คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : B D B D : ตอนที่ ๑
ตอนที่ ๑
บางทีโชคชะตาก็เล่นตลกกับเรื่องที่มันไม่ตลก
.
.
.
กริ๊ง
เสียงนาฬิกาปลุกจากไอโฟนเครื่องขาวปลุกให้มินซอกตื่นขึ้น ร่างเล็กลุกงัวเงียขึ้นมาจากเตียง และพบว่าเซฮุนอยู่ในชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว
"รีบไปไหนวะ"
"ไปปั่นการบ้านดิ งานกลุ่มส่งวันนี้ด้วย กูไม่น่าอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้มีรือกับแทมินเลยว่ะ แม่งพาขี้เกียจทั้งกลุ่ม" เซฮุนบ่นกระปอดกระแปด พร้อมกับสวมถุงเท้าด้วยท่าทางทุลักทุเล
"โครงงานใช่ที่ให้ทำตอนปิดเทอมใช่ป่ะ ได้ข่าวว่ากูเตือนมึงแล้ว?" มินซอกเลิกคิ้ว
"เออดิ ปิดเทอมมันก็ต้องเล่นเกมดิวะ! ให้มาทำการบ้านนี่ไม่ใช่แนว"
“ตรรกะไหนของมึงเนี่ย รีบไม่ใช่หรอมึงอ่ะ กูยังพอมีขนมปังอยู่ที่ล็อกเกอร์กู ในลิ้นชักชั้นสอง" มินซอกชี้ไปที่ตู้ล้อกเกอร์ตนที่อยู่ข้างๆห้องน้ำ
"เยี่ยม แต๊งกิ้วมาก กูไปละบาย เจอกันห้องเรียน พรุ่งนี้สัญญาว่าจะไปกินข้าวด้วย" เซฮุนพูดเร็วๆแล้ววิ่งไปทันทีพร้อมกับขนมปัง
มินซอกลุกไปอาบน้ำอย่างไม่รีบร้อน แน่ล่ะการบ้านเขาก็เคลียร์หมดแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นต้องรีบ
‘ฉันพอจะช่วยนายได้ เรื่องทุนการศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น’
อยู่ๆคำพูดของจางอี้ชิงเมื่อวานนี้ก็ไหลเข้ามาในหัวที่บอกจะช่วยเขาเรื่องทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเรียนต่างประเทศ ทั้งชีวิตของเขายังไม่เคยไปต่างประเทศเลยสักครั้ง ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก เหตุผลคงเพราะการ์ตูน เขาอ่านและดูการ์ตูนญี่ปุ่นเยอะมากจนเรียกได้ว่าเป็นโอตาคุเลยทีเดียว แน่นอนในการ์ตูนญี่ปุ่นก็จะบอกถึงวัฒนธรรมของที่นั่นและเขาก็ชอบ ชอบขนาดที่ว่าไปเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่น จนตอนนี้พูดอ่านเขียนได้ในระดับหนึ่งแล้ว
คิมมินซอกเป็นนักเรียนทุนมาตั้งแต่ม.ต้น
ไม่ใช่เพราะว่าฐานะทางบ้านยากจนหรืออย่างไร แต่ถ้ามันมีของฟรีก็ควรจะเอามันมาให้ได้ไม่ใช่หรือไง และเขาก็ทำมันได้เสมอ แต่ถึงฐานะครอบครัวจะไม่ได้ยากจน แต่ว่าก็ไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดจะไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยเงินตัวเองล้วนๆ
‘โครงการแลกเปลี่ยน1ปีที่ญี่ปุ่น มีของโครงการนึงที่พ่อฉันมีส่วนร่วมด้วย ฉันไม่มีอำนาจขนาดจะให้ทุนฟรีๆได้เลย แต่การสอบมี2รอบ ฉันช่วยนายให้เข้ารอบแรกได้’
‘แล้วพี่ทำแบบนี้เพื่ออะไร’
‘ก็มันน่าสนุกดี’
นิสัยรักความสนุกเป็นกันทั้งพี่ทั้งน้องสินะ
แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจรับข้อเสนอของอี้ชิงต้องไปเป็นบัดเดอร์ให้กับศัตรูตลอดกาลอย่างเสี่ยวลู่หานก็ตาม
หลังจากเตรียมตัวพร้อมกับการเรียนวันแรกแล้ว คิมมินซอกก็เดินออกจากหอประจำชายโดยไม่ลืมสวัสดี ‘ปาร์คจองซู’ ที่เป็นครูคุมหอหรือที่เรียกว่า พ่อหอ แล้วเดินตรงไปยังห้องเรียน พร้อมขนมปังที่เซฮุนยังพอมีน้ำใจเหลือไว้ให้เขาบ้าง
หลายครั้งอยู่เหมือนกันที่เขาต้องเดินไปห้องเรียนคนเดียว เพราะตื่นไม่ค่อยจะตรงกันเท่าไหร่ บ้างเซฮุนก็ตื่นก่อนเพราะต้องไปปั่นการบ้านตอนเช้าตามประสาเด็กขี้เกียจทำการบ้าน บางทีเขาเองก็ตื่นเพื่อไปช่วยงานโรงเรียนตามประสาเด็กทุนแล้วต้องยอมโดนอาจารย์(จิกหัว)ใช้เหมือนกัน
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่ต้องอยู่ประจำ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นโรงเรียนประจำประเภทดัดสันดานเด็กนักเลงอะไรเทือกนั้นหรอก ตรงกันข้าม โรงเรียนนี้คัดแต่พวกหัวกะทิสายวิทย์ จะเข้าเรียนได้ก็ต้องสอบเข้าเอาและคนสอบก็ไม่ใช่น้อย และการอยู่ประจำก็ต้องอยู่แต่ในโรงเรียนเท่านั้นยกเว้นวันหยุด กฎก็ค่อนข้างเข้มงวด แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆสำหรับคนไม่เคยสัมผัสมาก่อน
แต่เขาเองก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกที่ได้ทุนเรียนฟรีซึ่งมีแค่ยี่สิบคนเท่านั้นที่ได้ทุนนี้ไป บอกเลยว่าข้อสอบมันบังเอิญตรงกับที่อ่านไป บางทีการจะทำอะไรก็ต้องพึ่งโชคกันบ้าง
มินซอกกำลังเดินขึ้นตึกเรียนพอดี แต่สายตาดันไปเห็นใครบางคนอยู่
ภาพของเสี่ยวลู่หานกำลังคุยกับผู้หญิงที่น่าจะเป็นเด็กปีหนึ่งอย่างสนิทสนมมันทำให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง มินซอกเดินตรงไปยังสองคนนั้นทันที
"สวัสดีลู่หาน" แสร้งยิ้มอย่างเป็นมิตร
ลู่หานตกใจเล็กน้อยที่อยู่ดีๆก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในวงสนทนา มินซอกไม่ปล่อยให้ลู่หานได้พูดอะไรก็หันพูดกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักทันที
"พี่เตือนไว้เลยนะ ถ้าน้องยังไม่อยากเสียใจเพราะผู้ชายเลวๆ ก็อย่ายุ่งกับมัน ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว น้องรีบไปเรียนดีกว่านะครับ"
"คะ...ค่ะ" ฝ่ายหญิงมีท่าทางตกใจระคนกลัว แล้วเดินเร็วๆออกจากวงสนทนาไปยังตึกเรียนทันที
"เฮ้อ มีมารพจญแต่เช้า" ลู่หานพูดลอยๆ ซึ่งเรียกอารมณ์อารมณ์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
"แค่นี้มันยังน้อยไป สำหรับคนอย่างนาย" มินซอกพูดนิ่งๆแล้วก็เดินชนไหล่ลู่หานออกไป
"เห้ยไอ้ลู่โทษทีว่ะ เมทกูแม่งอาบน้ำนานชิบ" ปาร์คชานยอล ชายตัวผอมสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาลู่หาน แต่เห็นลู่หานไม่ตอบตนแล้วมัวมองไปยังที่อื่นเลยถามไป "มองอะไรวะ"
"คิมมินซอก"
"อ๋อ เขาเป็นบัดดี้กูแหละว่ะ"
"งั้นก็เทคยากหน่อยนะมึง บัดดี้มึงดุกว่าหมาซะอีก หึ"
.
.
.
"มาเฉียดฉิวเลยนะมึง" เซฮุนทักทันทีเมื่อมินซอกเดินเข้ามาในห้องเรียน
"เออ มีเรื่องนิดหน่อยว่ะ แล้วงานมึงล่ะเสร็จยัง" มินซอกนั่งลงที่ของตนข้างๆเซฮุน ซึ่งอยู่เกือบหลังห้อง
"ส่งไปละ แต่ก็เกือบไม่เสร็จแหละ แต่พี่อีจุนแฟนไอ้มีรืออ่ะมาหามันพอดี พี่แกก็เด็กทุนเหมือนมึงนี่แหละแถมแชมป์โครงงานเมื่อปีที่แล้วด้วย พี่อีจุนเห็นเลยช่วยทำเว้ย แม่งโคตรวีรบุรุษ" เซฮุนพูดเร็วๆด้วยท่าทางที่ตื้นตันใจต่อผู้มีพระคุณ "แล้วไปมีเรื่องอะไรมาล่ะ"
"พอดีเจอลู่หานมา"
"แล้วก็ไปหาเรื่องเขาอีกใช่ป่ะ เออเยี่ยมกูมีเพื่อนเป็นนักเลง" เซฮุนว่าอย่างปลงๆ
"ไม่รู้ว่ะ รู้ตัวอีกทีก็เดินไปด่าแล้ว" ตอบคู่สนทนาแล้วพึมพำเบาๆกับตัวเอง "แล้วดันเป็นบัดเดอร์ต้องไปเทคอีก"
"ฮะ อะไรนะ" แต่เซฮุนผู้มีการได้ยินเกินมนุษย์ก็ยังได้ยินสิ่งที่มินซอกพูด "มึงบ้าเปล่า เป็นบัดเดอร์เขาแต่ไปด่าเขาเนี่ยนะ"
"….”
"เออ แล้วแต่มึงเลย" เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบเซฮุนเลยพูดอย่างปลงๆ "พูดถึงบัดดี้ กูจับได้เป็นรุ่นน้องว่ะ โคตรขี้เกียจตามหาเลย หน้าตาเป็นไงยังไม่รู้เลยเนี่ย" แล้วห้องเงียบลงทันทีเมื่ออาจารย์เข้ามาในห้อง รวมถึงเซฮุนด้วย
.
.
.
เลิกเรียน
"เย็นนี้ไปซื้อหนมเทคบัดดี้กันป่ะมึง" โอเซฮุนเอ่ยชวนมินซอกพร้อมโกยทุกอย่างบนโต๊ะลงกระเป๋าเรียน
"ไงก็ได้"
"แต่บัดดี้บัดเดอร์ปีนี้มาแปลกกว่าทุกปีว่ะว่าป่ะ เล่นตั้งสองระดับชั้นแล้วต้องมาเทคแบบหลบๆซ่อนๆอีก กฎแปลกๆแบบนี้พี่อี้ชิงคิดแน่ๆ" ตามที่กฎบอกคือห้ามให้คนอื่นรู้ว่าบัดดี้ของตนคือใคร ไม่อย่างนั้นถ้ามีคนไปแจ้งสภานักเรียน จะโดนตัดสิทธิ์และออกจากเกมทันที “แต่ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน กูหมั่นไส้ไอ้ชานยอลห้องซีมานานละ งานต้องไปจับผิดมันละวะ”
ทั้งสองเดินไปยังสหกรณ์โรงเรียนซึ่งอยู่ติดกับโรงอาหาร เป็นสหกรณ์ที่มีทุกอย่างครบครันเสียยิ่งกว่าร้านเซเว่น มีตั้งแต่แปรงสำหรับคนใส่เหล็กจัดฟันไปถึงตุ๊กตาไซส์เท่าคน
“พี่มินซอก พี่เซฮุน”
ทั้งมินซอกและเซฮุนหันไปยังต้นเสียง แล้วพบกับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
“อ้าวมยองจี มาซื้อขนมหรอ ไม่ได้เจอกันนานน่ารักขึ้นเยอะเลย” เซฮุนทักคิมมยองจีอย่างสนิทสนม มยองจีเขินเล็กน้อยที่ถูกชม
“เป็นไงบ้าง ชีวิตเด็กประจำคืนแรก” มินซอกหันไปถามน้องสาวสุดหวงของตน
“คิดถึงบ้านอ่ะ คิดถึงแม่ด้วย”
“แล้วจะตามมาเรียนนี่ทำไมล่ะ อยู่โรงเรียนหญิงเหมือนเดิมก็ดีอยู่แล้ว”
“ก็อยู่บ้านก็คิดถึงพี่นี่ บ้านก็ไม่ค่อยกลับ รู้ป่ะพี่มาอยู่ประจำหนูไม่มีเพื่อนดูการ์ตูนเลยเนี่ย”
เมื่อเห็นน้องสาวทำหน้าง้ำงอผู้เป็นพี่ชายก็หัวเราะแล้วเอามือไปลูบหัวด้วยความเอ็นดู เซฮุนมองภาพนี้ด้วยรอยยิ้ม คิมมินซอกอ่อนโยนกับน้องสาวเสมอ
“พี่กลับหอก่อนนะ อย่านอนดึกล่ะ”
“หนูขอยืมหนังสือการ์ตูนได้มั้ย เรื่องอะไรก็ได้ที่สนุกๆ” แน่นอนว่าเป็นโอตาคุกันทั้งพี่และน้อง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเอาละกัน ตอนกลางวันที่โรงอาหาร”
“โอเค บายค่ะพี่เซฮุน พี่มินซอก”
เซฮุนกับมินซอกกลับมายังหอ ด้านเซฮุนก็ไปอาบน้ำ รายนั้นบ่นว่าไม่เคลียร์เกมให้จบจะไม่นอน ส่วนมินซอกกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นใช้ความคิดอย่างหนักกับการเขียนบางอย่างลงไปในโพสอิสสีเหลือง
.
.
.
“เห้ยลู่หาน มีขนมวางอยู่หน้าห้องเราว่ะ เขียนชื่อมึงด้วย”
จอง แดฮยอน เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับสัมภาระพะรุงพะรังเนื่องจากเพิ่งกลับจากการซ้อมว่ายน้ำมา ซึ่งตอนนี้ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว เขาโยนกล่องที่น่าจะเป็นกล่องขนมไปที่ลู่หานรูมเมทของตนซึ่งกำลังนอนอ่านหนังสือบอลด้วยท่าทางสบายใจ แล้วไม่ใช่ว่าไม่มีการบ้าน
“เออ ขอบใจเว้ย”
รู้หานวางหนังสือบอลลง ลุกขึ้นมานั่งแทนแล้วเอากล่องที่แดฮยอนเพิ่งโยนให้มามาเปิดดู พบกว่าเป็นกล่องคุ้กกี้รสช็อกโกแลต และมีกระดาษแผ่นเล็กๆพับติดมากับกล่องด้วย
ข้อความข้างในกระดาษทำให้เขายิ้ม
.
.
.
Have a nice dream and wish your nice dream come true
Your Budder
ฝอย Time’s :
สวัสดีฮร้าฟ มันมาร้าวตอนหนึ่งแบบป่วงๆ
ใช้เวลาแต่งนานมาก แก้แล้วแก้อีก
ตัวประกอบมาตรึมเลย เราภูมิใจนำเสนอลุงทึก 555555555555555
ส่วนน้องสาวมินซอกที่ชื่อมยองจี จะมามีบทบาทด้วยเย้
ลู่หานกับมินซอกแค้นอะไรกันมา ติดตามตอนต่อไป
โอตาคุ: ผู้ที่ชื่นชอบหรือคลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ มักใช้กับพวกชอบการ์ตูน
นี่ภาพมยองจีที่รักเรา T v T เอาไปใช้ได้เด้อเราไม่หวง
ความคิดเห็น