ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9
บทที่ 9
ไลฟ์ตื่นขึ้นในห้องสีขาวห้องหนึ่ง ในโรงพยาบาลกลางของเขตสอง
"อ้าว.. ตื่นแล้วเหรอ" อลิซเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นไลฟ์ลืมตาขึ้น
"อืม..." ไลฟ์ยังไม่ค่อยอยากพูดอะไรมาก เขาปกป้องนาโอมิไม่ได้เลย...
"คานาโกะล่ะ?" ไลฟ์ถาม อลิซลังเลก่อนจะมองไปยังข้างเตียงของไลฟ์ เขามองตามไป...
มีเตียงอีกเตียงถูกตั้งในห้อง บนเตียงนั้นเป็นร่างของเด็กสาวที่ครั้งหนึ่งเคยมัดผมเป็นหางม้าบัดนี้มันถูกปล่อยสยายออก ใบหน้าขาวนวลที่เคยมีเลือดฝาดน้อยๆเวลาที่ทำอาหารบัดนี้กลับซีดเผือด
"เป็นบาดแผลทางจิตใจหน่ะ... ในโลกนี้มันส่งผลต่อร่างกายมาก คงต้องให้เธอพักสักหน่อยล่ะนะ" อลิซพูดต่อ
แล้วประตูห้องก็เปิดขึ้นพร้อมกับร่างสี่ร่างก้าวเข้ามา สี่ร่างนั้นคือสามพี่น้องเทพพยากรณ์และนพี
"อ่าว... ฟื้นแล้วเหรออะไรเล่นนายซะหมอบอย่างงั้นล่ะ? พอดีทีมของฉันลาดตระเวณอยู่แถวนั้นพอดี อาจารย์ของฉันพอดีใช้เนตรตรวจเจอพอดีเลย..."
"นาโอมิ.. นาโอมิหล่ะ?" ไลฟ์ถามขึ้น นพีมองหน้าอลิซอย่างไม่แน่ใจ แต่อลิซก็พยักหน้าเป็นเชิงว่า'บอกมันไปเหอะ'
"คือว่า... ร่างของเธออยู่ที่โรงพยาบาลในโลกมนุษย์ ก่อนฉันจะพานายกับเธอคนนี้กลับมา ก็ฝากทางทีมที่แฝงตัวอยู่ในโลกมนุษย์พาเข้าโรง'บาลไปแล้วหล่ะ" ฟังถึงตรงนี้ไลฟ์รู้สึกโล่งใจไปเปลาะนึง
"เออ... คือว่า วิญญาณของเธอถูกกระชากออกจากร่างไป... ตอนนี้เธอเป็นเจ้าหญิงนิทรา... ไม่รู้สึกตัว..." นพีกล่าว
ไลฟ์ก้มหน้าลง เขาไม่สามารถสู้หน้าใครได้ แม้แต่คนสำคัญของตนยังปกป้องไม่ได้... ไลฟ์คิดอย่างเจ็บใจก่อนจะกำหมัดแน่น
"แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าวิญญาณของเธออยู่ไหน อูร์ได้ทำการค้นหาในช่วงสองวันที่นายหลับไป ตอนนี้เธออยู่กับไซมอน ณ ใจกลางป่าแห่งเดียวในโลกยมทูตแห่งนี้ ไม่ไกลจากแกนกลางของพลังแห่งโลกปีศาจเท่าไหร่" สกูลด์กล่าวขึ้น
"งั้นฉันต้องไปช่วยเธอ" ไลฟ์กล่าวออกมาก่อนจะลุกจากเตียง
อุ๊ป!!
ทันทีที่ขยับร่างกาย ความเจ็บปวดก็แล่นเข้าจู่โจมไลฟ์จนเขาทรุดลงไป นพีเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคอง
"เฮ้!! แกจะไปไหน"
"ไปช่วยนาโอมิ.." ไลฟ์กัดฟันพูดก่อนจะยันตัวขึ้นมาอีกครั้ง
"แกจะไปทั้งสภาพนี้เนี่ยนะ!? อย่าว่าแต่ช่วยนาโอมิเลย สภาพแกเป็นอย่างนี้จะไปรอดถึงหน้าโรง’บาลหรือเปล่าก็ไม่รู้" อลิซพูด
ไม่ว่ายังไง นั่นก็คือความจริง ไลฟ์ผู้ไร้ซึ่งเหตุผลจะเถียงก็ได้แต่นิ่งเงียบ
"นายคิดว่าพวกเราไม่เป็นห่วงนาโอมิหรือไง!? นายคิดว่าคานาโกะจะรู้สึกยังไงถ้าถูกปล่อยทิ้งไว้คนเดียว แล้วนายคิดว่าจะฝ่าเข้าป่านั่นไปคนเดียวหรอห๊ะ!?" อลิซจัดแจงอัดเหตุผลใส่ไลฟ์
"นายลืมพวกเราไปแล้วรึไง? เราเป็นเทพพยากรณ์นะ" สกูลด์เข้าร่วมวงหยุดคนหัวดื้อ
"ยังไม่ต้องเป็นห่วงนะไลฟ์ วิญญาณของนาโอมิยังคงอยู่ในป่าแห่งนั้น ปลอดภัยทุกประการ" เวอร์แนนดีกล่าวขึ้น ถ้าหากนี่เป็นคำพูดจากผู้อื่นมันอาจจะฟังเหมือนคำปลอบ แต่หากออกจากปากของเวอร์แนนผู้รู้ทุกสิ่งในปัจจุบันแล้วแล้ว ถือว่าเป็นคำพูดที่เชื่อถือได้เลยทีเดียว
"ไม่รู้ว่าทำไม แต่ว่าพลังทำนายอนาคตของสกูลด์ใช้ไม่ได้" อูร์พูด
"งั้นนาโอมิจะเป็นอะไรเมื่อไหร่เราก็ไม่รู้ได้เลยสินะ..." ไลฟ์กล่าวเขายังคงรู้สึกผิดที่ช่วยนาโอมิไว้ไม่ได้
"ก็ไม่แน่นะ... จากที่เวอร์แนนดี รู้มาคือพวกนั้นเรียกนาโอมิว่าวิญญาณระดับสูง จากที่ฉันได้ลองศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งการตัดต่อวิญญาณมา พลังของการผสานวิญญาณวิญญาณจะแข็งแกร่งที่สุดในคืนวันเพ็ญ" อูร์พูดอธิบายให้ทุกคนในห้องฟัง ตอนนี้บรรยากาศในห้องนั้นไม่เหลือบรรยากาศของห้องในโรงพยาบาลอยู่แล้ว มันเหมือนกับว่าเป็นห้องใช้วางแผนการมากกว่า
"งั้นก็หมายความว่า เรามีเวลาอีก... เจ็ดวัน" อลิซคำนวณก่อนจะเอ่ยขึ้น
"เดี๋ยว!! นี่มันอะไรกัน" ไลฟ์ถามอย่างงงๆ เมื่อกี้อลิซพูดว่าเรา?
"เอ้า!! แกคงไม่คิดอีกใช่ไหมเนี่ยว่าเราจะปล่อยให้แกไปช่วยนาโอมิคนเดียวน่ะ?" อลิซกล่าวขึ้น
"เรายังมีเวลาเตรียมตัวอยู่ ถ้าหากพวกมันคิดจะดำเนินแผนการในคืนวันเพ็ญจริงๆ" นพีกล่าวขึ้นบ้าง
"ระหว่างนี้ก็ต้องรอไลฟ์มันหายดีก่อนสินะ เห็นเขาว่าเคียวที่มันโดนเข้าไปน่ะ เป็นอาวุธในตำนานของโลกปีศาจ มีฤทธิ์อยู่สองถึงสามวัน ถ้าหากนายขยับมากๆอาจจะเจ็บจนร่างสลายไปเลยก็ได้นะไลฟ์" นพีกล่าว
ไลฟ์ทำท่าจะเถียงอะไรต่อ อลิซเห็นจึงรีบกล่าวขึ้น
"อย่างน้อยก็รอจนคานาโกะจะฟื้นก็แล้วกัน"
"อืม..." ไลฟ์กล่าวอย่างหมดปัญญาจะเถียง
ฉันตื่นขึ้นเพราะมีน้ำเย็นๆหยดใส่หน้า เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบกับความมืด ฉันได้กลิ่นอับชื้นกับกลิ่นเหม็นเขียวๆ
ป่า...
ฉันสรุปเอาเองในใจ แม้จะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักเหนือศีรษะฉันขึ้นไปมีแสงส่องเป็นลำ ดูเหมือนจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างทรงกลมบานเล็กๆที่อยู่บนกำแพงเหนือตัวฉัน แสงนั่นส่องเป็นลำลงมากระทบกับซี่กรงซึ่งน่าจะเป็นเหล็ก ฉันค่อยๆขยับตัว ร่างทั้งร่างยังคงเจ็บ แปล๊บๆแต่ก็ไม่สาหัสอะไร ฉันยันตัวลุกขึ้นนั่ง ตั้งสติทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพสุดท้ายที่ฉันจำได้คือร่างโครงกระดูกและเคียว...
แกรก...
เสียงขยับเบาๆดังขึ้น ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำเอาร่างกายทุกส่วนร้องโอดครวญแต่ฉันไม่ได้ใส่ใจมันนัก
"ใครน่ะ... ออกมานะ" ฉันถามขึ้น ไม่มีเสียงตอบกลับมา
แกรก... แกรก...
เสียงเคลื่อนที่ดังขึ้นต่อเนื่อง ฉันตั้งท่าเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
แล้วร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นให้เห็นแก่สายตาเพราะแสงจากหน้าต่างส่องกระทบ ร่างๆนั้นเป็นร่างเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมของเธอเป็นสีดำสั้นประบ่าดูเหมือนจะไม่ได้รับการหวีสางมาพักใหญ่แล้ว ผิวออกเหลืองๆและตาของเธอเป็นสีน้ำตาลเด่นชัด คงจป็นเพราะสะท้อนกับแสงแดด
"พี่...เป็นคนไทยเหรอคะ" ร่างนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆแสดงถึงความกลัว แต่ภาษาที่เด็กน้อยพูดออกมานั้นเป็นภาษาญี่ปุ่น
คนไทยสินะ... ทำไมพูดญี่ปุ่นได้นะ เป็นลูกครึ่งแบบไลฟ์เหรอ
ฉันค่อยๆนั่งกลับลงไปที่เดิม ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะไร้ซึ่งภัยคุกคาม
"ไม่ใช่หรอก ฉันเป็นคนญี่ปุ่นหน่ะ ฉันชื่อนาโอมิ เธอล่ะ" ฉันกล่าวออกไป
"เอ๋? พูดไทยชัดจังนะคะ หนูชื่อเมย์ พี่รู้ไหมคะว่าเราอยู่ที่ไหน" เมย์ถามขึ้น
อะไรกันมันหมายความว่ายังไงกัน...
ฉันสงสัยอยู่ในใจ เด็กคนนี้บอกว่าฉันพูดไทยชัด เธอได้ยินฉันพูดเป็นภาษาไทย ทั้งๆที่ฉันมั่นใจเต็มที่ว่าฉันพูดภาษาญี่ปุ่นออกไป...
แล้วบทสนทนาที่ฉันเคยคุยกับไลฟ์ก็ผุดเข้ามาในหัว
"นี่ๆ ในโลกปีศาจอยู่กันทั้งเอเชียนี่นายไม่ปวดหัวตายเหรอ พูดกันตั้งกี่ภาษา" ฉันบ่นขึ้นเมื่อไลฟ์เล่าเรื่องโลกปีศาจให้เธอฟัง
"ไม่นะ พอเป็นวิญญาณน่ะ ไม่ว่าชาติไหนพูดภาษาอะไร ก็รู้เรื่องหมดแหละ" ไลฟ์กล่าวตอบ
ความคิดนี้ทำให้ใจของฉันหล่นวูบ
นี่ฉัน... ตายแล้วเหรอ...
"พี่คะ... เอ่อ... พี่คะเป็นอะไรรึเปล่าคะ" เมย์เอ่ยถาม แต่ฉันไม่ได้ตอบกลับไป หัวมันตื้อไปหมดไม่รู้ทำไม
ฉันตายแล้วเหรอ....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น