คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่หนึ่ง พี่เขาน่ารักจริงๆ นะ
เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่หนึ่ง พี่เขาน่ารักจริงๆ นะ
สามเดือนต่อมา
ร่างสูงผอมในสภาพเสื้อยืดแขนยาวลายขวางสีเหลืองสลับสีน้ำตาลและกางเกงยีนส์ฟิตของโอเซฮุนกำลังยืนมองบริษัทตรงหน้าอย่างประหม่า กว่าจะก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ได้ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง เขากำลังตื่นเต้นในสิ่งที่ต้องเจอในอีกไม่ช้า และเขาไม่มีทางยอมแพ้เดินหันหลังกลับไปแน่
คนมั่นใจแบบเซฮุนต้องไม่ประหม่าซี่ ~
โอเซฮุน นักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของมหาวิทยาลัย SM ชื่อดังของเกาหลีใต้ ซึ่งแน่นอนว่าปีสุดท้ายของการเรียนปริญญาตรีต้องฝึกงานเป็นเวลาสามเดือน เพื่อนที่อยู่ในก๊วนเดียวกันต่างเลือกไปฝึกงานกับบริษัทของพ่อหวงจื่อเทา แต่เซฮุนกลับแตกแยกเลือกบริษัทที่ตนสนใจมาตั้งนานแล้ว
และเขากำลังยืนอยู่ที่ The Luciano Company บริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มีเจ้าของเป็นคนจีนแท้และสิ่งที่เซฮุนสนใจกว่าเจ้าของคือ ‘ลูกชาย’ เจ้าของบริษัทน่ะสิ
“สวัสดีครับ” เมื่อพาร่างของตัวเองเข้ามาในตัวบริษัทได้ก็เดินตรงไปยังประชาสัมพันธ์ทันที ทักทายอย่างเป็นมิตรพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ทำให้ใครหลายคนละลายได้ไป
“สวัสดีค่ะ” พนักงานประชาสัมพันธ์หญิงที่ประจำอยู่เงยหน้าขึ้นมาทักทายก่อนจะชะงักกลางคันเพราะรอยยิ้มที่ถูกส่งมา
“คือว่าผมเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่อ่ะครับ”
“อ๋อค่ะ” พยักหน้าขึ้นลงและบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
“ไม่ทราบว่าต้องไปที่ไหนครับ?” เห็นท่าทางแล้วก็อยากจะออกไปจากตรงนี้เร็วๆ
ไม่ได้ครับไม่ได้ ม่อใครไม่ได้ครับ ._.
“เอ่อ ใช่โอเซฮุนรึเปล่าคะ?”
“ครับ” พยักหน้าพลางยิ้มอ่อนๆ ไปให้ (คือต้องเป็นมิตรไว้ครับๆ)
“เดี๋ยวตามฉันมานะคะ” บิดตัวม้วนเขินเสร็จก็ลุกขึ้น ใบหน้าที่มีบลัชออนที่มีสีชมพูอ่อนค่อยๆ เพิ่มความไปเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่าอาการหน้าแดงนั่นแหละ
บอกเลย คนนี้เจ๊ชอบบบบบ */////////////*
นักศึกษาฝึกงานเดินตามพนักงานประชาสัมพันธ์ไปจนถึงลิฟท์ พอลิฟท์มาก็เดินเข้าไปด้วยกัน สิ่งที่เซฮุนรู้อยากจะถอนหายใจออกมาคือเจ๊ประชา (สัมพันธ์) เนี่ยเอาแต่บิดตัวไปมา หน้าแดงเหมือนแพ้บลัชออนเถื่อน
ไม่น่าไปยิ้มให้เลย เพลีย -_-
แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยเจ๊ประชา ทำให้เซฮุนลืมอาการตื่นเต้นไปเสียสนิทเลย
ผ่านไปไม่นานกล่องสี่เหลี่ยมโดยสารก็พาทั้งสองมาถึงชั้นที่ 20 ซึ่งเจ๊ประชาบอกว่าเป็นชั้นของฝ่ายบัญชี ในเมื่อเซฮุนเรียนมาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีก็ควรมาฝึกงานกับฝ่ายบัญชีของบริษัท โดยเธอจะพาไปหาผู้จัดการฝ่ายที่อยู่ในห้องริมขวาสุดซึ่งเป็นห้องกระจกใสรอบด้าน
และมีร่างเล็กของคนที่คุ้นตาดีกำลังนั่งใช้ดวงตากลมโตจ้องหน้าคอมพิวเตอร์และพิมพ์บางอย่างอยู่ เซฮุนโค้งหัวบอกลาพนักงานประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินผ่านเหล่าพนักงานทั้งชายหญิงที่ไม่เป็นอันทำงานเพราะสายตากำลังจดจ้องมาที่เด็กผู้ที่เข้ามาใหม่ ตรงไปยังห้องนั้น
“สวัสดีครับ มาส่งพิซซ่าครับ” ประตูอัตโนมัติเปิดก็ก้าวขาเข้ามาแต่ร่างเล็กที่นั่งจ่ออยู่แต่หน้าจอก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจเขาเลย
“ไม่ได้สั่งนะ... อ้าว เซฮุน” ยังพูดไม่จบก็หันมาเจอหน้าหล่อๆ ก่อน
“ฮ่ะๆ จ้องแต่คอมฯ ไม่สนใจผมเลยนะพี่คยองซู” โอเซฮุนหัวเราะก่อนจะทำหน้างอนๆ
โดคยองซู หรือ พี่คยองของน้องเซฮุน ทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกันห่างกันประมาณสี่ปี เซฮุนเป็นคนที่หวงคยองซูมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาก็มีพี่ตาโตนี่คอยอยู่ข้างๆ เขาแล้ว จนตอนนี้ก็ยังหวงอยู่ แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พี่คยองของเขายังครองโสดหรอกนะ
และจะบอกอะไรให้การเข้ามาฝึกงานที่นี่ได้เป็นเรื่องที่ยาก แต่ในเมื่อเซฮุนอยากเข้ามาก็เลยใช้เส้นพี่ชายตาโตเข้ามาช่วย...แต่ใช่ว่าเรื่องการเรียนจะแย่ถึงขั้นเอามายื่นเข้าก็ไม่ใช่เลย ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องการเรียนของเซฮุนด้วยนั่นแหละถึงได้เข้ามาฝึกงานที่นี่
“โหย ก็งานพี่มันเยอะนี่นา” คยองซูอธิบาย เขาต้องจมอยู่กับงานบัญชีทั้งวันกว่าจะเคลียร์เสร็จก็ดึกแล้ว ไม่มีเวลาไปหาฟงหาแฟนหรอก :(
“นี่! พี่หน้าหวานของผมอยู่ไหนอ่ะ” พอได้นั่งบนเก้าอี้ปุ๊ปก็เอ่ยถามถึงเหตุผลที่เขาเข้ามาฝึกงานที่นี่ปั๊ป
“เขาไปเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่” เห็นใบหน้าระรื่นชื่นบาน หางกระดิกๆ ของลูกพี่ลูกน้องก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ แหมมาถึงก็ถามถึงเขาเลยน้า ~
“เดี๋ยวก็ได้เป็นของผมแล้วน่า :)” ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้
“ข้ามหน้าแข้งพี่หน้าหวานของแกไปก่อนเหอะ” คยองซูก็พอจะสนิทกับลูกเจ้าของบริษัทหรือที่เซฮุนเรียกว่า ‘พี่หน้าหวาน’ นั่นแหละ พอรู้ว่าพี่หน้าหวานโหดขนาดไหน ยิ่งเจอกับเกรียนๆ กวนๆ แบบเซฮุนด้วยนะ ต้องโดนบ้างแหละ
“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างอ่ะ?” พักเรื่องนั้นไว้ก่อนตอนนี้มาสนใจเรื่องงานบ้างดีกว่า อย่างน้อยเซฮุนต้องฝึกงานที่นี่ให้ผ่าน
“เดี๋ยวดูก่อน แต่ตอนนี้พี่จะพาไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักเสียก่อน” คยองซูตอบพลางชะเง้อหน้าไปมองพนักงานที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกแล้ว สายตาก็พบเข้ากับกลุ่มพนักงานหญิงที่มองเซฮุนตาละห้อย
โธ่ ฮอตจริงๆ เลยน้องชายคนนี้
“โอเคครับ”
ไม่รีรอช้าคยองซูรีบลุกขึ้น บิดขี้เกียจไปมาให้หายเมื่อยก่อนจะเดินนำร่างสูงของน้องชายออกมา พอเดินออกมาเจอสายตาที่แอบมองของพนักงานหญิงในแผนกก็กระแอมดังๆ ให้ทุกคนตั้งสติ ทุกคนสะดุ้งทันทีเมื่อผู้จัดการฝ่ายส่งเสียง
“นี่ทุกคน” คยองซูเปล่งเสียงเรียก พนักงานในแผนกต่างหันมาตามเสียง (แอบเห็นหางกระดิกๆ) ทันทีแล้วมือเล็กก็ผายไปยังน้องชายที่เข้ามาฝึกงาน
“นี่คือโอเซฮุน นักศึกษาฝึกงานที่จะเข้ามาฝึกงานในแผนกนี้”
ซุบซิบๆๆๆๆ
พูดจบเสียงซุบซิบก็ดังไปทั่ว คยองซูแอบเห็นพนักงานหญิงบางคนหันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนเบาๆ นี่ถ้าเป็นเวทีคอนเสิร์ตคงจะกรี๊ดดังกว่านี้แล้วล่ะ คิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่พาเซฮุนเข้ามาทำงานในแผนก
โอเซฮุนลูกพี่ลูกน้องของเขาน่ะ ฉายแววหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ ร่างที่สูง 184 เซนติเมตร มีใบหน้าออกแนวฝรั่งหน่อย ผิวสวย จมูกโด่ง คางเรียว ปากเล็กสวยได้รูป ดวงตาเวลายิ้มจะหยีจนน่ารัก และที่สำคัญคิ้วอย่างกับปลิงมาเกาะ -_-
“อะแฮ่มๆ” กระแอมอีกครั้งเพื่อเรียกสติพนักงานให้กลับมาก่อนจะหันมาพูดกับลูกพี่ลูกน้องตัวเองต่อ “เดี๋ยวพี่จะฝากเราไว้กับ... เอ่อ...ซูจองแล้วกันนะ”
เกิดเสียงซุบซิบนินทาอีกครั้ง คราวนี้พนักงานหญิงที่หมายปองให้เด็กฝึกงานมาอยู่กับตนก็ต้องคอตกเป็นแถบ ส่วนคนที่โดนผู้จัดการฝากไว้ยังอึ้งๆ อยู่เลย
“คะ? ฉันเนี่ยนะ” จองซูจองใช้นิ้วชี้มาที่ตนเอง
“ใช่ เซฮุนนั่นเคารพไว้นะ จองซูจอง” พยักหน้าให้ซูจองก่อนจะหันมาบอกกับเซฮุนต่อ เซฮุนหันไปมองตามแล้วก็ยู่ปากนิดๆ พร้อมกับพยักหน้าเข้าใจ คยองซูนึกเรื่องบางอย่างได้ก็บอกไป “ส่วนโต๊ะทำงานก็อยู่ใกล้ๆ กับซูจองนั่นแหละ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อโอเซฮุนครับ เรียกเซฮุนเฉยๆ ก็ได้” เซฮุนเพิ่งนึกได้ว่าควรแนะนำตัวออกไป
“เอาล่ะ กลับไปทำงานได้แล้วทุกคน” นี่คยองซูยังพอรักษาภาพพจน์นะ ถ้าตอนเซฮุนไม่อยู่ล่ะก็...เสียงจะดังจนขั้นพื้นสะเทือนบวกกับตาเหลือกๆ แทบจะทะลุเบ้าทำให้ทุกคนกลัวหัวหด พนักงานทุกคนรู้ดีว่าพูดครั้งแรกแล้วไม่ทำจะโดนอะไรจึงกลับไปนั่งทำงานตามเดิม
“พี่ๆ แล้วผมจะเจอพี่หน้าหวานได้ไงอ่ะ?” พอคยองซูแถลงการณ์จบก็กระซิบถามเบาๆ
“อืม...วันนี้เข้ามานี่นา...”
“คยองซูวววววววววววววววววววววววววววววว”
ผู้จัดการฝ่ายบัญชีพูดไม่ทันจบก็มีเสียงหวานแทรกขึ้นมาก่อน เมื่อทั้งสองหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างเล็กของคนที่กำลังพูดถึง ยิ่งเซฮุนแล้ว...
หน้าเล็กๆ หวานๆ ตากลมเหมือนนางเอกนิยายหวานแว๋ว ปากอมชมพูเพราะลิปกลอส และผมสีชมพูอ่อนที่เข้ากับหน้า ทำเอาคนที่กำลังถามถึงตาค้างไปทันทีทันใด ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ... ถึงแม้ครั้งล่าสุดที่เจอพี่คนนี้คือเมื่อวานซืน (ที่ร้านคาเฟ่) ก็ตามเถอะ
ไม่เจอกันวันเดียวทำไมน่ารักแบบนี้ ~ ヾ(>∀<☆ヾ)
“ว่าไงลู่หาน” คยองซูทักทายกลับ ร่างบางที่เรียกผู้จัดการฝ่ายเสียงแจ๋วเดินเข้ามาหาก่อนจะทำหน้ายิ้มแป้นพร้อมกับชูตั๋วหนังสองใบ
“ไปดูหนังกัน อยากดู Fast 7 อยากไปดูพี่โทนี่ จา >_<” ทำหน้าระริกระรี้จนไม่เหลือคราบความโหด (ก็แน่ล่ะ ลู่หานน่ะได้ฉายามาว่า ‘ปากหมาแต่หน้าหวาน’) “เนี่ยๆ ซื้อเผื่อแล้วด้วย”
“เอ่อ... เก็บเรื่องนั้นไว้ก่อนดีกว่า” คยองซูที่ไม่แน่ใจตนเองว่าจะว่างรึเปล่าจึงเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องของคนที่ยืนเงียบข้างหลังเขาดีกว่า
“หือ? อ้าว แล้วนี่ใครอ่ะ?” ลู่หานที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีคนแปลกหน้าคนใหม่เข้ามาในบริษัทก็เอ่ยถาม
“เด็กฝึกงานคนใหม่น่ะ” คยองซูตอบก่อนจะหันไปกระซิบเรียกคนที่ยืนเงียบก้มหน้า “นี่ ทักทายพี่หน้าหวานของแกสิ”
“สวัสดีครับ ผมโอเซฮุน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับแนะนำตัวเองและยิ้มตาหยีส่งไปให้
“ไอ้เด็กที่กวนร้านเฮียนี่!” คนที่ยืนสงสัยถึงบางอ้อทันทีเมื่อเห็นหน้า ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะ ก็พวกนี้เล่นมาที่ร้านเกือบทุกวันนี่ แถมมาก่อกวนประจำด้วย
“ครับ ^-^”
เห็นหน้ายิ้มระรื่นแบบนั้นแล้วลู่หานรู้สึกคันๆ แข้งขึ้นมาทันที...
“และพี่คงเป็นพี่ลู่หานสินะครับ...”
“...”
“พี่หน้าหวานแต่ปากหมา... แข้งโหด ลูกชายประธานบริษัท”
“...”
“อายุ 24 ปี เกิดวันที่ 20 เมษายน 19xx จบจากมหาวิทยาลัย KML คณะบริหารธุรกิจบัณฑิตการค้าระหว่างประเทศ”
คนที่โดนพ่นประวัติใส่ถึงกับอึ้ง แอบสงสัยอยู่นะ...นี่เขาโดนเอาประวัติไปลงวิกิพีเดียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเด็กนี้ถึงได้รู้
“และมีฉายาว่ากวางน้อย...” ประโยคสุดท้ายนี่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะลดระดับใบหน้าให้มาอยู่ตำแหน่งเดียวกันพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้
“ระ...รู้ได้ไง”
ก็จริงที่เจอเด็กคนนี้อยู่กับเพื่อนเขาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ไปทำความรู้จักญาติดีอะไรนักหรอก (แน่ล่ะ ใครอยากไปทำความรู้จักกับพวกนี้กัน)
“หึ” ครั้งนี้เซฮุนยิ้มที่มุมปากก่อนย้ายใบหน้าให้ไปอยู่เหมือนเดิม เดินมาเทียบข้างกายบางก่อนจะใช้แขนโอบรอบคอไว้
“เฮ้...” ปีนเกลียว... คำนี้เลยที่ลู่หานอยากให้ แต่เขาก็อึ้งเกินกว่าจะพูดออกไป
โดคยองซูที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ถึงกับนิ่ง ไม่คิดเลยว่าน้องชายมันจะกล้าทำแบบนี้กับลูกชายประธานบริษัท
ทำแบบนี้ระวังเจอดีนะเซฮุน -_-;; ถ้าจะฝากข้อความอะไรไว้ให้ป๊าม๊าก็รีบฝากนะ
“ทุกคนครับ” คนที่ปีนเกลียวเอาแขนโอบรอคอรองประธานบริษัทเรียกทุกคนที่ต่างสนใจอยู่แล้วก่อนจะค่อยๆ พ่นประโยคเด็ดออกไป
“ห้ามใครยุ่งกับกวางน้อยเด็ดขาด เพราะเจ้าของกวางน้อยอยู่ตรงนี้!” เมื่อประกาศิตจบแล้วก็หันมายิ้มแป้นให้กับคนที่ทำหน้างงงวย
“เฮ้...” ส่งเสียงอีกครั้ง
“พี่น่ะ...น่ารักจริงๆ นะ” พอเอ่ยชมไป ใบหน้าหวานที่อ้ำอึ้งก็หันมามอง...
.
.
.
.
“ย่าาาาาาส์!!!!!!!!”
“โอ๊ย!”
ฝากอะไรไว้ให้ป๊าม๊ามั้ยเซฮุน (TヘTo)
ไม่ต้องบอกเขาหรอกว่าอย่ายุ่งกับลู่หาน ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งอยู่แล้ว ._.
เหตุผลที่หนึ่งจุดหนึ่ง : ถึงพี่เขาจะน่ารัก พี่เขาก็โหดมาก ㅠ-ㅠ แอ่ก!
OH’S REASONS
บางทีปาร์คชานยอลก็ไม่เข้าใจนะนักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีอย่างเขาต้องมายืนอยู่หน้าร้านคาเฟ่ประจำนี่ด้วย... คงเพราะเจ้าเพื่อนตัวแสบคู่รักหวานแหววอย่างหวงจื่อเทาและบยอนแบคฮยอนล่ะมั้ง ทำให้ชานยอลคนนี้ต้องมายืนที่นี่
มันก็จริงที่ชานยอล จื่อเทา และแบคฮยอนได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทของตระกูลจื่อเทา แต่จู่ๆ วันนี้มันสองตัวก็ลากเขามาที่นี่เฉย
ไม่เข้าใจ -_-
“อยากทำงานพิเศษทำไมต้องลากกูมาด้วยวะ” ชานยอลถามด้วยความไม่เข้าใจ แบคฮยอนและจื่อเทามองหน้ากันเหมือนกำลังปรึกษากันทางจิต
“ก็กูอยากให้มึงมีรายได้มั่งนี่ ~” แบคฮยอนตอบ
“เฮอะ ทุกวันนี้กูก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ เอาความจริงเหอะ” ชานยอลแค่นหัวเราะออกมา เขารู้ว่าที่แบคฮยอนพูดมามันก็แค่ข้อแก้ตัว เพราะฐานะบ้านเขาก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่ได้ขาดสนขนาดนั้น
“เอาเถอะน่า ก็กูอยากให้มึงมาด้วยนี่นา อยู่กับจื่อเทาทั้งวันก็เบื่อจะแย่อ่ะดิ” แบคฮยอนปัด
“อะไรแบค เบื่อไรกู” พอได้ยินอย่างนั้นจื่อเทาก็แหวลั่น
“ขึ้นมึงกูกับแฟนตัวเองเหรอ”
“พอๆ ไหนจะเข้าไปสมัครก็เข้าไปดิ”
ชานยอลเบื่อฟังสองคู่รักนี่ทะเลาะกันแล้ว ร่างสูงโปร่งเดินนำเข้ามาในร้านที่ไม่ได้เหยียบมาสามเดือนเต็ม เขาก็พอเห็นอยู่หรอกนะว่าหน้าประตูเขียนว่า ‘รับสมัครพนักงาน 3 คน’ นี่คงเป็นเหตุผลที่สองคนนี้มาชวนล่ะมั้ง
ถ้าไม่โดนพวกนี้ลากมานะ ชานยอลก็ไม่อยากมาหรอกร้านคาเฟ่ที่มีเจ้าของเป็น ‘อู๋อี้ฟาน’ ที่เขาเกลียดมากๆ หรอก
“สวัสดีครับพี่ฟ่าน” เสียงแบคฮยอนทักทาย ตามด้วยเสียงจื่อเทา เจ้าของร้านอย่างอี้ฟานจึงเงยหน้ามามองก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พอมองไปด้านหลังจื่อเทาก็เจอร่างสูงโปร่งยืนขาโก่งทำหน้าบูดบึ้งกอดอกไม่มองหน้าเขา
“สวัสดีครับน้องแบค เทา และ...น้องชานยอล ^_^” อี้ฟานทักทายตอบพร้อมกับมองหน้าของแบคฮยอนและจื่อเทาแล้วก็มองมาที่ชานยอลและเรียกชื่อ
“เฮอะ จะให้ทำอะไรก็ว่ามา” ชานยอลตัดบทแล้วเดินเข้าไปหาซึ่งๆ หน้า ยักคิ้วท้าทายเจ้าของร้านโดยไม่รู้ว่าตนเองคือลูกจ้าง (ใครอยากมาทำกันล่ะ :( )
“พูดดีๆ กับคนที่จะให้เงินมึงหน่อยสิ” จื่อเทาทุ้งศอกใส่ชานยอลเบาๆ พลางห้ามปราม
“เฮอะ!” ชานยอลเบ้ปาก เพื่อนทั้งสองไม่รู้น่ะสิว่าชานยอลเคยไปก่อเรื่องให้อี้ฟานเดือดร้อนไว้ แต่เอาเข้าจริงแบคฮยอนและจื่อเทาก็เคยถามเรื่องที่พักหลังๆ ไม่ได้มาร้านนี้เหมือนกันนะ ชานยอลก็แค่ตอบว่า ‘เบื่อ’ เท่านั้น แม้จะมีเบื้องหลังมากกว่านั้นก็ตาม
“อย่าไปสนใจชานยอลเลยครับ สงสัยวันนี้คงมีคนเหยียบหางมันอ่ะครับ” แบคฮยอนแอบแขวะเพื่อนตัวสูงไป ตั้งแต่เช้าแล้วพอชวนมาทำงานที่นี่ก็เอาแต่ปฏิเสธแล้วทำหน้าบึ้งอารมณ์เสียใส่
“แบค!” ชานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าเง้าทันที
“ไม่เป็นไรหรอกแบค เดี๋ยวพี่ให้เราช่วยเสิร์ฟไปก่อนแล้วกันนะ” อี้ฟานใช้มือปัดกลางอากาศเพื่อบอกว่าไม่ถือสาก่อนจะชี้ไปที่ห้องห้องหนึ่ง “เดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องนั้นนะ พี่เตรียมชุดไว้ให้แล้ว”
“โอเคครับ ไปเพื่อนแอนด์แฟน” แบคฮยอนพยักหน้ารับให้อี้ฟานแล้วค่อยหันมาเรียกทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหลังไป
ระหว่างเปลี่ยนชุด แบคฮยอนที่เปลี่ยนเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำส่องกระจกเช็คหน้าตัวเองแล้วก็นึกเรื่องที่อยากถามชานยอลได้
“นี่ ชานยอล ทำไมมึงถึงดูไม่ค่อยถูกกับพี่ฟ่านวะ?” อ้าปากถามเพื่อนที่กำลังเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ
“นั่นดิ” จื่อเทาที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในอีกห้องเสริม
“กูค่อยเล่าเหอะ” ชานยอลทำหน้าเอือมก่อนจะตอบ ในที่สุดเขาก็ต้องเล่าสินะ...
“มันเป็นเหตุผลที่พักหลังๆ มึงไม่มาร้านนี้ใช่มั้ยวะ?” จื่อเทาถามต่อ
“อืม...”
“เพื่อนรักและที่รักครับ มึงแต่งตัวหรือชักอยู่ครับ นานจัง” แบคฮยอนปัดเรื่องของชานยอลออกไปก่อนจะเอ่ยถามอย่างกวนๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองไม่ยอมออกมาสักที
เมื่อเปลี่ยนเสร็จทั้งสามคนแล้ว อี้ฟานก็ให้แบคฮยอนไปเสิร์ฟเค้กที่โต๊ะของลูกค้า ให้เทาไปหยิบไม้ถูพื้นข้างหลังร้านเพื่อทำความสะอาดพื้น และให้ชานยอลมาช่วยทำบัญชีให้ เพราะไหนๆ ก็เรียนบัญชีมาแล้วนี่
เดิมแล้วที่ร้านของอี้ฟานมีพนักงานเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ทำงานคอยชงกาแฟและเสิร์ฟ แต่แล้วไม่นานมานี้พนักงานหญิงดันท้องขึ้นมาโดยคนที่ทำท้องก็เป็นพนักงานชายอีกคน เลยพากันลาออกเพื่อกลับบ้านนอกไปแต่งงานทำให้เรื่องมันถูกต้อง ที่ร้านเลยไม่มีพนักงานคอยดูแล หลายวันมานี่อี้ฟานเลยต้องทำงานที่ร้านคนเดียว (แต่ลูกก็ก็ประปรายไม่ได้เยอะ จึงไม่เหนื่อยมาก) จึงประกาศติดรับพนักงานสามคน
ซึ่งทั้งสามคนนี้ก็มาขอสมัคร... ตอนแรกก็คิดหรอกว่าหนึ่งในกลุ่มแสบที่ชอบมากวนร้านเขาอย่างแบคฮยอนจะมาขอสมัครเป็นพนักงาน และก็ชวนเพื่อนมาอีกสองคน
“แบค ผู้หญิงโต๊ะริมหน้าต่างสั่งคาปูชิโน่อ่ะ เอาไปเสิร์ฟที” ชานยอลรับแก้วคาปูชิโน่ที่อี้ฟานเป็นคนชงให้มา (โดยไม่เต็มใจ) ก่อนจะวางบนถาดและบอกเพื่อนที่เดินไปจู๋จี้กับที่รักให้เอาไปเสิร์ฟ
“นี่ แบคกับเทาคบกันนานยังอ่า?” แม้จะยืนอยู่ใกล้ๆ กัน อี้ฟานกับชานยอลก็แทบไม่ได้สนทนากันเลย อี้ฟานเลยเอ่ยถามก่อน
“เสือก”
“พูดไม่เพราะเลย”
“เรื่องของมึง”
“หน้าตาก็น่ารักนะ”
“ไรมึงเนี่ย” ชานยอลทำหน้าตกใจเมื่ออี้ฟานยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับสำรวจใบหน้าเขาแถมยังเอ่ยชมอีกต่างหาก
“นี่หัดพูดเพราะๆ ไม่เป็นเหรอ” อี้ฟานเอาหน้าตัวเองออกมาก่อนจะถามตรงๆ “ลองเรียกฉันว่า ‘พี่ฟ่าน’ ซิ”
“ไอ้ฟ่าน” พนักงานคนใหม่กวนกลับไปแล้วยักคิ้วให้
ใครอยากไปเรียกกัน พี่ฟงพี่ฟ่าน แหวะ ~
“เอางี้ ถ้านายพูดเพราะๆ จะเพิ่มเงินเดือนให้ 35000 วอนเลย โดยห้ามได้มีคำหยาบนะ” อี้ฟานต่อรอง เขาว่าหน้าชานยอลก็น่ารักนะควรเหมาะกับคำพูดดีๆ บ้าง อ้อ ไม่นับเสียงนะ “แต่ถ้านายพูดคำหยาบล่ะก็ฉันจะหักเงินเดินครั้งละพันวอน”
“แล้วทำไมต้องทำตามด้วย ไม่ได้อยากได้เงินอยู่แล้ว” ชานยอลแย้ง
“งั้นเหรอ เรื่องแค่นี้ชานยอลยังไม่ยอมทำเลย ป๊อดป่ะถามจริง” อี้ฟานลองงัดไม้เด็ดมาลองทำดู
“ใครป๊อด! ได้ แต่ขอต่อรองเพิ่มเป็น 40000 วอน!”
“ได้สิ”
“และขอให้พูดแค่กับคุณเท่านั้น!”
“ได้เลย แต่ต้องเรียกฉันว่า ‘พี่ฟ่าน’ ด้วยนะ”
“ดีล!” ชานยอลรับคำท้ามา เอาเถอะ เขาจะพยายามก็แล้วกันก็แค่พูดดีๆ กับหมอนี่ (แม้จะไม่อยากทำก็เถอะ) ได้เงินเพิ่มอีกต่างหาก
สงสัยเดือนนี้จะได้คุมะมาเพิ่มอีกสักสองสามตัวแล้วมั้ง ^O^
“พี่คะ ขอลาเต้แก้วนึงค่ะ” เมื่อจบบทสนทนาก็มีเด็กสาวมัธยมเดินมาสั่งเครื่องดื่มทันที
“ได้ครับ เชิญนั่งรอที่โต๊ะเลยครับ” ชานยอลยิ้มกลับให้ทำเอานักเรียนมัธยมที่มาสั่งใจละลายทันทีก่อนจะลากสังขารตัวเองมานั่งเพ้อที่โต๊ะ ส่วนชานยอลก็หันไปสั่งอี้ฟาน
“ลาเต้แก้วนึง...ครับ”
รู้มั้ยว่าเขาต้องกัดฟันพูดแค่ไหน ฮึ่ย! ไม่อยากจะพูดเพราะๆ ด้วยหรอกกับคนอย่างอี้ฟาน -_-
คอยดูนะ! อย่าให้ได้ยินบ้างล่ะ!
100%
TO BE CONTINUED
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
นุ้งปาร์คของเราโดนพี่ฟ่านเล่นงานแล้ว55555555555
เดี๋ยวก็ได้ฟังเฉลยแล้วน้า ว่าทำไมยอลถึงไม่ถูกกับพี่ฟ่านกัน
อย่าลืมคอมเมนต์บ้างน้า Y_Y
จะเม้นต์หรือแท็ก #ฟิคเหตุผลของฮุน ก็ได้ค่ะ
อย่าลืมคอมเมนต์น้า ถ้าอ่านไม่คอมเมนต์จะให้ฝากเมลล์เวลามีฉากกุ๊กกิ๊กนะคะ
ความคิดเห็น