ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic exo ) OH'S REASONS, hunhan krisyeol

    ลำดับตอนที่ #6 : เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่ห้า พี่เขาโคตรจะน่ารักเลย

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 58
















    เหตุผลของคุณชายโอ ข้อที่ห้า พี่เขายอมให้ผมค้างด้วย



    MY HAPPINESS IS YOU :D









     

     

     

    มาเซราติแกรนคาบริโอสีขาวได้พาพี่น้องตระกูลโอและลูกชายคนเล็กตระกูลลู่มาถึงสวนสนุกชื่อดังของเกาหลีใต้ ที่นี่มีเครื่องเล่นให้เล่นมากมาย ตอนกลางคืนก็จะมีการแสดงให้ได้ชมด้วย ซึ่งเซฮุนกะว่าจะพาน้องสาวตัวเล็กไปดูการแสดงด้วย

     

    ลู่หานเปิดประตูให้หนูน้อยมินอาได้ลงไปก่อน ลู่หานคิดว่าไม่ต้องรอให้เล่นเครื่องเล่นหรอกระหว่างทางมาเขาก็เล่นเกมกับมินอาจนเหนื่อยแล้วพอมองไปยังเครื่องเล่นที่เด่นเพราะความสูง ที่พาผู้เล่นขึ้นไปสูงที่สุดก่อนจะปล่อยลงมาบวกกับเสียงกรี๊ดจากผู้คนที่ขึ้นไปเล่นดังมาอีก รองประธานบริษัทก็ขาสั่นทันที

     

    หวังว่าเซฮุนจะไม่พาไปเล่นนะ...

     

    น้องสาวคนเล็กของโอเซฮุนเดินออกมาจากตัวรถก่อนจะมองไปยังข้างหน้าทางเข้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนดีใจ ค่อนข้างนานอยู่เหมือนกันที่ป่ะป๊ากับม่ะม๊าไม่พามาเที่ยวที่นี่ นี่ถ้ากลับบ้านไปโม้ให้พี่สาวตนฟังคงอิจฉาน่าดู

     

    “ฮุนนนนน อุ้มๆๆๆ” เด็กน้อยวัยหกขวบชูแขนขึ้นหาพี่ชายที่เพิ่งกดล็อครถเสร็จ คนที่โดนบอกให้อุ้มมองมาที่น้องก่อนจะส่ายหัวอย่างระอา

     

    “โตแล้วนะตัวเล็ก” ถึงปากจะว่าแต่ก็ก้มตัวลงไปอุ้มน้องสาวมา

     

    เอาเถอะ...อย่างน้อยถ้ามินอาโตแล้วเขาก็คงไม่ได้อุ้มไปนานเลยล่ะ

     

    “พี่ลู่หาน...” เซฮุนเห็นว่าคนตัวเล็กที่เขากำลังตามจีบยังไม่เดินออกมาจากตัวรถที่จอดไว้เลยเรียกและหันไปมอง เด็กฝึกงานมองไปที่ร่างเล็กอย่างแปลกใจ

     

    ทำไมพี่ลู่หานผู้น่ารักถึงทำหน้าเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่างยังไงอย่างนั้น ดวงตากวางไม่ได้หันมามองตามเสียงที่เขาเรียกเลยแม้แต่น้อยกลับมองไปที่บางอย่างและเมื่อเซฮุนมองตามดวงตานั้นแล้วก็ร้องอ๋อในใจ

     

    สงสัยพี่ลู่หานกลัว Gyro Drop

     

    “ลูลู่จ๋า” ขนาดมินอาเรียกได้น่ารักฟรุ้งฟริ้งแล้วคนกำลังทำสีหน้าหวาดกลัวก็ไม่มีทีท่าจะหันมามองเลยแม้แต่น้อย

     

    สงสัยต้องกระตุ้นหน่อยล่ะ...

     

    “ลู่หานนนนนน!!!” เซฮุนเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกรอกเสียงลงไปที่ข้างหูอย่างดังคนที่กำลังกลัวของเล่นสะดุ้งตกใจจึงหันมามองและเป็นจังหวะเดียวที่เซฮุนยื่นปากเข้าไปใกล้

     

    ริมฝีปากเล็กชนเข้ากับริมฝีปากบางอมชมพูระเรื่อของเซฮุนเข้าอย่างจัง นัยน์ตาของทั้งสองเบิกกว้างอย่างตกใจ รวมถึงหนูน้อยมินอาที่อยู่ในอ้อมแขนร่างสูงเงิบไปชั่วขณะ

     

    “เฮ้ย!” ลู่หานผละริมฝีปากออกมาก่อนจะร้องเสียงดังอย่างตกใจแล้วรีบถอยออกมาให้ไกล ขวัญเสียกับเครื่องเล่นแล้วต้องมาขวัญเสียกับเจ้าเด็กบ้าคนนี้อีก

     

    “...เข้าข้างในกันเถอะครับ” ผิดกับเซฮุนที่ตกใจอยู่แป๊ปเดียวก็ต้องยิ้มแป้น ยิ่งข้างในยิ่งดีใจกระโดดโลดเล่นใหญ่ ร่างสูงยิ้มกริ่มให้พี่หน้าหวานก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ทำให้ลู่หานต้องเขินมากกว่าเดิม

     

     

    “ขอบคุณสำหรับจูบเมื่อกี้นะครับ”

     

     

    ไม่ได้ตั้งใจจูบเว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    เหตุผลข้อที่ห้าจุดหนึ่ง : ที่พี่ลู่หานทำเป็นกลัว Gyro Drop เพราะอยากให้ผมแกล้งแล้วขโมยจูบจากผมไปแน่ๆ เลย >//////////////////< เขินจรุง ทำไงดี ไลน์ไปฟ้องป่ะป๊าม่ะม๊าดีกว่า

     

    (-____- )   <<<< หน้าของลู่หาน

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .


    ความจริงนะ...ลู่หานไม่ต้องกลัวเครื่องเล่นหวาดเสียวแบบนั้นหรอก เนื่องจากเซฮุนพาน้องสาวซึ่งยังเด็กมาด้วย เขาคงไม่ปล่อยให้น้องรออยู่ข้างล่างคนเดียวแล้วขึ้นไปเล่นหรอก และถ้าให้พาขึ้นไปเล่นด้วยคงไม่ได้แน่ๆ เขาจึงไม่ได้มีแพลนจะพาทั้งสองไปเล่นของเล่นหวาดเสียวอยู่แล้ว

     

    เริ่มแรกหลังจากซื้อบัตรเข้ามาแล้วเขาก็พาลู่หานกับมินอาเข้าไปโซนสวนสนุกในที่ร่มขนาดยักษ์ที่จะมีของเล่นสำหรับเด็กมากมายกับลานสเก็ตน้ำแข็ง และทั้งสามคนได้ตกลงว่าจะมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งก่อนสักสามสิบนาที

     

    “ตัวเล็กมาหาพี่เร็ว” ตัวเล็กที่คนตัวสูงพูดถึงหยุดเดินเล่นไปทั่วห้องเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินมาหาพี่ชายเพื่อที่จะให้ใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดให้ คนตัวสูงที่มีใบหน้าที่สะดุดตาลืมไปเสียสนิทว่าจะพาน้องสาวมาเล่นโซนนี้เลยไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาให้จึงต้องมาเช่ายืมใส่แทน

     

    “อ่ะ มินอา ลูลู่เลือกรองเท้าคู่นี้ให้” ลู่หานเผยรอยยิ้มให้กับลูกสาวคนเล็กของตระกูลโอพร้อมกับยื่นรองเท้าที่เจ้าตัวไปเลือกให้เมื่อตัวเองใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดเรียบร้อยแล้ว มืออีกข้างก็มีรองเท้าของตนที่เพิ่งไปเลือกให้

     

    “ขอบคุณค่ะ” มินอายังคงความน่ารักไว้ตลอด พอพี่ชายคนโตใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดให้เรียบร้อยก็รับรองเท้ามาก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้เพื่อใส่เอง

     

    “แล้วของผมอ่ะ” โอเซฮุนเห็นว่าพี่หน้าหวานของเขาเลือกรองเท้ามาให้น้องของตนใส่แล้ว ควรเลือกมาให้เขาใส่บ้างจึงแกล้งทำเป็นอ้อนขอ

     

    “ไม่มี” ตอบแบบไร้เยื่อใยก่อนจะเชิดหน้างอนๆ ไปหาโอมินอา

     

    โดนงอนเฉยเลย...

     

    ก็มันเป็นอุบัติเหตุนี่หว่า...

     

    เมื่อเตรียมพร้อมกับชุดเรียบร้อยแล้วก็พาออกกันไปเล่น โดยมีพี่หน้าหวานเดินจูงมือหนูน้อยโอมินอาเข้าไปในลานสเก็ตน้ำแข็งตามหลังด้วยโอเซฮุนที่เหมือนจะโดนลู่หานโกรธ (หรืองอน) เดินตามด้วยสภาพคอตก

     

    “พี่ลู่หานอา...” เซฮุนครางในลำคอเรียก แต่เจ้าของชื่อก็ไม่หันมามอง แถมยังชิงตัวน้องสาวเขาไปเป็นไม้กันหมาอีก

     

    ทั้งลู่หานกับมินอาที่ดูเหมือนจะโปรเรื่องการเล่นสเก็ตน้ำแข็งมากๆ วิ่งเล่นกันโดยไม่รอชายหนุ่มที่ห่อเหี่ยวจากการโดนเมินของพี่หน้าหวานเลย

     

    เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...

     

     

     

     

     

     

     

    ลู่หานไม่ได้โกรธหรืออะไรเลย แต่พอเห็นไอ้เด็กบ้ามาขโมยจูบเขาไปอีกครั้งแล้วทำท่ายิ้มแป้นดีอกดีใจมันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ร่างบางจึงแกล้งทำเป็นโกรธใส่ (เหมือนงอน) ทำเป็นไม่สนใจกับโอเซฮุนที่เดินคอตกตามหลังมา

     

    “มินอาเล่นเก่งจัง” ลู่หานเลิกสนใจกับเด็กฝึกงานของบริษัทแล้วหันมาสนใจกับหนูน้อยโอมินอาพลางออกปากชม

     

    “ก็ม่ะม๊าหนูให้เรียนตั้งแต่ห้าขวบน่ะค่ะ” ลูกสาวคนเล็กของบ้านตอบอย่างเจื้อยแจ้วเสียงใส ลู่หานที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ

     

    “ไปเล่นตรงนู้นกัน” ร่างบางออกความเห็นพลางชี้ไปที่จุดหมายที่ว่า ซึ่งมินอาก็พยักหน้าเห็นด้วย

     

    บางที...มินอาอาจจะลืมไปแล้วว่ามีพี่ชายอย่างโอเซฮุนอยู่

     

    “ลูลู่โกรธฮุนฮุนเหรอคะ” หนูน้อยมินอาเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยประสีประสา เธอเห็นปฏิกริยาของทั้งสองแล้วก็นึกถึงเรื่องที่ปากฮุนฮุนไปโดนเข้ากับปากลูลู่ แล้วคิดในใจว่าลูลู่อาจจะโกรธที่ปากฮุนฮุนไปชนกับปากลูลู่แล้วทำให้ลูลู่เจ็บ

     

    เพราะเธอเคยเห็นตอนที่ป่ะป๊าใช้ปากเข้าไปชนกับปากม่ะม๊าแล้วม่ะม๊าก็ตีแขนป่ะป๊าแถมยังหน้าแดงอีกต่างหาก... ม่ะม๊าต้องโมโหที่ป่ะป๊าทำให้ปากม่ะม๊าเจ็บปากแน่ๆ ._.

     

    “หืม...เปล่า ลูลู่แค่แกล้งฮุนฮุนของมินอาเฉยๆ” คนโดนถามกระตุกคิ้วก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง เขารู้ว่านั่นเป็นอุบัติเหตุแต่เขาก็แค่หมั่นไส้ท่าทางดีใจแบบนั้นเท่านั้นเอง “มินอาอย่าไปบอกฮุนฮุนนะคะ”

     

    “ก็ได้ค่ะ” หนูน้อยพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ

     

    ลู่หานวาดปากยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อมองใบหน้าหนูน้อยมินอาแล้วนึกเอ็นดู ดวงตาที่ไม่โตมากและไม่เล็กมากเวลามองมาอย่างแป๋วๆ มันช่างน่ารักจริงๆ ปากนิดจมูกหน่อย ลู่หานรู้สึกว่าอยากได้ไปเป็นลูกสักหนึ่งวันจริงๆ

     

    “ลูลู่” เล่นไปได้สักพักหนูน้อยมินอาก็กระตุกชายเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่ห่อหุ้มร่างบางของลู่หาน พอคนโดนเรียกหันมามองก็กวักมือให้ก้มหน้ามาหา

     

    “ว่าไงคะ?” คนโดนเรียกอย่างลู่หานไม่ได้ก้มตัวลงไปแต่กลับนั่งยองๆ ให้ใบหน้าจิ้มลิ้มของมินอาอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าเขา

     

    “คือว่า...” หนูน้อยมินอายื่นใบหน้าเข้ามาก่อนจะใช้มือป้องปากกระซิบข้างหูเขาเบาๆ เหมือนไม่อยากให้ใครได้ยิน และเป็นประโยคที่ทำให้ลู่หานรู้สึกเอ็นดูมากๆ “เค้ามีพี่ชายคนเดียวนะ...”

     

    “...”

     

    “และเค้าก็หวงฮุนฮุนมากด้วย...”

     

    “...”

     

    “เค้ายอมยกฮุนฮุนให้ลูลู่คนเดียวเลยนะ”

     

    “...”

     

    “ลูลู่ต้องไม่ทำให้ฮุนฮุนเสียใจนะ”

     

    “ฮ่ะๆ เข้าใจแล้ว แต่เรื่องนี้ต้องดูฮุนฮุนนะว่าฮุนฮุนจะเอาชนะใจลูลู่ได้รึเปล่า” ร่างบางหัวเราะเล็กๆ ให้พลางมองไปที่เด็กน้อยยิ้มๆ แล้วตอบด้วยความจริงที่เขาคิดมาสักพักแล้ว

     

    ก่อนหน้านี้ลู่หานไม่คิดจะเปิดใจให้ใครเลยก็จริง...จนกระทั่งมาเจอเซฮุน แม้ก่อนตอนครั้งแรกที่เจอกันที่บริษัทแล้วโดนเซฮุนประกาศต่อหน้าพนักงานเขาค่อนข้างงงๆ สับสนและโกรธนิดๆ บ้าง แต่พอเด็กทะลึ่งทะเล้นมาวนเวียนใกล้ๆ แล้วก็รู้สึกว่าชีวิตมีสีสันขึ้นมาบ้าง

     

    เขาเปิดใจให้เซฮุนแล้ว...แต่ไม่ได้แปลว่าจะเอาใจเขาไปได้แล้วนะ

     

    เขาเปิดให้เซฮุนพิสูจน์ด้วยสิ่งที่จริงใจ...ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ลู่หานรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ใช่คนที่ดีเลิศดั่งมิสยูนิเวิร์สอะไร

     

     

     

    และเซฮุนก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นที่เขาจะไม่ชอบ...

     

     

     

     




    “ตามนี้นะมินอา”

     

    เมื่อเรียกน้องสาวมาวางแผนทำบางอย่างเสร็จเซฮุนก็ยืนหยัดขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปเก็บเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่เช่ามา ส่วนลู่หานก็นำรองเท้าไปเก็บแต่ครั้งนี้เขายอมเก็บให้เซฮุนด้วยใบหน้าบึ้งตึง

     

    หลังจากทั้งสองคนที่ไปเก็บของที่ยืมมาเสร็จก็พามินอาออกมาจากโซนสเก็ตน้ำแข็งแล้วมาที่โซนของเล่นบ้าง ซึ่งเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กแต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นได้

     

    “ว้าว” โอมินอาตาลุกวาวเมื่อเห็นม้าหมุนที่กำลังหมุนไปเรื่อยๆ เธอและพี่อีกสองคนตกลงว่าจะมาเล่นม้าหมุนตามคำขอ เพราะมันเป็นเครื่องเล่นที่มินอาชอบมากๆ และถ้ามาสวนสนุกจะไม่พลาดเด็ดขาด

     

    ไม่นานเครื่องเล่นก็หยุดพร้อมที่จะให้รอบของหนูน้อยได้ขึ้นไปนั่งเล่นบ้าง เซฮุนอุ้มน้องสาวเดินเข้าไปตามด้วยลู่หานท่ามกลางสายตาของสตรีโซลที่ต่อแถวขึ้น เมื่อมาถึงม้าที่มินอาเลือกแล้วก็พาไปนั่งและกำชับให้น้องสาวจับมันไว้ให้ดีๆ

     

    เพราะเขาจะไม่ได้นั่งไปด้วย

     

    “จับให้ดีนะตัวเล็ก แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยพี่นะ” ร่างสูงยิ้มบางๆ ให้น้องสาวสุดที่รักก่อนจะใช้มือขยี้ผมเด็กน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู

     

    ร่างสูงใช้เวลาไม่นานกับการจัดให้น้องสาวนั่งในเครื่องเล่นที่ชอบ หลังจากนั้นก็มองหาร่างบางที่มีใบหน้าหวานและก็พบกับคนที่มองหากำลังขึ้นไปนั่งบนม้าที่ไม่ไกลกับมินอานัก เขาจึงเดินเข้าไปและพบว่าม้าข้างๆ มีคนมานั่งแล้ว

     

    ซึ่งเซฮุนก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไร...แต่คิ้วหนาก็ต้องเป็นกระตุกเมื่อเห็นคนที่มาขึ้นขี่ม้าข้างๆ เป็นผู้ชายวัยพอๆ กับเขาแถมกำลังมองมาที่ลู่หานด้วยสายตาเจ้าชู้ ในเมื่อกวางน้อยตกเป็นเป้าหมายมีเหรอที่นายพรานที่จองไว้เป็นเดือนจะทนอยู่ได้ เซฮุนเดินไปเข้าใกล้ๆ จากทางข้างหลัง

     

     

     

     

     





     

    “ขี่ม้าก็แค่งั้นๆ ขี่คนข้างกันน่าจะสนุกกว่าเยอะ”

     

    ลู่หานรู้สึกขยะแขยงยังไงบอกไม่ถูก สายตาของผู้ชายที่มาจับจองม้าข้างๆ กำลังมองมาอย่างน่าขนลุกแถมคำพูดคำจาอยากจะถีบยอดหน้ากลับไปจริงๆ แต่ก็ไม่ทำเพราะยังไม่ถึงขั้นมาลวนลามอะไรทีและไม่ดีแน่ถ้าทำร้ายไปอาจจะเป็นเรื่องขึ้นโรงพักเลยก็ว่าได้

     

    “หน้าตาน่ารักจังเลยครับ ชื่ออะไรเหรอครับ จะว่าไปถามชื่อไม่พอ ถามว่า อยากเข้าหอด้วยกันมั้ยดีกว่าครับ”

     

    ยังอีก... โอยยยยย ขนนี่ลุกกันให้พรึบ ถ้ามีอีกทีไม่ต้องเข้าหอหรอกเข้าโลงศพไปดีกว่า...หน้าตาก็โคตรจะงั้นๆ

     

    “จีบแฟนคนอื่น มีปืนเหมือนผัวเค้าแล้วยังครับ?”

     

    จู่ๆ ร่างสูงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กฝึกงานก็โผล่มาแถมยังขึ้นมาขี่ม้าซ้อนหลังลู่หานอีกต่างหาก เรียกให้คนที่กำลังหันหน้าหนีผู้ชายหน้าม่อหันไปมองทันที มือของโอเซฮุนก็คว้าราวจับที่อยู่ตรงหน้าลู่หานไว้ จะบอกว่าเซฮุนกำลังกอดลู่หานอยู่ก็ไม่เชิง

     

    “นี่...!!” ลู่หานหันไปเตรียมจะแย้งและไล่ให้คนที่อ้างตัวว่าเป็น ผัว ลงไปแต่ก็ไม่ทัน เพราะโดนริมฝีปากบางเข้าช่วงชิบจูบเบาๆ บนริมฝีปากไปก่อน

     

    จุ๊บ!

     

    “เงียบๆ ผมกำลังช่วยพี่อยู่นะ” เมื่อผละใบหน้าออกไปแล้วเด็กหนุ่มร่างสูงก็กระซิบเข้าที่หูของคนตัวเล็กที่กำลังจะกร่นด่า

     

    ระงับอารมณ์ลู่หาน

     

     

    ลู่หานระงับอารมณ์แต่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เมื่อหันไปมองผู้ชายที่มาหน้าม่อใส่ก็ไม่เห็นหัวซะแล้วและเป็นจังหวะเดียวกันที่ม้าหมุนเริ่มขยับ

     

    สงสัยจะหนีไปแล้ว...

     

    “นี่! ลงไปได้รึยังโอเซฮุน” ตั้งสติได้ก็รีบบอกให้อีกคนลงไปเสียทีแต่ก็ไม่ได้หันหน้าไปหาเพราะถ้าหันไปคงโดนเด็กบ้าขโมยจูบไปอีกแน่ๆ ตั้งแต่รู้จักกับเด็กคนนี้มาเสียจูบให้กี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ และถ้าหันไป...

     

    โอเซฮุนคงเจอกับใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นสีระเรื่อแน่ๆ

     

    “ไม่ลงอ่ะ” เนื่องจากลู่หานไม่ได้หันหน้าไปจึงไม่ได้เห็นใบหน้าของโอเซฮุนว่าตอนนี้กำลังทำหน้ายิ้มระรื่นอย่างมีความสุข

     

    “ลงไป” เด็กดื้อไม่ยอมลงไปเขาจึงย้ำอีกครั้งด้วยการกดเสียงต่ำ “ข้างๆ ก็ว่างอยู่”

     

    “นี่พี่ไม่คิดจะขอบคุณที่ผมช่วยไว้เมื่อกี้หน่อยเหรอ” ร่างสูงเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเอี้ยวใบหน้ามามองคนหน้าหวานที่เหมือนกำลังเขินอยู่

     

    “ไม่...และลงไปได้แล้วเซฮุน”

     

    “ไม่ ผมจะมาง้อพี่” จริงแล้วๆ เป็นแผนของเซฮุนอยู่แล้วที่จะมาง้อลู่หานโดยวิธีนี้ เขาจึงวางแผนกับน้องสาวไว้ว่าหลังจากออกจากลานสเก็ตน้ำแข็งแล้วให้เดินติดเขาอย่าไปอยู่กับลู่หานเพราะไม่งั้นลู่หานจะเอาน้องสาวไปเป็นไม้กันหมาแน่ๆ แต่ก็ผิดแผนนิดๆ ที่มีเจ้าหน้าม่อนั่นเข้ามาเอี่ยวด้วย

     

    สรุปแล้ว...การที่เซฮุนขึ้นมานั่งซ้อนลู่หานเป็นแผนง้อตั้งแต่แรกไม่ได้เกี่ยวกับการมาช่วยลู่หานเลยสักนิด แต่คำพูดที่พูดไปคือการช่วยลู่หานต่างหาก

     

    “ง้อบ้าอะไร” ลู่หานตอบเสียงแข็งแม้อยากจะยิ้มออกมาแค่ไหนก็ตาม รักษาฟอร์มไว้คือสิ่งที่ลู่หานต้องทำ

     

    “ง้อคนน่ารักแถวนี้”

     

    “...”

     

    “เลิกโกรธโอเซฮุนคนนี้เถอะนะ ตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ” ร่างสูงเอี้ยวใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ พลางง้อไปด้วย พอหันไปสบตาด้วยก็พบแววตาที่มองมาอย่างอ่อนโยนจนลู่หานลืมเซฮุนในโหมดทะลึ่งทะเล้นไปเลย

     

    ตอนนี้ลู่หานเหมือนรู้สึกจมลงไปในเวทย์มนตร์ที่เซฮุนเป็นคนสร้างขึ้นมาจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าร่างสูงไม่ได้จับราวไว้แต่กลับกอดตนแทน

     

    ใบหน้าหวานขึ้นสีมากกว่าเดิมก่อนหลบสายตาโดยการหันหน้ากลับมาและก้มหน้างุดไม่มองอะไรทั้งสิ้น... แปลก ถ้าเป็นเมื่อก่อนลู่หานคงถีบเด็กบ้าคนนี้ลงไปแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่มีเรี่ยวแรงให้ทำจริงๆ มันรู้สึกเขินการกระทำชวนใจเต้นของเซฮุนไปหมด

     

    “...ผมชอบพี่จริงๆ นะ” ยิ่งเสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูแล้ว หัวใจของลู่หานก็เต้นเร็วและแรงขึ้น แม้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เด็กหนุ่มบอกแต่ครั้งนี้มันดูอบอุ่นและจริงจังกว่าครั้งไหนๆ

     

    “...เออ รู้แล้ว” ลู่หานก้มหน้างุดตอบ

     

    “แล้วพี่ก็ชอบผมเร็วๆ ด้วยล่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

    รู้แล้ว...ไม่ต้องย้ำ




















    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และนานแค่ไหนที่คนตัวสูงจับมือเขาและลู่หานก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องยอมให้เซฮุนจับมือด้วย... ลู่หานคนเดิม คนที่ชอบใช้ความรุนแรงเวลาเด็กบ้ามา

     

    เอาเถอะ...เขายอมให้วันนึงก็ได้

     

    หลังจากเล่นของเล่นในโซนที่ร่มเสร็จก็ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกแล้ว และอีกไม่นานก็จะมีการแสดงโชว์ขบวนพาเหรดด้านนอก ยอมรับเลยว่าลู่หานไม่ได้มาที่สวนสนุกที่น่าอบอุ่น สดใส และ บรรยากาศดีแห่งนี้เลยตั้งแต่จบมัธยม เขาเอาเวลาไปเที่ยวพวกผับบาร์หมด...

     

    สมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยลู่หานชอบเที่ยวพวกผับบาร์กับเพื่อน เดี๋ยวนี้ก็เที่ยวบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะเนื่องจากเขาต้องทำงานด้วย

     

    “ฮุนฮุน เค้าหิวแล้วววว” เสียงเจื้อยแจ้วดังออกมาจากโอมินอาที่เดินจับมือกับเซฮุนอีกฝั่ง อีกทั้งมือเล็กยังลูบท้องอย่างน่าเอ็นดู

     

    “งั้นพี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันก่อนเริ่มดูขบวนพาเหรดดีกว่านะ” โอเซฮุนเสนอความคิดเห็น

     

    “ก็ดี” ลู่หานตอบ

     

    ทั้งสามคนใช้เวลาไม่นานในการหอบสังขารที่ค่อนข้างล้าจากการเล่นเครื่องเล่นมาที่ฟูดคอร์ด และก็ต้องใช้เวลาในการหาโต๊ะนั่งอีก... เป็นเรื่องที่สุดแสนจะลำบากจริงๆ ขนาดไม่ใช่วันหยุดคนยังเยอะเลย

     

    “เดี๋ยวผมไปซื้ออาหารกับมินอา พี่นั่งจองโต๊ะอยู่นี่แหละ” คนตัวสูงปล่อยมือออกจากมือนุ่มของลู่หานก่อนจะดันไหล่เล็กให้นั่งลงบนเก้าอี้อย่างบังคับ โดยไม่ลืมถามอาหารที่ลู่หานอยากกิน

     

    ที่ให้ลู่หานอยู่เฝ้าโต๊ะ คงเพราะจะดีกว่าถ้าใช้คนในการจองแทนที่จะเป็นสัมภาระที่นำมา เกิดหายก็ไม่ดีแน่ และอีกเหตุผลคงมาจากกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นที่ยืนออตรงร้านข้าวที่เป็นเป้าหมายของเซฮุน

     

    คนตัวเล็กหน้าหวานน่ะ...ไม่สมควรมายืนให้พวกผู้ชายแทะโลมหรอก

     

    เพียงไม่กี่นาทีเซฮุนได้อาหารมื้อเย็นสำหรับวันนี้มา โดยมีหนูน้อยมินอาถืดถาดของตนเองที่มีจานข้าวสำหรับเด็กอยู่ข้างในเดินตามมาติดๆ

     

    “นี่ของพี่”

     

    “ขอบคุณ”

     

    ระหว่างทานไปไม่ได้มีบทสนทนาอะไรมาก มีก็แต่เสียงเจื้อยแจ้วจากโอมินอาที่คอยสร้างสีสันได้ตลอด แถมยังทำให้ลู่หานเอ็นดูมากขึ้น ถ้าเขามีลูกน่ารักๆ แบบนี้ก็คงจะดีสินะ...

     

    “ตัวเล็กเอากิมจิมั้ย” ประโยคคำถามที่เซฮุนถามน้องสาวที่อยู่ข้างกายทำให้ลู่หานต้องมอง

     

    เซฮุนดูอบอุ่นกับน้องสาวตนเองจัง... สายตาอ่อนโยนที่เจ้าตัวทำพร้อมกับยื่นกิมจิไปให้น้องสาวอย่างเอาอกเอาใจทำให้ก้อนเนื้อข้างซ้ายเกิดเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับลู่หานในวันนี้นะ ทั้งที่เมื่อวานยังวีนใส่อยู่เลย...

     

    หรือเพราะลู่หานได้เห็นอีกด้านของเซฮุน

     

    “ตัวเล็กอยากมีน้องให้เล่นด้วยมั้ยคะ?” โอเซฮุนยื่นใบหน้าเข้าไปถามหนูน้อยที่กำลังใช้ช้อนตักข้าวเข้าปาก ระหว่างเคี้ยวแก้มตุ่ยก็พยักหน้า

     

    “อยากค่ะ” พอกลืนแล้วก็ขยายความ คนที่ถามทำหน้าพึงพอใจกับคำตอบ

     

    “ตัวเล็กก็บอกให้ลูลู่มีลูกให้พี่สิคะ”

     

    “ห๊ะ?!!

     

    ลู่หานเบิกนัยน์ตากว้าง ปากเล็กพะงาบๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เซฮุนพูดออกมาจากปาก เมื่อตั้งสติได้เขาก็หยิบทิชชู่กองไว้หลังจากเช็ดปากไปใส่เด็กบ้าที่พูดจาเพี้ยนๆ ให้ตายเถอะ...ลู่หาน นายคงไม่ได้แสดงอาการเขินออกไปนะ

     

    มันไม่ควรเขินเลย...ไม่ควรสักนิด

     

    “แค่นี้ก็ต้องเขินด้วย”

     

    “เฮอะ! พูดจาน่ากระทืบ” คนหน้าหวานแค่นหัวเราะออกมาก่อนจะพูดจาโผงผางตามนิสัย (หรือเพราะเขิน?) ออกไป แขนทั้งสองยกขึ้นมากอดอกแล้วหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากให้อีกคนเห็นแก้มที่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อ

     

    “โหดร้ายชะมัด” เบะปากให้กับคำพูดโผงผางเมื่อกี้แต่ก็อมยิ้มในใจเมื่อเห็นแก้มขาวที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ

     

    “ลูลู่ เค้าอยากมีน้องมาเล่นเป็นเพื่อนจัง”

     

     

     

     

     

    พี่น้องตระกูลโอนี่น่ากลัวจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ขบวนพาเหรดของสวนสนุกนี้อลังการงานสร้างมาก มีตัวการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ของสวนสนุกนี้มาเดินด้วย คอยเอ็นเตอร์เทรนเด็กที่อยู่ด้านหน้าสุดด้วยการจับมือ และชวนมาเต้น แต่ก็มีหนูน้อยวัยหกขวบที่ต้องผิดหวัง เพราะมื้อดินเนอร์เสร็จช้าทำให้ตอนมาดูไม่ได้อยู่ข้างหน้าต้องมาขี่คอพี่ชายดูแทน

     

    สำหรับลู่หานแล้ว...มันก็น่าตื่นตะลึงกับขบวนพาเหรดหรอก แต่ระหว่างที่ดูคนตัวสูงข้างกายดันฉวยโอกาสหอมแก้มน่ะสิ ทั้งอึ้ง ทั้งอายกลัวมีคนเห็นอีกทั้งมันยังทำให้เขาหวั่นไหวอีกแล้ว ผู้คนที่รายล้อมทำให้เขาไม่สามารถทำร้ายกลับได้ เลยต้องเก็บไว้ในใจเงียบๆ

     

    “ไม่เป็นไรนะตัวเล็ก ไว้ครั้งหน้าพี่จะพามาใหม่นะ” โอเซฮุนเห็นว่าตัวเล็กของเขาทำท่าเบะปากจะร้องไห้ทุกเมื่อจึงพูดปลอบใจขณะที่ทั้งสามกำลังเดินกลับไปที่รถ

     

    “งื้อ ก็ได้” ตัวเล็กของคนตัวสูงพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่าย

     

    มาเซราติแกรนคาบริโอสีขาวได้เคลื่อนออกจากสวนสนุกแห่งนี้ โดยมีเซฮุนเป็นคนขับเช่นเดิมและมีลู่หานเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ คราวนี้เซฮุนได้ให้มินอานั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กข้างหลังไป เนื่องจากใช้เวลานานกว่าจะถึงบ้าน ไหนจะต้องไปส่งลู่หานที่คอนโดอีก

     

    “ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะมินอา” คนที่ถูกถามสะดุ้งก่อนจะมองไปยังคนหน้าหวานที่หันมามองอย่างหงอยๆ

     

    “ถ้าเค้ามาที่นี่กับป๊า ม๊า ก็คงดีสิ”

     

    อา...นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้หนูน้อยที่ร่าเริงตลอดหงอยสินะ

     

    “อย่าหงอยไปเลย พี่กับลูลู่ก็เหมือนกับป๊าม๊าแล้ว” คนเป็นพี่ชายที่นั่งฟังน้องสาวตอบด้วยเสียงเศร้าพูดปลอบใจ นอกจากนั้นเซฮุนก็พูดจาหยอกล้อตุ๊กตาหน้ารถ

     

    “บ้า...” รองประธานบริษัทพึมพำเบาๆ ก่อนจะยู่ปากใส่

     

    “ฮ่ะๆ แต่ความจริงป๊ากับม๊าก็จะพาเราไปด้วยนี่นา” โอเซฮุนหัวเราะเบาๆ ให้ลู่หานแล้วพูดกับน้องสาวต่อ

     

    “ก็เค้าไม่อยากไปนี่ ถึงไปนะป๊ากับม๊าก็ต้องยุ่งแน่ๆ”

     

    “โธ่...มินอา”

     

    ถูกทุกอย่างที่มินอาพูดมา พี่ชายที่เคยเจอเหตุการณ์มาก่อนจึงไม่ได้พูดอะไรต่อระหว่างทาง แต่ไม่ทันไรน้องสาวที่ทำหน้าหงอยก็หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว เหลือไว้แต่ความเงียบที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างคนขับกับตุ๊กตาหน้ารถ

     

    ลู่หานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อมีแรงสั่นจากกระเป๋ากางเกงแล้วเขาก็พบว่าคนที่โทรมาก็คือ แฟนเก่า ที่เขาเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังต้องให้คำตอบอยู่ ใบหน้าหวานหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    เขายังไม่ตัดสินรับ เพราะ กำลังลังเลว่าควรตอบอย่างไรกลับไป

     

    “ใครโทรมาน่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกให้เขาหลุดพ้นจากห้วงความคิดได้ช่วงขณะ

     

    “เปล่า” ก็ได้แต่ส่ายหน้ากลับไป ลู่หานยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรออกไป เอาจริงๆ แล้วลู่หานไม่อยากให้คนที่กำลังขับรถต้องเสียใจ

     

    เอ...นี่เราแคร์เซฮุนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

    ลู่หานตัดสินใจไม่รับสายตอนนี้แต่ก็ไม่ได้เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าดังเดิม

     

    “พี่ลู่หาน” คนที่กำลังขับรถเรียกทำให้ต้องหันไปมอง

     

    “อือ” ขานรับในลำคอเบาๆ

     

    “สนุกมั้ยวันนี้” ใบหน้าหล่อคมหันมามองและเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบหน้าหวานของลู่หานหันไปมองพอดี

     

    “ก็สนุก คลายเครียดดี” ร่างบางตอบตามความจริงไป วันนี้ทั้งวันมันทั้งสนุกและได้ผ่อนคลายจากงานได้

     

    วันนี้ตอนเช้าลู่หานขอลางานวันนึงเนื่องจากอยากพักผ่อน แต่พอแฟนเก่าโทรมาทำให้เขาต้องมานั่งคิดไม่ตกว่าควรเอายังไงต่อที่ดาดฟ้าของบริษัทที่เขาชอบมาบ่อยๆ และมันก็เป็นเหตุบังเอิญที่เด็กฝึกงานตัวแสบเข้ามาพอดี แถมยังมาชวนไปให้ไปสวนสนุกด้วยกันอีก

     

    ที่โดนเด็กฝึกงานลวนลามไป ลู่หานถือว่าวันนี้ยอมให้เซฮุนวันนึงแล้วกัน...

     

    “ผมชอบสวนสนุกนะ ยิ่งมาสวนสนุกกับคนที่ชอบอีก” ใบหน้าหล่อกำลังตั้งใจขับรถแต่ปากก็ขยับพูด และยังเป็นน้ำเสียงที่ดูออกมาจากใจจริงไม่ได้ติดเล่นๆ เหมือนที่เคยจนลู่หานต้องหันไปมอง “ผมยิ่งโคตรชอบสวนสนุกเข้าไปใหญ่เลย”

     

    “งะ..งั้นเหรอ” ลู่หานเผลอทำเสียงตะกุกตะกักออกไป

     

    “ผมไม่รู้นะว่าจะชนะใจพี่เมื่อไหร่”

     

    “...”

     

    “ผมแค่รู้ว่าพี่ไม่ได้หนีหรือผลักไสให้ผมไปไหน”

     

    “...”

     

    “แค่นั้นผมโคตรดีใจเลย”

     

    “...”

     

    ก็จะผลักไสทำไมกันล่ะ...

     

    เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ที่ลู่หานเขิน แววตาและน้ำเสียงที่จริงจังทำให้ลู่หานต้องหันกลับมานั่งคิดตามพลางมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือและกำลังสั่นอีกครั้งเพราะคนที่โทรเข้ามาอย่างชั่งใจ

     

    “แค่อยู่กับพี่นะ ผมโคตรจะมีความสุขเลย”

     

    “...”

     

    “ถึงพี่จะชอบตอบกลับด้วยท่าทีแรงๆ แต่ผมรู้นะว่าพี่เขิน”

     

    “...”

     

    “ผมระ...”

     

    “พอ!

     

    ร่างบางหันไปตวาดใส่ก่อนที่ร่างสูงจะพูดคำนั้นออกมา ที่ทำอย่างนั้นไปเพราะลู่หานกำลังรู้สึกกดดันและอึดอัดเป็นอย่างมาก ทั้งเซฮุนที่ชอบทำให้หวั่นไหว ทั้งแฟนเก่าที่โทรเข้ามาเพื่อรับคำตอบ...

     

    “...ทำไมพี่ต้องตวาดด้วย” เซฮุนจงใจพึมพำให้อีกคนได้ยินด้วยเสียงง้องแง้ง หลังจากที่โดนตวาดใส่ด้วยใบหน้าที่เครียด และแทบจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว

     

    “เฮ้อ...นึกว่าจะโกรธ”

     

    ก็จริงนะ... ทั้งที่โดนคนที่ชอบตวาดใส่แต่กลับทำเสียงง้องแง้งกลับมา

     

    “พูดว่ารักก็ไม่ได้...เชอะ” พูดด้วยเสียงง้องแง้งเหมือนเดิมก่อนจะเชิดปากใส่อย่างงอนๆ เซฮุนไม่ได้โกรธหรอกแต่ก็ตกใจอยู่บ้าง

     

    ภาพเชิดปากใส่อย่างงอนๆ เหมือนตุ๊ดอยู่ในสายตาลู่หาน ก่อนที่ริมฝีปากบางจะคลี่รอยยิ้มออกมา

     

    ลู่หานรู้แล้วล่ะ..ว่าควรกลับไปคบกับแฟนเก่าดีหรือไม่ :)

     

    “ไอ้เด็กบ้า...”

     

    พึมพำเหน็บแนมคนตัวสูงที่กำลังตั้งใจขับรถก่อนจะมองโทรศัพท์ที่สั่นอีกครั้งในมือ ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ที่โทรมาแต่ตอนนี้ลู่หานพร้อมรับและตอบแล้วล่ะ

     

    “ฮัลโหล” กรอกเสียงหวานไปยังปลายสายอย่างใจเย็น

     

    (เสี่ยวลู่...ตกลงว่าได้คำตอบยัง?)

     

    “ได้คำตอบแล้วล่ะ” นัยน์ตากวางหันไปมองเซฮุน อีกฝ่ายกำลังตั้งใจขับรถแต่เขามั่นใจจากดวงตาที่ดูหม่นลงว่าต้องกำลังแอบฟังอยู่แน่ๆ

     

    (แล้วคำตอบของเสี่ยวลู่คือ...)

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เราว่าเราหยุดเรื่องของเราไว้เถอะ... เราพร้อมเจอคนใหม่มากกว่า

     

     

    (...ว่าไงนะ)

     

    “แถมคนใหม่อาจจะดีกว่าก็ได้”

     

    ประโยคแรกหันไปมองปฏิกริยาของร่างสูง ประโยคที่สองหันมาก้มหน้างุดอย่างเขินๆ คำพูดที่พูดออกไป ไม่กล้ามองหน้าคนที่ถูกพาดพิงถึงว่ากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ จนประโยคสุดท้ายลู่หานตั้งใจพูดออกไปเหน็บแนมคนที่เคยทิ้งเขาไปแล้วกลับมาแบบกะทันหัน

     

    “ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมดูแลพี่ลู่หานดีกว่าใครแน่นอน”

     

    ก่อนจะวางสายไปคนที่ถูกพาดพิงถึงเอี้ยวตัวมาพูดใส่ให้อีกฝ่ายของสายได้ยิน แถมตบท้ายด้วยการหอมแก้มไปหนึ่งฟอดเสียงดังให้อีกฝ่ายเจ็บใจ ลู่หานกดวางสายไปแล้วลูบแก้มที่ใกล้จะช้ำตามด้วยการตีแขนซ้าย แต่ก็โดนเด็กฝึกงานดึงมือไปกุมไปแล้วประทับจูบลงบนหลังมือก่อนจะขับรถต่อไปด้วยมือที่ยังกุมไว้แบบนั้นกับใบหน้ายิ้มดีใจ

     

    “ไอ้เด็กบ้า...”

     











    TBC :D

    - - - - - - - - - - - - - - - - -
    ฮัลโหลลลลลลลลลลล
    หายไปหลายวันมาก555555555555555 มีใครคิดถึงบ้างงงง .___. 
    บอกตามตรงเลยนะคะ ปิดเทอมนี่นอกจากกินนอนแล้วก็ไม่ทำอะไรแล้วล่ะค่ะ
    เรียนพิเศษก็ไม่ไป โอย555555 เรากำลังจะเปิดเรื่องใหม่นาาาาาา
    #รองเท้ากำลังลอยมา เราเป็นคนชอบคิดพล็อตอยู่ตลอดมาก555
    เฮ่อออออ เหนื่อยใจกับตัวเอง แต่ถึงยังไงถ้ามีคนติดตามและเม้นในเรื่องนี้อยู่
    เราจะทำให้เรื่องนี้จบอย่างบริบูรณ์นะคะ :)







    ตอนนี้
    ถ้าอ่านแล้วไม่เม้นต์ 
    เราขออนุญาตให้แปะเมลล์เวลามีฉากนั้นนะคะ



    เราขอโทษที่ต้องทำแบบนี้แต่คือ เราอยากได้กำลังใจในการแต่งบ้าง
    บางทีคือ เราหัวไม่แล่นแต่พอมาอ่านคอมเม้นต์แล้วกำลังใจมันก็มา
    และเราก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเม้นต์นะคะ
    :D





    ยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจด้วยน้าาาา *-*

    แล้วก็ฝากติดตามอีกเรื่องด้วยนะคะ

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383086





    อย่าลืมคอมเม้นต์กับแฮชแท็กน้า
    #ฟิคเหตุผลของฮุน


    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×