ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 26
บทที่ 26
"จะขัดขวางงานของนายท่านเหรอคะ.." เธอถามซ้ำ ซิลเทียร์ใช้โต๊ะเอกสารใกล้ๆช่วยพยุงตัวเองลุกขึ้น
"เฮ้!! เป็นอะไรรึเปล่า!!" เสียงของไลฟ์ดังขึ้นในโสตประสาทของซิลเทียร์ ไลฟ์ติดต่อเธอเข้ามาจากช่องสื่อสารนั่นเอง
"ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันจะล่อเจ้านี่ไว้ข้างบนเอง ทางนายถ้าจัดการข้างล่างเสร็จแล้วค่อยมาช่วยก็ได้..." ซิลเทียร์ตอบกลับไปทางช่องสื่อสาร
"ดูมั่นใจจังนะคะว่าจะสู้กับหนูได้" คำพูดนั้นทำให้ซิลเทียร์อึ้งไปเล็กน้อย
อ่านใจได้? ไม่สิ.. คงแค่ดักฟังคลื่นสัญญาณสินะ..
ซิลเทียร์ลุกขึ้นยืน เมย์ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เธอ แต่ซิลเทียร์ก็ไม่ได้ถอยหนีแต่อย่างใด เธอยื่นมือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้า
"อย่า.. ให้มากนัก..." ซิลเทียร์กัดฟันพูด
"?"
"อย่าดูถูกสายเลือดปีศาจให้มันมากนัก!!!!!" ซิลเทียร์ตวาดสียงลั่นก่อนที่ด้ายพลังสีดำทมิฬหลายสิบเส้นจะพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเธอ
ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!!
เส้นด้ายสีดำแม้จะเล็กแต่พลังทำลายของมันกลับไม่เป็นไปตามขนาด!!
ฝุ่นควันคลุ้งไปทั่ว และเมื่อกลุ่มควันกระจายหายไป ทั่วห้องก็เต็มไปด้วยด้ายสีดำของซิลเทียร์!!
"ตกใจเหมือนกันนะคะเนี่ย.. เกือบไปแล้วสิ" เมย์กล่าว
จะพูดว่าเมย์กล่าวคงไม่ถูกเท่าใดนักผู้ที่กล่าวจริงๆคือวิญญาณของค้างคาวปีศาจที่อยู่ในตัวเมย์นั่นเอง...
ร่างของเธออยู่ในท่าทางประหลาดที่เกิดจากการเอี้ยวตัวหลบด้ายสีดำของซิลเทียร์ ปีกค้างคาวของเธอได้รับความเสียหายเล็กน้อย ปีกของเธอคงไม่สามารถเก็บได้เหมือนอย่างยมทูตทั่วไป
เลือดไหลออกจากบาดแผลหยดลงบนพื้นย้อมกระดาษเอกสารทั่วบริเวณให้เป็นสีแดงสดอย่างเห็นได้ชัดใต้แสงไฟนีออน
"หึหึ... ถ้ามีแสงล่ะก็ฉันอาจจะแพ้ก็ได้นะ..." พูดจบเมย์ก็กรีดร้องออกมาด้วยเสียงแหลมสูง เสียงนั้นทิ่มแทงโสตประสาทของซิลเทียร์จนเธอต้องเอามือปิดหูไว้
เสียงของเมย์นั้นแหลมสูงจนหลอดนีออนและกระจกภายในอาคารแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!!
หลอดไฟทุกดวงแตกดับไปเหลือทิ้งไว้เพียงความมืด กับแสงสลัวๆจากอาคารข้างเคียง
"แล้วถ้าสู้กันในความมืดหล่ะคะ คิกๆ" เสียงหัวเราะดังขึ้นในความมืด
ฉัวะ!!
เสียงของมีคมกรีดเข้าเนื้อดังขึ้น แขนของซิลเทียร์ถูกกรงเล็บกรีดจนเป็นแผลลึก ซิลเทียร์กัดฟันเพื่อสะกัดกั้นความเจ็บปวด เธอรวมพลังมาไว้ที่ตาเพื่อใช้เนตรยมทูต
...
แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นผล!! ทำไมกัน!?
"คิกๆ ตกใจที่ใช้พลังยมทูตไม่ได้เหรอคะ? หนูจะบอกให้เอามะว่าทำไม แต่ขอค่าบอกข้อมูลหน่อยก็แล้วกัน"
อึก!!
คราวนี้ต้นขาขวาของซิลเทียร์ถูกกรีดเป็นรอยยาวอีกที่ ซิลเทียร์กลิ้งหลบไปทางมุมห้อง
"หึหึ หนีไม่พ้นหรอกค่ะพี่สาว... ไหนๆก็จ่ายค่าบอกข้อมูลมาแล้วหนูจะบอกให้ละกัน... คลื่นเสียงที่หนูปล่อยออกมาน่ะ มันมีความสามรถอย่างหนึ่งคือการกดต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของพลังในตัว ทำให้ไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ไงคะ"
ฟุ่บ...
มาแล้ว!!
ซิลเทียร์อาศัยการฟังเสียงจากการเคลื่อนไหวขอชปีศาจค้างคาวเพื่อเดาทิศทางก่อนจะกลิ้งตัวหลบแต่...
ฉัวะ!!!
คราวนี้ซิลเทียร์กลับโดนกรงเล็บกรีดบริเวณกลางหลังพอดี เลือดของเธอไหลเป็นทาง
"คิกๆ พี่จะรอดอยู่ได้นานแค่ไหนกันน้า~"
กลับลงไปที่ด้านล่างของตึก บริเวณกลางสี่แยกเล็กๆหน้าตึก พวกไลฟ์กำลังถูกโจมตีด้วยกองกำลังผสมระหว่างพวกอมนุษย์ที่ไซมอนสร้างขึ้นกับกองทัพอสูรหลากหลายสายพันธุ์
แม้ฝีมือจะเหนือกว่ามากแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ตอนนี้วงการป้องกันของพวกเขาเริ่มหดเข้ามารวมกัน
"ไม่หมดสักทีวะ!!" อลิซตะโกนอย่างมีโมโห เธอกับเนตรนภาตั้งรับอยู่บริเวณถนนทางขวาและกำลังถอยร่นเข้ามารวมกลุ่มอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนี้พวกเขาถอยมาตั้งรับจนวงป้องกันหดเล็กลงไปมาก และตอนนั้นเอง
"ลูเซีย!! กางบาเรีย เดี๋ยวนี้!!!!" จอมซาตานตะโกนสั่ง
วูบ!!
โดมบาเรียถูกกางออกและเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น...
ตูม!!!
ลูกบอลพลังงานสีทองพุ่งอัดเข้าทั่วบริเวณ บดขยี้ร่างของพวกอสูรและอมนุษย์ไปพร้อมๆกันจนไม่เหลือซาก!!
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของเวทย์คือเหล่าแองเจิ้ลสามตน พวกเขาใช้เวทย์ประสานกัน เป็นการรวบรวมพลังงานก่อนจะบีบอัดออกไป เหล่ายมทูตรู้จักมันในนามว่า
'แองเจิ้ลเรย์'
"พวกคุณไม่เป็นอะไรนะ" หนึ่งในแองเจิ้ลร่อนลงมาหากลุ่มของจอมซาตาน
"ไม่เป็นไรป๊ะเอ็งดิ!! เกือบตายไปแล้วหน่อยไอ้พวกหนูมีปีก!!!" อลิซดูจะฟิวขาดพุ่งเข้าใส่แองเจิ้ล ด้วยความหงุดหงิดที่สะสมมาจากการตกเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่โชคดีที่นพีกับคานาโกะช่วยกันรั้งตัวไว้ทัน
"อลิซ!! ใจเย็นๆจ่ะ"
"จะเย็นได้ไงละโว้ย!! พวกนั้นมันแองเจิ้ลชัดๆ! เมื่อกี้มันก็กะจะฆ่าเราเลยนะ กรรร!!" อลิซไม่วายแยกเขี้ยวขู่
แต่วิธีการขู่แบบนี้มันช่าง...
"ทำไมถึงช่วยพวกเรา... แองเจิ้ล..." จอมซาตานถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า เขาคนนั้นคือแองเจิ้ลชั้นองครักษ์สวรรค์ ทาคามินั่นเอง
"ก็แค่ต้องการถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เขาตอบกลับมาด้วยท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าใดนัก คงจะเป็นเพราะสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ที่มีมาช้านานจนทำให้เกิดเป็นอคติตั้งแต่แรกพบเสียแล้ว
"มีพวกอสูรหลุดออกมาจากโลกปีศาจ นำโดยหนึ่งในเชื้อสายราชวงศ์... ไซมอน" จอมซาตานเป็นคนเล่าเรื่องราวออกมา
"เหอะ!! พวกหมานรกกัดกันเองเหรอ.." หนึ่งในลูกน้องของทาคามิกล่าวขึ้น
ฟุ่บ...
โดยมิได้นัดหมายทั้งปลายดาบและปลายเคียวหลายเล่มก็ไปจ่ออยู่ที่คอของผู้เอ่ยอย่างรวดเร็ว
"ถ้าเจ้าไม่รู้เรื่องอะไรก็หยุดพูดไปซะก่อนจะไม่มีปากไว้ให้พูด..." คนกล่าวคืออลิซนั่นเอง แต่ไหนแต่ไรเธอก็รังเกียจแองเจิ้ลอยู่แล้ว
"แก..."
"หยุดนะ!!" ทาคามิพูดด้วยเสียงเฉียบขาดก่อนที่ลูกน้องของเขาจะไม่เหลือแม้ชีวิต เขาดูจากคลื่นวิญญาณที่พวกนี้ปล่อยออกมาแล้วสิ่งที่ยมทูตสาวพูดคงไม่ใช่เพียงเรื่องขู่แน่
แต่ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ต่อปากต่อคำใส่กันอีก..
พรึบ...
เสียงกระพือปีกดังเข้ามาในโสตประสาทของพวกเขา ทั้งฝ่ายแองเจิ้ลและยมทูตแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า
ภาพที่ปรากฏนั้นคือ เหล่าฝูงสัตว์อสูร พวกมันมีหน้าตาคล้ายมนุษย์ แต่ร่างกายของพวกมันกลับเป็นสีเทาและผอมเกร็ง แขนของพวกมันติดอยู่กับพังพืดขนาดใหญ่ หรือหากจะให้อธิบายง่ายๆก็คือปีกค้างคาวนั่นเอง ที่สำคัญคือพวกมันมีจำนวนนับร้อยตัว!!
ทั้งเหล่าแองเจิ้ลและยมทูตเบื้องล่างเมื่อเห็นดังนั้นก็ต่างเตรียมอาวุธของตนอย่างพร้อมเพรียง
"คงต้อง.. สงบศึกไว้ชั่วคราวละมั้งซาตาน.." ทาคามิเอ่ย
"เจ้าชื่ออะไร..." จอมซาตานถามกลับ
"ทาคามิ... ยินดีที่ได้ร่วมรบ.."
"หึ... วิญญาณบรรพชนมาเห็นข้าร่วมสู้กับแองเจิ้ลคงต้องฆ่าตัวตายอีกรอบแน่เลยหว่ะ.." จอมซาตานเฟนริลกล่าวยิ้มๆ
ฝูงค้างคาวปีศาจเริ่มดิ่งลงมาโจมตี
"ยิงเลย!!" จอมซาตานตะโกนสั่ง
ทันทีที่สิ้นเสียงสั่ง ลูกไฟลูกเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งสีทองและสีดำก็พุ่งเข้าใส่ฝูงคางค้าว ทำให้ค้างคาวบางตัวที่หลบไม่ทันถูกพลังอัดจนกระเด็นไปไกล
ฟุ่บ!!!
หลังจากการยิงเปิดทาง กองรบประชิดตัวขนาดย่อมๆก็ทะยานพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
"เฮ้!! ทิ้งพวกมันมาให้ฉันบ้างสิเฟ้ย!!!!" อลิซตะโกนอย่างหงุดหงิดเนื่องจากปีกของเธอนั้นไม่สามารถใช้บินได้อย่างแองเจิ้ลหรือพวกเชื้อพระวงศ์ คานาโกะกับนาเดียนั้นสามารถโจมตีไกลได้อยู่แล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร
แต่สำหรับพวกสายบู๊เต็มสูบอย่างเธอหรือเนตรนภากับนพีเนี่ยสิ!!
อ๊ากกกก!!!
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดโว้ย!!
ทางด้านบนตึกนั้นสถานการณ์ของซิลเทียร์ถือได้ว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก บาดแผลทั่วตัวของเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอยังคงอาศัยการกลิ้งหลบการโจมตีของเมย์ไปเรื่อยๆ
ฉัวะ!!!
เธอได้แผลใหม่อีกแผลบริเวณขาขวา
แฮก.. แฮก..
นัยน์ตาของเธอยิ่งพร่าเลือนหนักขึ้นไปอีกตอนนี้แม้แต่ยืนก็ทำได้ยากยิ่งแล้วสำหรับ
ซิลเทียร์
"คิกๆ วิญญาณเนี่ยก็ขาดเลือดได้เหมือนกันเหรอคะ หนูเพิ่งจะรู้นะเนี่ย" เสียงของเมย์ยังคงดังขึ้นมาจากความมืด
ตุบ..
ซิลเทียร์หมดแรงแม้แต่จะยืน เธอคุกเข่าลงกับพื้น
"ว้า... หมดแรงแล้วเหรอคะ งั้นก็จบมันเลยก็แล้วกันนะคะ..." ร่างของเมย์ก้าวออกมายืนกลางแสงจันทร์
"นั่นสิ... มาจบกันเลย" ซิลเทียร์พูด เมย์งงนิดๆกับคำพูดแปลกๆของซิลเทียร์
แต่แล้วเธอก็ได้คำตอบ
ซุ่บ!!
ตัวของเธอถูกบางอย่างรวบเข้าจนเธอไม่อาจขยับตัวได้!!
"อะไรกัน!?" เมย์อุทานอย่างตกใจ
"หึหึ... แกหน่ะยังอ่อนหัดนัก..." ซิลเทียร์เอ่ยขึ้น
สิ่งที่รัดเมย์อยู่คือด้ายสีดำของซิลเทียร์นั่นเอง!! เมย์พยายามดิ้นแต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ด้ายที่สานกันราวกับเป็นตาข่ายใช้มัดเธอดูเหมือนจะไม่ขาดง่ายๆ
"ดูเหมือนวิญญาณของเจ้าของร่างจะหลุดออกมาเกินสองอาทิตย์แล้วสินะ... ฉันจะบอกอะไรดีๆให้แกฟัง" ซิลเทียร์พึมพำก่อนจะใช้นิ้วทั้งสิบทีเชื่อมต่อจะกับด้ายออกแรงดึงรัดตัวเมย์ให้แน่นขึ้นไปอีก!!
เมย์กรีดร้องอย่างเจ็บปวด ด้ายนั้นเริ่มบาดเข้าเนื้อของเธอจนเลือดไหลออกมา
"ข้อหนึ่ง.. สนใจกับสภาพรอบตัวน้อยไป แกไม่สังเกตเลยว่าเส้นด้ายทั้งหมดที่กระจายอยู่เต็มของหายไปไหน" เมย์เบิกตากว้าง
ตอนแรกนั้นซิลเทียร์ได้สร้างข่ายด้ายจำนวนมากขึ้นในห้องนี้ แต่ในระหว่างต่อสู้นั้นเธอได้ทำให้มันล่องหนไปเพื่อให้พ้นจากสายตาของเมย์และการที่เธอไม่เข้าปะทะแต่กลิ้งหลบไปรอบๆก็เพื่อล่อให้เมย์เข้าไปพันกับด้ายโดยที่เธอไม่รู้ตัวนั่นเอง!!
"ข้อสอง... อ่อนด้อยในด้ายการศึกษาวิญญาณเกินไป... ฉันหน่ะถึงจะอยู่ในโลกนี้และเป็นเชื้อพระวงศ์แต่โดยกายภาพพื้นฐานแล้ว ฉันมีโครงสร้างเหมือนกับวิญญาณทั่วไป แม้จะเลือดออกมากขนาดไหนหากคุมสติอยู่ล่ะก็ ร่างไม่มีทางสลายไปอย่างแน่นอน"
เมื่อครู่ที่เธอทำเป็นเพียงแค่ละครตบตาเท่านั้น!?
"และข้อสุดท้าย.."
กึด...
เธอออกแรงดึงด้ายอีกจน ด้ายนั้นเริ่มบาดเข้าไปในเนื้อ
"หากฆ่าได้ จงฆ่าให้เร็วที่สุด..."
"กรี๊ดดดดด!!!"
แล้วซิลเทียร์ก็ออกแรงกระตุกด้ายดำของเธอ
ฉัวะ!!!
ร่างของเมย์กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ละอองเลือดสาดกระจายไปทั่ว เศษเนื้อเละจนยากที่จะบรรยายว่าเดิมนั้นคือซากของอะไร
แล้วเศษเนื้อนั้นก็ค่อยๆสลายไปเหลือเพียงลูกไฟวิญญาณลอยอยู่
ใบหน้าของซิลเทียร์เปื้อนไปด้วยเลือดแต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
นี่หรือความน่ากลัวของเจ้าหญิงองค์โตแห่งโลกปีศาจ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น