ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE OFFLINE II :: WRITER

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter :: IV

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 208
      3
      4 มิ.ย. 57

    IV

     









     

     

    ตัวสร้างโมเมนท์...คือ ฉายาของยงจุนฮยอง

     

     



                    ชั่วครู่ที่ฮยอนซึงหันกระซิบกระซาบกับลีดเดอร์หน้าขาวซึ่งตีสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่โยซอบกำลังกล่าวขอบคุณในงานแฟนมีตถูกกับภาพและแชร์ไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น บุคคลในภาพขมวดคิ้วมองแล้วหันหน้าไปหาบุรุษหน้าสวยที่จิบชาเขียวเย็นอยู่ข้างๆ


    "มึงเห็นหรือยัง”ถามเรียบๆ ฮยอนซึงหันมองเครื่องมือสื่อสารแต่แทนที่คนนิ่งๆ จะพยักหน้าแล้วหันหนีไปแบบปกติกลับเงยมามองเขา มือเรียวสวยยกมาจับต้นแขนเขาเอาไว้แน่ ดวงตาที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดจ้องลึกลงในแววตางุนงงของลีดเดอร์


    “ยงจุนฮยอง มึงรู้ตัวไหมว่ามึงไม่ปกติ”คำถามที่สวนไปทำเอาจุนฮยองยิ่งงงหนักไปใหญ่ ฮยอนซึงถอนหายใจใส่ทว่าไม่ได้ปล่อยมือจากไหล่ขาวนั้น โยซอบที่ยืนดูดนมกล้วยอยู่อีกฝั่งห้องก้าวขามาหยุดตรงหน้าทั้งคู่ เมนร้องตัวเล็กหยิบกล้องขึ้นมากดถ่ายภาพที่ว่า


    “อะไรของมึงสองคน”งงกับสภาพที่เป็นและสายตาที่จ้องมองของเพื่อน ฮยอนซึงหันไปมองโยซอบที่พยักหน้าเบาๆ ให้เขาพูด


    “มึงเปลี่ยนไป มึงไม่สร้างโมเมนท์...ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่มึง”ออกจะวกวนแต่พอเข้าใจได้ โยซอบเลิกคิ้ว กดโทรศัพท์สามสี่ครั้งไม่ถึงอึดใจเสียงไลน์ในมือก็ดัง ฮยอนซึงมองเชิงว่าให้ดูมันซะ ..แร็ปเปอร์คนหล่อทำตามเพื่อนไปแต่ก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่


    “อะไรหรอ”ถามเพราะภาพที่ถูกส่งมาคือโพสิชั่นตอนนี้ โยซอบถอนใจใส่เฮือกใหญ่


    “ไม่เข้าใจที่ฮยอนซึงพูดหรอวะ มึงไม่สร้างโมเมนท์ เพราะงั้นลงรูปนี่ซะ พ่อตัวสร้างโมเมนท์”ถึงจะขัดใจหน่อยๆ ที่โดนกดดัน แต่ก็ทำตามอย่างว่าง่ายและแม้ว่าจะไม่เข้าใจเหตุผลนักแต่ก็ไม่อยากต่อปากต่อคำ


    “ดีมากยงจุนฮยอง”

     

     






                    ดูจุนแทบตกจากเก้าอี้ที่อยู่หน้าประตูทางเข้าด้านหลังเวที ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของผู้หนุ่มผู้ห้อยบัตรวีไอพี ยิ้มจางๆ เมื่อ
    เห็นว่าไอดอลที่ตัวเองสนิทสนมด้วยเพิ่งลงรูปที่แสนน่าจิ้นในทวิตเตอร์ ปกติเขาก็ต้องฟิน...อย่างน้อยก็มากกว่านี้


    “พี่ดูจุน พี่เห็นยัง”กายุนร้องเสียงหลงหลังจากเพิ่งเห็นรูปที่ว่า แก้มขาวๆ ของน้องสาวคนสวยแดงเรื่อ ดวงตาคู่สวยสุขจนล้น  พาลทำให้เขาต้องยิ้มไปด้วย


    “เห็นแล้ว”ตอบด้วยรอยยิ้มที่เขาคิดว่ามันกว้างพอสมควร เด็กสาวขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ และอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกมา


    “พี่เป็นไร ทำไมดูไม่ฟิน...อย่าบอกว่าหึงฮยอนซึงนะ ไหนถ้าเป็นพี่จุนฮยองพี่ยอมได้ไง เนี่ยๆ จุนซึงเต็มตาเลย”ยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าพี่ชายจนจอสี่เหลี่ยมอันใหญ่แทบกระแทกหน้า ดูจุนมองมันเพียงนิดแล้วละสายตา

     




    ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมมัน....ไม่ชอบ





     

    “น้องดูจุนกับน้องกายุนใช่ไหมครับ”เสียงร้องถามจากประตูทางเข้าดึงความสนใจที่ควรมีไปจากเขาทั้งคู่ กายุนอ้าปากหวอเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร


    “คระ..ครับ”ไม่ใช่แค่น้องสาวคนสวยจะอึ้งเพียงคนเดียว ดูจุนเองก็ไม่ต่างกันแม้ว่าจะมีสติมากกว่าหน่อยก็ตามที


    “ไป ไปข้างในกัน”คนที่ว่าบอกพลางเปิดประตูรับ ที่จริงเขากับน้องมารอตรงนี้พักใหญ่แล้วหลังจากที่งานเลิก คิดๆ อยู่ง่านี่อาจจะโดนเบี้ยวไปแล้วหรือเปล่า เพราะถึงบัตรที่ได้มาจะมาจากลีดเดอร์ของวง ทว่าระยะเวลาที่รอมันก็น่าท้อใจไม่น้อย


    “เดี๋ยวครับพี่กีกวัง”เรียกชื่อคนที่ทำท่าจะเดินนำเข้าไปเอาไว้ก่อน กีกวังหันมายิ้มกว้างตามนิสัย


    “ครับ ว่าไง”ถามกลับไปเสียงใส ดูจุนหันมองหน้ากับน้องสาวที่ยังคงทำท่าเหมือนโดนสะกดแบบนั้น


    “ไม่เป็นไรจริงๆ นะครับถ้าพวกผมเข้าไป”เพื่อความแน่ใจ และเช็คว่าจะไม่เป็นอะไรจริงๆ กีกวังหัวเราะในลำคอ


    “ไม่มีใครอยู่ข้างในแล้ว มีแค่เจ้าพวกนั้นแล้วก็พี่”เป็นกันเองไม่เหมือนกับที่เคยจินตานาการไว้แม้แต่น้อย ดูจุนย่างขาไปตามทางเดินที่ไม่มีทีมวานแล้วสักคน เงียบเชียบจนเมื่อเดินเข้าใกล้ห้องหนึ่งที่มีเสียงดังลอดออกมาจนจับใจความไม่ได้


     





                    กีกวังยกมือบอกให้รออยู่ตรงนั้นก่อน ดูจุนกับกายุนเบรกเอี๊ยดจนหัวแทบทิ่ม มือขาวของผู้จัดการวงคนเก่งชี้บอกให้ไปยืนในมุมที่มองจากทางประตูไม่เห็น


    “จุนฮยองไหนคนที่นายบอกให้พี่ไปตาม ออกไปไม่เห็นจะมีสักคน”ตีหน้าซื่อร้องบอกเสียงเรียบ ข้างในที่กำลังหัวเราะร่วนโหวกเหวกเงียบลงจนเหมือนกับไม่มีคนข้างในนั้น เสียงฝีปากเดินตรงเข้ามาหากีกวัง ดูจุนเดาเอาว่าคงเป็นจุนฮยอง


    “พี่อย่าโกหกมันน่า”แต่ไม่ใช่ มันคือเสียงของฮยอนซึง ร่างสูงที่ยืนมองรู้สึกหน้าร้อนๆ แบบไม่รู้สาเหตุ วงแขนของเมนแด็นเซอร์โอบเข้าที่ไหล่ของคนขี้แกล้ง


    “คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้นหรือไง น่าโกรธจริงๆ”เขาว่ารูปประโยคกับน้ำเสียงกระเง้ากระงอดนี่มันชวนตงิดใจไม่น้อย

    พี่พูดจริงหรอ เดี๋ยวผมไปดูเอง”จุนฮยองร้องขึ้นมาแล้ววิ่งออกจากปห้องผ่านกีกวังและผ่านหน้าเขาสองคนไปที่ทางออก กายุนมองหน้าดูจุนงงๆ ฮยอนซึงชะโงกหน้ามาอย่างรู้ดี ก่อนจะเอ่ยบอกดวยยิ้มจางๆ


    “ผมว่าพี่ควรตามไปบอกมันหน่อยนะ เดี๋ยวออกไปไม่เจอจริงๆ แล้วจะได้เห็นมันสติแตก”ที่จริงเขาก็ควรจะไปตั้งแต่ที่ฮยอนซึงพูดจบ แต่เพราะคนที่พูดกับเขามันคือจางฮยอนซึงไง ยุนดูจุนเลยเหมือนโดนสต๊าฟไว้อย่างนั้น


    “ไปดิวะพี่ดูจุน “กายุนตบไหล่ดังปั๊กแล้วก็ผลักหลังให้ตามลีดเดอร์คนหล่อไป ดูจุนมองงคนรอบตัวเหรอหรา ฮยอนซึงกระตุกยิ้มให้ทีนึง แล้วดึงข้อมือเขาให้ตามจุนฮยองไป


    “ไปสิครับ เพื่อนผมหนะแคร์พี่มากเลยนะ”

     






    ‘’’

     






                    จุนฮยองเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรที่อยู่ๆ ก็เดินออกมาจากห้องแบบนั้น ทั้งที่ก็รู้ว่าถูกแกล้ง แต่พอคิดได้ว่าเวลาที่ดูจุนเห็นหน้าฮยอนซึง แล้วจะมีอาการยังไง เขาว่าเขาหนีไปไม่ให้เห็นจะดีกว่า ..งี่เง่าเป็นบ้า


    “จุนฮยอง!”เสียงทุ้มคุ้นหูร้องเรียกมาจากด้านหลัง เขาได้ยินมันชัดเจนทว่าขากลับไม่หยุดจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ฝีเท้าหนักใกล้เข้ามาทุกที เขาไม่ได้เร่งความเร็วตัวเองขึ้นแต่ก็ไม่หยุดเดิน


    “ไม่ได้ยินที่เรียกหรอ”ดูจุนคว้าแขนของแร็ปเปอร์หน้าขาวเอาไว้ ขาเล็กหยุดลงเวลานั้น เขานิ่งงันไม่มีคำตอบจะให้ฝ่ายนั้นแม้แต่คำเดียว


    “ผม....”ก็รู้ดีว่านี่ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด ยงจุนฮยองจะเป็นบ้าบอคิดไปเองทำไมไม่รู้ แต่พอมันเริ่มคิดไปแล้ว..เขาหยุดความคิดไม่ได้เลย

     





    ทั้งที่ก็รู้ว่าฮยอนซึงไม่ได้สนใจดูจุน

    แต่เขารู้ดีว่าสายตาของยุนดูจุนยังเลือกที่จะมองฮยอนซึงก่อนเขาเสมอ







     

    แค่คิดก็เจ็บแล้ว

     



    “กลับไปกันเถอะ ทุกคนรออยู่”ดูจุนกระตุกแขนนั่นเบาๆ จุนฮยองพยักหน้าแต่ไม่ได้หันกลับไป ฝ่ามืออุ่นคลายออกแล้วเดินนำไปจากตรงนั้น จุนฮยองหมุนตัวกลับไปอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาใสที่มักจะเย็นชาต่อหน้าแฟนคลับ สนุกสนานต่อหน้าเพื่อนๆ และสดใสเมื่อได้เจอดูจุนหลงเหลือเพียงแววตาแสนเศร้าที่มองตามแผ่นหลังกว้างซึ่งเดินห่างไปเรื่อยๆ


    “อ้าว....จุนฮยองเร็วสิ ฮยอนซึงแล้วก็คนอื่นๆ รออยู่นะ”

     

     




    ไม่พูดได้ไหม...ไม่พูดชื่อของคนที่สำคัญกว่าเขาได้ไหม

     





     

    “ครับ”

     







     

    “”””””

     

     




                    ดูจุนอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ฮยอนซึงแกล้งเอนมาใกล้เขาแล้วจุนฮยองทำได้แค่ฮึ่มๆ ใส่เพื่อนหน้าหวาน เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าความสุขในอกตอนนี้มันเกิดจากที่ฮยอนซึงไม่ถือตัว เกิดจากที่ได้รับความเป็นกันเองจากไอดอลที่เฝ้ามองมาตลอดหรือเกิดจากที่จุนฮยองแสดงออกให้ได้รู้ว่าคิดแบบไหน

     



    เขารักฮยอนซึงในฐานะไอดอลคนนึง ..แต่ที่รู้สึกกับจุนฮยองมันต่างไป

     




    “ยิ้ม...ฟินอ่ะดิที่พี่ฮยอนซึงเขาจิ๊จ๊ะด้วย”กายุนหักขนมในมือแล้วเอาใส่ปากพลางพูดไปด้วย ดูจุนเอียงหน้ามองน้องสาว


    “ก็ด้วย”เขาว่าเขาตอบไปแบบกลางๆ น่าจะดีกว่า เพราะที่จริงยังตัดสินไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร กายุนยิ้มน้อยๆ

     





    HGayoseob :  ตอบน้องแบบนี้สงสัยอยากเปลี่ยนเมน @DJJS

     

     

                    ดูจุนกดดูเมนชั่นจากเด็กสาว อดไม่ได้ที่จะเขกหัวยัยตัวดีที่นั่งทำทะเล้นอยู่ข้างๆ เขา กายุนมุ่ยหน้าใส่ เธอกดโทรศัพท์อีกสองสามทีแล้วหันกลับไปมองหน้าพี่ชาย รอยยิ้มน่ารักจางลงก่อนจะเริ่มถามพี่ชายอย่างจริงจัง

    “พี่ชอบพี่จุนฮยองบ้างไหม”คำถามที่หยุดทุกความคิดที่มี ดูจุนนิ่งไปพอสมควร ดวงตาคมครุ่นคิด


    “ก็ดีนะ”เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีมันคือชอบหรือเปล่า แค่มันออกจะเซ็งๆ เวลาที่จุนฮยองยุ่งแล้วก็ไม่ได้คุยกัน ออกจะร้อนรนที่เห็นว่าน้องอารมณ์ไม่ดี

     




    ไม่รู้ว่าชอบไหม แต่รู้ว่าแคร์

     



    “เฮ้ยพี่ ก็ดีนี่ไม่ตรงคำถามนะ ชอบหรือไม่ชอบ”คาดคั้นตามนิสัยที่จะต้องรู้ให้ได้ของคุณหนูคนเล็กของบ้าน ดูจุนเม้มริมฝีปากจนป็นเส้นตรง คิดหนัก...


    “ไม่หรอก ไม่ได้ชอบ”เขาปฏิเสธเพราะอยากจะปกป้องตัวเอง ถ้าคุยไปมากกว่านี้แล้วคำตอบคือไม่จริงๆ วันนั้นจะได้ไม่มีอะไรมาผูกมัดเขาเอาไว้....


    “แล้วกับพี่ฮยอนซึงล่ะ พี่ชอบแบบไอดอลหรือชอบแบบอยากเป็นแฟนด้วย”เขาว่าคำถามออกจะไร้สาระอยู่นะ ใบหน้าคมคายมองคนที่ถาม แววตาจริงจังบอกให้รู้ว่านี่คือความจริง


    “พี่รักฮยอนซึง แต่ไม่ได้อยากครอบครอง...”

     





    ‘DJJS : ขอบคุณที่มาให้เจอครับ

     




     

                    จุนฮยองอ่านข้อความที่ว่าแล้วทำเพียงคว่ำโทรศัพท์ลงบนตัก วินาทีที่อ่านจบคำตอบที่ได้จากข้อความคือชื่อของเพื่อนสนิทที่นั่งหลับอ้าปากหวอข้างๆ เขา ....มาให้เจอคงไม่ได้ใช้กับคนที่เจ้ากี้เจ้าการขอให้มาให้ได้แบบยงจุนฮยองหรอก


    “หึงแฟนคลับกับไอดอลนี่ตลกนะ”โยซอบพูดมาจากเบาะด้านหลัง ใบหน้าเล็กที่มีเพียงแสงจากโทรศัพท์สาดใส่หน้ายังคงจับจ้องที่จอสี่เหลี่ยมราวกับว่าเพียงแค่พูดขึ้นมาลอยๆ


    “มันไม่ตลกตรงที่กูรักแฟนคลับของเพื่อนนี่แหละ”พูดขึ้นตรงไปตรงมา โยซอบหัวเราะหึในลำคอ ก็เข้าใจความรู้สึกของจุนฮยอง จากที่เห็นวันนี้ ที่ดูจุนแสดงออกมันก็สมควรให้เพื่อนตัวดีมานั่งเศร้าโศกอมทุกข์แบบนี้


    “มึงจะถอยก็ได้นี่ ถ้ามึงรู้สึกว่าเขาไม่รัก”โยซอบก็แค่แก้ปัญหาให้เพื่อนด้วยวิธีที่เขาคิดว่าง่ายที่สุด เหมือนกับปมเชือกที่จุนฮยองจะแก้มันแต่ยิ่งคลายก็ยิ่งแน่น..แบบนั้นก็ตัดมันทิ้งเลยดีกว่า


    “แต่กู...”


    “รักแต่ต้องทนเวลาเขามาเจอไอ้ฮยอนซึงแล้วไม่สนใจมึงเลย ลองคิดนะว่าแบบนั้นกับการที่รักเขาไปห่างๆ แบบไหนจะดีกว่า สักวันมึงอาจจะตัดใจได้ก็ได้”โยซอบแทบไม่เคยพูดจาดีๆ กลับออกปากแนะนำยืดยาวเหมือนไม่ใช่ตัวเอง เขาก็แค่ไม่อยากเห็นจุนฮยองในสภาพนี้ เวลาจะพูดอะไรแรงๆ พอเห็นว่าเพื่อนกำลังทุกข์ก็ได้แต่หุบปากทุกที....ไม่เป็นตัวเขาเองยิ่งกว่าตอนนี้อีก


    “ขอบใจนะเตี้ย”ขยับริมฝีปากบอกเพื่อนพลางเอนศีรษะซบไหล่ลาดของคนคนนั้น โยซอบฟาดเพี๊ยะที่หน้าผากกว้าง ก่อนจะบ่นตามประสา


    “คนเตี้ยอะไรสูงตั้ง 172 ไอ้เถิกเอ๊ย”

     

     





    ‘jokerJJ : รักนะครับ แต่ตอนนี้เหนื่อยแล้ว ผมพักก่อนนะ

     

    ‘DJJS > jokerJJ : ฝันดีนะครับน้องจุนฮยอง..ฝากบอกน้องฮยอนซึงด้วย

     

                   




                    จุนฮยองระบายยิ้มมองข้อความ เขาว่าเขากำลังยิ้มอยู่นะแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจมันถึงเหมือนกับกำลังเต้นช้าลง..

     

     


                    ดูจุนเอนหลังลงกับที่นอนหลังจากปิดคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว แววตาคมกำลังคิดถึงเรื่องราววันนี้ คิดแล้วก็มันมืออยากจะเขียนฟิคสั้นสักเรื่องขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทว่าเวลาก็ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว แถมพรุ่งนี้ยังมีเรียนอีกโครองการในหัวเลยต้องพับไป


                    เสียงเครื่องมือสื่อสารของเจ้าตัวดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ดูจุนสะดุ้งนิดหน่อยแล้วคว้ามันมากดรับสายอย่างสนิทสนม



    “ว่าไง”เสียงนุ่มกรอกไปอย่างอบอุ่น ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะบอกเสียงเรียบ


    “พรุ่งนี้เย็นพี่จุนฮยองยกเลิกนัดกินข้าวกับพี่นะ วันต่อๆ ไปด้วย”กายุนพูดน้ำเสียงนิ่ง ร่างสูงอึ้งไปชั่วขณะ ในหัวเขามันมึนๆ เหมือนถูกเอาไม้หน้าสามมาฟาดที่คอจนสติหลุดไป


    “ทะ ทำไมล่ะ”น้ำเสียงสั่นเพราะเขาควบคุมมันไม่ได้ ความสงสัยพุ่งขึ้นมาจนแทบสุดปรอท


    “ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้บอกเหตุผล เอาเป็นว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปยกเลิก พี่ก็ใช้ชีวิตติ่งของพี่กับฉันต่อ พี่จุนฮยองพี่ฮยอนซึงแล้วก็พี่โยซอบก็ใช้ชีวิตศิลปินของเขา...เข้าใจนะ”แล้วก็ตัดสายไป

     






    เขากำลังถูกจุนฮยองตัดออกจากชีวิต...หรือเปล่า









    2 BE CON"
    TALK" แต่งจบตอนเกือบเดือนแล้ว แต่พอจะลงก็มีนั่นนี่มาขัดตลอดขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ

    ขอบคุณที่รักทูจุน

     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×