ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 24
บทที่ 24
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อห้าสิบปีก่อน
ก๊อกๆ
"ท่านพ่อ... ข้าเข้าไปล่ะนะ" เฟนริลหรือขณะนั้นก็คือจอมซาตาน เคาะประตูห้องของพ่อเขาแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งนั้นเขาจึงเปิดประตูห้องเข้าไป
และภาพที่ปรากฏต่อสายตาของจอมซาตานหนุ่มก็คือ..
ห้องทำงานของอดีตจอมซาตานที่เขาเคยเข้าไปวิ่งเล่นเป็นประจำ จนบางครั้งทำให้ถูกท่านพ่อดุ
ห้องนั้นเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากประตูห้องทอดยาวเข้าไปมองเห็นโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้ กองเอกสารยังคงกองอยู่เต็มโต๊ะ เตาผิงที่ไม่ค่อยถูกจุดใช้เท่าไหร่ฝังตัวอยู่มุมหนึ่งของห้อง จุดเด่นของห้องนี้คือหน้าต่างบานใหญ่ มีความสูงตั้งแต่พื้นห้องจรดเพดานมันเป็นกระจกใส ในยามค่ำคืนนั้นแสงสีเงินของพระจันทร์จะสาดส่องเข้ามา
แต่ทว่าบัดนี้...
แสงสีสาดส่องเข้ามากลับถูกย้อมเป็นสีแดงก่ำเพราะเลือดแดงฉานสาดย้อมบานหน้าต่าง
และใต้แสงสีแดงนั้นเองร่างของอดีตจอมซาตานนอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะทำงาน โลหิตบนหน้าต่างนั้นทะลักออกมาจากบาดแผลลึกกลางระหว่างหน้าอก นัยน์ตาของอดีตซาตานเบิกกว้างจ้องมองบุรุษที่คร่อมอยู่บนร่างของเขา ร่างนั้นชูมือขวาที่เปื้อนเลือดขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของตน นอกจากโลหิตแล้ว บนมือนั้นยังมีลูกไฟสีฟ้าลอยอยู่ด้วย
และเงาของคนที่สะท้อนอยู่ในตาของอดีตจอมซาตานก่อนที่ร่างของเขาจะสลายเป็นผงก็คือไซมอนนั่นเอง!!
ก่อนที่ร่างของอดีตซาตานจะสลายไปเขาพยายามเอื้อมไปหาดวงไฟนั้น มืออันสั่นเทาบอกให้รู้ว่านั่นเป็นความพยายามสุดท้ายของเขา
หากแต่ที่เขาเอื้อมไปจับนั้นไม่ใช่ลูกไฟวิญญาณ แต่กลับเป็นใบหน้าลูกชายคนเล็กของเขา..
"พ่อขอโทษ..." คำพูดสุดท้ายจากอดีตซาตาน ดวงตาของไซมอนเบิกกว้าง
เมื่อกี้ท่านพ่อพูดว่าอะไรนะ...
ไม่ทันจะได้ถามประโยคนั้นออกไปร่างของเขาก็สลายเป็นธุลี เหลือไว้เพียงลูกไฟวิญญาณบนมือไซมอนเท่านั้น
"ไซมอน!!!!" สีตาของเฟนริลแปรเปลี่ยนเป็นแดงดำด้วยโทสะเขาเรียกเคียวโซ่ออกมาเหวี่ยงมันเข้าใส่ไซมอน
แต่ไซมอนไม่คิดจะหลบเหลี่ยงแต่อย่างใดเคียวโซ่นั้นรัดรอบตัวของไซมอน ไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันการหนี
อย่างไรก็แล้วแต่ ความคิดที่จะหนีนั้นกลับไม่มีอยู่ในหัวของไซมอนแม้แต่นิดเดียว
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ของโลกปีศาจ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ไซมอนต้องโทษประหาร แต่ทว่า กลับไม่มีสิ่งใดสามารถปลิดชีพเขาได้ แม้ร่างกายของไซมอนจะสลายไปเป็นผงธุลี แต่กลับไม่ปรากฏลูกไฟวิญญาณ และอีกเพียงอึดใจต่อมาร่างของไซมอนก็จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
เมื่อไม่มีอะไรสามารถปลิดชีพของเขาได้ ไซมอนจึงถูกขับไล่ออกจากโลกปีศาจไปแทน
ตัวของไซมอนเองในตอนนั้นไม่ได้ปริปากแม้แต่นิดเดียว
"เห้อ..." กลับมาปัจจุบัน เฟนริลยังคงนั่งใจลอยอยู่บนพื้นหญ้า เขาถอนหายใจยาวจนเกิดเป็นไอสีขาว
หากใครมาเห็นฉากนี้คงต้องนึกว่าเขาเป็นเด็กหลงทางหาทางกลับบ้านไม่ถูกเป็นแน่
ไปได้แล้วมั้ง...
จอมซาตานเฟนริลลุกขึ้นจากพื้น เตรียมร่ายเวทยืเปิดประตูมิติ เขาเปิดมันก่อนเวลาเที่ยงคืนถึงครึ่งชั่วโมง
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไปคนเดียว
มันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องทำให้มันจบ...
"แหม่ๆ... พ่อจ๊ะหนีแม่ไปคนเดียวเหรอจ๊ะ~" เสียงอันคุ้นเคยของภรรยาของเขาดังขึ้นมาจากข้างหลัง
"มันเป็นเรื่องของฉัน มิคาโกะ... ปัญหาของฉัน ฉันต้องจัดการมันเอง"
"ทำเป็นเท่ ปัดโธ่... ถ้าไม่อยากให้ไปด้วยจริงๆอย่าบอกตั้งแต่แรกไม่ดีกว่าเหรอ พ่อบ้า!!" ประโยคนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากองค์หญิงคนโตแห่งโลกปีศาจ
ซิลเทียร์นั่นเอง!!
เธอเดินขึ้นเนินมาพร้อมๆกับแม่และน้องสาวของเธอ
"เอ๋!! นี่จะไปกันแล้วเหรอ!! ขี้โกงนี่หน่า ดีนะที่พวกเรามาถึงก่อนเวลา" เสียงของไลฟ์ดังขึ้นจากเนินเขาอีกข้างหนึ่ง เขามาพร้อมกับอลิซ คานาโกะ และทาเครุ นอกจากนั้นยังมีสามพี่น้องเทพพยากรณ์มาด้วย!!
"หวาๆ!! เนตรนภาขอออกโรงด้วยคนสิคะ!!"
ฟุ่บ..
ร่างเล็กของเนตรนภาปรากฏขึ้นพร้อมด้วยลูกศิษย์ทั้งสองของเธอ นพีและนาเดีย
"ชิ.. เจ้าพวกงี่เง่า ไม่รับประกันความปลอดภัยนะ..." จอมซาตานยิ้มมุมปากนิดๆ
"หัวหน้าครับ พวกมันเข้าใกล้แนวยิงระยะหนึ่งร้อยเมตรแล้วครับ!!" ทหารนายหนึ่งรายงานกับหัวหน้าของเขาพวกเขากำลังตั้งแนวป้องกันปิดล้อมพื้นที่ไว้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ที่ผู้คนย่านฮาราจูกุเกิดคุ้มคลั่งฆ่ากันเอง นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองวันเต็มแล้ว แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่คลีคลายพวกอมนุษย์รุกคืบไปเรื่อยๆอย่างไร้การควบคุม จากกระสุนยาง บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยกระสุนจริง การตัดไฟดูเหมือนจะไม่เกิดผลกระทบต่อพวกมันเท่าใดนัก ตอนนี้ผู้คนในกรุงโตเกียวถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน หน่ำซ้ำในเวลาแบบนี้ยามค่ำคืนยังเกิดหมอกประหลาดบดบังทัศนวิสัย แปลกตรงที่หมอกประหลาดนี้ปกคลุมเพียงสนามบินต่างๆเท่านั้น ราวกับจะตัดทางหนีและทางส่งความช่วยเหลือทั้งหมด
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาก็ผ่านไปเกือบสี่สิบแปดชั่วโมงแล้วค่ะ ตอนนี้ทางสนามบินนาริตะก็ได้ประกาศห้ามขึ้นบินเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากเหตุขัดข้องทางทัศนวิสัย ทางรัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตโตเกียว..." เสียงนักข่าวหญิงคนนึงยังคงรายงานเหตุการณ์ต่อไป
ตอนนี้ซาโตมิและตรีรัตน์นั่งอยู่ข้างเตียงของแม่ของซาโตมิ ตอนนี้แม่ของเธอเปลี่ยนกลับมาอยู่ในชุดไปรเวทแล้ว พวกเขากำลังจะออกจากโตเกียวเนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์เข้าสู่สภาวะเลวร้าย
ส่วนนาโอมินั้นพ่อและแม่ของเธอได้นำลูกสาวกลับไปดูแลต่อที่บ้านแล้ว หลังจากที่ทราบว่าสมองไม่มีส่วนไหนผิดปกติ การกลืนอาหารก็เป็นไปอย่างไม่ติดขัดแต่นาโอมิเป็นเจ้าหญิงนิทราด้วยสาเหตุใดนั้นแพทย์ก็ไม่อาจทราบได้
ตรีรัตน์กำลังเดินไปที่รถแวนที่เขาเช่ามา เพื่อขับพาแม่ของซาโตมิออกจากโรงพยาบาล และตอนนั้นเอง
ตูม!!
พื้นถนนบริเวณถนนใหญ่หน้าโรงพยาบาลก็ยุบตัวลงราวกับถูกบางอย่างกระแทกพื้นถนนอย่างแรง ผู้คนบนท้องถนนราวกับถูกสะกดไว้ แม้จะตกใจกับเหตุการณ์ แต่พวกเขาก็ไม่ขยับไปไหน ยังคงมองไปทางหลุมกลางถนนนั่น เมื่อฝุ่นควันจางลงก็ปรากฏร่างหลายร่างอยู่ ณ ใจกลางหลุม
พวกมันมีลักษณะคล้ายหมาป่าแต่ยืนด้วยสองขา และก่อนที่ผู้คนจะได้ทำอะไร พวกมันก็กระโจนขึ้นมาจากหลุม
"จับไปให้ท่านไซมอนให้มากที่สุด ใครขัดขืน ฆ่า!!!" ช่างน่าอัศจรรย์ที่เสียงพูดสามารถออกมาจากปากของมันได้
ผู้คนที่สัญจรไปมาเริ่มรู้ถึงอันตรายจึงรีบวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ถึงจะช้าไปกว่าที่ควรมากแล้วก็ตาม
นั่นเป็นผลให้พวกเขาโดนไลแคนที่มีความไวเป็นต่อไล่ทันอย่างง่ายดาย
ในบรรดาเหล่าผู้คนนั้นมีชายคนหนึ่งถูกไลแคนรวบตัวไว้ได้ ร่างของเขาสูงเพียงอกของไลแคนเท่านั้น
"ปล่อยนะโว้ยยยย!!" เขาร้องตะโกนออกมาก่อนจะใช้แรดเหวี่ยงกำปั้นและระดมเตะเท้าเข้าใส่ไลแคนไม่ยั้ง
กร๊อบบ!!
ไลแคนใช่เพียงมือข้างเดียว คอของชายผู้กล้าหาญคนนั้นก็บิดจนหันไปด้านหลัง เขาเสียชีวิตในทันที แม้ความกล้าหาญชาญชัยขนาดไหนในยามนี้ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าอสูรกาย
ฟุ่บ!!!
ไลแคนตัวหนึ่งมาปรากฏตรงหน้าของครอบครัวอากิระ มันมองไปยังตรีรัตน์ที ซาโตมิที
"อืมม... น่าจะพอใช้ได้ จับส่งท่านไซมอนเลยละกัน" มันพูดออกมาตรีรัตน์ฟังมันเข้าใจเป็นอย่างดี เขาเอาตัวเองเข้าขว้างซาโตมิไว้
"เหอะๆ เจ้าก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเจ้าตัวที่เล่นบทฮีโร่เมื่อกี้มันจบชีวิตยังไง!!!!" พูดจบมันก็เหวี่ยงกรงเล็บเข้าใส่ตรีรัตน์ ด้วยความเร็วที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจมองได้ทัน
ฉัวะ!!!!
เสียงโลหะกรีดผ่านเนื้อตามด้วยเสียงร้องโหยหวนของเจ้าไลแคน มันลงไปชักดิ้นชักงอเพราะแขนท่อนล่างของมันตั้งแต่ข้อศอกลงไปถูกตัดกระเด็นออกไป ครู่ต่อมาเลือดของมันก็พุ่งกระฉูดออกมาทางบาดแผล
ตรีรัตน์หันไปมองผู้ที่ช่วยเหลือเขา
ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นคือเด็กชายคนนึงอายุราวสิบขวบ ใบหน้าขาวซีด ผมข้างหน้าตั้งชี้ไม่เป็นทรงแต่ข้างหลังกลับยาวสยาย ผมและดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ ในมือของเขาถือเคียวโซ่เล่มเล็กเล่มหนึ่ง
"ท่าจะมาสายไปหน่อยนะเนี่ย.." เขารำพึงขึ้น และจากนั้นร่างอีกหลายร่างก็ก้าวออกมาจากมุมมืดของลานจอดรถ
ทุกร่างล้วนสวมผ้าคลุมสีดำ แต่ละคนถืออาวุธมีคมพร้อมสรรพ นัยน์ตาทุกคู่โชนแสงแดงก่ำทำให้ตรีรัตน์เกิดความรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ซาโตมิตาเบิกกว้าง ด้วยความตกใจ เธอแม้เธอจะรู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันกับการถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ที่เธอตกใจยิ่งกว่าในตอนนี่คือภาพของชายในชุดคลุมดำคนหนึ่ง
ใบหน้าที่เธอฝันถึงทุกครั้งที่หลับตา ใบหน้าที่เธอแสนจะรักใคร่ ใบหน้าของบุคคลที่เธอคิดว่าตายจากเธอไปแล้ว
ใบหน้าของบุตรชายบุญธรรมของเธอ...
อากิระ ไลฟ์!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น