ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10
บทที่ 10
นับตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาสองวันแล้ว มันเป็นสองวันที่ยาวนานราวกับสองปี ทุกคืน ไลฟ์ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั้งร่างกายเพราะความฝันอันเลวร้ายทำให้ไลฟ์รู้สึกเหมือนเป็นบ้า
อาการของไลฟ์นั้นดูจะหนักกว่าคราวที่เขาเสียชีวิตด้วยซ้ำ อลิซเองก็มีสภาพย้ำแย่พอๆกัน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันอยู่ในห้องนี้จากไปก็เพียงตอนหมดเวลาเยี่ยมเท่านั้น ทาเครุ สกูลด์ เวอร์แนนดีและอูร์ก็มาเยี่ยมพวกเขาบ่อยๆ แต่จะสลับกันมาพร้อมกับอลิซ ส่วนที่เหลือจะอยู่เฝ้าบ้าน
นพีเองก็มาเยี่ยมไม่ขาดเหมือนกัน หลังจากที่ได้รู้จักกับไลฟ์ในการสอบแล้ว เขากับไลฟ์ก็ได้มีโอกาสเจอกันอยู่บ่อยๆ
ร่างกายของไลฟ์เริ่มดีขึ้นแล้ว อาการของพิษที่โดนจากเคียวทุเลาลงไปมาก เหลือเพียงแต่อาการทางจิตเล็กน้อย สภาพจิตใจของเขาที่ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ในช่วงนี้จึงทำให้ไลฟ์ถูกสั่งให้อยู่ที่นี่ เพราะในโลกวิญญาณนั้นสภาพจิตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากร่างกายทั้งหมดนั้นเกิดจากจิต และหากจิตได้รับผลกระทบรุนแรงอาจจะส่งผลต่อการสลายของร่างกายเลยทีเดียว
แต่ที่อาการหนักที่สุดเห็นจะเป็นคานาโกะ ตั้งแต่ตอนนั้นเธอยังไม่ได้สติอีกเลย แต่จากการวินิจฉัยของจิตแพทย์แล้ว เขาได้ระบุว่า จิตของคานาโกะได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการปิดกั้นตัวเอง เมื่อเธอฝื้นเธออาจจะจำอะไรไม่ได้ไปสักพักหนึ่ง และหากจำได้ เธออาจจะเกิดอาการซึมเศร้า จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการสลายตัวที่อาจจะเกิดขึ้นได้
"อืม..." เสียงงึมงำดังขึ้นจากเตียงที่อยู่อีกข้างของเตียง ไลฟ์ลุกขึ้นจากเตียงไปหาคานาโกะ อลิซก็เช่นกัน คานาโกะลืมตาขึ้น เธอมองไลฟ์สลับกับอลิซไปมา
"ฉันอยู่ที่ไหน..." เธอเอ่ยขึ้นเสียงของเธอแหบแห้งกว่าปกติ
"โรงพยาบาลหน่ะ" อลิซตอบให้ คานโกะนิ่งไปสักพักราวกับทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"นาโอมิหล่ะ..." เธอถามขึ้นในที่สุดไลฟ์กับอลิซอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อยก่อนจะพูดอธิบายเรื่องทั้งหมดให้คานาโกะฟัง
เธอนั่งรับฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเธอหมดสติไปเมื่อสองวันก่อนอย่างเงียบๆ เธอยังดูจะมีอาการซึมเศร้าอยู่มาก
"เราจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่จ้ะ" คานาโกะเอ่ยถามหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ
"ก็... ภายในสองสามวันนี้แหละนะ ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะดีขึ้นเร็วแค่ไหน" อลิซกล่าว
"งั้นพรุ่งนี้เริ่มออกเดินทางกันเลย" คานาโกะประกาศขึ้น ไลฟ์กับอลิซมองหน้ากันอย่างกังวล
"ถ้าจะให้ทันเจ็ดวันน่ะ ต้องออกเดินทางอย่างช้าที่สุดคือพรุ่งนี้เท่านั้น..." เสียงของบุคคลภายนอกวงสนทนาดังแทรกขึ้นมา ไลฟ์หันไปมอง กลุ่มคนที่ปรากฏตัวคือสมาชิกราชวงศ์ปีศาจทุกคน พร้อมด้วยองครักษ์ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
"แหม่ๆ จะไปตามช่วยเพื่อนเหรอจ๊ะลูก" ผู้เป็นแม่ของไลฟ์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ที่จริงตั้งแต่รู้จักกันมา ไลฟ์ไม่เคยเห็นแม่ของเขาคนนี้ไม่ยิ้มเลย..
"มีปัญหาแล้วคิดจะแก้คนเดียวหรือไง ลืมแล้วเหรอว่ายังมีพวกเราน่ะห๊ะ!!" ซิลเทียร์ถามอย่างเคืองๆ
"เอ่อ..." ไลฟ์ยังคงงงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"พี่จ๋า ให้หนูไปด้วยนะ" ลูเซียเข้ามากอดเอวไลฟ์เป็นเชิงออดอ้อน
"แต่มันอันตราย..."
"เฮ้ยๆ.. เจ้าคิดว่าพวกเราจะอ่อนหัดขนาดนั้นเลยหรือไง? เพื่อนของเจ้าถูกจับอยู่ในป่าไม่ใช่รึไง แล้วใครกันที่เคยเข้าไปที่นั่นแล้วออกมาน่ะหา?" จอมซาตานกล่าวขึ้น
"เอาล่ะ... การจะเข้าไปที่นั่นต้องเตรียมตัวให้พร้อม สภาพแวดล้อมภายในนั้นน่ะทำให้อะเมซอนบนโลกมนุษย์กลายเป็นสวนหย่อมไปเลย หากขาดสติเพียงแค่เสี้ยววินาที..." จอมซาตานเริ่มกล่าวก่นจะล้วงแผนที่ออกมากางบนโต๊ะ ราวกับเขากลายเป็นผู้นำในแผนการครั้งนี้ไปแล้ว!!
ไลฟ์มองหน้าอลิซ อลิซยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงว่า'มีคนช่วยเยอะๆก็ดี'
โครม!!
ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างๆหนึ่งพุ่งเข้ามา ร่างนั้นโผเข้าใส่พื้นก่อนจะกลิ้งตัวก่อนจะยืนขึ้น
"ผมไปด้วยคนคร้าบบอาจารย์รุ่นพี่!!" ร่างที่พุ่งเข้ามานั้นคือ ทาเครุนั่นเอง
"เฮ้ย.. นายจะไปได้ยังไง ยังไม่ได้เบิกเนตร ไหนจะเรื่องสอบอีก..." ไลฟ์พูด เขารู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อทุกคนต้องมาลำบาก หากแต่ตอนนั้นเขาสามารถปกป้องนาโอมิไว้ได้ล่ะก็...
ช่วยรอหน่อยนะ...
นาโอมิ...
ในห้องมืดชื้นไปด้วยกลิ่นดิน บัดนี้ตะแกรงที่ใช้ส่งของถูกเปิดออก ถาดอาหารสำหรับสองคนถูกสอดเข้ามา ในถาดอาหารนั้นมีจานอาหารวางอยู่แม้ว่าจะเรียกไม่ได้ว่าเลิศหรู แต่ก็ไม่ได้อนาถจนเกินไป ในจานประกอบไปด้วยขนมปังสองแถวและซุปส่งกลิ่นหอมฉุย และยังมีกาน้ำกับแก้วอีกสองใบ ร่างๆหนึ่งก้าวออกมาจากเงาก่อนจะยกถาดขึ้น และเดินตรงไปยังที่ที่อีกร่างนึงนั่งอยู่
"กินอะไรหน่อยสิคะพี่... พี่ไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วนะ เดี๋ยวจะแย่เอา..." ร่างที่ตัวเล็กกว่าเอ่ยทักขึ้นอย่างเป็นห่วง ร่างเล็กนั่นคือเด็กสาวที่ชื่อเมย์นั่นเอง
"กินเลย... พี่ไม่หิว" นาโอมิตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็เป็นการฝืนยิ้ม
ตลอดสองวันมานี้นาโอมิไม่ได้แตะต้องของกินเลย จะมีก็แต่ดื่มน้ำเท่านั้น เธอยังคงทำใจไม่ได้เมื่อรู้ความจริงว่าเธอไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว
แอ๊ด...
เสียงประตูไม้เปิดดังขึ้น ร่างๆหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับแสงสว่างลอดผ่านประตู เสียงก้าวเท้าดังขึ้นต่อเนื่องก่อนจะมาหยุดลงที่หน้าลูกกรงที่ขังพวกเธอไว้
ร่างนั้นค่อยๆย่อตัวลง จนแสงที่ส่องจากหน้าต่างส่องลงมากระทบใบหน้าของเขา
ชายคนนี้มีผมสีแดง เช่นเดียวกับสีตา แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือ ชายผู้นี้มีเขาคู่ใหญ่ม้วนงออยู่บนศีรษะ
"เป็นไงพวกเธอ... อยู่นี่สุขสบายดีไหม" น้ำเสียงของเขาดูเรื่อยๆ
เมย์ถอยตัวเขามาติดกับนาโอมิ เบื้องหลังชายคนนั้นยังมีร่างอีกสองร่างยืนอยู่ ร่างนึงดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง กลางหลังของเธอปรากฏเงาคล้ายขาของแมงมุมปรากฏขึ้นแปดข้าง ส่วนอีกร่างนั้นสวมผ้าคลุมดำสิ่งที่โผล่มาให้เห็นมีเพียงแสงวาวโรจน์จากดวงตาทั้งสองข้าง
"พวกแกเป็นใคร..." นาโอมิถามขณะที่เมย์เกาะตัวเธอแน่น
"ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเราเป็นใคร ฉันแค่อยากจะมาบอกเธอ ว่าชีวิตของพวกเธอหน่ะมีค่ามากนะ อย่าทำอะไรโง่ๆอย่างทำร้ายตัวเองซะล่ะ.." ร่างนั้นกล่าว สร้างความงุนงงให้กับนาโอมิเป็นอย่างมาก
"..."
นาโอมิยังคงนิ่งเงียบ ก่อนที่ชายคนนั้นจะหัวเราะนิดๆก่อนจะพูดต่อ
"รู้ความจริงแล้วยังไม่เกิดการสลายตัวเลยสักนิด วิญญาณชั้นสูงเนี่ยสุดยอดไปเลยน้า..."
"แกพูดเรื่องอะไร" นาโอมิยังคงถามต่อ ชายคนนั้นถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะกล่าว
"เอาเหอะ... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... ให้พวกเธอรู้เรื่องหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง" เขาพูดเหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่า
"ในวิญญาณของคนที่ตายน่ะ มันจะมีพลังไม่เท่ากัน มากน้อยต่างกันไปแล้วแต่คน ปกติยมทูตธรรมดาจะไม่สามารถตีค่าพลังออกมาได้ จึงไม่รู้ว่าวิญญาณดวงไหนแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ว่าคุณชุดคลุมดำของเราตรงนี้... เขามีพลังพิเศษที่สามารถมองระดับพลังนั้นได้" เขาพูดก่อนจะผายมือไปยังร่างที่ใส่ผ้าคลุม
มันถอดผ้าคลุมศีรษะออก สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าคลุมศีรษะนั้นคือ ศีรษะของร่างหัวกะโหลกที่เอาวิญญาณของนาโอมิมานั่นเอง!!
"แก...." นาโอมิกัดฟันกรอด นอกจากจะเอาวิญญาณของเธอมา มันยังเป็นคนที่ทำร้ายไลฟ์กับคานาโกะอีกด้วย!!
"หึหึ... ใจเย็นๆแม่สาวน้อย ข้าแค่ทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย" ร่างนั้นกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง
"ตามที่เขาบอก เจ้าสองคนมีวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดที่หาได้ในแถบเอเชียอาคเนย์ เพราะฉะนั้น จงดีใจซะเถอะ... พวกเจ้าจะได้เป็นหนึ่งในแนวหน้าของกองกำลังของข้าเชียวนะ" เขากล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืน
"อีกห้าวันจะถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง พิธีผสานวิญญาณของพวกเจ้าจะเริ่มในตอนนั้น ระหว่างนี้ก็นั่งคิดเล่นๆไปก่อนก็ได้นะ อยากผสานวิญญาณกับสัตว์ประเภทไหนเป็นพิเศษล่ะก็ บอกข้าได้นะ ฮ่าๆ" แล้วเขาเดินนำขบวนออกจากห้องไป
ผู้หญิงที่มีขาแมงมุมติดอยู่ที่หลังชำเลืองมองพวกเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดประตูที่ใช้เข้ามาที่นี่ ปล่อยให้ความมืดเข้าครอบงำภายในคุกอีกครั้ง...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น