ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] Bloody Love [1827 10069]

    ลำดับตอนที่ #5 : .:S Blood:.Yakusoku no Basho {Happy New Year 2012}

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 55


    Clou Dy

    S Blood 

    Yakusoku no Basho

    BEFORE READING!

    This Fic is a Speacial New Year 2012 Fic 






    Rome,Italy

     

    10:00 am ,31st Dec. 11

     

    ในวันนี้ เป็นวันสุดท้ายของปีเก่า และแน่นอนว่าทุกๆคนย่อมต้องมีแพลนที่จะไปฉลองและเคาท์ดาวน์ในวันนี้ และหนึ่งในนั้นก็รวมไปถึง บอสของวองโกเล่แฟมิลี่ด้วยเช่นกัน

     

    ซาวาดะ สึนะโยชิ ที่บัดนี้ กำลังเดินมาตามทางเดินของคฤหาสน์ ไปยังห้องของผู้พิทัักษ์เมฆาที่อยู่ปลายสุดของทางเดิน เพื่อที่จะชวนไปเที่ยวงานปีใหม่ในคืนนี้

     

    “ก๊อกๆ” สึนะ เคาะประตูห้อง ก่อนที่จะเปิดเข้าไป

     

    ภายในห้อง มีชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมและดวงตาสีดำสนิท กำลังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงาน

     

    ร่างสูงนั้น เงยหน้าขึ้นมามองผู้มาเยือนเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าเป็นสึนะ ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก้มลงไปทำงานต่อ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาว่า

     

    “มีอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามเบาๆ ก่อนที่สึนะจะตอบกลับอย่างร่าเริงเล็กน้อย

     

    “เคียวยะ วันนี้ไปเที่ยวกันได้มั้ย” สึนะเอ่ยปากชวนร่างสูงตรงหน้าไปเที่ยวงานปีใหม่อย่างร่าเริง แต่ก็ปนไปด้วยความไม่มั่นใจ ว่าร่างสูงตรงหน้าจะยอมไปด้วยมั้ย

     

    ทั้งคู่เป็นแฟนกันมาเกือบปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ร่างสูงก็ยังเป็นเมฆาคนเดิม แม้ว่าจะอ่อนโยนมากขึ้น แต่ก็ยังเย็นชาและไม่ชอบการถูกผูกมัดอยู่เช่นเคย จนบางครั้งร่างบางก็ไม่มั่นใจขึ้นมาว่าอีกฝ่ายรักตนหรือไม่ สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองสำคัญก็คือ การที่ให้เรียกว่าเคียวยะ แทนคำว่า คุณฮิบาริ…

     

    “เที่ยว? ที่ไหนล่ะ” ร่างสูงถามกลับมา

     

    “อ่า…เห็นว่าที่จตุรัสกลางเมืองจะมีงานฉลอง ตั้งแต่เย็นจนเคาต์ดาวน์เลย ถ้าเคียวยะไป ก็จะได้ไปเดินเล่นกันก่อน ไปกินข้าวเย็นที่โน่นเลยดีมั้ย” ร่างยางพูดออกมาอย่างดีใจ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ปฏิเสธ พร้อมทั้งเสนอแผนการเที่ยวต่างๆออกมา

     

    “อืม” ร่างสูงตอบกลับมาสั้นๆ แต่เพียงแค่นั้น ก็ทำให้สึนะดีใจมากแล้ว

     

    “แล้วเคียวยะอยากไปกี่โมงล่ะ” สึนะยังถามต่อไป

     

    “หลังจากทำงานเสร็จ” ร่างสูงก็ยังคงตอบกลับมาง่ายๆเช่นเดิม

     

    แต่คำตอบที่ตอบกลับมา กลับทำให้สึนะใจหาย เพราะกองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น มีมากมายเหลือเกิน เพราะคนตรงหน้า เป็นคนรับผิดชอบเอกสารทั้งหมดในช่วงหยุดปีใหม่ เพราะคนอื่นๆก็ลาพักร้อนกันไปหมดแล้ว

     

    “อ่า…อีกนานมั้ย” สึนะถามอย่างไม่ค่อยแม่ใจสักเท่าไร

     

    “ไม่รู้” คำตอบสั้นๆง่ายๆ ที่ยิ่งสร้างความเสียใจให้สึนะมากยิ่งขึ้น แต่สึนะก็ได้แต่ยิ้มสู้ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

     

    “แล้วข้าวกลางวัน เคียวยะจะให้เอาขึ้นมาให้เลยมั้ย”

     

    “อืม”

     

     

    13:00 pm ,31st Dec. 11

     

    หลังจากที่ทั้งคู่กินข้างกลางวันเสร็จ สึนะก็ออกมาซื้อของขวัญปีใหมที่ห้างที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพียวคนเดียว เพื่อเตรียมให้กับร่างสูงที่เอาแต่นั่งตรวจเอกสารอยู่หลังจากกินข้าวเสร็จ

     

    ‘อืม…จะซื้ออะไรให้เคียวยะดีน่ะ’ สึนะนั่งคิด ขณะที่เดินเลือกไปเรื่อยๆ

     

    เสื้อผ้า…ก็มีช่างตัดให้ส่วนตัวอยู่แล้วทุกคน

    ตุ๊กตา…ไม่ต้องไปพูดถึง

    ที่ห้อยมือถือ…คงจะใข้

    เครื่องประดับ…แค่ที่ใส่แหวนกับกำไลต่างๆตอนนี้ก็เยอะมากพอแล้ว

     

    สึนะเดินเลือกไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายอยู่หลายชั่วโมง ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับร้านๆนึง ที่ตั้งอยู่ในมุมเล็กๆ เป็นร้านน่ารักๆ บนป้ายเขียนไว้ว่า D.I.Y Shop ซึ่งเป็นร้านที่เปิดแค่ในช่วงเทศกาล ให้มาทำของขวัญน่ารักๆเองสึนะจึงเดินเข้าไปดูด้วยความสนใจทันที

     

    .

     

    .

     

    .

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา

     

    “ได้ของขวัญให้เคียวยะแล้ว ^^” สึนะพึมพำเบาๆ กับกล่องของขวัญที่ถืออยู่ในมือ ซึ่งภายในบรรจุของขวัญที่ตนเพิ่งทำมาเมื่อครึ่ง ชั่วโมงที่แล้วด้วยความดีใจ

     

    ‘หวังว่าเคียวยะจะชอบน่ะ’ สึนะคิด ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน แล้วกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยรอยยิ้ม…

     

    17:00 pm ,31st Dec. 11

     

    หลังจากที่สึนะไปเลือกซื้อของขวัญ ก็กลับมาที่คฤหาสน์ แล้วนำของขวัญไปเก็บไว้ที่ห้องของตน ก่อนที่จะเดินมาที่ห้องของร่างสูงทันที

    หากแต่…เมื่อมาถึงห้องของผู้พิทักษืเมฆาคนนั้น กลับพบว่าภายในห้องว่างเปล่า ปราศจากร่างของเจ้าของห้องที่ก่อนหน้านี้ยังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงาน หากแต่ตอนนี้ กลับเหลือเพียงกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่มีข้อความบางอย่างอยู่ในนั้น

     

    สึนะเดินเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาอ่าน

     

    ‘ ลายมือนี่…ของเคียวยะ…’ สึนะคิด ก่อนที่จะอ่านข้อความที่ร่างสูงทิ้งไว้

     

    ฉันมีงานต้องไปจัดการ ไปรอที่งานเลยล่ะกัน แล้วจะไปหา…

     

    ข้อความสั้นๆ ที่ทำให้หัวใจของร่างบางเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

     

    แม้ว่าจะรู้ดีว่าร่างสูงมีงานที่ต้องทำมากมาย แต่…วันนี้เป็นวันสิ้นปี ซึ่งเขาอยากที่จะใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุด แต่…ตั้งแต่เข้าจนมาถึงตอนนี้ ร่างสูงก็เอาแต่ทำงาน แล้วยังออกไปข้างนอก แล้วให้เขาไปรอ โดยที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร…

     

    ยิ่งคิดสึนะก็ยิ่งเจ็บ  หากแต่ก็ยังฝืนยิ้ม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชื่อใจคนที่ตนรัก แล้วเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปแต่งตัวและออกไปที่งานตามข้อความในจดหมาย
    .

    .

    21:00 pm ,31st Dec. 11

     

    ในตอนนี้ สึนะมาถึงที่จัตตุรัสกลางเมืองแล้ว หลังจากที่แต่งตัวแล้วออกมา อาจจะช้าไปหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะในวันสิ้นปีเช่นนี้ การจราจรย่อมติดขัด และยิ่งทุกๆคนมีจุดหมายปลายทางเป็นที่เดียวกันแล้ว ทำให้สึนะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางมายังจัตตุรัสกลางเมือง

     

    เมื่อสึนะมาถึง ก็เดินหาที่นั่งรอ ก่อนจะได้ที่นั่งเป็นเก้าอี้ตัวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในมุมๆนึงของงาน ข้างๆกับซอกตึก

     

    เมื่อได้ที่นั่งแล้ว สึนะก็ส่งเมสเสจไปบอกร่างสูงถึงตำแหน่งที่ตนอยู่ ด้วยหวังว่าบางทีร่างสูงอาจมาถึงแล้วก็เป็นได้ เพราะตนถือว่ามาช้าแล้ว

     

    หากแต่…หลังจากที่สึนะนั่งรออยู่นาน ก็ไม่ปรากฏวี่แววของร่างที่รอคอยเลยแท้แต่น้อย แม้แต่ข้อความตอบกลับก็ยังไม่มี สึนะได้แต่ปลอบใจตนเอง ว่าบางทีเขาอาจจะยุ่งอยู่

     

    ‘จ๊อก’ เสียงท้องร้องดังขึ้น สึนะเอามือกุมท้องเอาไว้ด้วยความหิว เพราะหวังว่าจะรอกินข้างเย็นพร้อมกับร่างสูง แต่จนถึงบัดนี้แล้ว ก็ยังไม่ได้กิน

     

    สึนะได้แต่นั่งรอไปเรื่อยๆ พลางมองไปบนถนน ที่มีคู่รักหลายคู่เดินเคียงข้างกันอย่างมีความสุขกับบรรยากาศงานเฉลิมฉลอง เสียงเพลงจากคอนเสิร์ตบนเวทีใหญ่ดังแว่วมาตามสายลมหนาวในยามค่ำคืน ที่ทำให้สึนะต้องห่อตัว เอามือถูแขนตนเองไปมาเพื่อคลายความหนาวเย็นของค่ำคืนในฤดูหนาว ก่อนจะพล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า

    .

    .

    23:00 pm ,31st Dec. 11

     

    ร่างบางที่เผลอหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหนาว ก่อนจะขยี้ตาเล็กน้อยเพื่อคลายความง่วง

     

    ‘นี่เราหลับไปหรอเนี่ย…’สึนะคิด ก่อนที่จะเหลือบมองนาฬิกา

     

    ‘5ทุ่ม!!’ เมื่อรู้เวลา สึนะก็รีบมองไปรอบๆตัวอย่างรวดเร็วเพื่อหวังว่าคนที่ตนรอจะมาถึงแล้ว หากแต่…กลับไม่พบแม้แต่เงา…

     

    นั่นยิ่งทำให้สึนะเจ็บปวดหัวใจมากยิ่งขึ้น จนในที่สุด หยาดน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตาตู่กลมโตอย่างห้ามไม่อยู่

     

    น้ำตาไหลออกมาเป็นสายด้วยความเสียใจ น้อยใจ และผิดหวัง

    “ฮึกๆ”        ร่างบางจมอยู่กับความเศร้าเสียใจ

    “ทำไมกัน…ไหนสัญญากันแล้วว่าจะมา…ทั้งๆที่อยากจะฉลองปีใหม่ด้วยกันแท้ๆ ทั้งๆที่อยากมีเวลาในวันปีใหม่ด้วยกันแท้ๆ อยากไปเดินเล่น กินข้าว และฉลองด้วยกัน..แต่…เพราะอะไรกัน เพราะเคียวยะไม่ได้รักเราใช่มั้ย…เพราะไม่เคยรักกันใช่มั้ย…ทั้งๆที่รอคอยวันนี้มาโดยตลอด ทั้งๆที่หวังว่าจะเป็นวันที่มีแต่ความสุข…” ร่างบางพูดความในใจออกมาอย่างหมดเปลือก ทุกสิ่งทุกอย่างที่พยายามทนเก็บเอาไว้ พรั่งพรูออกมาด้วยความเสียใจ ก่อนจะนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่คนเดียว ด้วยความโดดเดี่ยว

     

    .

    .

    .

    โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า…มีใครบางคนได้ิยนทุกสิ่งทุกอย่างที่ร่างบางพูดออกมา…

    “ฮึกๆ” สึนะนั่งกอดเข่าร้องไห้เพื่อระบายทุกสิ่งทุกอย่างออกมา โดยมีสายลมที่พัดพาความหนาวเย็นอยู่เป็นเพื่อน หากแต่…จู่ๆความหนาวเย็นกลับแทนที่ด้วยสัมผัสที่อบอุ่นและคุ้นเคย ทำให้สึนะหยุดร้องไห้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา เพื่อมองหาที่มาของสัมผัสนั้น ก่อนที่จะพบว่าเจ้าของสัมผัสนี้ คือคนที่ตนรอคอยมาทั้งคืน ก็ทำให้สึนะปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง หากแต่ คราวนี้ กลับเป็นเพราะความดีใจ ดีใจที่ร่างตรงหน้าไม่ได้ผิดสัญญาที่ให้ไว้

     

    “ขอโทษ” เสียงนุ่นทุ้มเอ่ยขอโทษเบาๆที่ข้างหูของร่างบาง ซึ่งได้แต่ส่ายหัวกับคำขอโทษนั้น เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร

     

    “ขอโทษจริงๆที่มาสาย และทำให้นายต้องรอ”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

    ก่อนจะเชยคางร่างบางขึ้นมาแล้วประทับจูบเบาๆที่ริมฝีปากเล็กที่สั่นไหวจากแรงสะอื้น

     

    สัมผัสที่แผ่วเบาและอ่อนโยน ราวกับจะปลอบประโลมให้ร่างบางหยุดร้องไห้ สัมผัสที่แผ่วเบาเหมือนล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ทำให้ร่างบางหยุดร้องไห้ได้

     

    ฮิบาริจูบคนตรงหน้าเนิ่นนาน ก่อนที่จะผละออกอย่างอ้อยอิ่งด้วยความเสียดาย

     

    “กินอะไรมารึยัง”ร่างสูงเอ่ยถามออกมา

     

    “ยัง…”เสียงเล็กตอบออกมาแผ่วเบา เหมือนกับยังเหม่อลอยกับสัมผัสเมื่อครู่

     

    “ทำไมไม่กินอะไรเลย” ร่างสูงเอ่ยเหมือนเป็นการต่อว่า ที่ร่างบางทนหิวมาตั้งแต่กลางวัน

    “ก็…อยากกินกับเคียวยะ…”ร่างบางตอบเสียงอ่อยๆ แต่กลับทำให้ร่างสูงชะงัก

     

    “งั้นหรอ…” ร่างสูงเอ่ยออกมาแผ่วเบา

     

    ความเงียบจะเข้าปกคลุมทั้งคู่อยู๋ชั่วขณะนึง ก่อนที่จะถูกทำลายไป เมื่อร่างสูงเอ่ยออกมาอีกครั้ง

     

    “งั้น…ถ้าฉันจะชวนไปกินข้างเย็นตอนนี้ จะสายไปมั้ย…”

     

    เมื่อสึนะได้ยินประโยคนี้ ก็นิ่งอึ้งไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำให้ร่างสูงต้องถามย้ำอีกครั้ง เพื่อเรียกสติ

     

    “ว่าไง…หรือไม่อยากกินกับฉัน” เมื่อสึนะได้ยินประโยคนี้ ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเองเหม่อไป จึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

    ทั้งคู่จึงเดินหาร้านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปเจอร้านอาหารญี่ปุ่น จึงเข้าไปกิน

     

    .

     

    .

     

    .

    “วันนี้ขอโทษจริงๆน่ะ ที่ปล่อยให้รอ” ฮิบาริเอ่ยขึ้น ขณะที่รออาหารอยู่ในโซนส่วนตัว

     

    “ไม่เป็นไรหรอก แค่เคียวยะมา…ก็พอแล้ว…พอแล้วจริงๆ…” สึนะเอ่ยออกมา ย้ำไปมาอย่างเลื่อนลอย เหมือนกับจะเตือนให้ตัวเองพอใจกับสิ่งที่ได้ในตอนนี้ ไม่เรียกร้องหาความรัก…ที่คงจะหาได้ยากจากคนตรงหน้า…

    “ขอมือหน่อย”ร่างสูงเอ่ยขึ้นมา

     

    สึนะงงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปให้

     

    “หลับตา”ร่างสูงสั่งอีกครั้ง ซึ่งสึนะก็ทำตามแต่โดยดี

     

    “ปุ” สึนะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาบนมือของตน จึงลืมตาขึ้นมามอง

     

    กล่องของขวัญเล็กๆห่อด้วยกระดาษสีครีมอ่อน ผูกโบสีส้ม วางอยู่บนมือของร่างบาง

     

    “นะ..นี่มัน…”สึนะเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก

     

    ‘เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง…คนตรงหน้าให้ของขวัญปีใหม่กับเขางั้นหรอ…’

     

    “ฉันให้…ไม่รู้ว่าจะชอบรึเปล่า พอดีมันไม่มีเวลาเลือก” ร่างสูงเอ่ยออกมาย้ำว่าของขวัญตรงหน้าเป็นของจริง ซึ่งนั่นทำให้สึนะดีใจมาก

     

    “คะ…เคียวยะไปซื้อมาหรอ เคียวยะไม่ใช่ต้องไปทำธุระหรอ”สึนะเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย

     

    “ก็ใช่…ตอนที่จัดการธุระเสร็จก็ 3ทุ่มกว่าแล้ว เลยรีบแวะไปซื้อ แล้วก็มานี่แหละ แต่รถดันติดกว่าที่คิดน่ะ…” ร่างสูงอธิบายออกมา แต่คำพูดเหล่านั้นแทบจะไม่ได้เข้าหูสึนะอีกแล้ว

     

    สึนะแกะกล่องของขวัญออกมาอย่างแผ่วเบาและบรรจง

     

    ก่อนจะพบกับกล่องกำมะหยีสีแดงเลือดหมูที่อยู่ภายใน

    สึนะค่อยๆเปิดกล่องกำมะหยีออก ก่อนที่จะต้องตกใจ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน…

     

    …แหวนคู่…

     

    แหวนทองคำขาวสองวงใส่อยู่ภายในกล่อง ตัวแหวนกลมเกลี้ยงดูสวยงาม บนตัวแหวนสลักข้อความบางอย่างไว้ วงนึงเป็นชื่อของสึนะ ส่วนอีกวง…เป็นชื่อของฮิบาริ…

     

    ร่างสูงเอื้อมมือมาหยิบแหวนวงที่เป็นชื่อของตนออกมาจากกล่อง ก่อนที่จะจับมือข้างขวาของร่างบางขึ้นมา และบรรจงใส่เข้าไปในนิ้วชี้อย่างเชื่องช้าและแผ่วเบา แล้วยกมือขึ้นมาสัมผัสกับริมฝีปากของตน

     

    ส่วนอีกวงซึ่งเป็นชื่อของร่างบาง ฮิบาริก็หยิบขึ้นมา แล้วสวมที่นิ้วชี้ข้างขวาของตนเช่นเดียวกัน…

     

    “ตอนนี้เอาเป็นแหวนคู่ก่อนน่ะ”ร่างสูงเอ่ยออกมาอีกครั้ง หากแต่ ตอนนี้ร่างบางก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว…ใบหน้าของสึนะขึ้นสีระเรื่อ ดวงตากลมโตเริ่มคลอเบ้าไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง

     

    ร่างสูงเห็นก็ได้แต่ถอดถอนหายใจ ก่อนจะดึงร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด



    (ตรงนี้ลืมไป 555 แต่งตอนตี 2 กว่าๆ ก็เบลอๆ ลืมไปแล้วด้วยว่าซือซื้อของขวัญให้เหมือนกัน 555 พอดีมาอ่านเม้น เลยจำได้ ก็เลยมาเพิ่ม)

     ทั้งคู่กอดกันอยู่สักพัก ก่อนที่สึนะจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็มีของขวัญให้อีกฝ่ายเช่นกัน สึนะจึงดันตัวออกจากอ้อมกอดของร่างสูงเล็กน้อย

    "เออ...ผะ....ผมก็มีของจะให้เคียวยะเหมือนกัน..." สึนะเอ่ยออกมาด้วยความเขินอายเล็กๆ แก้มยังขึ้นสีอยู่จางๆ

    สึนะหยิบกล่องของขวัญของตนออกมา ก่อนจะยื่นให้อีกฝ่าย

    ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบกล่องของขวัญมาแล้วแกะออก

    ภายในกล่อง มีถุงเครื่องรางอันเล็กๆใส่อยู่

    ถุงเครื่องรางทำมือสีน้ำตาลอ่อน การเย็บถุงอาจไม่ประณีตไปบ้าง แต่ก็ถือว่าสวยมากแล้ว ยิ่งเป็นสิ่งที่ร่างบางเย็บขึ้นมาเองทุกขั้นตอน บนหน้าถุงเขียนไว้ด้วยลายมือของร่างบาง เป็นชื่อของทั้งคู่ 

    "เครื่องราง?" ร่างสูงเอ่ยชื่อของที่อยู่ในมือเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

    "อ่า...ถ้าเคียวยะไม่ชอบ ก็ไม่ต้องเอาก็ได้น่ะ มันอาจจะไม่สวยมาก เพราะผมก็เย็บไม่เก่ง แล้วจะซื้ออย่างอื่นก็ไม่รู้จะให้อะไรดี ก็เลยเอาเป็นเครื่องราง อีกอย่างผมว่าให้เครื่องรางก็น่าจะดี เพราะเคียวยะชอบเสี่ยงอยู่เรื่อย" ร่างบางพูดออกมา ก่อนที่จะกลายเป็นบ่นอุบอิบเล็กน้อยในประโยคสุดท้าย 

    "ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่" ร่างสูงพูดก่อนจะระบายยิ้มอ่อนๆที่มุมปาก ก่อนจะเอาถุงเครื่องรางมาผูกไว้ที่มือถือของตนเอง แล้วพูดต่ออีกประโยค ที่เรียกให้ใบหน้านวลขึ้นสีอีกรอบ

    "สวยดีน่ะ..."

    ทั่วทั้งห้องในโซนส่วนตัวอบอวลไปด้วยความอบอุ่น และความสุขของคนทั้งคู่

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

     

    23:50 pm ,31st Dec. 11

     

    หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวเสร็จเรียบร้อย ก็ใกล้ที่จะได้เวลานับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่แล้ว ทั้งคู่จึงตัดสินใจเดินไปที่เวทีจัดงาน เพื่อไปนับถอยหลังกับผู้คนที่มางานในวันนี้

     

    เสียงพิธีกรบนเวทีกล่าวบอกเวลา ก่อนที่จะเริ่มการนับถอยหลัง

    .

    .

    .

    10

    .

    .

    .

     

    9

    .

    .

    .

    8

    .

    .

    .

    7

    .

    .

    .

    6

    .

    .

    .

    5

    .

    .

    .

    4

    .

    .

    .

    3

    ร่างสูงรั้งร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง

    .

    .

    .

    2

    “ฉันมีคำๆนึงที่อยากจะบอกให้รู้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยได้บอกสักที…”

    .

    .

    .

    1

    “คำที่ว่า…”

    .

    .

    .

    “ฉันรักนาย ซาวาดะ สึนะโยชิ”

     

     

    “ปุ้งๆๆๆ”

     

    เสียงพลุจุดฉลองดังกึกก้องไปทั่วงาน หากแต่…เสียงเหล่านั้นกลับไม่ได้เข้าหูของสึนะเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่สึนะได้ยิน มีเพียงคำพูดทคนตรงหน้าพูดออกมา คำพูดที่เขาหวังจะได้ยินมาโดยตลอด คำพูดที่จะบอกว่าคนตรงหน้าก็รักเขา

     

    ยังไม่ทันที่สึนะจะได้พูดอะไร ร่างสูงก็ประกบริมฝีปากลงมา มองสัมผัสที่อ่อนโยนให้แก่ร่างบาง

     

    สัมผัสที่อ่อนโยน ราวกับจะบอกว่าคำพูดที่ได้ยินก่อนหน้านี้ไม่ใช่คำโกหก สัมผัสเนิ่นนานเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้น เหมือนจะตอกย้ำให้รู้ว่าร่างบางเป็นของใคร สัมผัสที่เริ่มลุกล้ำจนสึนะทรงตัวไม่อยู่ ขาเริ่มสั่น ที่ยังยืนอยู่ได้ก็เพราะแขนของร่างสูงที่รั้งเอวเอาไว้

     

    ร่างสูงมอบสัมผัสที่แทนความรักให้แก่ร่างบางเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะประกบลงไปอีกครั้ง…และอีกครั้ง เพื่อลิ้มรสความหอมหวานของร่างบางอย่างไม่รู้เบื่อ

     

    “อือ…”ร่างบางเริ่มประท้วงในลำคอ เพราะหายใจไม่ทัน ทำให้ร่างสูงจำต้องผละออกจากริมฝีปากนุ่มอย่างช่วยไม่ได้

     

    ใบหน้าของร่างบางแดงก่ำด้วยความเขินอาย สึนะก้มหน้างุดๆ ซุกกับอกของคนตรงหน้า

     

    อาการของสึนะเรียกรอยยิ้มจากคนเย็นชา รอยยิ้มที่อ่อนโยน จนไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างฮิบาริ เคียวยะจะมีได้

    .

    .

    .

    สึนะพล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ส่งผลให้ร่างสูงต้องอุ้มสึนะเพื่อที่จะพากลับคฤหาสน์

     

    สึนะซุกตัวเข้าหาตัวร่างสูงเพื่อหาความอบอุ่น ทำให้ร่างสูงที่มองการกระทำนั้น อดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงที่พวงแก้มที่ยังขึ้นสีจางๆ ก่อนจะกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของร่างบางอย่างแผ่วเบา ที่ร่างบางไม่ได้ยิน หากแต่รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของร่างเล็ก ก็บ่งบอกได้ว่า แม้จะไม่ได้ยิน…แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ร่างสูงมอบให้…

     

    ร่างสูงเดินไปที่รถ ก่อนจะออกรถ เพื่อกลับไปยังคฤหาสน์

     

    เหลือทิ้งไว้เพียวความทรงจำที่สวยงามในวันขึ้นปีใหม่ ที่จะคงอยู่ในใจของทั้งคู่

     

    และคำพูดสุดท้ายของร่างสูงที่ลอยมาตามสายลม

    .

    .

    .

    .

    .

    ……….My Heart give to you,My Sky……..


    [約束の場所]

    ふくい舞

     

    たとえばあなたが 今

    此処にいたとしたら 何を伝えるでしょう?

     

    言葉もないまま きっと

    その胸に頬寄せ 涙零すだけね

     

    もう一度 抱きあえたら

    二度と離れぬよう

    強く 結び合うの

    それが 希望の光

    きっと

     

    愛よ どうか連れていって

    約束の場所へ

    繋ぎあえた 想いは永遠だから

    愛を呼んで この腕に

    抱きしめあえるなら

    どんな未来も 恐れないで迎えにゆける

    瞳を見つめ答えよう

    あなたのそばにいる

     

    (静かに 心が言った

    私はここにいて あなたを愛してる

     

    離れていたって ずっと

    変わらぬこの想い あなたに届けよう

     

    もうなにも 怖くないよ

    どんな暗闇でも

    照らす この光は

    いつか あなたの許へ

    きっと)

     

    時が すべてを癒す

    それをただ待つより

    今は 歩き出そう

    風が 指差す場所で

    明日が待ってる きっと

     

    愛よ どうか連れていって

    約束の場所へ

    ただ、うなずき

    抱きしめあえるその日へ

     

    愛よ どうか連れていって

    約束の場所へ

    そこへゆくよ 誓いは永遠だから

    愛を呼んで この腕に

    抱きしめあえるなら

    どんな痛みも 越えてみせる微笑みながら

    光は二度と失くさない

     

    かならずそこへゆく

     

    .

     

    [Yakusoku no Basho]

    Fukui Mai

     

    tatoeba anata ga ima

    koko ni ita to shitara nani wo tsutaeru deshou?

     

    kotoba mo nai mama kitto

    sono mune ni hoho yose namida kobosu dake ne

     

    mou ichido daki aetara

    nido to hanarenu you

    tsuyoku musubiau no

    sore ga kibou no hikari

    kitto

     

    ai yo douka tsureteitte

    yakusoku no basho he

    tsunagi aeta omoi ha eien dakara

    ai wo yonde kono ude ni

    dakishimeaeru nara

    donna mirai mo osorenai de mukae ni yukeru

    hitomi wo mitsume kotaeyou

    anata no soba ni iru

     

    (shizuka ni kokoro ga itta

    watashi ha koko ni ite anata wo aishiteru

     

    hanareteitatte zutto

    kawaranu kono omoi anata ni todokeyou

     

    mou nani mo kowakunai yo

    donna kurayami demo

    terasu kono hikari ha

    itsuka anata no moto he

    kitto)

     

    toki ga subete wo iyasu

    sore wo tada matsu yori

    ima ha aruki dasou

    kaze ga yubisasu basho de

    ashita ga matteru kitto

     

    ai yo douka tsureteitte

    yakusoku no basho he

    tada unazuki

    dakishimeaeru sono hi he

     

    ai yo douka tsureteitte

    yakusoku no basho he

    soko he yuku yo chigai ha eien dakara

    ai wo yonde kono ude ni

    dakishimeaeru nara

    donna itami mo koetemiseru hohoemi nagara

    hikari ha nido to ushinakusanai

     

    kanarazu soko he yuku

     

    .

     

    [สถานที่แห่งคำสัญญา]

    ฟุคุอิ ไม

     

    ถ้าหากสมมติว่า ในตอนนี้

    คุณอยู่ ณ ที่แห่งนี้แล้วละก็ คุณจะบอกอะไรกับฉันกันนะ?

     

    ฉันคงจะไม่มีคำพูดใดๆ

    เพียงแค่ซบแก้มลงบนอกของคุณ แล้วปล่อยให้น้ำตามันรินไหลไปเท่านั้น

     

    หากได้โอบกอดกันอีกครั้ง

    คราวนี้จะกอดไว้ให้แน่นๆ

    เพื่อที่เราจะได้ไม่พรากจากกันอีก

    นั่นมันคงจะเป็นแสงแห่งความหวัง

    อย่างแน่นอน

     

    ความรักเอย ได้โปรดพาฉันไปที

    ไปยังสถานที่แห่งคำสัญญาของเรา

    เพราะความทรงจำที่เราเคยได้ผูกพันธ์กันนั้น มันเป็นนิรันดร์

    หากได้ร่ำร้องเรียกหาความรัก

    และได้โอบกอดกันไว้ด้วยวงแขนคู่นี้ล่ะก็

    ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ฉันก็จะสามารถยอมรับมันได้โดยไม่หวาดหวั่น

    ฉันจะจ้องมองนัยน์ตาของคุณแล้วเอื้อนเอ่ยคำตอบออกมา

    ว่าฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ

     

    (หัวใจมันพร่ำบอก อย่างเงียบเชียบ

    ว่าฉันอยู่ที่ตรงนี้ ยังคงรักคุณเสมอมา

     

    ถึงแม้เราจะพลัดพรากจากกัน

    แต่ความคำนึงที่ไม่เคยแปรผันไปนั้น ฉันจะส่งมันไปถึงคุณ

     

    ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัวอีกแล้ว

    แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเพียงใด

    แต่แสงที่ส่องสว่างนี้

    สักวัน มันจะนำทางไปหาคุณ

    อย่างแน่นอน)

     

     

    กาลเวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งอย่าง

    แต่แทนที่จะมัวรอให้เป็นเช่นนั้น

    ในตอนนี้ ฉันจะเริ่มก้าวเดินออกไป

    ไปยังสถานที่ที่สายลมชี้นำไป

    แล้ววันพรุ่งนี้ก็คงจะรอคอยเราอยู่ อย่างแน่นอน

     

    ความรักเอย ได้โปรดพาฉันไปที

    ไปยังสถานที่แห่งคำสัญญาของเรา

    ขอเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

    แล้วเราจะไปยังวันคืนที่สามารถโอบกอดกันได้

     

    ความรักเอย ได้โปรดพาฉันไปที

    ไปยังสถานที่แห่งคำสัญญาของเรา

    ฉันจะไปยังที่แห่งนั้น เพราะคำสาบานของเรามันเป็นนิรันดร์

    หากได้ร่ำร้องเรียกหาความรัก

    และได้โอบกอดกันไว้ด้วยวงแขนคู่นี้ล่ะก็

    ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใด ฉันก็จะก้าวผ่านมันไปด้วยรอยยิ้ม

    จะไม่ยอมให้แสงสว่างนี้จางหายไปอีก

    และจะไปยังที่แห่งนั้นให้ได้แน่นอน






     
              Talk สักนิด          





    HAPPY NEW YEAR 2012!! 
    ปีใหม่นี้ขอให้มีแต่ความสุขน่ะ ^o^


    ฟิคนี้เป็นผิคพิเศษที่แต่งขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้รีดเดอร์น่ะค่ะ ^^ ตอนจะแต่งแอบคิดหนัก เพราะปีที่แล้วก็แต่งฟิคปีใหม่เช่นกัน...แต่ว่าพอแต่งไปได้ครึ่งเรื่อง เพื่อนโทรมาคุย คุยไปคุยมา ตี 1 กว่าๆ ก็แต่งไม่เสร็จ เลยไปนอน พอหลังจากนั้น...ก็อย่างที่รู้...คอมก็จากไปอย่างสงบ =w= พร้อมพาข้อมูลไปด้วย...

    มาปีนี้ ก็เลยมานั่งแต่งอีกครั้ง...คราวนี้ราบรื่น >//< แต่...ปหกขี้ตาแต่ง 555+ นั่งแต่งไป สไกป์ไป เฟสไป ดูทีวี ฟังเพลง บลาๆ กว่าจะแต่งจบ เกือบตี 3 ง่วงมากๆ แต่ก็อยากให้จบไปเลย กันการอู้ 555+ แล้วก็เสร็จจนได้ 

    ปล.เป็นครั้งแรกที่แต่งนิยายได้เยอะขนาดนี้ในวันเดียว =w=(บ่งบอกมากว่าอู้แค่ไหน) แบบว่าแต่งมาราธอนมาก

    ปลล.ไว้มาต่อ Blood III น่ะ ^^ ขอนอนก่อน

    ปลลล.ฟิคนี้แต่งตามความชอบส่วนตัว ตอนแรกกะมี NC แต่คิดอีกที เอาใสๆ น่ารักๆดีกว่า =w=

    สุดท้าย...เม้นเป็นกำลังใจมากน้า~








    ก่อนไป ฝากนิดน่ะ ^^

    มี Theme การ์ตูน ธรรมดา บลาๆ ไปดูกันได้


     



    สุดท้าย เรากะจะเปิดบทความใหม่ รับทำพวก Ava Banner Post Label พวกเนี้ย แต่กลัวเปิดแล้วไม่มีคนทำ =0= เลยอยากถามว่าจะเปิดดีมั้ย

    อันนี้ตัวอย่าง เอามาให้ดูอย่างละแบบ



    Avatar
     

    Poster


     Banner
     

    Label
          

     

     


    โพล128271
    ขอให้ออกความเห็นแบบตรงไปตรงมาเลยน่ะค่ะ เราจะได้ไปตัดสินใจได้ถูก





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×