ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC-B2ST] A DAY

    ลำดับตอนที่ #8 : XII - END

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57


    XII

     

     

     

                             อิลฮุนวางมือลงบนรถลากกระเป๋าของพี่ชายที่เพิ่งมาถึง ข้างกายของคนเป็นน้องมีชายหนุ่มตัวสูงที่เขารู้จักดีอยู่แล้ว

    “พี่จะกลับบ้านหรือไปคอนโด”หันไปถามเสียงเรียบ กว่าปีที่ไม่เจอกันทว่าเขาสองคนพูดคุยกันบ่อยกว่าตอนยืนอยู่บนผืนดินเดียวกัน บ้านหลังเดียวกันเสียอีก

    “บ้านก่อนดีกว่า พี่โซยูกับพี่จางอูรออยู่ไม่ใช่หรือไง”เอ่ยไปถึงพี่น้องของตัวเอง อิลฮุนพยักหน้าพลางนึกไปว่าเขากับพี่ๆ ทั้งสองพัฒนาความเป็นพี่น้องไปมากแล้ว

    “เขาบอกว่าให้ผมรีบพาน้องรักของเขากลับบ้านหนะ”แอบน้อยใจที่ไม่ว่ายังไงทุกคนในบ้านก็รักจุนฮยองมากกว่า ไม่ใช่ไม่เจียมว่าตัวเองเป็นเพียงลูกเมียน้อย...

    “นี่นายงอนพี่เขาหรอเนี่ย ..ดูสิดงกึน”แหย่น้องโดยการกระเซ้าไปที่คนรัก ดงกึนหัวเราะน้อยๆ

    “ขำบ้าอะไร ยกกระเป๋าพี่จุนฮยองตามมาเร็วๆ เลย เดี๋ยวกลับถึงบ้านช้าจะโดนเจ้าแม่โซยูสิง!”ว่าไปนั่นก่อนที่จะต่างคนต่างหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ จุนฮยองดูรู้แล้วว่าเขาไม่ต้องเป็นห่วงอิลฮุนต่อไปอีก

     

    สิ่งที่น้องชายของเขาต้องการคือครอบครัวที่รักกันจริงๆ

     

     

     

                             ดูจุนนั่งเหม่อมองภาพกลุ่มของตัวเองในวันที่ไปส่งจุนฮยองไปเรียนต่อ เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วย แต่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ...และตอนนี้เขาคิดถึงเหลือเกิน

                             บานประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ หญิงสาวในชุดคลุมท้องเดินเข้ามาหาพี่ชายแท้ๆ พร้อมด้วยสามีของหล่อนที่ติดตามไม่ห่าง

    “คิดถึงก็ไปหาดิ”ฮงกีเอ่ยกระเซ้าพี่เมียแล้วยิ้มอย่างรู้กันกับกายุน

    “คิดถึงใคร พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจ”ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่อีฮงกีรู้ว่าเขาเพียงแค่ไม่ยอมรับเท่านั้น

    “คงจะเป็นพวกพี่ซึงโฮ พี่ฮยอนซึงล่ะมั๊งตัวเอง ไม่ไปหาหน่อยหรอ ยกโขยงกันมาหมดเลยนะ นั่งอยู่ข้างล่างหนะ”

     

     

                            ดูจุนเดินลงจากบันไดของร้านพลางมองหากลุ่มเพื่อนสนิทที่อยู่ที่มุมเดิมของร้าน หนึ่งปีพอดีที่กายุนแต่งงานและกำลังจะมีหลานตัวน้อยให้เขาในไม่ช้า ดูจุนยิ้มเดินเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งกันครบทีม

     

    ที่ถ้าจะขาดใครไปก็คงจะมีแค่...คนคนนั้น

    “โอกาสพิเศษอะไรวะ ถึงได้มากันจนครบเลยมึง”ดูจุนว่าแล้วลากเก้าอีมานั่งแทรกระหว่างซึงโฮกับกีกวัง คนอื่นมองหน้ากันแล้วยิ้มบางเบา

    “ครบที่ไหน ยังไม่ครบสักหน่อย แก็งค์เรามันต้องมีจุนฮยองอีกคนต่างหาก”ถึงจะเป็นชื่อที่ฟังแล้วเจ็บแปลบในอกไม่น้อย แต่ดูจุนก็ดีขึ้นจนพอจะยิ้มได้ ดวงตาคมเศร้าลง

    “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะวะ...ดูจุน”จากที่เศร้า น้ำเสียงของคนที่พูดทำให้เขาหัวใจพองโต ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองคนที่พูด ดวงหน้าขาวต้องกับแสงไฟสลัวของร้าน รอยยิ้มละมุนที่ส่งมาให้ตอนนั้นยุนดูจุนรู้สึกเหมือนโลกของเขากำลังจะหยุดหมุน ความรู้สึกเป็นสุขล้นใจ...และไม่สามารถอธิบายมันออกมาได้

    “จุนฮยอง....”เอ่ยเรียกคนคนนั้นด้วยเสียงแผ่วเบา เจ้าของชื่อยิ้มกว้างกว่าเก่าก่อนจะตรงมารวมกลุ่มด้วย

     

                            ดูจุนนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับจุนฮยองที่รายนั้นกับเขาแทบไม่ได้พูดกันเลยสักคำ  บทสนทนาส่วนใหญ่เป็นคำถามเกี่ยวกับชีวิตหลังจากไปอยู่ที่นู่นของจุนฮยองแทบทั้งสิ้น

    “วันนี้ชอนดุงไม่มีอะไรใหม่ๆ มาให้ชิมหรอวะ”พอเริ่มมีแอลกอฮอลในเส้นเลือดบยองฮีก็หลุดเรื่องที่แอบพูดแซวกันกับเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มออกมา...เรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อน

    “เออ แบบวันนั้นหนะ”เป็นโยซอบที่รับคำต่อ ก่อนจะกระดกเหล้านอกกลิ่นหอมกรุ่นลงคออย่างคึกคะนอง

    “มึงพูดเรื่องอะไรกันวะ”จุนฮยองถามขึ้นเพราะเริ่มตงิดในใจ ที่เหลือที่ครองสติกันได้อยู่เริ่มร้องเอ่ออ่า

    “ไม่มีไรหรอก”เป็นดูจุนเองที่พูดขึ้นมา เขารู้ดีตั้งนานแล้วว่าเรื่องวันนั้นมันเกิดจากตรงไหน ความรู้สึกเดิมๆ ที่มันเกิดจากใครช่วยสร้าง

     

    แต่จนถึงวันนี้ดูจุนเองก็ไม่แน่ใจว่าควรจะขอบใจหรือควรจะโกรธเพื่อนพวกนี้ดี

     

    ที่ทำให้เขาต้องทรมานใจเพราะรักจุนฮยองมากขนาดนี้

     

    ทำให้เขาต้องลบอคติทั้งหมดที่มีกับคนคนนึง....เพราะคำว่า”รัก”คำเดียว

     

     

                            เนิ่นนานจนเหล้าหมดไปเป็นขวดที่สอง คนอื่นๆ เมาเผละ ถูกลากเขาห้องพักข้างบนไปแล้ว เหลือเพียงแต่ดูจุน ดงอุนและจุนฮยองที่ยังคงนั่งจิบทีละน้อย ก่อนที่รุ่นน้องคนรักของเพื่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะอีกคน

    “สบายดีใช่ไหม”จุนฮยองเอ่ยถามเขา รอยยิ้มบางเบาระบายบนใบหน้า แสงไฟสลัวต้องกับผิวเนียนที่ขึ้นสีระเรื่อชวนหลงใหล แต่ยุนดูจุนเลยจุดนั้นมาแล้ว

     

    กับคนคนนี้....เขาหลงรักไม่ใช่หลงใหล

     

    “ไม่ค่อยหรอก ป่วยๆ มาเป็นปีแล้ว”บอกเสียงเรียบ พลางละสายตาหนีดวงตากลมที่มองมา

    “เป็นอะไร ทำไมอิลฮุนไม่เคย...”ไม่ทันแล้ว จุนฮยองหลุดออกมาแล้วว่าติดตามเรื่องราวของอีกฝ่ายมาจากน้องชาย มีแต่เขาสินะที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจุนฮยองเลยในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน.... แต่จะไปโกรธกันเพื่ออะไร ในเมื่อความรักที่เขาอยากจะพบเจออีกครั้งอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว...

    “กูเป็นโรคบ้าอะไรก็ไม่รู้ เอาแต่คิดถึงมึง”มุกหวานที่แสนจะตรงไปตรงมา จุนฮยองยิ้มเขินแล้วสบสายตาช่ำ ความชุ่มชื่นที่หัวใจมีเปี่ยมล้น รู้สึดตัวกันดีและได้ยินทุกคำชัดเจน

     

    ความคิดถึงเป็นผลข้างเคียงของความรัก...ประโยคนี้เป็นเรื่องจริง

     

    “ขอกูกอดมึงได้ไหมดูจุน”คนหน้าหวานกว่าถามเสียงใส ดวงตากลมมองมาด้วยความรู้สึกคิดถึงเต็มปรี่ กำแพงหนามันถูกความคิดถึงทำลายลงจนหมดแล้ว....

     

    ไม่ว่าจะด้วยคำพูดของเพื่อนคนไหนที่ย้ำให้เขาสองคนเลิกมีทิฐิ บอกให้ทำตามหัวใจ..... แต่ความรัก ที่มีความคิดถึงเป็นเป็นความรู้สึกที่ทำให้เกือบตาย 

     

    “กูคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าเจอมึงอีกครั้ง กูจะกอดมึงแน่นๆ แล้วก็จะไม่ให้หนีไปไหนอีก”สองคนขยับกายเข้าหากัน อ้อมกอดอาจจะไม่ได้อบอุ่น แต่ผิวเนื้อที่สัมผัสแขนเพียงเล็กน้อยนี้กลับทำให้ความรู้สึกค้างคาในใจเหือดหายไปได้จนหมด

     

     รู้แล้ว.... รู้ว่าเมื่อวานสร้างอนาคตเสมอ และถ้าเมื่อวานเขาเลือกที่จะจดจำแต่ความเจ็บช้ำ

     

    อนาคตอาจจะไม่มีความสุขอีก...และอาจจะตายไปพร้อมกับอดีตที่ต่างไม่เคยมีใครให้อภัยกัน

     

     

     

    “กูจะไม่ไปไหนอีกแล้ว...ดูจุน”

     

     

    แต่วันนี้ยุนดูจุนเลือกจะลืมความหลังนั้น...และจะสร้างวันที่ดีกับความรักครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งเดียวนี้กับคนของเมื่อวาน....

     

     

     

    A DAY  :: END

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×