ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]__BLACK PARADISE__ :: 2JUN

    ลำดับตอนที่ #3 : ___BLACK PARADISE___ 3rd

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 56


    BLACK PARADISE

    DUJUNxJUNHYUNG

    THREE

     

                   






                    ประตูห้องอัดถูกล็อคจากที่สองคนที่หลบหายเข้ามาในนี้ร่วมสามชั่วโมงใช้งานมันอย่างผิดจุดประสงค์ คราบเหงื่อไคลตามเนื้อตัวไม่ได้เปรอะเปื้อนพื้น แต่เห็นจะเป็นคราบขาวขุ่นที่ทั้งคู่เองก็ไม่อาจจะระบุได้ว่านี่ของใคร ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เริ่มขึ้นมาพักนึงนี้เป็นความลับของเขาทั้งคู่...

    “กับไอ้ดูจุนคบกับมันหรอ ทำไมถึงได้สนิทสนมกันนัก”ถึงรูปคำถามจะดูไม่ค่อยเหมาะกับการพูดคุยหลังเพิ่งเสร็จกิจแต่กีกวังเองกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะเขาเองนี่แหละที่อยากให้เข้าใจไปแบบนี้ อยากให้เห็นว่าเขาเองก็มีตัวเลือก

    “ผมกับพี่ดูจุนมันยิ่งกว่าคนคบกัน เราผูกพันกันมากกว่าที่ฮยอนซึงคิดอีก”บอกเสียงเรียบพลางขยับกายลุกออกจากตักของอีกฝ่าย ขาเล็กเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมก่อนจะหันเหลือบมองอีกคนที่คว้าเอากางเกงที่พาดอยู่บนเครื่องปรับเสียงมาใส่แล้วนั่งลงที่เดิม

    “ผมคงจะต้องกลับแล้ว”คนตัวเล็กดึงเสื้อแขนกุดสีดำลงมาปิดจนถึงเอวแล้วเอี้ยวตัวหันไปพูดกับร่างโปร่งที่ยังคงนั่งเปลือยท่อนบนอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ใช้เริงรักกันเมื่อครู่นี้ ฮยอนซึงลุกขึ้นเดินมาสวมกอดจากด้านหลัง ปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มใสของคนตัวเล็กกว่า

    “ไปต่อกันที่ห้องผมไม่ได้หรอกีกวังอา...”อ้อนเสียงหวาน คนตัวเล็กลอบยิ้มพอใจก่อนจะตีหน้าเฉยเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น

    “วันนี้พอแค่นี้เถอะนะ...ฮยอนซึงของฉัน”ไล้ปลายนิ้วที่โครงหน้าหวาน จ้องลึกที่ตาคู่สวยตรงหน้า ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มอย่างน่ารักเป็นการย้ำความต้องการ ฮยอนซึงเลื่อนใบหน้าประทับริมฝีปากบางที่ริมฝีปากอิ่มแผ่วเบา กีกวังไม่ได้หลบหนีเพียงแต่ทำท่าขวยเขินอย่างมีจริต

    “เรายังได้เจอกันอีกนาน...ถึงตอนนั้นก็อย่าเพิ่งเบื่อฉัน เบื่อร่างกายของฉันแล้วกันนะ”จูบแก้มคนตัวสูงกว่าไปครั้งหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ถอยร่างกายเดินห่างออกไป ดวงตาเล็กมองคนตรงหน้าราวกับไม่อยากจะจากไปเสียเต็มประดา ฮยอนซึงมองตามแผ่นหลังที่หันเดินออกไปแล้วอย่างเสียดาย ในใจที่ลุ่มหลงจดจำได้เพียงรอยยิ้มแสนไร้เดียงสา เสียงหวานใต้ร่างที่เอื้อนเอ่ยเรียกเขา

     

    กับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยรัก...แต่ถูกสานต่อด้วยเซ็ก ส์

     

     

                    ชอคโกแลตคาราเมลหลังจากที่ได้ออกกำลังอย่างหนักหน่วงมาตลอดสามชั่วโมงทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกสดชื่อขึ้นมาได้มาก เจ้าของร้านตัวเท่ากันที่เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมเดินมาวางเค้กสูตรใหม่ที่เพิ่งสั่งมาลงที่ร้านตรงหน้าเขา พลางหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงกันข้าม กีกวังยิ้มหวานตามนิสัย

    “สรุปว่ามึงก็ได้สมหวังกับพี่เขาแล้ว?”ถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คนยิ้มเก่งส่ายหัวแล้วดูดน้ำหวานในมือลงไปอีกอึก

    “แค่มีอะไรกันแล้วเฉยๆ”ตอบเหมือนเป็นเรื่องแสนธรรมดาทั้งที่คนฟังคำตอบรู้สึกว่ามันก็ลึกซึ้งกันมากเกินไปแล้ว

    “ได้กันแล้วแต่มึงว่ายังไม่สมหวัง คือต้องให้ท้องก่อนหรอมึงถึงจะยอมรับเนี่ย”พอโดนสวนมาแบบนั้นกีกวังเลยหัวเราะออกมาในลำคอ รอยยิ้มที่เคยสดใสเป็นเพียงรอยยิ้มที่ดูสมเพชอยู่ในที

    “ก็พี่ฮยอนซึงยังไม่รักกูนี่...คอยดูนะโยซอบ กูจะปั่นหัวแล้วก็ทำให้หลงกูจนโงหัวไม่ขึ้นเลย”ยังโยซอบไม่อยากจะยอมรับเลยว่าความรักจะทำให้อีกีกวังที่ใครๆ ก็มองว่าใสซื่อเป็นไปได้ขนาดนี้

     

                    อีกีกวังเด็กชายหน้าอ่อน ยิ้มเก่งที่แสนเรียบร้อยขี้อายสมัยมัธยม กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเดิมที่มีให้เพื่อนเสมอ แต่ที่ยังโยซอบมองเห็นคือ กีกวังไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว ไม่ใช่อีกีกวังที่ใสซื่อน่ารัก ที่เอาแต่แอบมองรุ่นพี่ฮยอนซึงอีกต่อไปแล้ว

     

    “ถ้ามึงว่าดีกูก็ไม่ขัดหรอก”แน่นอนว่าถึงจะขัดก็ขวางไม่ได้ ขนาดตอนที่คู่นี้เริ่มต้นความสัมพันธ์...เขายังทำได้เพียงนั่งดูเท่านั้นเอง

     

     

    _____BLACK PARADISE______

     

     

                    ดูจุนเรียกประชุมงานเพลงแรกและแผนการโปรโมทคร่าวๆ ที่จะมีให้จุนฮยองกับทีมงานที่เขาเลือกไว้ทั้งหมด ใบหน้าคมก้าวเข้าไปในห้องตอนเกือบจะถึงเวลาแล้ว ดวงตาคมเหลือบมองไปที่ศิลปินหน้าขาวที่สวมแว่นดำปกปิดดวงตาใส

    “โปรดิวเซอร์จางยังไม่มาค่ะ”คอสตูมสาวสุดเซ็กซี่ที่เป็นทีมงานคนใหม่อีกคนในบริษัทเอ่ยบอก ดูจุนยิ้มน้อยๆ ก่อนที่ประตูบานเดียวกับที่เขาเพิ่งผ่านมันเข้ามาจะถูกเปิดเข้ามาโดยชายหนุ่มหน้าหวานที่เพิ่งถูกพูดถึง

    “มาแล้วไงครับ”กีกวังชี้มือไปที่คนที่ว่า รอยยิ้มหวานโปรยไปทั่วเหมือนยั่วให้ใครต้องมองตาม ฮยอนซึงรีบนั่งลงกับที่ของตัวเอง เก้าอี้ของเขาอยู่ตรงกันข้ามกับคนตัวเล็กยิ้มสวยที่เขากำลังรู้สึกเหมือนเสพติดร่างกายนั้นอยู่

                    การประชุมเริ่มต้นอย่างสบายๆ ด้วยการแนะนำสมาชิกทั้งหมดที่จะร่วมงานกันในโปรเจคนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนสนิทกับประธานหนุ่มทั้งนั้นและดูจะไว้ใจได้ทั้งหมด จุนฮยองทำเพียงนั่งนิ่งแล้วยิ้มในบางครั้ง ในใจกำลังท่องว่ามันคงไม่มีอะไร เพราะท่าทีของดูจุนไม่ได้ดูจะค้างคาใจกับเขาสักนิด การพูดคุยวันนั้นสิ้นสุดลงที่ชั่วโมงที่สาม ทั้งหมดรวบเอกสารเข้าไว้ในมือ

    “จุนฮยองอา พอดีพี่มีต้องพาน้องโชรงไปแคสงานเราอยู่คนเดียวได้นะ”ถึงจะบอกกันแล้วตั้งแต่แรก แต่พอรุ่นพี่คนสวยจะไปจริงๆ จุนฮยองกลับรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด ใบหน้าขาวแกล้งยิ้มแล้วพยักหน้าเชิงบอกว่าได้อยู่แล้ว ก่อนที่เสียงนุ่มจะเอ่ยแทรกขึ้นมา

    “คุณกายุนไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจะดูแลจุนฮยองให้เป็นอย่างดีเลยครับ”จุนฮยองไม่รู้หรอกว่าในคำพูดนั้นมันแฝงอะไร แต่ที่รู้คือเขาไม่ได้ไว้ใจมันเลยสักนิด กายุนหันไปยิ้มกว้างอย่างยินดีแล้วก็เดินออกไปจากที่นั่น ดูจุนยืนอยู่ในนั้นกับเขาจนคนทยอยออกไปจนหมดถึงตอนนั้นเขาเลยเพิ่งรู้ว่าตัวเองพลาดแล้วที่ไม่ออกไปพร้อมกับคนอื่น

    “จะรีบไปไหนล่ะ”เดินมาขวางเขาไว้เมื่อเห็นว่ากำลังจ้ำขาจะหนีไปจากตรงนี้ จุนฮยองถอยไปสองสามก้าวดวงตาใต้แว่นกันแดดสีดำมืดมองอีกอย่างไม่ไว้ใจ

    “ไปกินข้าวครับ จะได้ไปคุยงานต่อกับกีกวัง”บอกเสยงเครือก่อนจะเดินฉากไปอีกทาง ดูจุนก้าวไปขวางไว้อีก ก่อนที่มือหนาจะคว้าข้อมือของเขาเอาไว้

    “ไปด้วยกันสิ”บอกเสียงนุ่ม ดวงตาคมมองอย่างนึกสนุกที่ได้แกล้ง

    “มะ..ไม่เป็นไรครับ”อึกอักบอกปัดออกไปแบบนั้น ดูจุนยิ้มขำกับท่าทีที่ดูจะหวาดกลัวเขาไม่น้อยนี้ จุนฮยองก้มหน้าไม่ยอมแม้แต่จะสบตา ...เขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งอีก

    “ได้ยังไงกัน ผมบอกกับคุณกายุนแล้วว่าจะดูแลคุณให้ ไปเถอะ...เราจะได้รู้จักกันให้มากขึ้นกว่าวันนั้น”

     







     

                    จุนฮยองทำได้เพียงเดินตามแผ่นหลังกว้างนั้นเข้าไปในร้านอาหารระดับกลางที่ไม่ไกลจากบริษัทนัก ดูจุนเลือกที่นั่งมุมในสุดของร้าน บรรยากาศเงียบสงบรอบตัวทำเอาจุนฮยองเริ่มกดดัน ผิดกับอีกฝ่ายที่ลอบดูปฏิกิริยานั้นอย่างขำขันในใจ

    “แฟนนายหล่อดีนี่”ดูจุนเอ่ยทำลายความเงียบด้วยคำถามที่ถูกถามออกมาอย่างสบายๆ แต่ทำเอาคนฟังถึงกับงงเพราะไม่เข้าใจสักคำในนั้น ริมฝีปากอิ่มอ้าจะถามกลับที่สงสัยคนตรงหน้าก็แทรกขึ้นมาต่อ

    “คบกับมานานแล้วสินะ ถึงว่าทำไมนายถึงได้ทำเอาซะฉันลืมนายไม่ลง”บอกเสียงเรียบแต่จุนฮยองรู้สึกเหมือนโดนตบจนหน้าชา ทว่าความรู้สึกกดดันหรือกลัวการเข้าหาของผู้ชายตรงหน้านี้เริ่มคลายลง จากที่ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน จากที่ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปบนทางนี้อย่างไร ยงจุนฮยองเริ่มเดาได้แล้ว

    “คุณพูดอะไรของคุณ ผมขอตัวนะครับ”ไม่แล้ว จุนฮยองไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้เพราะไม่รู้ว่าจะระงับตัวเองไม่ให้ลุกขึ้นไปชกปากอีกคนที่กำลังดูถูกเขาด้วยเรื่องบ้าบอนี่ได้อีกนานแค่ไหน ดูจุนลุกขึ้นคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ รอยยิ้มกวนผุดที่ริมฝีปากหยัก

    “ถ้าคุณไม่พอใจผมไม่พูดเรื่องวันนั้นของเราก็ได้ นั่งก่อนเถอะ”จำใจต้องนั่งลงที่เดิมเพราะอย่างไรคนตรงหน้าก็มีสิทธิ์ที่จะดองหรือไม่ดองงานของเขาก็ได้ จุนฮยองทำได้เพียงนิ่งเฉยและไม่สบตากับคนคนนี้





     

    .....แบบที่บอก  เขาไม่รู้ว่าจะระงับตัวเองได้นานแค่ไหน.....

     













     

                    ดูจุนขับรถพาเขาเลยบริษัทออกมาได้พักหนึ่ง ริมฝีปากอิ่มอ้าปากจะถามแต่ก็ถูกสายตาคมนั้นปรามเอาไว้ ดูจุนกดเปิดเครื่องเสียง เพลงสากลทำนองฮิปฮอปดังขึ้น จุนฮยองโคลงศีรษะตามจังหวะเพลงที่เขาเองก็ชื่นชอบ ร่างสูงที่ทำหน้าที่สารถียิ้มพอใจ

    “คุณมีรถกี่คันเนี่ย”เอ่ยถามเสียงเรียบเพราะไม่รู้ว่าจะทำลายความอึดอัดได้ยังไง ส่วนความเครียดที่มีในตอนนี้มันหดหายไปจนจะหมดแล้ว อยู่ด้วยกันเขาเองก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ดูมีพิษสงอะไร ออกจะชอบแกล้งมากกว่า ดูจุนเลิกคิ้วแล้วเงียบไปพักนึงก่อนจะตอบ

    “สักเจ็ดแปดคัน บ้านนายเองก็มีสองคัน ใช้คนละคันกับแฟนนายเลยหรอ”ดูจุนถามสบายๆ จุนฮยองถอนใจจะเถียงว่าที่ดูจุนเข้าใจมันผิด  แต่พอคิดอีกทีการที่ดูจุนคิดว่าเขามีแฟนไปแล้วอาจจะทำให้ปลอดภัยจากเรื่องที่เดาเอาไว้ได้

    “ใช่ ใช้คนละคัน”ไม่ได้ปฏิเสธและตอบรับว่าใช่ ดูจุนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามต่อ

    “แต่แฟนนายยังดูเด็กอยู่เลยนะ ถึงจะตัวสูงก็เถอะ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”ถามพลางเลี้ยวรถเข้าสู่ย่านพักอาศัยที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของจุนฮยองนัก

    “อยู่ปีสี่ กำลังจะเรียนจบแล้ว”พูดจบคนถามก็หันมามองเขาแล้วอมยิ้ม จุนฮยอนขมวดคิ้วสงสัยแต่ไม่ถาม

    “งั้นก็ยังไม่ทำงานหนะสิ รถนั่นนายก็ทำงานซื้อให้สินะ”พูดจบร่างโปร่งก็รู้ได้เลยทันที่ว่าดูจุนหมายถึงอะไร คนหน้าขาวหันมองไม่พอใจ ก่อนจะตอบไป

    “ดงอุนทำงานส่งรถเอง ไม่รู้อะไรอย่าพูดเองดีกว่า”ปกป้องกันคงรักกันมากนี่คือความคิดแรกของยุนดูจุน จุนฮยองไม่สบอารมณ์อย่างมากที่มีคนอื่นมาว่าน้องชายของตัวเอง ถึงจะไม่ค่อยพูดกันดีๆ แล้วก็ยังมีเรื่องไม่ถูกใจกันตอนนี้แต่ใครก็แตะต้องดงอุนไม่ได้

    “รักกันมากเลยสินะ”หันมาถามด้วยรอยยิ้มที่ดูเปลี่ยนไปจากเดิม จุนฮยองเม้มริมฝีปากแล้วตอบกลับไปตามจริง

    “ไม่รู้หรอกว่าดงอุนจะรักไหม แต่ผมรักเขามาก”บอกไปตามตรงเพราะเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถึงจะไม่เคยแสดงออกให้น้องได้รู้ว่ารัก ว่าห่วงแต่เขาก็พยายามจะเป็นพี่ที่ดีเสมอ....ถึงดงอุนจะไม่เคยมองเห็นก็ตาม

    “ดี...อยู่กับคนที่ไม่รู้ว่ารักตัวเองหรือเปล่าได้ งั้นก็นอนกับคนที่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบกันได้ด้วยสิ”พอมาถึงตอนนี้จุนฮยองเลยได้รู้ว่าไม่ว่าจะเข้าใจไปแบบไหนดูจุนก็คงไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ รถยนต์คันงามเลี้ยวจอดเข้าที่อาคารจอดรถของคอนโดมิเนียมหรู มือหนาดึงมือเขาให้เดินตามไปแต่โดยดี






     

    รู้ดีว่าขัดขืนก็ไม่เป็นผล...

     











     

                    ร่างโปร่งนอนหันแผ่นหลังเปลือยเปล่าให้กับอีกคนที่สวมกอดเขาเอาไว้แน่น จุนฮยองแกล้งหลับตาลงหลังจากที่คนที่ว่าขยับตัวเหมือนจะตื่นขึ้นมา ดูจุนกระชับกอดร่างนั้นเข้ามาจนแนบชิด ดวงตาคมมองเสี้ยวหน้าขาวที่เห็นครั้งแรกบอกได้เลยว่าเขาถูกใจมากที่สุด ยกยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าคนที่เขากำลังจ้องมองดูจะตั้งใจหายใจให้สม่ำเสมอจนเกินธรรมชาติ

                    ริมฝีปากหยักพรมจูบลงบนหัวไหล่ขาวเนียน เรื่อยไปจนถึงลำคอขาว แกล้งขบเม้มจนเกิดร่องรอยจางๆ แค่อยากจะแกล้ง....ถ้าคนที่บ้านของจุนฮยองเห็นมันจะเป็นยังไงนะ จะรู้ไหมว่าคนคนนี้ไม่ได้มีแค่ตัวเอง จะรู้ไหมว่าคนรักของตัวเองยินยอมมากับเขาแต่โดยดีไม่มีขัดขืน





     

    .....ยงจุนฮยองก็แค่ผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่าเพื่อจะได้ทำตามที่หวัง.....

     

    .....และยุนดูจุนก็คือผู้ชายที่จะทำให้ฝันเป็นจริง โดยแลกเปลี่ยนกันด้วยร่างกาย....

     






                    ใบหน้าคมละจากต้นคอขาว วางใบหน้าบนข้างหูเล็ก กัดมันเบาๆ แล้ววเอ่ยถามขึ้นมาเสียงนุ่ม



    “กับแฟนนายไม่ค่อยได้มีอะไรกันหรอ ในนั้นของนายมันยัง...”

    “ถ้าคุณจะพูดแต่เรื่องอย่างว่า ผมว่าคุณควรจะเปลี่ยนเป็นรีบแต่งตัวแล้วเราก็กลับได้แล้ว ผมอยากจะไปดูว่าเพลงของผมแต่งไปถึงไหนแล้ว”เบียดร่างออกจากอ้อมแขนแกร่งแล้วฝืนลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้รอบเอว ดูจุนมองตามเรือนร่างเปลือยเปล่านั้นไปแล้วละมามองรอยเปื้อนสีขาวที่เปรอะอยู่บนผ้าปูที่นอนยับย่น จากแรงดึงของมือขาวนั่น

    “อายหรือไง...ของมันก็เคยๆ อยู่แล้วนี่”เอ่ยไล่หลังไปอีกเพราะคนที่เขาอยู่ด้วยตอนนั้นกำลังจะเอาตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ จุนฮยองหันมามองเฉยชา ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้ม

    “ผมไม่ได้หน้าหนาแบบคุณนะครับคุณดูจุน”

     

     





    ถึงทุกสัมผัสจะทำให้รู้สึกดี แต่ทุกสัมผัสก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่าเช่นเดียวกัน

     







     

     

    _____BLACK PARADISE______

     

     

     






                   ดงอุนสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นหลังหลังจากที่เวลางานของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ขายาวเดินไปจนเกือบถึงประตูร้าน เสียงใสของโยซอบก็เรียกเอาไว้

    “ดงอุนเดี๋ยวก่อน”คนตัวสูงหันไปหาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ตาคมมองเลยไปเห็นคนตัวเล็กผมสีอ่อนที่มานั่งคุยกับรุ่นพี่คนนี้ได้พักนึงแล้วแล้วกลับมาสนใจคนเดิม

    “ฝากนี่ไปให้เด็กๆ ด้วยนะ”ยื่นกล่องเค้กที่เขาจำได้ว่าโยซอบเป็นคนบอกให้เขาหยิบไว้ตอนเข้างานวันนี้ ดวงตาคมมองแล้วยิ้มตอบ

    “มีแต่ของอิลฮุน นาอึลหรอครับ”ที่ถามเพราะจะถามหาของตัวเอง โยซอบยิ้มหวานแล้วตอบมาทำเอาเขาชักสีหน้ากลับมายิ้มเหมือนเดิมแทบไม่ทัน

    “ถ้าของจุนฮยองหนะก็รวมๆ ในนั้นแหละ นายรีบกลับเถอะ ขับรถดีๆ”ควรจะยินดีที่ได้ยินคำอวยพรตอนท้ายใช่หรือเปล่าแต่ไม่เลย ดงอุนไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด






     

    สิ่งที่ควรจะเข้าใจตั้งนานแล้วคือโยซอบไม่เคยมองเห็นความรู้สึกของเขา

     








                    ยิ่งนึกถึงยิ่งหงุดหงิด แล้วพอเห็นว่าในบ้านเปิดไฟและมีรถของพี่ชายคนโตของบ้านจอดอยู่ดงอุนยิ่งหงุดหงิดกว่าเก่า ทั้งที่พยายามไม่โกรธเรื่องเมื่อวานแล้ว แต่พอมาเจอความห่วงใยที่ใครๆ ก็มีให้จุนฮยองดงอุนเลยพาลไปหมด

    “ดงอุนพี่มีเรื่องจะคุยด้วย"ลุกขึ้นมาดักทางน้องไว้ แต่ดงอุนที่ไม่สบอารมณ์กับอะไรทั้งสิ้นเลยทำเพียงมองหน้านิดนึง แล้วจะเดินหนีไปอีกทาง

    “ผมไม่อยากคุย”เดินไปแล้วแต่จุนฮยองมาคว้าแขนเอาไว้ ความเมื่อยหนึบที่ไหล่และสะโพกทำเอาชะงักไปจังหวะหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ช้าเกินไป

    “พี่อยากจะ....”

    “ขอโทษใช่ไหม ช่างมันเถอะผมไม่ได้โกรธแล้วล่ะ”แทรกขึ้นมาแล้วก็ยิ้มให้พี่ชายจางๆ  จุนฮยองใจชื้นขึ้น คลายมือจากแขนของคนตัวสูง อิลฮุนกับนาอึลเห็นว่าเหตุการณ์คลี่คลายลงเลยเลี่ยงหายไปหลังบ้านตามที่คิดกันไว้

    “พี่จุนฮยอง...รอยนั่น”เลือกจะถามออกมาถึงจะรู้ว่าอาจจะไม่ได้คำตอบ จุนฮยองตะครุบที่ลำคอขาว ร่องรอยนี่เพิ่งจะเกิดตอนนั้น

    “......”ความเงียบคือคำตอบ ดงอุนดึงมือพี่ชายออกห่างจากตัว ดวงตาคมมองใบหน้าขาวอย่างผิดหวัง

    “ที่บอกว่ากำลังจะได้เป็นนักร้อง เพราะนี่ใช่ไหม...พี่เอาตัวเข้าแลกใช่ไหม”เพราะยังไงความรักของเขาที่มีให้ยังโยซอบมันก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าคนที่ยืนตรงหน้า จุนฮยองหน้าชาไม่ใช่เพราะโกรธน้อง ความรู้สึกที่เรียกว่าเสียใจประดังเข้ามาเต็มอก ถึงอยากจะเถียงว่าไม่ใช่ แต่ตอนนี้มันก็เหมือนจะเป็นแบบนั้นไปแล้ว

                   





    ในเมื่อเป็นเขาเองที่ยินยอมจะมีความสัมพันธ์กับยุนดูจุน ยินยอมจะถูกสวมกอดอย่างไม่ปัดป้อง ยินยอมแม้ไม่ได้รู้สึกรักใคร่ ...ยินยอมเพราะเพียงแค่จะได้เดินตามทางที่ฝัน

    “พี่ไม่...”เถียงออกมาไม่ได้เพราะอย่างน้อยที่สุดดวงตาที่กำลังมองเขาก็บอกให้รู้ว่าเจ็บปวดมากเพียงไหน

    “บอกผมสิพี่ว่าเรื่องจริงมันคืออะไร”ดงอุนกำลังจะร้องไห้ และจุนฮยองก็เป็นคนทำอีกแล้ว ใบหน้าขาวก้มหน้าไม่กล้าสบตากับน้อง เสียงพูดคุยแจ้วๆ ของอีกสองคนในบ้านดังใกล้เข้ามา

    “ดงอุน”เอ่ยเรียกน้องชายที่มองเขาอย่างรังเกียจ จุนฮยองเพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาควรจะบอกออกไปอย่างไรกับเรื่องน่าละอายนี้

     




     

    ....จะบอกว่าไม่ได้ยินยอมมันก็คงผิดไปแล้ว....

     







    “ผมเคยคิดว่าพี่เก่ง พี่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา ผมรู้แล้วพี่จุนฮยอง....ผมรู้แล้ว”

     






    ดงอุน...พี่ขอโทษ







    2 BE CON"

    taLk* คือแต่งเพิ่มไปแค่ฉากเดียว ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยเพราะรายละเอียดที่ลงไปยังไม่อยากให้มาก 
    ตัวละครยังไม่ไหมด ปมก็ยังไม่มา แอร๊ยยย เดาถูกใช่ไหมว่าเป็นยังไง ฮ่าๆ

    ขอบคุณที่รักทูจุนค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×