คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10
หวงจื่อเสียและปี่ปิตงนั่งมองเอกสารที่พวกนางส่งยื่นเรื่องขอมาและเพิ่งถูกส่งมาไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“ทำแบบนี้จะไม่เป็นปัญหาแน่หรอ?”หวงจื่อเสียกล่าวยังเป็นกังวล
“ไม่มีปัญหาหรอก ท่านอาจารย์ก็อนุญาติแล้วนิ”ปี่ปิตงกล่าวอย่างขอไปที ก่อนจะหยิบเอกสารมาอ่านรายละเอียด
เอกสารนี้เป็นสิ่งที่พวกนางยื่นเรื่องขอมาเพื่อจะใช้มอบสถานะให้กับเสี่ยวอิ๋น
แต่มันก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน…
“แล้วใครจะเซ็นล่ะ?”จื่อเสียถามอย่างเป็นกังวล
นี่เเหละปัญหาจะมีใครยอมเซ็นเอกสารฉบับนี้กัน?
“ข้าก็ไม่รู้…”ปี่ปิตงเอ่ยอย่างจนปัญญา
เอกสารตรงหน้าคือเอกสารรับรับบุตรบุญธรรมในตอนแรกพวกนางอยากจะหาใครสักคนมาเซ็นยอมรับและค่อยให้จื่อเสียไปรับเสี่ยวอิ๋นเป็นศิษย์อีกทีเลยยื่นเรื่องขอเอกสารนี้ไป
ใครจะไปคิดว่าท่านอาจารย์จะเดินเรื่องเร็วขนาดนี้ นางกับจื่อเสียยังไม่ทันหาคนมาเอกสารก็มาถึงหน้าบ้านแล้วทั้งยังต้องรีบนำไปส่งให้ท่านอาจารย์เพื่อเดินเรื่องดำเนินการทันทีไม่อย่างงั้นท่านอาจารย์คงสงสัยแน่ๆ
ใครจะไปคิดว่าท่านอาจารย์จะจัดการเรื่องได้เร็วขนาดนี้เห็นปกติยังวุ่นกับงานจนไม่เป็นอันทำอย่างอื่น
ไม่นึกว่าพอเป็นเรื่องของนางกับจื่อเสีย ท่านจะจัดการงดขั้นตอนทุกอย่างเหลือแค่เซ็นเอกสารรับรองเท่านั้น
“จะให้หาคนมาเซ็นตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว”หวงจื่อเสียเอ่ย
ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่พวกนางได้รับเอกสารมา
หากยังยืดเวลาไปมากกว่านี้ องค์สังฆราชอาจรู้สึกสงสัยการกระทำของพวกนางโดยเฉพาะตั้งแต่เสี่ยวอิ๋นแปลงกายเป็นมนุษย์ พวกนางแทบจะไม่ออกจากคฤหาสน์เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องเสี่ยวอิ๋นเลยตัดสินใจเก็บตัวกันสักระยะและหากจะว่ากันตามจริง…
นี่มันยังอยู่นช่วงพักของพวกนาง!แต่คนส่งเอกสารไม่ได้พักตามกันเนี่ยสิ
งานกองเต็มโต๊ะเลย
ช่วงนี้นางใช้เวลาผนึกออร่าสัตว์วิญญาณของเสี่ยวอิ๋นจนไม่ได้แตะงานเอกสารเลยหลังผนึกมันได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วจึงให้ปี่ปิตงยื่นเรื่องขอรับเอกสารการรับบุตรบุญธรรม
ใครจะไปนึกว่าองค์สังฆราชจะใส่ใจพวกนางถึงเพียงนี้
เอกสารส่งไวพอๆกับตอนองค์สังฆราชหาเรื่องหนีงานไปล่าสัตว์วิญญาณเลย!
ทำนางรู้สึกปวดหัวอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ใช่ว่ามันไม่มีทางออกสำหรับปัญหานี้แต่ถ้าทำตามวิธีนั้น ชื่อเสียงของตงเอ๋ออาจต้องมัวหมองเพราะนาง…
“ทำท่าทางแบบนั้นคิดออกแล้วหรอ?”ปี่ปิตงมองไปที่สหายที่มีท่าทีผ่อนคลายแต่ก็ยังคงขมวดคิ้ว
หวงจื่อเสียส่ายหน้า “วิธีนี้ไม่ควรใช้จะดีที่สุด”
“วิธีไหน?”ปี่ปิตงถาม ก่อนจะกล่าวต่อ “เสียเอ๋อตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วนะ ถ้าเราช้ามากไปกว่านี้ท่านอาจารย์อาจมาที่คฤหาสน์ด้วยตัวเอง”
หวงจื่อเสียถอนหายใจ “ยังไงก็ไม่ได้”
ปี่ปิตงขมวดคิ้ว “เสียเอ๋อเจ้าอยากเห็นเสี่ยวอิ๋นถูกฆ่าหรอ?”
“ไม่” >︿<
“ถ้างั้นก็บอกวิธีมา”ปี่ปิตงเอ่ยน้ำเสียงเด็ดขาด
หวงจื่อเสียก้มหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“ข้ากับเจ้าต้องเซ็นรับเสี่ยวอิ๋นเป็นลูกบุญธรรม นอกจากนี้ก็ไม่น่าจะมีวิธีอื่น”
หวงจื่อเสียคิดอย่างรอบคอบแล้ว เรื่องในครั้งนี้องค์สังฆราชเป็นคนสั่งดำเนินเรื่องด้วยตัวเอง
หากพวกนางยืดเยื้อต่อไปมันจะทำให้เกิดข้อสงสัย
ปี่ปิตงได้ยินดังนั้นก็แย่งเอกสารมาจากหวงจื่อเสียแล้วเซ็นชื่อของตนไปในช่องมารดาพร้อมหยิบตราประทับของตนเองและจื่อเสียมาปั้มเองเสร็จสรรพ
‘เจ้าช่วยคิดก่อนจะทำได้ไหม?’หวงจื่อเสียแทบร้องไห้
เหตุใดสหายของนางถึงชอบทำอะไรวู่วามนักแล้วแบบนี้นางจะอธิบายกับองค์สังฆราชว่าอย่างไร?
ปี่ปิตงยื่นปากกาให้นางก่อนจะเอ่ย “เซ็นซะสิ”
หวงจื่อเสียอยากปฎิเสธแต่เห็นสายตาดุร้ายจากปิปิตงก็รีบหุบปากของตนแล้วเซ็นชื่อทันที
‘สรุปเป็นข้าหรือเจ้าที่อยากช่วยเสี่ยวอิ๋นกัน?’
ปี่ปิตงมองหวงจื่อเสียอย่างเอาเรื่อง สหายของนางชอบคิดเล็กคิดน้อยเสียจริง
จื่อเสียมักจะห่วงเรื่องของนางก่อนเสมอ เรื่องแค่นี้มันไม่ได้ทำให้นางลำบากใจเลย
นางก็ดีใจที่จื่อเสียเป็นห่วง…แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมากังวลเลย พวกข้างนอกนั่นต่อให้นางไม่ทำอะไรพวกมันก็สร้างข่าวลืิอมาทำลายชื่อเสียงของนางได้
“เซ็นแล้ว”
ปี่ปิตงพยักหน้า “ดี”
( จบตอน )
ความคิดเห็น