ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ANATHEMA - HIGHLIGHT

    ลำดับตอนที่ #20 : CHAPTER NINETEEN :: RESET

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 159
      8
      19 ต.ค. 61

    NINETEEN :: RESET











                   อาหารมื้อนั้นถูกจัดการให้หมดไปอย่างเงียบๆ คนที่เคยบ่นหิวกินแค่ไม่กี่คำก็อิ่มและขอตัวไปนั่งรอที่โซฟา ดูจุนที่ได้ยินทั้งหมดแต่ต้องทำเฉยหันไปมองจุนฮยองบ่อยๆ อย่างเป็นห่วง


    "ฉันคงทำจุนฮยองช็อคมาก"ฮยอนอาว่าขณะวางช้อนลงกับจาน เขาหันมามองคนพูดก่อนระบายยิ้ม

    "ขนาดพี่ยังตกใจเลย"บอกเสียงเรียบ ที่จริงเขาก็ตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ถ้าเขาไม่ได้รักจุนฮยองตอนนี้นอกจากจะทำลายด้วยการทำให้เสียใจแบบนั้นแล้วเขาจะยิ่งทำให้คนที่ว่าแย่ว่าเก่าด้วยการต้องกลายไปเป็นผู้หญิง เปลี่ยนไปจากวิถีชีวิตเดิมอย่างเต็มรูปแบบ...

    "ก็พอผ่านไปอาทิตย์นึงจุนฮยองก็ดูปกติดีฉันเลยไม่ได้บอกไงคะ แต่ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าพี่จะกลับมา"ว่าเสียงเรียบ พลางเหม่อมองไปที่เพื่อนซึ่งดูแล้วยังดึงสติกลับมาไม่ได้ 

    "แต่พี่กลับมา"เขาว่าพร้อมรอยยิ้ม เธอพยักหน้ารับแล้วพูดต่อ

    "เอาจริงๆ นะพี่ ฉันหนะว่าจะบอกแล้วล่ะตอนที่พี่กลับมา แต่คิดว่าให้พี่ได้ออกแรงพิสูจน์ตัวเองไปดีกว่า จุนฮยองมันรักพี่ พี่พยายามนิดหน่อยเดี๋ยวก็ใจอ่อน ที่ไหนได้..ใจแข็งเป็นบ้าดึงเชงมาจะปีนึงละ"บ่นอุบอิบตอนท้าย ร่างสูงหัวเราะเบาๆ 

    "ก็ดีแล้วล่ะ ให้พี่ได้พยายามทำให้เขารู้ว่าพี่รักเขากับลูกจริงๆ อนาคตจะได้ไม่มาต้องมาพูดกันว่าที่กลับมาเพราะคนอื่นบอก ให้เขาเห็นเองดีแล้ว"พูดอย่างเข้าใจและนั่นทำให้ฮยอนอาสบายใจขึ้น ใบหน้าคมคายยิ้มให้กำลังใจเธอ 

    "ส่วนเรื่องจุนฮยอง พี่จะคุยให้นะ"บอกพลางหันไปมองคนที่ว่า หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ เธอที่แทบไม่เคยทำอะไรให้เพื่อนต้องสะเทือนใจแอบกังวลอยู่มากเหมือนกันว่าฝ่ายนั้นจะโกรธ

    "ขอบคุณนะคะพี่ดูจุน"





                 ฮยอนอาขอตัวกลับไปเงียบๆ เธอบอกจุนฮยองเขาก็ทำเพียงพยักหน้า ร่างสูงมองถาพนั้นแล้วอ่อนใจ เขาคงต้องพูดกับจุนฮยองจริงจัง อย่างน้อยจะได้รู้ความคิดของคนที่ว่า

    "จุนฮยอง ..เป็นอะไร"เดินมานั่งลงข้างๆ หลังจากที่เอาจีฮุนเข้านอนแล้วเรียบร้อย คนที่เอาแต่เงียบมาตั้งแต่สามชั่วโมงก่อนหันมามองเขา แววตานั้นเดาได้ยากในนั้นมีทั้งความสับสน ความกังวลและความรู้สึกผิด

    "เปล่า"บอกเสียงเบาก่อนจะหลบสายตา มือหนาเอื้อมไปจับมือของอีกคนไว้หลวมๆ ใบหน้าขาวหันมามอง

    "อย่าไปโกรธฮยอนอาเลยนะ เขาก็แค่อยากให้พี่ได้พิสูจน์ตัวเอง"คนฟังพยักหน้า ก่อนที่คนที่ว่าจะเริ่มระบายบ้าง

    "ฉันแค่คิดว่าถ้านายไม่ได้รักฉัน แล้วตัวฉันค่อยๆ กลายเป็นผู้หญิงโดยที่ไม่รู้ตัว ไม่ได้เตรียมใจ..."น้ำเสียงนั่นไม่ได้โกรธเพียงแต่ยังคิดวนไปวนมาเฉยๆ มือนุ่มบีบมือของอีกฝ่ายเหมือนเตือนให้ฟัง

    "แต่พี่รักจุนฮยองไง รักมาก แล้วก็รักจริงๆ ไม่เห็นต้องไปคิดถึงเรื่องนั้นเลย.. จริงไหม"เป็นคำบอกรักที่ไม่ได้ฟังแล้วเขินเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นคำบอกรักที่ได้ฟังแล้วทำให้บางอย่างในใจมันคลายลง จุนฮยองสบตากับดูจุนอย่างจริงจัง เขาที่ไม่เคยเชื่อจนหมดใจตอนนี้กลับมั่นใจกว่าทุกครั้ง คำสาปของฮยอนอาเป็นจริงแบบที่เธอบอกเขาเสมอจนเขากลัว และคราวนี้เขาก็เชื่อแบบนั้น




    'เชื่อแล้วว่าดูจุนรักเขาจริงๆ'




    "แล้วคนที่เดือดร้อนที่สุดตอนนี้ก็คือพี่ คนที่ต้องมาตามง้อคนขี้งอนอยู่เนี่ย พี่ยังไม่โกรธฮยอนอาเลย"ก็ถูกที่คนที่ต้องลำบากก็คือยุนดูจุน คนที่ควรโกรธเรื่องนี้ตอนนี้คือยุนดูจุน แต่เขาไม่เห็นว่าคนตรงหน้าจะเป็นแบบนั้น

    "ทำไมไม่โกรธล่ะ"ถามกลับไป ฝ่ายนั้นระบายยิ้มก่อนตอบ

    "ก็พี่ทำผิดไว้มาก เพื่อนเราก็ทำให้พี่ได้ไถ่โทษวนความผิดของตัวเอง ได้พิสูจน์ว่าที่จริงพี่จริงใจกับเรื่องของเราแค่ไหน"ประโยคเหล่านั้นไม่ได่มีคำหวานอะไรแทรกอยู่ แต่กลับคำให้คนฟังชุ่มฉ่ำหัวใจได้อย่างมากมาย ร่างโปร่งหันหน้าไปอีกทางไม่ยอมสบตา

    "ทำเป็นพูดดี"ว่าอีกคนแก้เขิน ดูจุนยิ้มกว้างเห็นอีกฝ่ายดูสบายใจขึ้นก็ดีใจ 

    "ดึกแล้ว พี่ว่าเราไปอาบน้ำนอนกันดีกว่า ลูกรอ"เอ่ยชวนเพราะนี่ก็เกือบสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ทว่าคนคิดเยอะยังไม่ได้อาบน้ำเลย และคนตัวสูงก็ต้องเป็นคนพาไป

    "ไม่อาบได้ไหม เพิ่งวันเดียว"บอกเสียงเรียบ เพราะปกติก็ไม่ได้อาบกันทุกวันแถมเขาเองก็ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้มีเหงื่อเลยสักนิด

    "ไม่ก็ไม่ แต่ต้องเปลี่ยนชุดนอน"คนดื้อทำหน้าบึ้งไม่อยากทำตาม 

    "ชุดไม่เปื้อนเลย"เถียง ดูจุนทำตาดุนิดๆ ก่อนจะตามใจอีกฝ่าย

    "ก็ได้ๆ แปรงฟันนอนเลยก็ได้ งั้นทำเองได้นะ พี่จะไปทำงานต่อแล้ว"บอกเสียงนุ่มก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง จุนฮยองช้อนตามอง เขายื่นมือข้างที่ไม่เจ็บให้ช่วยพาลุกขึ้น

    "ขอบคุณนะ"ว่าเสียงเบาก่อนจะเดินกระหยองกระแหยงเข้าห้องนอนไป ตาคมมองตามคนที่ว่าพร้อมรอยยิ้ม ไม่นานเขาทั้งคู่คงได้เดินเข้าห้องนอนพร้อมกัน และตื่นขึ้นมาพร้อมกันแบบคู่รักคนอื่น










                  กีกวังอาสามารับในวันถอดเฝือกเพราะคนดูแลประจำอย่างยุนดูจุนมีงานถ่ายซ่อมด่วนกระทันหันเช้านี้ คุณหมอหนุ่มนั่งฮัมเพลงอารมณ์ดีขณะรอหมอกระดูกดูอาการรอบสุดท้ายให้ 

    "อารมณ์ดีนะ พี่ฮยอนซึงกลับมาแล้วเหรอ"รู้ว่าไปทำงานต่างประเทศหลายสัปดาห์แต่ไม่ได้สนใจว่ารุ่นพี่หวานใจน้องชายจะกลับมาวันไหน คนตัวเล็กส่ายหัวไปมาก่อนจะตอบ

    "ยังหรอก แต่เมื่อเช้าคุยกันพี่เขาบอกว่าอีกสามสี่วันก็กลับแล้ว"บอกด้วยความตื่นเต้นเสียเต็มที จุนฮยองยิ้มให้ ก่อนจะเดินเข้าไปพบคุณหมอ 



                  ไม่นานนักทุกอย่างก็เรียบร้อย ไอดอลหนุ่มเดินตัวปลิวออกมาจากห้องตรวจพร้อมกับรอยยิ้ม ใบหน้าขาวมองหาน้องชายที่ควรจะรออยู่ แต่ก็ไม่เห็นมี

    "จุนฮยอง"เสียงหวานร้องเรียกเขา เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงก็พบกับหญิงสาวคนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวันก่อน แฟนเก่าของดูจุน..

    "ลีนา"เรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างลืมตัว เธอส่งยิ้มให้ ก่อนจะยื่นซองอะไรบางอย่างมาให้

    "คือ?"ทำหน้าสงสัย ก่อนที่จะรับมา

    "ฉันจะแต่งงานหนะ พอดีที่เจอวันก่อนไปให้พี่ดูจุนออกแบบให้ วันนี้พิมพ์เสร็จเลยตั้งใจมาให้นาย...คนแรก"เขาทำหน้างง เพราะคนตัวสูงนั่นไม่ได้บอกเล่าอะไรเลยสักคำ ที่จริงก็ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

    "แต่งงาน?"

    "อื้อ"เธอพยักหน้าย้ำคำตอบ จุนฮยองยิ้มให้ จะว่าโล่งใจก็ใช่นั่นแหละ เพราะอย่างน้อยเรื่องที่กลัวว่าจะรีเทิร์นกันก็จบไป

    "ฉันดีใจนะที่พี่ดูจุนรู้ใจตัวเองสักที"เจ้าของใบหน้าสะสวยมองหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างชื่นใจ ดวงตาใสทำท่าฉงนกับท่าทีและคำพูดนั้น

    "เขาเองก็คงเพิ่งรู้ตอนที่ฉันบอกเหมือนกันกับนายนี่แหละ พี่ดูจุนหนะเขามีนายเป็นคนสำคัญมาตลอดเลยรู้ไหม ตั้งแต่พวกฉันเริ่งคบกันในหัวของเขามีแต่เรื่องนาย เรื่องที่จะทำยังไงให้นายดีขึ้น เรื่องที่จะทำยังไงให้นายพ้นจากเรื่องที่ไม่ดี สายตาเขามีแต่นายมาตลอดเลย"เธอพูดเสียงนิ่ง แววตาคู่สวยหมองลงเมื่อพูดเรื่องนี้ จุนฮยองที่ทั้งงงทั้งอึ้งกับสิ่งที่หญิงสาวบอกเอื้อมมือไปกุมมือนั่นไว้

    "ไม่หรอก ตอนนั้นเขาไม่ได้ชอบฉัน เขาเกลียดฉันจะตาย"ยืนยันความรู้สึกตอนนั้นที่เขารู้ ลีนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบอก

    "เขาชอบนาย แต่แค่ไม่รู้ตัว เชื่อฉันเถอะ ฉันดูพวกนายสองคนมาตั้งสามปี พยายามทุกอย่างที่จะทำให้เขามองแต่ฉันจนถอดใจถอยออกไปเอง ฉันหนะไม่ได้ยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรอกนะจุนฮยอง ...แต่เรื่องนี้ฉันเห็นแล้วว่ามันไม่มีทาง"








                   ดูจุนเดินถือถุงอาหารสดเข้าไปให้แทอูที่ยืนรออยู่ในครัว คนอายุมากกว่ากลับมานั่งลงที่พื้นข้างๆ เด็กหญิงตัวน้อยที่มองตามเขาพร้อมรอยยิ้มอย่างรอคอย

    "ว่าไงคะคนเก่ง วันนี้ดื้อกับคุณแม่กับน้าแทอูไหม"พูดแล้วก็อุ้มเจ้าตัวนุ่มนิ่มขึ้นมาฟัดแก้มอย่างแสนรัก จีฮุนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ 

    "มาจับลูกล้างมือหรือยัง"คนที่นั่งอยู่บนโซฟาใกล้ๆ นั้นว่าเสียงดุ ใบหน้าคมคายมองอีกฝ่ายก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้ม

    "ล้างแล้วครับคุณแม่น้องจีฮุน ใช่ไหมคะลูก"ว่าจบก็หันฟัดแก้มนิ่มต่ออย่าหมั่นเขี้ยว บนใบหน้านั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขที่คนมองเห็นแล้วต้องยิ้มตาม ทำไมนะ ทำไมทุกอย่างที่ได้รู้ถึงได้รู้ในวันที่มันเกือบจะสายไป

    "พี่จุนฮยอง"แทอูเดินถือนมรสกล้วยหอมออกมาจากในครัว ที่จริงคนอายุน้อยออกมติดๆ กับดูจุนด้วยซ้ำแต่รายนั้นกลับลอบมองพวกเขาอยู่ห่างๆ

    "ว่าไง"เหความสนใจไปที่น้อง คนที่ว่ายิ้มนิดนึงก่อนจะยกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาจิบ

    "เปล่า"ทำกรอกตาไปมาเชิงล้อเลียนก่อนจะเกินกลับเข้าไปด้านใน ดูจุนมองเห็นว่าจุนฮยองฮึดฮัดเหมือนไม่ขอบใจอะไรเลยอดถามไม่ได้

    "เป็นอะไร"ว่าเสียงนุ่มพร้อมกับอุ้มลูกพากันขึ้นมานั่งข้างๆ บนโซฟาตัวใหญ่ จุนฮยองส่ายหัวแล้วทำท่าหยิบมือถือมากด

    "แล้วไปหาหมอวันนี้หมอว่าไงบ้าง หายดีเลยไหม"น้ำเสียงห่วงใยจากริมฝีปากหยักทำให้ใจพองโตขึ้นมานิดๆ จุนฮยองหันไปสบตาอีกฝ่ายซึ่งอุ้มเจ้าตัวน้อยที่กำลังปีนไหล่กว้างหันหลังให้เขาอยู่

    "ก็ไม่มีไรแล้ว ติดดีแล้ว"พูดไปคนฟังก็พยักหน้ารับทราบ

    "ฉันเจอลีนาด้วย ที่โรงพยาบาล"เพราะคงไม่มีตอนไหนเหมาะจะพูดก็เลยพูดไปเสียให้จบ ดูจุนมองเขางงๆ 

    "แล้วคุยอะไรกันบ้างล่ะ"ไม่ได้มีท่าทางร้อนรนอะไร เพียงแค่ถามให้รู้ว่าสนใจในสิ่งที่จุนฮยองพูดอยู่เท่านั้น

    "เขาเอาการ์ดแต่งงานมาให้ วันนั้นที่เขามาหาเพราะอันนี้หรอกเหรอ"ถึงจะไม่ได้ถามแต่ในใจก็ยังคิดถึงภาพที่เห็นและยังอยากได้คำตอบ ร่างสูงมองมาที่คนถามก่อนจะยิ้มจาง

    "หึงพี่เหรอ"ไม่ตอบคำถามนั้นแต่ถามกลับด้วยคำถามและท่าทางที่น่าทุบที่สุด จีฮุนที่เล่นอยู่บนไหล่ของดูจุนก็หัวเราะขึ้นมาพอดี เหมือนกับสองพ่อลูกนี่แกล้งเขาเสียอย่างนั้น

    "แค่..."ไม่รู้จะตอบอะไรเพราะคิดว่าคนตรงหน้าก็รู้ดีว่าเขาคิดยังไง จุนฮยองหันหน้าหนีเพราะถูกอีกคนส่งสายตาวิบวับมาให้ มือหนาเอื้อมมาจับมือเขาไว้ แม้ระหว่างทั้งคู่จะมีเจ้าตัวป่วนตัวน้อยแทรกอยู่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร

    "อะไร"ทำเสียงเหมือนรำคาญที่ถูกทำรุ่มร่ามทว่าเขาก็ไม่ได้ปัดป้องสัมผัสนั้น ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้กว่าเก่า

    "เมื่อไหร่จะให้พี่ช่วยเลี้ยงลูก"ถามเสียงนุ่ม จุนฮยองหันมามองก่อนจะตอบ

    "ก็ให้ช่วยอยู่เนี่ย ไม่เห็นได้ห้าม"ไม่เข้าใจคำถามจริงๆ ของคนตรงหน้าสักนิด ดูจุนจ้องตาอย่างอยากให้เข้าใจความหมาย

    "พี่หมายถึง เมื่อไหร่จะใจอ่อนยอมให้พี่เลี้ยงลูกด้วยกัน ...เราอยู่ด้วยกันได้หรือยังจุนฮยอง"ทั้งที่เคยคิดว่าจะรอให้ถึงวันเกิดครบหนึ่งขวบของลูกที่จะมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า ทั่งที่เคยคิดว่าเวลาอีกนิดหน่อยนั้นจะรอได้ แต่มาถึงตอนนี้...

    "ก็ถ้าอยากอยู่ก็ขนของมาดิ ของลูกเยอะฉันไม่ขนไปหรอก"พูดพร้อมกับทำท่าเขินๆ ใช่เขาใจอ่อนและยอมแล้ว ในใจมันร้องบอกว่าเขาสองคนไม่ควรต้องรออะไรอีกแล้ว มันนานเกินไปแล้วสำหรับความสุขที่ควรจะมี มันนานเกินไปแล้วสำหรับทิฐิทุกอย่างต่อกัน


    "พี่รักจุนฮยองนะ"มือหนาจับมือเขาไว้แน่น ไม่ใช่คำหวานที่ไม่เคยได้ยิน ไม่ใช่น้ำเสียงที่ไม่เคยได้ฟัง แต่ความรู้สึกที่เขาเปิดใจทั้งหมดให้อีกคนมันทำให้รู้ว่าคำว่ารักที่ให้กันมันเหมือนคำสัญญาคำหนึ่งที่คนคนนี้ต้องการบอกให้มั่นใจ





    "ฉันก็รักนาย"










    >>> ANATHEMA <<<









                 ฮยอนอาเดินถือถุงขนมปังเข้าไปในสตูดิโอที่เพื่อนกำลังถ่ายแบบอยู่ ไอดอลหนุ่มที่วันนี้เพิ่งได้กลับมารับงานแรกหลังบาดเจ็บก็เป็นงานสบายๆ แบบแฟชั่นเซ็ทที่จะลงในหนังสือของดงอุน 


    "ทำงานแฮปปี้ไปอีก"เสียงหวานเอ่ยแซวพลางวางถุงขนมที่ว่าลงบนโต๊ะใกล้ๆ จุนฮยองที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนชุดเป็นเซ็ทต่อไปหันมามองพร้อมรอยยิ้ม

    "ก็ไม่ได้ทำงานนาน ได้ทำอะไรบ้างมันก็สนุกดี"ว่าเสียงเรียบพลางจัดชุดให้เข้าที่ หญิงสาวเหล่ตาไปมองตากล้องคนสนิทของนายแบบ เธอเดินเข้าไปชิดตัวเขาก่อนจะพูด

    "ไม่ใช่ว่าเพราะได้ตากล้องรู้ใจหรอกเหรอ"ว่าจบก็หัวเราะอิ๊ก ร่างโปร่งแทบหันมาฟาดแขนเล็กๆ นั่นแต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยสายตาของช่างแต่งหน้ากองถ่ายที่เงี่ยหูฟังพวกเขาคุยอยู่

    "รู้ใจดิ รู้จักกันมาเป็นสิบปี ว่าแต่เธอมาถึงนี่มีอะไร"ถามธุระที่หอบเอาร่างบอบบางนี่มาหาเขา หญิงสาวกรอกตาไปมาก่อนจะบอก

    "งานแต่งลีนาอาทิตย์หน้า นายจะไปป่ะ"เธอหยิบการ์ดขึ้นมายื่นให้ดู จุนฮยองมองนิดนึงแล้วตอบไม่ตรงคำถาม

    "เธอก็ได้การ์ดหรอ ไปสนิทกันตอนไหน"

    "ก็รู้จักตอนคบกับนายนี่แหละ ว่าแต่นายไปป่ะตกลง"ถามย้ำว่าเขาต้องตอบเธอ จุนฮยองเลิกคิ้วแล้วพยักหน้า

    "ไปดิ เขาเชิญ"บอกอย่างไม่ไ้รู้สึกแปลกอะไร เขากับดูจุนคุยกันเรื่องว่าที่เจ้าสาวคนที่ว่าแล้ว และก็จบด้วยดี 

    "แต่เขาเป็นแฟนเก่า..."เหลือบตาไปมองคนที่ยังคงนั่งเช็คภาพเซ็ทก่อนให้รู้ว่าเธอหมายถึงเขา จุนฮยองมองตามก่อนจะยิ้มบางเมื่อคนนั้นดันละสายตามามองที่ตัวเองพอดิบพอดี





    'จังหวะนี้เหม็นความรักมากสำหรับคิมฮยอนอา'





    "ก็จบกันไปแล้ว แล้วนี่ก็งานแต่งงาน"ว่าอย่างอารมณ์ดี หญิงสาวเบะปากใส่อัตโนมัติ นึกหมั่นไส้ที่เมื่อก่อนยอมทำทุกอย่าง ทำทุกทางที่จะไม่ให้เขาได้คบกัน แล้วนี่ยังไง ญาติดีกันซะอย่างนั้น

    "จ้า พ่อคนใจกว้าง พ่อพระแห่งโลก"มันก็ดีที่เพื่อนไม่ได้ผู้ใจยึดติด แต่อดหมั่นไส้ไม่เลยที่ท่าทางที่แสดงออกมาเป็นแบบนี้ อะไรจะสบายใจเบอร์นั้น

    "ขอบใจ"ว่าพร้อมกับยิ้มเหมือนเย้ยกัน พอดีกับที่ทีทงานมาตามให้ไปเข้าเซ็ทต่อ นางแบบสาวมองตามไปก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งแทนที่จุนฮยองเมื่อครู่ เธอมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกดีแปลกๆ รอยยิ้มและการทำงานตรงนั้นไม่เหมือนเมื่อราวปีครึ่งปีที่แล้ว  ครั้งนั้นที่เธอพาเพื่อนหอบท้องหนีไปต่างประเทศเพื่อต้องไปเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด การทำงานด้วยกันตอนนั้นคนอื่นอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ทว่าคนที่รู้ทุกอย่างมันอึดอัด ยิ่งเห็นท่าทางคำพูดยิ่งอยากกระโดดบีบคอให้ตายเสียทั้งคู่ตั้งแต่ตอนนั้น




                 แต่ตอนนี้กลับตรงข้ามกัน สองคนไม่ได้พูดกันมากนัก แต่แววตาที่มองกันกลับสื่อความหมายที่ดีบางอย่าง เนื้อความในทุกคำมีแต่เรื่องงานตรงหน้า แต่ทำไมรู้สึกถึงความหวานในน้ำเสียงก็ไม่รู้

    "สองคนนี้สนิทกันจังนะคะ"ช่างแต่งหน้าคนเมื่อครู่ว่า ฮยอนอาหันไปมองก่อนจะตอบ

    "ค่ะ สนิทกันมากๆ"เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม 

    "แล้วคุณฮยอนอาไม่หึงเหรอคะ แฟนสนิทกับคนอื่น"คนเดิมพูดต่อ นางแบบสาวรู้สึกตะหงิดนิดๆ ในใจกับคำถาเมื่อครู่

    "ไม่หึงค่ะ"ตอบเท่านั้นโดยไม่ขยายความใด ฝ่ายนั้นมองมาอย่างเหยียดๆ 

    "ใจกว้างจังนะคะ ให้คนอื่นมองแฟนตัวเองแบบนั้นได้โดยไม่คิดอะไร"ยังไม่หยุดพูด หญิงสาวหันไปมองคนที่ว่าก่อนจะโปรยยิ้มร้าย

    "ขอโทษนะคะ ฉันว่าฉันกับจุนฮยองตอบชัดแล้วว่าเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกันแต่ถึงจะเป็นมากกว่านั้นก็คงไม่ใช่ธุระของใครมาห่วงใยเรื่องนี้...จริงไหมคะ"กดเสียงเข้มในท้ายประโยคและใช้สายตาดุๆ มองไปที่คนคนนั้น ช่างแต่งหน้าปากเก่งขนคอลุกในทันทีที่ฟังจบ เธอพยักหน้าทีนึงแล้วถอยไปนั่งห่างจากตรงที่ฮยอนอายืน




    'เดี๋ยวแม่ก็สาปให้เป็นแมลงวันซะหรอก'



           


    "หน้าหงิกเชียว เป็นอะไร"ดงอุนที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยถาม คนบริเวณนั้นต่างถอยห่างออกไปเพราะรู้ดีว่าคนที่มาใหม่คือใครและต้องยำเกรงต่อเขา นางแบบสาวหันมามองเพื่อน ไม่บ่อยนักที่เธอจะมีอาการไม่ชอบใจแสดงออกมาชัดเจนแบบนี้

    "เปล่า แต่เซ็งอ่ะ นี่แกมานี่คือมาดูงานหรือมารอใคร"ก็ปกติแล้วระดับบรรณาธิการบริหารจะต้องลงมาดูถ่ายแบบเองทำไมให้เสียเวลา เพื่อนตัวสูงยิ้มนิดนึงพลางกวาดสายตามองหาคนที่เขาตั้งใจมารอรับกลับบ้านพร้อมกัน

    "มาทำงานดิ แล้วก็จะพาพี่จุนฮยแงไปเลี้ยงข้าว"ฮยอนอาเบะปาก รู้ก็รู้ว่าที่พาจุนฮยองไปเพื่อบังหน้าการไปดินเนอร์กับยังโยซอบผู้จัดการส่วนตัวของคนที่ว่าล้วนๆ สาวเจ้าส่ายหัวก่อนจะพูด

    "จองโต๊ะที่ไหนไว้ล่ะยะ"ถามประชด ดงอุนมองเธอนิดนึงแล้วตอบเสียงเรียบ

    "ร้านที่บ้านพี่โยซอบหนะ คุณแม่ว่าจะทำเตรียมไว้ให้ เธอไปด้วยกันสิฮยอนอา"หญิงสาวส่ายหัวอีกรอบ อะไรจะทำให้เธอกล้าไปอยู่ในสถานที่สุดส่วนตัวแบบนั้น ร่างสูงที่เหมือนเดาออกยิ้มกว้าง ก่อนจะอธิบาย

    "คุณพ่อคุณแม่พี่โยซอบเขาเลี้ยงฉลองให้ด้วยเรื่องที่พี่จุนฮยองหายป่วย อารมณ์ปาร์ตี้กันนั่นแหละ ไม่ต้องคิดมาก"พูดพร้อมรอยยิ้มรู้ทัน ฮยอนอาเม้มปากนิดนึง

    "แกไปเถอะ ไปเจอพ่อแม่พี่เขาทำตัวดีๆ ล่ะ...รู้ไหม"บอกอย่างห่วงใยและคนเป็นเพื่อนก็รับไว้อย่างยินดี ทั้งคู่มองการถ่ายแบบตรงหน้าไปจนเสร็จสิ้น ก่อนจะพากันแยกย้ายไป





                 อีกสองวันก็เป็นวันเกิดครบหนึ่งขวบเต็มของจีฮุน จุนฮยองนั่งสไลด์ไอแพดดูรูปแบบลูกโป่งที่เขาตั้งใจจะเอามาตบแต่งในห้องเพื่อจัดวันเกิดเล็กๆ ให้ลูกสาวตัวน้อย  ดูจุนเดินถือกระเป๋ากล้องเข้ามาก่อนจะวางมันลงที่ข้างโต๊ะข้างเตียง ขายาวก้าวขึ้นมาบนที่นอนนุ่มข้างๆ 

    "ดูอะไร"ขยับไปจนชิดร่างผอมพร้อมกับชะโงกดูจอนั้นด้วยอีกคน

    "ลูกโป่ง นายว่าเอาสีอะไรดี"รายนั้นยื่นมาให้เขาถือ ก่อนจะเบียดเข้ามาในอ้อมแขน ศีรษะมนซบบนไหล่กว้างอย่างถือวิสาสะ

    "ชอบสีไหนล่ะ"ถามกลับไป คนถูกถามกลับคิดนิดนึงก่อนจะตอบ

    "เขียวแต่ลูกเป็นผู้หญิงจะเหมาะกับชมพูมากกว่า"ดูจุนพยักหน้าแล้วพูดตอบกลับเสียงเรียบ

    "ก็เอาชมพูก็ได้ ไว้งานแต่งเราค่อยเอาสีเขียว"พูดจบโดยไม่คิดอะไร แต่คนฟังกลับตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าขาวช้อนตามอง หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนจะทะลุอก 




    'แต่งงาน? เขาจะแต่งงานกันเหรอ?'





    "ว่าไงจุนฮยอง"

    "ห๊ะ"ตกใจนิดหน่อยที่ถูกกระตุ้นให้ตอบเรื่องอะไรไม่รู้ ดวงตาใสมองอีกฝ่ายหน้าตาเหรอหรา

    "ลูกโป่งหนะเอาแบบไหน เจ้าของร้านเขาถาม"ยื่นมาให้ดูข้อความจากแชทที่เขาถามค้างเอาไว้ คนที่ว่าตั้งสติอยู่อีกครู่นึงก่อนจะหยิบไอแพดจากมือหน้ามาคุยต่อ ทว่าในหัวยังงุนงงกับคำพูดเมื่อครู่ของเจ้าของอ้อมกอดนี้



                 ดูจุนค่อยๆ วางศีรษะมนลงกับหมอนอย่างเบามือ ดวงตาคมทอดมองใบหน้าขาวด้วยความรัก เขาระบายยิ้มบางเบาเมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองเผลอพูดคำนั้นออกไป ชั่วไม่กี่วินาทีที่จุนฮยองนิ่งอึ้งนั้นเขาต้องรีบตั้งสติให้ตัวเองไม่พูดมากกว่านั้น ...

    "รอก่อนนะ"ก้มลงจูบหน้าผากกว้างด้วยความรักที่มี ก่อนจะลุกออกไปทำงานที่ค้างไว้ต่อที่ห้องของตัวเอง




    "แล้วพี่สั่งเค้กไว้ยัง"แทอูถามขึ้นขณะที่กำลังล้างขวดนมให้หลานสาวจอมซนที่ยืนดึงขากางเกงของเขาอยู่ จุนฮยองละมือและสายตาจากสูทของดูจุน พวกเขากำลังจะไปงานแต่งงานของลีนา

    "เรียบร้อยแล้ว แล้วนั่นนายไม่ไปแต่งตัวอีก จะได้ไปกัน"หันไปดุน้อง แทอูยิ้มกว้างก่อนจะตอบ

    "ผมเปลี่ยนชุดแป๊ปเดียวน่า เนี่ยเสร็จแล้วครับ"ว่าจบก็เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน ก่อนจะก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวดีมาส่งให้พ่อแม่

    "ไปกันสามคนพ่อแม่ลูกก็จบ จะลากผมไปทำไมไม่รู้"ก็เพราะไอ้สามคนพ่อแม่ลูกนี่แหละที่ทำให้เขินจนต้องเอาแทอูไปด้วยอีกคน  จุนฮยองรับเจ้าเด็กหญิงตัวอวบที่จะอายุครบหนึ่งขวบในวันพรุ่งนี้มาอุ้มไว้เอง จีฮุนในชุดกระโปรงฟูๆ ลายดอกไม้สีแดงเรื่อที่มีคุณน้าคนสวยอย่างฮยอนอาเลือกมาให้ยังคงอารมณ์ดีเสมอ

    "รีบเถอะน่า"จุนฮยองทั่งเร่งทั้งรู้สึกหน้าร้อนๆ แทอูสบตากับดูจุนที่มองตาก็รู้กันก่อนจะวิ่งเข้าห้องไป 

    "ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย เอาลูกไปอุ้มด้วยนะตอนเข้าไปในงาน"บอกเสียงเข้ม ตาก็ดุ แต่คนที่โดนกลัวที่ไหน ทำท่าทางกวนโอ๊ยก่อนจะตอบ

    "ได้ครับป๊ะป๋า"จุนฮยองทำท่าจะทุบแต่คนตัวสูงหลบเสียก่อน จีฮุนยิ้มร่าชอบใจที่พ่อแม่หยอกล้อกัน



                  งานแต่งงานถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่เพราะฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นถึงเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ดัง แต่เจ้าสาวคนสวยก็เป็นสถาปนิกเล็กๆ ไม่ได้มีชื่อะไรของที่นั่น ฝ่ายชายชื่อเสียงในวงการนั้นอย่างมาก และมีนักข่าวสายสังคมมาทำข่าวอย่างหนาตา

    "จุนฮยอง"เจ้าสาวคนสวยร้องทักขณะที่กำลังเดินเข้างาน นักข่าวที่รัวชัตเตอร์เก็บภาพบรรดาเซเลป คุณหญิงคุณนายเลยเหความสนใจไปที่แขกของเจ้าสาว

    "ลีนา ยินดีด้วยนะ"เขาทักทายเธอกลับพร้อมรอยยิ้ม ดูจุนที่อุ้มเด็กหญิงแก้มกลมๆ เดินตามมายิ้มทักทาย

    "ยินดีด้วยนะ"เขากล่าวอย่างจริงใจ หญิงสาวในชุดแต่งงานเรียบหรูโค้งรับคำยินดี 

    "ถ่ายรูปกันค่ะ จีฮุนคะมาถ่ายรูปกับคุณอาเร็ว"เธอร้องชวน พลางเอื้อมมือไปจับแขนนุ่มนิ่มอย่างเอ็นดู 

    แฟลชยังลั่นต่อเนื่อง 

    "รู้จักกับคุณจุนฮยองด้วยเหรอ"เสียงเจ้าบ่าวกระซิบถามเสียงเบา ลีนาที่ฉีกยิ้มอยู่พยักหน้าก่อนจะตอบ

    "เรื่องแฟนเก่าฉันไงคะ"เธอพูดแค่นั้นคนรักก็พยักหน้าเข้าใจในทันที เจ้าบ่าวหนุ่มหล่อมองเลยไปที่ดูจุน เขาระบายยิ้มอย่างมีมารยาทแต่ต่างไม่พูดอะไร จุนฮยองมองภาพนั้น ขุ่นในใจเล็กๆ ดูก็รู้ว่าแอบเขม่นกัน คิดแค่นั้นก็พาลเคืองที่อีกคนคงยังคิดเรื่องลีนาอยู่

    "แล้วนี่ฮยอนอาล่ะคะ"ถามถึงอีกคนที่เธอให้การ์ดไป จุนฮยองเลิกคิ้วนิดนึง ก่อนที่นักข่าวจะเหความสนใจไปที่ผู้มาใหม่อีกครั้งและนั่นเรียกพวกเขาด้วย

    "ยินดีด้วยค่ะ"คนที่กำลังถูกถามถึงมาในงานพอดิบพอดี นางแบบสาวในชุดเดรสสั้นสีแชมเปญเอ่ยเมื่อมาถึงตัวเจ้าสาว ลีนายิ้มรับอย่างสุขใจทั้งหมดคุยกันอีกแค่ราวๆ นาทีขอตัวเข้าในงาน 


    "สรุปก็ยอมมา?"จุนฮยองว่าขณะหยิบแก้วเครื่องดื่มมาแจกจ่าย

    "มาดิ สงสารนาง แขกตัวเองน้อยมากพวกคู่ธุรกิจของว่าที่สามีก็ไม่ไว้ใจ นี่คือมาสร้างเครดิทให้นะ"ฮยอนอาว่า ที่เธอรู้เพราะได้ยินข่าวมาจากดงอุน รายนั้นที่ก็รับการ์ดจากทางเจ้าบ่าวเล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้ฟังเมื่อวันก่อนขณะออกไปดื่มกาแฟฆ่าเวลาด้วยกัน

    "รู้เยอะ"ร่างโปร่งว่าพลางหันไปสะกิดให้ดูจุนที่กำลังนั่งบนเข่าเล่นกับลูกอยู่หันมาเลือกน้ำ

    "ดงอุนเล่าหนะ ว่าแต่ตกลงนายไม่เคืองสักนิดเลยเรื่องที่ดูจุนก็มาด้วย"เอาจริงเขาไม่เคืองหรอกที่มาด้วย ดีเสียอีกคนของเขา(?)จะได้เห็นว่าแฟนเก่าสุดที่รักได้เป็นของคนอื่นไปแล้ว





    'ใช่...จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าดูจุนยังคิดถึงคนอื่นอยู่'





    "ก็ไม่หรอก"ถึงพูดแบบนั้นแต่ฮยอนอาอ่านสายตาของเพื่อนออก จุนฮยองเป็นคนไม่ค่อยเปลี่ยนความคิดความรู้สึกจากอะไรง่ายๆ ไม่แปลกใจเลยที่ยังมีแววตากังวลอยู่ลึกๆ

    "เขามาในฐานะแฟนนาย ซึ่งนั่นลีนาก็รู้ดี พี่ดูจุนเองก็รู้ดีว่ามาจะต้องเห็นอะไร เขาไม่มีใครคิดอะไรต่อกันแล้ว เหลือแค่นายนี่แหละ.."หยุดพูดและถอนหายใจเมื่อเห็นแววตาขุ่นซึ่งถูกส่งมาเพราะเธอบ่นให้ ไอดอลหนุ่มยู่ปากนิดๆ ก่อนตอบ

    "ก็แค่ไม่ไว้ใจแล้วก็หึงนิดนึง"พูดเสียงเบาพร้อมกับหน้าแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้น ฮยอนอาวางมือบนไหล่ลาด เธอไม่พูดอะไรต่อเพราะคิดว่าเดี๋ยวดูจุนที่ยืนแกล้งทำไม่ได้ยินอยู่จะไปเคลียกับเพื่อนเองที่บ้าน











                 แทอูอุ้มเอาหลานสาวตัวน้อยวางลงบนที่นอนของตัวเองที่อยู่ข้างเตียงหลังใหญ่ เด็กหญิงที่เล่นในงานจนเหนื่อยหลับสนิทแทบไปกระดิกตัว คนที่ว่าก้าวออกไปแล้วพร้อมกับปล่อยให้เจ้าตัวนุ่มนิ่มนั่นอยู่กับพ่อแม่ที่คุยกันมาบนรถแทบนับคำได้อยู่ด้วยกันอย่างอึดอัด จุนฮยองที่สัมผัสมันได้เลือกจะเงียบไม่พูดตลอดทาง เขาไม่รู้ว่าดูจุนเป็นอะไร ตั้งแต่ก้าวขึ้นรถก็เฉยๆ ไม่ถาม ไม่พูด พูดด้วยก็ตอบแค่คำถามนั้น น้ำเสียงเย็นๆ นั่นอีก

    "เป็นอะไร"เขาเลือกจะถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นจะออกไปจากห้องโดยที่ไม่บอกอะไรสักคำ จะไปอาบน้ำ จะนอนที่ห้องตัวเองหรือจะทำอะไรทำไมไม่พูดไม่ทำเหมือนที่เคยทำ



    'สงครามประสาทถูกไหม'



    "เปล่าครับ"คำตอบแสนสุภาพนั่นยิ่งย้ำว่านี่ไม่ได้ปกติ

    "นายไม่พูดกับฉัน เป็นอะไรก็บอกดิวะ"เขาหงุดหงิดที่คนตรงหน้าเอาแต่ยืนหันหลังและไม่พูดอะไร ขายาวที่กำลังจะก้าวต่อชะงัก

    "เดี๋ยวพี่ก็หาย อย่าสนใจเลย"ว่าจบก็เดินออกไปจริงๆ จุนฮยองที่ยืนห่างพอสมควรรีบก้าวเข้าไปดึงข้อมือหนาไว้ก่อนที่จะถึงประตูห้องนอน 

    "เป็นจริงๆ ด้วย เป็นอะไรดูจุน..อย่าทำแบบนี้"น้ำเสียงติดรำคาญนิดๆ เพราะคนที่เขากำลังงอนง้อช่างเล่นตัวเสียเหลือเกินในความรู้สึก ร่างสูงเอียงเสี้ยวหน้าหล่อเหลามามองเขา 

    "ก็บอกว่าไม่ต้องสนใจหรอก เดี๋ยวมันก็หาย"จุนฮยองบีบข้อมือนั้นแรงขึ้น เขาไม่ได้อยากรู้ว่าดูจุนจะหายเมื่อไหร สิ่งที่เขาอยากรู้คือ..เป็นอะไรมากกว่า

    "เราจะอยู่ด้วยกัน นายเป็นอะไรนายก็บอกสิ ฉันไม่อยากคาใจ"ว่าจบก็กระตุกมือนั้นให้หันมาสบตากัน ดูจุนมองด้วยแววตาหมองหม่น ในนั้นมีความเศร้าเต็มไปหมด

    "เราจะอยู่ด้วยกันเหรอ ทำได้เหรอจุยฮยอง"ในน้ำเสียงนั่นสับสนและกังวล เขามองดวงหน้าคมคายที่ไม่มีวี่แววของความสบายใจใดเลย

    "ทำได้สิ ทำแบบตอนนี้ ก่อนนี้เราก็อยู่ด้วยกันได้ไง"จุนฮยองว่า น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง ร่างสูงมองที่มองอยู่แววตานั้นที่ทีแรกดูสับสนเหลือเพียงความน้อยใจ

    "แต่เราไม่เชื่อใจพี่"บอกก่อนจะหลบสายตา คนอายุน้อยกว่าเลิกคิ้ว เขาไม่คิดว่าจะได้ยินที่คุยกัน ขาเล็กกว่ารวบร่างหนามากอดไว้ ซบหน้าลงกับไหล่กว้างก่อนที่อีกฝ่ายจะกอดเอวตอบหลวมๆ

    "ไม่ใช่ไม่เชื่อ ฉันก็แค่ไม่มั่นใจ ฉันหนะคงจะเป็นคนชี้หึงล่ะมั๊งเลยระแวงไปหมด ..อย่าหนีไปเลยนะ"จะไปได้ยังไง ยุนดูจุนจะหนีคนคนนี้ไปได้ยังไง เขาใจอ่อนตั้งแต่จุนฮยองถามแล้ว่าเขาเป็นอะไร เขาแพ้ตั้งแต่รู้ว่าอีกคนสนใจว่าเขาไม่ได้ปกติ 




    'รัก ดูจุนรักจุนฮยองจัง'




    "อืม ไม่ไปหรอก"จูบกระหม่อมบางอย่างแสนรัก จุนฮยองยิ้มกว้างก่อนจะตีที่อกของคนที่ว่าเบาๆ

    "อย่าทำแบบนี้อีกนะ มีอะไรต้องพูดกันรู้ไหมดูจุน เรามีลูกด้วยกันแล้วจะมางอนเหมือนตอนวัยรุ่นได้หรือไง" ดุอีกฝ่ายทั้งที่ตัวเองยังกอดเขาอยู่แบบนั้น เจ้าของวงแขนกว้างยิ้มปนหัวเราะก่อนจะตอบ

    "เราก็เป็นพ่อแม่วัยรุ่นไงจะได้งอนได้"ยียวนเป็นที่หนึ่งเขาเพิ่งรู้ จุนฮยองเอียงหน้ามองไม่ชอบใจ ดูจุนถือวิสาสะแตะริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มเบาๆ

    "แต่ก่อนเราสองคนไม่เรียกว่างอนกันหรอกนะจุนฮยอง สมัยนั้นเรียกทะเลาะกัน"คนถูกขโมยจุ๊บยิ้มจางก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

    "นั่นแหละ ไม่เอาแบบนั้น แบบนี้ก็ไม่เอา ฉันเหนื่อย ขี้เกียจทะเลาะกับนายแล้ว อยากอยู่กันดีๆ ได้ไหมดูจุน"อีกฝ่ายยิ้มกว้าง เขากระชับกอดแน่นขึ้นและไม่ตอบด้วยคำพูด ปากหยักโน้มลงเล็กน้อยเพื่อขโมยความหวานจากริมฝีปากชื้นสีอ่อนใส ละเลียดชิมความหวานอย่างถนอม แม้จะกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันได้เกือบสองสัปดาห์แต่การแตะต้องร่างนี้เกินกว่าการแตะริมฝีปากันนั้นไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียว และวันนี้เขาทนมันไม่ไหวอีกแล้ว




    'คิดถึงความหวานของจุนฮยองเหลือเกิน'




                ร่างผอมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มทอารมณ์ร้อนแรงถูกปลุกจากจูบหวานฉ่ำ ไม่เลยเขาไม่เคยรู้สึกมากมายเท่านี้มาก่อน ทุกครั้งที่เคยมีสัมพันธ์กันจะมีบางอย่างขวางความสุขให้ไม่มากที่สุดเท่าที่ควรมี แต่ครั้งนี้ เพียงแค่จูบเดียวเขากลับรู้สึกในหัวโล่งไปหมด 

    "พี่รักจุนฮยองนะ"กระซิบบอกเสียงแหบพร่า ก่อนจะขบลงไปที่บนหูนั่นเบาๆ คนใต้ร่างครางเสียงเบาเพราะจุดนั้นช่างกระตุ้นอารมณ์ มือหนาซุกซนแหวกสาปเสื้อเชิร์ตสีขาวที่ถูกตัวเองริดเม็ดดุมออกจากรังไปจนหมด ลิ้นร้อนแตะลงบนยอดอกสีหวาน ร่างนั้นบิดเร่า ยกมือขึ้นมาเกาะไหล่หนาเอาไว้

    "อื้อ..ดูจุน"เรียกฝ่ายนั้นเสียงกระเซ่า ร่างสูงละริมฝีปากกลับมาช่วงชิงลมหายใจอุ่น มือหนาเอื้อมไปปลดอาภรณ์ชิ้นล่างของอีกคนออก

    "เดี๋ยวถอดเอง"เสียงหอบกระชั้นร้องบอก ดูจุนกระตุกยิ้มพึงใจที่อีกคนให้ความร่วมมือ จุนฮยองเห็นแบบนั้นเลยเอียงสายตาหลบแววตาเจ้าเล่ห์

    "..."



                   เสียงครางหวานถูกกดให้เบาที่สุดเท่าที่จะควบคุมได้ ถึงแม้ปริมาณความสุขสมจะมากมายเพียงใดทว่าเขายังมีลูกสาวตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่ไม่ไกลให้ต้องแคร์อยู่ ดูจุนขบกรามแน่นจากความบีบรัดด้านใน เนิ่นนานที่เขาไม่ได้สัมผัสกันลึกซึ้งเช่นนี้ ราวกับนี่เป็นครั้งแรกของกันและกัน 

    "แน่น"เสียงทุ้มกระซิบบอกพลางขยับร่างอย่างเชื่องช้าเพราะกลัวว่าใต้ร่างของเขาจะเจ็บปวด

    "อื้อ..ทะ ทำเลย"บอกอนุญาตในสิ่งที่ตัวเองก็ต้องการ ร่างสูงยิ้มร้ายที่มุมปากก่อนจะเริ่มเร่งเวลาให้เร็วขึ้น ร่างโปร่งเกาะไหล่กว้างแน่นกว่าเดิมก่อนเวลาเนิ่นนานจะพาทั้งคู่สู่จุดสูงสุดของอารมณ์เกือบพร้อมกัน...


     

                    ลมหายใจหอบกระชั้นดังไปทั้งห้องหลังจากกิจกรรมมร้อนแรงได้จบลง ร่างสูงถอนร่างออกจากอีกคนลงมานอนข้างกัน เขาดึงไหล่บางเข้ามากอดไว้ อีกคนที่ร้าวไปทั้งร่างขยับไปตามแรงนั้น

    "ถ้าพรุ่งนี้ฉันลุกไม่ไหวนายต้องลางานมาเลี้ยงลูกนะ"คาดโทษคนรุนแรงเอาไว้เผื่อจะกลัว ดูจุนยิ้มก่อนจะจูบเรือนผอมชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่

    "ก็ใครบอกให้ทำล่ะ"มันกลัวเขาเสียที่ไหน ยุนดูจุนไม่เคยได้ยินหรือไงว่ากลัวเมียแล้วจะเจริญ จุนฮยองทุบอกอีกคนไปทีนึง 

    "ไม่ได้ให้รุนแรงไง"ว่าเสียงเขียว ก่อนจะได้ยินเสียงขยับตัวจากเบาะใกล้ๆ เตียง แทบลืมไปเลยว่ามีลูกอยู่ด้วย

    "ขอโทษครับคุณแม่ ไปเถอะ พี่พาไปล้างตัว"หลังจากสังเกตดูเจ้าตัวเล็กที่เปลี่ยนท่านอนท่าที่ร้อยเห็นจะได้ก็หันกลับมาพูดกับเขาเสียงนุ่ม พอคิดถึง 'การล้างตัว' พวงแก้มใสก็แดงขึ้นมาเสียอย่างนั้น




    'กลายเป็นคนอ่อนโยนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ยุนดูจุน'





    "อื้อ"













                  ดูจุนประคองร่างผอมกลับมานั่งที่เตียงหลังจากสวมเสื้อผ้ากันเรียบร้อย(?) จุนฮยองในเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงนอนขายาวมองอีกคนที่พอพามาถึงเตียงก็ลุกไปก้มดูลูก ร่างเกือบเปลือยของคนที่ว่าทำเอาเขาส่ายหัวระอา

    "ไปใส่เสื้อดีๆ ได้ไหมดูจุน ใส่กางเกงในแค่นั้นอุจาดตา"ยิ่งพวกเขามีลูกสาวอีก ดูจุนไม่รู้หรือไงว่าลูกไม่ควรมาเห็นอะไรแบบนี้ แค่พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่ยังเครียดเลยว่าจะเลี้ยงให้โตมายังไงให้เป็นผู้หญิง

    "กลัวอดใจไม่ไหวก็บอก"กวนประสาทขั้นสุด พอรู้ว่าให้อภัย รู้ว่ารักเหมือนเดิมก็กวนจนน่าเอาอะไรเขวี้ยงใส่หัวสักที จุนฮยองเบะปากใส่ก่อนจะขยับตัวขึ้นนอนหันหลังให้ ร่างสูงเดินกลับมาสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน แขนแกร่งรั้งร่างนั้นมากอดไว้ก่อนจะกระะซิบบอกให้หันมาพูดกัน

    "มีอะไร"ว่าอย่างรำคาญก่อนจะเอียงหน้ามาหา ดวงตาคมมองแก้มใสอย่างสำรวจ

    "พรุ่งนี้เราพาลูกไปข้างนอกกันก่อนนะ"จุนฮยองเลิกคิ้วสูง 

    "ไม่ไปทำงานหรือไง"เพราะอย่างไรพรุ่งนี้ก็คือวันจันทร์ ตัวเขาเองที่เคลียวันได้เสมอก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ดูจุนที่ตอนนี้เป็นกึ่งพนักงานบริษัทไปแล้วก็ต้องเข้างานไง

    "บอกบอสไว้แล้ว"ลืมไปว่าเส้นใหญ่มาก ใช้ความเป็นรุ่นพี่แฟนเจ้าของบริษัทขอลางานได้เสมอ ไอดอลหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก

    "ไปไหนอ่ะ"ถามโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรกับคำตอบ ดูจุนจับให้คนถามหันหน้ามาหา คนที่ว่าดิ้นขลุกขลักเริ่มหงุดหงิดนิดๆ เพราะเหนื่อยและง่วง

    "ไปดูบ้านกัน"คนได้รับคำตอบนิ่งไปหลายอึดใจ เขาตาสว่างในทันทีที่ประมวลผลจบ

    "บ้าน?"ดูจุนพยักหน้ารับ

    "บ้านของเราไง ไปดูกันว่าจุนฮยองชอบไหม ถ้าชอบพี่จะได้ให้ลีนามาสัญญาเลย ไม่โกรธใช่ไหมที่พี่ไม่ได้ปรึกษาก่อน"ดูจุนว่ายาวเหยียด คนฟังนอนฟังตาปริบๆ เขาไม่รู้ เขาดูไม่ออกว่าจุนฮยองคิดอะไรรู้สึกแบบไหน เลยตัดสินใจบอกก่อนจะซื้อมันดีกว่าทั้งที่อยากให้เซอร์ไพร์ส

    "บ้านเรา?"

    "ใช่ บ้านเรา พี่ว่าเราควรมีสนามหญ้าให้จีฮ.."อีกคนกอดเขาแน่น ใบหน้าขาวซุกลงบนอกแกร่งพร้อมกับร่างที่สั่นเทิ้ม

    "ขอบคุณนะ ขอบคุณ"ชายหนุ่มที่ยังคงงงอยู่ว่าคนรักของตัวเองเป็นอะไรก็ยังกอดเอาไว้ คางแหลมเกยกับกระหม่อมบางให้รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ด้วยตรงนี้

    "ร้องไห้ทำไมไม่ร้องนะครับ"แทบจะไม่เคยเห็นคนคนนี้ร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว จุนฮยองที่มักจะทำตัวแข็งแกร่งเสมอแม้แต่ตอนที่เขาทำให้เสียใจที่สุดยังมีน้ำตาให้ไม่กี่หยด ใบหน้าขาวเช็ดน้ำตากับอกเปล่านั่นก่อนจะร้องตอบอู้อี้

    "ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันกับลูก"น้ำตานี้เป็นเพราะเขาดีใจที่ถูกอีกฝ่ายให้ความสำคัญ ร่างสูงระบายยิ้มกว้างแล้วดันร่างผอมออกห่างตัวเพื่อดูว่ายังมีนำ้ตาเปื้อนอยู่ตรงไหนอีก

    "ไม่ร้องนะ"ท่าทีนั้นแสนจะอ่อนโยน นิ้วใหญ่เกลี่ยรอยน้ำที่เปื้อนบนแก้ม เขามองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู จุนฮยองยิ้มเขินที่ตัวเองมาอ่อนไหวอะไรกับเรื่องนี้

    "ขอบคุณนะที่รักฉันจริงๆ"เสียงนั้นพูดงึมงำในลำคอ ดูจุนจูบเรือนผมนุ่ม เขาไม่รู้หรอกว่าคนในอ้อมกอดของเขาจะเชื่อใจเขาจริงๆ เมื่อไหร่ แต่ตัวเขารู้และเชื่อใจตัวเองว่าเขารักคนคนนี้และลูกมากที่สุด 

    "ฉันก็ต้องขอบคุณจุนฮยองที่รักแล้วก็อดทนกับนิสัยไม่ดีของฉัน กับความโง่ที่ไม่เคยมองเห็นเลยว่าจุนฮยองรักฉันมากแค่ไหน ต่อแต่นี้ไปเรามาอยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นครอบครัวกันจริงๆ นะ"คนในอ้อมกอดเงียบไป เขาก้มมองเห็นเพียงรอยยิ้มเต็มแก้มที่อีกฝ่ายมอบให้ ร่างสูงจูบเบาๆ บนปลายจมูกโด่ง

    "อื้อ เรามาผ่านเรื่องต่างๆ ไปด้วยกันเถอะ..พี่ดูจุน"












                งานวันเกิดจีฮุนถูกจัดเล็กๆ ในเพนเฮ้าส์ของไอดอลหนุ่ม ในงานมีเพื่อนๆ ของพวกเขานั่งคุย นั่งเล่นเกมอย่างสนุก จียุนได้รับอนุญาตเก็บภาพในงานไปลงได้ตามที่เหมาะสม ซึ่งเธอผู้มีแต่ความหวังดีก็เลือกเฉพาะรูปน่ารักๆ ของหลานสาวตัวน้อยและป๊ะป๋าเท่านั้น

    "สวีทเวอร์อ่ะคุณพ่อคุณแม่"ฮยอนอาที่นั่งคุยกับจียุนอยู่หันมาแซวสองคนที่กำลังจัดผมให้กัน จุนฮยองหันมายิ้มให้เพื่อนเขินๆ

    "ว่าแต่เรื่องบ้านใหม่นี่ยังไง จะย้ายเมื่อไหร่"จียุนถามบ้างเพราะได้ยินคุยกันเรื่องนี้มาตั้งแต่เข้างาน

    "น่าจะสองสามเดือนแหละ ยังไม่ได้ตกแต่งภายในเลย"ดูจุนตอบเสียงเรียบ เขาที่เอาจริงๆ ก็ยังไม่ค่อยชอบนักข่าวเท่าไหร่พยายามทำดีกับจียุนในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ที่คนรักของตัวเองสนิท คนที่เขาพูดด้วยพยักหน้ารับ

    "และจะแต่งกันไหม"คำถามของฮยอนอาทำเอาห้องนั้นเงียบสนิท คู่ที่ถูกถามมองตากันปริบๆ

    "ว่าไง"โยซอบเดินมานั่งลงข้างๆ โดยมรกีกวังกับดงอุนตามมาด้วย

    "ก็...."จุนฮยองหันมาเชิงถามอีกคน ดูจุนสบตาเขาก่อนจะตอบออกมา

    "อยากไปแต่งนะ แต่คนนี้เขาคนดังอ่ะคงต้องรอเวลาก่อน"ถึงจะไม่เคยพูดกันเรื่องนี้ แต่ดูจุนก็คิดเอาไว้แล้วว่ามันเป็นสิ่งที่เขาอยากทำด้วย เคยวางแผนจะขอแต่งงานแบบหวานๆทแต่คิดไปคิดมามันดูไม่ได้เมหมาะกับพวกเขานักเลยไม่เอา

    "นี่ขอแต่งงาน?"ถามพร้อมกับทำหน้างงๆ ดูจุนที่ทีแรกไม่ได้คิดถึงจุดนั้นนึกได้ทันที ก่อนที่จะพยักหน้ารับ

    "แต่งงานกันนะ ไว้ตอนที่จุนฮยองพร้อมก็ได้"เป็นคำขอที่ไม่ได้โรแมนติค ไม่มีพิธี แล้วก็มีเพื่อนยืนล้อมเต็มไปหมด  คนอื่นมองมาที่พวกเขา รอยยิ้มบนหน้านั่นทำให้รู้ว่าที่ดูจุนพูดคือเรื่องจริง

    "เราสองคน?"

    "ใช่ ...เราสองคนไง หรือจะให้พี่ไปแต่งกับคนอื่น"แหย่คนงงให้รู้สติ จุนฮยองฟาดเพี๊ยะบนไหล่กว้าง ก่อนจะว่า

    "ลองไปแต่งกับคนอื่นสิ จะร้ายกว่าตอนก่อนมีลูกให้ดู"เป็นคำขู่ที่น่ากลัวสุดๆ ร่างสูงดึงคนโหดมากอดไว้โดยไม่อายคนอื่นตรงนั้น 

    "ไม่กล้าหรอกคร๊าบบบ รักจะตายแล้วเนี่ย"แถมยังหยอดคำหวานจนคนรอบข้างทำหน้าเลี่ยนใส่ 

    "ให้ดีๆ นะ"ยังคงทำเสียงดุต่อ เจ้าของใบหน้าคมคายยิ้มกว้างไม่ตอบโต้ ทำเพียงเค้นถามเพื่อจะเอาคำตอบเท่านั้น

    "แล้วตกลงจะแต่งไหม"



    "แต่งก็แต่ง"






    ก็ถ้าไม่แต่งกับยุนดูจุนจะให้ไปแต่งกับหมาที่ไหนล่ะ...









    #happy ending #ANTM #





    จบเรื่องหลักแล้วจ้าาาาาาาา ชอบไม่ชอบก็ติได้นะคะ เรื่องรวมเล่มทำไมน้อยนิดจังเลยยยยย เราไม่อยากพิมพ์เกินทแต่ได้ยอดไม่ถึงเลยง่ะ เอาไว้แจ้งอีกทีแล้วกันนะคะ ส่วนมครที่สนใจและยังไม่ได้แจ้งความต้องการก็ตามลิ้งค์นี้เลยค่า https://docs.google.com/forms/d/1QoGKtPXAOTHYTxpnRwsGszfcSVmlEjInEkcZVM4GUGc

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×