คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่ห้า พี่เขาโคตรจะน่ารักเลย
มาเซราติแกรนคาบริโอสีขาวได้พาพี่น้องตระกูลโอและลูกชายคนเล็กตระกูลลู่มาถึงสวนสนุกชื่อดังของเกาหลีใต้
ที่นี่มีเครื่องเล่นให้เล่นมากมาย ตอนกลางคืนก็จะมีการแสดงให้ได้ชมด้วย
ซึ่งเซฮุนกะว่าจะพาน้องสาวตัวเล็กไปดูการแสดงด้วย
ลู่หานเปิดประตูให้หนูน้อยมินอาได้ลงไปก่อน
ลู่หานคิดว่าไม่ต้องรอให้เล่นเครื่องเล่นหรอกระหว่างทางมาเขาก็เล่นเกมกับมินอาจนเหนื่อยแล้วพอมองไปยังเครื่องเล่นที่เด่นเพราะความสูง
ที่พาผู้เล่นขึ้นไปสูงที่สุดก่อนจะปล่อยลงมาบวกกับเสียงกรี๊ดจากผู้คนที่ขึ้นไปเล่นดังมาอีก
รองประธานบริษัทก็ขาสั่นทันที
หวังว่าเซฮุนจะไม่พาไปเล่นนะ...
น้องสาวคนเล็กของโอเซฮุนเดินออกมาจากตัวรถก่อนจะมองไปยังข้างหน้าทางเข้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนดีใจ
ค่อนข้างนานอยู่เหมือนกันที่ป่ะป๊ากับม่ะม๊าไม่พามาเที่ยวที่นี่
นี่ถ้ากลับบ้านไปโม้ให้พี่สาวตนฟังคงอิจฉาน่าดู
“ฮุนนนนน อุ้มๆๆๆ”
เด็กน้อยวัยหกขวบชูแขนขึ้นหาพี่ชายที่เพิ่งกดล็อครถเสร็จ
คนที่โดนบอกให้อุ้มมองมาที่น้องก่อนจะส่ายหัวอย่างระอา
“โตแล้วนะตัวเล็ก”
ถึงปากจะว่าแต่ก็ก้มตัวลงไปอุ้มน้องสาวมา
เอาเถอะ...อย่างน้อยถ้ามินอาโตแล้วเขาก็คงไม่ได้อุ้มไปนานเลยล่ะ
“พี่ลู่หาน...”
เซฮุนเห็นว่าคนตัวเล็กที่เขากำลังตามจีบยังไม่เดินออกมาจากตัวรถที่จอดไว้เลยเรียกและหันไปมอง
เด็กฝึกงานมองไปที่ร่างเล็กอย่างแปลกใจ
ทำไมพี่ลู่หานผู้น่ารักถึงทำหน้าเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่างยังไงอย่างนั้น
ดวงตากวางไม่ได้หันมามองตามเสียงที่เขาเรียกเลยแม้แต่น้อยกลับมองไปที่บางอย่างและเมื่อเซฮุนมองตามดวงตานั้นแล้วก็ร้องอ๋อในใจ
สงสัยพี่ลู่หานกลัว Gyro Drop
“ลูลู่จ๋า”
ขนาดมินอาเรียกได้น่ารักฟรุ้งฟริ้งแล้วคนกำลังทำสีหน้าหวาดกลัวก็ไม่มีทีท่าจะหันมามองเลยแม้แต่น้อย
สงสัยต้องกระตุ้นหน่อยล่ะ...
“ลู่หานนนนนน!!!”
เซฮุนเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกรอกเสียงลงไปที่ข้างหูอย่างดังคนที่กำลังกลัวของเล่นสะดุ้งตกใจจึงหันมามองและเป็นจังหวะเดียวที่เซฮุนยื่นปากเข้าไปใกล้
ริมฝีปากเล็กชนเข้ากับริมฝีปากบางอมชมพูระเรื่อของเซฮุนเข้าอย่างจัง
นัยน์ตาของทั้งสองเบิกกว้างอย่างตกใจ รวมถึงหนูน้อยมินอาที่อยู่ในอ้อมแขนร่างสูงเงิบไปชั่วขณะ
“เฮ้ย!” ลู่หานผละริมฝีปากออกมาก่อนจะร้องเสียงดังอย่างตกใจแล้วรีบถอยออกมาให้ไกล
ขวัญเสียกับเครื่องเล่นแล้วต้องมาขวัญเสียกับเจ้าเด็กบ้าคนนี้อีก
“...เข้าข้างในกันเถอะครับ”
ผิดกับเซฮุนที่ตกใจอยู่แป๊ปเดียวก็ต้องยิ้มแป้น
ยิ่งข้างในยิ่งดีใจกระโดดโลดเล่นใหญ่ ร่างสูงยิ้มกริ่มให้พี่หน้าหวานก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ทำให้ลู่หานต้องเขินมากกว่าเดิม
“ขอบคุณสำหรับจูบเมื่อกี้นะครับ”
ไม่ได้ตั้งใจจูบเว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เหตุผลข้อที่ห้าจุดหนึ่ง :
ที่พี่ลู่หานทำเป็นกลัว Gyro Drop เพราะอยากให้ผมแกล้งแล้วขโมยจูบจากผมไปแน่ๆ
เลย >//////////////////< เขินจรุง ทำไงดี
ไลน์ไปฟ้องป่ะป๊าม่ะม๊าดีกว่า
(-____- ) <<<< หน้าของลู่หาน
.
.
.
.
.
.
.
ความจริงนะ...ลู่หานไม่ต้องกลัวเครื่องเล่นหวาดเสียวแบบนั้นหรอก
เนื่องจากเซฮุนพาน้องสาวซึ่งยังเด็กมาด้วย
เขาคงไม่ปล่อยให้น้องรออยู่ข้างล่างคนเดียวแล้วขึ้นไปเล่นหรอก
และถ้าให้พาขึ้นไปเล่นด้วยคงไม่ได้แน่ๆ เขาจึงไม่ได้มีแพลนจะพาทั้งสองไปเล่นของเล่นหวาดเสียวอยู่แล้ว
เริ่มแรกหลังจากซื้อบัตรเข้ามาแล้วเขาก็พาลู่หานกับมินอาเข้าไปโซนสวนสนุกในที่ร่มขนาดยักษ์ที่จะมีของเล่นสำหรับเด็กมากมายกับลานสเก็ตน้ำแข็ง
และทั้งสามคนได้ตกลงว่าจะมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งก่อนสักสามสิบนาที
“ตัวเล็กมาหาพี่เร็ว”
ตัวเล็กที่คนตัวสูงพูดถึงหยุดเดินเล่นไปทั่วห้องเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินมาหาพี่ชายเพื่อที่จะให้ใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดให้
คนตัวสูงที่มีใบหน้าที่สะดุดตาลืมไปเสียสนิทว่าจะพาน้องสาวมาเล่นโซนนี้เลยไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาให้จึงต้องมาเช่ายืมใส่แทน
“อ่ะ มินอา ลูลู่เลือกรองเท้าคู่นี้ให้” ลู่หานเผยรอยยิ้มให้กับลูกสาวคนเล็กของตระกูลโอพร้อมกับยื่นรองเท้าที่เจ้าตัวไปเลือกให้เมื่อตัวเองใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดเรียบร้อยแล้ว
มืออีกข้างก็มีรองเท้าของตนที่เพิ่งไปเลือกให้
“ขอบคุณค่ะ” มินอายังคงความน่ารักไว้ตลอด
พอพี่ชายคนโตใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดให้เรียบร้อยก็รับรองเท้ามาก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้เพื่อใส่เอง
“แล้วของผมอ่ะ”
โอเซฮุนเห็นว่าพี่หน้าหวานของเขาเลือกรองเท้ามาให้น้องของตนใส่แล้ว
ควรเลือกมาให้เขาใส่บ้างจึงแกล้งทำเป็นอ้อนขอ
“ไม่มี” ตอบแบบไร้เยื่อใยก่อนจะเชิดหน้างอนๆ
ไปหาโอมินอา
โดนงอนเฉยเลย...
ก็มันเป็นอุบัติเหตุนี่หว่า...
เมื่อเตรียมพร้อมกับชุดเรียบร้อยแล้วก็พาออกกันไปเล่น
โดยมีพี่หน้าหวานเดินจูงมือหนูน้อยโอมินอาเข้าไปในลานสเก็ตน้ำแข็งตามหลังด้วยโอเซฮุนที่เหมือนจะโดนลู่หานโกรธ
(หรืองอน) เดินตามด้วยสภาพคอตก
“พี่ลู่หานอา...” เซฮุนครางในลำคอเรียก แต่เจ้าของชื่อก็ไม่หันมามอง
แถมยังชิงตัวน้องสาวเขาไปเป็นไม้กันหมาอีก
ทั้งลู่หานกับมินอาที่ดูเหมือนจะโปรเรื่องการเล่นสเก็ตน้ำแข็งมากๆ
วิ่งเล่นกันโดยไม่รอชายหนุ่มที่ห่อเหี่ยวจากการโดนเมินของพี่หน้าหวานเลย
เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...
ลู่หานไม่ได้โกรธหรืออะไรเลย
แต่พอเห็นไอ้เด็กบ้ามาขโมยจูบเขาไปอีกครั้งแล้วทำท่ายิ้มแป้นดีอกดีใจมันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
ร่างบางจึงแกล้งทำเป็นโกรธใส่ (เหมือนงอน)
ทำเป็นไม่สนใจกับโอเซฮุนที่เดินคอตกตามหลังมา
“มินอาเล่นเก่งจัง”
ลู่หานเลิกสนใจกับเด็กฝึกงานของบริษัทแล้วหันมาสนใจกับหนูน้อยโอมินอาพลางออกปากชม
“ก็ม่ะม๊าหนูให้เรียนตั้งแต่ห้าขวบน่ะค่ะ”
ลูกสาวคนเล็กของบ้านตอบอย่างเจื้อยแจ้วเสียงใส ลู่หานที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ
“ไปเล่นตรงนู้นกัน”
ร่างบางออกความเห็นพลางชี้ไปที่จุดหมายที่ว่า ซึ่งมินอาก็พยักหน้าเห็นด้วย
บางที...มินอาอาจจะลืมไปแล้วว่ามีพี่ชายอย่างโอเซฮุนอยู่
“ลูลู่โกรธฮุนฮุนเหรอคะ”
หนูน้อยมินอาเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยประสีประสา
เธอเห็นปฏิกริยาของทั้งสองแล้วก็นึกถึงเรื่องที่ปากฮุนฮุนไปโดนเข้ากับปากลูลู่
แล้วคิดในใจว่าลูลู่อาจจะโกรธที่ปากฮุนฮุนไปชนกับปากลูลู่แล้วทำให้ลูลู่เจ็บ
เพราะเธอเคยเห็นตอนที่ป่ะป๊าใช้ปากเข้าไปชนกับปากม่ะม๊าแล้วม่ะม๊าก็ตีแขนป่ะป๊าแถมยังหน้าแดงอีกต่างหาก...
ม่ะม๊าต้องโมโหที่ป่ะป๊าทำให้ปากม่ะม๊าเจ็บปากแน่ๆ ._.
“หืม...เปล่า ลูลู่แค่แกล้งฮุนฮุนของมินอาเฉยๆ”
คนโดนถามกระตุกคิ้วก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง
เขารู้ว่านั่นเป็นอุบัติเหตุแต่เขาก็แค่หมั่นไส้ท่าทางดีใจแบบนั้นเท่านั้นเอง
“มินอาอย่าไปบอกฮุนฮุนนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” หนูน้อยพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ
ลู่หานวาดปากยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อมองใบหน้าหนูน้อยมินอาแล้วนึกเอ็นดู
ดวงตาที่ไม่โตมากและไม่เล็กมากเวลามองมาอย่างแป๋วๆ มันช่างน่ารักจริงๆ
ปากนิดจมูกหน่อย ลู่หานรู้สึกว่าอยากได้ไปเป็นลูกสักหนึ่งวันจริงๆ
“ลูลู่”
เล่นไปได้สักพักหนูน้อยมินอาก็กระตุกชายเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่ห่อหุ้มร่างบางของลู่หาน
พอคนโดนเรียกหันมามองก็กวักมือให้ก้มหน้ามาหา
“ว่าไงคะ?”
คนโดนเรียกอย่างลู่หานไม่ได้ก้มตัวลงไปแต่กลับนั่งยองๆ
ให้ใบหน้าจิ้มลิ้มของมินอาอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าเขา
“คือว่า...”
หนูน้อยมินอายื่นใบหน้าเข้ามาก่อนจะใช้มือป้องปากกระซิบข้างหูเขาเบาๆ
เหมือนไม่อยากให้ใครได้ยิน และเป็นประโยคที่ทำให้ลู่หานรู้สึกเอ็นดูมากๆ
“เค้ามีพี่ชายคนเดียวนะ...”
“...”
“และเค้าก็หวงฮุนฮุนมากด้วย...”
“...”
“เค้ายอมยกฮุนฮุนให้ลูลู่คนเดียวเลยนะ”
“...”
“ลูลู่ต้องไม่ทำให้ฮุนฮุนเสียใจนะ”
“ฮ่ะๆ เข้าใจแล้ว แต่เรื่องนี้ต้องดูฮุนฮุนนะว่าฮุนฮุนจะเอาชนะใจลูลู่ได้รึเปล่า”
ร่างบางหัวเราะเล็กๆ ให้พลางมองไปที่เด็กน้อยยิ้มๆ
แล้วตอบด้วยความจริงที่เขาคิดมาสักพักแล้ว
ก่อนหน้านี้ลู่หานไม่คิดจะเปิดใจให้ใครเลยก็จริง...จนกระทั่งมาเจอเซฮุน
แม้ก่อนตอนครั้งแรกที่เจอกันที่บริษัทแล้วโดนเซฮุนประกาศต่อหน้าพนักงานเขาค่อนข้างงงๆ
สับสนและโกรธนิดๆ บ้าง แต่พอเด็กทะลึ่งทะเล้นมาวนเวียนใกล้ๆ
แล้วก็รู้สึกว่าชีวิตมีสีสันขึ้นมาบ้าง
เขาเปิดใจให้เซฮุนแล้ว...แต่ไม่ได้แปลว่าจะเอาใจเขาไปได้แล้วนะ
เขาเปิดให้เซฮุนพิสูจน์ด้วยสิ่งที่จริงใจ...ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอารมณ์ชั่ววูบ
ลู่หานรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
ไม่ใช่คนที่ดีเลิศดั่งมิสยูนิเวิร์สอะไร
และเซฮุนก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นที่เขาจะไม่ชอบ...
“ตามนี้นะมินอา”
เมื่อเรียกน้องสาวมาวางแผนทำบางอย่างเสร็จเซฮุนก็ยืนหยัดขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปเก็บเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่เช่ามา
ส่วนลู่หานก็นำรองเท้าไปเก็บแต่ครั้งนี้เขายอมเก็บให้เซฮุนด้วยใบหน้าบึ้งตึง
หลังจากทั้งสองคนที่ไปเก็บของที่ยืมมาเสร็จก็พามินอาออกมาจากโซนสเก็ตน้ำแข็งแล้วมาที่โซนของเล่นบ้าง
ซึ่งเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กแต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นได้
“ว้าว” โอมินอาตาลุกวาวเมื่อเห็นม้าหมุนที่กำลังหมุนไปเรื่อยๆ
เธอและพี่อีกสองคนตกลงว่าจะมาเล่นม้าหมุนตามคำขอ
เพราะมันเป็นเครื่องเล่นที่มินอาชอบมากๆ และถ้ามาสวนสนุกจะไม่พลาดเด็ดขาด
ไม่นานเครื่องเล่นก็หยุดพร้อมที่จะให้รอบของหนูน้อยได้ขึ้นไปนั่งเล่นบ้าง
เซฮุนอุ้มน้องสาวเดินเข้าไปตามด้วยลู่หานท่ามกลางสายตาของสตรีโซลที่ต่อแถวขึ้น
เมื่อมาถึงม้าที่มินอาเลือกแล้วก็พาไปนั่งและกำชับให้น้องสาวจับมันไว้ให้ดีๆ
เพราะเขาจะไม่ได้นั่งไปด้วย
“จับให้ดีนะตัวเล็ก แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยพี่นะ”
ร่างสูงยิ้มบางๆ ให้น้องสาวสุดที่รักก่อนจะใช้มือขยี้ผมเด็กน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู
ร่างสูงใช้เวลาไม่นานกับการจัดให้น้องสาวนั่งในเครื่องเล่นที่ชอบ
หลังจากนั้นก็มองหาร่างบางที่มีใบหน้าหวานและก็พบกับคนที่มองหากำลังขึ้นไปนั่งบนม้าที่ไม่ไกลกับมินอานัก
เขาจึงเดินเข้าไปและพบว่าม้าข้างๆ มีคนมานั่งแล้ว
ซึ่งเซฮุนก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไร...แต่คิ้วหนาก็ต้องเป็นกระตุกเมื่อเห็นคนที่มาขึ้นขี่ม้าข้างๆ
เป็นผู้ชายวัยพอๆ กับเขาแถมกำลังมองมาที่ลู่หานด้วยสายตาเจ้าชู้
ในเมื่อกวางน้อยตกเป็นเป้าหมายมีเหรอที่นายพรานที่จองไว้เป็นเดือนจะทนอยู่ได้
เซฮุนเดินไปเข้าใกล้ๆ จากทางข้างหลัง
“ขี่ม้าก็แค่งั้นๆ
ขี่คนข้างกันน่าจะสนุกกว่าเยอะ”
ลู่หานรู้สึกขยะแขยงยังไงบอกไม่ถูก
สายตาของผู้ชายที่มาจับจองม้าข้างๆ
กำลังมองมาอย่างน่าขนลุกแถมคำพูดคำจาอยากจะถีบยอดหน้ากลับไปจริงๆ
แต่ก็ไม่ทำเพราะยังไม่ถึงขั้นมาลวนลามอะไรทีและไม่ดีแน่ถ้าทำร้ายไปอาจจะเป็นเรื่องขึ้นโรงพักเลยก็ว่าได้
“หน้าตาน่ารักจังเลยครับ ชื่ออะไรเหรอครับ
จะว่าไปถามชื่อไม่พอ ถามว่า ‘อยากเข้าหอด้วยกันมั้ย’ ดีกว่าครับ”
ยังอีก... โอยยยยย ขนนี่ลุกกันให้พรึบ
ถ้ามีอีกทีไม่ต้องเข้าหอหรอกเข้าโลงศพไปดีกว่า...หน้าตาก็โคตรจะงั้นๆ
“จีบแฟนคนอื่น มีปืนเหมือนผัวเค้าแล้วยังครับ?”
จู่ๆ
ร่างสูงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กฝึกงานก็โผล่มาแถมยังขึ้นมาขี่ม้าซ้อนหลังลู่หานอีกต่างหาก
เรียกให้คนที่กำลังหันหน้าหนีผู้ชายหน้าม่อหันไปมองทันที
มือของโอเซฮุนก็คว้าราวจับที่อยู่ตรงหน้าลู่หานไว้
จะบอกว่าเซฮุนกำลังกอดลู่หานอยู่ก็ไม่เชิง
“นี่...!!”
ลู่หานหันไปเตรียมจะแย้งและไล่ให้คนที่อ้างตัวว่าเป็น ‘ผัว’ ลงไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะโดนริมฝีปากบางเข้าช่วงชิบจูบเบาๆ บนริมฝีปากไปก่อน
จุ๊บ!
“เงียบๆ ผมกำลังช่วยพี่อยู่นะ” เมื่อผละใบหน้าออกไปแล้วเด็กหนุ่มร่างสูงก็กระซิบเข้าที่หูของคนตัวเล็กที่กำลังจะกร่นด่า
ระงับอารมณ์ลู่หาน
ลู่หานระงับอารมณ์แต่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
เมื่อหันไปมองผู้ชายที่มาหน้าม่อใส่ก็ไม่เห็นหัวซะแล้วและเป็นจังหวะเดียวกันที่ม้าหมุนเริ่มขยับ
สงสัยจะหนีไปแล้ว...
“นี่! ลงไปได้รึยังโอเซฮุน”
ตั้งสติได้ก็รีบบอกให้อีกคนลงไปเสียทีแต่ก็ไม่ได้หันหน้าไปหาเพราะถ้าหันไปคงโดนเด็กบ้าขโมยจูบไปอีกแน่ๆ
ตั้งแต่รู้จักกับเด็กคนนี้มาเสียจูบให้กี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ และถ้าหันไป...
โอเซฮุนคงเจอกับใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นสีระเรื่อแน่ๆ
“ไม่ลงอ่ะ”
เนื่องจากลู่หานไม่ได้หันหน้าไปจึงไม่ได้เห็นใบหน้าของโอเซฮุนว่าตอนนี้กำลังทำหน้ายิ้มระรื่นอย่างมีความสุข
“ลงไป”
เด็กดื้อไม่ยอมลงไปเขาจึงย้ำอีกครั้งด้วยการกดเสียงต่ำ “ข้างๆ ก็ว่างอยู่”
“นี่พี่ไม่คิดจะขอบคุณที่ผมช่วยไว้เมื่อกี้หน่อยเหรอ”
ร่างสูงเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเอี้ยวใบหน้ามามองคนหน้าหวานที่เหมือนกำลังเขินอยู่
“ไม่...และลงไปได้แล้วเซฮุน”
“ไม่ ผมจะมาง้อพี่” จริงแล้วๆ
เป็นแผนของเซฮุนอยู่แล้วที่จะมาง้อลู่หานโดยวิธีนี้
เขาจึงวางแผนกับน้องสาวไว้ว่าหลังจากออกจากลานสเก็ตน้ำแข็งแล้วให้เดินติดเขาอย่าไปอยู่กับลู่หานเพราะไม่งั้นลู่หานจะเอาน้องสาวไปเป็นไม้กันหมาแน่ๆ
แต่ก็ผิดแผนนิดๆ ที่มีเจ้าหน้าม่อนั่นเข้ามาเอี่ยวด้วย
สรุปแล้ว...การที่เซฮุนขึ้นมานั่งซ้อนลู่หานเป็นแผนง้อตั้งแต่แรกไม่ได้เกี่ยวกับการมาช่วยลู่หานเลยสักนิด
แต่คำพูดที่พูดไปคือการช่วยลู่หานต่างหาก
“ง้อบ้าอะไร” ลู่หานตอบเสียงแข็งแม้อยากจะยิ้มออกมาแค่ไหนก็ตาม
รักษาฟอร์มไว้คือสิ่งที่ลู่หานต้องทำ
“ง้อคนน่ารักแถวนี้”
“...”
“เลิกโกรธโอเซฮุนคนนี้เถอะนะ
ตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ” ร่างสูงเอี้ยวใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ พลางง้อไปด้วย
พอหันไปสบตาด้วยก็พบแววตาที่มองมาอย่างอ่อนโยนจนลู่หานลืมเซฮุนในโหมดทะลึ่งทะเล้นไปเลย
ตอนนี้ลู่หานเหมือนรู้สึกจมลงไปในเวทย์มนตร์ที่เซฮุนเป็นคนสร้างขึ้นมาจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าร่างสูงไม่ได้จับราวไว้แต่กลับกอดตนแทน
ใบหน้าหวานขึ้นสีมากกว่าเดิมก่อนหลบสายตาโดยการหันหน้ากลับมาและก้มหน้างุดไม่มองอะไรทั้งสิ้น...
แปลก ถ้าเป็นเมื่อก่อนลู่หานคงถีบเด็กบ้าคนนี้ลงไปแล้ว
แต่ตอนนี้มันไม่มีเรี่ยวแรงให้ทำจริงๆ
มันรู้สึกเขินการกระทำชวนใจเต้นของเซฮุนไปหมด
“...ผมชอบพี่จริงๆ นะ” ยิ่งเสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูแล้ว
หัวใจของลู่หานก็เต้นเร็วและแรงขึ้น
แม้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เด็กหนุ่มบอกแต่ครั้งนี้มันดูอบอุ่นและจริงจังกว่าครั้งไหนๆ
“...เออ รู้แล้ว” ลู่หานก้มหน้างุดตอบ
“แล้วพี่ก็ชอบผมเร็วๆ ด้วยล่ะ”
รู้แล้ว...ไม่ต้องย้ำ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และนานแค่ไหนที่คนตัวสูงจับมือเขาและลู่หานก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องยอมให้เซฮุนจับมือด้วย...
ลู่หานคนเดิม คนที่ชอบใช้ความรุนแรงเวลาเด็กบ้ามา
เอาเถอะ...เขายอมให้วันนึงก็ได้
หลังจากเล่นของเล่นในโซนที่ร่มเสร็จก็ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกแล้ว
และอีกไม่นานก็จะมีการแสดงโชว์ขบวนพาเหรดด้านนอก ยอมรับเลยว่าลู่หานไม่ได้มาที่สวนสนุกที่น่าอบอุ่น
สดใส และ บรรยากาศดีแห่งนี้เลยตั้งแต่จบมัธยม เขาเอาเวลาไปเที่ยวพวกผับบาร์หมด...
สมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยลู่หานชอบเที่ยวพวกผับบาร์กับเพื่อน
เดี๋ยวนี้ก็เที่ยวบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะเนื่องจากเขาต้องทำงานด้วย
“ฮุนฮุน เค้าหิวแล้วววว” เสียงเจื้อยแจ้วดังออกมาจากโอมินอาที่เดินจับมือกับเซฮุนอีกฝั่ง
อีกทั้งมือเล็กยังลูบท้องอย่างน่าเอ็นดู
“งั้นพี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันก่อนเริ่มดูขบวนพาเหรดดีกว่านะ”
โอเซฮุนเสนอความคิดเห็น
“ก็ดี” ลู่หานตอบ
ทั้งสามคนใช้เวลาไม่นานในการหอบสังขารที่ค่อนข้างล้าจากการเล่นเครื่องเล่นมาที่ฟูดคอร์ด
และก็ต้องใช้เวลาในการหาโต๊ะนั่งอีก... เป็นเรื่องที่สุดแสนจะลำบากจริงๆ
ขนาดไม่ใช่วันหยุดคนยังเยอะเลย
“เดี๋ยวผมไปซื้ออาหารกับมินอา พี่นั่งจองโต๊ะอยู่นี่แหละ”
คนตัวสูงปล่อยมือออกจากมือนุ่มของลู่หานก่อนจะดันไหล่เล็กให้นั่งลงบนเก้าอี้อย่างบังคับ
โดยไม่ลืมถามอาหารที่ลู่หานอยากกิน
ที่ให้ลู่หานอยู่เฝ้าโต๊ะ
คงเพราะจะดีกว่าถ้าใช้คนในการจองแทนที่จะเป็นสัมภาระที่นำมา เกิดหายก็ไม่ดีแน่
และอีกเหตุผลคงมาจากกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นที่ยืนออตรงร้านข้าวที่เป็นเป้าหมายของเซฮุน
คนตัวเล็กหน้าหวานน่ะ...ไม่สมควรมายืนให้พวกผู้ชายแทะโลมหรอก
เพียงไม่กี่นาทีเซฮุนได้อาหารมื้อเย็นสำหรับวันนี้มา
โดยมีหนูน้อยมินอาถืดถาดของตนเองที่มีจานข้าวสำหรับเด็กอยู่ข้างในเดินตามมาติดๆ
“นี่ของพี่”
“ขอบคุณ”
ระหว่างทานไปไม่ได้มีบทสนทนาอะไรมาก
มีก็แต่เสียงเจื้อยแจ้วจากโอมินอาที่คอยสร้างสีสันได้ตลอด
แถมยังทำให้ลู่หานเอ็นดูมากขึ้น ถ้าเขามีลูกน่ารักๆ แบบนี้ก็คงจะดีสินะ...
“ตัวเล็กเอากิมจิมั้ย”
ประโยคคำถามที่เซฮุนถามน้องสาวที่อยู่ข้างกายทำให้ลู่หานต้องมอง
เซฮุนดูอบอุ่นกับน้องสาวตนเองจัง...
สายตาอ่อนโยนที่เจ้าตัวทำพร้อมกับยื่นกิมจิไปให้น้องสาวอย่างเอาอกเอาใจทำให้ก้อนเนื้อข้างซ้ายเกิดเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว
เกิดอะไรขึ้นกับลู่หานในวันนี้นะ ทั้งที่เมื่อวานยังวีนใส่อยู่เลย...
หรือเพราะลู่หานได้เห็นอีกด้านของเซฮุน
“ตัวเล็กอยากมีน้องให้เล่นด้วยมั้ยคะ?”
โอเซฮุนยื่นใบหน้าเข้าไปถามหนูน้อยที่กำลังใช้ช้อนตักข้าวเข้าปาก
ระหว่างเคี้ยวแก้มตุ่ยก็พยักหน้า
“อยากค่ะ” พอกลืนแล้วก็ขยายความ
คนที่ถามทำหน้าพึงพอใจกับคำตอบ
“ตัวเล็กก็บอกให้ลูลู่มีลูกให้พี่สิคะ”
“ห๊ะ?!!”
ลู่หานเบิกนัยน์ตากว้าง ปากเล็กพะงาบๆ
อย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เซฮุนพูดออกมาจากปาก
เมื่อตั้งสติได้เขาก็หยิบทิชชู่กองไว้หลังจากเช็ดปากไปใส่เด็กบ้าที่พูดจาเพี้ยนๆ
ให้ตายเถอะ...ลู่หาน นายคงไม่ได้แสดงอาการเขินออกไปนะ
มันไม่ควรเขินเลย...ไม่ควรสักนิด
“แค่นี้ก็ต้องเขินด้วย”
“เฮอะ! พูดจาน่ากระทืบ”
คนหน้าหวานแค่นหัวเราะออกมาก่อนจะพูดจาโผงผางตามนิสัย (หรือเพราะเขิน?) ออกไป แขนทั้งสองยกขึ้นมากอดอกแล้วหันหน้าไปอีกทาง
ไม่อยากให้อีกคนเห็นแก้มที่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อ
“โหดร้ายชะมัด” เบะปากให้กับคำพูดโผงผางเมื่อกี้แต่ก็อมยิ้มในใจเมื่อเห็นแก้มขาวที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ
“ลูลู่ เค้าอยากมีน้องมาเล่นเป็นเพื่อนจัง”
พี่น้องตระกูลโอนี่น่ากลัวจริงๆ
ขบวนพาเหรดของสวนสนุกนี้อลังการงานสร้างมาก มีตัวการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ของสวนสนุกนี้มาเดินด้วย
คอยเอ็นเตอร์เทรนเด็กที่อยู่ด้านหน้าสุดด้วยการจับมือ และชวนมาเต้น
แต่ก็มีหนูน้อยวัยหกขวบที่ต้องผิดหวัง
เพราะมื้อดินเนอร์เสร็จช้าทำให้ตอนมาดูไม่ได้อยู่ข้างหน้าต้องมาขี่คอพี่ชายดูแทน
สำหรับลู่หานแล้ว...มันก็น่าตื่นตะลึงกับขบวนพาเหรดหรอก
แต่ระหว่างที่ดูคนตัวสูงข้างกายดันฉวยโอกาสหอมแก้มน่ะสิ ทั้งอึ้ง
ทั้งอายกลัวมีคนเห็นอีกทั้งมันยังทำให้เขาหวั่นไหวอีกแล้ว
ผู้คนที่รายล้อมทำให้เขาไม่สามารถทำร้ายกลับได้ เลยต้องเก็บไว้ในใจเงียบๆ
“ไม่เป็นไรนะตัวเล็ก ไว้ครั้งหน้าพี่จะพามาใหม่นะ”
โอเซฮุนเห็นว่าตัวเล็กของเขาทำท่าเบะปากจะร้องไห้ทุกเมื่อจึงพูดปลอบใจขณะที่ทั้งสามกำลังเดินกลับไปที่รถ
“งื้อ ก็ได้”
ตัวเล็กของคนตัวสูงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่าย
มาเซราติแกรนคาบริโอสีขาวได้เคลื่อนออกจากสวนสนุกแห่งนี้
โดยมีเซฮุนเป็นคนขับเช่นเดิมและมีลู่หานเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้
คราวนี้เซฮุนได้ให้มินอานั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กข้างหลังไป
เนื่องจากใช้เวลานานกว่าจะถึงบ้าน ไหนจะต้องไปส่งลู่หานที่คอนโดอีก
“ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะมินอา”
คนที่ถูกถามสะดุ้งก่อนจะมองไปยังคนหน้าหวานที่หันมามองอย่างหงอยๆ
“ถ้าเค้ามาที่นี่กับป๊า ม๊า ก็คงดีสิ”
อา...นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้หนูน้อยที่ร่าเริงตลอดหงอยสินะ
“อย่าหงอยไปเลย
พี่กับลูลู่ก็เหมือนกับป๊าม๊าแล้ว” คนเป็นพี่ชายที่นั่งฟังน้องสาวตอบด้วยเสียงเศร้าพูดปลอบใจ
นอกจากนั้นเซฮุนก็พูดจาหยอกล้อตุ๊กตาหน้ารถ
“บ้า...” รองประธานบริษัทพึมพำเบาๆ
ก่อนจะยู่ปากใส่
“ฮ่ะๆ แต่ความจริงป๊ากับม๊าก็จะพาเราไปด้วยนี่นา”
โอเซฮุนหัวเราะเบาๆ ให้ลู่หานแล้วพูดกับน้องสาวต่อ
“ก็เค้าไม่อยากไปนี่
ถึงไปนะป๊ากับม๊าก็ต้องยุ่งแน่ๆ”
“โธ่...มินอา”
ถูกทุกอย่างที่มินอาพูดมา พี่ชายที่เคยเจอเหตุการณ์มาก่อนจึงไม่ได้พูดอะไรต่อระหว่างทาง
แต่ไม่ทันไรน้องสาวที่ทำหน้าหงอยก็หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว
เหลือไว้แต่ความเงียบที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างคนขับกับตุ๊กตาหน้ารถ
ลู่หานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อมีแรงสั่นจากกระเป๋ากางเกงแล้วเขาก็พบว่าคนที่โทรมาก็คือ
‘แฟนเก่า’ ที่เขาเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังต้องให้คำตอบอยู่
ใบหน้าหวานหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
เขายังไม่ตัดสินรับ เพราะ
กำลังลังเลว่าควรตอบอย่างไรกลับไป
“ใครโทรมาน่ะ”
เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกให้เขาหลุดพ้นจากห้วงความคิดได้ช่วงขณะ
“เปล่า” ก็ได้แต่ส่ายหน้ากลับไป
ลู่หานยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรออกไป เอาจริงๆ
แล้วลู่หานไม่อยากให้คนที่กำลังขับรถต้องเสียใจ
เอ...นี่เราแคร์เซฮุนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ลู่หานตัดสินใจไม่รับสายตอนนี้แต่ก็ไม่ได้เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าดังเดิม
“พี่ลู่หาน” คนที่กำลังขับรถเรียกทำให้ต้องหันไปมอง
“อือ” ขานรับในลำคอเบาๆ
“สนุกมั้ยวันนี้”
ใบหน้าหล่อคมหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบหน้าหวานของลู่หานหันไปมองพอดี
“ก็สนุก คลายเครียดดี” ร่างบางตอบตามความจริงไป
วันนี้ทั้งวันมันทั้งสนุกและได้ผ่อนคลายจากงานได้
วันนี้ตอนเช้าลู่หานขอลางานวันนึงเนื่องจากอยากพักผ่อน
แต่พอแฟนเก่าโทรมาทำให้เขาต้องมานั่งคิดไม่ตกว่าควรเอายังไงต่อที่ดาดฟ้าของบริษัทที่เขาชอบมาบ่อยๆ
และมันก็เป็นเหตุบังเอิญที่เด็กฝึกงานตัวแสบเข้ามาพอดี
แถมยังมาชวนไปให้ไปสวนสนุกด้วยกันอีก
ที่โดนเด็กฝึกงานลวนลามไป ลู่หานถือว่าวันนี้ยอมให้เซฮุนวันนึงแล้วกัน...
“ผมชอบสวนสนุกนะ ยิ่งมาสวนสนุกกับคนที่ชอบอีก”
ใบหน้าหล่อกำลังตั้งใจขับรถแต่ปากก็ขยับพูด
และยังเป็นน้ำเสียงที่ดูออกมาจากใจจริงไม่ได้ติดเล่นๆ
เหมือนที่เคยจนลู่หานต้องหันไปมอง “ผมยิ่งโคตรชอบสวนสนุกเข้าไปใหญ่เลย”
“งะ..งั้นเหรอ” ลู่หานเผลอทำเสียงตะกุกตะกักออกไป
“ผมไม่รู้นะว่าจะชนะใจพี่เมื่อไหร่”
“...”
“ผมแค่รู้ว่าพี่ไม่ได้หนีหรือผลักไสให้ผมไปไหน”
“...”
“แค่นั้นผมโคตรดีใจเลย”
“...”
ก็จะผลักไสทำไมกันล่ะ...
เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ที่ลู่หานเขิน
แววตาและน้ำเสียงที่จริงจังทำให้ลู่หานต้องหันกลับมานั่งคิดตามพลางมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือและกำลังสั่นอีกครั้งเพราะคนที่โทรเข้ามาอย่างชั่งใจ
“แค่อยู่กับพี่นะ ผมโคตรจะมีความสุขเลย”
“...”
“ถึงพี่จะชอบตอบกลับด้วยท่าทีแรงๆ
แต่ผมรู้นะว่าพี่เขิน”
“...”
“ผมระ...”
“พอ!”
ร่างบางหันไปตวาดใส่ก่อนที่ร่างสูงจะพูดคำนั้นออกมา
ที่ทำอย่างนั้นไปเพราะลู่หานกำลังรู้สึกกดดันและอึดอัดเป็นอย่างมาก ทั้งเซฮุนที่ชอบทำให้หวั่นไหว
ทั้งแฟนเก่าที่โทรเข้ามาเพื่อรับคำตอบ...
“...ทำไมพี่ต้องตวาดด้วย”
เซฮุนจงใจพึมพำให้อีกคนได้ยินด้วยเสียงง้องแง้ง หลังจากที่โดนตวาดใส่ด้วยใบหน้าที่เครียด
และแทบจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว
“เฮ้อ...นึกว่าจะโกรธ”
ก็จริงนะ...
ทั้งที่โดนคนที่ชอบตวาดใส่แต่กลับทำเสียงง้องแง้งกลับมา
“พูดว่ารักก็ไม่ได้...เชอะ”
พูดด้วยเสียงง้องแง้งเหมือนเดิมก่อนจะเชิดปากใส่อย่างงอนๆ เซฮุนไม่ได้โกรธหรอกแต่ก็ตกใจอยู่บ้าง
ภาพเชิดปากใส่อย่างงอนๆ
เหมือนตุ๊ดอยู่ในสายตาลู่หาน ก่อนที่ริมฝีปากบางจะคลี่รอยยิ้มออกมา
ลู่หานรู้แล้วล่ะ..ว่าควรกลับไปคบกับแฟนเก่าดีหรือไม่
:)
“ไอ้เด็กบ้า...”
พึมพำเหน็บแนมคนตัวสูงที่กำลังตั้งใจขับรถก่อนจะมองโทรศัพท์ที่สั่นอีกครั้งในมือ
ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ที่โทรมาแต่ตอนนี้ลู่หานพร้อมรับและตอบแล้วล่ะ
“ฮัลโหล” กรอกเสียงหวานไปยังปลายสายอย่างใจเย็น
(เสี่ยวลู่...ตกลงว่าได้คำตอบยัง?)
“ได้คำตอบแล้วล่ะ” นัยน์ตากวางหันไปมองเซฮุน อีกฝ่ายกำลังตั้งใจขับรถแต่เขามั่นใจจากดวงตาที่ดูหม่นลงว่าต้องกำลังแอบฟังอยู่แน่ๆ
(แล้วคำตอบของเสี่ยวลู่คือ...)
“เราว่าเราหยุดเรื่องของเราไว้เถอะ... เราพร้อมเจอคนใหม่มากกว่า”
(...ว่าไงนะ)
“แถมคนใหม่อาจจะดีกว่าก็ได้”
ประโยคแรกหันไปมองปฏิกริยาของร่างสูง
ประโยคที่สองหันมาก้มหน้างุดอย่างเขินๆ คำพูดที่พูดออกไป
ไม่กล้ามองหน้าคนที่ถูกพาดพิงถึงว่ากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
จนประโยคสุดท้ายลู่หานตั้งใจพูดออกไปเหน็บแนมคนที่เคยทิ้งเขาไปแล้วกลับมาแบบกะทันหัน
“ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมดูแลพี่ลู่หานดีกว่าใครแน่นอน”
ก่อนจะวางสายไปคนที่ถูกพาดพิงถึงเอี้ยวตัวมาพูดใส่ให้อีกฝ่ายของสายได้ยิน
แถมตบท้ายด้วยการหอมแก้มไปหนึ่งฟอดเสียงดังให้อีกฝ่ายเจ็บใจ
ลู่หานกดวางสายไปแล้วลูบแก้มที่ใกล้จะช้ำตามด้วยการตีแขนซ้าย
แต่ก็โดนเด็กฝึกงานดึงมือไปกุมไปแล้วประทับจูบลงบนหลังมือก่อนจะขับรถต่อไปด้วยมือที่ยังกุมไว้แบบนั้นกับใบหน้ายิ้มดีใจ
“ไอ้เด็กบ้า...”
- - - - - - - - - - - - - - - - -
ฮัลโหลลลลลลลลลลล
หายไปหลายวันมาก555555555555555 มีใครคิดถึงบ้างงงง .___.
บอกตามตรงเลยนะคะ ปิดเทอมนี่นอกจากกินนอนแล้วก็ไม่ทำอะไรแล้วล่ะค่ะ
เรียนพิเศษก็ไม่ไป โอย555555 เรากำลังจะเปิดเรื่องใหม่นาาาาาา
#รองเท้ากำลังลอยมา เราเป็นคนชอบคิดพล็อตอยู่ตลอดมาก555
เฮ่อออออ เหนื่อยใจกับตัวเอง แต่ถึงยังไงถ้ามีคนติดตามและเม้นในเรื่องนี้อยู่
เราจะทำให้เรื่องนี้จบอย่างบริบูรณ์นะคะ :)
ตอนนี้
ถ้าอ่านแล้วไม่เม้นต์
เราขออนุญาตให้แปะเมลล์เวลามีฉากนั้นนะคะ
เราขอโทษที่ต้องทำแบบนี้แต่คือ เราอยากได้กำลังใจในการแต่งบ้าง
บางทีคือ เราหัวไม่แล่นแต่พอมาอ่านคอมเม้นต์แล้วกำลังใจมันก็มา
และเราก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเม้นต์นะคะ
:D
ยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจด้วยน้าาาา *-*
แล้วก็ฝากติดตามอีกเรื่องด้วยนะคะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383086
ความคิดเห็น