ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic exo ) OH'S REASONS, hunhan krisyeol

    ลำดับตอนที่ #4 : เหตุผลของคุณชายโอ : ข้อที่สาม พี่เขายอมให้ผมไปส่งด้วย

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 58

















    เหตุผลของคุณชายโอ ข้อที่สาม พี่เขายอมให้ผมไปส่งด้วย






     

    คาวาซากิ ZZR1400 คันหรูขับเคลื่อนผ่านประตูรั้วที่ใหญ่โอ่อ่าทันทีเมื่อเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยเป็นคนเปิดรั้วให้ โอเซฮุนขับมอเตอร์ไซค์คันหรูอ้อมลานน้ำพุไปหยุดที่หน้าบ้านโดยไม่เก็บเข้าโรงรถเพราะเขาแค่มาส่ง 'โอเยริม' ที่เป็นลูกสาวคนกลางของบ้านเท่านั้น


    โอเซฮุนและโอเยริม หลานชายคนโตและหลานสาวคนกลางแห่งตระกูลโอ เจ้าของโรงแรมและห้างดังที่มีสาขาทั่วทั้งเกาหลีใต้และทั่วโลก ภายใต้ชื่อ H2OH Corporation ไม่มีใครที่ไม่รู้จักโรงแรมและห้างในเครือนี้ เพราะห้างของ H2OH นั้นถือเป็นศูนย์กลางของแหล่งช็อปปิ้งเลยก็ว่าได้


    H2OH นั้นถือเป็นบริษัทที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณปู่ของเซฮุน โดยตอนนี้คุณปู่ก็ได้แต่งตั้งให้ลูกชายหรือป่ะป๊าของเซฮุนและเยริมเป็นผู้ดูแลในเรื่องทั้งหมดในตำแหน่ง 'ประธานบริษัท' แต่ก็ใช่ว่าเซฮุนและเยริมจะมีหน้ามีตาทางสังคม ทั้งเซฮุนและเยริมต่างขอให้ตนเองใช้ชีวิตด้วยความสงบ จะออกงานร่วมกับป่ะป๊าก็ต่อเมื่อมันจำเป็นจริงๆ


    เพราะงั้นการเข้าไปทำงานใน The Luciano Company จึงไม่เป็นปัญหา ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนของ H2OH ยกเว้นโดคยองซู และที่ลูกชายคนโตเข้าไปฝึกงานใน The Luciano ใช่ว่าคุณโอฮยอนจินจะไม่รู้ เขารู้แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันคือการตัดสินของลูก แต่ยังไงถ้าเรียนจบแล้วเซฮุนก็ต้องมาสืบทอดบริษัทต่ออยู่ดี


    “ฮุนนี่จะไปไหนต่อเหรอ” น้องสาววัยสิบหกเอ่ยถามพี่ชายพลางยื่นหมวกคืนไป ปกติแล้วเยริมจะกลับบ้านพร้อมกับเซฮุนเสมอ เพราะ เธอไม่ชอบให้คนของที่บ้านมารับ ไม่อยากเป็นเป้าสายตาของใครหลายคน มีแต่เพื่อนสนิทเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านหรูแห่งนี้


    “ก็...นัด 'ใครบางคน' ดูหนังไว้น่ะ” พอวางหมวกแล้วเซฮุนก็หันมาตอบน้องสาวพร้อมกับยักไหล่อย่างกวนๆ


    “ใครบางคนนี่ใครกันน้า ~” โอเยริมยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “สงสัยเยริมคงได้พี่สะแภ้แล้วม้างงง ~


    “ฮุนฮุนนนนนน” พอเยริมพูดจบก็มีเสียงหวานเล็กอันคุ้นเคยของทั้งสองดังออกมาจากในบ้านก่อนจะตามมาด้วยร่างเล็กวิ่งดุ๊กดิ๊กออกมาจากบ้านตรงมาหาเซฮุนและเยริมที่กำลังยืนคุยกัน


    ไม่ต้องสงสัยว่าคือใครหรอก ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า เยริมเป็นลูกสาวคนกลางเพราะคุณโอฮยอนจินยังมีลูกสาวคนเล็กอีกคนที่เพิ่งอายุได้ 6 ขวบ หรือ 'โอมินอา' ลูกสาวคนเล็กนั้นได้ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากม่ะม๊าล้วนๆ 


    “ว่าไงครับตัวเล็ก” ร่างสูงย่อตัวลงแล้วใช้มือสอดใต้รักแร้ของน้องสาวคนเล็กแล้วอุ้มขึ้นมา หอมแก้มตามปกติที่ชอบทำ


    “ไม่เห็นทักเค้าเลยนะมินอา” เยริมที่มองการกระทำของพี่ชายคนโตและน้องสาวคนเล็กก็อดแขวะและเบะปากใส่ไม่ได้


    น้อยใจน้า ~ เห็นเยริมคนสวยเป็นอากาศธาตุเหรอออออ


    “โกรธออนนี่อยู่ เมื่อเช้าออนนี่แกล้งขโมยชุดคุณเจ้าหญิงซินเดอเรล่าของเค้าไปซ่อน”


    “ก็เค้าอายแทนนี่ คิดได้ไงใส่ตัวนั้นน่ะ”


    “ก็มันสวยนี่!”


    โอเซฮุนหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสงครามย่อมๆ ของน้องสาวทั้งสอง ปกติมินอามักจะทะเลาะกับเยริมเสมอๆ จนเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว คนห้ามทัพก็คงเป็นเขาเนี่ยแหละ เพราะส่วนใหญ่ป่ะป๊ากับม่ะม๊าจะกลับดึก ม่ะม๊าของเขาทำงานในตำแหน่งเลขาของป่ะป๊า เลยจะชอบกลับพร้อมกันบ่อยๆ


    “พอๆ ทั้งสอง” เซฮุนหยุดทัพก่อนที่จะทะเลาะจนถึงขั้นตบตี “เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกนะ เราสองคนทานข้าวไปก่อนเลยไม่ต้องรอพี่”


    ความจริงรอบดูหนังของเขาคือหนึ่งทุ่มแต่เขากะว่าจะไปหาเพื่อนๆ สักหน่อย เห็นแบคฮยอนส่งข้อความมาหาว่าชานยอลมีเรื่องจะบอก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงอยากไปฟังสักหน่อย ป่านนี้คงทำงานที่ร้านคาเฟ่ร้านประจำของเดอะแก๊งค์อยู่ล่ะมั้ง


    เซฮุนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเรื่องที่แบคฮยอน จื่อเทา และชานยอลไปสมัครทำงานพิเศษให้กับพี่อี้ฟาน (พี่ของว่าที่ภรรยาในอนาคต >_<) โดยจะทำตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่วันนี้ที่บริษัทของจื่อเทาอนุญาตให้ทั้งสามหยุดงานหนึ่งวันและเริ่มทำงานในวันพรุ่งนี้ ทั้งสามคนจึงมาทำงานพิเศษให้กับพี่อี้ฟานเลยทั้งวัน

     
     

    “ฮุนฮุนจะไปไหน?” มินอาที่ถูกเซฮุนอุ้มฉงน

     
     

    “ฮุนฮุนนอกใจเราสองคนแหละ” เยริมกระซิบบอกมินอาแต่เซฮุนก็ได้ยินเลยใช้มือข้างหนึ่งผลักหัวน้องสาวคนกลางไปเบาๆ

     

    “นี่ฮุนฮุน! ม่ะม๊าก็สอนไว้ถ้าเรียนไม่จบอย่าเพิ่งมีแฟน!” ได้ทีก็สั่งสอนใหญ่ เซฮุนมองเด็กในอ้อมแขนแล้วขำออกมา ด้วยความหมั่นเขี้ยวจึงฟัดแก้มขาวๆ ไปหนึ่งที

     

    “โธ่ ก็ฮุนฮุนชอบเขานี่ ~

     

    “ง่ะ!

     

    “อ่ะ ไปเล่นกับเยริมนะ พี่ไปละ” เมื่อเดินมาถึงห้องนั่งเล่นก็ปล่อยให้ร่างของน้องสาวคนเล็กลงนั่งกับโซฟา

     

    “ไม่เอา ถ้าฮุนฮุนไปต้องให้เค้าไปด้วย!” พอถึงเวลาที่พี่ชายตนเองต้องไปก็งอแงออกมาทันที มือเล็กไม่ยอมปล่อยจากชายเสื้อพี่ชายจนเซฮุนถึงกับปวดหัว มินอาเป็นเด็กที่หวงพี่ชายมาก ครั้งก่อนไปเที่ยวด้วยกันแล้วมีผู้หญิงมาขอเบอร์มินอาก็กลับให้เบอร์คนสวนไป

     

    “พี่ต้องไปดูหนังนะ แล้วเราจะอยู่ที่ไหนล่ะ” เซฮุนก้มหน้าลงไปคุยอย่างมีเหตุผลด้วย ถามว่าพาไปได้มั้ย พาไปได้เพียงแต่ตอนเขาดูหนังจะให้มินอาไปอยู่ที่ไหน ปล่อยให้อยู่คนเดียวก็ไม่ได้ด้วย

     

    “ไม่รู้แหละ เค้าจะไปด้วย!

     

    “อย่าดื้อสิครับตัวเล็ก” เซฮุนถอนหายใจออกมากับความดื้อและขี้หวงพี่ชายของมินอา เขาใช้สายตาขอความช่วยเหลือไปที่น้องสาวคนกลางอีกคนแต่คนโดนขอความช่วยเหลือกลับยักไหล่แล้วเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น

     

    “ไปทำการบ้านดีกว่า ~

     

    เซฮุนกำลังจนปัญญากับน้องสาวที่กำลังงอแงและแล้วในหัวก็คิดแผนการบางอย่างได้...

     

    “โอเคๆ พี่พาไปก็ได้แต่ตัวเล็กต้องไม่งอแงนะครับ”

     

    “เย่ ~” โอมินอาร้องดีใจทันทีเมื่อพี่ชายตนเองอนุญาตก่อนจะวิ่งเตาะแตะออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปที่ชั้นวางรองเท้าเลือกคู่นี้ตนเองพอใจที่สุดมา

     

    เซฮุนบอกให้มินอารออยู่หน้าบ้านก่อนเพราะเขาจะไปเอากุญแจรถยนต์มา เพราะม่ะม๊าไม่อนุญาตให้พามินอาไปไหนโดยมอเตอร์ไซค์เด็ดขาดเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้เนื่องจากมินอายังเด็กไป ไปนั่งซ้อนท้ายคงไม่โอเคเหมือนกับเยริมที่โตแล้ว

     

    ไม่นานมาเซราติแกรนคาบิโอสีขาวก็แล่นออกจากรั้วอันโอ่อ่าและตรงไปยังร้านคาเฟ่ของพี่เขย (ในอนาคต) ทันที ขณะขับรถไปยังเป้าหมายเซฮุนก็เปิดเพลงคลอไปด้วย ซึ่งก็เป็นที่พอใจกับลูกสาวคนเล็ก


     

     

    OH’S REASONS

     

     

    อีกสองชั่วโมงร้านก็จะปิดแล้ว เจ้าของร้านหน้าหล่อจึงขอตัวไปซื้อของเพื่อเตรียมทำเค้กในวันพรุ่งนี้ จึงฝากร้านไว้กับนักศึกษาทั้งสามคน จื่อเทาที่ล้างจานเสร็จออกมาจากหลังร้านแล้วไปนั่งประจำที่เคาท์เตอร์ข้างๆ บยอนแบคฮยอน ใช้ใบหน้าคลอเคลียไปที่ไหล่เล็กด้วยความออดอ้อน

     

    “แบคคืนนี้ไปค้างบ้านเทานะ”

     

    “ค้างไร ไม่ไปโว้ย” แบคฮยอนที่วางปากกาจากการเขียนบัญชีโวยวายขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อเบาๆ “ไปนอนค้างบ้านเทาที่ไร ระบมทุกที -////////-

     

    “ง่า ก็ไม่อยากนอนกอดหมอนข้างนี่นา” ถึงโหมดอ้อนทีไรแบคฮยอนก็ต้องทำใจยอมรับกับความน่ารักของแฟนที่คบมาสองปี “งั้นไปค้างคอนโดแบคก็ได้”

     

    “เฮ้อ ห้ามเทาได้ซะที่ไหนล่ะ” แบคฮยอนกรอกตาขึ้นลงอย่างเบื่อหน่าย ถึงจะออกปากห้ามทุกทีแต่ทุกครั้งเวลาไปส่งเขาที่ห้องก็อ้างร้อยแปดเหตุผลที่ทำให้ตนเองต้องค้างที่ห้องเขาให้ได้ทุกที

     

    “แหวะ หวานจังนะ” ชานยอลเดินถือถาดที่มีจานเค้กมาพร้อมกับแขวะคู่รักแห่งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ยื่นถาดไปให้เทาก่อนจะเอ่ยปากไล่ “ไอ่เทาเอาไปล้างที”

     

    “ขัดกูจังเลยชานยอล” จื่อเทารับถาดมาด้วยความหัวเสีย แบคฮยอนมองการกระทำแฟนตัวสูงของตนเองแล้วหัวเราะออกมา

     

    “ว่าแต่มึงเถอะ เล่าได้ยังว่าทำไมถึงเกลียดพี่ฟ่านจัง” แบคฮยอนหันมาสนใจเพื่อนตัวโย่งของเขาบ้าง ชานยอลเดินอ้อมมาด้านหลังเคาท์เตอร์ หย่อนสะโพกลงกับเก้าอี้บาร์พลางทำหน้าเบื่อโลก

     

    ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคู่รักคนละสีผิวถึงต้องชวนเขามาทำงานในร้านที่มีเจ้าของเป็นอี้ฟานด้วย ทำไมไม่ไปทำงานร้านอื่น วันนี้ทั้งวันเขาต้องพูดจาดีๆ กับคนที่ไม่อยากพูดจาดีด้วย มันน่าขนลุกชะมัดที่ต้องไปเรียก พี่ฟ่าน เขาอยากจะเรียก ไอ้ฟ่าน มากกว่าอีก

     

    “เออๆ เล่าก็ได้”

     

    “เอ๋?” พอชานยอลจะเอ่ยปากเล่าสายตาของแบคฮยอนก็ดันไปเจอรถคันหรูขับมาจอดหน้าร้านพอดี ชานยอลที่เห็นแบคฮยอนร้องอย่างฉงนก็มองตาม และเมื่อเห็นมาเซราติที่คุ้นตาก็ร้องอ๋อทันที

     

    “อ๋อ! นั่นมันรถไอ้ฮุนนี่ แปลกนะปกติมันติดคาวาซากิลูกรักมันจะตาย” ชานยอลหันหน้ามาบอกกับแบคฮยอน

     

    “สงสัยไปรับสาวมา ดูดิ” แบคฮยอนพยักเพยิดหน้าให้ชานยอลมองภาพของพี่ชายตัวสูงผอมที่เดินอ้อมมาเปิดประตูให้อีกฝั่ง ไม่นานร่างเล็กของน้องสาวคนเล็กของเซฮุนหรือที่รักของเหล่าพี่ๆ ก็เดินออกมา แบคฮยอนเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของโอมินอาที่วิ่งเข้ามาในร้านด้วยใบหน้าดีใจ

     

    กรุ๊งกริ๊งงงงง!

     

    “แบคกี้ ชยอลลลล ~” ที่รักของเหล่าพี่ๆ เห็นว่าแบคฮยอนและชานยอลอยู่หลังเคาท์เตอร์จึงวิ่งไปหา

     

    “คิดถึงจังเลยยย” ชานยอลย่อตัวไปรับเจ้าหนูขึ้นมาหอมแก้มขาวไปฟอดใหญ่ให้หายคิดถึง

     

    หลังจากนั้นชานยอลและแบคฮยอนก็เล่นกับน้องสาวคนเล็กของเซฮุนอยู่สักพัก จนเซฮุนบอกให้มินอาไปนั่งที่โต๊ะและจะสั่งเค้กไปให้กินเล่น ส่วนตัวเขาก็จะมาเคลียร์เรื่องที่แบคฮยอนบอกว่าชานยอลมีเรื่องจะบอก พอเซฮุนพาของว่างไปให้มินอาทานเล่นและบอกให้นั่งอยู่ตรงนั้นอย่าไปไหนแล้วก็เดินกลับมาหากลุ่มเพื่อนที่สุมหัวอยู่ที่เคาท์เตอร์

     

    “คือ...” ชานยอลเริ่มเอ่ยปากเล่า

     

     

     

     

    มึงคืออู๋อี้ฟานใช่มั้ย? หลังจากร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาโบกมือลาเพื่อนแล้วก็เดินเข้ามาในร้านและเห็นร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำจึงเดินตามเข้าไปและเรียกถามจนคนที่โดนเรียกหันมามอง

    มีอะไรรึเปล่าครับ อู๋อี้ฟานทำหน้าฉงน ในใจก็อึ้งเล็กๆ ที่คนตัวสูงน้อยกว่าเขานิดหน่อยถามแบบหาเรื่อง

    ผัวะ!!

    โอ๊ย!’ ร่างสูงถึงกับเซไปชนกำแพงทันทีเมื่อโดนซัดเข้าที่หน้าไปหนึ่งหมัด หยดสีแดงกำลังออกมาจากมุมปากจนต้องใช้หลังมือเช็ด คนโดนต่อยใช้สายตามองไปอย่างไม่เข้าใจ ต่อยผมทำไม?

    มึงมันเหี้ย!’

    ‘…’ อี้ฟานก็ยังไม่เข้าใจการกระทำของอีกคนอยู่ดี

    ภายนอกดูสุขุมแต่ความจริงได้ผู้หญิงแล้วทิ้ง ไอ้เวรเอ๊ย!’

    ผัวะ!!

    ปาร์คชานยอลซัดไปอีกหมัดที่แก้มสากก่อนจะพาตัวออกมาโดยไม่ลืมทิ้งประโยคชวนอี้ฟานงงไว้อีก

    กูจะไม่มาเหยียบร้านมึงอีกเลย!!’

    จากนั้นเสียงโครมครามเหมือนคนถีบโต๊ะก็ดังไปทั่วร้าน เมื่ออี้ฟานออกมาดูก็พบสภาพโต๊ะสะเปะสะปะไปหมด ลูกค้าที่ยังคงอยู่ในร้านก็ตกใจ

     

     

     

    “โห นี่เค้ารับมึงเข้าทำงานก็บุญแล้วนะชานยอล” แบคฮยอนพูด

     

    “กูไม่ได้อยากมานะแบค มึงอ่ะชวนกูมา” ชานยอลตอกกลับแบบเซ็งๆ จนแบคฮยอนเงียบไป มันก็จริงที่แบคฮยอนเป็นฝ่ายลากชานยอลมาทำงานที่นี่ เขาไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยก็แค่อยากให้ชานยอลมาทำเพราะจะได้ไม่เหงา

     

    “แล้วมึงไปต่อยพี่ฟ่านทำไมวะ” จื่อเทาที่นั่งเงียบฟังมาตลอดเอ่ยถาม

     

    “มึงจำแฟนเก่ากูได้ป่ะ เรนะอ่ะ”

     

    “อ๋อ ที่บอกเลิกมึงกลางมหาลัย พอมึงไม่ยอมแล้วไปทำรุนแรงจนเค้าตบหน้าหันกลับมาอ่ะนะ” เซฮุนเอ่ยติดตลก เขายังจำวันนั้นได้อยู่เลย วันนั้นเป็นวันที่เลิกคลาสสุดท้ายตอนเย็นจึงตกลงว่าจะไปเที่ยวด้วยกันต่อ แต่ก็ไปเจอเรนะที่คบหากับชานยอลมา 4 เดือนที่กำลังเดินเข้ามาหาพอดี ชานยอลเลยเดินไปหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจที่ได้เจอแฟน แต่กลับโดนเรนะบอกเลิกอย่างไร้เยื่อใย พอชานยอลไม่ยอมเลิกและไปเขย่าตัวถามอย่างไม่เข้าใจก็โดนตบกลับมา ท่ามกลางสายตาของเหล่านักศึกษา

     

    “เออนั่นแหละ มึงก็พูดให้กูช้ำใจอีก” ชานยอลตบหัวคนที่พูดเมื่อกี้เบาๆ โทษฐานที่ทำให้ช้ำใจ

     

    “แล้วไงต่อ?” แบคฮยอนถาม

     

    “ก็หลังจากเรนะเลิกกับกูไปสองวัน กูก็รู้ข่าวว่าเรนะไปคบกับผู้ชายคนนึง ตอนนั้นกูก็โกรธมากแต่ก็พูดกับตัวเองว่าถ้าไอ้คนใหม่นั่นทำให้เรนะร้องล่ะก็จะไปซัดหน้าให้ แล้วอาทิตย์ต่อมาจู่ๆ เรนะก็โทรมาหาพร้อมกับบอกขอโทษที่บอกเลิก ตอนนี้กรรมตามสนองเธอแล้ว เธอโดนบอกเลิกจากผู้ชายคนนั้น” ชานยอลเล่าต่อ

     

    “แล้วผู้ชายคนนั้นก็คืออู๋อี้ฟาน?” แบคฮยอนเดา

     

    “อื้ม กูถามเรนะว่าเขาชื่ออะไร เรนะก็ตอบมาว่าอู๋อี้ฟาน พอกูบอกจะไปซัดหน้าให้เรนะก็ห้าม จนมาเมื่อสามเดือนก่อนที่เจอกับอี้ฟานครั้งแรกอ่ะ กูก็จำหน้าได้จากรูปคู่ที่ถ่ายเป็นโปรไลน์ของเรนะ” ชานยอลพยักหน้าให้แบคฮยอนและเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเจือเคืองๆ เล็กๆ “เรนะดูรักอี้ฟานมาก พอได้มาเจออี้ฟานที่ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เพิ่งเลิกกับเรนะได้สามวันเอง กูเลยอดไม่ได้ว่ะ”

     

    “มึงโหดชะมัด” จื่อเทาว่า

     

    “เป็นมึงทนได้รึไงวะ ถ้าแบคเลิกกับมึงเพื่อไปคบคนอื่นที่ดูแลไม่ดี มึงยอมเหรอ”

     

    “อะไรวะ อย่ามาแช่งดิกูกับแบครักกันจะตาย” ไม่เพียงแต่พูด จื่อเทาก็ลากแบคฮยอนเข้ามากอดให้ชื่นใจพร้อมกับซบใบหน้าลงกับไหล่เล็กจนแบคฮยอนต้องผลักหัวออกไปด้วยความเขิน

     

    “พี่ฟ่านไม่เอาเรื่องมึงก็บุญแล้วนะ” เซฮุนเอ่ยบอกชานยอล

     

    “ว่าแต่มึงเถอะทำไมถึงพามินอามาได้” ชานยอลเลิกสนใจเรื่องของตัวเองแล้วหันไปสนใจเรื่องของเซฮุนพลางชำเลืองมองหนูน้อยมินอา

     

    “ก็คือวันนี้กูจะต้องไปดูหนังกับพี่ลู่หาน”

     

    “ห๊ะ!!!

     

    ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เซฮุนพูด พวกเขารู้เรื่องพี่หน้าหวานของเซฮุนหมดแล้ว เพราะหมอนี่มาที่ร้านทีไรก็ต้องมองหาร่างเล็กตลอด โชคดีก็เจอโชคไม่ดีก็ไม่เจอ มองแค่นั้นทุกคนก็รู้แล้วว่าเซฮุนชอบพี่หน้าหวานมากแค่ไหน พอตอนฝึกงานก็ยังไปฝึกงานบริษัทของพี่หน้าหวานอีก อย่างนี้เค้าเรียกว่า คลั่งมากกว่า

     

    ตอนนี้ทุกคนกำลังงงทำไมจู่ๆ พี่หน้าหวานถึงไปดูหนังกับเซฮุนได้ เขาเลยเอ่ยปากเล่าเรื่องทั้งหมดรวมทั้งแผนที่วางไว้กับลูกพี่ลูกน้องตาโตทันทีและยังมีเรื่องที่มินอารู้แล้วขอตามมาด้วย

     

    “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” แบคฮยอนพยักหน้าเข้าใจหลังจากฟังเรื่องทั้งหมด

     

    “แล้วมึงจะทำยังไงกับมินอาวะ” คนตัวสูงโย่งยกแก้วน้ำมาดูดก่อนจะถาม

     

    “คืองี้ เดี๋ยวกูจะแอบออกไปทางหลังร้านตอนใกล้ถึงเวลานัด แล้วตอนหนึ่งทุ่มป๊าม๊าจะกลับบ้านกันเดี๋ยวกูโทรให้เขามารับมินอากลับด้วย”

     

    “ทิ้งน้อง เลว” แบคฮยอนด่า

     

    “อ้าว ก็ตอนกูดูหนังมินอาจะอยู่กับใครล่ะ”

     

    “ถ้ากูเป็นมินอากูไม่ยอมนะเนี่ย” เทาเสริม เซฮุนเลยส่งสายตาประมาณว่า เสือก มาให้ จากนั้นทุกคนก็คุยเรื่องทั่วไปมีบ้างที่พี่ชายไปเล่นกับน้องสาว

     

    เวลาล่วงเลยไปจวบจนใกล้ถึงเวลานัดแล้ว เซฮุนก็เลยเริ่มแผนตามที่วางไว้โดยการย่องเบาๆ ออกจากร้านก่อนออกก็สังเกตน้องสาว โชคดีที่มินอาชอบระบายสีภาพเลยไม่ได้เอะใจอะไรกับพี่ชายของตนเองที่ย่องออกทางหลังร้าน ไม่นานมาเซราติแกรนคาบิโอก็แล่นออกจากหน้าร้านตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าที่พี่หน้าหวานนัด (คยองซู) ไว้

     

    ระหว่างทางร่างสูงก็จัดการโทรหาป่ะป๊าแอนด์หม่าม๊าให้มารับลูกสาวคนเล็กกลับ เขาก็โดนสอบสวนไปพักใหญ่แต่สุดท้ายก็บอกว่าขับรถอยู่และวางสายไป เล่าไปเพียงแค่ว่านัดเพื่อนไว้แล้วมินอาขอตามมาด้วยแต่เดี๋ยวพอป๊าม๊าไปรับ มินอาก็คงฟ้องหมดเปลือกแน่นอน

     

    “ทันเวลาแฮะ” ใบหน้าได้รูปก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก เนื่องจากห้างสรรพสินค้าที่มีโรงหนังและพี่หน้าหวานนัดไว้ค่อนๆ ข้างห่างจากร้านคาเฟ่เหมือนกัน เลยใช้เวลาสักหน่อยในการมาที่นี่

     

    ร่างสูงวิ่งตามทางมาโรงภาพยนตร์ ใช้สายตากวาดร่างอันคุ้นเคยที่น่าจะรออยู่แล้ว ในที่สุดก็เจอคนที่เขาลักลอบมาดูหนังด้วยกำลังนั่งบนโซฟาข้างหน้าโรงภาพยนตร์ เขาค่อยๆ ย่องเข้าไปหาและใช้มือทั้งสองปิดดวงตาหวานไว้เหมือนต้องการให้ตกใจเล่น

     

    “อ๊ะ!” คนที่โดนปิดตาสะดุ้งตกใจ

     

    “ทายซิใครเอ่ย?” เซฮุนพยายามบีบเสียงให้เล็กเพื่อให้ลู่หานทายว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา

     

    ก็แค่คิดจะแกล้งนิดๆ หน่อยๆ เอง : )

     

    “คยองซูเหรอ” เข้าทางเขาทันที! ร่างสูงยิ้มกริ่มอย่างพอใจก่อนจะค่อยๆ เปิดตาของคนตัวเล็กกว่าและโผล่หน้าไปให้เห็น

     

    เท่านั้นแหละ...

     

    “นาย!

     

    “ว่าไงครับพี่หน้าหวาน :)” ส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไปกวนใจอีกคนเล่นๆ

     

    “มาแกล้งฉันทำไม?” ลู่หานขมวดคิ้วถามและไม่วายถามต่อ “แล้วมาที่นี่ทำไม?”

     

    “ผมก็มาดูหนังกับพี่ไง”

     

    “ว่าไงนะ? ไม่มีทาง เพราะฉันนัดคยองซูไม่ใช่นาย” ถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ความจริงเขานัดคยองซูไว้นะ ทำไมกลับมาเจอหมอนี่ได้?

     

    “ก็พี่คยองซูไม่ว่างก็เลยให้ผมมาดูเป็นเพื่อนพี่แทน” เซฮุนหย่อนสะโพกลงบนเบาะเดียวกัน

     

    “โกหกรึเปล่า” พี่หน้าหวานของคุณชายโอกระตุกคิ้วถาม

     

    “ดูตั๋วหนังได้เลย” มือหนาชูตั๋วหนังที่ถือมาตลอดทางขึ้นเพื่อแสดงเป็นหลักฐานว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาให้มาจริงๆ

     

    “เฮอะ ขโมยมารึเปล่าก็ไม่รู้” แค่นหัวเราะอย่างไม่เชื่อพลางยกแขนขึ้นกอดอกเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง

     

    “งั้นก็โทรไปถามพี่คยองซูได้เลย” เห็นภาพที่พี่หน้าหวานเชิดหน้าแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ คนอะไรหน้าหวานแต่นิสัยกลับด้าน จึงจงใจแกล้งโดยการกระซิบข้างหูอย่างท้าทาย พออีกฝ่ายหันมาปะทะหน้าก็ตกใจทันทีก่อนจะขยับตัวหนี

     

    “ทำแน่!

     

    เมื่อลู่หานชี้หน้าเหมือนฝากไว้ก่อนแล้วก็ลุกขึ้นไปโทรศัพท์หาโดคยองซูผู้จัดการฝ่ายบัญชีทันที สุดท้ายก็ต้องทำหน้ามุ่ยเดินกลับมาเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ว่างอย่างที่เซฮุนบอกจริงๆ จึงให้เด็กฝึกงานที่มาฝึกงานแค่วันแรกมาแทน พอเดินกลับมาก็เจอกับหน้าตาอันกวนอวัยวะเบื้องล่างของโอเซฮุนก็ต้องหงุดหงิดเลยเดินผ่าหน้านำเข้าไปทางโรงภาพยนตร์

     

    เซฮุนแอบยิ้มกริ่มอย่างชัยชนะก่อนจะลุกขึ้นตามพี่หน้าหวานที่ไม่พูดไม่จาไปทางโรงภาพยนตร์ ตามจริงแล้วก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาจะเนียนๆ แอบเป็นจับมือบางพาเข้าไปในโรงภาพยนตร์ แต่โลกแห่งความเป็นจริงก็ไม่เคยทำให้ความคิดของเขาเป็นจริงเลย พอจะทำเป็นแตะมือเท่านั้นแหละ... เงื้อหมัดจะต่อยเลย

     

    เคยได้ยินสุภาษิตคำนี้มั้ยครับ... เจ็บแล้วจำเป็นคน เจ็บแล้วทนเป็นควาย

     

    และแน่นอนว่า...เซฮุนไม่อยากเป็นควายเลยต้องยอมเดินคอตกตามหลังพี่หน้าหวานมาจนถึงข้างในโรงภาพยนตร์

     

    ถึงแม้ลู่หานจะดูเหมือนไม่เล่นด้วยและความหวังที่คนที่มีใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มจะมาสนใจมันริบหรี่เหมือนการตบแมลงวันให้ตายคามือ แต่เขาก็ไม่คิดท้อถอยเลย ไม่รู้ว่าทำไมเวลานึกหน้าหวานๆ น่ารักๆ หรือเวลาโมโหนั่นแล้วชอบทำให้เรี่ยวแรงกลับมาทุกที

     

    คงเพราะเป็นคนแรกที่เขาออกตัว จีบ ขนาดนี้...

     

     

     

     

     

     

    เวลาดำเนินไปจนถึงครึ่งเรื่องของหนัง สองมือบางประสานเข้าหากันด้วยความลุ้นระทึกกับภาพยนตร์ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ลู่หานติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกและเขาก็เป็นคนชอบหนังแนวแอคชั่นทริลเลอร์อยู่แล้วด้วย ยิ่งได้เห็นท่าทางการแสดงของโทนี่จาแล้ว

     

    ลู่หานยิ่งชอบบบบ >_<

     

    จะว่าไปคนข้างตัวที่บอกว่าคยองซูให้มาดูหนังเป็นเพื่อนเนี่ยเงียบไปเลยนะ ตอนหนังเริ่มแรกๆ ก็มีแกล้งใช้ลมเป่าหูบ้างก็เถอะ ถึงมารยาทในโรงหนังก็บอกไว้ว่าไม่ควรคุยกันแต่แปลกๆ เหมือนกัน... ที่มาดูเป็นเพื่อนเนี่ยชอบดูแนวนี้รึเปล่าก็ไม่รู้

     

    ...อืม

     

    กูพบต้นเหตุล่ะ

     

    “หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ”

     

    ลู่หานเลิกสนใจหนังตรงหน้าแล้วหันมาสนใจกับคนข้างตัวแทน คนตัวสูงห่อไหล่และเอียงก้มหน้าเล็กน้อย ดวงตาที่เลยเปิดกลับปิดแน่นสนิท เสียงกรนเบาๆ เล็ดลอดออกมา

     

    ไม่แปลกหรอกที่จะหลับไปอย่างนี้ก็นี่เป็นหนังรอบดึก ปกติเขากับคยองซูจะชอบดูหนังรอบดึกเพราะงานของคยองซูและเขาที่เป็นรองประธานรัดตัวพอๆ กางเกงเอวยี่สิบห้ากับคนหนักร้อยกว่ากิโลกรัม แต่หลังๆ มานี่ลู่หานมักจะเคลียร์ให้เสร็จก่อนเลยมีเวลาว่างเยอะ ส่วนคยองซูนี่หาเวลาว่างน้อยมาก

     

    กลับมาที่เด็กฝึกงานต่อดีกว่า... นอกจากจะดึกแล้วคงเหนื่อยด้วยล่ะมั้งเพราะวันนี้เขาใช้ให้ไปซื้ออาหารมาแจกจ่ายให้พนักงานในบริษัทแถมแต่ละอย่างก็คนละร้านด้วย

     

    มองไปมองมาก็หน้าตาดีนะเนี่ย...

     

    ไม่ๆ คิดอะไรอยู่วะลู่หาน!

     

    ส่ายหัวไปมาเป็นพัลวันจนคนข้างหลังอาจจะคิดได้ว่าเขากำลังสะบัดเหาใส่คนข้างๆ รึเปล่าแล้วค่อยหันมาสนใจหนังตรงหน้าต่อ

     

    ตุบ!

     

    “อ่ะ...”

     

    จู่ๆ หัวทุยของอีกคนที่หลับไปแล้วเกยแหมะอยู่กับไหล่เล็กของลู่หานส่วนเสียงตุบไม่ใช่เสียงจากศีรษะของเซฮุนหรอก เสียงหัวใจของลู่หานที่หล่นไปอยู่ตาตุ่มต่างหาก ถึงไม่ใช่คนตกใจง่ายแต่พอโดนแบบนี้แถมยังมีลมหายใจอุ่นๆ รดคอแล้วใจก็อดสั่นไม่ได้

     

    ไม่ได้ๆ จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะโอเซฮุน!

     

    “งืม...” พอโดนผลักหัวออกไปก็มีเสียงพึมพำๆ เล็ดลอดออกมาอีก “พี่หน้าหวานใจร้าย...”

     

    “...”

     

    “เหนื่อยนะวันนี้”

     

    “...”

     

    “แต่พอเห็นหน้าพี่ก็หายเหนื่อยเลยว่ะ”

     

    “...”

     

    ตึกตักตึกตัก

     

    เหมือนหนังที่กำลังฉายโดนแบนเสียง เหมือนเสียงแอร์ที่เคยดังกลับเงียบ และมีเสียงหัวใจของเขาที่ดังออกมาเมื่อประโยคสุดท้ายถูกกล่าวออกมา โอเซฮุนละเมอออกมา... แม้จะมีคนประปรายแต่ทำถึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ก็ไม่รู้

     

    คงเพราะเจ้าเด็กฝึกงานที่เพิ่งมาฝึกงานได้หนึ่งวันกำลังกระเซาะกระแซะตัวเขาอยู่ก็ได้มั้ง... จากที่มีแค่หัวทุยๆ (ที่กลับมาซบไหล่ตามเดิมหลังจากโดนผลัก) ก็ยังมีแขนที่เนียนมาควงเขาไว้อีกต่างหาก

     

    “หนาวว ~” มีเสียงบ่นออกมาอีก

     

    ตอนแรกไม่อยากให้หนังจบไวๆ หรอกนะ แต่ตอนนี้อยากแล้ว อยากไปตัดช่วงตรงกลางออกให้หมดเลยจริงๆ...

     

     

     

     

     

     

     

     

    โอเซฮุนไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอหลับไปตอนไหนตื่นมาอีกทีก็เจอกับใบหน้าหวานที่มีท่าทีไม่พอใจที่เผลอไปนอนหลับคาไหล่เล็กนั่น นี่ถ้าพี่หน้าหวานของเขาเงื้อหมัดจะต่อยคงทำไปนานแล้ว นอกจากจะเจอกับใบหน้าหวานแล้วยังเจอว่าภาพยนตร์จบเป็นที่เรียบร้อย

     

    ผู้คนต่างทยอยกันออกมานอกโรงภาพยนตร์ โอเซฮุนและลู่หานก็เช่นกัน ครั้งนี้เซฮุนเป็นฝ่ายเดินนำออกมา และกำลังพยายามหาวิธีที่ได้อยู่ต่อกับลู่หานสักพัก...

     

    จริงสินะ!? ดึกขนาดนี้น่าจะไม่มีรถกลับแน่ๆ

     

    “พี่ลู่หานๆ” ร่างสูงหยุดกึกแล้วหมุนตัวกลับไปมองคนข้างหลังที่เดินตามมาติดๆ คนที่ถูกเรียกเงยหน้ามองอย่างฉงน

     

    “มีอะไร?”

     

    “เอ่อ...ให้ผมไปส่งที่บ้านมั้ย?” รวบรวมความกล้าจนสุดท้ายก็พูดออกไป ทีแรกคิดว่าถ้าพูดไปแล้วลู่หานต้องปฏิเสธทันทีทันใดแต่ตอนนี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น ลู่หานกำลังทำหน้าครุ่นคิด

     

    “เอาสิ” แปลกว่ะ... ทำไมถึงมาตกลงง่ายๆ และยิ้มหวานให้อีกต่างหาก

     

    เมาป๊อปคอร์นป่ะวะ...

     

    แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจเพียงแค่นั้น เซฮุนไม่ได้คิดอะไรมากเลยออกฝีเท้าก้าวเดินตามพี่หน้าหวานที่เหมือนจะเมาป๊อปคอร์น

     

     

     

     

     

     

    “พี่...ผมว่าผมจำได้นะว่าจอดรถไว้ชั้น 4

     

    เซฮุนเอ่ยปากถามครั้งแรกหลังจากเงียบมานาน เขาเริ่มเอะใจบ้างแล้วว่าทำไมเริ่มขึ้นบันไดมาสูงเรื่อยๆ ขาเริ่มหมดแรงแล้วด้วย นี่ก็จะถึงชั้น 8 แล้ว

     

    “แต่ฉันว่านายน่าจะจอดรถไว้ที่ชั้น 8 นะ” ลู่หานหยุดเดินที่ขั้นบันไดที่สูงกว่าก่อนจะหันมาแล้วใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากพลางทำหน้าครุ่นคิด

     

    “ระ...เหรอ” บางทีคนตัวเล็ก่าจะรู้บ้างนะว่าใบหน้าเล็กนั่นจิ้มลิ้มและน่ารักแค่ไหน จากที่เริ่มเอะใจก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “งั้นก็ไปต่อสิ”

     

    “อื้ม”

     

    เซฮุนไม่รู้หรอกว่าริมฝีปากเล็กน่าจุ๊บของลู่หานกำลังจุดรอยยิ้มอย่างร้ายกาจอยู่ ขาของลู่หานก้าวขึ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงชั้นที่หมาย

     

    อีกครั้งที่เซฮุนเอะใจ ทำไมพี่หน้าหวานถึงได้ทำตัวเหมือนรู้ว่ารถของเขาจอดที่ไหนโดยการเดินนำไปอย่างนี้ แถมเซฮุนก็กำลังจะค้นพบบางอย่างแล้ว...

     

    คนตัวสูงมองการกระทำของตัวเล็กที่ยกกุญแจที่เหมือนกุญแจรถขึ้นมา กดระบบเปิดประตูอัตโนมัติก่อนที่รถคันหนึ่งมีเสียงปลดล็อค เท่านั้นเซฮุนก็เข้าใจทันที... ว่าเขาโดนพี่หน้าหวานหลอกเข้าให้อีกแล้ว ไอที่ยอมให้เขาไปส่งบ้านน่ะ ไม่ใช่หรอก ยอมให้มาส่งที่รถต่างหาก!

     

    แต่การที่ไม่ยอมใช้ลิฟท์ขึ้นมาแสดงว่าจงใจแกล้งเขาชัดๆ ความแค้นก็ผุดขึ้นในใจยิ่งคนตัวเล็กหมุนตัวกลับมาเพื่อส่งรอยยิ้มหวานที่เคลือบไปด้วยยาพิษแล้วยิ่งคับแค้นใจ

     

    “ขอบคุณนะที่เดินขึ้นมาส่ง :)

     

    โดนหลอกขึ้นมาสิไม่ว่า ก็ว่าทำไมถึงได้รู้ใจว่าเขาจอดรถไว้ที่ไหน...

     

    พอคนตัวเล็กบอกขอบคุณและยิ้มให้แล้วก็เดินไปที่รถเมอร์ซิเดสเบนซ์สีดำสนิทที่จอดไว้ เปิดประตูเข้าไปนั่ง มือที่กำลังจะเอื้อมไปปิดก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงที่ตนหลอกให้เดินขึ้นมาในที่จอดรถเป็นเพื่อนจับประตูไว้ก่อนจะแทรกตัวมา ใบหน้าขาวเนียนของเด็กฝึกงานกำลังยื่นเข้ามาใกล้ๆ จนลู่หานต้องหลบหนี

     

    “หลอกผมแบบนี้น่ะได้ แต่พี่หลอกตัวเองที่ผมชอบพี่ไม่ได้หรอกครับ” โอเซฮุนขยับปากพูดแล้วจุดรอยยิ้มที่มุมปากตบท้าย

     

    “ออกไป!” ดวงตาประดุจกวางกำลังสั่นด้วยความกลัวว่าเด็กคนนี้จตะเล่นอะไรแผลงๆ ไม่นานก็ต้องหลับตาปี๋เมื่ออีกคนยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม และสุดท้ายเขาก็ได้สัมผัสบางอย่างมาที่ริมฝีปากอมชมพูเบาๆ และชั่วขณะเท่านั้น

     

    “ฝันดีนะครับ”

     

     

    ข้อที่สามจุดหนึ่ง : จุ๊บแค่นี้เรียกว่าจูบมั้ย .__.





















     


    100%
    TO BE CONTINUED

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     


                       สวัสดีค่า ^__^ หายไปนานใช่ม้า5555555 ขอโทษน้าาาาา

    หายไปกับเรื่องเรียนนานไปหน่อย555555 ช่วงนี้โรงเรียนเปิดแล้วเลยไม่ค่อยมีเวลาเลย

    วันนี้ก็ว่างๆ (เหรอ?) ก็เลยมาแต่งให้ครบแล้วเอามาลง ถ้าเจอคำผิดก็บอกนะคะ

    เหยแบบ ฮุนนี่รวดเร็วทันใจมากจ้า และทีนี้ทุกคนคงรู้เรื่องของคริสยอลแล้วเน้อออ

    เราจะพยายามมาต่อนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ._.


    โอเยริม



    โอมินอา


     

     

    จะเม้นต์หรือแท็ก #ฟิคเหตุผลของฮุน ก็ได้ค่ะ





     

    อย่าลืมคอมเมนต์น้า ถ้าอ่านไม่คอมเมนต์จะให้ฝากเมลล์เวลามีฉากกุ๊กกิ๊กนะคะ


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×