คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11
หอสังฆราช
“หวงเสี่ยวอิ๋น?เป็นชื่อที่ดี อายุ 12 อืม…พวกเจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าอยากรับเลี้ยง?”น้ำเสียงเคร่งขึมของชายหนุ่มในชุดสังฆราชกล่าวกับเด็กสาวสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
ใช่ นี่คือองค์สังฆราชผู้ปกครองสำนักวิญญาณยุทธ เฉียนสวินจี๋
“เพคะ”*2
เด็กสาวสองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวงจื่อเสียและปี่ปิตง
เฉียนสวินจี๋พยักหน้า “ในเมื่อตัดสินกันแล้ว ข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดนอกจากให้เจ้าเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้ดี ตอนนี้พวกเจ้าเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้แล้วจงรับผิดชอบดูแลชีวิตของนางให้ดี สั่งสอนในสิ่งที่ถูกที่ควร ข้าหวังว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะกลายเป็นคนที่โดดเด่นและมีชีวิตที่ดีเหมือนดังเจ้าทั้งสอง”
“ข้า/ศิษย์ น้อมรับคำสั่งสอน”
“อืม พวกเจ้าไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
.
หลังกลับมาถึงคฤหาสทั้งปี่ปิตงและหวงจื่อเสียต่างถอนหายใจพร้อมอย่างช่วยไม่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางต้องมาปกปิดเรื่องใหญ่แบบนี้จากองค์สังฆราช พวกนางไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าถูกจับได้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น
“วันนี้กินอะไรดี”หวงจื่อเสียถามขึ้นเพื่อลดบรรยากาศตึงเครียดลง
ปี่ปิตงได้แต่ยิ้มก่อนจะถอนหายใจอีกรอบแล้วกล่าว “ตอนนี้อะไรก็ได้ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย”
“เดี๋ยวทำของหวานกับชงชาให้ขอเวลาครึ่งชั่วโมง”
ปี่ปิตงมองตามร่างของสหายที่เดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องคราวนี้ใหญ่เกินกว่านางจะรับไหวการที่นางต้องโกหกคนที่เปรียบเสมือนบิดาของตนทำให้นางรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
หากให้ชั่งน้ำหนักความสำคัญระหว่างท่านอาจารย์และจื่อเสีย
นางขอยอมรับเลยว่า นางไม่สามารถตัดสินใจได้
บางทีนางก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ ว่าตัวนางยกจื่อเสียให้มีความสำคัญให้เทียบเท่ากับท่านอาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่
แง้
เสียงร้องไห้ของเด็กทำปี่ปิตงขมวดคิ้ว
“ตงเอ๋อไปดูเสี่ยวอิ๋นให้ทีสิ ทางนี้มือไม่ว่างเลย”
เสียงตะโกนจากในครัวทำให้นางต้องแงะตัวเองออกจากโซฟาอย่างช่วยไม่ได้
หากให้พูดกันตามจริง นางไม่นิยมชมชอบเด็กสักเท่าไหร่
‘เอาเถอะ รับมาเลี้ยงแล้ว..อย่างน้อยก็เพื่อจื่อเสียทนเอาหน่อยก็แล้วกัน’ปี่ปิตงได้แต่ปลอบตัวเองในใจ
ปี่ปิตงเดินมาที่ห้องนอนของตน หากพูดให้ถูกคือของพวกนางบอกตามตรงว่ารับไม่ได้อย่างแรงที่ต้องมาแบ่งที่นอนให้ลูกบุญธรรมของตนมานอนกับนางและจื่อเสีย
ที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่เสี่ยวอิ๋นจำแลงกายเป็นมนุษย์เจ้าตัวแสบนี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงชอบมานอนกั้นระหว่างนางกับเสียเอ๋อนัก
นางจำต้องสั่งซื้อเตียงมาใหม่เพราะเตียงเดิมมันแคบไปสำหรับสามคน
“เป็นอะไรไปเสี่ยวอิ๋น”ปี่ปิตงเดินมานั่งข้างเตียงพลางเขย่าตัวของเสี่ยวอิ๋นที่หลับอยู่ให้ตื่น
หวงเสี่ยวอิ๋นที่เพิ่งรู้สึกตัวเมื่อเห็นปี่ปิตงก็น้ำตาคลอขยับตัวเข้าไปกอดปี่ปิตงแน่นพลางเอ่ยเสียงสั่นๆ
“นะ หนูฝันร้าย หนูเผลอไปเปิดประตูให้คุณหมาป่า คุณหมาป่าจะกินหนู”
ปี่ปิตงกุมขมับ นางเหลือบไปมองหนังสือนิทานสอนเด็กที่ให้พวกสาวใช้ไปหามา นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวอิ๋นจะเก็บเอาเรื่องนิทานหลอกเด็กแบบนี้ไปฝันจนร้องไห้…พอนึกแล้วก็อดไม่ได้ที่นางจะหงุดหงิด
“เสี่ยวอิ๋น”ปี่ปิตงพยายามปรับน้ำเสียงของตนให้อ่อนลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ QAQ ”
“เสี่ยวอิ๋นหยุดร้องไห้ก่อน…”ปี่ปิตงยังไม่ทันปลอบ เจ้าตัวน้อยก็กอดนางแน่นกว่าเดิมทั้งนี้ยังใจกล้าเอาเสื้อตัวโปรดของนางมารองรับน้ำตา
‘อดทนไว้ปี่ปิตง อดทนไว้..เพื่อจื่อเสีย’นางได้แต่ท่องประโยคเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อที่นางจะไม่เผลอจับเจ้าตัวน้อยนี่โยนออกไปนอกหน้าต่าง
รับรองว่าหากนางทำเช่นนั้น จื่อเสียจะได้ถือโอกาสไล่นางออกไปนอนที่โซฟาในห้องรับแขก
นางเหลือบมองเจ้าตัวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ได้แต่นึกหงุดหงิด สถานะของเด็กคนนี้ในเวลานี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
เด็กคนนี้ได้กลายเป็นบุตรบุญธรรมของนางและจื่อเสีย
นางจะปล่อยให้เด็กคนนี้เป็นมาทำให้ชื่อเสียงของนางและจื่อเสียมีปัญหาไม่ได้เป็นอันขาด วิญญาจารย์จำนวนมากที่พวกนางช่วยกันฝึกพวกเขาให้เป็นอัศวินชั้นแนวหน้า
หากบุตรบุญธรรมอ่อนแอพวกนางไม่แย่รึอย่างไร?
คนจำนวนนับพันพวกนางสามารถฝึกได้แต่กับบุตรสาวเพียงคนเดียวพวกนางกลับไม่สามารถอบรมให้กลายเป็นบุคลากรชั้นยอดได้?
‘ไว้รอจื่อเสียเผลอแล้วค่อยพาเจ้าตัวแสบนี่ไปค่ายทหารแล้วกัน’ปี่ปิตงเริ่มนั่งวางแผนของตน
.
หวงจื่อเสียทำขนมเสร็จแล้ว นางจึงขึ้นไปห้องของตน ห้องของนางกลับเงียบอย่างน่าประหลาด
หวงจื่อเสียรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย สหายของนางไม่ใช่คนที่ชอบเด็กเท่าไหร่นัก นางจงค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวัง
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้หวงจื่อเสียเผยยิ้มอ่อนโยนออกมา
ปี่ปิตงตอนนี้นอนหลับอยู่ ที่แขนข้างนึงปล่อยให้หวงเสี่ยวอิ๋นหนุนขณะที่อีกแขนกอดร่างของของบุตรสาวเอาไว้
หวงจื่อเสียได้แต่ส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินหยิบผ้าห่มผืนบางออกมาห่มให้คู่แม่ลูกที่ยังคงหลับสนิทอย่างเบามือ
“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ^_^
( จบตอน )
: )
ความคิดเห็น