ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic exo ) OH'S REASONS, hunhan krisyeol

    ลำดับตอนที่ #2 : เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่หนึ่ง พี่เขาน่ารักจริงๆ นะ

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 58

















    เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่หนึ่ง พี่เขาน่ารักจริงๆ นะ







     

     

    สามเดือนต่อมา

     

    ร่างสูงผอมในสภาพเสื้อยืดแขนยาวลายขวางสีเหลืองสลับสีน้ำตาลและกางเกงยีนส์ฟิตของโอเซฮุนกำลังยืนมองบริษัทตรงหน้าอย่างประหม่า กว่าจะก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ได้ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง เขากำลังตื่นเต้นในสิ่งที่ต้องเจอในอีกไม่ช้า และเขาไม่มีทางยอมแพ้เดินหันหลังกลับไปแน่

     

    คนมั่นใจแบบเซฮุนต้องไม่ประหม่าซี่ ~

     

    โอเซฮุน นักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของมหาวิทยาลัย SM ชื่อดังของเกาหลีใต้ ซึ่งแน่นอนว่าปีสุดท้ายของการเรียนปริญญาตรีต้องฝึกงานเป็นเวลาสามเดือน เพื่อนที่อยู่ในก๊วนเดียวกันต่างเลือกไปฝึกงานกับบริษัทของพ่อหวงจื่อเทา แต่เซฮุนกลับแตกแยกเลือกบริษัทที่ตนสนใจมาตั้งนานแล้ว

     

    และเขากำลังยืนอยู่ที่ The Luciano Company บริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มีเจ้าของเป็นคนจีนแท้และสิ่งที่เซฮุนสนใจกว่าเจ้าของคือ ลูกชาย เจ้าของบริษัทน่ะสิ

     

    “สวัสดีครับ” เมื่อพาร่างของตัวเองเข้ามาในตัวบริษัทได้ก็เดินตรงไปยังประชาสัมพันธ์ทันที ทักทายอย่างเป็นมิตรพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ทำให้ใครหลายคนละลายได้ไป

     

    “สวัสดีค่ะ” พนักงานประชาสัมพันธ์หญิงที่ประจำอยู่เงยหน้าขึ้นมาทักทายก่อนจะชะงักกลางคันเพราะรอยยิ้มที่ถูกส่งมา

     

    “คือว่าผมเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่อ่ะครับ”

     

    “อ๋อค่ะ” พยักหน้าขึ้นลงและบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย

     

    “ไม่ทราบว่าต้องไปที่ไหนครับ?” เห็นท่าทางแล้วก็อยากจะออกไปจากตรงนี้เร็วๆ

     

    ไม่ได้ครับไม่ได้ ม่อใครไม่ได้ครับ ._.

     

    “เอ่อ ใช่โอเซฮุนรึเปล่าคะ?”

     

    “ครับ” พยักหน้าพลางยิ้มอ่อนๆ ไปให้ (คือต้องเป็นมิตรไว้ครับๆ)

     

    “เดี๋ยวตามฉันมานะคะ” บิดตัวม้วนเขินเสร็จก็ลุกขึ้น ใบหน้าที่มีบลัชออนที่มีสีชมพูอ่อนค่อยๆ เพิ่มความไปเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่าอาการหน้าแดงนั่นแหละ

     

    บอกเลย คนนี้เจ๊ชอบบบบบ */////////////*

     

    นักศึกษาฝึกงานเดินตามพนักงานประชาสัมพันธ์ไปจนถึงลิฟท์ พอลิฟท์มาก็เดินเข้าไปด้วยกัน สิ่งที่เซฮุนรู้อยากจะถอนหายใจออกมาคือเจ๊ประชา (สัมพันธ์) เนี่ยเอาแต่บิดตัวไปมา หน้าแดงเหมือนแพ้บลัชออนเถื่อน

     

    ไม่น่าไปยิ้มให้เลย เพลีย -_-

     

    แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยเจ๊ประชา ทำให้เซฮุนลืมอาการตื่นเต้นไปเสียสนิทเลย

     

    ผ่านไปไม่นานกล่องสี่เหลี่ยมโดยสารก็พาทั้งสองมาถึงชั้นที่ 20 ซึ่งเจ๊ประชาบอกว่าเป็นชั้นของฝ่ายบัญชี ในเมื่อเซฮุนเรียนมาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีก็ควรมาฝึกงานกับฝ่ายบัญชีของบริษัท โดยเธอจะพาไปหาผู้จัดการฝ่ายที่อยู่ในห้องริมขวาสุดซึ่งเป็นห้องกระจกใสรอบด้าน

     

    และมีร่างเล็กของคนที่คุ้นตาดีกำลังนั่งใช้ดวงตากลมโตจ้องหน้าคอมพิวเตอร์และพิมพ์บางอย่างอยู่ เซฮุนโค้งหัวบอกลาพนักงานประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินผ่านเหล่าพนักงานทั้งชายหญิงที่ไม่เป็นอันทำงานเพราะสายตากำลังจดจ้องมาที่เด็กผู้ที่เข้ามาใหม่ ตรงไปยังห้องนั้น

     

    “สวัสดีครับ มาส่งพิซซ่าครับ” ประตูอัตโนมัติเปิดก็ก้าวขาเข้ามาแต่ร่างเล็กที่นั่งจ่ออยู่แต่หน้าจอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจเขาเลย

     

    “ไม่ได้สั่งนะ... อ้าว เซฮุน” ยังพูดไม่จบก็หันมาเจอหน้าหล่อๆ ก่อน

     

    “ฮ่ะๆ จ้องแต่คอมฯ ไม่สนใจผมเลยนะพี่คยองซู” โอเซฮุนหัวเราะก่อนจะทำหน้างอนๆ

     

    โดคยองซู หรือ พี่คยองของน้องเซฮุน ทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกันห่างกันประมาณสี่ปี เซฮุนเป็นคนที่หวงคยองซูมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาก็มีพี่ตาโตนี่คอยอยู่ข้างๆ เขาแล้ว จนตอนนี้ก็ยังหวงอยู่ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พี่คยองของเขายังครองโสดหรอกนะ

     

    และจะบอกอะไรให้การเข้ามาฝึกงานที่นี่ได้เป็นเรื่องที่ยาก แต่ในเมื่อเซฮุนอยากเข้ามาก็เลยใช้เส้นพี่ชายตาโตเข้ามาช่วย...แต่ใช่ว่าเรื่องการเรียนจะแย่ถึงขั้นเอามายื่นเข้าก็ไม่ใช่เลย ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องการเรียนของเซฮุนด้วยนั่นแหละถึงได้เข้ามาฝึกงานที่นี่

     

    “โหย ก็งานพี่มันเยอะนี่นา” คยองซูอธิบาย เขาต้องจมอยู่กับงานบัญชีทั้งวันกว่าจะเคลียร์เสร็จก็ดึกแล้ว ไม่มีเวลาไปหาฟงหาแฟนหรอก :(

     

    “นี่! พี่หน้าหวานของผมอยู่ไหนอ่ะ” พอได้นั่งบนเก้าอี้ปุ๊ปก็เอ่ยถามถึงเหตุผลที่เขาเข้ามาฝึกงานที่นี่ปั๊ป

     

    “เขาไปเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่” เห็นใบหน้าระรื่นชื่นบาน หางกระดิกๆ ของลูกพี่ลูกน้องก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ แหมมาถึงก็ถามถึงเขาเลยน้า ~

     

    “เดี๋ยวก็ได้เป็นของผมแล้วน่า :)” ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้

     

    “ข้ามหน้าแข้งพี่หน้าหวานของแกไปก่อนเหอะ” คยองซูก็พอจะสนิทกับลูกเจ้าของบริษัทหรือที่เซฮุนเรียกว่า พี่หน้าหวาน นั่นแหละ พอรู้ว่าพี่หน้าหวานโหดขนาดไหน ยิ่งเจอกับเกรียนๆ กวนๆ แบบเซฮุนด้วยนะ ต้องโดนบ้างแหละ

     

    “แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างอ่ะ?” พักเรื่องนั้นไว้ก่อนตอนนี้มาสนใจเรื่องงานบ้างดีกว่า อย่างน้อยเซฮุนต้องฝึกงานที่นี่ให้ผ่าน

     

    “เดี๋ยวดูก่อน แต่ตอนนี้พี่จะพาไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักเสียก่อน” คยองซูตอบพลางชะเง้อหน้าไปมองพนักงานที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกแล้ว สายตาก็พบเข้ากับกลุ่มพนักงานหญิงที่มองเซฮุนตาละห้อย

     

    โธ่ ฮอตจริงๆ เลยน้องชายคนนี้

     

    “โอเคครับ”

     

    ไม่รีรอช้าคยองซูรีบลุกขึ้น บิดขี้เกียจไปมาให้หายเมื่อยก่อนจะเดินนำร่างสูงของน้องชายออกมา พอเดินออกมาเจอสายตาที่แอบมองของพนักงานหญิงในแผนกก็กระแอมดังๆ ให้ทุกคนตั้งสติ ทุกคนสะดุ้งทันทีเมื่อผู้จัดการฝ่ายส่งเสียง

     

    “นี่ทุกคน” คยองซูเปล่งเสียงเรียก พนักงานในแผนกต่างหันมาตามเสียง (แอบเห็นหางกระดิกๆ) ทันทีแล้วมือเล็กก็ผายไปยังน้องชายที่เข้ามาฝึกงาน

     

    “นี่คือโอเซฮุน นักศึกษาฝึกงานที่จะเข้ามาฝึกงานในแผนกนี้”

     

    ซุบซิบๆๆๆๆ

     

    พูดจบเสียงซุบซิบก็ดังไปทั่ว คยองซูแอบเห็นพนักงานหญิงบางคนหันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนเบาๆ นี่ถ้าเป็นเวทีคอนเสิร์ตคงจะกรี๊ดดังกว่านี้แล้วล่ะ คิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่พาเซฮุนเข้ามาทำงานในแผนก

     

    โอเซฮุนลูกพี่ลูกน้องของเขาน่ะ ฉายแววหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ ร่างที่สูง 184 เซนติเมตร มีใบหน้าออกแนวฝรั่งหน่อย ผิวสวย จมูกโด่ง คางเรียว ปากเล็กสวยได้รูป ดวงตาเวลายิ้มจะหยีจนน่ารัก และที่สำคัญคิ้วอย่างกับปลิงมาเกาะ -_-

     

    “อะแฮ่มๆ” กระแอมอีกครั้งเพื่อเรียกสติพนักงานให้กลับมาก่อนจะหันมาพูดกับลูกพี่ลูกน้องตัวเองต่อ “เดี๋ยวพี่จะฝากเราไว้กับ... เอ่อ...ซูจองแล้วกันนะ”

     

    เกิดเสียงซุบซิบนินทาอีกครั้ง คราวนี้พนักงานหญิงที่หมายปองให้เด็กฝึกงานมาอยู่กับตนก็ต้องคอตกเป็นแถบ ส่วนคนที่โดนผู้จัดการฝากไว้ยังอึ้งๆ อยู่เลย

     

    “คะ? ฉันเนี่ยนะ” จองซูจองใช้นิ้วชี้มาที่ตนเอง

     

    “ใช่ เซฮุนนั่นเคารพไว้นะ จองซูจอง” พยักหน้าให้ซูจองก่อนจะหันมาบอกกับเซฮุนต่อ เซฮุนหันไปมองตามแล้วก็ยู่ปากนิดๆ พร้อมกับพยักหน้าเข้าใจ คยองซูนึกเรื่องบางอย่างได้ก็บอกไป “ส่วนโต๊ะทำงานก็อยู่ใกล้ๆ กับซูจองนั่นแหละ”

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อโอเซฮุนครับ เรียกเซฮุนเฉยๆ ก็ได้” เซฮุนเพิ่งนึกได้ว่าควรแนะนำตัวออกไป

     

    “เอาล่ะ กลับไปทำงานได้แล้วทุกคน” นี่คยองซูยังพอรักษาภาพพจน์นะ ถ้าตอนเซฮุนไม่อยู่ล่ะก็...เสียงจะดังจนขั้นพื้นสะเทือนบวกกับตาเหลือกๆ แทบจะทะลุเบ้าทำให้ทุกคนกลัวหัวหด พนักงานทุกคนรู้ดีว่าพูดครั้งแรกแล้วไม่ทำจะโดนอะไรจึงกลับไปนั่งทำงานตามเดิม

     

    “พี่ๆ แล้วผมจะเจอพี่หน้าหวานได้ไงอ่ะ?” พอคยองซูแถลงการณ์จบก็กระซิบถามเบาๆ

     

    “อืม...วันนี้เข้ามานี่นา...”

     

    “คยองซูวววววววววววววววววววววววววววววว”

     

    ผู้จัดการฝ่ายบัญชีพูดไม่ทันจบก็มีเสียงหวานแทรกขึ้นมาก่อน เมื่อทั้งสองหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างเล็กของคนที่กำลังพูดถึง ยิ่งเซฮุนแล้ว...

     

    หน้าเล็กๆ หวานๆ ตากลมเหมือนนางเอกนิยายหวานแว๋ว ปากอมชมพูเพราะลิปกลอส และผมสีชมพูอ่อนที่เข้ากับหน้า ทำเอาคนที่กำลังถามถึงตาค้างไปทันทีทันใด ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ... ถึงแม้ครั้งล่าสุดที่เจอพี่คนนี้คือเมื่อวานซืน (ที่ร้านคาเฟ่) ก็ตามเถอะ

     

    ไม่เจอกันวันเดียวทำไมน่ารักแบบนี้ ~ (><)

     

    “ว่าไงลู่หาน” คยองซูทักทายกลับ ร่างบางที่เรียกผู้จัดการฝ่ายเสียงแจ๋วเดินเข้ามาหาก่อนจะทำหน้ายิ้มแป้นพร้อมกับชูตั๋วหนังสองใบ

     

    “ไปดูหนังกัน อยากดู Fast 7 อยากไปดูพี่โทนี่ จา >_<” ทำหน้าระริกระรี้จนไม่เหลือคราบความโหด (ก็แน่ล่ะ ลู่หานน่ะได้ฉายามาว่า ปากหมาแต่หน้าหวาน) “เนี่ยๆ ซื้อเผื่อแล้วด้วย”

     

    “เอ่อ... เก็บเรื่องนั้นไว้ก่อนดีกว่า” คยองซูที่ไม่แน่ใจตนเองว่าจะว่างรึเปล่าจึงเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องของคนที่ยืนเงียบข้างหลังเขาดีกว่า

     

    “หือ? อ้าว แล้วนี่ใครอ่ะ?” ลู่หานที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีคนแปลกหน้าคนใหม่เข้ามาในบริษัทก็เอ่ยถาม

     

    “เด็กฝึกงานคนใหม่น่ะ” คยองซูตอบก่อนจะหันไปกระซิบเรียกคนที่ยืนเงียบก้มหน้า “นี่ ทักทายพี่หน้าหวานของแกสิ”

     

    “สวัสดีครับ ผมโอเซฮุน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับแนะนำตัวเองและยิ้มตาหยีส่งไปให้

     

    “ไอ้เด็กที่กวนร้านเฮียนี่!” คนที่ยืนสงสัยถึงบางอ้อทันทีเมื่อเห็นหน้า ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะ ก็พวกนี้เล่นมาที่ร้านเกือบทุกวันนี่ แถมมาก่อกวนประจำด้วย

     

    “ครับ ^-^

     

    เห็นหน้ายิ้มระรื่นแบบนั้นแล้วลู่หานรู้สึกคันๆ แข้งขึ้นมาทันที...

     

    “และพี่คงเป็นพี่ลู่หานสินะครับ...”

     

    “...”

     

    “พี่หน้าหวานแต่ปากหมา... แข้งโหด ลูกชายประธานบริษัท”

     

    “...”

     

    “อายุ 24 ปี เกิดวันที่ 20 เมษายน 19xx จบจากมหาวิทยาลัย KML คณะบริหารธุรกิจบัณฑิตการค้าระหว่างประเทศ”

     

    คนที่โดนพ่นประวัติใส่ถึงกับอึ้ง แอบสงสัยอยู่นะ...นี่เขาโดนเอาประวัติไปลงวิกิพีเดียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเด็กนี้ถึงได้รู้

     

    “และมีฉายาว่ากวางน้อย...” ประโยคสุดท้ายนี่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะลดระดับใบหน้าให้มาอยู่ตำแหน่งเดียวกันพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้

     

    “ระ...รู้ได้ไง”

     

    ก็จริงที่เจอเด็กคนนี้อยู่กับเพื่อนเขาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ไปทำความรู้จักญาติดีอะไรนักหรอก (แน่ล่ะ ใครอยากไปทำความรู้จักกับพวกนี้กัน)

     

    “หึ” ครั้งนี้เซฮุนยิ้มที่มุมปากก่อนย้ายใบหน้าให้ไปอยู่เหมือนเดิม เดินมาเทียบข้างกายบางก่อนจะใช้แขนโอบรอบคอไว้

     

    “เฮ้...” ปีนเกลียว... คำนี้เลยที่ลู่หานอยากให้ แต่เขาก็อึ้งเกินกว่าจะพูดออกไป

     

    โดคยองซูที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ถึงกับนิ่ง ไม่คิดเลยว่าน้องชายมันจะกล้าทำแบบนี้กับลูกชายประธานบริษัท

     

    ทำแบบนี้ระวังเจอดีนะเซฮุน -_-;; ถ้าจะฝากข้อความอะไรไว้ให้ป๊าม๊าก็รีบฝากนะ

     

    “ทุกคนครับ” คนที่ปีนเกลียวเอาแขนโอบรอคอรองประธานบริษัทเรียกทุกคนที่ต่างสนใจอยู่แล้วก่อนจะค่อยๆ พ่นประโยคเด็ดออกไป

     

    “ห้ามใครยุ่งกับกวางน้อยเด็ดขาด เพราะเจ้าของกวางน้อยอยู่ตรงนี้!” เมื่อประกาศิตจบแล้วก็หันมายิ้มแป้นให้กับคนที่ทำหน้างงงวย

     

    “เฮ้...” ส่งเสียงอีกครั้ง

     

    “พี่น่ะ...น่ารักจริงๆ นะ” พอเอ่ยชมไป ใบหน้าหวานที่อ้ำอึ้งก็หันมามอง...

     

     

     .

     .

     .

     .

     

    “ย่าาาาาาส์!!!!!!!!

     

    “โอ๊ย!

     

    ฝากอะไรไว้ให้ป๊าม๊ามั้ยเซฮุน (TTo) 

     

    ไม่ต้องบอกเขาหรอกว่าอย่ายุ่งกับลู่หาน ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งอยู่แล้ว ._.

     

     

    เหตุผลที่หนึ่งจุดหนึ่ง : ถึงพี่เขาจะน่ารัก พี่เขาก็โหดมาก - แอ่ก!






     

    OH’S REASONS

     

     

    บางทีปาร์คชานยอลก็ไม่เข้าใจนะนักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีอย่างเขาต้องมายืนอยู่หน้าร้านคาเฟ่ประจำนี่ด้วย... คงเพราะเจ้าเพื่อนตัวแสบคู่รักหวานแหววอย่างหวงจื่อเทาและบยอนแบคฮยอนล่ะมั้ง ทำให้ชานยอลคนนี้ต้องมายืนที่นี่

     

    มันก็จริงที่ชานยอล จื่อเทา และแบคฮยอนได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทของตระกูลจื่อเทา แต่จู่ๆ วันนี้มันสองตัวก็ลากเขามาที่นี่เฉย

     

    ไม่เข้าใจ -_-

     

    “อยากทำงานพิเศษทำไมต้องลากกูมาด้วยวะ” ชานยอลถามด้วยความไม่เข้าใจ แบคฮยอนและจื่อเทามองหน้ากันเหมือนกำลังปรึกษากันทางจิต

     

    “ก็กูอยากให้มึงมีรายได้มั่งนี่ ~” แบคฮยอนตอบ

     

    “เฮอะ ทุกวันนี้กูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ เอาความจริงเหอะ” ชานยอลแค่นหัวเราะออกมา เขารู้ว่าที่แบคฮยอนพูดมามันก็แค่ข้อแก้ตัว เพราะฐานะบ้านเขาก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่ได้ขาดสนขนาดนั้น

     

    “เอาเถอะน่า ก็กูอยากให้มึงมาด้วยนี่นา อยู่กับจื่อเทาทั้งวันก็เบื่อจะแย่อ่ะดิ” แบคฮยอนปัด

     

    “อะไรแบค เบื่อไรกู” พอได้ยินอย่างนั้นจื่อเทาก็แหวลั่น

     

    “ขึ้นมึงกูกับแฟนตัวเองเหรอ”

     

    “พอๆ ไหนจะเข้าไปสมัครก็เข้าไปดิ”

     

    ชานยอลเบื่อฟังสองคู่รักนี่ทะเลาะกันแล้ว ร่างสูงโปร่งเดินนำเข้ามาในร้านที่ไม่ได้เหยียบมาสามเดือนเต็ม เขาก็พอเห็นอยู่หรอกนะว่าหน้าประตูเขียนว่า รับสมัครพนักงาน 3 คน นี่คงเป็นเหตุผลที่สองคนนี้มาชวนล่ะมั้ง

     

    ถ้าไม่โดนพวกนี้ลากมานะ ชานยอลก็ไม่อยากมาหรอกร้านคาเฟ่ที่มีเจ้าของเป็น อู๋อี้ฟาน ที่เขาเกลียดมากๆ หรอก

     

    “สวัสดีครับพี่ฟ่าน” เสียงแบคฮยอนทักทาย ตามด้วยเสียงจื่อเทา เจ้าของร้านอย่างอี้ฟานจึงเงยหน้ามามองก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พอมองไปด้านหลังจื่อเทาก็เจอร่างสูงโปร่งยืนขาโก่งทำหน้าบูดบึ้งกอดอกไม่มองหน้าเขา

     

    “สวัสดีครับน้องแบค เทา และ...น้องชานยอล ^_^” อี้ฟานทักทายตอบพร้อมกับมองหน้าของแบคฮยอนและจื่อเทาแล้วก็มองมาที่ชานยอลและเรียกชื่อ

     

    “เฮอะ จะให้ทำอะไรก็ว่ามา” ชานยอลตัดบทแล้วเดินเข้าไปหาซึ่งๆ หน้า ยักคิ้วท้าทายเจ้าของร้านโดยไม่รู้ว่าตนเองคือลูกจ้าง (ใครอยากมาทำกันล่ะ :( )

     

    “พูดดีๆ กับคนที่จะให้เงินมึงหน่อยสิ” จื่อเทาทุ้งศอกใส่ชานยอลเบาๆ พลางห้ามปราม

     

    “เฮอะ!” ชานยอลเบ้ปาก เพื่อนทั้งสองไม่รู้น่ะสิว่าชานยอลเคยไปก่อเรื่องให้อี้ฟานเดือดร้อนไว้ แต่เอาเข้าจริงแบคฮยอนและจื่อเทาก็เคยถามเรื่องที่พักหลังๆ ไม่ได้มาร้านนี้เหมือนกันนะ ชานยอลก็แค่ตอบว่า เบื่อ เท่านั้น แม้จะมีเบื้องหลังมากกว่านั้นก็ตาม

     

    “อย่าไปสนใจชานยอลเลยครับ สงสัยวันนี้คงมีคนเหยียบหางมันอ่ะครับ” แบคฮยอนแอบแขวะเพื่อนตัวสูงไป ตั้งแต่เช้าแล้วพอชวนมาทำงานที่นี่ก็เอาแต่ปฏิเสธแล้วทำหน้าบึ้งอารมณ์เสียใส่

     

    “แบค!” ชานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าเง้าทันที

     

    “ไม่เป็นไรหรอกแบค เดี๋ยวพี่ให้เราช่วยเสิร์ฟไปก่อนแล้วกันนะ” อี้ฟานใช้มือปัดกลางอากาศเพื่อบอกว่าไม่ถือสาก่อนจะชี้ไปที่ห้องห้องหนึ่ง “เดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องนั้นนะ พี่เตรียมชุดไว้ให้แล้ว”

     

    “โอเคครับ ไปเพื่อนแอนด์แฟน” แบคฮยอนพยักหน้ารับให้อี้ฟานแล้วค่อยหันมาเรียกทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหลังไป

     

    ระหว่างเปลี่ยนชุด แบคฮยอนที่เปลี่ยนเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำส่องกระจกเช็คหน้าตัวเองแล้วก็นึกเรื่องที่อยากถามชานยอลได้

     

    “นี่ ชานยอล ทำไมมึงถึงดูไม่ค่อยถูกกับพี่ฟ่านวะ?” อ้าปากถามเพื่อนที่กำลังเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ

     

    “นั่นดิ” จื่อเทาที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในอีกห้องเสริม

     

    “กูค่อยเล่าเหอะ” ชานยอลทำหน้าเอือมก่อนจะตอบ ในที่สุดเขาก็ต้องเล่าสินะ...

     

    “มันเป็นเหตุผลที่พักหลังๆ มึงไม่มาร้านนี้ใช่มั้ยวะ?” จื่อเทาถามต่อ

     

    “อืม...”

     

    “เพื่อนรักและที่รักครับ มึงแต่งตัวหรือชักอยู่ครับ นานจัง” แบคฮยอนปัดเรื่องของชานยอลออกไปก่อนจะเอ่ยถามอย่างกวนๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองไม่ยอมออกมาสักที

     

    เมื่อเปลี่ยนเสร็จทั้งสามคนแล้ว อี้ฟานก็ให้แบคฮยอนไปเสิร์ฟเค้กที่โต๊ะของลูกค้า ให้เทาไปหยิบไม้ถูพื้นข้างหลังร้านเพื่อทำความสะอาดพื้น และให้ชานยอลมาช่วยทำบัญชีให้ เพราะไหนๆ ก็เรียนบัญชีมาแล้วนี่

     

    เดิมแล้วที่ร้านของอี้ฟานมีพนักงานเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ทำงานคอยชงกาแฟและเสิร์ฟ แต่แล้วไม่นานมานี้พนักงานหญิงดันท้องขึ้นมาโดยคนที่ทำท้องก็เป็นพนักงานชายอีกคน เลยพากันลาออกเพื่อกลับบ้านนอกไปแต่งงานทำให้เรื่องมันถูกต้อง ที่ร้านเลยไม่มีพนักงานคอยดูแล หลายวันมานี่อี้ฟานเลยต้องทำงานที่ร้านคนเดียว (แต่ลูกก็ก็ประปรายไม่ได้เยอะ จึงไม่เหนื่อยมาก) จึงประกาศติดรับพนักงานสามคน

     

    ซึ่งทั้งสามคนนี้ก็มาขอสมัคร... ตอนแรกก็คิดหรอกว่าหนึ่งในกลุ่มแสบที่ชอบมากวนร้านเขาอย่างแบคฮยอนจะมาขอสมัครเป็นพนักงาน และก็ชวนเพื่อนมาอีกสองคน

     

    “แบค ผู้หญิงโต๊ะริมหน้าต่างสั่งคาปูชิโน่อ่ะ เอาไปเสิร์ฟที” ชานยอลรับแก้วคาปูชิโน่ที่อี้ฟานเป็นคนชงให้มา (โดยไม่เต็มใจ) ก่อนจะวางบนถาดและบอกเพื่อนที่เดินไปจู๋จี้กับที่รักให้เอาไปเสิร์ฟ

     

    “นี่ แบคกับเทาคบกันนานยังอ่า?” แม้จะยืนอยู่ใกล้ๆ กัน อี้ฟานกับชานยอลก็แทบไม่ได้สนทนากันเลย อี้ฟานเลยเอ่ยถามก่อน

     

    “เสือก”

     

    “พูดไม่เพราะเลย”

     

    “เรื่องของมึง”

     

    “หน้าตาก็น่ารักนะ”

     

    “ไรมึงเนี่ย” ชานยอลทำหน้าตกใจเมื่ออี้ฟานยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับสำรวจใบหน้าเขาแถมยังเอ่ยชมอีกต่างหาก

     

    “นี่หัดพูดเพราะๆ ไม่เป็นเหรอ” อี้ฟานเอาหน้าตัวเองออกมาก่อนจะถามตรงๆ “ลองเรียกฉันว่า พี่ฟ่าน ซิ”

     

    “ไอ้ฟ่าน” พนักงานคนใหม่กวนกลับไปแล้วยักคิ้วให้

     

    ใครอยากไปเรียกกัน พี่ฟงพี่ฟ่าน แหวะ ~

     

    “เอางี้ ถ้านายพูดเพราะๆ จะเพิ่มเงินเดือนให้ 35000 วอนเลย โดยห้ามได้มีคำหยาบนะ” อี้ฟานต่อรอง เขาว่าหน้าชานยอลก็น่ารักนะควรเหมาะกับคำพูดดีๆ บ้าง อ้อ ไม่นับเสียงนะ “แต่ถ้านายพูดคำหยาบล่ะก็ฉันจะหักเงินเดินครั้งละพันวอน”

     

    “แล้วทำไมต้องทำตามด้วย ไม่ได้อยากได้เงินอยู่แล้ว” ชานยอลแย้ง

     

    “งั้นเหรอ เรื่องแค่นี้ชานยอลยังไม่ยอมทำเลย ป๊อดป่ะถามจริง” อี้ฟานลองงัดไม้เด็ดมาลองทำดู

     

    “ใครป๊อด! ได้ แต่ขอต่อรองเพิ่มเป็น 40000 วอน!

     

    “ได้สิ”

     

    “และขอให้พูดแค่กับคุณเท่านั้น!

     

    “ได้เลย แต่ต้องเรียกฉันว่า พี่ฟ่าน ด้วยนะ”

     

    “ดีล!” ชานยอลรับคำท้ามา เอาเถอะ เขาจะพยายามก็แล้วกันก็แค่พูดดีๆ กับหมอนี่ (แม้จะไม่อยากทำก็เถอะ) ได้เงินเพิ่มอีกต่างหาก

     

    สงสัยเดือนนี้จะได้คุมะมาเพิ่มอีกสักสองสามตัวแล้วมั้ง ^O^

     

    “พี่คะ ขอลาเต้แก้วนึงค่ะ” เมื่อจบบทสนทนาก็มีเด็กสาวมัธยมเดินมาสั่งเครื่องดื่มทันที

     

    “ได้ครับ เชิญนั่งรอที่โต๊ะเลยครับ” ชานยอลยิ้มกลับให้ทำเอานักเรียนมัธยมที่มาสั่งใจละลายทันทีก่อนจะลากสังขารตัวเองมานั่งเพ้อที่โต๊ะ ส่วนชานยอลก็หันไปสั่งอี้ฟาน

     

    “ลาเต้แก้วนึง...ครับ”

     

    รู้มั้ยว่าเขาต้องกัดฟันพูดแค่ไหน ฮึ่ย! ไม่อยากจะพูดเพราะๆ ด้วยหรอกกับคนอย่างอี้ฟาน -_-

     

    คอยดูนะ! อย่าให้ได้ยินบ้างล่ะ!

     








     






          100%

    TO BE CONTINUED

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
     


    นุ้งปาร์คของเราโดนพี่ฟ่านเล่นงานแล้ว55555555555
    เดี๋ยวก็ได้ฟังเฉลยแล้วน้า ว่าทำไมยอลถึงไม่ถูกกับพี่ฟ่านกัน
    อย่าลืมคอมเมนต์บ้างน้า Y_Y


     

    จะเม้นต์หรือแท็ก #ฟิคเหตุผลของฮุน ก็ได้ค่ะ





     

    อย่าลืมคอมเมนต์น้า ถ้าอ่านไม่คอมเมนต์จะให้ฝากเมลล์เวลามีฉากกุ๊กกิ๊กนะคะ



    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×