ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ANATHEMA - HIGHLIGHT

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTHER EIGHT :: คนที่ไม่สมควรรัก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 177
      13
      6 ก.ค. 61

    EIGHT :: คนที่ไม่สมควรรัก











              จุนฮยองยืนล้างจานที่เพิ่งกินผลไม้มื้อดึกหมด คนตัวสูงรูปร่างหนาขึ้นมานิดหน่อยฮัมเพลงตามที่กำลังฟังจากอุปกรณ์บลูทูธที่เสียบอยู่ที่หู เพลงภาษาเกาหลีสไตล์ฮิปฮอป แน่นอนว่านี่คือเพลงในอัลบัมแรกของเขา ถึงกีกวังจะบอกว่าโมสาร์ทดีกับลูกในท้องมากกว่าเพลงฮิปฮอปแต่ยงจุนฮยองอยากให้ลูกฟังเพลงของเขานี่นา ไม่ต้องฉลาดมาก แต่เป็นคนดีก็พอแล้ว


    "เพลงป๊าเพราะจะตายเนอะลูกเนอะ"เขาพึมพำพลางหลุบตามองที่หน้าท้องของตัวเอง ใบหน้าขาวระบายมุมปากอย่างชอบใจ

    "อารมณ์ดีเชียวนะ"เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูอีกฝั่งที่ไม่ได้ใส่หูฟังจุนฮยองสะดุ้งตัวหลบก็ถูกวงแขนแกร่งกักไว้ตรงฝั่งที่เอียงตัวไป ใบหน้าคมคายมอบรอยยิ้มละมุน 

    "ถอยไป"เขาบอกเสียงเรียบ เขาพยายามควบคุมตัวเองให้สีหน้าปกติที่สุดแม้ในใจจะกำลังหวั่นกลัว ..กลัวว่าดูจุนจะได้ยินที่เขาพูด 

    "คุยกับใครอ่ะ ฮยอนอาหรอ"ดวงตาคมมองมาอย่างล้อๆ ทว่าไม่ได้ถอยตัวห่างออกไป 

    "ระ เรื่องของฉัน แล้วมาทำไมดึกดึ่น"เปลี่ยนเรื่องคุยพลางขยับตัวหนีอีกรอบ ดูจุนที่รู้สึกแล้วว่าอีกคนอึดอัดยิ้มบางแล้วถอยออกไปพิงเค้าเตอร์ตรงใกล้ๆ

    "หิวอ่ะ เลยมาหาไรกิน"จุนฮยองขมวดคิ้วในทันที ..นี่ห้องเขาเหมือนตู้เย็นหรือซุปเปอร์มาเก็ต?

    "แล้วมานี่?"ทวนคำและความคิดตัวเองไปด้วย ฝ่ายนั้นยิ้มกว้าง

    "ก็ไม่อยากไปข้างนอก มันหนาวอ่ะ ที่ห้องนายมีอะไรให้ฉันยืมกินก่อนได้มั่งไหม"พูดพลางหันตัวไปทางตู้เย็นจุนฮยองมองเอือมๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งรอคนที่บุกรุกตรงโซฟานอกครัว






                  ดูจุนถือถ้วยใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใส่น้ำร้อนพร้อมกินเดินออกมาหาคนเห็นเจ้าของห้อง ดวงตาคมมองไปที่ใบหน้าใสที่หลับไปแล้ว เขาวางของในมือลงตรงเหนือตู้รองเท้า ก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดเรียกอีกฝ่าย

    "นี่..."จับแขนนนุ่มเขย่าเบาๆ จุนฮยองยู่หน้านิดหน่อยแล้วไม่ยอมตื่น

    "จุนฮยอง.."เรียกชื่ออีกคนซ้ำ ก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้กว่าเก่าและอีกคนก็ไม่ยอมตื่น ทำเพียงขดตัวเข้ากันกันเหมือนบอกให้รู้ว่ากำลังหนาว

    "หนาวก็ไปนอนในห้องดิ แล้วก็ลุกมาล็อคประตูด้วย"เขาบ่นพลางมองคนที่หลับอย่างขัดใจ ทั้งที่แต่ก่อนก็ไม่ใช่คนขี้เซาอะไร ทำไมเดี๋ยวนี้ปลุกยากจังนะ

    ""จุนฮยอง ยงจุนฮยอง"เขย่าแรงๆ อีกทีจนคนถูกปลุกต้องหยีตาขึ้นมามอง แววตาใสตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครทำให้ตื่น

    "ดูจุน!"เรียกเขาในลำคอ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงนึกขำท่าทางนั่น ทั้งที่เขาอยู่ในครัวไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น แต่จุนฮยองกลับทำเหมือนว่าจำไม่ได้ว่าเขาเข้ามาในห้องนี่

    "ตกใจอะไรขนาดนั้น ฉันจะบอกว่าขอบใจสำหรับบะหมี่ แล้วก็ลุกไปนอนข้างในได้แล้ว เดี๋ยวจะล็อคห้องให้"น้ำเสียงอ่อนนุ่ม แววตาละมุนที่มองมาทำให้อดใจสั่นไม่ได้ ถึงเขาจะเห็นว่ามีบางอย่างในแววตานั้นก็ตามที

    "อือ อื้อ"นับทำตะกุกะกัก ร่างโปร่งลุกขึ้นเต็มความสูง มองแผ่นหลังกว้างที่ยังคงหลงรักอยู่เสมอเดินห่างออกไป ในหัวมันสับสนกับท่าทางที่มาดีด้วยตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา




    'แววตานั้นมันไม่จริงใจเลย เขามองออก'














    "บะหมี่รสโปรดที่ฉันซื้อไว้หายไปไหนอันนึง คุณแม่กินไปหรอ"สาวสวยในชุดเดรสเข้ารูปลายตรงสีขาวดำถือถุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปห่อใหญ่เดินออกมาถามหน้าเครียด เธอไม่ได้หวงของกินเพื่อนแต่ว่ากีกวังห้ามไม่ให้จุนฮยองกินอะไรแบบนี้

    "เปล่า"ตอบสั้นๆ พลางสไลด์มือถือดูชุดเด็ก วันก่อนที่ไปตรงจร่างกายอย่างละเอียด คุณหมอกีกวังบอกว่าเขาได้ลูกสาว

    "แล้วหายไปไหน มีแมวขโมย?"ใบหน้าสะสวยงอง้ำ จ้องหน้าจะเอาคำตอบให้ได้ ทว่าคนถูกถามได้สนใจเธอเสียที่ไหน เขาเลื่อนนิ้วดูแบบไปเรื่อย 

    "ไม่ใช่แมว ..ดูจุน"ว่าสั้นๆ แต่คนฟังถึงกับถลึงตาใส่ ถึงจะรู้มาบ้างว่าดูจุนมาเข้านอกออกใน แต่ก็ไม่เคยได้ยินจากปากจุนฮยองสักครั้ง แถมคนพูดยังทำท่าไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเสียอีกด้วย

    "อะไรยังไง นายหยิบของของฉันไปให้เขาหรอ"ไม่ใช่ไม่พอใจแต่งงมากกว่าที่จุนฮยองที่ดูเหมือนจะไม่กล้ายุ่งกับของของคนอื่นเท่าไหร่กล้าหยิบของของเธอไปให้ฝ่ายนั้น..บางอย่างถ้าไม่ได้บอกว่าซื้อมาให้กินก็ไม่กล้าจับเลยด้วยซ้ำ

    "เปล่า เขาหยิบเอง"ยิ่งประโยคนี้ยิ่งทำให้ทั้งงงหนักทั้งตกใจ ฮยอนอานั่งลงข้างๆ ดึงแขนเขาให้หันมาสนใจเธอจริงๆ จังๆ

    "คืออะไร ..นี่นายให้เขาเข้ามาค้นของ หยิบของในห้องได้ง่ายๆ เลยหรอ"จุนฮยองพยักหน้านิดนึงไม่เข้าใจว่าทำไมฮยอนอาถึงได้ดูซีเรียสแบบนี้

    "จุนฮยอง! นายต้องระวังตัวกว่านี้!"เหมือนอ่านสีหน้านั้นออกในทันที ริมฝีปากสีแดงสดเม้มเข้าหากัน เธอคิดอยู่ว่าจะพูดอธิบายยังไงดีถึงจะทำให้จุนฮยองเข้าใจ

    "ฉันก็ระวังอยู่"บอกเสียงเรียบ เพื่อนสาวคนสวยถอนหายใจ นึกกังวลความเชื่อคนง่ายของเพื่อน แต่พอคิดอีกทีจุนฮยองก็อาจจะแค่ไม่อยากจะระแวงมาก เพราะจะยิ่งผ

    ทำให้เครียดไปมากกว่าเก่า

    "ระวังก็ดีแล้ว ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายคนนั้นเขาดีกับนายหรือเปล่า..แต่อย่าลืมว่าเขาเคยเกลียดนาย เคยทำลายนาย ฉันไม่อยากให้นายต้องเจ็บอีก"ไม่ใช่แต่เพราะรู้สึกผิด แต่คิมฮยอนอาเป็นห่วงเป็นใบคนตรงหน้าด้วยความจริงใจ จุนฮยองเป็นเพียงคนที่รักแล้วไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไป ไม่มีคนช่วยคิดเพราะต้องใช้ชีวิตคนเดียว

    "ฉันรู้น่า.."ทำเสียงติดรำคาญนิดๆ ให้คนเตือนแอบน้อยใจ ทั้งที่ในใจเขาเก็บทุกคำพูดของเพื่อนมารู้สึกทั้งหมด ..ทำไมจะไม่รู้ว่าดูจุนอาจจะไม่ได้จริงใจแบบรอยยิ้มที่แกล้งมอบให้

    "รู้ก็ดี ..ไหนดูชุดหน่อยสิว่าจะเอาแบบไหน"เธอเปลี่ยนเรื่องพูดพลางดึงมือหนาของอีกคนมาดูหน้าจอมือถือด้วยกัน จุนฮยองมองเจ้าหล่อนที่เมื่อครู่ยังโวยวายเรื่องบะหมี่แล้วตอนนี้มาดูชุดเด็กเลยได้แต่อมยิ้มขำๆ



    'น่ารักดี'








                   เสียงเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะเปิดเข้ามาเรียกความสนใจจากหน้าจอไปได้แทบในทันที ในหัวฉุกคิดได้ว่าเวลานี้ไม่น่าจะมีใครมาแล้วเพราะก็ดึกมากพอควร 

    "รบกวนเวลาสวีทหรือเปล่า"น้ำเสียงนุ่มร้องถามจากตรงประตูห้อง ใบหน้าคมคายระบายยิ้มจางมองมาที่เขาทั้งคู่ที่นั่งจนตัวชิดกัน มีมือของฮยอนอาจับข้อมือของร่างโปร่งไว้

    "สวีท? อ้อ ไม่หรอกค่ะ ปกติสวีทกว่านี้"หญิงสาวตอบและยิ้มร้ายกาจ จุนฮยองมองเสี้ยวหน้าสวยงามนั่นอึ้งๆ ก่อนจะหันไปมองตาดูจุนที่ยืนตรงประตูห้อง

    "มี..มีไรหรือเปล่า"ฝ่ายนั้นมองเขาพลางหันไปยิ้มให้คนพูด ใบหน้าหล่อเหลาก้าวเข้าไปข้างในอย่างคุ้นชิน

    "เอาชามมาคืน"ยื่นชามใบใหญ่ที่เอาไปเมื่อวานมาให้ดู จุนฮยองลุกขึ้นจะรับฝ่ายนั้นชักมือหนี

    "เดี๋ยวฉันไปเก็บให้ดีกว่า แค่นี้ก็รบกวนจะแย่"เขาพูดแล้วมองด้วยสายตาที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ฮยอนอามองตามแผ่นหลังกว้างแล้วหงุดหงิดขึ้นมา ใบหน้าขาวหันมามองเขาอย่างไม่ชอบใจนัก

    "เดินเข้าเดินออกอย่างกับห้องตัวเอง .."บ่นต่อก่อนจะเหลือบมาเห็นว่าเพื่อนมองตามคนที่ว่าตาละห้อย สาวเจ้าคันหัวใจยิบๆ อยากจะทุบคนที่ท้องอยู่ให้น่วมนัก 

    "ที่เขาทำให้เจ็บ นี่จำไม่ได้เลย?"ถามเสียงเบาเพราะกลัวอีกคนที่อยู่ในห้องด้วยจะได้ยิน ตรงส่วนครัวมันมีแค่โต๊ะกั้นแค่นั้น

    "ฮยอนอา..."เถียงไม่ออกเลยได้แต่ร้องชื่ออีกคนอย่างอ่อนใจ ไอ้ตอนร่ายมนต์ก็น่าจะรู้ป่ะว่าเขาต้องรักคู่นอนคนนั้นจริงๆ ถึงจะท้องได้


    'นี่ไง! ได้ลูกสาวในท้อง'






    "รักเขามากอะดิ"หญิงสาวว่า พลางใช้ปลายนิ้วจิ้มจมูกเพื่อนอย่างหมั่นเขี้ยว จุนฮยองยิ้มจางมองใบหน้าสะสวยนั้นอย่างเอ็นดู เขาจับแก้มเนียนบีบเบาๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นอีกคนที่เกือบลืมไปแล้วว่ายังไม่ได้ออกไป ยืนมองทั้งสองคนนิ่งอยู่

    "หือ..?"ฮยอนอาเลิกคิ้วแล้วหันไปมองตามสายตาของร่างโปร่ง เธอเลิกคิ้วนิดนึงก่อนจะแกล้งแหย่คนทั้งคู่ต่อ

    "คุณดูจุนจะไปแล้วใช่ไหมคะ งั้นล็อคห้องให้ด้วยนะคะ วันนี้ฉันนอนกับจุนฮยองไม่ได้ออกไปแล้วล่ะ"ยิ้มกว้างราวกับว่าไม่ได้คิดอะไรตอนที่พูด ราวกับว่าเธอเพียงแค่ใสซื่อไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครหงุดหงิด 

    "หึ! ...ได้สิครับ"ดูจุนกดเสียงเข้มขึ้นก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมกดล็อคประตูให้ ฮยอนอาลุกตามหลังไปใส่โซ่ คล้องประตูก่อนจะหันมายิ้มร้ายใส่เขาที่มองเธออยู่

    "เล่นอะไร?"ถามเพราะเห็นสีหน้าที่แสนสะใจนั่นแล้วรู้สึกแปลกๆ เพื่อนสาวไหวไหล่แล้วเดินกลับมาอย่างมั่นใจ

    "แกล้งสุดที่รักของนายไง"ท่าทางขำขันนั่นทำให้จุนฮยองเซ็งขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไอดอลหนุ่มเบ้ปากใส่เธอ

    "มันไม่มีประโยชน์หรอกน่า ยังไงดูจุนก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก"ทำไมตอนจะพูดมันไม่เจ็บเท่าตอนที่พูดออกมาแล้ววะ ฮยอนอาเดินเข้ามาหา เธอวางมือบนไหล่ของเพื่อนเชิงปลอบใจ

    "อย่าเศร้าดิ"

    "เฮ้ย..ไม่เศร้าแล้ว ฉันไม่เศร้าตั้งแต่ปล่อยให้เขาไปจากฉันวันนั้นแล้ว"ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ในใจรู้ดีว่าความรู้สึกของตัวเองเป็นยังไง  ถึงระยะเวลาช่วงสามเดือนก่อนนี้ที่ไม่ได้เจอกันมันจะช้ำลดลงไปแล้ว แต่การกลับมาเจอ การที่ถูกทำทั้งดีและไม่ดีด้วยทุกครั้งมันย้ำให้จุนฮยองเองรู้อยู่เสมอว่าดูจุนจะเป็นคนที่เขาไม่สามารถเลิกรักได้เลย

    "จ้า ไม่เศร้าก็ดีแล้ว ฉันไปอาบน้ำแล้วนะ แล้วนายก็ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะไปนอนด้วยนะคุณแม่ขา"ไม่รู้ว่าฮยอนอามองเห็นแววตาเจ็บปวดหรือเป็นเพราะแต่ต้องการให้ทำแบบที่พูดเลยตัดบทไปแบบนี้ ชายหนุ่มยิ้มจางแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีเธอเดินตามไม่ห่าง







    .

    ..



    "นี่ฮยอนอา..."

    "หือ?"หญิงสาวที่ยืนถอดต่างหูอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งหันมาขาน ใบหน้าขาวของคนเรียกดูกังวล

    "ฉันมีโอกาสจะแท้งไหม"รู้ว่าไม่ใช่คำถามที่ควรนัก แต่เขาก็แค่กังวล อาทิตย์ก่อนที่มีอะไรกับดูจุนก็กลัวแทบตายว่าลูกจะกระทบกระเทือน ถ้าต่อไปเขาซุ่มซ่ามหกล้ม หรือทำงานบ้านหนักเกินไปมันจะเป็นอันตรายหรือเปล่าล่ะ

    "ไม่น่านะ ไม่เคยมีอะ"สาวเจ้าบอกพลางรวบผมขึ้นไปมัดลวกๆ 

    "ดีสิเนี่ย"ได้ฟังแบบนี้ค่อยยิ้มออกหน่อย แต่แว๊บนึงที่จุนฮยองเห็นว่าแววตาของเพื่อนมีแววกังวลใจ

    "ไปอาบน้ำละนะ รีบนอนเลยค่ะคุณแม่ พรุ่งนี้มีถ่ายแบบกับนางแบบซุปตาร์นะคะ"เธอพูดอย่างอารมณ์ดีและทำให้เขาได้ยิ้มตาม 

    "จ้า แม่ซุปตาร์!!"








    .

    ..





                  ฮยอนซึงมารับพวกเขาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพราะมีนัดถ่ายแบบและต้องถึงกองถ่ายก่อนเวลาแปดโมงครึ่ง แน่นอนที่มนุษย์ผู้รักษาเรื่องเวลางานอย่างจุนฮยองจะรีบลุกมารอผู้จัดการส่วนตัวที่มารับเขาตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลานัด


    "แล้วทาง PD ไม่ได้ว่าไรใช่ไหมครับ"ถามไปถึงเจ้าของบริษัทที่รักเสมือนพี่ชาย รายนั้นเองก็รู้ว่าเขาเป็นอะไรและช็อกไปหลายชั่วโมงกว่าจะตั้งสติและช่วยแก้ปัญหาหาทางออกให้

    "ไม่หรอก ว่าดีด้วยเถอะ คนจะได้ไม่ลืมนาย"คนพี่ว่า พลางหิ้วกระเป๋าเป้ของจุนฮยองขึ้นหลัง ฮยอนอาในชุดแม็กซี่เดรสทรงหลวม ใบหน้าไร้เครื่องสำอาง ผมเผ้ายุ่งเหยิงเดินหาวหวอดๆ ตามหลังมา เจ้าหล่อนที่ง่วงมากอยู่ไม่ได้พูดอะไร

    "มาเร็วยายเห็ด"จุนฮยองคว้าไหล่หญิงสาวมาโอบไว้อย่างสนิทสนม สาวเจ้าซบหัวบนไหล่เพื่อนอย่างงัวเงีย

    "ไปไหนกันแต่เช้าคะ"เสียงหวานร้องทักเมื่อเดินมาเจอกันตรงประตูทางออกตึก จุนฮยองมองเจ้าหล่อนแล้วยิ้มจาง และเมื่อไม่เห็นว่ามีใครตอบเขาเลยเป็นคนพูด

    "ทำงานหนะครับ"ว่าอย่างสุภาพเพราะถึงอย่างไรคนตรงหน้าก็น่ารักแสนดีกับเขา

    "อ๋อค่ะ ว่าแต่พี่กับพี่ฮยอนอา..."จีอึนมองแล้วอมยิ้มน้อยๆ จุนฮยองส่งยิ้มกลับและไม่คิดอธิบายใดๆ การปล่อยให้คิดว่าเขาสองคนคบหากันแบบนั้นน่าจะดีกับทุกฝ่ายและฮยอนอาเองก็เห็นด้วยกับแบบนั้น

    "พี่ไปเอารถมารับนะ รอตรงนี้แหละ ขอตัวนะครับคุณจีอึน"ฮยองซึงหันไปพูดกับแฟนเพื่อนอย่างสุภาพ คนเดิมพยักหน้ารับ

    "ทำงานตั้งแต่เช้าเลยนะคะ อ๊ะ! พี่ดูจุน!"เธอที่กำลังจะชวนพวกเขาคุยต่อเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดลำลองเดินออกจากลิฟต์มา หญิงสาวยิ้มกว้างเดินอ้อมไปหาคนที่ว่าในทันที จุนฮยองยืนนิ่งไม่หันไป มีแต่ฮยอนอาที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเบือนหน้าไปมองฝ่ายนั้นที่กำลังจ้องกลับ

    "ฉันซื้ออาหารเช้ามาฝาก พี่จะไปทำงานเร็วจังวันนี้"เธอว่าเสียงใส ดูจถนระบายยิ้มให้จางๆ นึกรำคาญหน่อยๆ ที่จีอึนชอบถามวุ่นวาย

    "พี่นัดกองไว้เช้าหนะ ไปนะ"เขารีบตัดบทก่อนจะเดินหลบไปทางที่จอดรถ ฮยอนอากระตุกมือจุนฮยองเบาๆ เตือนให้รู้ว่าคนที่ว่าไปแล้ว และพอดีกับที่ฮยอนซึงขับรถมาจอดรับพวกเขาพอดิบพอดี







                    สตูดิโอถ่ายแบบถูกเซทไว้ด้วยพรอบสไตล์ฮิปฮอป เสื้อผ้าและเครื่องประดับถูกเตรียมไว้หลายต่อหลายชุดเพื่อให้เหมาะกับงานนี้ จุนฮยองตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะทีมงานแทบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ถึงภาษาของเขาจะอยู่ในขั้นดีแต่ก็กลัวว่าจะทำให้สื่อสารลำบากเช่นเดิม

    "สี่ชุดแรกจะถ่ายในสตู อีกสองชุดเป็นข้างนอกนะ"ฮยอนซึงบรีพสั้นๆ พลางดึงราวเสื้อผ้ามาให้เขา ถึงจะน้ำหนักขึ้นมาสามสี่โลแต่ไซซ์เสื้อผ้ายังคงเป็นอันเดิม ยิ่งสไตล์นี้จะเน้นเสื้อตัวโต ไม่ได้เน้นรูปร่างมากนัก ถึงจะเข้ารูปบ้างก็มีเสื้อคลุมอยู่ดีเลยไม่ได้ทำให้น่ากังวลอะไร

    "เขาว่าตากล้องเป็นคนเกาหลีนะ"ฮยอนอาที่เพิ่งเดินออกมาจากเต๊นท์แต่งตัวพูดเสียงเรียบ สาวเจ้าที่แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยและสวมชุดเซทแรกแล้วส่องกระจกซ้ำ พลางมีช่างแต่หน้าเข้ามาเก็บรายละเอียดให้

    "หรอ..งี้ก็ง่ายดิ"จุนฮยองพูดอย่างคลายกังวล เขาหยิบน้ำส้มคั้นสดที่ตื่นมาคั้นเองเมื่อเช้าขึ้นมาจิบ หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปถ่ายเดี่ยวในเซทแรกก่อน



                   จุนฮยองถูกทีมงานมาตามหลังจากผ่านไปราวสิบห้านาที ขาเรียวลุกขึ้นจัดเสื้อแจ็กเก็สสีขาวลายกราฟฟิคสีดำให้เข้าที่ แม้กางเกงยีนสีดำขากระบอกเล็กแทบจะเดฟจะดูไม่ได้น่าอึดอัด แต่ตัวคนสวมกลับรู้สึกว่ามันออกจะรัดตรงหน้าห้องไปนิด

    "กางเกงมันอึดอัดหรอ"ทีมงานคนที่มาตามถามด้วยภาษาอังกฤษ จุนฮยองยิ้มรับนิดนึงก่อนจะบอกไปว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเดินตามคนที่ว่ามาจนถึงบริเวณหลังกล้อง ไม่ได้สังเกตว่าฮยอนซึงกำลังมองมาที่เขาอย่างกังวล และไม่ได้สังเกตแผ่นหลังของจากล้องว่าเป็นคนที่คุ้นเคยดี

    "มาแล้วค่ะ"ทีมงานคนที่พามาร้องบอก ฮยอนอาถ่ายโพสสุดท้ายก่อนรีบสาวเท้าออกมาจากเซทนั้น หญิงสาวเดินตรงมาหาเขา แววตาห่วงใยแต่ไม่ทีนได้สงสัยจุนฮยองก็เข้าใจได้ในทันที

    "โลกกลมมากเลย"เสียงทุ้มของร่างสูงคนที่เขาทำไม่สนเมื่อเช้าร้องทัก 

    "...ดูจุน.."




                   ในงานเขากับตากล้องที่เคยรู้จักกันเข้าขากันได้ดี ทุกโพสที่ถูกวางให้ร่างโปร่งสามารถทำตามที่ต้องการได้ทั้งหมด ใช้เวลาไม่นาน ฮยอนอาก็ถูดเรียกเข้าไปร่วมเฟรมเพื่อถ่ายคู่กัน 

    "ขอแบบคู่รัก"เจ้าของน้ำเสียงนุ่มบอกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์กับคอนเซปคู่

    "จูบงี้หรอคะ"ตั้งใจจะกวนและนั่นได้ผล ดูจุนดูหงุดหงิดมากขึ้นทันที

    "ฮยอนอา..."จุนฮยองปราม สาวสวยยู่หน้าใส่ ก่อนเริ่มโพสท่าที่ตากล้องของหล่อนต้องการ การทำงานผ่านไปจนถึงเวลาพักเที่ยง อาหารในกองถ่ายเป็นอาหารฟาสฟู๊ดยี่ห้อดังที่จุนฮยองถูปสั่งห้ามไม่ให้กินโดยเด็ดขาด ทว่าในตอนนี้มนุษย์แม่ผู้เหนื่อยล้าและหิวโหยต้องการอาหารอย่างมากและตรงนี้ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากมัน

    "กีกวังไม่ให้กินไง"ฮยอนอาว่าพลางดึงห่อแฮมเบอเกอร์ออกจากมือเขา จุนฮยองรู้สึกเฟลจนอยากร้องไห้ หิวก็หิวแต่อาหารก็มีแต่ที่กินไม่ได้...อะไรวะแม่ง

    "พี่สั่งสปาเกตตี้กับสลัดผักมาให้แล้ว อีกสิบห้านาทีมาถึง"ฮยอนซึงเงยหน้าจากจอมาบอก เขาอยากตะโกนใส่สองคนตรงนั้นว่าเขาไม่ได้อยากกินในอีก 15นาทีข้างหน้า เขาอยากกินตอนนี้!

    "หิว"เลือกจะไม่โวยวายและบ่นเบาๆ กับตัวเอง เวรกรรมอะไรที่ต้องมาทำงานเจอดูจุนที่เขาแต่แกล้งให้โพสท่ายากๆ เมื่อยๆ แถมมาตอนเที่ยงก็มีแต่อาหารขยะที่คนท้องแบบเขาถูกสั่งห้าม 


    'นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อเจ้าตัวเล็กในท้องเขาไม่ยอมเด็ดขาด'



    "เอางี้...เดี๋ยวฉันไปซื้อผลไม้มาให้ก่อนเอาไหม"ฮยอนอาเสนอ จุนฮยองขมวดคิ้วก่อนที่เธอจะบอก

    "เห็นทีมงานคุยกันว่ามีร้านผลไม้ตรงข้ามสตูดิโออ่ะ"หญิงสาวอธิบาย เขาพยักหน้ารับหงึกหงัก

    "ฉันไปเองดีกว่า เธอกินข้าวเถอะ เซทต่อไปเธอถ่ายก่อนนี่"ว่าพลางลุกขึ้นเต็มความสูง ถึงจะหิวมากแต่ก

    ลับไม่ได้รู้สึกมึนเวียนศีรษะแบบก่อนหน้านี้ ช่วงสองสามวันหลังๆ ก็ไม่ได้มีอาการแพ้ท้องหรืออะไรแล้ว






                   ขายาวเดินตามทางออกไปสู่ด้านอกตัวอาคาร ดวงตาคู่สวยมองไปเห็นร้านผลไม้ที่ฮยอนอาพูดถึงก็ยิ้มกว้าง ส้มลูกโต แอ็ปเปิ้ลเขียว ราสเบอรี่ กีวี่ผลโต ...

    "น่ากินชะมัด"พึมพำก่อนจะรีบสาวเท้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะถึงประตูก็มีกลิ่นบางอย่างที่เคยคุ้นจมูกดีลอยมาเตะจมูก ความพะอืดพะอมตีขึ้นมาแทบในทันที ใบหน้าขาวทำหน้าเหยเกไม่ถูกโรค

    "นายเหม็นหรอ"ดูจุนที่ยืนคุยกับทีมงานคนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ร้องถามเมื่อเห็นว่าเขาทำหน้าทำตาแบบไหน จุนฮยองทำหน้าเฉยๆ ไม่ยอมตอบ ก้าวขาไปที่ริมถนนเพื่อจะข้ามไปที่อีกฝั่ง

    "นี่..ฉันพูดกับนายนะ"ร่างสูงเดินข้ามถนนตามมาที่ร้านที่ว่า ร่างโปร่งทำท่าฉงนนิดนึงแกล้งไม่เข้าใจที่ดูจุนพูด

    "พูด? นายพูดอะไรหรอ"แล้วหันกลับไปเลือกกีวี่ตรงหน้ามาใส่มือ 

    "เรื่องบุหรี่ไง เมื่อก่อนนายก็สูบนี่"ตามมาคาดคั้นเอาให้ได้ อีกคนไม่อยากตอบเลยพยักหน้าส่งๆ

    "แล้ว?"ดูจุนยังไม่เลิก จุนฮยองจิ๊ปากนึกรำคาญ

    "ตอนนั้นแค่ลอง ไม่ได้ติด ตอนนี้เหม็น ...เข้าใจนะ"พูดแล้วหยิบส้มใส่ตะกร้ามาเพิ่มอีกสามสี่ลูกก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ดูจุนยืนมองภาพนั้น นึกสงสัยว่าจุนฮยองกลายเป็นคนรักสุขภาพ ไม่ออกเที่ยวเตร่ กินผลไม้  ดื่มน้ำผลไม้ น้ำเปล่าแทนเบียร์ เหล้าหรือโค้ก ..เขาไม่อยู่ด้วยแค่สามเดือนมันจะเปลี่ยนคนคนนี้ได้ขนาดนั้น?


                  จุนฮยองเดินออกจากร้านข้ามกลับไปที่ฝั่งเดิม เวลาพักร่อยหลอลงไปแต่เหลือมากพอจะให้เขากินข้าวและผลไม้ที่ซื้อมาได้จนอิ่มท้อง เขาเลือกไม่ใส่ใจคนที่เดินตามหล้ง 

    "นี่...."คว้าข้อมือเขาไว้เมื่อเดินกันจนเข้ามาถึงด้านใน จุนฮยองที่เมื่อครู่สาวเท้าหนีกลิ่นบุหรี่หันไปมองคนที่ว่า 

    "เดินหนีทำไม"เขาไม่อยากคุยตอนนี้ก็ใช่อยู่ แต่ที่เดินหนีเขาไม่ได้หนีดูจุนเสียหน่อย เพราะหนียังไงท่าทางว่าคงจะไม่พ้นอยู่แล้ว

    "เปล่า..แค่หิว"บอกพลางยกมือขึ้นมาลูบท้องอย่างลืมตัว คนตัวสูงเลิกคิ้วเขาแทบไม่เคยสังเกตว่าจุนฮยองเริ่มมีหน้าท้องจนถึงตอนนี้

    "อ้วนขึ้นอีกไหม?"ถึงแก้มจะไม่ได้ออกเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับมีพุงน้อยๆ ออกมา

    "ก็...นิดนึง ไปก่อนนะเดี๋ยวหมดเวลาพัก"ตัดบทในทันทีก่อนจะดึงแขนตัวเองออก คนตัวสูงมองแผ่นหลังที่เคยคุ้นห่างออกไปแล้วเดินกลับไปทางห้องพักทีมงานของตัวเอง 


                 ไอดอลหนุ่มหันไปมองเห็นแล้วว่าอีกคนไม่ได้ตามมา เขาลอบถอนหายใจโล่งอกที่เมื่อครู่ฝ่ายนั้นไม่ได้ว่าอะไรอีก ใบหน้าขาวก้มมองหน้าท้องตัวเอง เขายกมือข้างที่ไม่ถือของมาลูบเบาๆ ก่อนจะเดินต่อไปที่ห้องพักตัวเอง


                    ฮยอนอาหยิบกีวี่ลูกสวยมาปอกเลือกออกเพื่อเตรียมให้เขาหลังจากกินสปาเกตตี้กับสลัดเสร็จ หญิงสาวมองมาและระบายยิ้มอ่อนเมื่อเห็นคนหิวกำลังตักอาหารเข้าปากโดยไม่สนใคร ปกติตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้องก็ไม่เคยถูกปล่อยให้หิวขนาดนี้ 

    "อร่อยไหม"ฮยอนซึงถามพลางยื่นน้ำที่เปิดและเสียบหลอดไว้ให้เรียบร้อยแล้วให้ ร่างโปร่งรับมาดูดไปสองอึกแล้วรีบกินต่อ

    "ใจเย็นคุณแม่ เดี๋ยวติดคอ"ฮยอนอาว่าพลางกลั้วหัวเราะ ยังไม่ทันพูดจบดี ประตูห้องก็ถึกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ทำหน้าทีตากล้องของงานนี้ ในห้องเงียบลงในทันที ฮยอนซึงที่ยืนยิ้มมองเขากับฮยอนอาอยู่หุบยิ้มฉับ ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงจ้องเพื่อนตัวเองเขม็ง

    "มีไร"ถามคนที่มาใหม่เสียงเรียบ ดูจุนมองมาที่จุนฮยองนิดนึงแล้วกันไปมองหญิงสาวคนเดียวตรงนั้น

    "บอสให้มาตามคุณฮยอนอาครับ"บอสที่ว่าก็คงไม่ใช่ใครอื่น น่าจะเป็นเพื่อนที่หญิงสาวพูดถึงบ่อยๆ และเป็นคนที่เลือกให้เขามาทำงานนี้

    "บอส? อ๋ออออ โอเคค่ะ นี่อิ่มแล้วรีบตามไปนะ"เธอว่าพลางวางลูกกีกวี่ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้วลงบนจานใบเล็กตรงนั้น ขาเรียวรับเดินออกไปจากห้องอย่างร่าเริง ทว่าคนที่มาตามเจ้าหล่อนกลับไม่ตามไปด้วยกัน

    "เสร็จธุระยัง?"ฮยอนซึงถาม คนตัวสูงละสายตาจากจุนฮยองที่ตักสปาเกตตี้คำสุดท้ายเข้าปาก

    "นั่นสิ มีไรติดหน้าฉันหรือไง จ้องอยู่ได้"ใบหน้าขาวไม่สบอารมณ์นิดหน่อย เขามองหน้าดูจุนกลับก่อนที่ฝ่ายนั้นจะตอบมา

    "ก็แค่สงสัยว่านายดูเปลี่ยนไปหลายอย่าง.."พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ คนฟังทั้งสองขมวดคิ้วแทนความสงสัย

    "ก็ทั้งกลิ่นบุหรี่ อาหารที่กิน แล้วก็ ......กลิ่นตัว"ฮยอนซึงเม้มปากกลั้นยิ้มที่ไม่รู้เหมือนกันว่ทำไมถึงได้ยิ้มออกมา อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่บอกว่าเพื่อนกำลังใส่ใจจุนฮยอง

    "ฉัน เอ่อ ฉันไม่ค่อยสบายดี มันก็เลยเหม็นบุหรี่ แล้วก็ต้องกินอาหารดีๆ รักษาสุขภาพอ่ะ"จุนฮยองพูด เขาทำท่าเก็บของใส่ถุงขยะจะเอาไปทิ้ง

    "ไม่สบายเป็นอะไร"ฝ่ายนั้นถามมาในทันที จุนฮยองนิ่งไปก่อนจะเบือนหน้าไปสบตาฮยอนซึงอย่างขอความเห็น พวกเขาเลี่ยงการตอบมาหลายครั้งแล้ว

    "ทำไมฉันต้องบอก"ร่างโปร่งว่า ดูจุนทำท่าจะพูดต่อระฆังช่วยชีวิตของเขาก็กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับใครอีกคนที่เคยคุ้นกันดี


    "บอสของที่นี่อยากเจอนาย"ฮยอนอาพูดเสียงดัง

    "พี่จุนฮยอง"เสียงทุ้มห้ามเอ่ยเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม จุนฮยองเองก็ยิ้มให้อย่างยินดี เขาเดินผ่านไหล่ร่างสูงตรงไปหาคนที่ว่าก่อนจะสวมกอดอย่างสนิทสนม


    "มานี่ได้ไงดงอุน"











                     งานช่วงบ่ายถ่ายนอกสถานที่เกือบเสร็จสิ้นแล้ว ชอทสุดท้ายคือการนั่งคลอเคลียกันบนรถสปอร์ตพรอบราคาแพงระยับของบอสพวกเขา ดงอุนยื่นกุญแจรถใส่มือเพื่อนสาว ฮยอนอายิ้มกว้างวิ่งกลับมาขึ้นรถเพื่อเตรียมตัว จุนฮยองระบายยิ้มมองเจ้าหล่อน เขาหยิบกุญแจมาถือและทำท่าจะเสียบ ดูจุนโฟกัสเข้ามาใกล้ ร่างโปร่งเอียงหน้ามองกดมุมปากเบาๆ  นิ้วยาวที่รัวชัตเตอร์อยู่ชะงักไปนิดก่อนจะกดต่อเรื่อยๆ


                     การทำงานเสร็จสิ้นหลังการลั่นรูปสุดท้ายจบลง ดูจุนถอยหลังออกห่างจากรถ ทีมงานเข้ามาเปิดรถเพื่อพาให้ฮยอนอากับจุนฮยองลงมา พอดีกับที่เท้าของนายแบบไปสะดุดกับขาทีมงานคนที่ว่าจนหน้าแทบทิ่มพื้น


    "เฮ้ย!"ร้องกันเสียงหลงจนคนที่เดินออกมาจากฉากแล้วต้องหันไปมอง และภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันที ฮยอนอาทำท่าเหมือนจะหยุดหายใจ คิดในใจว่าดีแล้วที่ดงอุนอยู่ใกล้ๆ เพื่อนของเธอเข้ามารับจุนฮยองไว้ก่อนที่หน้าจะลงไปกระแทกพื้น


                   จุนฮยองที่ถูกดงอุนประคองไว้โดยการเอาแขนสอดเข้ามาใต้แขนและดึงตัวเข้ามาจนกระแทกอกกันเบาๆ คนเป็นน้องกระซิบถามแทบในทันทีที่เห็นว่าเข้าตั้งหลักได้แล้ว

    "พี่ระวังหน่อยดิ ท้องอยู่นะ"กดเสียงให้เบาลงจนเขาเองแทบจะไม่ได้ยิน ร่างโปร่งยู่ปากใส่น้องก่อนจะขยับตัวยืนด้วยตัวเอง

    "รู้แล้วน่า ขอบใจนะ"เพราะช่วงหลังก่อนเขาจะบินมาที่นี่ ดงอุนที่เป็นเพื่อนสนิทของฮยอนอามาเจอกับเขาบ่อยจนสนิทสนมกันดี ทั้งยังมาติดใจเพื่อนตัวเล็กที่ทำหน้าที่ผู้จัดการคนใหม่ของเขาเสียด้วย

    "อือ ..เดี๋ยวโยซอบจะดุไม่ใช่อะไร"ได้ฟังคำพูดในลำคอนั้นก็เผลอยิ้มขำออกมาเสียไม่ได้ ..ที่แท้ก็กลัวแฟน

    "คุณ เอ๊ย จุนฮยองเป็นอะไรไหม"ฮยอนอาถามเสียงดัง เขาหันไปส่ายหัว

    "ฉันช่วยไว้ จะเป็นไรได้ไง ..ไปเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้ไปกินข้าวเย็นกัน ...เออ พี่ดูจุน ไปด้วยกันนะครับ ทีมงานทุกคนด้วย ผมจองร้านไว้แล้ว"ดงอุนว่าพร้อมกับหันไปบอกคนที่เหลือ สมาชิกตรงนั้นยิ้มดีใจที่เจ้านายใจดีเลี้ยงมื้อค่ำวันนี้ ทว่า...

    "ไม่อยากไปเลยอ่ะ"ว่าที่คุณแม่(?)บ่นอุบอิบ เขาทั้งเหนื่อย ทั้งไม่อยากใช้เวลากับดูจุนนานกว่านี้ แค่เห็นทั่งวันนี้ก็รู้สึกแปลกๆ มากพอแล้ว

    "ไม่ไปดูจุนมันก็จะสงสัยอีกนั่นแหละ ไปสักหน่อยน่าแล้วเดี๋ยวกินอิ่มก็รีบกลับ"ฮยอนซึงปลอบ เขาพยักหน้าเข้าใจที่พี่พูดเพราะเมื่อคิดตามมันก็จริง เขายิ่งหนีก็จะยิ่งถูกตาม

    "ถ้าเหนื่อยก็หลับไปบนรถก่อนก็ได้"ฮยอนอาบอก พลางปรับเบาะของเขาให้เอนลงให้ คนถูกดูแลยิ้มรับ นึกขอบใจทุกคนที่เอาใจใส่ 

    "ฉันปรับเองก็ได้"บอกอย่างเกรงใจ

    "ไม่ได้หรอก มีเบบี๋ที่ฉันต้องดูแล"เธอหมายถึงหลานสาวของตัวเองที่อยู่ในทัองของเขา จุนฮยองระบายยิ้มละมุน ก่อนจะยีผมเพื่อนสาวเบาๆ



    "สวีทกันจริงๆ"ดูจุนที่จอดรถอยู่ถัดไปทักขึ้นมา สาวเจ้าเบะปากนิดนึงก่อนจะตอบอย่างกวนโมโห

    "ก็คนเขารักกันนี่คะ"






    >>> ANATHEMA <<<






                   จุนฮยองกลับมาถึงห้องโดยที่ยังไม่ถึงสี่ทุ่มดีนัก กีกวังมารับเขาที่ร้านพร้อมกับทำตาเขียวใส่คนรักโทษฐานที่ดื่มแล้วไม่อยากขับรถกลับ คนตัวเล็กที่ว่าวนรถกลับไปที่ร้านเพื่อเอาคนของตัวเองกลับบ้านได้ราวครึ่งชั่วโมงแล้ว ซึ่งพอดีกับที่เขาอาบน้ำเสร็จ





    ก๊อกๆ .. เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงไขกุญแจเข้ามา เจ้าของห้องซึ่งนั่งเช็ดผมตรงโซฟารู้ทันทีว่าคงไม่ใช่ใครอื่น







    "วันนี้ก็เจอกันทั้งวัน ไม่เบื่อหน้ากันหรือไง"เขาถามทันทีที่รู้ว่าห้องถูกเปิดเข้ามาแล้วคนที่ว่าร้อง "หึ!" แล้วก้าวตรงมานั่งลงข้างๆ

    "นายไม่รู้สึกอะไรกับฉันจริงๆ แล้วใช่ไหม"ไม่รู้ว่าเพราะดูจุนเมามาหรือแค่ว่าอยากจะปั่นหัวกัน คนฟังหันไปมองเสี้ยวหน้าคมคายที่เขายังคงหลงรักอยู่เสมอ คำถามที่เขาสามารถตอบในใจได้เต็มปากว่า 'รัก' แต่รู้ดีว่าคงพูดได้ดีที่สุดแค่...

    "ไม่รู้ดิ ไม่แล้วมั๊ง"คำโกหกที่คิดว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องของพวกเขา ดูจุนหันมามองช้าๆ แววตานั้นดูเหมือนกำลังรู้สึกบางอย่าง

    "พิสูจน์ได้ไหม"นั่นไม่ใช่คำถามแต่เป็นประโยคบอกเล่า ดูจุนเลื่อนริมฝีปากหยักเข้ามาจนชิดกลีบปากนุ่มในทันที เขาแตะลงย้ำแล้วย้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะหยุดและกดน้ำหนักลงมาให้รู้ว่านั่นแค่เตือน ปลายลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปากที่ไม่ได้ขัดขืน จุนฮยองเผยอปากรับสัมผัสแสนนุ่มนวลนั้นอย่างเต็มใจ ความรักทำให้เขาใจอ่อนอยู่เสมอ และความรักก็ทำให้เข้ามาถึงตรงนี้ ...

    "พอ..พอก่อน"ออกแรงผลักคนที่กำลังจู่โจมเขาหนักขึ้นจนแทบเอาตัวขึ้นมาคร่อมทับร่างโดยที่ยังจูบกันอยู่ ร่างสูงมองมาอย่างไม่เข้าใจ เพราะฝ่ายที่กำลังขัดขืนก็ร่วมมือดีแท้ๆ ในตอนแรก

    "?"

    "ฉันว่า ฉันไม่ได้รู้สึก เฮ้ย! อื้อ..."ไม่ได้ปล่อยให้พูดจนจบ อีกคนขยับตัวจับร่างของเขาขึ้นมาให้นั่งคร่อมตัก ใช้ฝ่ามือจับใบหน้าขาวให้ไม่หนีจุมพิตของเขาอีก จุนฮยองดิ้นขลุกขลัก ก่อนจะแพ้ความต้องการของหัวใจ เขายินยอมให้ดูจุนรุกล้ำเข้ามาอีกครั้งกลิ่นแอลกอฮอลจากในลมหายใจร้อนแม้จะผ่านการจุมพิตไปแล้วครั้งนึงก็ไม่ได้จางลงไป ร่างโปร่งว่าตัวเองกำลังเมากลิ่นนั้นจึงเอาวงแขนยาวโอบรั้งคอยาว ผิวเนื้อเสียดสีกันจากภายนอกร่มผ้า 

    "อื้อ..อื้ม"ไม่ได้ขัดขืนเพียงแต่อากาศที่มีกำลังจะหมดไป ดวงตาคู่สวยปรอยมองอีกคน ร่างสูงที่ถูกคร่อมอยู่บนตักมองอีกฝ่ายด้วยสายตาหลงไหลแบบที่ไม่เคยมีให้มาก่อน ถึงจะรู้ดีว่านี่อาจจะเป็นแค่เพราะอารมณ์วาบหวามกำลังพลุ่งพล่าน แต่เขาก็อยากจะลองเสี่ยง

                    ปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่ข้างแก้ม และใบหู เรื่อยมาที่ซอกคอขาว เจ้าของรูปร่างสูงแตะลิ้นเบาๆ ทำเอาอีกคนสะดุ้งน้อยๆ คนที่ว่าหัวเราะหึในลำคออย่างพอใจ 





    "นี่...อยากจะไปในห้อง หรือจะตรงนี้ดี"





    TO BE CONT.




    ที่จริงว่าจะแต่งให้จบและลงเลยตั้งแต่เมื่อวาน แต่พอดีว่าหลับบบบ งิงิ 

    ฝากด้วยนะคะ เนื้อเรื่องตอนนี้อาจจะเรื่อยๆ ..อีกไม่นานพายุจะมาล่ะ อย่าเผาเราก็พอ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×