ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guardian Heroes

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter I : The chosen (ผู้ถูกเลือก)

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 49


    ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ขณะที่เป็นเวลาพักเที่ยงของนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ผู้คนมากมายกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากตึกเรียนไม่มากนัก

                    เฮ้ แม็กซ์ ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันพอดี ถ้านายมัวแต่นอนอยู่อย่างนี้น่ะเด็กหนุ่มผมดำกำลังพยายามจะปลุกเพื่อนของเขาซึ่งนอนฟุบคาโต๊ะเรียนอยู่

                    เพื่อนคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทางสลึมสลือว่า ซีกกี้ เหรอ?” เขาพูดต่ออย่างช้าๆว่า เมื่อกี้ฉันฝันเรื่องเดิมอีกแล้วล่ะ นี่เป็นรอบที่ 9 แล้วนะ

                    รอบที่ 9 ไอ้เรื่องเจ้าหญิงถูกฆ่าน่ะเหรอ ซีกกี้พูดพลางนั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะของแม็กซ์

              อืม   ไม่รู้ทำไมนะ ยิ่งฉันฝันมากขึ้นเท่าไหร่ ภาพที่เห็นมันก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่าตอนนั้นฉันเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ยังไงยังงั้นเลยล่ะ แม็กซ์พูดพลางขยี้ตาอย่างขี้เกียจ

    แปลกดีแฮะ  ถ้าแค่สองสามครั้งมันก็ไม่เท่าไหร่  แต่นี่มันเป็นรอบที่ 9 แล้ว   นี่นายดูหนังมากไปหรือเปล่าเนี่ย ซีกกี้ตบหัวแม็กซ์เบาๆเเป็นการหยอกล้อ

    แต่เจ้าหญิงคนนี้ เขาฆ่าตัวตายเองเลยนะ.....ไม่รู้สิ  แต่ฉันว่ามันดูเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้แม็กซ์จับมือซีกกี้ออกจากหัวแล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจต่อ

    มันก็เรื่องเดิมไม่ใช่เหรอไง  เอาน่า    อย่าคิดมากไปเลย  ตอนนี้ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ ก่อนที่มันจะหมดเวลาพักซีกกี้พูดพลางเดินนำไปที่ประตูห้อง

    เออ ก็ได้ ไปก็ไป แม็กซ์เดินตามซีกกี้ออกไปนอกห้องแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงตะโกนดังขึ้นมา

    ซีกกี้  นี่นายจะหนีไปไหนอีกล่ะเนี่ย ไหนบอกว่าจะเอาของมาคืนไงเมื่อวานนี้น่ะ เด็กสาวคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา  เธอคนนี้ชื่อ ไดอาน่า เป็นเพื่อนสนิทกับแม็กซ์และซีกกี้ตั้งแต่เด็ก

    แน่จริงก็ตามมาเอาเองสิซีกกี้ออกวิ่งพร้อมกับดึงแม็กซ์ไปด้วย  แม็กซ์ซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ต้องวิ่งตามซีกกี้ไปทั้งๆที่เขาไม่อยากวิ่งเลยสักนิด ทั้งคู่วิ่งหนีขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าของตึกและเมื่อซีกกี้เปิดประตูออกไป เขาก็พบกับคนอีก สามคน ที่อยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

    อึ๋ย นั่นมันพี่ เควิน ประธานนักเรียนคนนั้นนี่หว่า ซีกกี้พูดพลางชี้มือด้วยท่าทางตกใจไปยังชายผมยาวสีน้ำตาลที่นั่งพิงรั้วตาข่ายอยู่

    พี่เควินเหรอ ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้ไงแม็กซ์พูดขึ้นพร้อมกับหันไปมอง ไดอาน่า ที่บัดนี้ได้มายืนอยู่ที่ด้านหลังของพวกเขาแล้ว

    คิดหนีเหรอ ไม่มีทางซะล่ะไดอาน่าจับคอเสื้อของชายทั้งสองเอาไว้

    อ๊ะ ไดอาน่า เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมาทัก

    ดรูว์?  เธออยู่นี่ก็ดีแล้วจะได้ช่วยกันจับเจ้าพวกผู้ชายขี้โกงสองคนนี้หน่อย ไดอาน่าพูดอย่างเหนื่อยหอบ

    นี่ ไดอาน่า พี่เควินเขาอยู่ที่นี่นะ เกรงใจเขาบ้างเด่ะซีกกี้หันไปพูดกับไดอาน่าเป็นการเตือน และดูเหมือนว่า เควินจะได้ยิน เขาเลยหันมาและพูดว่า ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้อยู่นอกเวลางานของพี่น่ะ

    พี่เควิน  พี่อยู่นี้ก็ดีแล้วค่ะ จะได้เป็นพยานให้หน่อย ไดอาน่ารีบตอบกลับในทันที

    ในขณะนั้นเองที่เด็กผู้หญิงผมยาวตรงสีดำอีกคนหนึ่งที่อยู่บนดาดฟ้าได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง ที่กำลังเกิดขึ้นกับโรงเรียน เธอจึงพูดขึ้นมาว่า นี่ทุกคน ช่วยมาดูตรงนี้หน่อยสิเธอคนนั้นคือโรส ซึ่งเป็นนักเรียนที่เข้ามาใหม่เมื่อกลางเทอมจึงทำให้เธอไม่ค่อยจะมีเพื่อนมากนัก

    แม็กซ์  ซีกกี้  ไดอาน่า  ดรูว์  และเควินหันไปมองที่เธออย่างแปลกใจ แต่เธอคนนั้นก็ยังพูดย้ำอีกว่า เร็วๆสิ มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้

    แม็กซ์เป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปดู  เขายืนพิงกับรั้วตาข่ายและมองลงไปด้านล่าง แล้วก็ต้องอุทานขึ้นมาว่า เฮ้ย นี่มันอะไรกัน เสียงนี้ทำให้ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปดู อย่างอดไม่ได้

    นี่มัน..........ซีกกี้พูดอ้ำอึ้งเมื่อเห็นภาพที่อยู่ต่อหน้า

    และสิ่งที่พวกแม็กซ์เห็นนั้น คือเด็กคนอื่นๆหยุดอยู่นิ่งๆ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ก็ตามและไม่ใช่แค่คนเท่านั้น แม้แต่น้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกก็ยังลอยค้างอยู่ในอากาศ ราวกับว่าเวลาถูกทำให้หยุดเดินไป แล้วทำไมพวกเขาถึงยังขยับอยู่ได้ ?

    ขณะที่เด็กทั้งหกกำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไดอาน่าเป็นคนแรกที่เริ่มเห็นสิ่งผิดปกติอีกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ดูนั่นสิ บนฟ้า เธอพูด พลางชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ปกติจะเป็นสีฟ้าใส แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นสีน้ำเงินครามเข้มราวกับใต้ทะเลลึก เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ได้หายไปอย่างรวดเร็วด้วยปรากฏการณ์สุริยคราส จนในที่สุดทุกสิ่งก็ตกอยู่ภายใต้เงามืด ไร้ซึ่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยามกลางวันเหมือนแต่ก่อน

    ไม่น่าจะเป็นไปได้ สุริยคราส ตอนนี้เนี่ยนะ ไม่เห็นจะมีใครบอกเลยซีกกี้พูดพึมพำกับตัวเอง

    ทันใดนั้นเองหมู่เมฆจำนวนมากที่ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าก็ได้เริ่มเคลื่อนที่ออกจากกัน เผยให้เห็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างผืนโลกกับดวงอาทิตย์ที่บัดนี้กลายเป็นดาวฤกษ์สีดำเข้มที่ไร้ซึ่งแสงสว่างไปเรียบร้อยแล้ว

    หลังจากที่พวกเขาทั้งหกต่างยืนนิ่งด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกันอยู่นั้น แม็กซ์เป็นคนเดียวที่รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างแปลกประหลาด และดูเหมือนซีกกี้จะเห็นอาการดังกล่าว จึงพูดขึ้นว่า นี่แม็กซ์ นายคงไม่บังเอิญฝันถึงเรื่องนี้หรอกนะ ใช่มั้ย แม็กซ์เองก็ไม่รู้เช่นกันเขาจึงส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ แต่ทว่าในตอนนั้นเองที่บนฟากฟ้าก็เกิดแสงประหลาดขึ้นเบื้องหลังสุริยคราสนั่น แสงนี้ได้ส่องลงมายังพื้นโลก มายังพวกเขาทั้งหกคนอย่างไม่ทันตั้งตัว

    แสงนี้เป็นแสงที่สว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงของดวงอาทิตย์ยามกลางวันเสียอีก จนทำให้พวกเขาต้องหลับตาลงด้วยความสว่างของมัน เหตุการณ์นี้กินเวลายาวนานหลายวินาที จนเมื่อแสงสว่างได้หรี่ลง พวกเขาทั้งหกก็ได้ลืมตาขึ้นและก็สังเกตเห็นว่าพวกเขานั้นไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกต่อไปแล้ว

    ที่นี่มัน..........ไดอาน่าเผลอพูดขึ้นมาอย่างแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว

    เหลือเชื่อ ซีกกี้พูดพร้อมๆกับที่มองไปยังโรสซึ่งกำลังนำมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้

    แต่คนที่กลับมีปฏิกริยากับสถานที่นี้มากที่สุดก็คือแม็กซ์ เขาถึงกับตัวสั่นเทา  ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่อาการนี้เกิดจากความรู้สึกหลายๆอย่างก่อรวมขึ้นกันมา ทำให้เขาเป็นแบบนี้

    ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของใครบางคน ที่มีอำนาจยศศักดิ์ใหญ่โตมาก มันเป็นห้องที่กว้างขวาง และถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา งดงามเป็นที่สุด หน้าต่างบานใหญ่ที่มีผ้าม่านสีแดงฉาดผูกทิ้งไว้ พรมที่มีลวดลายทออย่างปรานีต เตียงนอนที่กว้างพอสำหรับพวกเขานอนถึงสามคน ทุกคนกำลังอึ้งอยู่กับสิ่งเหล่านี้

    ที่นี่ ห้องขององค์หญิงที่ฉันฝันถึงบ่อยๆไง ซีกกี้ แม็กซ์พูดขึ้นเบาๆให้ได้ยินแค่เพียงซีกกี้เท่านั้น

    ว่าไงนะ นายล้อเล่นเปล่าเนี่ย ซีกกี้ตะลึงในสิ่งที่เขาได้ยิน แต่แม็กซ์ก็ยังคงมองกลับมาด้วยสายตาที่จริงจัง นายไม่ได้ล้อเล่นนี่

    ถ้าตอนนี้พวกแม็กซ์ อยู่ที่ห้องนอนขององค์หญิงที่เขาฝันเห็นจริงๆแล้วล่ะก็ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์แล้วอย่างแน่นอน เพราะในฝันเขานั้นมีการพูดถึงเวทมนต์ด้วย และคงเป็นไปไม่ได้ที่โลกมนุษย์จะมีคนพูดถึงมันอย่างโจ่งแจ้งถึงจนาดนี้ ความคิดมากมายผ่านเข้าไปในหัวของแม็กซ์อย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนี้เขาทั้งตื่นเต้น ตื่นตระหนก และหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

    ดูเหมือนพวกนายสองคนจะรู้อะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่รู้นะ เควินพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นอาการผิดปกติของแม็กซ์และซีกกี้

    ซีกกี้ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ว่า ไอ้หมอนี่มันฝันถึงที่นี่บ่อยๆน่ะ พี่เควิน

    ฝัน!”  ทุกคนที่ได้ยินที่ซีกกี้พูด ตะโกนขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน

    พูดเป็นเล่นไป นี่ฉันอยู่ในความฝันเหรอเนี่ย ไดอาน่าพูดขึ้น ทันใดนั้นเองประตูห้องก็ถูกเปิดออก และผู้ที่เดินเข้ามานั้นก็เป็นทหารสองคน หรืออย่างน้อยพวกเขาก็พยายามแต่งตัวให้เหมือนทหารโรมันเมื่อสมัยโบราณ

    พวกเจ้าเข้ามาในห้องบรรทมขององค์หญิงได้อย่างไร ทหารคนหนึ่งพูดและทหารอีกคนหนึ่งก็รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆจึงพูดเสริมขึ้นมาว่า คนที่ลอบปลงพระชนม์องค์หญิงคือพวกเจ้าใช่หรือไม่

    หลังจากที่ทหารทั้งสองพูดและตั้งข้อหาจบ ในคราวเดียวกันนั้น ไดอาน่าที่ทนไม่ไหวกับการถูกกล่าวหาทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย จึงพูดขึ้นมาว่า พวกนายมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าเราเป็นคนฆ่าล่ะ มีหลักฐานอะไรรึไง  แต่ขอทีเหอะ เจ้าหญิง!! นี่พวกนายอยู่ยุคเรเนสซองส์หรือยังไงหา ซีกกี้เห็นไดอาน่าเริ่มโมโหจึงรับนำมือเข้าไปปิดปากของเธอโดยทันที พร้อมกับพูดว่า ขอโทษทีพวก เธอเป็นโรคประสาทมาตั้งแต่กำเนิดน่ะ

    โรคประสาทแต่กำเนิด ?  มีแต่นายเท่านั้นแหละที่เป็นได้ เอามือของนายออกไปนะซีกกี้ ไดอาน่าทุบซีกกี้เป็นการใหญ่ จนทำให้ซีกกี้ต้องยิ้มแหยๆให้ทหารทั้งสอง

    พวกนายยังจับตัวคนร้ายไม่ได้อีกเหรอ พวกนายนี่เป็นทหารประสาอะไรเนี่ยแม็กซ์พูดโพล่งออกไปอย่างไม่ยั้งคิด

    พูดอย่างกับเจ้ารู้อะไรอย่างนั้นแหละ ไอ้หนู ทหารคนหนึ่งนำดาบขึ้นมาจ่อที่หน้าของแม็กซ์ด้วยความไม่พอใจที่ถูกดูหมิ่น

    แต่แม็กซ์ก็ได้หารู้สึกกลัวไม่ และยังพูดต่ออีกว่า ก็แหงล่ะ ฉันเห็นเองกับตา ตั้ง 9 ครั้งเชียวนะ

    นี่นายรู้เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ เควินถามแม็กซ์ด้วยความแปลกใจ

    ครับพี่ ผมฝันเห็นเหตุการณ์ตอนเจ้าหญิงถูกฆ่า รวมแล้วก็ 9 ครั้ง แม็กซ์หันไปพูดกับเควินอย่างสุภาพ

    แต่เดี๋ยวก่อน นายบอกว่าเจ้าหญิงฆ่าตัวตายเองไม่ใช่เหรอไงซีกกี้ถาม

    ก็เออน่ะสิ แต่ก็ถูกบังคับนะ อย่าลืมสิ แม็กซ์พูดอย่างรู้ดีมากเกินไป จนทหารทั้งสองต้องถามอย่างใคร่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ไอ้หนู

    ไม่ใช่เบื้องหลังหรอก เขาออกมาลงมือเองเลยต่างหากล่ะ ก็มหาเสนาบดีซารัสไง แม็กซ์ตอบกลับไปในทันที

    นี่เจ้า กล้ากล่าวหาท่านซารัสงั้นเชียวเหรอ ทหารคนหนึ่งทำท่าอึ้งก่อนที่จะลงมือฟันแม็กซ์แต่กลับถูกทหารอีกคนห้ามเอาไว้ก่อนเพราะดูเหมือนว่าแม็กซ์ยังพูดไม่จบ

    ก็คนเดียวกับที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเจ้าหญิงนั่นแหละแม็กซ์พูดต่ออย่างมั่นใจ

    ว่าไงนะ เจ้าเอาอะไรที่ไหนมา....ทหารทั้งสองยังพูดไม่จบแต่กลับต้องสลบลงไปนอนอยู่กับพื้นเนื่องจากโรสและดรูว์นำเชิงเทียนที่ทำมาจากทอง ทุบที่ท้ายทอยของทหารทั้งสอง

    พูดไปก็เท่านั้นแหละ ตอนนี้ฉันว่ารีบหนีก่อนเถอะ แต่เดี๋ยวพวกนายต้องเล่าให้ฉันฟังด้วยนะว่านี่มันเรื่องอะไรกันดรูว์พูดขณะที่นำเชิงเทียนไปวางไว้ที่เดิม

    อืม ฉันเองก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้วนี่ แม็กซ์เดินออกไปดูที่ด้านนอกห้อง และทุกคนก็เดินตามออกมา

    ทันที่ที่พวกเขาเริ่มออกวิ่ง ที่อีกด้านของสุดทางเดินก็ปรากฏเป็นทหารอีกสามคนที่กำลังเดินเวรอยู่ และบังเอิญเห็นพวกเด็กๆพอดี หนึ่งในพวกทหารจึงตะโกนขึ้นมาว่า นี่พวกแกเป็นใครกันน่ะ

    แต่พวกแม็กซ์ไม่อยู่รอตอบคำถาม พวกเขารีบวิ่งหนีไปอีกทางในทันที จนเมื่อสุดทางเดินพวกเขาก็เห็นทางแยกสองทาง  แต่ด้วยพวกทหารที่กำลังไล่ตามอยู่นั้นทำให้พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาที่จะหยุดคิด โรสจึงตัดสินใจวิ่งไปทางซ้ายก่อนที่ใครจะพูดอะไรแย้งขึ้นมาได้ และเมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งตามเธอไปโดยไม่ได้คัดค้านใดๆ

    เส้นทางที่โรสได้เลือกนั้นนำพวกเขาต่ำลงไปสู่ด้านล่างเรื่อยๆ ทหารที่วิ่งตามพวกเขาก็มีเพิ่มมากขึ้นอยู่ทุกขณะ จนในที่สุดพวกเขาก็ได้มาพบกับปลายทางเดิน มันเป็นสถานที่ที่ดูเหมือนท่อระบายน้ำ

    นี่ จะวิ่งไปถึงไหนน่ะ ข้างหน้านั่นมันท่อนะ ดรูว์บ่นอย่างหมดแรง

    ก็จะให้ไปไหนล่ะ แม็กซ์ดึงดรูว์และเริ่มวิ่งไปตามท่อน้ำที่มีขนาดใหญ่ราวกับเป็นทางผ่านของรถกระบะ ในทันที

    เร็วๆเข้า พวกนั้นตามมาแล้ว ซีกกี้รีบดันทุกคนเข้าไปด้านในท่อ และเมื่อพวกทหารตามมาถึงก็ต้องหยุดชะงักในทันที บางคนที่เบรคไม่ทันก็หน้าคะมำล้มลงไป

    นี่เจ้าพวกนั้นถ้ายอมให้จับแต่โดยดีก็สบายแล้ว แต่นี่ดันเลือกไปยังที่ๆเป็นที่อยู่ของตัวอันตรายเข้าแล้ว  ไม่น่าคิดสั้นอย่างนั้นเลย หนึ่งในทหารพวกนั้นพูดขึ้นมา

    หลังจากที่เด็กทั้งหกวิ่งหนีมาได้ซักพักหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มที่จะสังเกตว่ารอบๆตัวของพวกเขานั้นมืดลงมาก มีอากาศที่อับชื้น และเหม็นคาวจนน่าอึดอัด พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสภาพรอบๆตัวได้เลย แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าท่อระบายน้ำนี้สกปรกเพียงใดจากการสัมผัสกับกำแพงของท่อเพื่อเป็นการนำทางพวกเขาในที่มืดเช่นนี้

    ทหารพวกนั้นคงไม่ตามมาแล้วล่ะ ดรูว์หยุดเดินเป็นคนแรก

    แล้วเอาไงดี จะเดินกันต่อมั้ยซีกกี้ทำจมูกฟึดฟัดแล้วจึงพูดกับทุกคน

    แต่ทางข้างหน้าอาจจะมีอะไรที่ทำให้พวกทหารไม่ตามพวกเรามาล่ะ มันอาจจะเป็นอะไรที่อันตรายกว่าก็เป็นได้ เควินแสดงความคิดเห็นอย่างรอบคอบและสุขุมเหมือนกับบุคลิกของเขา

    นั่นสิที่พี่เควินพูดมันก็ถูก มันเป็นไปได้ที่ข้างหน้าจะมีอะไรบางอย่างที่อันตรายแบบสุดขั้วก็ได้ เพราะเท่าที่ฉันรู้ โลกนี้มีเวทมนต์ และก็เป็นไปได้ที่เราจะเจอสัตว์ประหลาดตามแบบฉบับของนิยายแฟนตาซีทั้งหลาย และ แม็กซ์เน้นเสียงดังขึ้น ถ้าเรากลับไปทางเดิม เราก็จะเจอทหารพวกนั้นถือดาบเตรียมที่จะบั่นคอเราอยู่อย่างแน่นอน

    เพราะฉะนั้น นายเลยบอกว่าจะให้ไปข้างหน้าใช่มั้ยล่ะซีกกี้พูดขึ้นอย่างรู้ใจ

    เดี๋ยวก่อน  ตกลงนี่นายยอมรับแล้วใช่มั้ยว่านี่มันไม่ใช่โลกจริงๆ แต่เป็นอีกโลกหนี่งที่นายฝันเห็นบ่อยๆไดอาน่าถามด้วยท่าทางจริงจัง

    ก็ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ ไดอาน่า แม็กซ์ไม่ปฏิเสธ

    แล้วเรื่องเวทมนต์เนี่ยนะ ล้อเล่นกันรึเปล่าไดอาน่ารีบถามต่อในทันที

    ก็เรื่องจริงน่ะสิจ๊ะ คนสวย เหตุที่ทำให้พวกเราต้องมาอยู่นี่ก็เพราะเวทมนต์นั่นแหละจ๊ะซีกกี้พูดพลางเข้าไปกอดเอวของไดอาน่า แต่ก็ถูกไดอาน่ากระทุ้งศอกออกมาในทันที

    โรสว่าพวกเราน่าจะเดินไปข้างหน้าต่อนะคะโรสพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปเป็นเวลานาน

    เอาไงก็เอาซี่ ฉันทนที่นี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เหม็นอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ ดรูว์ซึ่งเอามือปิดจมูกอยู่พูดเสียงอู้อี้

    ตกลงเราจะเดินหน้ากันนะ มีเสียงคัดค้านมั้ยแม็กซ์ถามขึ้นแต่ไม่มีเสียงใครพูดขึ้นมา งั้นเป็นอันตกลง เราจะเดินหน้า พวกเขาจึงเริ่มเดินต่อไป และยิ่งไกลเท่าไหร่ ทางเดินก็ยิ่งเหม็นเน่ามากขึ้นเท่านั้น และในที่สุดหลังจากการเดินทางที่แสนนานพวกเขาก็ได้เจอแสงสว่างอีกครั้งหนึ่ง และดูเหมือนต้นกำเนิดของแสงนั้นก็เป็นทางออกด้วย

    พวกเขาทั้งหกต่างดีใจที่จะได้ออกจากท่อระบายน้ำที่แสนโสโครกแห่งนี้เสียที พวกเขาจึงวิ่งไปข้างหน้า และ     

     ก็ตกลงมา……

    ฟ้าวววว

    ไม่มีใครรู้ว่าที่ๆพวกเขาตกลงมานั้นสูงเท่าไหร่ ทุกคนแหกปากร้องออกมาอย่างเสียสติ จนสักพักหนึ่ง ตัวของพวกเขาก็ได้สัมผัสกับผิวน้ำ และจมดิ่งลงไป สถานที่แห่งนี้เป็นบึงขนาดใหญ่ที่มีป่าไม้ล้อมรอบอยู่ ต้นไม้นั้นสูงทึบจนแทบจะบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ทั้งหมดเอาไว้

    แม็กซ์พยายามที่จะตะกายน้ำขึ้นไปอย่างเร็วที่สุด และเมื่อเขาโผล่ไปพ้นผิวน้ำแล้ว เขาก็รีบมองหาทุกๆคน เขาเห็น เควิน โรส ซีกกี้และดรูว์ แต่ไม่เห็นไดอาน่า และดูเหมือนทุกคนจะสังเกตเห็นถึงการหายตัวไปของไดอาน่า พวกผู้ชายทั้งสามจึงรีบดำน้ำลงไปในทันที แต่ความหวังนั้นริบหรี่เหลือเกินเพราะน้ำที่แสนขุ่นมัวบวกกับความหนาวเย็นที่กำลังทิ่มแทงพวกเขาอยู่ทุกขณะจิต กลายเป็นอุปสรรคอย่างมากในการหาตัวไดอาน่า

    แต่แม็กซ์เองก็ยังคงไม่ละทิ้งความหวัง เขาดำลึกลงไปกว่าอีกสองคน จนในที่สุดเขาก็เห็นไดอาน่าที่กำลังสลบอยู่ และแม็กซ์ก็ยังสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ถึงแม้เขาจะเห็นไม่ชัดเจนมาก แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา อย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มันมีลำตัวที่ยาวมาก เจ้าสิ่งนั้นมันกำลังที่จะเริ่มเคลื่อนไหว

    แม็กซ์เห็นดังนั้นจึงรีบคว้าร่างอันไร้สติของไดอาน่าและรีบว่ายขึ้นไปยังบนผิวน้ำ เขาแทบทนไม่ไหวเพราะการขาดอากาศอย่างยาวนาน แต่เพราะความกลัวทำให้เขาไม่หยุดว่าย จนเมื่อเขาโผล่ขึ้นบนผิวน้ำ แม็กซ์จึงรีบร้องเตือนเพื่อนๆถึงอันตรายที่อยู่ภายใต้บึงแห่งนี้

    มีงูยักษ์อยู่ในน้ำ หนีเร็ว แม็กซ์ตะโกนบอกคนอื่นอย่างตื่นตระหนก

    แต่เมื่อมองไปรอบๆแล้วเขาก็ต้องหมดกำลังใจ เพราะฝั่งที่อยู่ใกล้ที่สุดน่าจะอยู่ห่างจากแม็กซ์ไปประมาณ 30 เมตร และด้วยภาระที่ต้องแบกไดอาน่าอีก นับว่าเป็นเรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าต้องการจะหนีจากงูยักษ์ที่สามารถมาถึงตัวเราได้ใน สองวินาที

    แต่ก็ต้องลอง           

    เมื่อคิดได้ดังนั้นแม็กซ์จึงหอบร่างที่อ่อนปวกเปียกของไดอาน่าและว่ายเข้าฝั่งในทันที

    ส่วนคนอื่นที่กำลังมึนงงกับคำพูดของแม็กซ์อยู่นั้น เมื่อเห็นรอยกระเพื่อมบนผิวน้ำ พวกเขาก็รีบว่ายน้ำหนีในทันที พวกเขาไม่อยู่รอที่จะดูว่าไอ้เจ้าสิ่งนั้นมันคืออะไร

    ในที่สุดงูยักษ์ตัวนั้นก็โผล่ส่วนหัวขึ้นมาพร้อมๆกับลำตัวที่สูงใหญ่ สูงราวกับตึก 5 ชั้นเลยทีเดียว มันส่ายหัวไปมาอย่างตื่นเต้น ราวกับว่ามันกำลังสนุกกับการเลือกเหยื่อผู้โชคร้ายคนใดคนหนึ่งจากคนทั้งหกก็เป็นได้

    โรสกรีดร้อง ทุกคนกรีดร้อง แต่ก็ยังว่ายน้ำหนีกันอย่างสุดชีวิต เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดตัวนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถ้าหากต้องตายเพราะงูแล้ว ผลที่ออกมายังไงก็ไม่สวยอย่างแน่นอน

    ตัวมันใหญ่มโหฬาร เกล็ดของมันมีสีดำสนิทราวกับนิล ดวงตาของมันทอประกายสีทอง จ้องมองมายังแม็กซ์และไดอาน่า มันสะบัดลิ้นสองแฉกของมันออกมาภายนอกปาก อย่างที่งูทั่วๆไปมักทำกัน ตวัดขึ้นลงเร็วๆ ตาก็ยังคงจ้องที่เหยื่อของมันอย่างไม่ลดละ ถ้าจะให้เทียบกับงูอนาคอนด้าในหนังที่เจนนิเฟอร์ โลเปซ เล่นแล้วล่ะก็ อนาคอนด้าก็คงเป็นเพียงแค่ลูกตัวเล็กๆของมันเท่านั้นเอง

    แม็กซ์ไม่สนใจถึงอากัปกริยาของอสรพิษยักษ์ตัวนั้น เขาได้แต่ว่ายหนีอย่างสุดแรงเกิดเท่านั้นเอง  งูยักษ์กระโจนลงไปในน้ำที่มืดทึบและแหวกว่ายอย่างรวดเร็วมายังแม็กซ์

    ระวังเควินซี่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตรตะโกนขึ้นมา

    มันเลื้อยผ่านตัวแม็กซ์กับเควินไปและโผล่ขึ้นที่ด้านหน้าของคนทั้งสอง มันขู่ฟ่ออย่างดุร้ายและพุ่งตรงมายังแม็กซ์กับไดอาน่าในทันที

    แม็กซ์แหกปากร้องและว่ายหลบไปข้างๆอย่างรวดเร็ว ทำให้งูตัวนั้นพลาดเป้าหมายและจมลงน้ำไป  และในทันทีทันใดงูตัวนั้นก็ไปโผล่ขึ้นที่ด้านหลังของเควิน

    ดรูว์ร้องเตือนเควิน แต่สายไปแล้ว งูตัวนั้นพุ่งตรงเข้ามาคาบเควินที่กลางลำตัวตามขวาง มันชูหัวของมันขึ้นบนฟ้าพยายามจะกัดเหยื่อของมันให้ตาย

    แต่เควินยังไม่ได้สัมผัสถูกเขี้ยวพิษของมัน เขายังมีสติ และยังคงขยับได้เล็กน้อยแม้จะยังอยู่ในปากของของงูยักษ์ เขาหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาและจ้วงแทงเข้าไปที่บริเวณโคนลิ้นของเจ้างูยักษ์ มีดพับนั่นเองที่เควินหยิบออกมา มันสำแดงฤทธิ์ความคมของมันในทันที เลือดสีดำพุ่งออกจากปากของอสรพิษยักษ์ มันสะบัดหัวอย่างเจ็บปวด และในที่สุดเควินก็หลุดออกจากปากของมัน  เขาตกลงไปในน้ำอีกครั้ง

    งูยักษ์ตัวนั้นดิ้นร่าแล้วจึงดำน้ำลงไป ทุกคนที่เหลือจึงฉวยโอกาสนี้ว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่ง เหลือแค่เควินที่รั้งท้ายอยู่คนเดียว

    งูตัวนั้นโผล่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มันจ้องมาที่เควินอย่างอาฆาตแค้น มันฉกลงมาที่ลำตัวของ เควิน และก็ไม่พลาดเป้าหมาย มันงับเขาลงไปใต้น้ำด้วยกันกับมัน

    ทุกคนที่เหลือได้แต่ยืนมองอย่างตกตะลึง โรสกับดรูว์ถึงกับกรีดร้องออกมา ซีกกี้กระโดดน้ำตามลงไปในทันทีที่เขาได้สติ เขาดำน้ำลงไปเห็นเควินกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ในปากของมัน เมื่อเจ้างูยักษ์เห็นซีกกี้ มันจึงรีบไล่ตามเขาขึ้นมาจากใต้น้ำ โดยที่ยังไม่ปล่อยเควินหลุดออกจากปากของมัน ซีกกี้รีบว่ายหนีเข้าฝั่งในทันที

    งูยักษ์โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เควินเห็นดังนั้นจึงรีบนำมีดพับที่อยู่ในมือแทงเข้าไปในปากมันอีกครั้ง มันเหวี่ยงหัวของมันอย่างเจ็บปวด จนเควินกระเด็นหลุดออกมา ลอยไปกระแทกต้นไม้ที่อยู่บนฝั่งอย่างรุนแรง และก็สลบลงไป

    ในตอนนี้พวกเขาทั้งหกก็อยู่บนฝั่งหมดแล้ว และดูเหมือนเจ้างูยักษ์จะเข็ดหลาบกับเด็กกลุ่มนี้ มันจึงเลิกไล่ล่าพวกเขาและกลับลงไปในน้ำที่ๆมันอยู่ในทันที แม็กซ์จึงหอบไดอาน่าวิ่งไปพร้อมๆกับ ดรูว์ โรส และซีกกี้ซึ่งพยุงเควิน อยู่ หนีเข้าไปในป่าซึ่งอยู่เบื้องหน้า โดยไม่รู้ซึ้งถึงชะตากรรมที่รออยู่แม้แต่น้อย

     

     

     

    จบ Chapter I

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×