ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ฟิคเหนียวไก่ [Chan x Kai]

    ลำดับตอนที่ #5 : เหนียวไก่น่องที่ 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 171
      3
      14 ม.ค. 58

    CR.SHL

    เหนียวไก่น่องที่ 4

     

    “จงอิน”

     

    “มาแล้วเหรอ?” ผมเงยหน้าไปหาคนที่ถือวิสาสะเดินเข้าบ้านผมมาแบบหน้ามึนๆ คือไอ้นี่มันเดินมาทำแผลที่ผมเคยขนหม้อสิบใบแล้วล้มให้อ่ะครับ สองสามวันแล้วล่ะ แผลผมเริ่มจะดีแล้วละจริงๆมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรขนาดนั้นแต่ไอ่กางนี่ทำซะใหญ่โตเลย

     

    “ยังไม่มาอ่ะ”

     

    “กลับบ้านไปเลยไป๊!!” ว่าแล้วก็หยิบหมอนใบโตปาใส่มันทันที ไม่ต้องสงสัยครับ ผมปิดร้านละป้าแกมาซื้อไก่แล้วตอนสิบกว่านาทีที่แล้ว =_=

     

    “โอ๊ย! ไล่ผมทำไมเนี่ย ปาของใส่ผมอีกนิสัยอ่ะ...”

     

    “ทำตัวเองทั้งนั้น”

     

    “นี่ก็ทำตัวเองทั้งนั้น” มันพูดแล้วก็จิ้มแผลตกสะเก็ดที่เข่าผม คือผมเพิ่งนั่งแกะมันไง แสบ!!!

     

    “โอ๊ย อย่าไปโดนดิ!!

     

    “ก็ใครให้คุณแกะแผลอ่ะ”

     

    “ก็มันคันอะ”

     

    “ดื้อ” จิ้มๆเข่า

     

    “เอ๊...” ปัดมืออีกคนด้วยความเร็ว

     

    “....” ไอ้กางไม่ตอบอะไรแต่อยู่ๆมันก็หยิบกล่องยาที่มันเดินถือมาด้วยขึ้นแล้วจับขาผมพาดหน้าตักมัน

     

    “เสร็จยังอะ?”

     

    “...” มันยังคงไม่ตอบอะไรแต่ค่อยๆแปะสำลีแผ่นลงบนเข่าผม เอ่อ..มันกลัวผมเกาแผลอีกใช่ไหมเนี่ย

     

    “อ่ะ..กลับไปได้แล้ว ขอบใจมาก”

     

    “ยังอ่ะ”

     

    “แล้วจะอยู่ทำไม?”

     

    “จะอยู่กับนายอ่ะแหละ”

     

    “ไม่ให้อยู่กลับไปเลยไป ฉันง่วงแล้วนะจะนอน”

     

    “นี่เพิ่งสิบโมงเช้านะคุณ...”

     

    “นั่นแหละฉันจะนอนฉันขายไก่ได้แล้ว!!

     

    “นอนเยอะตัวจะบวม”

     

    “พูดมากปากจะแตกเหมือนกัน”

     

    “ทะเลาะกันมากๆ ระวังจะรักกันสักวัน”

     

    “รักไปคนเดียวเหอะไร้สาระ!

     

    “อย่าเขินดิคุณ เดี๋ยวผมหวั่นไหว โอ๊ยใจเต้นเลยครับ”

     

    “เต้นมากไหม!!” ดูมันทำดิครับ! มันเอามือทาบอกแล้วสั่นไปมา ขนลุก!!!

     

    “จะดูไหมล่ะ? เดี๋ยวผมเต้นให้ดูผมเต้นเก่งนะแร็พได้ด้วย โย่ว”

     

    “อย่าเลยเดี๋ยวคืนนี้ฉันฝันร้าย”

     

    “ก็ยังดีนะอย่างน้อยคุณก็ฝันถึงผม”

     

    “....” โอ๊ย เครียด คือผมสังเกตมาสักพักละ ช่วงหลังๆมานี่มันชอบพูดอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลย!! ผมนี่ขนลุกไปทั่วร่างถ้ามันเป็นผู้หญิงน่ารักๆ ผมก็ยังพอทนได้นะแต่นี่คือแบบ!! ตัวเองก็เป็นผู้ชายตัวโตๆป้ะ? มาทำอะไรแบบนี้แล้วผมทนมองไม่ได้อ่ะ แถมเป็นผู้ชายเหมือนกันดูมันไม่มีอะไรให้พิศวาสได้เลยนะ ไม่เข้าใจ

     

    “อ่ะๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ คือจริงๆผมจะมาชวนคุณไปวัดด้วยกันอ่ะ”

     

    “แล้วทำไมฉันต้องไปด้วย ไปชวนคริสไป”

     

    “คืองี้นะเดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง...คือผมไปชวนคุณคริสคนแรกเลยนะจะบอกแต่ว่าวันนี้เขาปิดร้าน สงสัยจะพาน้องเทาเทาไปเที่ยว ส่วนคุณคยองซูวันนี้ก็มีสอนเด็กๆ แบคฮยอนก็เรียนอยู่เลยไม่ว่าง ก็เหลือคุณคนสุดท้ายเนี่ยผมเลยมาชวน”

     

    “...ไม่อยากไปอ่ะ” มันพูดซะผมไม่อยากไปเลยเนี่ย เอาจริงๆคือผมไม่ค่อยเชื่อะไรพวกนี้อยู่แล้วอ่ะครับ งมงาย

     

    “เดี๋ยวผมไก่...”

     

    “เออๆๆๆ เข้าใจแล้วไปด้วยก็ได้”

     

    “ไปนะ!!!?

     

    “เออๆ ไปๆ ไปไง รถอยู่ไหน?”

     

    “นั่นไง”มันทำปากจู๋ชี้ไปทางนอกบ้านผมขยับตัวมองหารถสองสามทีก็เจอกับรถคันงามของมันจอดอยู่...นี่พร้อมมากเลยสินะ

     

    “งั้นไปสิ รออะไรล่ะเดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ” ผมรีบปัดเนื้อตัวแล้วลุกขึ้นยืนคือเพิ่งสังเกตว่ามันสูงกว่าผมขนาดนี้..

     

    “ไปกันเถอะ let’s go!” มันทำหน้าตาร่างเริงก่อนจะคว้ามือผมไปแล้วลุกออกนอกบ้านทันที

     

    ...เอ้ะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ลงมาเร็วเข้า” ไอ้กางที่ใส่แว่นดำเดินลงมาเปิดประตูรถให้ครับ...

     

    “ทีหลังฉันเปิดเองก็ได้นะเกรงใจไม่ใช่นางเอกซีรี่ย์ด้วยแหละ” ผมเดินออกมายืนกอดอกอย่างมาดแมน

     

    “ป่าว พอดีผมจะมาหยิบของที่ลิ้นชักนี่” แขนยาวๆของเขาเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหน้ารถแล้วหยิบซองสีขาวๆมายืนพนมมือบ่นพึมพำก่อนจะเดินไป

     

    “...” เอิ่บ..เด็กๆที่เดินผ่านมาระวังเหยียบเศษหน้าพี่จงอินนะครับ

     

    “เดี๋ยวผมมานะคุณไปรอหน้ารานดูดวงนั่นไป” มันหันกลับมาเอาแว่นชี้ๆหน้าผมก่อนจะเดินหายไปอีกรอบ

     

    “เออ!!” ตะโกนไล่หลังมันไป ไอ้นี่มันงมงายจริงๆเลยให้ตายเหอะ เรียนเภสัชมาแต่เชื่อเรื่องพวกนี้อ่ะนะ?

     

    ผมเดินแตะฝุ่นไปเรื่อยๆจนถึงหน้าร้านดูดวงที่มันชี้มา ถามจริงทำไมถึงเลือกร้านนี้..

     

     

    แม่หมอโจควอน

     

    รับดูดวงทั่วราชอาณาจักร แม่นไม่แม่นไม่รู้ถ้าหล่อแม่หมอดูฟรี

     

     

    094-xxxxxxxx เบอร์แม่หมอเอง โทรมานะ

     

     

     

    มันน่าดูตรงไหนเนี่ย!

     

    “มาแล้ว....อ่ะนี่” ไม่ทันไรไอ้กางก็วิ่งหอบแฮ่กๆมาพร้อมกับยื่นของมาให้

     

    “อะไรเนี่ย”

     

    “ป้าคนขายของเขาบอกว่ามันเป็นจี้ดูดโชคร้ายออกไปอ่ะ” มันยกสร้อยที่มีจี้เป็นรูปกังหันหมุนได้มาตรงหน้าผม โอ้โหตาลายเลยครับ

     

    “นายโดนหลอกละ...”

     

    “เอ้ะคุณ ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะเออ”

     

    “...ขอบใจ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกคุณ เออนี่ๆ ดูของผมดิใหญ่กว่าของคุณอีก” มันหยิบจี้รูปกังหันแบบเดียวกันกับของผมแต่ใหญ่กว่าประมาณสองเท่าได้ขึ้นมา นี่มันจะแขวนไว้หน้าบ้านใช่ไหม? อย่าว่าแต่โชคร้ายไม่มาทำอะไรเลยขนาดผมเองยังกลัวมันเอาฟาดหัวผมเลยเนี่ย

     

    “นี่!! เว่อร์ไปป้ะเนี่ย!

     

    “เอ้า คุณก็เห็นนี่ว่าดวงผมมันเส็งเคร็งอ่ะ”

     

    “นี่เชื่อไอ้เซียมซีนั่นหรือไง โอ๊ย เอาจริงป้ะเนี่ย...”

     

    “เออน่าคุณ ผมอยากดูดวงละ ดูกันๆๆๆ”

     

    และอีกครั้ง

     

    ที่มัน

     

    ลากผมไปมาตามใจชอบ

     

    ถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหนเหรอ

     

    ก็นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่ร้านหมอดูโรคจิตนี่ไง!!

     

    “สวัสดีฮร้า ว่าไงจ๊ะสุดหล่อ” นั่นไงๆ พอเดินเข้ามาเจ๊แกก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับชุกยาวฟรุ้งฟริ้งแล้วก็ลากแขนเราสองคนไปนั่งบนเก้าอี้สีแดงเหมือนปากเจ๊เลย

     

    “เอ้อ...ผมมาดูดวงอ่ะครับ..ป้า...”

     

    “ถ้าเรียกพี่สาวสุดสวยจะดูให้ฟรีนะจ๊ะ” //ส่งวิ๊งค์

     

    “สวัสดีครับพี่สาว....สุด..สวย..” แหม ประโยคหลังนี่เสียงอ่อยมากเลยนะไอ้กาง

     

    “ฮร้า ทีหลังเรียกว่าควอนนูน่าก็ได้นะจ๊ะ ว่าแต่วันนี้จะมาดูดวงเรื่องอะไรกันล่ะหื้ม?”

     

    “ก็มาดูเรื่องทั่วๆไปอ่ะครับ”

     

    “อ๋ออออ จ๊ะๆ ไหนเอามือมาให้นูน่าดูหน่อยสิจ๊ะ”

     

    “อ่าครับ...จะดูลายมือเหรอครับ?”

     

    “ปล่าวจ๊ะ นูน่าอยากจับเฉยๆมือนุ่มอุ่นจังเลยนะพ่อหนุ่มฮิๆ”

     

    “จะดูได้ยัง?” ผมที่นั่งเงียบอยู่นานต้องเอ่ยปากพูด คือไม่ได้อะไรหรอกนะครับคือผมง่วงไงมันจะอ่อยกันอีกนานไหม? อยากนอนแล้ว

     

    “อ้าว พ่อหนุ่มนี่พูดได้ด้วยเหรอจ๊ะ? ไหนเอามือมาสิ”

     

    “มือผมสากโคตรๆ อย่าจับเลยครับ”

     

    “โอ๊ย...มาดแมนแฮนด์ซั่มจังเลยลูก นูน่าชอบ” //คว้าหมับแล้วจับดู

     

    !!!!” อีป้านี่!! กล้าดียังไงมาคว้ามือผมไปจับแล้วเอาแก้มลูบๆอ่ะ!!!

     

    “เอ่อคือ..ดูให้ผมก่อนก็ได้ครับ” จู่ๆไอ้กางก็ดึงมือผมออกจากป้าแล้วเอามากุมไว้ซะเอง เห้ย..ปล่อยดิ!

     

    “อ่าจ้ะ เดี๋ยวพอนูน่าสับไพ่เสร็จพ่อหนุ่มก็เลือกไพ่มาสามใบเลยนะ” 
    “ใบนี้คืออดีต นี่คือปัจจุบัน และนี่ ไพ่อนาคต” เจ๊แม่หมอก็เครียดกันครับ กดดันสุดๆ ณ จุดๆนี้ จงอินกดดันเลยครับ

     

    “ไพ่อดีตคือไพ่งูสวมชฎาบ่งบอกว่าคุณมาจากตระกูลที่ดี พ่อแม่พี่น้องคอยเกื้อหนุนจุนเจือคุณโดยตลอด”

     

    “ไพ่ปัจจุบันคือไพ่ชายแก่ตกถังบ่งบอกถึงช่วงนี้คุณจะอยู่ในช่วงมรสุมของชีวิตจะต้องพลัดบ้านพลัดเมืองมายังแดนไกลชีวิตช่วงนี้จะลำบากและค่อนข้างเส็งเคร็ง”

     

    “ต่อไปใบสุดท้ายไพ่ฟันทองคำ บ่งบอกว่าจะมีบุคคลคนนึงที่กำลังลำบากกว่าคุณมาวนเวียนอยู่ใกล้คุณขอให้คุณรีบช่วงเหลือเขาซะ ถ้าคุณช่วยสำเร็จชีวิตของคุณก็จำกลับมารุ่งโรจน์ชัชวาลอีกครั้ง จะโชคดีทั้งการงาน การเงิน และความรัก”

     

    “แล้วคือ....ยังไงต่ออ่ะครับ?”

     

    “เอาเป็นว่า ถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือจากนายนายก็ช่วยเขาไปละกัน เอ้าแล้วพ่อหนุ่มหล่อล่ำล่ะจะดูไหม?” พอพูดเสร็จเจ๊หมอแกก็หันมาทางผมแถมเอื้อมมือมาเหมือนจะคว้ามือผมไปกุมอีกรอบ แต่พลาดเถอะหมอ มือผมถูกให้กางนี่จับแน่นอยู่

     

    “เอ่อ ผมไม่ต้องก็ได้ครับ เกรงใจ ฮ่าๆๆๆ”

     

    “วุ้ย ไม่ต้องเกรงใจหรอกพ่อหนุ่ม ไม่คิดตังค์เพิ่มหรอกแถมให้ฟรี”

     

    “อ่า..”

     

    “อ่ะตัดไพ่สิ”

     

    “มีกรรไกรไหมครับ?”

     

    “เห็นว่าหล่อนะ จะไม่ตบ”

     

    “ขอโทษครับ” ผมหัวเราะแห้งๆให้เจ๊แกแล้วพยายามดึงมือออก แต่ไอ้กางมันไม่ยอมปล่อยออกง่ายๆน่ะสิจนผมต้องกระทิบเท้ามันไปถึงยอมปล่อย

     

    “อ่ะนี่ครับ เลือกไพ่สามใบด้วยใช่ป้ะ อ่ะๆ” ผมพูดพร้อมกับทำทุกอย่างเสร็จสรรพ

     

    “เอิ่ม รีบทำเองซะเสร็จเลยนะพ่อหนุ่ม” แม่หมอหันมาจิกผมนิดหน่อยก่อนจะเริ่มทำนาย

     

    “มาเริ่มที่ไพ่อดีตเป็นไพ่ไก่ฟักไข่บ่งบอกถึงชีวิตในอดีตของคุณเป็นชีวิตที่ครุมเครือไม่แน่นอน ย้ายถิ่นฐานค่อนข้างบ่อย แต่พ่อแม่ของคุณก็รักคุณถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่ค่อยมีเวลาให้ก็เถอะ”

     

    “ไพ่ปัจจุบันคือไพ่ไก่งงจนตาแตก บ่งบอกถึงชีวิตช่วงนี้ของคุณจะค่อนข้างมีปัญหาโดยเฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ปีกถ้าคุณเข้าใกล้อาจจะมีภัยร้ายที่ทำให้คุณบรรลัยวายวอด จะมีเรื่องวุ่นวายไม่หยุดหย่อนจะต้องปวดหัว ปวดใจ ปวดขา ปวดแขนเป็นอย่างมาก หรือพูดง่ายๆว่าดวงของคุณช่วงนี้ชงกับสัตว์ปีก”

     

    “ไพ่อนาคตคือไพ่ไก่กาเล่นน้ำสงกรานต์ บ่งบอกถึงจะมีผู้เข้ามาช่วยเหลือคุณจากปัญหาทุกอย่าง เค้าคนนั้นจะเป็นคนมีภูมิฐาน มีการศึกษา หน้าตาผิวพรรณดูดี หากคุณได้อยู่คบค้าสมาคมกับเขาจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นและปัญหาต่างๆจะคลี่คลายลงได้”

     

    “ทำไมชีวิตผมถึง...” เส็งเคร็งกว่าไอ้กางชานยอลอีก!!

     

    “ก็อย่างที่บอก ช่วงนี้ดวงพ่อหนุ่มชงกับสัตว์ปีก โดยเฉพาะไก่”

     

    “แต่ผมขายเหนียวไก่อยู่นะ!!!

     

    “งั้นก็เลิกขายซะนะพ่อหนุ่มถ้าไม่อยากให้มันแย่ไปกว่านี้”

     

    “เลิกขายไม่ได้หรอก! นี่มันชีวิตของผมเลยนะเลิกขายแล้วผมจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าวกินอ่ะ!

     

    “ถ้างั้นพ่อหนุ่มก็ต้องหาคนมาช่วยตามที่ไพ่ทำนายแล้วล่ะ ใครสักคนที่ดูภูมิฐาน มีผิวพรรณที่ดี”

     

    “....” แล้วมันคือใครล่ะ!!! คนรู้จักผมก็ไม่ค่อยจะมีซะด้วย จะรู้จักจริงๆจังก็แค่ไม่กี่คนเอง!

     

    “อะไรคุณมองผมทำไม?”

     

    “...” ผิวพรรณดี รูปร่างดี มีภูมิญานงั้นเหรอ??

     

    “อะไรของคุณเนี่ย? อยู่ๆจะมามองว่าผมหล่อใช่ป้ะ?”

     

    “ปาร์คชานยอลเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี่คยองซู เรียนเสร็จแล้วไปหาเทาเทากัน”

     

    “จะรบกวนคุณคริสเขาหรือเปล่าแบค”

     

    “ไม่หรอก” ผมหันไปส่ายหัวทำท่าน่ารักให้คนที่กำลังทำตาโปนๆดุผมอยู่ แต่ก็ได้ฝ่ามือพิฆาตฟาดแขนผมแทน ชอบทำร้ายร่างกายอยู่เรื่อยเลยคนอะไรก็ไม่รู้

     

    จริงๆผมกับคยองซูเราไม่ใช่พี่น้องกันหรอกครับ ผมก็เป็นแค่เด็กมัธยมปลายหน้าตาดีที่มาเรียนติวเตอร์กับคยองซูเท่านั้นเอง แต่ถ้าจะถามว่าผมได้มาเรียนไหมตอบได้เต็มปากเลยครับว่าตั้งใจมาเต๊าะติวเตอร์อวบๆตาเหลือกคนนี้โดยเฉพาะเลย ดูดิ คนอะไรน่ากัดชะมัด!!

     

    “นายรู้ได้ไงว่าจะไม่กนคริสฮยองเค้า?”

     

    “ผมเก่ง”

     

    “ถ้าเก่งจริงก็รีบๆทำโจทย์ข้อนี้ให้ถูก”

     

    “นี่ไง” ดันสมุดให้

     

    “นี่คงไม่ได้แอบดูเฉลยใช่ไหมแบคฮยอน?”

     

    “ห๊ะ?? ปล่าเลยนะ!” ให้ตายเหอะ ทำไมเขาต้องคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นด้วยอ่ะ แต่เอาจริงๆผมก็ทำอ่ะแหละนะ คือโจทย์แค่นี้ผมก็ทำได้นะแต่ขี้เกียจจะทำแล้วอ่ะผมอยากออกไปเล่นมากกว่า

     

    “บอกความจริงมาแบคฮยอน นายดูเฉลยใช่ไหม?”

     

    “จริงๆนะครับ คยองซูเชื่อแบคนะครับ”

     

    “หน้าอย่างนายฉันเชื่อไม่ลงอ่ะจริงๆ”

     

    “ไม่เชื่อเค้ากอดนะ”

     

    “ไม่ต้องมายุ่ง!

     

    “เขินอ่ะดิ!

     

    “แบคฮยอน พ่อแม่ส่งนายมาเรียนนะไม่ได้ให้มาลามปามครูอาจารย์”

     

    “นี่ก็ไม่ได้มองว่าคยองซูเป็นอาจารย์สักหน่อย”

     

    “...หมายความว่าไง”

     

    “ก็แบบนั้นแหละ”

     

    “แบบนั้นมันแบบไหน?”

     

    “ก็...ไว้บอกแล้วกันไปหาเทาเทากันเถอะ!

     

    “เดี๋ยวๆ แบค อย่าเพิ่งลากฉันออกไปสิ ยังไม่ได้ล็อคประตูบ้านเลยนะ!

     

    แกร๊ก!!

     

    “ล็อคให้แล้วนะครับคุณครูคยองซู”

     

    “เอากุญแจมาตอนไหน? ฉันจำได้ว่าฉันเก็บมันติดตัวตลอดนะ!!!!” คุณครูตาโตหน้าเหวอทันทีที่ผมจัดการเอากุญแจบ้านเขาออกมาไขเพื่อล็อคประตูจากด้านนอก

     

    “ก็ตัวเองทำหล่นไว้เมื่อกี้ในบ้าน” เอ่อ..เอาจริงๆผมแอบขโมยไปทำกุญแจสำรองมาพกติดตัวไว้ได้สักพักแล้วล่ะครับ เอาไว้ใช้เวลาฉุกเฉินน่ะครับ

     

    แค่นั้นจริงๆนะ

     

    “งั้นเหรอ เดี๋ยวนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองขี้หลงขี้ลืมยังไงไม่รู้ ฉันอาจจะทำงานหนักเกินไป..”

     

    “พักบ้างนะ” ผมเอื้อมมือไปนวดๆที่ขมับคนที่เดินตามหลังมาเหมือนเด็กก่อนจะลดระดับมือไปกุมผ่ามืออีกคนไว้แทน

     

    “ก็สาเหตุที่ทำให้ฉันเหนื่อยก็คือนายนี่แหละแบคฮยอน เด็กคนอื่นที่ลงเรียนไม่เห็นจะสอนยากแบบนายเลย”

     

    “เพราะรักหรอก”

     

    “เอ๊ะ!

     

    “อ้าว..สงสัยคริสฮยองพาเทาเทาไปเที่ยวแน่เลยอ่ะคยองซู หน้าร้านแขวนป้านปิดแบบนี้อ่ะ งั้นไปหาชานยอลฮยองกันเถอะ!!

     

    “..แต่ฉันเห็นคุณชานยอลกับคุณจงอินนั่งรถออกไปกันตั้งแต่เช้าแล้วนะ”

     

    “นั่นรถ” ชี้ไปที่รถ

     

    “อ้าว...”

     

    “ชานยอลฮยองครับผม...อะ..อ้าว จงอินฮยองสวัสดีครับ ทำไมฮญองมาอยู่นี่อ่ะ?” ผมถามคนที่นั่งจุ้มปุ๊มอยู่หลังเคาท์เตอร์ร้านขายยาแบบงงๆ คืออะไร

     

    “อ๋อ พอดีว่ามีเรื่องคุยกันนิดหน่อยน่ะ”

     

    “อ้าวเหรอ นี่ผมมากวนพวกฮยองป้ะเนี่ย?”

     

    “ไม่เป็นไรๆ ฉันมีเวลาอีกเยอะแยะแล้วนี่มาทำไรอ่ะ? ซื้อยาเหรอ?”

     

    “ปล่าวครับๆ มาเล่นเฉยๆอ่ะ ฮ่าๆๆ”

     

    “ที่นี่มีอะไรให้เล่นด้วยเหรอวะ?” คนที่นั่งหน้ามึนบ่นพึทพำกับตัวเอง

     

    “อะไรนะฮยอง?”

     

    “ปล่าวๆ ไอ้กาง..เอ้ย ฉันหมายถึงชานยอลอยู่ในครัวอ่ะไปหาดิเดี๋ยวฉันกลับบ้านก่อน”

     

    “อ่อครับๆ เจอกันนะฮยองระวังตัวด้วยนะครับ”

     

    “เอ้อๆ เจอกันๆ”

     

    ผมหันกลับไปมองจงอินฮยองที่เดินออกไปก็เจอกับคยองซูที่ขอไปคุยโทรศัพท์เดินสวนกลับมาในร้านพอดี

     

    “แบคฮยอน เมื่อกี้แม่นายโทรมาบอกว่าวันนี้มารับไม่ได้แล้วนะ”

     

    “อ้าว งั้นวันนี้ขอนอนบ้านคยองซูได้ไหมอ่ะ ขี้เกียจกลับบ้านเองอ่ะมันไกล”

     

    “จะบ้าเหรอ”

     

    “ไม่มีเงินกลับบ้านด้วย”

     

    “เดี๋ยวให้ยืม”

     

    “ไม่เอาอ่ะเกรงใจ”

     

    “แล้วนอนบ้านฉํนนี่ไม่เกรงใจหรือไง?”

     

    “อ่า..”

     

    “อ้าวไงครับ”

     

    “อ๋า...คุณชานยอลสวัสดีครับ”

     

    “คุยอะไรกันอยู่เหรอ?”

     

    “คืองี้ชานยอลฮยอง แม่ผมโทรมาบอกว่ามารับไม่ได้แล้วผมเลยว่าจะขอนอนบ้านพี่คยองซูอ่ะ ไหนพรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้วด้วยแถมบ้านผมก็อยู่ไกลมากจะให้นั่งรถไปก็คงจะนานนิดหน่อย”

     

    “อ๋อ ก็นอนสิครับฮยองว่าคุณคยองซูต้องให้เรานอนอยู่ละ คุณคยองซูใจดีจะตาย” ชานยอลฮยองหันมาลูบหัวผมเบาๆก่อนจะหันไปยิ้มสดใสให้กับคยองซู

     

    “เอ่อคือ..พ่อแม่แบคฮยอนเขาอาจจะเป็นห่วงก็ได้นะครับ”

     

    “ก็เดี๋ยวผมโทรไปบอกไง”

     

    “ถ้าพ่อแม่นายไม่ว่าอะไรฉันก็...”

    “ขอบคุณครับ ชานยอลฮยองด้วยขอบคุณนะฮยอง ฮยองคือเดอะเบสของผมเลยอ่ะ!” ผมหันไปยกนิ้วโป้งสองข้างให้ฮยองตัวสูงข้างๆ เขาหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะยื่นมือถือมาให้

     

    “โทรหาแม่นายไหม?”

     

    “ขอบคุณครับ!! ผมขอออกไปโทรหาแม่ก่อนนะเดี๋ยวกลับมานะ!

     

     

     

    “เฮ้อ...เด็กคนนี้” คยองซูส่ายหัวให้กับการกระทำเด็กๆของแบคฮยอน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบหรืออะไรหรอกนะ แต่บางทีเขาก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากกว่าติวเตอร์น่ะสิ

     

    “ผมว่าน่ารักออกนะครับแบคฮยอนน่ะ ดูเป็นเด็กร่าเริงดี ฮ่าๆๆ คุณคยองซูคงจะมีความสุขเวลาอยู่ด้วยแน่ๆเลย”

     

    “จะว่ายังดีล่ะ ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันอ่ะ”

     

    “ถ้าไม่เจอเขาสักวันคุณจะเหงาไหม? ถ้าคุณเหงาก็แปลว่าคุณคยองซูอยู่กับเขาแล้วมีความสุขล่ะครับ”

     

    “งั้นเหรอ” ดวงตากลมโตค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกด้วยท่าทางลั้ลลา ให้ตายเถอะเขาเดาคำตอบของคุณแม่แบคฮยอนได้เลยถ้าเจ้าตัวดีใจขนาดนั้น

     

    “ว่าแต่คุณชานยอลมีเรื่องอะไรกับคุณจงอินเหรอครับเห็นเขาบอกผมว่ามาคุยอะไรกันนิดหน่อยทะเลากันเหรอครับ_?”

     

    “อ๋อ ช่วงนี้อาจจะไปขายของที่ร้านจงอินแล้วจงอินจะมาอยู่ร้านผมแทนอ่ะครับ”

     

    “ครับ_?”

     

    “อ่า คือมันอธิบายยากอ่ะครับ ผมพูดไม่ค่อยถูกเท่าไหร่เพราะผมเองก็งงเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ”

     

    “ไม่เป็นไรครับๆๆ ไว้วันหลังค่อยบอกก็ได้ครับ”

     

    “งั้นไว้เจอกันครับนี่ก็เย็นมากแล้วฝันดีนะครับผมขอไปบ้านจงอินเป๊ปนึงนะ” คนตัวสูงยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะตบบ่าอีกคนแล้วเดินออกจากร้านไป แบคฮยอนที่คุยโทรศัพท์เสร็จก็รีบวิ่งเอาของไปคืนให้กับเจ้าของก่อนจะเดินกลับเข้ามาหาติวเตอร์ที่ยืนตาโปนอยู่ในร้าน

     

    “ชานยอลฮยองรีบไปไหนอ่ะ?”

     

    “ไปบ้านคุณจงอินน่ะ”

     

    “เอ้า ก็เมื่อกี้จงอินฮยองเพิ่งกลับไป”

     

    “อ้าวเหรอ ฉันลืมอ่ะ ⊙_⊙

     

    “แล้วแบบนี้ใครจะเฝ้าร้านให้ชานยอลฮยองอ่ะเนี่ย?”

     

    “งั้นเรานั่งเฝ้าให้ชานยอลฮยองก่อนไหม?”

     

    “อ้าว สวัสดี ยังอยู่เหรอ? หาของอะไรป่าวเดี๋ยวช่วย”

     

    “อ๋อปล่าวครับๆ พวกเราแค่เฝ้าร้านให้คุณชานยอลน่ะ⊙_⊙” คยองซูตื่นเต้น

     

    “งั้นไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวผมดูร้านให้เอง”

     

    “อ้าวแล้วฮยองไม่อยู่บ้านเหรอครับ?”

     

    “ชานยอลกำลังปิดบ้านให้ฉันอยู่อ่ะ”

     

    “เอ๋? ⊙_⊙” คยองซูสงสัย

     

    “อะไรอ่ะฮยองผมงงว่ะ”

     

    “คืองี้เรื่องมันยาวแต่ฉันก็ว่างพอที่จะเล่าให้นายฟังอ่ะนะ”

     

     

    ย้อนกลับไปชั่วโมงก่อน

     

    “นี่คุณลากผมออกมาทำเนี่ยผมจะดูดวง

     

    “นาย...”

     

    “หื้ม?”

     

    “ถ้าเจ๊หมอดูพูดเป็นเรื่องจริงล่ะก็ นายจะต้องช่วยฉันขายไก่แทนฉัน!

     

    “ห๊ะ!? แล้วร้านผมอ่ะ?”

     

    “เดี๋ยวฉันเฝ้าให้เอง”

     

    “คุณรู้จักชื่อยาอะไรพวกนี้เหรอ?”

     

    “ก็...ไม่หรอก...”

     

    “แล้วทำไงอ่ะ?”

     

    “ถ้ามีลูกค้าเดี๋ยวฉันไปเรียนเอง”

     

    “ลำบากไปไหมคุณ ส่งไลน์คาเคาทอล์กก็ได้มั้ง”

     

    “ฉันไม่เล่น...” จริงๆคือเล่นไม่เป็นน่ะ

     

    “จริงอ่ะ? งั้นเอามือถือคุณมาเอาเบอร์ผมไปก่อน เอามือถือคุณมาดิ”

     

    “เอาไปทำไม!!

     

    “เมเบอร์ให้ไงคุณก็ถามแปลก ผมคงเอาไปตำส้มตำขายมั้ง”

     

    “ไอ้....เอาไป!!” มือถือเครื่องกะทัดรัดถูกยัดใส่มืออีกคนด้วยอารมณ์อยากจะบีบคอมันสุดๆ คนบ้าอะไรกวนส้นชะมัด! หงุดหงิด!!!

     

    ใช้เวลาไม่นานมือถือเครื่องนั้นก็ถูกส่งกลับมาอยู่ในมือของเจ้าของตามเดิม เขาเลื่อนดูรายชื่อที่อีกคนเมมไว้ให้ก็ต้องหน้าตึงอีกรอบ..

     

    ชานยอลคนหล่อ

     

    ถุ้ยยยย!!

     

    อยากจะถุ้ยใส่หน้ามันจริงๆ!!

     

    คิดได้แค่นั้นสองมือก็รีบจัดการกดแก้ไขชื่อและเปลี่ยนมันทันที

     

    ไอ้กาง!’

     

    “เห้ยทำไมคุณทำงี้อ่ะ เอามาให้ผมเปลี่ยนชื่อเป็นคนหล่อเหมือเดิมเลยนะ”

     

    “ไม่ให้เว้ย!!

     

    “เอามานี่” แขนยาวยื่นมาพยายามจะคว้ามือถืออย่างรวดเร็วแต่เขาก็คว้าได้แค่อากาศเท่านั้นเพราะความเร็วกว่าของอีกคน

     

    “จับไม่ได้อ่ะดิ ฮ่าๆ”

     

    หมับ!

     

    “เฮ้ยๆๆๆ ไอ้กางปล่อย!” หัวเราะได้ไม่นานก็ถูกรวบตัวไปแล้วศึกแย่งมือถือก็เกิดขึ้นอย่างดุเดือด

     

    “อยู่นิ่งๆแล้วส่งมือถือมาเลยนะคุณ”

     

    “แล้วทำไมฉันต้องทำตามนายด้วย?”

     

    “คุณกำลังขอให้ผมช่วยคุณอยู่นี่ ใช่ไหม?”

     

    “ชิ! เอาไป!” ถึงจะขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ต้องยอมปล่อยมือถือให้อีกคนเปลี่ยนชื่อกลับเป็นสุดหล่อเหมือนเดิม เอาเหอะ ยังไงก็มือถือเราเปลี่ยนคืนทีหลังก็ได้!!!

     

    “เด็กดี” ลูบผม

     

    “ไอ้กาง!!!

     

    “ฮ่าๆๆๆ น่ารักเชียว กิ้วๆๆๆ”

     

    “เงางือหงอกหงากงะหงูกงั้นง้ะ!! (เอามือออกจากจมูกฉันนะ) ” เสียงของจงอินกลายเป็นเสียงนาสิกไปซะแล้ว เพราะว่ามือของคนตัวโตแต่การกระทำมุ้งมิ้งตรงหน้านี่กำลังบีบจมูกเขาไปมาเนี่ยสิ!

     

    “ไม่ดุสิครับๆ”

     

    “ฉันจะกัดมือแกให้ขาดไปเลย!!” พอจมูกได้รับอิสระก็กลับมาขึ้นเสียงเชียว...

     

    “ถ้ามือผมขาดแล้วผมจะจับมือคุณยังไงล่ะ?”

     

    “ก็ไม่ได้ขอให้จับสักหน่อย”

     

    “ไม่ช่วยล่ะ...”

     

    “เห้ยเดี๋ยวก่อนสิ!!” พูดแค่นี้ก็เดินหนีล่ะ จะไปไหน!!

     

    “ทำไงก่อน?”

     

    “จะให้ทำอะไรเล่า...”

     

    “พูดเพราะๆกับผมก่อน”

     

    “ฮึ่ย...”

     

    “เร็วๆ ผมเปลี่ยนใจไม่รู้ด้วยนะ”

     

    “คุณ..ชาน..ยอล...ช่วยไปขายไก่ให้ผมทีนะครับ”

     

    “ครับ?”

     

    “คุณชานยอล!! ช่วยไปขายไก่ให้ผมหน่อย!!

     

    “ขึ้นเสียง?”

     

    “เรื่องมากจริง..”

     

    “ไปละ...”

     

    “เดี๊ยวววววว” คว้ามันไว้จงอิน คว้ามันไว้ คว้ามันให้เสื้อมันยืดถึงพื้นไปเลย

     

    “...”

     

    “คุณชานยอลครับ กรุณาช่วยไปขายไก่แทนผมทีนะครับ ผมจะไม่ลืมวามดีของคุณเลย”

     

    “ดีมาก” ยิ้มแป้นเชียว

     

    “....”

     

    “เอ้อ มีอีกเรื่องนึงที่ผมจะขอคุณอ่ะ”

     

    “อะไร?”

     

    “หลังจากนี้ช่วยเรียกชื่อผมได้ป้ะ อย่าเรียก ไอ้ แก อะไรแบบนี้เถอะ มันไม่น่ารักเลย”

     

    “แล้วทำไมฉันต้องน่ารักด้วย”

     

    “ก็ผมชอบอ่ะ”

     

    “...ก็..ฉัน...ไม่ได้อยากน่ารักสักหน่อย

     

    “เรียกเถอะนะ ผมยอมคุณล่ะ”

     

    “งั้นนายต้องเรียกฉันว่าจงอินสุดหล่อก่อนไอ้...เอ่อ..ชานยอล”

     

    “จงอินสุดหล่อของชานยอลครับ”

     

    “ไม่เอาท่อนหลังเว้ย!

     

    “จงอิน”

     

    “เอาสุดหล่อด้วย”

     

    “ไม่เอาหรอกผมขนลุก”

     

    “บางคำที่แกเคยพูดยังน่าขนลุกกว่าอันนี้อีกนะ”

     

    “จงอินจ๋า”

     

    “ฉันขนลุกนะเว้ยยย”
     

    “ผมไปปิดร้านให้คุณก่อนนะ”

     

    “ห้ะ?? ปิดร้านฉันทำไม?”

     

    “ก็จะให้คุณมาอยูที่บ้านผมแทนไงไหนๆก็ต้องมาขายยาแทนผมนี่”

     

    “นี่..หมายความว่า?”

     

    “ผมจะช่วยคุณ”

     

    “เฮ้ย จริงดิ!! จริงดิชานยอล! ชานยอล ชานยอล ชานยอล!!!!

     

    “แหม ทีแบบนี้ยอมเรียกแล้วก็มากอดผมแน่นเลยนะ”

     

    “เฮ้ย!!ฉัน..ปล่าวนะ ไม่ได้กอดสักหน่อย”

     

    “ครับๆๆ จงอินสุดหล่อครับ ไปเฝ้าร้านให้ผมหน่อยเดี๋ยวจะไปเก็บร้านกับของให้”

     

    “โอเค ขอบคุณนะ”

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC.เหนียวไก่

    มาละหลังจากหายหน้าหายตาไปน๊านนานด้วยความขี้เกียจเดียดฉันท์ของคนพิมพ์ ฟิคมันไปไกลแล้วแต่คนพิมพ์มันขี้เกียจเอง ขอโทษทุกคนด้วยครัช คราวหน้าจะพยายามขยันนะคะสาบานว่าจะพยายาม  
    เออแก เราควรมีแท็กฟิคเหมือนเรื่องอื่นไหม? เอาไงดี #ฟิคเหนียวไก่ เอามะ เออ เอาเหอะๆ แท็กด้วยนะมุ้ฝๆ









     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×