ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ANATHEMA - HIGHLIGHT

    ลำดับตอนที่ #17 : CHAPTER SIXTEEN : Set 'ZERO'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 116
      14
      4 ก.ย. 61

    SIXTEEN : Set 'ZERO'

















                   ดูจุนถือกล่องผลไม้ที่ปอกเสร็จแล้วเดินเข้าไปในห้องของจุนฮยองหลังจากที่แทอูมาเปิดประตูรับเขา วันนี้จุนฮยองต้องไปถ่ายเอ็มวีเขาเลยมาเช้าเป็นพิเศษ

    "อ้าว พี่ดูจุน"โยซอบร้องทัก ผู้จัดการส่วนตัวของจุนฮยองยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา หลายครั้งแล้วที่เจอกันหลังจากมีเรื่องคราวนั้น คนตัวเล็กที่ทีแรกก็ดูมึนตึงใส่ทุกวันนี้เป็นมิตรเหมือนเก่า ดูจุนยิ้มทักทายก่อนจะเดินไปนั่งใกลักับรุ่นน้อง

    "มารับจุนฮยองเหรอ"ถามเสียงเรียบ คนที่ว่าพยักหน้ารับ 

    "พี่ฝากนี่ให้เขาหน่อยนะ"ยื่นกล่องในมือให้ โยซอบรับมางงๆ ทั้งที่ที่จริงก็มาถึงที่ และตัวจุนฮยองเองอีกไม่นานก็คงออกมาให้ได้เจอแล้ว

    "เดี๋ยวมันก็ออกมา พี่ไม่ให้เองกับมือล่ะ"ถามเสียงเรียบ ร่างสูงระบายยิ้มจาง

    "พี่มีงานเหมือนกันหนะ ไปนะ"พูดแล้วก็ลุกออกไปทันที ผู้จัดการคนเก่งมองตามแผ่นหลังนั้นไปอย่างไม่เข้าใจ เขาหันไปมองพี่เลี้ยงของหลานอย่างขอคำตอบ ก่อนที่คนอายุน้อยกว่าจะตัดสินใจพูดสิ่งที่เห็นให้ฟัง

    "พี่เขาเอาให้เองทุกวันนั่นแหละครับ แล้วพี่จุนฮยองก็เอาทิ้งต่อหน้าเขาทุกวัน"บอกเสียงหนักใจ คนที่เป็นทั้งผู้จัดการและเพื่อนสนิทเลิกคิ้วสูง 

    "ยังไง"ไม่ใช่ไม่เข้าใจที่น้องบอก แต่เขาแค่อยากให้มันกระจ่างว่ามันเป็นเรื่องแบบไหนกันแน่ แทอูเดินมานั่งลงแทนที่ดูจุน ก่อนจะเล่า







    สองสัปดาห์ก่อน..



    "ฉันเอาแอ็ปเปิ้ลมาให้ นายเคยชอบกินนี่ ตอนท้องจีฮุน"ดูจุนบอก พร้อมกับยื่นถ้วยใส่ชิ้นผลไม้ที่หั่นและปอกมาแล้วเรียบร้อยส่งให้จุนฮยอง คนที่ว่ารับมาถือไว้ ดวงตาใสมองร่างสูงก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา มือขาวเอื้อมไปที่ถังขยะใกล้ๆ นั่น ก่อนจะเททั้งหมดทิ้งลงไป

    "พี่..."แทอูที่ยื่นอยู่ตรงนั้นร้องเรียกคนที่ว่าด้วยความตกใจ ใบหน้าคมคายเจื่อนลงจนแทบไม่มีสี ดวงตานั้นหมองลงชัดเจน

    "ก็แค่เคย"ตอบสั้นๆ ก่อนจะวางถ้วยนั้นใส่มือหนาแล้วหันหลังเดินหนีเจ้าห้องนอนไป ดูตุนที่มือแทบจะไร้เรี่ยวแรงปล่อยของที่ว่าให้ร่วงลงพื้น แทอูเดินเข้ามาจะปลอบฝ่ายนั้นก็ยกมือขึ้นห้าม

    "ไม่เป็นไรหรอก"บอกเสียงสั่นและเดินไปนั่งลงที่ข้างๆ เปลของลูก


    8วันก่อน


    "ไม่กิน"พูดจบก็โยนแซนวิชทูน่าโฮมเมดที่ดูจุนตื่นขึ้นมาทำให้เองลงถังขยะใบเก่า



    4วันก่อน


    "..."จุนฮยองเทน้ำส้มคั้นทิ้งในอ่างล้างจาน


    เมื่อวาน



    "นายจะเอามาอีกกี่วันฉันก็ไม่กิน"จุนฮยองบอกพลางโยนขวดนมรสกล้วยใส่ถีงขยะต่อหน้าร่างสูง แทอูซึ่งอุ้มปลอบใจจีฮุนที่จู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุอยู่อึ้งไปอีกครั้ง คราวนี้ดูจุนก้มลงไปหยิบของที่ว่านั่นจากถังขยะ 

    "ถ้าไม่เอาฉันจะเอาไปทิ้งให้นะ"บอกพร้อมรอยยิ้มเศร้า จุนฮยองไม่ตอบอะไร เดินมาหาเขาและรับจีฮุนไปอุ้มปลอบเอง คนที่ว่าเดินหายไปที่ระเบียงโดยมีเขามองตามไป

    "โดนทุกวันไม่เข็ดหรือไง"ตัดสินใจถามเพราะแทบทุกวันที่ผ่านมาเขาเห็นภาพแบบนี้เสมอ ทว่าก็คงยังไม่ชิน

    "พี่จะทำแบบนี้ตลอดไป"หันมายิ้มก่อนจะกระชับกระเป๋ากล้องถ่ายรูปของตัวเอง แทอูถอนหายใจก่อนจะวางมือบนไหล่เชิงให้กำลังใจ








    "โคตรสงสารพี่เขาเลยอ่ะพี่"แทอุว่าเสียงเศร้า รุ่นพี่ตัวเล็กกว่าขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า  ความสงสัยว่าเพื่อนต้องการทำอะไรมีขึ้นมากแย่างหนัก จำได้ว่าครั้งก่อนที่คุยกันจุนฮยองอ่อนไปมากแล้ว อ่อนลงจนเขาคิดว่าอาจจะเลิกงอนกันและคืนดีกันในเร็ววัน แต่นี่...

    "คิดอะไรของมันนะ"บ่นพึมพำอย่างหนักใจ โยซอบเอง ไม่ใช่สิ แทบทุกคนรู้ว่าการมาของดูจุนครั้งนี้ไม่ได้เคลือบแฝงอะไร คนที่ว่ามาเพื่อต้องการเอาจุนฮยองกลับไปเป็นของตัวเอง เอาครอบครัวกลับมา สิ่งที่เสียไปทั้งโอกาสในงานที่จะได้รับ ทั้งอนาคตต่างๆ ก็แลกทั้งหมดเพื่อคนขี้งอนแสนงี่เง่านั่น

    "ก็รู้นะว่าพี่เขาเจ็บมาเยอะ แต่ก็ไม่เห็นต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนั้น"แทอูพูดต่อ พอดีกับที่คนที่ถูกพูดถึงเดินออกมาจากในห้องนอน โยซอบหันไปมองเพื่อน เขาเลือกยังไม่พูดอะไรในตอนนั้

    "ไปกัน"จุนฮยองเอ่ยชวนโดยไม่รู้อะไร เพื่อนตัวเล็กลุกขึ้นเต็มความสูง เขาไม่ลืมที่จะถือกล่องผลไม้ติดมือมา

    "อื้อ"เดินนำออกไปก่อน โดยมีเจ้าของห้องที่แวะดูเด็กหญิงตัวอวบที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในเปลด้วยรอยยิ้มแล้วถึงเดินตามหลังไป


    "ของนาย"โยซอบยื่นให้ขณะที่กำลังก้าวขึ้นนั่งบนรถ จุนฮยองรับมาไว้ในมือ คิดนิดนึงก่อนจะวางมันลงกับพื้นที่ข้างเท้า

    "ไม่คิดจะเปิดดูสักหน่อยหรือไง"เพื่อนตัวเล็กท้วง อีกคนเหลือบตาไปมอง เดาออกว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ 

    "ไม่อ่ะ เดี๋ยวไปถึงกองค่อยโยนทิ้ง"พูดอย่างไม่ใส่ใจ โยซอบถอนหายใจ

    "ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรวะ"คนตัวเล็กกว่าหันมามองอย่างไม่เข้าใจ 

    "....."จุนฮยองไม่ยอมตอบ ฝ่ายนั้นเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นสายตาคาดคั้น

    "จะผลักไสเขาทำไมในเมื่อตัวเองก็ยังรักเขาอยู่"ทำไมจะไม่รู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง เมื่ครู่ตอนที่เขายื่นกล่องให้เขาเห็นแววตาตื่นเต้นดีใจที่มีขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนดวงตานั้นจะหมองลงมาและทำแบบนั้น

    "ฉันไม่.."หันไปจะเถียง แต่สุดท้ายพอเห็นว่าเพื่อนที่มองมานั้นรู้ทันเขาในทุกเรื่องอยู่แล้วเลยไม่พูดจนจบ 

    "ไม่อะไร"น้ำเสียงเข้มคาดคั้นอยากได้คำตอบเสียเดี๋ยวนี้ คนตัวใหญ่กว่าฮึดฮัดรำคาญใจว่าเพื่อนจะมาเอาอะไรจากเขาหนักหนา รู้ก็รู้ดีกว่าใคร

    "ไม่มีอะไร ฉันแค่ไม่อยากให้เขาคิดว่าฉันใจง่ายเหมือนเมื่อก่อน"ฟังแค่นั้นเขาก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาในทันที อะไรที่ทำให้คิดว่าแค่รับของจากอีกคนจะทำให้ดูใจง่ายวะ

    "มันใจง่ายยังไงวะ แค่รับของฝาก แล้วเนี่ยถ้าเขาโดนทำร้ายจิตใจมากๆ แล้วเลิกง้อ เลิกสนล่ะ"จี้ใจนิดหน่อยเผื่อจะรู้สึกบ้าง ไอดอลหนุ่มนิ่งไปนิดก่อนตอบเสียงอ้อมแอ้ม

    "ก็ถ้าทำแค่นี้แล้วจะไปก็ช่างเถอะ"โยซอบยิ้มบางๆ อย่างรู้ทัน สองคนไม่ได้พูดอะไรกันต่อ เขาคิดว่าการพูดให้ฟังแล้วปล่อยให้คิดเอาเองน่าจะดีกับจุนฮยองมากกว่า 



    'ก็ยังรักเขาอยู่แท้ๆ'











    >>> ANATHEMA<<<











              ดูจุนนั่งแก้ไฟล์ภาพอยู่ในมุมนึงของบริษัทเงียบๆ เขาไม่ได้ลงไปพักเที่ยงแบบคนอื่น อยากจะเร่งทำงานให้เสร็จเพราะตอนเย็นจะได้รีบบึ่งกลับไปหาจีฮุนและรอเจอจุนฮยอง 

    "ผมเห็นพี่ไม่ได้ลงไปกินอะไรเลยซื้อมาให้"ดงอุนที่เป็นถึงเจ้าของของที่นี่ยื่นกล่องแซนวิชทูน่าให้เขา คนอายุมากกว่ายิ้มพร้อมกับรับมาวางไว้ข้างมือตัวเอง

    "กินก่อนสักนาทีมันไม่เสียเวลาหรอกน่า"จะว่าคะยั้นคะยอก็ได้ แต่ดงอุนว่าที่อีกคนทำอยู่มันก็เกินไปนิด งานเขาเองก็ไม่ได้เร่ง จะทำอีกสองสามวันก็ได้เพราะจะปิดเล่มก็สุดสัปดาห์นู่น

    "เสร็จเร็วจะได้กลับไปหาลูกเร็วครับ"ตอบห้วนๆ พลางใช้สายตาไล่ดูส่วนต่างๆ ของรูป

    "ไม่เสร็จก็ทำพรุ่งนี้ต่อก็ได้พี่"บอกพลางนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ดูจุนหันไปมองและรู้สึกว่าดงอุนหนะไม่ได้เข้าใจอะไรสักนิด

    "อยากให้มันเสร็จจะได้อยู่กับลูกแบบไม่ต้องกังวล"ถึงจะอ้างแต่ลูกทว่าในใจของเขากลับมีแต่เรื่องจุนฮยองเต็มหัวไปหมด

    "กลับไปเร็วก็เจอแต่ลูกนั่นแหละ วันนี้พี่จุนฮยองถ่ายงานน่าจะถึงดึกๆ เลยนะ"ดงอุนว่า ใบหน้าคมคิดนิดนึงก่อนจะตอบ

    "แบบนั้นยิ่งต้องรีบเลยครับ จุนฮยองกลับดึกเดี๋ยวจีฮุนจะต้องงอแงคิดถึงป๊ะป๋าของเขาแน่ๆ ผมยิ่งต้องรีบไปดูลูก"อยากจะไปหาเจ้าตัวเล็กนั่นเสียเดี๋ยวนี้ ไปนั่งรอคนที่เขาเอาแต่คิดถึงแทบทุกลมหายใจ คนที่ไม่ว่าอีกนานแค่ไหนหรือจะทำร้ายจิตใจเขาอีกกี่พันกี่ล้านทีเขาก็จะไม่ถอดใจคนนั้น

    "งั้นผมไม่กวนแล้ว แต่พี่ต้องอย่าหักโหมมากนักก็ดีนะ เดี๋ยวป่วยขึ้นมาจะไม่มีแรงง้อพี่จุนฮยอง"ว่าจบก็ยิ้มกว้างแล้วเดินออกไป ก็จริงที่ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาคงไม่มีสังขารไหนไปเจอจุนฮยองกับจีฮุน มือหนาละจากเม้าส์มาที่แซนวิชเพื่อกินประทังชีวิตไป







                   ยังไม่ทันถึงเวลาเลิกงานด้วยซ้ำเขาก็แก้ไฟล์รูปเสร็จทั้งหมด นิ้วยาวคลิกส่งทั้งหมดไปที่อีเมลล์ของดงอุนโดยตรง แล้วบอกลาเพื่อนร่วมงานเพราะออกมาก่อน เลือกจะแวะไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเช่นทุกวัน เขาว่าจะทำแซนวิชสดให้จุนฮยองอีกพรุ่งนี้ แต่จะเปลี่ยนไส้เป็นปูอัดกับไข่กุ้งแทน

    "หรือจะทำซูชิในดีวะ"พึมพำกับตัวเองถึงอาหารอีกแบบที่ยังไม่เคยทำให้จุนฮยองเลยสักครั้ง ที่จริงคือเขาไม่เคยทำอะไรเลยสักอย่าง ทุกอย่างใหม่ทั้งหมดจะยกเว้นก็แต่การปอกผลไม้เท่านั้น เขายังจำสีหน้าตอนที่เอาแอ็ปเปิ้ลกับกีวี่มาให้จุนฮยองครั้งแรกสมัยที่ยังท้องอยู่ ถึงจะไม่รู้ก็ตามที ดวงตาตื่นเต้นนั้น รอยยิ้มบางเบาที่มอบให้ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขและความรักที่มีให้เขา แต่เขาทำมันพังแล้ว...





    'และกำลังสร้างมันกลับมาใหม่'







    "พี่ดูจุน"เสียงหวานที่คุ้นว่าเคยได้ยินจากที่ไหนร้องทัก ร่างสูงหันไปมองตามเสียงก็อึ้งไปนิดหน่อย หญิงสาวรูปร่างผอมสวย ใบหน้าขาวใสแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางงดงามราวกับภาพวาด ทว่านั่นไม่ได้ทำให้จิตใจของเขาหวั่นไหวเหมือนเมื่อก่อนเลย

    "ลีนา"ใช่เธอคือคิมลีนาแฟนเก่าที่เคยคบหากันมาหลายปีก่อนจะเลิกลากันไปในตอนนั้น หญิงสาวที่รับไม่ได้กับการที่เขาต้องติดอยู่กับจุนฮยองทั้งที่มันก็เป็นแบบนั้นมานาน และเขาก็เพิ่งรู้หลังเลิกกันว่า เธอมีคนอื่นมาตลอดการคบกับเขา

    "พี่สบายดีไหมคะ"เธอถามหยั่งเชิง คนตัวสูงยิ้มอย่างมีมารยาทก่อนจะตอบ

    "ก็สบายดีครับ"ขอไม่อยากคุยต่อ เพราะแค่เห็นสายตาที่มองมาแบบแปลกๆ นั้นก็อยากจะรีบหนีไปให้พ้น

    "ฉันรู้มาว่าพี่ไปเป็นช่างภาพที่ต่างประเทศมา แค่ปีเดียวทำไมกลับมาล่ะคะ ไม่เวิร์คเหรอ"ถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาให้รู้ว่าต้องการคำตอบจริงๆ ดูจุนเลิกคิ้วเชิงคิด ไม่ใช่ว่าเขาโกหกไม่เก่ง แต่บางทีลีนาก็รู้จักเขาดีเกินกว่าจะไม่รู้ว่าที่เขาพูดมันจริงหรือไม่จริง 

    "ก็ดีนั่นแหละ แต่มีเรื่องสำคัญที่นี่เลยกลับมา"ตอบเลี่ยงๆ  พลางหันไปเลือกซื้อผักต่อ ลีนาขยับตัวเข้ามาใกล้อีก สาวเจ้าแตะมือที่ต้นแขนของเขาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

    "ไม่ใช่ว่าพี่กลับมาเพราะยงจุนฮยองนะ"อย่างกับตาเห็น ดูจุนหันมองใบหน้าสะสวยนั้นอย่างอึ้งๆ เธอจะรู้ได้อย่างไรในเรื่องระหว่างเขาทั้งคู่เพราะตั้งแต่เลิกราก็ไม่ได้เจอกันอีกเกือบสองปี ไม่ติดต่อกัน บลอกทุกทางเสียด้วยซ้ำ

    "หมะ หมายถึง..อะไร"ถามกลับตะกุกตะกัก  หญิงสาวยิ้มก่อนจะตอบ

    "พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันดูออกว่าพี่หนะเห็นจุนฮยองสำคัญกว่าใครมาตั้งนานแล้ว"ลีนาบอกเสียงเรียบพร้อมรอยยิ้ม นานมาแล้วที่เธองี่เง่าทุกครั้งเมื่อดูจุนต้องอยู่ใกล้คนคนนั้น เธอเห็นทั้งสายตา ทั้งท่าทางที่จุนฮยองมีให้อดีตคนรัก แต่นั้นไม่ได้ทำให้เธอเจ็บเท่ากับการที่เขาปกป้องและดูแลกันโดยไม่รู้ตัว ถึงจะดูหงุดหงิดไม่พอใจ ทำเหมือนเกลียดทว่าสิ่งที่ลีนาเห็นคือแววตาเจ็บปวดที่คนเคยรักคนนี้ใช้มองไอดอลหนุ่มคนนั้น




    ที่มีคนอื่น ที่เดินออกมาเพราะคิมลีนาไม่อาจจะอดทนได้อีกแล้ว






    "มัน เอ่อ..."จะปฏิเสธว่าถ้าหมายถึงเมื่อก่อนมันไม่จริงแต่ก็ถูกรอยยิ้มหวานของคนตรงหน้าหยุดไว้ เจ้าหล่อนทำท่าหันไปดูผลไม้ใกล้ๆ ตรงนั้นก่อนจะพูดต่อ

    "ถึงตอนนั้นพี่จะไม่รู้ แต่ตอนนี้ที่พี่ทิ้งทุกอย่างมาที่นี่ก็น่าจะเพราะเขาไม่ใช่เหรอคะ"ดูจุนนิ่งอึ้งไม่คิดว่าจะถูกอ่านจนขาดไปหมดทุกข้อแบบนี้ 

    "ก็...ใช่"เพราะถึงอย่างไรเขาเองก็ควรจะบอกไปตรงๆ เหตุผลที่มาอยู่ตรงนี้ทั้งหมดเพระจุนฮยองกับจีฮุน 

    "ก็ดีนะคะที่พี่ยอมรับใจตัวเองได้ ฉันยินดีด้วยจริงๆ"บอกด้วยน้ำเสียงจริงใจ รอยยิ้มหวานแบบที่เขาเคยตกหลุมรักคอนนี้เป็นเพียงรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรเท่านั้น ในใจเขามีเพียงรอยยิ้มของจีฮุนและรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นนานแล้วของจุนฮยองเพียงเท่านั้น

    "ครับ"ตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง ดูจุนหันไปหยิบผักอีกสองสามอย่างไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ลอบมองเขา เธอระบายยิ้มบางๆ

    "ลูกสาวเขาหนะน่ารักดีนะคะฉันดูในไอจีตลอดเลย พี่ได้เจอหรือยัง"ร่างสูงนิ่งไปนิดกับคำถาม เขาไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจมาทักนี่อยากจะรู้อะไรหรือเปล่า

    "ครับน่ารักมาก ขอตัวก่อนนะครับ มีธุระต่อ"ว่าแค่นั้นแล้วก็ตัดบทขอตัวในทันที ลีนาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหลีกทางให้เขาเดินออกจากตรงนั่น คนตัวสูงถอนกายใจโล่งอก เขาไม่อยากโกหกหรือปิดบังใครอีก

    "ไว้ฉันจะไปหาพี่บ้างนะคะ"เธอพูดไล่หลัง ดูจุนแกล้งไม่ได้ยินและตรงไปจ่ายเงินทันที

















                  ร่างสูงหอบข้าวของมาวางบนโต๊ะกินข้าวอย่างทะลักทุเลเพราะมันมีถึงนึงที่ขาดและของในถุงก็ร่วงเกือบหมดดีที่เขามาทำขาดตอนที่ออกจากลิฟต์มาแล้วเลยไม่ต้องลำบากนาน มือสวยรีบจัดข้าวของใส่ตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบ เงยหน้ามองนาฬิกานี่ก็เพิ่งจะห้าโมงกว่า เขาควรต้องอาบน้ำสักหน่อยก่อนจะไปฟัดแก้มมเด็กหน้าวัยห้าเดือนกว่าที่เริ่มพลิกคว่ำพลิกหงายและคืบเองได้แล้ว


    "คิดถึงยัยหนูกับแม่เขาจัง"พึมพำกับตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ  มือหนาเคาะประตูห้องเบาๆ ไม่นานนักแทอูก็เปิดต้อนรับเขาเช่นทุกครั้ง เด็กหนุ่มในชุดหล่อยิ้มกว้าง มองไปในห้องเห็นมีกระเป๋าเครื่องสำอางตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากเปลไฟฟ้าของจีฮุน

    "มีงานเหรอ"ถามก่อนที่น้องจะเอ่ยปาก แทอูพยักหน้าทันที 

    "งั้นไปเถอะ พี่ดูน้องเอง"บอกอย่างใจดี ทั้งที่ที่จริงมันก็ควรจะเป็นเขาที่ได้ดูแลเจ้าตัวน้อยนี่เอง 

    "ครับพี่ ขอบคุณนะครับ ..เอ่อ แล้วก็รบกวนฝากพี่บอกพี่จุนฮยองให้ทีว่าผมคงไม่ได้กลับมาที่ห้องคืนนี้"เพราะนี่ก็มืดแล้วงานของแทอูช่วงค่ำคงไม่พ้นพวกแต่งหน้างานปาร์ตี้เป็นแน่และเจ้าตัวคงได้ร่วมสนุกด้วย

    "ได้สิ ไว้พี่เขามาพี่จะบอกให้"คนที่ว่าพยักหน้าก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบข้าวของของตัวเองอย่างลิงโลด คนตัวผอมก้มลงฟัดแก้มยุ้ยของเด็กหญิงก่อนจะนีบออกไป คนอายุมากกว่ามองตามยิ้มๆ เขาเดินไปอุ้มจีฮุนขึ้นมาจากเปล เจ้าของพวงแก้มใสยิ้มกว้างที่ได้เห็นเขา มืออวบตีเบาๆ ที่หน้าของคนอุ้ม ก่อนที่เขาจะเอาปลายจมูกโด่งยีแก้มนั้น

    "แอ๊ะๆ"หัวเราะออกมา เขาหยุดแกล้งแล้วมามองความน่าเอ็นดูนั้น จีฮุนมีรูปตารูปปากเหมือนกับจุนฮยอง แก้มกลมนั้นก็คล้ายกันกับตอนจุนฮยองเวลาน้ำหนักขึ้นเยอะๆ จะมีก็แต่จมูกที่เหมือนกับเขาราวกับแกะกันออกมา ...ดีแล้วล่ะที่ลูกเหมือนจุนฮยองมากกว่าจะได้ดูหน้าหวานสักหน่อย

    "หิวไหมคะลูก"ถามเจ้าตัวน้อยอย่างรักใคร่ จีฮุนยิ้มเช่นเดิมเจ้าตัวน้อยเอนตัวไปมาอย่างสนุก เขาเดินไปหยิบขวดนมที่แทอูเตรียมไว้มาแตะทีริมฝีปากของลูก คนรู้ดีช่วยเขาจับขวดก่อนจะดูดจนแก้มป่องกว่าเก่า






                   ดูจุนเผลอหลับไปบนโซฟาที่ข้างตัวเขาเป็นเจ้าตัวน้อยที่หลับคาขวดนมไปเลยเช่นกัน เขาถูกมือนุ่มสะกิดเรียกให้ตื่น ดวงตาคมปรือมองคนที่ว่าก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างลืมตัว 

    "มาแล้วเหรอ"คนเพิ่งตื่นนอนถามงงๆ จุนฮยองเลิกคิ้วเชิงว่าก็เห็นว่าอยู่ตรงนี้จะมาถามทำไม

    "แทอูล่ะ"ถามหาอีกคนที่ควรจะอยู่ด้วย ดูจุนขยับตัวเบาๆ ค่อยๆ อุ้มจีฮุนขึ้นมาวางบนเปลไฟฟ้าก่อนจะหันมาตอบคนที่รออยู่

    "น้องให้บอกว่าวันนี้คงไม่ได้กลับ"ว่าเสียงเรียบพลางทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดิม เจ้าของห้องจิ๊ปาก หงุดหงิดนิดหน่อยที่คนเป็นน้องไม่ยอมไลน์มาบอกเอง กลับมาฝากให้ดูจุนเป็นธุระให้แบบนี้

    "หงุดหงิดที่ฉันวุ่นวายเรื่องของนายกับน้องเหรอ... ขอโทษนะ"ร่างสูงมองเห็นท่าทีไม่ชอบใจนั่นก็เกิดคิดไปเองว่าคงทำเรื่องไม่เข้าท่าอีก รู้ดีว่าสำหรับจุนฮยองไม่ว่าจะอะไรถ้าเป็นเขาก็ดูขัดลูกตาไปเสียหมด ที่ยังได้อยู่ตรงนี้ตอนนี้ก็เป็นเพราะจีฮุนแค่นั้น ที่ได้อยู่ก็เพราะเขาเป็นพ่อของลูกเท่านั้นจริงๆ

    "ไม่ได้ว่าอะไรนี่ นายกลับได้แล้วมั๊ง นี่ดึกแล้ว"ออกปากไล่ในทันทีที่นึกได้ ร่างสูงระบายยิ้มแห้งๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    "งั้นนายดูลูกคนเดียวไหวนะ มีอะไรก็โทรไปแล้วกัน นายน่าจะมีเบอร์ฉัน"ว่าจบก็เดินออกมาจากตรงนั้น ขายาวก้าวตรงไปที่บานประตูใหญ่หน้าห้อง

    "ไม่เหนื่อยหรือไง"เสียงห้าวร้องถามตามมาจากด้านหลัง เขาชะงักเท้าในทันที ใบหน้าคมคายที่รู้ดีว่าตัวเองคงซ่อนสีหน้าอ่อนล้านั่นไม่ได้ในตอนนี้เลือกจะไม่หันไปสบตา เขาทำเพียงส่งเสียงตอบไป

    "ไม่เลย ไม่เหนื่อยสักนิด"ตอบประโยคนั้นได้ยาวที่สุดเพียงเท่านี้ เขากลัวเหลือเกินว่าความเย็นชาในทุกครั้งของจุนฮยองมันจะชนะความรักที่ตัวเขามี มันคงจะดีขึ้นสักนิดถ้าจุนฮยองดีกับเขาบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ด่าทอกันด้วยคำพูดแต่เขาเห็นแววตาที่เย็นชาเฉยเมยนั้นทุกครั้งที่มอง แววตาที่ไม่เคยมีเงาของเขา ได้เพียงแต่บอกตัวเองทุกวันว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะยุนดูจุนทำตัวเองทั้งนั้น

    "เลิกพยายามเถอะดูจุน ฉันรู้ว่านายเหนื่อย เลิกทำเรื่องที่จะไม่มีวันสำเร็จสักที เราไม่มีวันเป็นแบบที่นายอยากให้เป็นได้หรอก"ในน้ำเสียงหนักแน่นนั้นเขารู้ดีว่าจุนฮยองเพียงต้องการขับไสเขาให้พ้นไป คำพูดตัดรอนนั้นราวกับมีดที่กรีดลงบนหัวใจเขาเข้าที่แผลแผลเดิมที่เพิ่งจะเริ่มดี และกรีดลึกซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยประโยคต่อมา

    "จะดีกว่าถ้านายจะพยายามเลี่ยงการมาเจอหน้าฉัน"เขาเจ็บจนไม่รู้จะอธิบายด้วยคำไหน คำไล่ที่ดี ที่แสนสุภาพนี่ก็คือการไล่เขาไปอยู่ดีไม่ใช่หรือไง

    "เกลียดกันมากขนาดที่ไม่อยากเห็นหน้าเลยสินะ"ร้องพึมพำในลำคอพร้อมกับขอบตาที่อุ่นขึ้นเรื่อยๆ 

    "ดูจุน..."เขาไม่รู้ว่าจุนฮยองได้ยินมันไหมที่เขาพูด แต่ท้ายที่สุดก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย ในเมื่อไม่อยากเจอ เขาก็จะพยายามไม่เจอ

    "ฉันมาหาลูกได้ไหม"ถามถึงเจ้าตัวเล็กที่ยังคงเป็นรอยยิ้มจริงๆ คนเดียวของเขาในตอนนี้ จุนฮยองถอนหายใจบางเบาก่อนจะตอบ

    "จะมาตอนไหนก็ทักมาบอกแทอู เราจะได้เลี่ยงกัน"คนที่ยังคงหันหลังให้พยักหน้ารับคำ ก่อนจะก้าวต่อไปที่ประตู มือหน้าคว้าที่เปิด ก่อนจะเอ่ยอีกไม่กี่คำก่อนออกไป

    "ฉันคงใจร้ายกับนายมากจริงๆ นายถึงได้เกลียดฉันมากขนาดนี้..ขอโทษนะ"คำขอโทษที่แทบจะถูกกลืนหายไปพร้อมน้ำตาจบลงพร้อมกับร่างนั้นที่ก้าวออกไป ร่างโปร่งมองตามไปทั้งที่คิดว่าที่ตัวเองทำมันถูกต้องแล้วแต่ในใจกลับรู้สึกว่ากำลังจะสลายไปเสียอย่างนั้น 





    'เขายังคงรักที่สุด แต่เขาก็กลัวมากที่สุดเช่นกัน'









    ..



    .



                     ดูจุนแขวนแซนวิชไว้ที่หน้าห้องของอีกคนหลังจากที่เขาลุกขึ้นมาทำตั้งแต่เช้ามืด ดวงตาหรี่บวมช้ำจากที่ไม่ได้พักผ่อน ใช่..เมื่อคืนเขาหลับไม่ลงแม้แต่นาทีเดียว ในหัวคิดวนเวียนเพียงแต่เรื่องที่เคยทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวด และแม้จะรู้ดีว่าที่ตัวเองทำอีกคนคงจะไม่มีทางลืม แต่เขายังคงหวังในใจเสมอว่าจะได้รับการให้อภัยและได้จับมือนั้นอีกครั้ง

    "ไม่เอาไปให้ข้างในล่ะพี่"แทอูเอ่ยทักทายหลังจากกลับจากงานเมื่อคืน รุ่นน้องที่สภาพยับเยินพอควรยิ้มกว้างอย่างสดชื่น

    "ไม่ดีกว่า งั้นพี่ฝากให้พี่เขาด้วยนะ ไปล่ะ"ว่าเสียงเรียบก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น คนอายุน้อยเกาหัวงงๆ ปกติแล้วดูจุนจะต้องขอเข้าไป ขอเอาของไปให้ให้ถึงมือจุนฮยองและแม้จะถูกเอาทิ้งทุกครั้งก็มักจะเห็นรอยยิ้มเศร้าๆ อยู่บ้าง แต่นี่ไม่มีทั้งยังเลี่ยงจะคุยนานๆ







    'มันเกิดอะไรขึ้นตอนที่เขาไม่อยู่'







    "พี่จุนฮยองครับ"คนอายุน้อยยื่นกล่องแซนวิชให้รุ่นพี่ทำกำลังง่วนกับการชงนมเตรียมให้ลูกสาวตัวน้อย คนที่ว่าชะวักไปนิกก่อนจะรับแล้ววางไว้ข้างมือตัวเอง

    "ไม่ทิ้ง?"อดถามไม่ได้ที่วันนี้ไม่ได้เห็นว่าทำเหมือนเก่า

    "...."คนถูกถามนิ่งไป เขาไม่ได้ตอบคำถามนั้นด้วยคำพูด ทำเพียงนิ่งและหยิบมันติดมือไปวางตรงกระเป๋าที่จะเอาไปทำงาน แทอูขมวดคิ้วฉับ ยิ่งเห็ยยิ่งสงสัยกับท่าทีที่ทั้งสองคนเปลี่ยนไป












                    ฮยอนซึงเข้าไปลากเพื่อนซี้ออกมาจากที่ทำงานตั้งแต่บ่ายสองกว่าเพราะร่างไร้วิญญาณของดูจุนทำเอาสยองกันไปเสียหมด ดงอุนที่เป็นคนเรียกกำลังเสริมเดินลงมาส่งพวกเขาถึงที่รถ ก่อนที่คนเป็นน้องจะปิดประตูให้เป็นการบอกว่าไม่ต้องห่วงบอสรับผิดชอบเอง

    "มีอะไรต้องเล่าไหม"ฮยอนซึงถามขณะที่กำลังเอารถออก คนตัวสูงเอนหลังพลางถอนหายใจหนักๆ 

    "ไม่นี่"ตอบปัดสั้นๆ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องบอกเรื่องอะไร

    "ถ้าไม่เป็นก็ทำหน้าดีๆ ดิวะ ไม่รู้หรือไงว่าคนรอบข้างเขาเป็นห่วงกัน"พูดถึงพวกเพื่อนในบริษัทที่อยู่รอบตัว ดูจุนที่ไม่ได่ร่าเริงเท่าไหร่นักออกจะดูทุกข์เสียด้วยซ้ำวันนี้เรียกได้ว่าดูเศร้าที่สุดตั้งแต่เห็นมา ชายหนุ่มที่เคยยิ้มได้กว้างในบางเช้าวันนี้แทบไม่มีวิญญาณมาทำงานเสียด้วยซ้ำ 

    "จุนฮยองบอกให้ฉันไม่ต้องไปเจอเขา..."บอกเสียงเบาทว่ากลับดังก้องในใจคนพูด ฮยอนซึงเหลือบตามองเพื่อนอย่างตกใจ 

    "น้องพูดว่าอะไรนะ"ไม่รู้จะย้ำทำไมให้เจ็บ  คนถูกถามยิ้มขื่น

    "จะดีกว่าถ้าฉันจะเลี่ยงไม่ไปเจอหน้าเขา"บอกพร้อมรอยยิ้มที่กว้างกว่าเก่าและน้ำตาที่ร่วงเผลาะลงมาที่แก้ม เขายกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้อ่อนแออ่อนไหวอะไรขนาดนี้ 

    "เฮ้ย...ไม่ขี้แงดิ เป็นพ่อคนแล้วนะเว้ย"ฮยอนซึงว่าพลางจีไฟเลี้ยวเข้าร้านคาเฟ่เล็กๆ เงียบๆ แห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่ทำงานเขานัก



                    สองคนที่ไม่ได้พูดอะไรกันต่อลงรถแล้วตรงมาที่โต๊ะที่มีกีกวังรออยู่ อาจารย์แพทย์หนุ่มยิ้มกว้างให้คนรัก ก่อนที่คนที่ว่าจะอ้อมไปหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ กัน

    "ไม่มีเคสแล้วเหรอครับอาจารย์"ฮยอนซึงพูดหยอกล้อ 

    "ให้เรสสิเดนท์ดูไปดิ ว่าแต่ตกลงมีอะไรกัน ฝั่งนู้นแทอูก็ว่าทำตัวแปลกๆ"คนตัวเล็กว่าพลางหันมามองดูจุนที่ทำหน้าราวกับแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ

    "พี่ชายอาจารย์บอกให้เพื่อนพี่ไม่ต้องไปให้เห็นหน้า"ย้ำให้ชัดเจนกันไปเลยว่านั่นคือสิ่งที่จุนฮยองต้องการจริงๆ คำสุภาพที่ให้เลี่ยงไม่ไปเจอก็มีความหมายว่าแบบนั้นนั่นแหละ

    "พูดแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับ"หันมาถามอย่างตกใจ ดูจุนส่ายหัวก่อนจะตอบแก้

    "เปล่าหรอก เขาบอกว่าให้พี่เลี่ยงการไปเจอเขา จะไปหาลูกก็ให้บอกแทอูก่อน เขาจะได้ไม่ออกมาเจอ"กีกวังถลึงตาคู่เล็กอย่างตกใจ

    "ใจร้ายจังวะ"บ่นกับตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วไม่ชอบใจที่จุนฮยองทำแบบนี้

    "พี่ทำเขาไว้เยอะ เขาคงเกลียดพี่จนไม่อยากเห็นหน้าจริงๆ"ว่าเสียงเศร้า คนอายุน้อยทำท่าฮึดฮัด นึกรำคาญไอ้คู่นี้ที่คนนึงก็ไม่รู้เป็นบ้าอะไร อีกคนที่พอกลับใจได้ก็กลายเป็นคนที่ยอมไปเสียทุกอย่าง




    'พวกบ้า'






    "แล้วพี่ก็ตามใจจุนฮยองหรอ"ในน้ำเสียงนั่นแฝงด้วยความงุดหงิด ดูจุนพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่เสียงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายจะดังออกมาจากคุณหมอใจดีตรงหน้าเขา

    "พี่จะไปตามใจทำไมล่ะ พี่ง้อเขาอยู่พี่ก็ตื๊อสิครับ"ฮยอนซึงพยักหน้าเห็นด้วยกับคนที่พูด ใบหน้าคมคายทำท่าคิด 

    "แต่พี่ไม่อยากขัดใจเขา แค่นี้พี่ก็..."

    "แค่ถ้าพี่ไม่ขัดใจเรื่องนี้ ชีวิตของพวกพี่จะไม่มีทางมีความสุขจริงๆ ได้หรอก เชื่อผมสิ ...สู้ต่อ"คนเดิมพูดขัดขึ้นมา ฮยอนซึงที่มักจะไม่เคยขัดแฟนยิ่งเห็นด้วยกับเรื่องนี้

    "ฉันว่าที่จริงแล้วลึกๆ จุนฮยองเองก็ไม่ได้อยากจะไล่ให้นายไปหรอก ...ไหนว่าจะไม่ยอมแพ้วะเพื่อน"ให้กำลังใจทิ้งท้ายประโยค ดูจุนที่ฟังแล้วทบทวนตามที่คนทั้งคู่พูดก็ได้คำตอบให้กับตัวเอง เขาที่ดื้อด้านมาตลอด เขาที่แข็งกร้าวและทำร้ายจุนฮยองมาเสมอ เขาที่อยากจะเปลี่ยนมาเป็นคนที่ดูและจุนฮยองและปกป้องจากเรื่องต่างๆ ด้วยความรักที่มีทั้งหัวใจ






    'เขาจะยอมแต่จะไม่แพ้'







    "งั้นฉันขอกลับไปเคลียงานก่อนนะ"พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่สดชื่นขึ้น กีกวังกับฮยอนซึงมองเห็นแบบนั้นก็สบายใจขึ้น แม้ไม่รู้ว่าคำตอบของดูจุนคืออะไรกันแน่ แต่เดาไ้ด้ว่าต้องเป็นเรื่องดี...จุนฮยองต้องมีความสุขจริงๆ เพราะยุนดูจุนได้แล้ว











    >>> ANATHEMA<<<









                 จุนฮยองกัดแซนวิชคำแรกก็น้ำตาร่วงเผลาะลงบนแก้ม ปาดน้ำตาออกแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าโยซอบกำลังมองมาอยู่ คนเป็นเพื่อนเลือกจะไม่พูดอะไรเพราะพูดมาเยอะแล้ว เขาเองคงต้องปล่อยให้ได้ตัดสินใจเองกับชีวิตนี้ 

    "กินเสร็จก็ตามไปแล้วกัน เหลืออีกเซ็ทเดียวก็เสร็จ"วันนี้เป็นวันถ่ายซ่อมปกอัลบั้มและโฟโต้บุ๊คที่เมื่อวานยังไม่เรียบร้อยดี แต่ก็ดึกเกินกว่าจะทำให้เสร็จสิ้น

    "อืม"ขานรับในลำคอ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ทั้งที่คิดว่าดีแล้วที่ให้ดูจุนไปอยู่ห่างๆ พอเช้ามาไม่เจอหน้าแต่ฝากของเอาไว้ให้ แซนวิชรสชาดแทบกินไม่ได้ที่คงไม่ได้ไปซื้อมาจากไหนนอกจากทำเอง ..ทำไมยังต้องมาดูแลเขาแบบนี้






    'แล้วเขาจะตัดใจได้ยังไง?'





                  โยซอบเดินนำมาที่รถหลังจากที่ถ่ายงานจนเสร็จ ผู้จัดการหนุ่มผู้เป็นเพื่อนสนิทออกอาการเบื่อหน้าไอดอลคนดังที่วันนี้ดูล่องลอยไร้สติจนงานทุกอย่างแทบไปไม่ได้


    "ถ้ายังรวบรวมตัวเองไม่ได้วันนี้ฉันจะให้พี่เขายกกอง งานการให้มันเสียไปให้หมด"เขาพูดกับเพื่อนด้วยความโมโหเมื่อราวชั่วโมงที่แล้ว จุนฮยองที่ก็คงรู้สึกผิดพยายามมากขึ้น จนทุกอย่างจบลงด้วยดี 


    "ถ้ามันทำใจยากก็เลิกฝืนไหมจุนฮยอง"ว่าเสียงเรียบ คนท่ีว่ามองหน้าเขานิดนึงและเลือกไม่ตอบคำถามนั้น ขาเล็กเดินต่อก่อนที่สายตาไปมองไปเจอกับ...

    "อ้าว!"ร้องขึ้นเสียงดังพร้อมกับรอยยิ้มจากฝ่ายนั้น จุนฮยองมองตามเพื่อนไป ในใจกระตุกวูบ...

    "พี่มารับจุนฮยองหนะ"ดูจุนว่าพร้อมรอยยิ้ม เอาจริงๆ ใบหน้าคมนั้นถึงจะดูสดชื่นแต่ทว่าดวงตาบวม ราวกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน โยซอบหันไปมองเพื่อนที่อึ้งอยู่ ก่อนจะหันไปตอบ

    "ดีเลยครับ ผมกำลังเซ็งมันอยู่พอดี"เว้นช่วงหายใจ ก่อนจะหันไปบอกกับเพื่อนเสียงเบา

    "กลับกับพ่อของลูกนายนะ แล้วก็คุยกับเขาดีๆ อย่าทำให้ตัวเองพังแบบนี้อีก"กำชับเสียงเข้มให้รู้ว่าที่ทำอยู่มันไม่ถูก จุนฮยองอ้าปากจะเถียงแต่โยซอบก็ลากแขนเขาให้เดินไปหาคนอายุเยอะกว่าแทน

    "ฝากแม่น้องจีฮุนด้วยนะครับ"วางแขนเพื่อนลงบนมือของคนตัวสูง แล้วเดินไปที่รถตัวเองทันที ดูจุนเลื่อนมาจับมือขาวนั่นอย่างถือวิสาสะ จุนฮยองที่ยังงงๆ ในตอนแรก รีบดึงมือออกก่อนที่อีกฝ่ายจะหัวเราะออกมาเบาๆ

    "อย่ามาฉวยโอกาส"ทำเสียงเข้มใส่ทั้งที่จริงเขาก็แค่แอบเขินที่ถูกคนตรงหน้าจับมือ ทำไมนะ ทั้งที่ไล่ให้เขาไปเองแต่พอเขากลับมาถึงได้อารมณ์ดีขึ้นจากเมื่อครู่ขนาดนี้

    "ก็นี่วิธีง้อเมียของพี่นี่"พูดมาไม่อายปาก จุนฮยองติดพร้อมกับถลึงตาใส่อย่างไม่ชอบใจ เขาอยากจะทุบไอ้คนตรงหน้าให้ตายนัก

    "เมีย เมออะไร...แล้วนายเป็นพี่ชายฉันเมื่อไหร่"แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเรียกพี่สักครั้ง ถึงจะอายุมากกว่าปีนึงก็นับกันเป็นเพื่อนมาตลอด  แล้วที่ว่าเขาเป็นเมีย





    'แค่เคยป่ะ'






    "แม่ของลูกก็ต้องเป็นเมีย แล้วถึงนายจะไม่เรียกพี่ว่าพี่ พี่ก็จะแทนตัวเองว่าพี่"บอกพร้อมรอยยิ้ม ทำไมดูจุนถึงหน้าด้านแบบนี้นะ แล้วไอ้สายตาเจาชู้นั่นอีก..หน้าเน้อร้อนไปหมกแล้วเว้ย!

    "พูดมาก คิดถึงจีฮุนอยากกลับบ้านแล้ว"บอกก่อนจะเดินไปที่ประตูข้างคนนั่ง เจ้าของรถปลดล็อคก่อนจะพากันกลับ







                    รถยนต์ขับไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่ห้องเพนเฮ้าส์ที่เป็นบ้านของพวกเขาทั้งคู่ ในห้องโดยสารเงียบสงบไม่มีใครพูดหรือถามอะไรต่อกัน ความอึดอัดเล็กน้อยนั้นไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกไม่ดี จนกระทั่งคนโดยสารจะถามเปิดประเด็นขึ้นมา

    "ฉันบอกแล้วนี่ว่าเราไม่ควรเจอหน้ากัน"ว่าเสียงเรียบและคำถามนั้นกลับกดดันคนที่ถามเอง ดูจุนระบายยิ้มออกมา ฝ่ายนั้นถามกลับ

    "ทำไมเราไม่ควรเจอหน้ากันล่ะ มีเหตุผลอะไร"พอถูกย้อนเขาก็เงียบ จะให้บอกยังไงว่าตัวเองจะตัดใจจากอีกคนไม่ได้ เพราะถ้าแบบนั้นก็รู้หนะสิว่ายังรักอยู่

    "..."

    "ถ้ากลัวว่าจะตัดใจจากพี่ไม่ได้ก็ไม่ต้องตัดใจสิ..คืนดีกันนะ"ปล่อยมือข้างนึงจากพวงมาลัยรถมากุมมือนุ่มไว้ จุนฮยองดึงมือออกช้าๆ ที่จริงก็รู้สึกดีแต่ก็ต้องสงวนท่าทีเอาไว้ก่อน

    "ใครบอกว่ากลัวตัดใจไม่ได้ ฉันตัดใจจากนายได้ตั้งนานแล้ว"แกล้งเสียงเข้มทั้งที่ดูก็รู้ว่าไม่จริง ดูจุนยิ้มกว้าง

    "ตัดใจแล้วจริงดิ"จุนฮยองพยักหน้าทันที คนถามเหลือบตามองก่อนจะพูดต่อ



    "ตัดใจได้แล้วก็ดี งั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ก็ได้ พี่จะจีบจุนฮยองใหม่ ทำให้เรื่องของเรา เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามที่ควรจะเป็นสักที"





    TO BE CONT.

    อย่าด่าเลยที่หายไปนาน ช่วงนี้ว้าวุ่นใจเลยแต่งไม่ค่อยออก อีกไม่กี่ตอน(?) น่าจะจบ มั๊งคะ 
    ไว้เจอกันนะคะ 

    ปล.คิดถึงพี่พลทหารจรุง 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×