจีมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนเอ่ยชื่อคนตรงหน้าด้วยแผ่ว

                ไง คิดไงมาเรียนต่อนี่เนี่ยเราลู่หานลอบสังเกตจากตรงม้าหินอ่อนมาตั้งแต่ต้นว่ามินซอกนั้นคุยอยู่กับใคร พอเห็นว่าเป็นคนที่เขาเองก็รู้จักดี จึงยิ้มให้และสาวเท้าเข้ามาคุยด้วย ปล่อยให้ชานยอลกับเซฮุนยืนเถียงกันต่อไป

                คิดถึงพี่มินซอกเลยตามมาค่ะ พี่ลู่หานสบายดีมั้ยคะ

                ก็ดี เปลี่ยนเป็นผมสั้นก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยลู่หานยื่นมือไปยีหัวด้วยความเอ็นดู

               

                มินซอกที่ยืนนิ่ง มองทั้งคู่สนทนากันมาตั้งแต่ต้น มินเดินไปขั้นกลางทั้งคู่ ยื่นมือไปปัดข้อมือลู่หานข้างที่กำลังยีหัวมยองจีอยู่ออก สายตาจ้องไปทางลู่หานนิ่ง และพูดกับมยองจีเสียงเรียบโดยที่ตายังคงจ้องไปที่ลู่หาน

                กลับได้แล้วมยองจี เพื่อนยืนรอนานแล้ว

                “พี่มินซอก สาวน้อยเรียกชื่อพี่ชายตัวเองที่ตอนนี้เห็นได้เพียงแต่ด้านหลังเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามินซอกไม่ตอบอะไรกลับมาจึงถอนหายเบาๆแล้วพูดต่อ โอเค หนูกลับหอล่ะนะพี่ บายค่ะพี่ลู่หาน

                ลู่หานยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยให้กับมยองจี เมื่อสองสาวเดินออกไปแล้วลู่หานก็กลับมามองคนตัวเล็กอีกคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

               

                อย่ายุ่งกับน้องฉันมินซอกพูดเสียงเย็นใส่ลู่หาน

                หืม? ทำไมล่ะ แค่ทักทายกันปกติเองลู่หานเลิกคิ้ว แล้วยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน

                หึ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะมินซอกส่งรอยยิ้มสมเพชไปให้ แล้วพูดต่อ เลวยังไง ก็เลวยังงั้นเหมือนเดิม

                ลู่หานหุบยิ้มพลัน แววตาที่จ้องแข็งกร้าวขึ้น เขากำมือแน่นเพื่อระงับอารมณ์ และดูเหมือนมันจะได้ผล เพียงแค่พริบตา แววตาคู่นั้นของลู่หานก็เปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิม แววตาเจ้าเล่ห์ สองมือก็ล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆเหมือนเดิม

                เลว? ยังไงหรอลู่หานก้มตัวลงมาและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ให้อยู่ในระดับตาเดียวกันกับมินซอก นัยน์ตาดุจกวางยังคงฉายแววสนุกสนานไว้ มินซอกเองก็ยังคงมองด้วยสายตานิ่ง

                “…”

                “นี่ ฉันมีข้อเสนอดีๆมาให้ลู่หานเว้นระยะคำพูด ไหนๆนายก็คอยขัดแข้งขัดขาไม่ให้ฉันได้สละโสดมาตลอดอยู่แล้ว..” จากนั้น ลู่หานยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของมินซอก

                “…”

                “งั้นเรามาคบกันเลยดีมั้ยล่ะ

               

                “ขอโทษนะมินซอกเงียบไปสักพักหลังจากที่ได้ยินข้อเสนอจากคนตรงหน้า ก่อนจะใช้มือข้างเดียวผลักไหลลู่หานให้ห่างออกไป เพ้อเจ้ออะไรของนายอยู่หรอลู่หาน

                “เห้ยๆ อะไรกันเนี่ยเซฮุนที่เห็นท่าไม่ดีจึงเลิกสนใจชานยอลแล้วเดินมาทางมินซอกกับลู่หาน แต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจเซฮุนแม้แต่น้อย เขาได้แต่มองไปที่เพื่อนรักกับเพื่อนร่วมสายชั้นสลับไปมาด้วยสายตางุนงง อะไรวะ นอกจากจะไม่ช่วยกูตอนทะเลาะกับไอ้ชานยอล กูยังต้องมาห้ามศึกมึงกับลู่หานด้วยใช่มั้ย

                ฉันไม่ได้มีรสนิยมชอบของแปลก เลิกคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นซะเถอะมินซอกพูดต่อ ใบหน้ายังคงไม่ได้แสดงความรู้สึกได้ออกมา

                จะถือว่าเป็นคำท้าละกันนะคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของแปลกยังคงยิ้มอย่างสนุก

                “…”

                “แล้วฉันยิ่งชอบอยู่ด้วยสิ เรื่องท้าทายเนี่ย

     

     

     

    ฝอย’s time

    เยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    ในที่สุดมันก็จบไปอีกตอน ยังมีคนอ่านอยู่ม้าย

    คิมมินยอง ก็คือเอลลิน(ดิท)จากเครยอนป็อปนะ (ตัวประกอบจะเยอะไปไหน)

    ทำไมแต่งฟิคมันยากขนาดนี้ ยากมั่ก กว่าจะกลั่นออกมาได้แต่ละประโยค ฮอล

    พี่ลู่กับพี่ซอกนี่จะมีปมหลังอะไรกันเยอะแยะห้ะ (อ่าว)

    ตอนต่อไปคงจะเป็นคู่ไคฮุนละ บอกตรงยังไม่มีพลอตเลย *หัวเราะอย่างขมขื่น*

    เม้นด้วยนะ ชมหรือติก็ได้เราพร้อมจะรับฟัง และเราต้องการกำลังใจมากๆ orz

    แถมหน้าฟิคยังเป็นไรไม่รู้เหมือนโค้ดจะเสีย แก้บานเลยจย้า

    พอละ ก่อนที่ทอร์คมันจะยาวกว่าฟิค เจอกันตอนหน้าค่ะ

    ปล. ถึงเม้น6ที่ถามเรื่องฟ้อนต์นะ ชื่อว่า The only exception น้า


    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×