คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER TEN :: คนมีใจ..(?)
TEN :: คนมีใจ..(?)
เพลงในรถทำเอาต้องเผลอโยกหัวไปตามจังหวะ ดงอุนที่เหมือนรู้ใจดีเปิดเพลงที่เขาชอบมาตลอดทางกลับห้อง รุ่นน้องคนรักของเพื่อนเลี้ยวลงที่จอดรถก่อนจะดับเครื่องและหันมายิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร
"ถึงแล้วพี่"จุนฮยองเลิกคิ้วแล้วพยักหน้า ใบหน้าขาวขยับเอี้ยวตัวจะไปหยิบกระเป๋าเป้ที่เอาใส่อาหารไปกินระหว่างมื้อแต่ถูกเจ้าตัวเล็กหยอกแรงด้วยการถีบท้องมาเต็มๆ
"โอ๊ะ!"หันตัวกลับมานั่งท่าเดิม คนที่มาด้วยกันมองเขาอย่างเป็นห่วง
"เป็นไรอ่ะพี่"ในฐานะน้องชายและถูกแฟนสุดที่รักกำชับมาว่าต้องดูแลจุนฮยองให้ดีเลยต้องถาม คนอายุมากกว่าปีเดียวยิ้มให้ก่อนตอบ
"โดนเบบี๋ถีบ"คนฟังหัวเราะชอบใจที่เด็กน้อยที่ว่าฤทธิ์เยอะไม่แพ้คนอุ้มท้องสักนิด
"งั้ยเดี๋ยวผมขึ้นไปส่งดีกว่า"ว่าพลางเอี้ยวตัวไปเอากระเป๋าของเขามาถือไว้แทน
"ไม่ต้องๆ พี่ขึ้นไปเอง"ปฏิเสธพลางแย่งกระเป๋าของเจ้าตัวมาถือในมือ ดงอุนไม่ยอมยื้อกลับมา
"ผมไปส่งเถอะน่า เดี๋ยวโยซอบด่า"จุนฮยองหงุดหงิดนิดหน่อยเจ้าของมือขาวเปิดประตูลงจากรถ
"พี่โกรธอะไร"คนเป็นน้องเดินอ้อมมาหาพร้อมกับถาม
"ไม่ได้โกรธ แค่ดูแลตัวเองได้"แล้วเขาก็ไม่อยากให้ดงอุนมาทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กๆ ที่ต้องมาคอยช่วยเหลือเรื่องราวต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
"แต่.."
"ช่างโยซอบมันเถอะน่า เอากระเป๋ามานี่ ฉันขึ้นห้องเองได้ กลับไปได้แล้ว"บอกอย่างหงุดหงิด ดงอุนเลิกคิ้วก่อนจะระบายยิ้มออกมา
"พี่ไม่อยากให้ผมช่วยเพราะดูแลตัวเองได้ หรือเพราะไม่อยากให้มีใครเข้าใจเราสองคนผิด?"เออ มันรู้ทัน จุนฮยองมองคนเป็นน้องตาเขียว
"พูดมากว่ะ"ว่าเสียงเครียด ดงอุนยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่ตัวเองจับผิดอีกคนได้
"งั้นผมกลับก็ได้ ทำแผลด้วยนะพี่ ไว้เจอกัน"รุ่นน้องตัวโตกว่ายิ้มให้อีกครั้งพร้อมโบกมือร่ำลา จุนฮยองยกเป้ขึ้นมาพาดบนหลังตัวเองก่อนจะหันตัวเดินเข้าไปในตัวตึกทั้งที่เท้ายังเจ็บ
"พี่จุนฮยองคะ"เสียงหวานของคนที่ไม่ใช่ใครอื่น เด็กสาวหน้าตาดีที่ไม่ว่าจะเจอเมื่อไหร่ก็ปวดใจเมื่อนั้น เขาหันไปยิ้มให้เธออย่างพยายามจะเป็นมิตร
"ครับ"ถึงจีอึนจะดูเหมือนอยากสนิทด้วยแต่จุนฮยองเองคงทำใจให้ไปสนิทกับเธอไม่ไหวจริงๆ เขาที่อยู่ในฐานะไม่ต่างกับชู้ไม่มีหน้าไปเสแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
"เดินกระเผลกเลย เท้าเจ็บหรอ"เข้ามาจับแขนเขาเพื่อไม่ให้ล้ม ร่างโปร่งที่ถ้าจะเบี่ยงตัวหนีก็ไม่ควรเลยยิ้มแหยให้เธอจับแล้วพากันเดินไปที่หน้าลิฟต์
"พี่ไปทำอะไรมาถึงเท้าเจ็บ"คนเดิมถามพลางมองมาที่เท้าของเขา คนตัวสูงกว่าภาวนาให้เธอจำรองเท้าที่เขาสวมอยู่นี่ไม่ได้
"รองเท้ากัดครับ เอ่อ..คุณจีอึนปล่อยก็ได้นะครับ ผมเดินไหว"จุนฮยองบอกอย่างเกรงใจ สาวเจ้ายิ้มอ่อนปล่อยมือออกจากเขา เธอไม่ได้ทักท้วงเรื่องรองเท้าและที่จริงก็ดูว่าไม่ได้สนใจมันเลยด้วยซ้ำ
"ค่ะ"ว่าเสียงหวาน พอดีกับที่ลิฟต์เลื่อนลงมาจนถึงชั้นล่าง บานประตูเปิดออก ภายในนั้นมีใครอีกคนโดยสารมา ขายาวนั่นกำลังจะเดินออกจากกล่องเหล็กที่ว่าก็ชะงักลง รายนั้นมองเขากับจีอึนสลับกันไปมาราวกับว่าไม่แน่ใจว่าควรทำยังไง จุนฮยองเองที่ไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนว่าจะส่งยิ้มให้แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเสียงทุ้มร้องทักคนที่ยืนอยู่ข้างเขา
"จีอึน"สาวเจ้ายิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าไปกอดแขนคนรักของตัวเองอย่างสนิทสนม ร่างโปร่งที่รู้สึกเหมือนขามันจะก้าวไม่ออก
"พี่ขึ้นไปไหมคะ"จีอึนเรียกเขา จุนฮยองพยักหน้าและขอไม่สบตาใคร เขาเดินก้มหน้าเข้าในไป มันแสนอึดอัด และเหมือนเจ้าตัวเล็กในท้องจะรับรู้ได้ แรงเล็กๆ กระแทกเบาๆ ที่ท้องราวกับว่าบอกให้รู้ว่ายังคงมีตัวเองอยู่ตรงนี้ ร่างโปร่งที่ก้มหน้าอยู่แล้วเลื่อนสายตาามองที่ท้องตัวเองแล้วยิ้มจางๆ
"พี่จะลงไปไหนหรือเปล่าคะ มีธุระ?"เสียงหวานเอ่ยถามอีกคนที่เมื่อครู่ลงลิฟต์มาด้านล่าง จุนฮยองที่ไม่อยากรู้ไม่อยากฟังยืนนิ่งทำเหมือนไม่สนใจ
"เปล่า ว่าจะลงไปเดินเล่นหนะ พอดีเรามาพี่เลยเปลี่ยนใจ"น้อยมากที่จะได้ยินดูจุนคุยกับจีอึนและทุกครั้งที่ได้ฟังมันก็เหมือนกับการขุดหลุมเอาตัวเองฝังลงไปในความเจ็บปวด ทั้งน้ำเสียงทั้งความอ่อนโยนมันเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
"พี่น่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ฉันแค่แวะมาเอาของที่ลืมไว้ที่ห้องของพี่อ่ะค่ะ แล้วว่าจะไปทำรายงานต่อ"เจ้าของรูปร่างผอมสวยเล่า พอดีกับที่มาถึงที่หมายที่ชั้นสาม จุนฮยองปล่อยให้สองคนเดินนำออกไปก่อน ขายาวก้าวตามไปเงียบๆ เข้าแกล้งทำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์ไปมาทั้งที่ที่จริงแค่อยากจะไม่สนใจ
'รู้ดีว่าคนสำคัญที่สุดก็คือจีอึน'
สองคนนั้นเดินผ่านหน้าห้องเขาไปจนถึงห้องของตัวเองแล้ว จุนฮยองรีบหากุญแจมาไขประตูห้องตัวเองบ้าง เขาอยากเข้าไปหลบ ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าสองคนนั้นรักกันมากแค่ไหน รู้แค่ว่าไม่ใช่คนที่เขาจะทำแม้แต่ยิ้มให้ มันก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว
"ฮึก.."กลั้นเอาไว้ก่อนจะทรุดลงบนโซฟาที่นั่งกันประจำ จุนฮยองปาดน้ำตาออกลวกๆ ท่องไว้กับตัวเองว่าไม่ควรรู้สึกแบบนี้ อยู่ตรงนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าจากห้องข้างกันก็เดินผ่านกลับไปทางที่มา
จีอึนไปแล้วและ....
"จุนฮยอง"เสียงเรียกดังขึ้นหลังจากเสียงเคาะประตูเบาๆ จากด้านนอก ร่างโปร่งที่ดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วลุกขึ้นไปปลดล็อกโซ่คล้องประตูให้
"ว่า?"คนที่มาหามองหน้าแล้วถอนหายใจ ดูจุนแทรกตัวเข้ามาในห้องพร้อมกับฉวยมือของเขาให้เดินตามเข้ามา ขาเรียวทำตามโดยไม่ขัดขืน
"จีอึนแค่ลืมของ"คนฟังพยักหน้าทีนึงแล้วไม่พูดอะไรต่อ
"นี่...."ดูจุนเห็นท่าทีงเฉยเมยนั่นแล้วหงุดหงิดในใจแปลกๆ รู้นั่นแหละว่าจุนฮยองคงรู้สึกแย่ที่เขาอยู่กับจีอึน
"ฉันเข้าใจว่านั่นแฟนนาย"ไม่ได้ประชดประชันแต่นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะกดตัวเองไว้ให้อยู่กับที่ที่เหมาะสม ดูจุนมอคนที่ทำท่าทางราวกับไม่รู้สึกอะไรแล้วนึกอยากให้จุนฮยองไปเป็นคนเดิมที่เคยไม่ยอมเขาแล้วก็ไปพูดประชด ไปแกล้งให้เขาต้องโมโหน่าจะดีกว่าตอนนี้ที่แสนดีและเข้าใจ จุนฮยองที่ไม่เรียกร้อง ทำท่าไม่รู้สึกอะไรแบบนี้เขาเดาไม่ได้เลยจริงๆ
"จุนฮยอง..."ถึงจะไม่ได้สบตาตรงๆ แต่ก็รู้ว่าแววตานั่นมีความหมายแบบไหน ร่างสูงดึงอีกคนมากอดไว้หลวมๆ
"ปล่อยเถอะ ฉันหิวแล้ว"ยกแขนขึ้นมาดันอกอีกคนให้ออกห่างตัว เขากลัวว่าอ้อมกอดทุกครั้งจะทำให้ดูจุนรู้ว่าตัวเองไม่ได้ปกติ ดูจุนคลายออกอย่างเสียดายและไม่ได้นึกสงสัยอะไร
"กินไรดี"ถามเสียงนุ่ม ใบหน้าขาวเลิกคิ้วพลางหันไปมองนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง
"มันมืดแล้ว หาอะไรกินง่ายๆ ในตู้เย็นดีกว่า"
ร่างสูงอาสาโชว์ฝีมือทำอาหารที่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่ามันจะสามารถกินเข้าได้ไหมให้ชิม จุนฮยองที่มองดูอย่างอึดอัดกับท่าทางเก้ๆ กังๆ ในการหั่นมือเขือเทศก่อนจะเข้าไปแย่งทำ
"ไปยืนเฉยๆ ไป"ออกปากไล่คนในผ้ากันเปื้อนไห่างจากตรงนั้น ดูจุนหน้าง้ำใส่นิดนึงและไม่ยอมไป ดีตรงที่ไม่เข้ามาแย่งทำเท่านั้น
"ดูจุน..."แต่การมายืนมองเขาทำอาหารมันก็เป็นเรื่องแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
"ใส่ผ้ากันเปื้อนไหม"เหมือนจะรู้ว่าจะโดนว่า คนตัวสูงเปลี่ยนเรื่องในทันที รายนั้นถอดผ้าที่สวมอยู่ออกแล้วเอาไปคล้องที่คอของเขาไว้ มือหนาเอื้อมมาจับสายผูกเอวทำท่าจะโอบร่างขาวเพื่อผูกเชือกให้
"ฉะ ฉันผูกเองก็ได้"จุนฮยองขยับตัวห่างออกแต่ก็ถูกมือของอีกคนแตะเอวไว้ไม่ให้หนี ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาจนตัวแทบชิด
"นายไม่ถนัดหรอก"อ้อมแขนไปทางด้านหลังเหมือนกับกำลังกอด ริมฝีปากหยักเอ่ยบอกประโยคเมื่อครู่ที่ข้างหู แม้จะไม่ได้เป็นคำพูดแสนหวานฉ่ำ ไม่ได้ใกล้อะไรแบบนั้นสักนิด ทว่าความใกล้ชิดและเอาใจใส่นี้ทำเอาจุนฮยองแก้มร้อนเสียได้
'แว๊บนึงที่รู้สึกว่ามันคงจะดีถ้าพวกเขาได้อยู่ด้วยกันสามคน'
"เสร็จแล้ว"เสียงทุ้มกระซิบข้างหูพร้อมกับยิ้มมุมปากเหมือนสนุกที่ได้แกล้ง จุนฮยองสะดุ้งออกจากภวังค์
"ขะ ขอบใจ"หันตัวกลับไปทำอาหารต่อแล้วซ่อนความคิดนั่นไว้ในใจ ..ขอเวลาจนกว่าเบบี๋ของเขาออกมาลืมตาดูโลกก่อน แล้วถ้าดูจุนเลือกพวกเขา เขาจะให้ดูจุนรับรู้ทุกอย่าง
"ตกลงนายจะทำอะไรให้ฉันกิน"คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามพร้อมรอยยิ้ม จุนฮยองที่ยังอยู่ในความคิดนั้นเงยหน้าไปมองคนถาม ก่อนจะตอบ
"ก็ว่าจะทำข้าวผัดไง"บอกเสียงเรียบ ดูจุนยิ้มและพยักเพยิดหน้าไปที่ผักบนเขียง คนตัวขาวหันไปมองสภาพมะเขือเทศที่หั่นจนแทบเละของตัวเอง แล้วได้แต่เกาหัว
"ทำสปาเกตตี้ไหม"ร่างสูงเสนอ เขาเลิกคิ้วแล้วก็คิดว่าคงจะดีกว่าการทำข้าวผัดนั่นแหละ
"อือ"เลยหันไปหยิบเส้นสปาเกตตี้ที่วางอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นมาโดยมีอีกคนคอยช่วย ..
สัปดาห์ที่28 ของเบบี๋ก็มาถึง จุนฮยองเองที่รู้สึกอยู่ว่ามันเริ่มหายใจอึดอัดมากขึ้นและต้องตื่นมาตะแคงตัวบ่อยๆ และเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นยืนมองตัวเองในกระจก หน้าท้องที่นูนยื่นออกมาดูแปลกตาสำหรับผู้ชายอย่างเขา คิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมมันไม่เหมือนเวลาเห็นรูปพวกรุ่นพี่นักแสดงหรือไอดอลสาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปตอนท้องโตเก็บไว้ ทำไมพวกนั้นสวยแล้วเขา....
"เหมือนพวกที่กินเหล้าเยอะแล้วเป็นโรคตับเลย"กีกวังคอมเม้นท์พร้อมรอยยิ้ม คนที่กังวลเรื่องรูปลักษณ์ตัวเองทำหน้ามุ่ยใส่น้องชาย รายนั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปเห็นฮยอนอาที่มีสีหน้าแปลกๆ
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะฮยอนอา"คนเดิมถาม ก่อนที่มนุษย์แม่ที่เครียดอยู่มากจะหันไปเห็นหน้าเพื่อนสาวแล้วเครียดว่าเก่า
"น่าเกลียดขนาดนั้นเชียวหรอ"ทำไมตอนท้องมันถึงได้หวั่นไหวแบบนี้นะ พอคิดแบบนั้นพอเศร้าเจ้าตัวเล็กในท้องก็แผลงฤทธิ์ด้วยการถีบมาแรงๆ ที่ท้องสองสามที จุนฮยองร้องโอ๊ะเบาๆ
"เป็นไร!"หญิงสาวรีบเดินมาหาทันที จุนฮยองยกมือบอกว่าเขาโอเค
"แค่โดนถีบเฉยๆ ว่าแต่ฉันน่าเกลียดจริงๆ ใช่ไหม"หน้ายังคงเครียดเหมือนเก่า ฮยอนอาส่ายหัว เธอหยิบเอาเสื้อยืดตัวใหญ่มายื่นให้คนถาม
"ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเลย ฉันแค่กังวลเรื่องคุณดูจุนแค่นั้น"เธอบอก เขาพยักหน้ารับรู้พลางรับเอาเสื้อมาสวม กีกวังเลิกคิ้วข้างนึงก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ยังไงเขาก็เป็นพ่อ สักวันก็ต้องให้รู้"คนตัวเล็กพูดและนั่นเหมือนสวิทกดปุ่มปิดเสียงทุกอย่างในทันที จุนฮยองเองที่คิดอยู่แล้วว่ามันต้องมีวันนั้นพอได้ยินคำนี้จากปากคนอื่นเขากลับรู้สึกกลัวขึ้นมามากขึ้นในใจ
ฝ
ใช่ดูจุนเป็นพ่อ และสักวันก็ต้องได้รู้ ไม่ว่าจะจากใครก็ตาม
"พี่ว่าเราออกไปกันเลยดีไหม"ฮยอนซึงพูดทำลายความอึดอัดนั่นออกมา ก่อนที่คนอื่นๆ จะทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
.
..
ผลการตรวจดีอย่างที่คาด น้ำหนักของเจ้าตัวเล็กเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ แขนขาก็ยาวได้ตามสัดส่วนที่พอควร วันนี้กีกวังอัลตร้าซาวน์สี่มิติให้ ลูกสาวตัวน้อยของเขาจมูมโด่งคมเหมือนกับดูจุนไม่มีผิด
"ตัวแทนพ่อเขาชัดๆ"ฮยอนอาว่าอย่างหมั่นไส้กับภาพในมือที่เธอถืออยู่ จุนฮยองขมวดคิ้วใส่นิดนึงแล้วหยิบจากหญิงสาวมาดู
"เหมือนฉันมากกว่า"พูดพร้อมกับพิจารณาอย่างไม่ยอมแพ้ เพื่อนสาวคนสวยเบ้ปากใส่
"รู้อยู่แก่ใจว่าเหมือนใคร"เธอยอมเขาที่ไหนกัน จุนฮยองหัวเราะร่าพลางเก็บใบอัลตร้าซาวน์ใส่กระเป๋าเป้
"หิวยังพี่"ดงอุนที่รออยู่ลุกขึ้นมาถามฮยอนซึงเองที่ทีแรกก็นั่งคุยกันสองคนเลยลุกยืนตามขึ้นมา
"หิวย่ะ"ฮยอนอาตอบแทน คนถามทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ก่อนจะหันไปมองหน้ารุ่นพี่ที่ตัวเอง
"พี่เอายัยบ๊องนี่ไปรถพี่นะ ส่วนพี่จุนฮยองผมพาไปที่ร้านเอง"รุ่นน้องตัวสูงว่า ฮยอนซึงที่เหมือนจะตกลงกันกับดงอุนเอาไว้แล้วพยักหน้ารับไม่ขัดสักคำ พอดีกับทีคุณหมอหวานใจของคนหน้าหวานเดิออกมาสมทบ
"หิวจังเลยพี่ฮยอนซึง"อ้อนแฟนเสียงใส คนอื่นกรอกตามองบน จี๊ดในใจกันเล็กๆ ที่ค้องมาเห็นสองคนมุ้งมิ้งใส่กัน ดงอุนที่มีแฟนก็อยู่ห่างกันหลายพันไมล์ ฮยอนอาที่เป็นคนสวยและโสดมานานแสนนานและจุนฮยองที่เหมือนจะมีแต่ก็ไม่มี
แล้วแบบนี้จะให้ปลื้มใจ?
"แกจะไปกับพี่จุนฮยองแล้วให้ฉันนั่งรถไปกับคู่รักแห่งปี?"ฮยอนอาถามดงอุนขณะพากันไปที่ลานจอดรถ อีกคนหันมามองก่อนจะยิ้มกว้าง
"ใช่ แกไปกับสองคนนั้นนั่นแหละ"ท่าทางกรุ้มกริ่มโคตรไม่น่าไว้ใจ หญิงสาวรู้จักเพื่อนตัวเองดีเลยกระโดดล็อคคอบังคับให้บอก"มีแผนอะไร!"กดเสียงต่ำที่ข้างหู ดงอุนหัวเราะก่อนจะกระซิบบอกไปสั้นๆ
"ร้าย...แต่เอาด้วย"พูดขึ้นมาหลังฟังจนจบ ริมฝีปากสีส้มสดยกยิ้มอย่างนึกสนุก
ร้านอาหารไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก มีบริเวณร่มรื่นและมีโซนที่อยู้ในร้านดงอุนเดินนำเขาเข้าไปด้านในที่มีพวกของฮยอนซึงนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"สั่งไรแล้วมั่ง"คนหิวร้องถามตั้งแต่ยังมาไม่ถึงโต๊ะ กีกวังเงยหน้ามามองก่อนจะยื่นเมนูในมือมาให้เขา
"ยังไม่ได้สั่งของนายเลย สั่งเองแล้วกัน"จุนฮยองรับมาไว้ในมือก่อนจะเลือกที่นั่งข้างฮยอนอาที่ว่างอยู่ หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาห้อยที่เก้าอี้แทน
"ทำไมมีที่ว่างล่ะ ไหนว่าจองไว้พอดีคน"ฮยอนอาหันไปถามดงอุนที่นั่งถัดจุนฮยองไป เพื่อนตัวสูงเลิกคิ้วก่อนจะตอบไปดูเมนูไป
"ฉันนัดพี่ดูจุนมาคุยงานด้วยอ่ะ ...ไม่เป็นไรเนอะพี่เนอะ"ประโยคหลังนี่คือกันมาถามคนอื่นๆ กีกวังที่พอจะรู้อยู่แล้วพยักหน้าก่อนจะพากับเหลือบมามองจุนฮยอง
"หือ?"จะว่าแกล้งก็ได้แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นต้องมองด้วยสายตาแบบนี้กันหมด แค่จะมาคุยงาน...
"ก็คุยไปดิ"หรือว่าเขาควรรู้สึกรู้สาอะไร กับคนอื่นดูจุนอาจจะเป็นคนอื่น
"ใช่สิ แฟนเขานี่นะ เขาจะไปว่าอะไรแกได้"ฮยอนอาว่า คนถูกเหน็บแนมเหลือบตามองเคืองๆ
"ไม่ใช่แฟน"ปฏิเสธทันทีที่เห็นสายตาของเพื่อนสาว ฮยอนอาเลิกคิ้วเธอทำท่าจะพูดต่อแต่ถูกคุณหมอผู้มีศักดิ์เป็นน้องชอายของเขาชิงพูดขึ้นก่อน
"คนที่ไม่ใช่แฟนกันนี่เขาต้องไปเจอหน้ากันทุกวัน โทรหากันสามเวลา แล้วก็ชวนกันไปกินข้าวตอนเพื่อนไม่อยู่?"กีกวังที่ใครก็ว่าแสนดี ใจดีที่จริงหนะร้ายที่สุด จุนฮยองเถียงไม่ออกเพระเป็นแบบนั้นจริงๆ ยิ่งช่วงอาทิตย์หลังคนที่ว่าเกรงใจใครที่ไหน คิดจะมาหาก็เข้ามาโดยที่ไม่แคร์ว่าใครจะอยู่ด้วย จะมีบ้างคือเกรงใจฮยอนอาที่เจ้าตัวยังคิดว่าคบกับเขาอยู่
แต่ก็แค่ทำท่าเหมือนเกรงใจเท่านั้นนะ
"เขามีแฟนอยู่แล้ว ฉันแค่คนอื่น"พูดจบประโยคตรงนั้นก็เงียบกันหมด จุนฮยองที่เป็นคนพูดเองกลับไม่ได้คิดอะไรเลย เขาเป็นแบบนั้น เขาเป็นคนอื่น...และรู้ตัวดี
"ไม่เฮิร์ทนะคุณแม่"หญิงสาวคนเดียวบนโต๊ะกอดแขนแล้วเอาหัวถูกับหัวไหล่ของเขาอย่างอ้อนๆ
"ฉันไม่คิดมากหรอก"บอกพร้อมกับยีผมเพื่อนเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู ฮยอนอายิ้มกว้าง
"ขอโทษที่มาสายครับบอส"เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง ทั้งโต๊ะหันไปมองคนที่ว่าเป็นตาเดียวกัน
"สวัสดีค่ะทุกคน จีอึนขอรบกวนด้วยนะคะ"
บรรยากาศบนโต๊ะกระอักกระอ่วนดีแท้ในความรู้สึกของฮยอนซึง เขาผู้ไม่แคร์อะไรกำลังสัมผัสได้ถึงบทสนทนาขาดๆ เกินๆ ท่าทางของทุกคนที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติและสีหน้าไม่สบอารมณ์ของบางคน.. ทำไมต้องมีมื้อแรกของวันที่กร่อยขนาดนี้นะ!
"แล้วตัวต่อไปบอสอยากได้แบบไหนครับ"ดูจุนถามพลางคักอาหารใส่จานตัวเอง คนเป็นเจ้านายที่อายุน้อยกว่าเลิกคิ้วข้างหนึ่ง เขาหันไปมองฮยอนอาแว๊บเดียวก่อนตอบ
"เนื้อหาเล่มหน้าจะเป็นพวกสปอต นายแบบชายผมคุยกับแดเนียลไว้ นางแบบว่าจะเอาฮยอนอานี่แหละ"ใช้บริการกันบ่อยในระยะหลังและมีฟีทแบคที่ดีมาเสมอ ดูจุนพยักหน้าพลางบันทึกข้อมูลลงไอแพดของตัวเอง
"สปอตแบบไหนอ่ะดงอุน"กีกวังถามขึ้น คนเป็นน้องหันไปมองแล้วยิ้ม
"พวกกีฬาทางน้ำครับพี่"คนฟังพยักหน้าเข้าใจ
"งี้ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ?"ฮยอนอาพูดเชิงสงสัย คนฟังพยักหน้ารับก่อนที่แขกที่ไม่ได้เชิญมาตั้งแต่แรกจะพูดขึ้นมา
"แบบนี้ต้องขออนุญาตพี่จุนฮยองก่อนไหมคะ เป็นฉันต้องขอพี่ดูจุนก่อนนะ เพราะพี่ต้องหวงฉันแน่เลยใช่ไหม"จีอึนว่าพร้อมรอยยิ้มแต่ทุกคนตรงนั้นกลับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จุนฮยองแกล้งยิ้มฝืดๆ ก่อนจะหันไปมองฮยอนอาที่คงจะเป็คนเดียวที่รักษาสีหน้าเฉยเมยไว้ได้
"ไม่ต้องขอหรอกค่ะ พี่กับจุนฮยองแฟร์ๆ ฟรีสไตล์"ฮยอนอาว่า พลางวางมือบนแขนของเพื่อน ไอดอลหนุ่มหันไปสบตาดูจุน รายนั้นมองมาที่มือของหญิงสาว ใบหน้าคมที่บอกบุญไม่รับมาตั้งแต่มาถึงละสายตาไปหลังจากที่สบตากัน
"พี่ใจกว้างกันจังเลยค่ะ"เด็กสาวบอก ก่อนจะตักกุ้งตัวโตในจานใส่จานดูจุน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มบางอย่างอ่อนโยน คนที่มองอยู่เลยกรอกตาหนีถึงจะรู้ว่าไม่ทันแล้ว เห็นแล้ว..เจ็บแล้ว
"โอ๊ะ!"พอรู้สึกแบบนี้ทีไรเจ้าตัวเล็กก็มักแผลงฤทธิ์ใส่ จุนฮยองเผลอกุมท้องตัวเองทันทีที่แรงกระตุกที่ท้องถูกส่งมา ทุกคนตรงนั้นมองเขาเป็นตาเดียว
"..."ไร้ซึ่งคำถามเพราะแทบทุกสายตารู้ดีว่าเขาเป็นอะไร เว้นแต่สองคนที่ทำท่าสงสัย
"ปวดท้องก็รีบกินเข้า จะได้กลับไปพัก ชอบกินข้าวไม่ตรงเวลาก็งี้ล่ะ"กีกวังพูดขึ้นมาก่อนที่ใครจะถาม ดูจุนยังคงจ้องมาราวกับไม่เชื่อว่าแบบนั้น
"แล้วนี่จะให้ดงอุนไปส่งกันแค่สองคนได้ใช่ไหม ฉันจะติดรถพี่ฮยอนซึงไปลงบ้านปู่อ่ะ"ฮยอนอาถามพลางตักขนมเค้กใส่ปาก จุนฮยองหันไปมองรุ่นน้องที่กำลังคุยงานต่อจนเกือบเสร็จแล้ว
"ได้แหละ ปกติก็เคยไป"เขาว่า ฮยอนอาทำท่าโล่งใจก่อนจะเห็นสายตาขุ่นเคืองของดูจุนชัดขึ้นมา
"จุนฮยอง.."สะกิดเรียกเพื่อนที่ก้มหน้าก้มตากินขนมที่นานๆ จะถูกอนุญาตให้กินได้เพราะน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ เขาหันไปมองหญิงสาวก่อนจะถูกใช้สายตาบอกให้ดูว่าถูกใครกำลังตำหนิด้วยสายตา
"หือ..? อ๋อ..."เห็นแล้วล่ะแต่แล้วยังไง จะมองมาด้วยความโกรธแค่ไหนก็เชิญเถอะ เขาคงไม่สามารถทำตามที่ดูจุนชอบได้อยู่แล้ว
"ไม่สน?"คนเดิมกระซิบกระซาบ เขาพยักหน้าในทันที
"เห็นว่าเขารักเลยไม่แคร์ก็ได้?"เธอพูดต่อเสียงเบา มือขาวที่กำลังตัดไอศกรีมชะงักในทันที 'รัก' หรอ ...
"เพราะรู้ว่าเขาคงไม่รักต่างหาก ฉันเลยไม่แคร์"มันพูดได้ไม่เต็มปากอยู่ดีว่าดูจุนรักเขาในเมื่อทุกอย่างไม่เคยชัดเจน แม้การแสดงออกทุกอย่างมันจะทำให้คิดไปแบบนั้น แต่การที่ไม่เคยได้เป็นคนที่ดูจุนบอกว่ารักมันคงแปลได้ว่าคงยังไม่ได้รักนั่นล่ะ
"ฉันว่าเขารักนายนะ"ฮยอนอาพิงศรษะทำเหมือนซบแต่พูดออกมาเสียงเบา จุนฮยองหน้าเครียดมากขึ้นเขาสบตาพอดีกับคนที่กำลังพูดถึงและถูกใช้สายตาไม่พอใจมองมา
"ไม่หรอก"ได้แต่ปฏิเสธแต่ไม่ใช่แค่ปฏิเสธฮยอนอา เขาปฏิเสธตัวเองว่าแววตาไม่ชอบใจนั้นไม่ได้แปลว่าดูจุนกำลังหึงหวง ไม่ได้แปลว่าดูจุนรักเขา และไม่ได้แปลว่าดูจุนจะเขาสำคัญ
"พี่จุนฮยอง ไปเถอะครับ เดี๋ยวผมต้องเข้าบริษัทอีก"ดงอุนหันมาบอกและเป็นการปลุกเขาจากห้วงความคิด คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับ
"ไว้เจอกันน้า เดี๋ยวฉันจะไปหานะจ๊ะเบบี๋"ประโยคหลังฮยอนอาพูดกับเจ้าตัวน้อยในท้อง จุนฮยองยิ้มบางก่อนจะยีผมเพื่อน
"จะมาตอนไหนก็หัดแชทมาบอกก่อนบ้างก็ดี"เขาบอกและเธอเข้าใจความหมายนั่นดี จุนฮยองไม่อยากให้มาเจอกับดูจุนที่ห้องบ่อยๆ เพราะเจ้าตัวทำหน้าไม่ถูกทุกครั้งที่สองคนพบกัน
"จ้า ..ดงอุนดูแลเบบี๋ของฉันให้ดีด้วย เข้าใจไหมยะ"หันไปบอกสารถีรูปหล่อเพื่อนซี๊ของตัวเอง ดงอุนยิ้มรับคำก่อนจะยื่นมือมาหยิบเป้ของคนเป็นพี่มาถือ
"ถือเองได้"จุนฮยองหันไปจะแย่ง แต่ดงอุนไม่ยอมคืนให้แถมเดินหนีนำไปที่รถ
"ยอมน้องมันเถอะ ก็รู้ว่านอกจากตายมันทำให้นายได้หมดนั่นแหละ"ฮยอนซึงว่ายิ้มๆ พลางนึกไปถึงหน้าโยซอบที่คงกำชับดงอุนและคาดโทษเรื่องการดูแลจุนฮยองและหลานมาซะดิบดีแน่ๆ เพราะเท่าที่คุยกันมา ดงอุนพร้อมถวายหัวทแค่ไม่โดนโยซอบโกรธก็พอ
"ตามไปได้แล้วไป ดงอุนต้องไปทำงานต่อ"กีกวังเร่ง จุนฮยองเดินตามไปเซ็งๆ ที่ไม่มีคนเข้าข้าง โดยลืมไปว่ายังมีดูจุนและแฟนสาวอยู่ตรงนั้นด้วย
>>> ANATHEMA <<<
เจ้าของอายุครรภ์ 7 เดือนเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวเดิม หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จก็กะว่าอยากจะงีบสักหน่อย ดีที่วันนี้ไม่ต้องไปตะลอนหาซื้อของใช้เด็กเพราะรอบก่อนได้สั่งซื้อและเอาไปเก็บไว้ที่บ้านกีกวังเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายนั้นได้ตระเตรียมทุกอย่างพร้อมหิ้วของไปโรงพยาบาลในวันคลอด
"ง่วงไหมเบบี๋ ป๊าง่วงมากเลยครับ"นอนลงกับหมอนใบเล็กพลางพูดพึมพำกับคนในท้อง มือนิ่มลูบท้องที่นูนออกมาของตัวเองเบาๆ ก่อนที่ความง่วงจะปิดทุกอย่างลงในทันที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่หลับอยู่ตรงนั้น จุนฮยองตื่นขึ้นเพราะรู้สึกว่าถูกเขย่าเบาๆ ที่แขน ดวงตาคู่สวยค่อยๆ หรี่ปรับให้เข้ากับแสง ก่อนจะเห็นว่าคนปลุกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่น
"ดูจุน"เอ่ยชื่อคนตรงหน้าอย่างงัวเงีย จุนฮยองขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตามองหานาฬิกาที่คนเซ่อนอนก็ลืมว่าอยู่ที่ไหน
"กี่โมงแล้ว"ถามทั้งที่ยังมองหานั่นแหละ คนตัวสูงกว่านั่งลงข้างกันก่อนจะตอบ
"หกโมงกว่าแล้ว นี่นอนตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย"บอกเวลาและถามกลับไป จุนฮยองเกาหัวเซ็งๆ ทีแรกว่าจะงีบสักชั่วโมงเท่านั้น
"ตั้งแต่กลับมาถึง บ่ายโมงกว่าอ่ะ"บอกเสียงเรียบแล้วเอนตัวนั่งพิงพนักโซฟา ดูจุนวางหลังมือลงบนข้างแก้มเนียนเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลามองอย่างห่วงใย
"ไม่สบายอีกหรอ นอนเยอะจัง"เป็นคำถามธรรมดาที่ชวนใจสั่นเหลือเกิน จุนฮยองมองคนถาม สุขใจเหลือเกินที่ดูจุนเอาใจใส่ แต่มันยังเหมือนมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ไม่วางใจทั้งหมด
"ก็แค่เหนื่อยๆ แล้วมาหาฉันมีอะไร"ถามกลับไป คนตัวสูงชี้ถุงผลไม้บนโต๊ะกินข้าว
"วันนี้ไปสตูนั้นมา เลยข้ามไปซื้อผลไม้มาให้หนะ"ไม่คิดหรอกว่าจะถูกเอาใจใส่แบบนี้ ร่างโปร่งยิ้มบางๆ ซ่อนความดีใจเอาไว้
"ขอบใจนะ"พูดจบคนฟังก็ยิ้มให้ ดูจุนเอื้อมมือมาจับมือเขาหลวมๆ สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นแต่ไม่ยอมพูดอะไร
"มีไรหรือเปล่า"เขาถาม อีกคนหันมามอง ดวงตาคมกังวลเล็กๆ แล้วถอนใจออกมา
"เรื่องบอส.."พูดแล้วก็เว้นไป คนที่รอฟังเอียงหน้าไปมอง ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะพูดต่อ
"ที่เคยบอกแล้วไง อย่าให้เขาดีกับนายมากได้ไหม ฉันไม่ชอบเลย"มองตาตรงๆ เหมือนกับกำลังบอกว่าที่พูดคือความรู้สึกจริงๆ จุนฮยอเม้มริมฝีปากนิดนึง คิดไม่ออกว่าจะบอกยังไงว่าที่ดงอุนดีกับเขามันเพราะอะไรกันแน่
"ทำไมต้องไม่ชอบที่ดงอุนดีกับฉันล่ะ"เลือกจะไม่ตอบรับและขอหาเหตุผล อีกคนที่ถูกถามกลับนิ่งไป ใบหน้าคมคายไม่ได้ละสายตาไปแม้แต่น้อยก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาจุมพิตลงบนกลีบปากนุ่ม ไม่ได้เร่าร้อนแต่เป็นคำตอบแทนคำพูดใด
"ฉันหวง ฉันไม่อยากให้นายใกล้ใคร...แม้กระทั่งฮยอนอา ฉันก็ไม่อยาก"กระซิบบอกเสียงนุ่มที่ข้างหู จุนฮยองเบือนหน้าหนี
"แต่ฉันรู้นะว่าจะหวงนายกับแฟนนายไม่ได้ ถึงแฟนนายจะใจกว้างแค่ไหนก็ตาม"ขยับออกห่างก่อนจะพูดเสียงดังขึ้น ร่างโปร่งเลิกคิ้วนิดนึง เขาจำได้ว่าเคยบอกไปแลเวว่าไม่ได้เป็นอะไรกับฮยอนอาแต่ดูจุนไม่เชื่อเอง
"ดงอุนไม่มีทางคิดอะไรกับฉันหรอก ดงอุนมีแฟนแล้ว แฟนดุมาก"ตัดสินใจบอกเรื่องรุ่นน้องนั่นดีกว่าปล่อยให้คิดไปเอง นอกจากจะทำให้เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เดี๋ยวคนตรงหน้าเผลอไปทำท่าทางไม่ดีใส่เจ้านายตัวเองแล้วจะซวย
"แฟน? ใครกัน ไม่เห็นเคยมาที่บริษัท เวลามาหานายก็ไม่เคยมาด้วยกัน"ร่างสูงยังสงสัย
"ดงอุนคบกับโยซอบมาพักนึงแล้ว นายนี่มันไม่สนใครเลยจริงๆ สินะเวลามีแฟน"จุนฮยองว่า ก่อนจะบ่นอีกคนพลางนึกไปถึงเมื่อก่อน เรื่องที่โยซอบถูกเจ้าของหนังสือมาตามจีบออกจะเป็นเรื่องดังในบริษัท แต่อย่างที่ว่าเวลาที่มีแฟนคนตัวสูงนี่เคยสนอย่างอื่นที่ไหนกัน
"โยซอบ...ยังโยซอบเพื่อนนาย?"จุนฮยองพยักหน้า เพียงเท่านั้นก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าทำไม
"อือ ไอ้โยซอบที่มาเป็นผู้จัดการฉันแทนนาย ช่วงนี้มันต้องดูโปรเจคสาวๆ ที่นู่น พอแฟนมันมานี่ก็เลยให้ดูแลฉันแทนแค่นั้น"คนเล่าหนะก็เล่าโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กังวลเรื่องความรู้สึกของดงอุนต่อตัวเอง แต่คนฟังกลับขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรอยู่
"แล้วทำไมต้องดูแลนายดีขนาดนี้ ทำไมต้องถือกระเป๋า เปิดประตู หานั่นนี่ให้"ที่ตริงเวลาถูก
ซักไซ้มากๆ เขามักหงุดหงิด จุนฮยองเหลือบไปมองเซ็งๆ เริ่มขี้เกียจตอบคำถามแล้ว
"เอาเป็นว่าไม่มีอะไร เลิกคุยเรื่องนี้นะหิวแล้ว"ตัดบทในทันทีเพราะไม่อยากอารมณ์เสีย คนที่ยังไม่เคลียเท่าไหร่ยอมจะไม่พูดต่อ
"โอเคๆ ไม่ถามแล้ว ไปหาอะไรกินดีกว่า..."
สองสัปดาห์ต่อมา..
กีกวังเดินเอาใบผลการเจาะน้ำคร่ำมายื่นให้จุนฮยอง คนท้องโตที่นั่งกินแอ็ปเปิ้ลอยู่ละสายตาจากทีวีไปรับใบที่ว่ามาดู ริมฝีปากอิ่มยิ้มบางเบา
"อ่านไม่รู้เรื่องหรอกหมอ"เขาก็ว่างั้น กีกวังหัวเราะเบาๆ ก่อนสรุปผลตรวจให้ฟัง
"ก็เนี่ยโครโมโซมของเบบี๋.."
"หยุดเลย!"จุนฮยองร้องห้ามทั้งที่ยังพูดไปได้ไม่กี่คำ
"เอาแค่ปกติไหมก็พอ ศัพท์หมอนักร้องไม่เข้าใจ"ขยายความว่าทำไมให้หยุด คนตัวเล็กกว่ายิ้มพลางนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบผลไม้ในจานมากินบ้าง
"ก็ปกติดีทุกอย่าง"บอกเสียงเรียบ ร่างโปร่งหันมาพยักหน้ารับทราบก่อนจะถามต่อ
"สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์อ้วนท้วน?"คนฟังส่ายหัวยิ้มๆ ก็เคยบอกอยู่ว่ามันอ่านผลแบบนั้นไม่ได้เสียหน่อยก็ยังจะกล้าถามอีก
"มันจะไปบอกได้ไงว่าอ้วนไหม ต้องซาวน์ดู นายหนะอย่ากินอะไรที่น้ำตาลเยอะๆ ให้มากนักเบบี๋ตัวโตจะคลอดยาก"คุณหมอประจำตัวบอกพร้อมกับแย่งชิ้นแอ็ปเปิ้ลแสนอร่อยจากมือขาวมากินแทน จุนฮยองหน้ามุ่ยใส่
"ครับคุณอา"ทำท่ารำคาญนิดๆ เขารู้อยู่หรอกว่าไอ้ที่กินอยู่มันมีน้ำตาลมาก แต่เขาหิวแล้วอันนี้ก็เป็นของที่ดูจุนซื้อมาฝากนี่
"อาที่ไหน ฉันเป็นคุณน้าต่างหาก เพราะเป็นน้องของแม่เบบี๋"พูดจบก็โดนฟาดแขนไปทีนึงข้อหากวนประสาท คนถูกตีหัวเราะชอบใจ
"นี่..จุนฮยอง"คนที่นั่งด้วยเอ่ยเรียก เจ้าของชื่อเอียงหน้าไปมอง
"ว่า?"
"ย้ายไปอยู่ที่บ้านฉันนะ"ถึงจะคุยกัยหลายครั้งแต่รู้สึกได้เลยว่าครั้งนี้คคนพูดสีหน้าจริงจังขึ้น จุนฮยองขยับตัวลุกนั่งตัวตรงอย่างลำบากเพราะน้ำหนักที่ท้องได้กดเขาไว้ หลังบริเวณก้นกบที่เมื่อยขบมากขึ้นในบางคืนเล่นงานจนบางครั้งต้องลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย
"แต่.."จะให้บอกยังไงว่าเขาอยากจะอยู่นี่ อยู่ใกล้ๆ ดูจุน อยากเจอ อยากเห็นหน้าอยากคุยกันทุกวัน
"นายจะบอกดูจุนยังไงถ้าวันนึงเขาถามว่าทำไมท้องมันถึงได้เป็นแบบนี้"อีกฝ่ายทำหน้าซีเรียสมากขึ้นอีก จุนฮยองกรอกตาไปมา ไม่ใช่ว่าไม่เคยถูกถาม เพียงแต่คำถามนั้นมันเป็นคำถามที่ดูไม่ได้อยากได้คำตอบอะไร
"แล้วถ้าปวดท้องคลอดจริงๆ จะทำยังไง ฉันไม่รู้ด้วยว่านายจะมีน้ำเดินเหมือนผู้หญิงหรือเปล่า นายจะคลอดเองได้ไหม ไม่รู้อะไรสักอย่างเลยนะ"เอาความจริงกีกวังก็แค่ห่วงความปลอดภัย ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ดีพอแล้วที่เขาจะไปอยู่บ้านกีกวังในช่วงก่อนคลอดใกล้คลอดนี้ แต่ว่า....
"ดูจุนล่ะ..."ถ้าจะถูกด่าว่าบ้าผู้ชายก็คงยอม เขาอาจจะอ่อนไหวมากในช่วงนี้ มันรู้สึกเหมือนตัวเองขาดคนที่ว่าไม่ได้ เขาอยากเจอดูจุนทุกวัน
"ฉันรู้ว่านายรักเขามาก แต่แน่ใจเรื่องเขาแล้วเหรอ"พูดต่อและต้องการคำตอบ ไอดอลหนุ่มเลิกคิ้ว จะถามว่าแน่ใจเรื่องดูจุนไหมจะต้องให้ตอบในมุมไหน ถ้าเรื่องที่เขารักมากใช่ไหมหนะใช่ ส่วนเรื่องที่ดูจุนรู้สึกยังไงกับเขา แค่ดูจุนอยากมาหา มาเจอ มาคุยดีๆ มากอด มาใกล้ชิดแบบทุกวันเขาก็เดาเอาแบบไม่ได้เข้าข้างตัวเองมากนักว่าก็คงมีใจให้บ้างเหมือนกัน
"เขาก็คงไม่ฝืนใจทำดีกับฉันมาสามสี่เดือนหรอก"กีกวังพยักหน้าแล้วคิดตาม มันก็อาจจะจริงที่ดูจุนเคยทำไม่ดีกับจุนฮยอง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป รายนั้นดีแสนดีจนเขางง ทั้งหัดทำอาหาร ซื้อผลไม้มาฝาก พาออกไปกินข้าว พาออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต บางวันที่จุนฮยองเหนื่อยมากๆ ก็มานอนเฝ้า มาดูแลตลอดคืน
'ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับจุนฮยองก็คงแปลก'
"แต่ฉันไม่ไว้ใจว่านายจะปลอดภัย ไปอยู่บ้านฉันจนกว่าจะคลอดเถอะ"ยืนยันคำเดิม ใบหน้าขาวมองคนพูดแล้วนิ่งไป
"ขอเก็บของสองสามวันนะ"บอกเสียงเรียบ กีกวังเองรู้และเข้าใจว่าไม่อยากไปเลยให้ข้อเสนอ
"เอางี้ ฉันจะพามาที่นี่ มาส่งทิ้งไว้ช่วงหลังเลิกงานสักสองสามชั่วโมง ให้นายได้เจอเขา ให้เบบี๋ได้เจอพ่อตัวเอง"คุณหมอใจดีและเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร จุนฮยองยิ้มกว้างพอใจกับข้อเสนอน้ัน
"ก็ขอบอกดูจุนก่อนนะ"คนฟังพยักหน้าก่อนจะหันไปสนใจจอทีวีแทน
'ถามว่าไว้ใจดูจุนไหมคงไม่ แต่มันก็คงจะดีต่อสภาพจิตใจคนท้องแก่มากกว่าถ้าจะมีพ่อของลูกอยู่ด้วยในทุกวัน'
TO BE CONT.
ขอบคุณนะคะที่นังมีคนติดตามมมม นักเขียนกากๆ แบบเราอยู่ ยืนยันนะว่าจะแต่งจนจบแน่นอนแต่คงบอกไม่ได้ว่าแต่ละตอนจะห่างกันแค่ไหน
เป็นการแต่งตอนต่อตอนเลย แต่คิดว่าเนื้อเรื่องน่าจะไม่เกิน 20ตอน แน่นอน
อ่านตอนสิบนี้อาจจะเบื่อๆ เอียนๆ แต่รับรองว่า 'ตอนต่อไป' อาจจะอยากฆ่าเราก็ได้
ปล.รักคนอ่านนะคะ ไม่ขอคอมเม้นท์แล้วกันเนาะ แล้วแต่เลย แต่ถ้าชอบจะด่าเราในแท็ก #ANTMfic ได้เน้ออ
blaqcc ❤️
ความคิดเห็น