คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : I :: Today&yesterday
แสงไฟของถนสายหลักยังคงสว่างจ้า แลมโบกินีคันหรูเลี้ยวเข้าไปในตรอกที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวยามวิกาล ก่อนจะจอดตรงหน้าผับหรูที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในนั้น ยงจุนฮยองก้าวขาลงจากรถ เขาไม่ได้อยากมาที่นี่ เพียงแต่มันจำเป็น...
“กว่าจะมานะเพื่อนเจ้าบ่าว”เพื่อนที่มารออยู่ก่อนแล้วร้องทักเขา จุนฮยองยิ้มให้ก่อนจะมองหากลุ่มเพื่อนสนิทของตัวเองที่น่าจะอยู่มุมที่นั่งกันประจำ ที่จริงนี่เป็นงานฉลองก่อนแต่งงานของฮงกิเพื่อนคนนึงในสาขาสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขามาที่นี่ในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวเพราะดันไปสนิทกันตอนอยู่ปีสี่
“เห็นพวกไอ้ฮยอนซึง กีกวังไหม”สุดท้ายก็ต้องถามเอาจากเพื่อนคนเมื่อครู่
“มันไปหลังร้านกันมั๊ง คงไปช่วยเจ้าของร้านขนเหล้า”จุนฮยองชะงักขาเมื่อได้ยินคำว่าเจ้าของร้าน ใบหน้าขาวชั่งใจอยู่ครู่นึงก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่เคาเตอร์บาร์แทนไปตามหาเพื่อนตัวเอง
“อ้าว..คุณจุนฮยอง”บาร์เทนเดอร์หน้าใสที่เขาเคยนั่งคุยด้วยบ่อยครั้งเมื่อก่อนเอ่ยทัก จุนฮยองยกยิ้มบางเบา นานแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ เกือบสามปีแล้วล่ะมั๊ง..
“สบายดีไหมชอนดุง”ที่จริงเขาเองก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันที่ออกปากทักทายอีกฝ่ายไปแบบนั้น ชอนดุงยิ้มหล่อแล้วพยักหน้า
“ก็ดีครับ เจ้าของร้านดูแลดีเหมือนเดิม เดี๋ยวนี้ผมได้เงินเดือนเพิ่ม มีโบนัส มีประกันสังคมเหมือนทำงานบริษัทด้วยนะครับ แล้วคุณจุนฮยองล่ะครับ”รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายหนะพูดเก่งขัดกับหน้านิ่งๆ หล่อๆ แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆ ในใจไม่ได้ ก็เขากับชอนดุงเจอกันครั้งสุดท้ายมันไม่ได้เป็นความทรงจำที่ดีเลยสักนิด
“ก็ดี...บริษัทก็ทำกำไรได้เยอะขึ้นทุกปี”บอกพร้อมยิ้มเศร้า ชอนดุงวางวิสกี้ที่จำได้ว่าจุนฮยองจะสั่งเป็นประจำลงตรงหน้า
“ฉันไม่ดื่มเจ้านี่มานานแล้ว”จุนฮยองเงยหน้าขึ้นบอก ที่จริงเขายังคงดื่มอยู่บ้างแต่ไม่ใช่วิสกี้แบบที่ชอนดุงรินให้ บาร์เทนเดอร์หนุ่มขมวดคิ้วสงสัย แล้วคลี่ยิ้มบางเบา
“คุณไม่ได้มาที่นี่เลยไม่ได้ดื่ม ไหนๆ ก็มาแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมาอีกไหม สักแก้วก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”มันก็จริงแบบที่ชอนดุงว่า ไม่รู้ว่าเขาจะมาที่นี่อีกไหม...แค่นั้นมือสวยก็ฉวยเอาแก้วที่ว่าขึ้นมาดื่มรวดเดียว ดีกรีเหล้าแรงทว่าไม่ได้รู้สึกสักนิดว่ามันบาดคอ
นั่งไปสักพักเพื่อนอีกหลายต่อหลายคนในรุ่นก็ทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ ฮยอนซึงโผล่ออกมาจากหลังร้านพร้อมด้วยกล่องเหล้าหลายกล่อง ตามติดมาด้วยดงอุนกับกีกวังที่สองคนนั้นช่วยกันยกลังโซดา ตบท้ายโดยโยซอบ เพื่อนสนิทตัวเล็กที่ถือขวดน้ำอัดลมมาสองสามขวด
“มานานยังพี่”ดงอุนเป็นคนทักก่อน พลางวางลังโซดาไว้ที่พื้นไม่ไกลจากเขา จุนฮยองยิ้มมุมปากแล้วตอบไป
“พักใหญ่ละ แล้วซึงโฮ บยองฮี อีจุนล่ะวะ”ถามหาเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนที่ยังไม่เห็นหน้า ฮยอนซึงยิ้มแล้วตอบเรียบๆ
“อยู่หลังร้านกับดูจุน”ไม่รู้ว่าจุนฮยองรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าฮยอนซึงมันเน้นที่ชื่อของดูจุน เขาแกล้งทำท่าไม่สนใจอะไรเป็นพิเศษ ก่อนที่เสียงโหวกเหวกของอีจุนจะดังมาจากทางที่เพื่อนๆ เพิ่งออกมา
“มึงแม่งแข็งทุกอย่างแหละ กูจะคอยดูว่ามึงจะเก่งแบบปากมึงไหม”พูดแล้วก็พอดีกับที่หันมาเห็นหน้าเขา อีจุนชะงักไปนิดแล้วยิ้มทักตามประสามัน
“อะ..อะ..อ๊ะ อ้าว ผู้จัดการยงคนเก่งนี่นา”บยองฮียังคงกวนบาทเขาได้แบบคงเส้นคงวา จุนฮยองยิ้มรับไม่ตอบโต้อะไร ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงเพราะคนสุดท้ายที่ก้าวออกมาจากประตูที่ออกไปสู่หลังร้าน
“หวัดดี”คงไม่ได้รู้สึกไปเองหรอกว่าไอ้คำทักทายนั่นมันแห้งแล้งเสียเหลือเกินสำหรับเพื่อนคนนึง แต่จุนฮยองก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกกับความห่างเหินนี่
ที่จริงเขาสองคนไม่น่าจะสบตากันได้ด้วยซ้ำ
“อื้อ หวัดดี”ก็เลยตอบไปแล้วยิ้มเจื่อนให้อีกนิด ดูจุนดูดีขึ้นมาหลังจากที่ตอนนั้นหลังจากเรื่องยุ่งๆ ก็ดูดีขึ้นอยู่มากแล้ว
“มึงสองคนนี่มันตัวทำลายบรรยากาศจริงๆ ไปๆ ไปนั่งกับเพื่อนตรงนู้นดีกว่า เดี๋ยวไอ้เจ้าบ่าวมันน้อยใจ”ซึงโฮพูดขึ้นมาทำลายความอึดอัดที่เขากับดูจุนปล่อยออกมา คนอื่นก็ดูจะเห็นด้วยพากันเดินนำไปที่โต๊ะที่จำได้ดีว่านั่งกันประจำซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากเวทีเท่าไร
เวลาเดินไปเรื่อยๆ จนเกือบห้าทุ่มครึ่ง อีจุนเดินไปหาบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อที่สนิทสนมกันดี พูดกันสองสามคำแล้วเพื่อนหน้าเป็นก็เดินกลับมานั่งที่เดิม
“มึงเอาไรเพิ่มวะ”ดูจุนที่เริ่มมีดีกรีเอ่ยปากถาม จุนฮยองมองหน้าคนถามนิดนึงแล้วเบือนไปอีกทางเพราะกลัวว่าเพื่อนคนอื่นจะจับว่าเขากำลังมองดูจุน
“ก็แค่เห็นว่านานๆ กลุ่มเราจะรวมกันได้ครบจริงๆ เลยบอกให้ชอนดุงจัดอะไรพิเศษๆ มา”อีจุนใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อนเจ้าของร้านนั่นแหละไปมุบมิบสั่ง ดูจุนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ไอ้จุนฮยอง มึงมานั่งกินเหล้าอย่างเดียวจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ไม่เห็นพูดอะไรสักคำ”โยซอบแหวขึ้นกลางวง คนอื่นมองมาที่เขา ก่อนจะได้พูดอะไรกีกวังกับฮยอนซึงก็จัดการลากให้จุนฮยองมานั่งลงตรงกลางข้างๆ กันกับดูจุน
“ในโอกาสที่มึงสองคนกำลังจะดอง เอ๊ย กำลังจะเป็นคนสำคัญของงานแต่งงาน ให้เกียรติดื่มเหล้าสองจอกนี้ให้พวกกูด้วย”แล้วฮยอนซึงก็หยิบแก้วเหล้าตรงหน้ามายัดใส่มือเพื่อน ดูจุนมองเหล้าสีสวยในมือ เขาไม่คุ้นตากับมันเลยสักนิดทั้งที่เครื่องดื่มแต่ละแก้วมักจะผ่านเซ็นเซอร์จากเขามาก่อน
“นี่อะไร”ถามอีจุนเสียงนิ่ง เพื่อนหน้ากวนส่ายหัวล่อกแล่กตามสไตล์
“ถามมากว่ะ บอกให้กินก็กิน ดูไอ้จุนฮยองดิไม่เห็นจะถาม...มึงป๊อดหรอวะดูจุน!”โยซอบว่าเสียงดังพร้อมทำหน้าล้อเลียน
“.....”ดูจุนมองหน้าคนพูดแล้วไม่ว่าอะไร เหล่ตามองคนที่เพื่อนพาดพิงไปถึงที่กำลังนั่งมองแก้วชอทเหล้าในมือตัวเองอย่างพิจารณา
“ก็ไม่เห็นว่าจะแตะสักนิด จ้องอย่างเดียว แน่กว่ากูตรงไหนกัน”คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดในรอบหลายปีที่ดูตุนพูดด้วย จุนฮยองหันมามองใบหน้าขาวเหมือนจะกำลังกัดฟันไม่ให้เถียงหรือต่อปากต่อคำอะไร ยกแก้วในมือขึ้นดื่มรวดเดียวแล้วยักคิ้วกวนอีกคน...ดูจุนหันหน้ากลับมาอีกทาง แล้วซัดลงคอไปบ้าง
รสชาติขมอ่อนๆ ผสมกับความหวานของอะไรสักอย่างในนั้น ดูจุนรู้สึกคุ้นเคยกับรสชาติของมันอย่างประหลาด มันเหมือน...
“เลิฟชอท?”จุนฮยองหันมาถามอีจุนเสียงสั่น ความหวานแปลบที่บาดคอไม่เท่ากับฤทธิ์ของมันที่ทำให้เนื้อตัวเริ่มร้อนรุ่ม
“จะว่าใช่ก็ใช่ แต่นี่สูตรพิเศษ”พูดจบอีจุนก็ยิ้มร้าย ที่เหลือต่างส่งยิ้มให้กันก่อนที่อีจุนจะพูดต่อ
“มันก็แค่แรงกว่าเดิมนิดหน่อย แล้วก็ใส่อะไรพิเศษๆ ลงไป...”ฟังได้แค่นั้นทั้งดูจุนกับจุนฮยองก็รู้สึกเหมือนหลุดไปจากปัจจุบัน สติที่มีเลือนราง แสงไฟสลัวในนั้นหรือเปล่าที่ยิ่งทำให้มึนงง ก่อนที่ภาพต่างๆ จะไหลออกมาจากในหัวเหมือนกับการฉายซ้ำของหนังเรื่องเก่า...
Yesterday
เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นห้องเรียน ดูจุนไอ้อ้วนตัวดำที่วันๆ เอาแต่นั่งมองคาสโนว่าที่น่ารักเสมอในสายตาของเขา ไม่ว่าจะในมุมไหน ไม่ว่าสิ่งที่คนคนนั้นทำคืออะไร มักจะมีรอยยิ้มเกิดขึ้นได้เสมอบนใบหน้าของยุนดูจุน
“มึงชอบมันมากเลยหรอวะ”ฮยอนซึงสะกิดไหล่ของเขาแล้วถามคำถามเดิมๆ ดูจุนหันไปยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าอย่างซื่อๆ
“มันอาจจะเลยคำนั้นไปแล้วด้วยซ้ำฮยอนซึง”คนฟังสะดุ้งแล้วส่ายหัวไปมาหลังจากฟังจบ เขามักถามเพื่อนด้วยคำถามนี้เสมอเมื่อเห็นว่าสายตาที่มีมันเป็นแบบไหน จางฮยอนซึงไม่ได้โง่เง่าที่จะดูไม่ออก เขาเพียงแต่อยากจะย้ำให้รู้ว่าดูจุนคิดอะไร และอยากจะเตือนดูจุนด้วยประโยคที่มักจะพูดตามหลังคำตอบที่ได้กลับมา
“มึงเผื่อใจไว้เจ็บแล้วใช่ไหม มึงรักคนที่ไม่มีวันรักมึง...มึงรู้นะ”ดูจุนหน้าเศร้าแต่ก็ยังฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า
“กูรู้...กูมายืนในคำว่าเพื่อนได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว กูเจียมตัว แต่ก็ต้องขอบใจที่มึงทำให้กูได้ใกล้เขา”มือใหญ่ตบบ่าเพื่อนหน้าสวยให้รู้ว่าขอบคุณ
ดูจุนเข้าไปอยู่ในกลุ่มของจุนฮยองด้วยการแทรกซึมตัวเองเข้าไปในกลุ่มนั้นของฮยอนซึงเพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่สมัยมัธยม จุนฮยองเป็นแค่นักศึกษาทั่วไปที่มีรูปร่างหน้าดีกระเบียดไปทางมาก ความเจ้าชู้เองก็แปรผันตรงกับหน้าตา ว่าได้ว่าแฟนของจุนฮยองไม่มีคนที่คบหาได้เกินหนึ่งเดือนเลยสักคน
“วันนี้ไปกินเหล้ากันไหมพวกมึง”บยองฮีเพื่อนในกลุ่มนั้นเอ่ยปากชวนขณะที่กำลังเดินเข้าห้องเรียนในคลาสบ่าย คนอื่นๆ พยักหน้าตอบรับกันหงึกหงัก
“คือกูต้องไปซ้อมวง”ดูจุนว่าขึ้น เพื่อนทั้งกลุ่มหันมามองเขา จุนฮยองขมวดคิ้วเหมือนหงุดหงิด
“มึงเคยไปไหนกับพวกกูมั่งป่ะเนี่ย ธุรกิจเยอะเกิน”ริมฝีปากอิ่มสวยต่อว่า แต่ดูจุนกลับยิ้มน้อยๆ และไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่ากำลังโดนว่าอะไร
“เอ่อ...เออ มันไปก็ได้ เดี๋ยวกูเคลียให้”พอจุนฮยองพูดจบบรรยากาศก็เงียบลง ทุกคนรู้ว่าดูจุนมองจุนฮยองด้วยสายตาแบบไหนแล้วก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ติดใจอะไรเพราะดูจุนกับจุนฮยองเป็นเพื่อนที่ไม่เหมือนเพื่อนกันอยู่แล้ว ดูจุนสนิทกับทุกคนและนิสัยดี เพียงแต่ไม่สนิทกับจุนฮยองเลย...
“เออ แล้วมึงจะเครียดทำไมเนี่ย ไปๆ เข้าห้องเรียน”โยซอบดันหลังเพื่อนสมัยอนุบาลของตัวเองให้เข้าไปในห้องแล้วส่งสายตาเชิงขอโทษแทนเพื่อนสนิทไปให้ดูจุนที่ยังคงยืนงงกับที่ฮยอนซึงพูด
ร้านของดูจุนเป็นที่ที่ถูกเลือก ทั้งที่เป็นของตัวเองแต่นี่เป็นครั้งแรกที่พาเพื่อนมา ทุกคนดูตื่นเต้นและแปลกใจเมื่อดูจุนแนะนำที่นี่ว่าเป็นของเขา ทั้งทักทายพูดคุยกับพนักงานอย่างสนิทสนมและร่าเริงผิดกับท่าทีเงียบขรึม ที่บางครั้งก็มีเขินอาย
“กูขอไปเปลี่ยนชุดหลังร้านหน่อยแล้วกัน พวงมึงก็เต็มที่นะ”เพราะยังเป็นหัวค่ำลูกค้าเลยไม่มากนัก ฮยอนซึงยิ้มน้อยๆ แล้วเดินนำไปนั่งในมุมนึงของร้าน
“นี่โต๊ะประจำพวกกู”ฮยอนซึงว่าพลางเอื้อมมือไปหยิบเมนูอาหารกินเล่นมาดู
ดูจุนเดินออกมาจากหลังร้านด้วยชุดลำลองที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ร่างอวบนั้นหย่อนตัวนั่งลงที่ข้างๆ โยซอบที่จิบเหล้าแก้วแรกลงคอไปกว่าครึ่งแล้ว
“พวกคอกเทลก็ได้นะมึง ชอนดุงทำได้เจ๋งมาก”ดูจุนพรีเซนท์พร้อมรอยยิ้มสดใส
“วันนี้น้องสาวมึงไม่เข้าร้านหรอ”ฮยอนซึงถามหาใครอีกคน ดูจุนส่ายหัวพรืดเพื่อนคนอื่นมองหน้ากันงงๆ
“มึงมีน้องสาวด้วยหรอ..”อีจุนทำท่าสนใจอย่างเห็นได้ชัดเจน คนอื่นก็เช่นกัน
“มี”ดูจุนบอกแล้วทำท่าเหมือนไม่อยากพูดต่อ ฮยอนซึงหัวเราะในลำคอน้อยๆ ไม่ทันได้คุยกันต่อ แรงโถมกอดจากด้านหลังของดูจุนก็ทำเอาความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่นั่น
หญิงสาวใบหน้าสะสวย คิ้วโก่งสวย ดวงตาคมสวย จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางสวย เติมแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา สวมชุดลำลองสบายๆ
“ไหนว่าจะไปซ้อมดนตรีไงตัวเอง”เสียงหวานเอ่ยถามโดยไม่ได้สนใจดวงตาหลายคู่ที่มองมาที่ตัวเองสักนิด
“เพื่อนชวนกินเหล้า แล้วพอดีว่าพวกในวงเองมันก็เหนื่อยๆ วันนี้เค้าเลยหยุด”ดูจุนเอี้ยวหน้าไปตอบหญิงสาวที่ว่า ใบหน้าคมของดูจุนห่างกับเธอคนนั้นไม่กี่เซนต์ เสียงกลืนน้ำลายด้วยความเสียววาบว่าดูจุนอาจจะโชว์เลิฟซีนต่อหน้าดังสลับกันไปมาในวง ฮยอนซึงยิ้มขำแต่ยังไม่ยอมปริปากพูดอะไร
“ก็ดีค่ะ ถ้างั้นวันนี้ไปส่งเค้าถึงห้องนอนเลยนะ”เธอบอกพร้อมรอยยิ้มหวานหยด และยังเป็นประโยคที่ทำให้คนที่เหลือโตขึ้นมาด้วยความตกใจ
“พูดอย่างกับปกติเค้าไม่ทำงั้นแหละ”ดูจุนบีบจมูกเธออย่างเอ็นดู มือสวยของหญิงสาวฟาดเบาๆ ที่มือของเขา ร้องโอดโอยที่โดนแกล้งพอน่ารักก่อนที่ฮยอนซึงจะพูดขึ้นมา
“อะไรกันวะสองคนนี้...เพื่อนนั่งหัวโด่อยู่นี่ไม่มีทัก”ที่เหลือหันมองเพื่อนหน้าสวยเป็นตาเดียว ฮยอนซึงที่มีรากฐานของความกวนตีนสูงไม่ได้สะท้านกับแววตาบีบคั้นและกระแสความกดดันจากเพื่อนๆ สักนิด
“โอ๋...อย่างอนเลยนะพี่ฮยอนซึง”เธอหันมายิ้มแล้วก็พูดคุยกับเพื่อนที่ว่าอย่างสนิทสนม
“แล้วนี่ตัวเองจะไม่แนะนำเพื่อนให้เค้ารู้จักมั่งหรอ”เสียงหวานหันไปต่อว่าดูจุน คนที่ว่าหัวเราะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนข้างๆ คนที่อยากรู้แล้วแนะนำเพื่อนๆ ให้เธอได้รู้จักทีละคน
“นี่บยองฮี อีจุน ซึงโฮ จุนฮยอง โยซอบ แล้วก็ไอ้ฮยอนซึงตัวเองก็รู้จักดีอยู่แล้ว”ดูจุนว่า ดวงตาคมมองอีกฝ่ายด้วยความรักเธอคนนั้นพยักหน้ารับแล้วเกาะหมับที่แขนของเขา
“ฉันชื่อฮอกายุนเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ดูจุนค่ะ”
ดูจุนจดจำได้ดีว่าแววตาของจุนฮยองที่กำลังมองมาที่กายุนเป็นแบบไหน ดวงตาชื่นชมที่ปนเปไปกับดวงตาคมกริบของสัตว์ร้ายที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ ดูจุนไม่ได้มองผิด...มันเป็นแบบนั้นแน่ๆ
2 be con
taLk*
#เปิดยูสใหม่เพราะล็อกอินยูสเก่าไม่ได้ค่ะ ...ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น