ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guardian Heroes

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter IV : Lesson (บทเรียน)

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 49


    หลังจากที่พวกเด็กทั้งหก ได้พลังเวทย์มาแล้ว ทุกๆคนก็พยายามที่จะฝึกใช้พลังให้คล่องมากขึ้นโดยการจับคู่ซ้อมกัน จนเวลาล่วงเลยมานานหลายชั่วโมง พวกเขาก็สามารถใช้พลังได้คล่องขึ้นมากกว่าตอนแรกแล้ว และก็ยังมีพัฒนาการที่รวดเร็วจนน่าตกใจอีกด้วย

    ดรูว์ ระวัง ไดอาน่าตะโกนขณะที่เธอใช้พลังจิตควบคุมสิ่งของภายในห้องฝึกให้ลอยไปมาพลาด และของเหล่านั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาดรูว์

    ดรูว์หันมา และสะบัดมือทั้งสองไปยังทิศทางเดียวกับสิ่งของเหล่านั้น อย่างใจเย็น แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ล้วนเคลื่อนไหวอยู่ต่างก็หยุดค้างในอากาศทันที

    ระวังหน่อยสิ ไดอาน่าเธอตำหนิ

    แฮะๆ ขอโทษที่เมื่อกี้เร่งพลังมากเกินไปหน่อย  ไดอาน่าแก้ตัวพลางใช้พลังบังคับให้ของต่างๆกลับลงที่เดิม

    ดูท่าเธอจะเก่งขึ้นนะ แต่ขอโทษทีนะ ช่วยระวังอย่าให้โดนฉันได้มั้ย เดี๋ยวนางงามในอนาคตคนนี้จะเสียโฉมไป ดรูว์บอก

    ไดอาน่ายิ้มแหยๆอย่างหมั่นไส้ งั้นก็บอกมาสิว่าเธอสวยตรงไหนฉันจะได้ระวังเป็นพิเศษ เพราะจนถึงตอนนี้ฉันไม่เห็นมันในตัวเธอเลย

    เธอนี่ก็มีนิสัยน่ารักแต่ปากเสียไม่เปลี่ยนเลยนะ ดรูว์ยิ้มพร้อมกับมีรังสีอำมหิตแผ่ปกคลุมออกมา

     ก็แหงสิ ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี แล้วจู่ๆเราก็ต้องหลุดมาอยู่ที่โลกนี้ด้วยกัน แต่ฉันก็จำได้ว่าเธอน่ะเป็นโรคหลงตัวเองมาตั้งนานแล้ว ไดอาน่าบอกแกล้งทำเป็นไม่สนใจกับรังสีอำมหิต    ของดรูว์

    เอาเถอะๆ แล้วตกลง โรสไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะเนี่ย ดรูว์เปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเธอรู้ดีว่าทะเลาะกับไดอาน่าไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น

    เอ...เห็นบอกว่าจะไปฝึกกับพวกผู้ชายที่ดาดฟ้าน่ะ

    ต๊าย ร้ายกาจนัก ฉวยโอกาสเก่งมากมาย ดรูว์ว่า

    ก็เธอช้าเองนี่นา แล้วตกลงจะขึ้นไปข้างบนด้วยกันรึเปล่าไดอาน่าถาม

    ก็ดีเหมือนกัน ฝึกมาแล้วทั้งวัน ฉันอยากพักบ้างแล้วล่ะ ไม่รู้ว่าเซเนสเขาจะปล่อยเราไปเมื่อไหร่

    แต่อยู่ที่นี่ก็สบายดีนะ ฉันว่า ไดอาน่าพูดแล้วจึงเดินนำขึ้นไปบนดาดฟ้าของปราสาท

    ขณะเดียวกันที่ลานด้านบน เด็กสี่คนกำลังฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขัน โดยที่แม็กซ์จับคู่กับซีกกี้ และโรสจับคู่กับเควิน  เซเนสเองก็คอยนั่งจับตาดูอย่างใกล้ชิด อยู่ในสวนหย่อมเล็กๆที่อยู่บนดาดฟ้า

    พร้อมนะ โรส เควินถาม

    เข้ามาเลยค่ะ พี่เควิน เธอตะโกนตอบกลับมาอย่างเข้มแข็ง

    เควินได้ยินดังนั้น จึงเรียกก้อนหินขนาดเท่ากำมือให้กลายเป็นกลุ่มแสงสีเขียวด้วยพลังของเขา แล้วจึงขว้างมันไปยังโรสซึ่งตั้งท่ารออยู่แล้ว กลุ่มแสงนั้นกลับคืนกลายเป็นก้อนหินเหมือนเดิมก่อนที่จะชนโรส แต่เธอก็ได้รับก้อนหินก้อนนั้นให้หายเข้าไปในอีกห้วงมิติหนึ่ง เควินยังคงไม่ละสายตาไปจากโรสเพราะเขารู้ว่าโรสจะปล่อยมันกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้  และทันใดนั้นเอง เธอก็ขว้างก้อนหินก้อนนั้นกลับคืนไปหาเควิน เขาจึงเรียกให้ก้อนหินนั้นมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เมื่อเขาขว้างออกไป ก้อนหินก็หายไปต่อหน้าต่อตาโรส

    หายไปที่ไหนน่ะ โรสพูดด้วยความตกใจ

    ก้อนหินก้อนนั้นไปโผล่ขึ้นที่ด้านหลังของโรส และกำลังพุ่งเข้าไปหาเธอ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย แต่เควินก็เรียกก้อนหินก้อนนั้นให้กลับไปหาเขาในทันที  ก่อนที่มันจะทำอันตรายให้แก่ใคร

    ว้า กี่ครั้งๆ ก็แพ้เหมือนเดิม โรสพูดเมื่อรู้ตัวว่าเพิ่งจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้นี้

    อย่าคิดมากไปเลย ตอนนี้เธอเองก็เก่งแล้ว แต่ที่เธอขาดก็คือประสบการณ์เท่านั้น เควิน พยายามพูดปลอบใจเธอ

    ที่เควินพูดนั้นก็ถูกต้องแล้ว ที่เจ้าขาดไปก็คือประสบการณ์เพียงเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็อย่าคิดมากไปเลยเซเนสที่คอยสังเกตอยู่ก็แสดงความเห็นขึ้นมา แต่โรสก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นซักนิด

    ทางด้านแม็กซ์และซีกกี้ ชายทั้งสองฝึกซ้อมกันอย่างรุนแรงมากกว่าคู่อื่นๆ

    ย่าห์ ซีกกี้ตะโกน แล้วจึงใช้ร่างจิตของเขาเตะใส่แม็กซ์เข้าที่ท้องจนเขาต้องกระเด็นถอยไปหลายก้าว แต่ในขณะเดียวกันแม็กซ์ก็จับซีกกี้ที่ข้อเท้าของร่างจิต แล้วระเบิดมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ร่างจิตของซีกกี้ไม่มีเลือดพุ่งออกมาให้ขยะแขยงและไม่มีอาการของความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ส่วนตัวแม็กซ์เองก็กระเด็นล้มลงไปในภายหลังเพราะผลกระทบจากแรงระเบิดของตัวเอง

    แม็กซ์ยิ้มที่มุมปากแล้วจึงพูดขึ้นมาว่า ในที่สุดฉันก็รู้จุดอ่อนของนาย ซีก

    อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลยน่า เพราะจนถึงตอนนี้ฉันเองก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บเลยซักนิด ส่วนร่างจิตของฉันก็สามารถสร้างอีกกี่รอบก็ได้

    ใครว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมนายถึงเหงื่อออกมากถึงขนาดนั้นล่ะ แม็กซ์พูดอีกครั้ง และครั้งนี้ทำให้ซีกกี้ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เขาเหงื่อออกท่วมทั่วตัว โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวมาก่อน เหนื่อยใช่มั้ยล่ะ การควบคุมร่างจิตของนาย

    แล้วไง ฉันก็แค่จัดการศัตรูให้เร็วที่สุดแค่นั้นแหละน่าซีกกี้ตอบ

    นั่นก็จริง แต่ถ้าเกิดศัตรูของนายอึดกว่าที่คิดล่ะแม็กซ์ว่า

    ซีกกี้หน้านิ่วคิ้วขมวด เขาคิดหาคำตอบสำหรับปัญหานี้ไม่ได้  เขาพูดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

    เซเนสเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า ซีกกี้ พลังของเจ้านั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าคิดนัก หลังจากนี้ข้าอยากให้เจ้าใช้จินตนาการกับมันให้มากหน่อยนะ แล้วเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าบอก

    ซีกกี้ฟังแล้วก็คิดตาม แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

    แม็กซ์เจ้าฉลาดมากที่พยายามหาจุดอ่อนของศัตรูในขณะที่ต่อสู้ แต่ว่าอย่าให้มันนานไปนัก เซเนสพูดแล้วจึงยิ้มให้แม็กซ์

    ฮะฮะ นั่นสินะครับ แม็กซ์รับคำติชมอย่างไม่ขะเขิน

    และตอนนั้นเอง ดรูว์กับไดอาน่าก็ได้ขึ้นมาถึงด้านบนพอดี พวกเธอเห็นว่าคนที่เหลือยังไม่หยุดฝึกซ้อมกัน ดรูว์จึงพูดว่า ให้ตายเถอะ ทำไมพวกเธอถึงได้อึดกันถึงขนาดนี้เนี่ย

    เซเนสสังเกตเห็นการมาของทั้งสองจึงพูดขึ้นว่า ดีแล้วพวกเจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลย พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างล่ะราฟาเอล

    พวกเขาทั้งสองมีพัฒนาการที่รวดเร็วมากค่ะท่านเซเนส คุณไดอาน่าสามารถใช้พลังได้มากกว่าที่ฉันคาดคิดไว้ว่าจะเห็นภายในสองสามชั่วโมงเสียอีก ส่วนคุณดรูว์นั้นก็สามารถที่จะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างได้ในเพียงรวดเดียว ราฟาเอลพูดด้วยความชื่นชม

    ตอนนี้พวกเจ้าพร้อมแล้ว เซเนสพูดอย่างเรียบๆสั้นๆ แต่ก่อนที่พวกเจ้าจะไปกันข้ามีเรื่องที่อยากจะถามพวกเจ้าเสียหน่อย

    พวกเราต้องไปกันแล้วเหรอครับซีกกี้พูดอย่างเสียดาย

    เรื่องอะไรเหรอคะ โรสถามเมื่อเห็นว่าเซเนสเงียบไป

    พวกเจ้ามีใครบ้างที่สามารถตอบได้ว่าเวทมนต์นั้นเป็นสิ่งที่จะยิ่งใหญ่ได้ถึงขนาดไหน เซเนสถาม

    ทุกคนเงียบ เพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ตอนนี้พวกเขาเป็นแค่เพียงจอมเวทย์ฝึกหัดเท่านั้น และตลอดที่ผ่านมาพวกเขารู้แค่ว่าเวทมนต์นั้นเป็นสิ่งยิ่งใหญ่แต่จะยิ่งใหญ่ถึงขนาดไหนนั้นพวกเขาก็ไม่อาจรู้ได้

    เซเนสเห็นทุกคนเงียบจึงพูดขึ้นมาว่า ถ้าอย่างนั้น ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นก่อนละกันแล้วพวกเจ้าก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวของพวกเจ้าเอง

    ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเพราะพวกเขารู้ดีว่าเซเนสเป็นจอมเวทย์อันดับหนึ่งและตอนนี้พวกเขาจะได้เห็นเซเนสใช้เวทย์มนต์แล้ว มันคงเป็นเรื่องที่น้อยคนเท่านั้นที่จะได้เห็นอย่างแน่นอน

    เซเนสเดินออกไปบนกลางลานกว้าง เขาวาดมือเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นโลกที่ด้านหน้าของเขา แล้วไม้เท้าซึ่งมีคริสตัลประดับอยู่ที่ปลายยอดก็ปรากฏขึ้นมา มันยาวพอๆกับความสูงของเซเนส

    เขานำปลายไม้เท้ากระทบลงบนพื้น แล้วรอบๆตัวของเขาก็สว่างไสวขึ้นด้วยลวดลายของดาวหกแฉก แสงสีทองส่องขึ้นมาจากพื้นปราสาท เขาเริ่มท่องคาถาที่ว่า เมซาส โคเซอุส

    ทันใดนั้นเด็กทั้งหกรวมไปถึงราฟาเอลก็ตกอยู่ภายใต้เกราะกำบังสีเขียวอ่อนๆ แต่ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา เพราะใจของพวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับเซเนส

    เซเนสเริ่มท่องมนต์ต่อว่า เบลสก้า แล้วลูกไฟก็ปรากฏขึ้นที่ปลายของดาวหกแฉกที่ด้านหนึ่ง

    ซาลวาส ผลึกน้ำแข็งก็ลอยขึ้นมาอยู่เหนือปลายแฉกอันถัดไป

    เอิร์ลธิน พายุทรายพัดขึ้นที่แฉกอีกข้าง

    โวลเร็ด สายลมพัดเป็นวงอยู่ที่อีกแฉกหนึ่ง

    ควอลต้า แสงระยิบระยับสีขาวปรากฏขึ้นมาเป็นแฉกที่ห้า

    กราบลิส สายฟ้าแลบขึ้นมาจากปลายของแฉกสุดท้าย

    ในตอนนี้แต่ละปลายของเพนทาแกรมก็มีธาตุต่างๆปรากฏขึ้นมาครบแล้ว เซเนสจึงพูดต่อว่า จงเป็นหนึ่งเดียวกัน

    แล้วรอบๆตัวของทุกคนก็เกิดสภาพของบรรยากาศที่ปั่นป่วนขึ้น ลมพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าก็มืดครึ้มลง สายฟ้าแลบขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงฟ้าร้อง ฝุ่นลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ บดบังการมองเห็นต่างๆของเด็กทั้งหก ราวกับว่าพวกเขากำลังตกอยู่ท่ามกลางพายุทราย แต่พวกเขาก็หาได้ละทิ้งความพยายามที่จะมองไปยังเซเนสไม่ เซเนสกำลังยกมือสูงขึ้น พร้อมๆกับที่ธาตุทั้งหกลอยขึ้นมาบรรจบกันเป็นหนึ่งเดียวที่เหนือหัวของเขา เป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่ส่องแสงสว่างจ้าจนแสบตา จนพวกเขาต้องหรี่ตาลง หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มก้อนพลังงานนั้นได้ระเบิดออกมาอย่างแรง มันเข้าโจมตีทุกอนุภาคของทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในรัศมี 7 กิโลเมตร จนเมื่อแสงนั้นจางหายไป เด็กทั้งหกก็พบว่าพวกเขากำลังลอยอยู่เหนือความวางเปล่าที่กว้างใหญ่บนผิวโลก ทุกสิ่งทุกอย่างสูญสลายไปพร้อมๆกับการระเบิดเมื่อกี้ ทุกคนอ้าปากค้างกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเห็น

    น...น...นี่มันแม็กซ์อ้ำอึ้ง ตาเบิกโพล่งอย่างตกใจ

    รุนแรงเกินไปแล้ว โรสนำมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง

    ไม่น่าน่ะดรูว์พูดอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง

    เมื่อกี้มัน เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ ไดอาน่าเข่าอ่อนในทันที แต่แม็กซ์คว้าเธอไว้ก่อนที่จะล้มลงไป

    นี่น่ะเหรอ เวทมนต์ เจ๋งที่สุด ซีกกี้มีปฏิกริยาต่างจากคนอื่น เขาตื่นเต้นมากกับสิ่งที่ได้เห็นจนตัวสั่น

    แต่ก็มีคนที่ไม่พอใจกับเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน เควินเขาทำสีหน้าไม่ชอบใจอย่างมาก ทำไมคุณต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย แล้วชีวิตของคนอื่นๆล่ะเขากล่าว

    เซเนสไม่ตอบคำถามของเควิน แต่กลับพูดว่า ไบรห์ม ทรัสต์แล้วทุกสิ่งรอบๆตัวพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เหมือนกับการฉายวิดีโอย้อนกลับหลัง สิ่งต่างๆกลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนกับแต่ก่อน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

    จนถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังตกใจไม่หาย พวกเขาเห็นในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้มากเหลือเกินในช่วงสองวันนี้

    นี่ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น สหายน้อย เพราะเวทมนต์นั้นคือนิยามของคำว่าไม่มีที่สิ้นสุด ข้าสามารถที่จะเรียกภูติประจำสถานที่ต่างๆมาจัดการกับเจ้าได้ ข้าสามารถสั่งให้พวกเจ้าหายไปในอีกมิติหนึ่งตลอดกาล หรือแม้แต่ส่งพวกเจ้าลงไปในนรกก็ได้ เซเนสกล่าว แล้วทีนี้พวกเจ้าเข้าใจแล้วหรือยังล่ะ

    ทุกคนได้แต่พยักหน้า พวกเขาพูดไม่ออกเลยเมื่อเห็นสิ่งที่เซเนสเพิ่งจะทำเมื่อกี้

    เซเนสได้พิสูจน์ให้เด็กทั้งหกเห็นแล้วว่า คำว่า จอมเวทย์อันดับหนึ่ง ไม่ใช่ราคาคุยโม้อย่างแน่นอน เขาแสดงความสามารถได้อย่างน่าทึ่งและสมเกียรติยิ่งนัก

    แต่เวทมนต์ที่รุนแรงขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะมีคนใช้กันดาษดื่นหรอกนะ เพราะถ้าคนที่ใช้ไม่แกร่งพอ เวทมนต์มันจะกลับมาเล่นงานผู้ใช้เอง เซเนสอธิบายเมื่อเห็นว่าพวกเขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก แล้วพลังของพวกเจ้าเองก็เช่นกัน มันไม่ใช่พลังที่ใครๆก็สามารถจะใช้ได้ มันเป็นพลังที่มีแต่พวกเจ้าเท่านั้นที่จะใช้ได้

    เพราะเป็นคนต่างโลกเหรอครับ ซีกกี้ถาม

    เพราะเป็นผู้ที่ข้าเลือกต่างหากล่ะเซเนสพูดแล้วจึงยิ้มให้กับพวกเขาอย่างอ่อนโยน

    พวกเขาได้ยินดังนั้นก็เริ่มสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย พวกเขาได้รับการไว้วางใจจากจอมเวทย์อันดับหนึ่งและนั่นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆเลยในโลกใบนี้

    เอาล่ะ อีกหนึ่งชั่วโมง ข้าอยากให้พวกเจ้าไปพบข้าที่บริเวณห้องโถงใหญ่เพราะตอนนั้นเป็นเวลาอันเหมาะสมสำหรับการเดินทาง แล้วระหว่างนี้พวกเจ้าอยากจะทำอะไรก็แล้วแต่พวกเจ้าแล้วล่ะ เซเนสพูดแล้วก็เดินจากไปพร้อมๆกับราฟาเอล ทิ้งให้เด็กทั้งหกยืนอยู่ตามลำพัง

    ฉันไม่คิดเลยว่าเวทมนต์มันจะบะลึ้มฮึ้มอะไรขนาดนี้เลยนะเนี่ย ดรูว์พูด

    แล้วพวกปีศาจพวกนั้นล่ะ มันใช้เวทมนต์แบบนี้ได้รึเปล่าโรสบอกอย่างไม่ค่อยสบายใจ

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆแล้วพวกเราจะไปทำอะไรมันได้ล่ะ มันเหมือนมดดำไปสู้กับตัวกินมดยังไงยังงั้นซีกกี้เอ่ย

    หาคำอุปมาได้ทุเรศมากเลย ซีกกี้ ดรูว์ว่า

    งั้นก็อย่าพึ่งคิดอย่างนั้นสิ ใช่ว่ามันจะไม่มีทางซะหน่อย แม็กซ์พยายามที่จะกู้ความมั่นใจของทุกคนกลับคืนมา

    ที่แม็กซ์พูด ถูกต้องแล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับลูกเจี๊ยบ แต่วันข้างหน้าพวกเราทุกคนจะต้องเติบโตขึ้น และพี่ก็มั่นใจว่า พวกเราสามารถทำในสิ่งที่เซเนสทำได้ ถ้าพวกเราพยายามมากพอนะ เควินกล่าว

    แหมพี่เควินถ้าไม่มีพี่พวกเราก็คงมาไม่ได้จนถึงขนาดนี้นะเนี่ย  โรสดีใจจังที่มีพี่อยู่กับพวกเราแบบนี้น่ะ โรสบอก

    นั่นสินะ ถ้าเราท้อตอนนี้ก็เท่ากับพวกเราแพ้ไปแล้วครึ่งทาง แม็กซ์บอก

    เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ พวกเราเอามือมารวมกันที่ตรงกลางสิ ซีกกี้พูด แล้วจึงนำมือออกมาวางที่กลางวง คนอื่นๆก็นำมือมาวางซ้อนๆกันขึ้นมา โดยที่มีแม็กซ์วางเป็นคนสุดท้าย

    เพื่อชัยชนะของพวกเรา เพื่อช่วยโลกนี้ และเพื่อที่เราจะได้กลับบ้าน ซีกกี้ตะโกนขึ้น และทุกคนก็กำมือชูขึ้นไปบนฟ้า พร้อมกับใบหน้าที่ดูเบิกบานและมีพลังมากกว่าเดิม

    งั้นตอนนี้ฉันไปนอนก่อนดีกว่า แค่ใช้พลังไปเมื่อกี้ รู้สึกหมดแรงยังไงก็ไม่รู้ ดรูว์พูดแล้วจึงเดินหายเข้าไปในปราสาทพร้อมกับคนอื่นๆ

    ในตอนนั้นเองก็มีคนคนหนึ่งในกลุ่มที่มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก คนคนนั้นเหลือบมองไปยังแม็กซ์และซีกกี้ แล้วก็ถอนหายใจออกมา

    ซีกกี้ แม็กซ์ อยู่กับฉันก่อน คนคนนั้นพูดขึ้นมา

    ชายหนุ่มทั้งสอง หันหลังกลับไปมอง ก็เห็นเด็กสาวที่ร้องเรียกพวกเขา เธอคนนั้นก็คือ    ไดอาน่านั่นเอง เธอมองพวกเขาทั้งสองคน ด้วยสายตาที่เป็นกังวล

    มีอะไรงั้นหรือ ได แม็กซ์ถามขึ้นมาเมื่อรู้ว่าไดอาน่ามีเรื่องที่เป็นกังวลอยู่

    ฉันมีเรื่องที่อยากจะพูดกับพวกนายก่อนที่จะไม่มีโอกาส ไดอาน่าตอบอย่างแผ่วเบา เธอมองมายังพวกเขาด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ผมอันยาวสลวยสีน้ำตาลเรื่อๆของเธอถูกพัดพลิ้วไปตามกระแสลมที่โบกโชยมา ในตอนนี้เธอดูงดงามราวกับเทพธิดาเลยทีเดียว

    ตั้งแต่เมื่อไหร่นะที่เธอสวยจนเปล่งประกายได้ถึงขนาดนี้ แม็กซ์คิดอยู่ในใจ เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นความงดงามของไดอาน่า ซีกกี้เองก็เช่นกัน เขาคิดไม่ต่างไปจากแม็กซ์ เพราะชายทั้งสองคนนั้นต่างก็หลงรัก ไดอาน่ามาตั้งแต่สมัยยังเด็ก จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดปีแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขาทั้งสามคนได้เป็นเพื่อนสนิทกัน เพียงแต่ว่าชายทั้งสองไม่กล้าที่จะเปิดเผยความในใจออกมาให้อีกฝ่ายรู้ เพราะพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าถ้าพูดออกไปแล้ว มิตรภาพที่พวกเขาทั้งสามพยายามรักษามาเป็นเวลานาน จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน

    ฉันมีเรื่องที่จะขอร้องเธออยู่อย่าง ไดอาน่าพูดขึ้น เสียงของเธอดึงชายทั้งสองให้หลุดออกมาจากภวังค์ของตนเอง

    ไดอาน่า ฉัน.... ซีกกี้เผลอพูดขึ้นมา แต่ไดอาน่าทำเป็นไม่สนใจ เธอพูดต่อว่าในการเดินทางต่อจากนี้ ฉันอยากให้พวกเธอสัญญาว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเธอทั้งสองคนจะต้องไม่เสี่ยงชีวิตตัวเอง เพื่อช่วยฉัน

    ทำไมล่ะ ซีกกี้รีบถามกลับในทันที

    ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ที่พวกเธอสองคนเป็นฝ่ายที่ดูแลฉันมาตลอด จำได้มั้ยว่าตอนที่ฉันไปเล่นน้ำที่ทะเลกับพวกเธอเมื่อตอนอายุ 8 ปี แล้วฉันก็เกิดตะคริวกินขาขึ้นมา จนต้องร้องขอความช่วยเหลือ เธอสองคนก็พยายามที่จะว่ายไปช่วยฉัน จนตัวเองต้องจมน้ำไป สุดท้ายแล้วคนที่ไม่เป็นอะไรเลยก็คือฉัน ส่วนพวกเธอกลับต้องนอนซมอยู่อีกตั้งหลายชั่วโมง รู้มั้ยฉันมักโทษตัวเองเสมอกับเรื่องนั้นน่ะ

    พวกเราก็แค่อยากช่วยเธอเอง เธอไม่เห็นต้องโทษตัวเองเลยนี่นา แม็กซ์บอก

    ฉันคิดอย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะถ้าพวกเธอเกิดเป็นอะไรขึ้นมา โดยที่มีฉันเป็นต้นเหตุล่ะก็ ฉันก็คงทนอยู่ต่อไปไม่ได้ ฉันไม่อยากที่จะเสียพวกเธอไป พวกเธอเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน ไดอาน่าเริ่มพูดอย่างสะอึกสะอื้น น้ำตาซึมจนเธอต้องเอามือมาปาดออกไป

    แม็กซ์กับซีกกี้ได้แต่ยืนฟังอย่างเงียบๆ ใจของพวกเขาเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินว่าเธอคิดกับพวกเขาแค่เพื่อนเท่านั้น ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้ดีอยู่แล้วว่า ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้มากกว่านั้น

    ถ้าอย่างนั้นพวกเราสัญญา แม็กซ์พูด ซีกกี้ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับโมโห เขามองหน้า        แม็กซ์อย่างไม่พอใจ

    พวกเราจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถ โดยที่จะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเองแม็กซ์พูดออกมาอย่างนั้น แต่ใจเขาก็ไม่ได้คิดที่จะทำตามที่พูดเลยแม้แต่น้อย เขาพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อไดอาน่าอยู่แล้ว ซีกกี้ที่คบกับเขามานาน ก็เริ่มคิดได้ว่าแม็กซ์เองก็คงคิดเช่นเดียวกับเขา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา

    พวกเธอสัญญาแล้วนะ ไดอาน่ายิ้มอย่างโล่งอกแล้วจึงเดินเข้ามาโอบกอดชายทั้งสองอย่างห่วงใย และนั่นก็ทำให้แม็กซ์กับซีกกี้ต้องรู้สึกปวดใจอีกครั้งหนึ่ง เพราะพวกเขาเป็นได้แค่เพื่อนของเธอเท่านั้น

     

     

     

     

    จบ Chapter IV

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×