ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ douluo dalu ] .......

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 64


     

    หอสังฆราช

     

    “หวงเสี่ยวอิ๋น?เป็นชื่อที่ดี อายุ 12 อืม…พวกเจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าอยากรับเลี้ยง?”น้ำเสียงเคร่งขึมของชายหนุ่มในชุดสังฆราชกล่าวกับเด็กสาวสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

     

    ใช่ นี่คือองค์สังฆราชผู้ปกครองสำนักวิญญาณยุทธ เฉียนสวินจี๋

     

    “เพคะ”*2

     

    เด็กสาวสองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวงจื่อเสียและปี่ปิตง

     

    เฉียนสวินจี๋พยักหน้า “ในเมื่อตัดสินกันแล้ว ข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดนอกจากให้เจ้าเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้ดี ตอนนี้พวกเจ้าเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้แล้วจงรับผิดชอบดูแลชีวิตของนางให้ดี สั่งสอนในสิ่งที่ถูกที่ควร ข้าหวังว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะกลายเป็นคนที่โดดเด่นและมีชีวิตที่ดีเหมือนดังเจ้าทั้งสอง”

     

    “ข้า/ศิษย์ น้อมรับคำสั่งสอน”

     

    “อืม พวกเจ้าไปได้แล้ว”

     

    “ค่ะ”

     

    .

     

     

    หลังกลับมาถึงคฤหาสทั้งปี่ปิตงและหวงจื่อเสียต่างถอนหายใจพร้อมอย่างช่วยไม่ได้

     

    นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางต้องมาปกปิดเรื่องใหญ่แบบนี้จากองค์สังฆราช พวกนางไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าถูกจับได้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น

     

    “วันนี้กินอะไรดี”หวงจื่อเสียถามขึ้นเพื่อลดบรรยากาศตึงเครียดลง

     

    ปี่ปิตงได้แต่ยิ้มก่อนจะถอนหายใจอีกรอบแล้วกล่าว “ตอนนี้อะไรก็ได้ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย”

     

    “เดี๋ยวทำของหวานกับชงชาให้ขอเวลาครึ่งชั่วโมง”

     

    ปี่ปิตงมองตามร่างของสหายที่เดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องคราวนี้ใหญ่เกินกว่านางจะรับไหวการที่นางต้องโกหกคนที่เปรียบเสมือนบิดาของตนทำให้นางรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

     

    หากให้ชั่งน้ำหนักความสำคัญระหว่างท่านอาจารย์และจื่อเสีย

     

    นางขอยอมรับเลยว่า นางไม่สามารถตัดสินใจได้

     

    บางทีนางก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ ว่าตัวนางยกจื่อเสียให้มีความสำคัญให้เทียบเท่ากับท่านอาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    แง้

     

    เสียงร้องไห้ของเด็กทำปี่ปิตงขมวดคิ้ว

     

    “ตงเอ๋อไปดูเสี่ยวอิ๋นให้ทีสิ ทางนี้มือไม่ว่างเลย”

     

    เสียงตะโกนจากในครัวทำให้นางต้องแงะตัวเองออกจากโซฟาอย่างช่วยไม่ได้

     

    หากให้พูดกันตามจริง นางไม่นิยมชมชอบเด็กสักเท่าไหร่

     

    ‘เอาเถอะ รับมาเลี้ยงแล้ว..อย่างน้อยก็เพื่อจื่อเสียทนเอาหน่อยก็แล้วกัน’ปี่ปิตงได้แต่ปลอบตัวเองในใจ

     

    ปี่ปิตงเดินมาที่ห้องนอนของตน หากพูดให้ถูกคือของพวกนางบอกตามตรงว่ารับไม่ได้อย่างแรงที่ต้องมาแบ่งที่นอนให้ลูกบุญธรรมของตนมานอนกับนางและจื่อเสีย

     

    ที่สำคัญที่สุด ตั้งแต่เสี่ยวอิ๋นจำแลงกายเป็นมนุษย์เจ้าตัวแสบนี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงชอบมานอนกั้นระหว่างนางกับเสียเอ๋อนัก

     

    นางจำต้องสั่งซื้อเตียงมาใหม่เพราะเตียงเดิมมันแคบไปสำหรับสามคน

     

    “เป็นอะไรไปเสี่ยวอิ๋น”ปี่ปิตงเดินมานั่งข้างเตียงพลางเขย่าตัวของเสี่ยวอิ๋นที่หลับอยู่ให้ตื่น

     

    หวงเสี่ยวอิ๋นที่เพิ่งรู้สึกตัวเมื่อเห็นปี่ปิตงก็น้ำตาคลอขยับตัวเข้าไปกอดปี่ปิตงแน่นพลางเอ่ยเสียงสั่นๆ

     

    “นะ หนูฝันร้าย หนูเผลอไปเปิดประตูให้คุณหมาป่า คุณหมาป่าจะกินหนู”

     

    ปี่ปิตงกุมขมับ นางเหลือบไปมองหนังสือนิทานสอนเด็กที่ให้พวกสาวใช้ไปหามา นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวอิ๋นจะเก็บเอาเรื่องนิทานหลอกเด็กแบบนี้ไปฝันจนร้องไห้…พอนึกแล้วก็อดไม่ได้ที่นางจะหงุดหงิด

     

    “เสี่ยวอิ๋น”ปี่ปิตงพยายามปรับน้ำเสียงของตนให้อ่อนลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    “ QAQ ”

     

    “เสี่ยวอิ๋นหยุดร้องไห้ก่อน…”ปี่ปิตงยังไม่ทันปลอบ เจ้าตัวน้อยก็กอดนางแน่นกว่าเดิมทั้งนี้ยังใจกล้าเอาเสื้อตัวโปรดของนางมารองรับน้ำตา

     

    ‘อดทนไว้ปี่ปิตง อดทนไว้..เพื่อจื่อเสีย’นางได้แต่ท่องประโยคเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อที่นางจะไม่เผลอจับเจ้าตัวน้อยนี่โยนออกไปนอกหน้าต่าง

     

    รับรองว่าหากนางทำเช่นนั้น จื่อเสียจะได้ถือโอกาสไล่นางออกไปนอนที่โซฟาในห้องรับแขก

     

    นางเหลือบมองเจ้าตัวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ได้แต่นึกหงุดหงิด สถานะของเด็กคนนี้ในเวลานี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว

     

    เด็กคนนี้ได้กลายเป็นบุตรบุญธรรมของนางและจื่อเสีย

     

    นางจะปล่อยให้เด็กคนนี้เป็นมาทำให้ชื่อเสียงของนางและจื่อเสียมีปัญหาไม่ได้เป็นอันขาด วิญญาจารย์จำนวนมากที่พวกนางช่วยกันฝึกพวกเขาให้เป็นอัศวินชั้นแนวหน้า

     

    หากบุตรบุญธรรมอ่อนแอพวกนางไม่แย่รึอย่างไร? 

     

    คนจำนวนนับพันพวกนางสามารถฝึกได้แต่กับบุตรสาวเพียงคนเดียวพวกนางกลับไม่สามารถอบรมให้กลายเป็นบุคลากรชั้นยอดได้?

     

    ‘ไว้รอจื่อเสียเผลอแล้วค่อยพาเจ้าตัวแสบนี่ไปค่ายทหารแล้วกัน’ปี่ปิตงเริ่มนั่งวางแผนของตน

     

    .

     

    หวงจื่อเสียทำขนมเสร็จแล้ว นางจึงขึ้นไปห้องของตน ห้องของนางกลับเงียบอย่างน่าประหลาด 


    หวงจื่อเสียรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย สหายของนางไม่ใช่คนที่ชอบเด็กเท่าไหร่นัก นางจงค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวัง

     

    ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้หวงจื่อเสียเผยยิ้มอ่อนโยนออกมา

     

    ปี่ปิตงตอนนี้นอนหลับอยู่ ที่แขนข้างนึงปล่อยให้หวงเสี่ยวอิ๋นหนุนขณะที่อีกแขนกอดร่างของของบุตรสาวเอาไว้

     

    หวงจื่อเสียได้แต่ส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินหยิบผ้าห่มผืนบางออกมาห่มให้คู่แม่ลูกที่ยังคงหลับสนิทอย่างเบามือ

     

     

     

    “ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ^_^

     

     

     

     

    ( จบตอน )

     

    : )

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×