ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 - สู่เกมส์ออนไลนน์ ตอนปลาย
Legend Of War Online
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไอ้น้องชาย พี่ชื่อมานา” ชายร่างเล็กเอยนามของตนออกมา ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ ท่ามกลางศึกเดือด
วายุหันกลับมามองหน้ามานา พร้อมพยักหน้า “ผมชื่อ...วายุ ครับ”
มานานั้นมาได้สนใจคำตอบนักแต่ก็ฟังชื่อวายุไว้จนขึ้นใจ “แบ่งทีมไป 16 ทีม โจมตีมันจากทุกทิศทาง”
พอประโยคนี้สิ้นสุดลง จากแถวตรงหน้ากระดานที่วิ่งตรงไปทางสไลม์ยักษ์นั้น เปลี่ยนเป็นกระจายไปคนละทิศทาง แต่เป้าหมายยังเจาะจงไปที่สไลม์ยักษ์อยู่
วายุไม่ได้อยู่แท๊กทีมกับมานา เพราะแยกตัวมาก่อน เนื่องจากกลัวว่าตัวเองจะเป็นตัวถ่วงเลยวิ่งไปกับทีมที่มุ่งหน้าว่าจะโจมตีจากข้างหลังสไลม์
ก๊ากกกกกกกกกกกก!!!! เสียงของสไลม์ยักษ์ร้องก้องกังวานไปทั่วทุ่ง
มีบางทีมชะงักไปบ้างแล้วพอตั้งสติได้ก็วิ่งต่อ เพียงแต่วิ่งช้ากว่าเดิมมากถึง 2-3 เท่า
ทันทีที่เสียงของสไลม์ยักษ์สิ้นสุดลง ก็มีออร่าสีเขียวปรากฏขึ้นรอบๆตัวสไลม์ และดูเหมือนว่าออร่านี้จะขยับตามความคิดของสไลม์
ออร่าสีเขียวเริ่มเปล่งแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ และทันใดนั้น....
พรุ๊บ พึก แก๊ก แก๊ก เสียงต้นไม้ถูกแปรรูป
ทันใดนั้นเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ต้นไม้รอบๆวายุ ถูกถอนโคนออกมาทั้งหมด และ มันถูกเปลี่ยนสภาพจากใหญ่ยาว เป็นเล็กเรียว ปลายไม้แหลมคม
ผู้เล่นทั้งหมดชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนที่ไม้พวกนั้นที่ถูกเหลาจนแหลม ลอยขึ้นฟ้าเหนือพื้นมาประมาณ 1 เมตร
วายุเหมือนจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงรีบนอนหมอบลงกับพื้น กลางดงผู้เล่นทีมที่ 11 ประกอบด้วยผู้เล่นราวๆ 60 กว่าคน
“หลบเร็ว!!!”วายุตะโกนร้องเสียงดัง
ฟิ้ว ฟิ้ว ไม้ขนาดความยาว 2 เมตร แหลมคมมาก ก็บินมาตรงทีมที่ 11 อย่างรวดเร็วจนตามองแทบไม่ทัน
สึก สึก สึก ไม้แหลมหลายท่อน แทงทะลุผู้เล่นนับสิบ แต่ข้อแตกต่างก็คือเกมส์นี้นั้นเมื่อตายตัวจะไม่หายกลายเป็นแสงไป ทำให้วายุต้องได้มองเห็นภาพอันสยดสยอง ทั้งคนถูกแทงจากข้างหน้าทะลุถึง 4 คน และ ยังมีแบบประเภทหน้ากลัวสุดๆ นั้นคือ ทะลุสมองจนสามารถมองเห็นอีกฟางหนึ่งได้
ทีมที่ 11 เหลืออยู่ไม่กี่คน ดูด้วยสายตาเปล่าน่าจะเหลือราวๆ 10 กว่าคน
‘เอายังไงดีล่ะ ทีนี้’วายุพูดกับตัวเองในใจ
สึก ...........
‘เอ๊ะ หรือ ว่า ? หมดแล้วงั้นหรอ’ วายุครบคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาดู
ทันทีที่วายุเงยหน้าขึ้นมาดูก็ได้พบกับเรื่องที่เหลือเชื่อจนเขาแทบจะช็อค และดิ้นตายตรงนี้เลย ดีกว่าที่จะโดนท่อนไม้ปลายแหลมแทงตาย เพราะภาพที่เห็นมันเกินเยียวยาจริงๆ ผู้เล่นเกือบ 500 กว่าคน ที่แบ่งไปเป็น 16 ทีม ตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นคนที่ยังไม่ตายเลย
วายุคบคิดในใจเล็กน้อย ‘อะไรกัน กะอีแค่....ท่อนไม้แค่นี้หลบกันไม่ได้ตายห่า กันหมดเลยเหรอ ... เอาไงดีวะตู’
‘หนี!!! จริงด้วย ไม่สู้ก็หนีสิ งั้นใส่ตีนหมาวิ่งเลยละกัน’ วายุนั้นดีดตัวไปข้างหน้าทีหนึ่งแล้วหมอบลงอีกรอบ
‘บ้าเอ้ย ขืนชิอย่างงี้มันก็จับได้ดิ วิ่งเลยดีกว่า’
ตึก ตึก ตึก
วายุพบสิ่งผิดปกติเล็กน้อยที่หางตาตัวเองเล็กน้อย จึงหันไปมองอย่างรวดเร็ว
“ไปเร็ววิ่งๆๆๆ” เสียงของผู้เล่นคนหนึ่งทีรอดดังขึ้น พร้อมพรายมือไปข้างหน้า เหมือนส่งสัญญาณว่าเข้าป่าจะปลอดภัย
สไลม์นั้นแผ่ออร่าออกมาอีกครั้ง แต่สีออร่าเปลี่ยนเป็นสีส้ม จากอากาศโดยรอบที่เย็นสบายเปลี่ยนเป็นร้อนจัด หญ้าเริ่มแห้งจนเห็นแต่ดิน ต้นไม้เริ่มเหี่ยวเฉาลงเรื่อยๆ
วายุเริ่มหายใจไม่ออก และ เหงื่อเริ่มไหลมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้เล่นที่กำลังวิ่งหนีเริ่มวิ่งช้าลงเรื่อยๆ บางคนก็เดินแทน บางคนก็นิ่งไปเลย
สไลม์หมุนตัวไปทางผู้เล่นที่หนีพร้อมอ้าปากกว้าง จากนั้นผู้เล่น ราว ๆ 30 กว่าคน ก็ถูกดูดเข้าไปเป็นอาหารจนหมด
อึ๊ก อึ๊ก เสียงกลืนน้ำลาย
‘ตายๆ ไม่ได้มีแค่1 ความสามารถนี่หว่า ตายๆ เอาไงดีวะ’ วายุนั้นเหงื่อชุ้มกายไปหมด
“วายุ วายุ” เสียงเบาๆดังมาข้จากางหูวายุ
วายุรีบหันไปมองก็พบว่ามีคนแกล้งตาย คนหนึ่งส่งสัญญาณมือเรียกหา โดยห่างจากเขาประมาณ 3-4 ศพ
วายุพยายามคลานให้เบาที่สุด จนมาถึงก็พบว่าคนที่เรียกเขาคือมานา และเพื่อนเขาอีก 5 คน
“พี่มานา ...”
“นึกว่าจะตายไปแล้วนะเนี๊ย อึดจริงๆ” มานาไม่สนคำทักทายของวายุ
วายุไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี จึงตัดปัญหานี้ทิ้งแล้วพูดเรื่องอื่นแทน “เรื่องคำชมน่ะช่างเถอะ...อยากชนะ”
“แหม่ๆๆ ไม่ต้องเลียนแบบ เอมเมอรัล ก็ได้” มานาตอบเรียบๆ
วายุเริ่มหัวเสียเล็กน้อย “จริงจังหน่อยดิพี่”
มานาอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มที่มุมปาก “ถ้าอยากชนะก็ต้องสู้ซิ...ไม่งั้นจะชนะได้ยังไง”
“ยังไงล่ะครับพี่...มันฆ่าเพื่อนๆ เราหมดภายในพริบตาเดียว ถ้าเราออกไปเราก็ตายอยู่ดี”
มานาเงยหน้าไปมองสถานการณ์เล็กน้อย ก่อนที่จะตอบวายุด้วยประโยคสั้นๆ ว่า “ดีกว่า เราตายโดย ไม่ได้ทำอะไรเลย นั้นแหละ...”
วายุอึ้งไปเลยกับคำพูดของมานา แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธเพราะสิ่งที่มานาพูดนั้นถูกต้องอย่างชัดเจน
“เรามีกันอยู่ 7 คนแล้วจริงอยู่ที่มันอันตรายมากๆ แต่ตอนนั้นเรามีเยอะเป้าเลยมีมาก แต่ตอนนี้เราเหลือน้อยลงแล้ว ขอให้ เซฟๆ ตัวเองด้วยนะทุกคน” สิ้นประโยคนี้ มานา และเ พื่อนๆ ก็วิ่งออกไปสู้กับสไลม์โดยไม่ให้วายุตั้งตัว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
ต้นไม้ปลายแหลมหลายต้นพุ่งเข้ามาใส่ร่างของพวกเขา แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสักคน
‘จริงด้วย ยิ่งมีเป้าน้อยเท่าไหร่ โอกาสมันก็ลดลงเท่านั้น’
“ย๊าก!!!” เพื่อนมานาคนหนึ่งไปถึงตัวก่อน จึงกระโดดแล้วแทงไปตีตรงเท้าของสไลม์
จึก จึก จึก เสียงมีดแทงเข้าไปซ้ำหลายที
พวกวายุนั้นรู้ดีว่าตนได้บุกขึ้นหน้าตลอดก็จริง ได้ฟัน แทงมัน แต่ก็รู้สึกได้เหมือนกันทุกคนว่า มันไม่เจ็บด้วยซ้ำ ดีไม่ดีเลือดมันอาจจะยังไม่ลดเลย
“แทงพร้อมกันนะ 1 .... 2 ...” มานาพูดยังไม่สิ้นประโยคก็หยุดชะงักลง
สึก สึก สึก สึก สึก เสียงของแหลมคมทะลุร่างกาย
ตึม ร่างของมานาล้มลงกับพื้น
เพื่อนของมานาทั้ง 5 คน นั้นเสียสมาธิไปแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น หอกสีทองก็แทงทะลุทั้ง 5 คน ทันที
วายุเบิกตากว้าง ร่างของทั้ง 6 คน ค่อยๆ ล้มลงก็พื้นอย่างช้าๆ
“วายุ...ถ...ถ้าไม่...สู้...ก็ไม่ชนะ” ประโยคนี้คือประโยคสุดท้ายจากปากมานาก่อนที่มานาจะสิ้นลมหายใจไป พร้อมเพื่อนๆ
“ไม่สู้ ไม่ชนะ!!!” วายุตะโกนลั่นทุ้ง
ทันใดนั้นวายุก็กำมีดบนมือตัวเองแน่นจนเลือดไหลออกจากมือ “แก...ไอ้เจลตุ๊ด…เข้ามาเลย!!!”
วายุใส่สปีดเท้าเต็มที่ กำมีดให้แน่น พร้อมทะยานร้างของตนใส่สไลม์ยักษ์ สไลม์ยักษ์ก็อ้าปากกว้าง เตรียมให้วายุเป็นอาหารชิ้นสุดท้ายเช่นกัน
ตุบ ตุบ
ทันทีทันใดร่างของวายุก็หายเข้าไปในปากของสไลม์ยักษ์ซะแล้ว
บุ้ม บุ้ม บิ๋ม บิ๋ม
วายุลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตนนั้นอยู่ในที่ใดสักอย่างที่มีเยลลี่เต็มไปหมด วายุลองหายใจดูก็หายใจไม่ออก หายใจเข้าไม่ได้ออกก็ไม่ได้ เขาเริ่มรู้สึกทรมาณที่จะตายเพราะไม่มีอากาศหายใจแบบนี้
‘บ้าเอ้ย...จะตายเพราะแบบนี้หอเนี๊ย’วายุคิดอะไรไม่ออกจึงทำบางอย่างที่เรียกได้ว่าโง่สุดๆซะแล้ว
‘เยลลี่ใช่ไหมได้!!! กินแม่มให้หมด!!!’ วายุนั้นเริ่มจับเยลลี่ที่อยู่ตัวเข้าปาก กินไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ
จนกระทั้ง...วายุได้ยินเสียงคำรามอีกครั้ง
ก๊าก!!!
วายุเริ่มหายใจไม่ออกก่อนที่จะกินเยลลี่ชิ้นสุดท้ายไป..
วายุหลับตาคลอๆ ปางหมดสติ ก่อนที่จะมีออร่าสีขาวเริ่มกระจายตัวไปตามเยลลี่น้ำในตัวสไลม์
“ระเบิดตัวเองใน 5...4...3...2...1...” เสียงของระบบดังขึ้น
ตู๊ม!!!
ร่างของวายุลอยไปกลางอากาศแล้วตกลงกลางทุ้งหญ้าสีดำน้ำตาล
เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง “ผู้เล่น วายุ สังหาร อัศวินทุ่งแห่งสัตว์ เผ่า สไลม์ ระดับ 1000 ชั้น อัศวิน ผู้เล่นวายุได้รับเงิน 20000 โกลด์ [G] 2000 ซิวเฟอร์ [S]
ได้รับค่าประสบการณ์ 50000 EXP. สามารถเลื่อนขั้นเป็นชั้นขุนนางได้ที่เมืองเริ่มต้น
“สังหารยังงั้นเหรอ กินเนื้อมันเนี๊ยนะ เรียกว่าสังหาร...” วายุพูดกับตัวเองในขณะที่นอนอยู่กลางทุ่งหญ้าสีดำ
ตึก ตึก ตึก ตึก
วายุเดินมาจนถึงตรงที่สไลม์ยักษ์ตาย ลักษณะนั้นเป็นหลุมใหญ่สีดำ ข้างในมีไอเทมมากมายดรอปอยู่ “โอ้ ดรอปไอเทมเยอะแหะ อะไรบ้างละเนี๊ย”
ในขณะที่วายุกำลังหาของพอที่จะใช้ได้นั้นก็เหมือนมีอะไรบอกว่ามีของดีๆอยู่ใต้เท้าเขา วายุรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมีพลังมหาศาลอยู่ใต้เท้าเขา ถึงแม้จะมีอาวุธประเภทมีด ดาบ หอก ดรอปอยู่แต่เขาสนใจของที่อยู่ใต้ซากอาวุธพวกนี้มากกว่า
แกว้ง แกว้ง วายุหยิบอาวุธทั่วๆไปออกมาไว้วางข้างๆ แล้วหาต่อไป
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง วายุทำการหยิบดาบเล่มหนึ่งออกมาวางไว้ข้างๆแล้วมองลงมาที่พื้น ก็พบว่าเป็นอาวุธมีประกายสีเขียว วายุล่วงมือลงไปเก็บตรงใจกลางของอาวุธเป็นโซ่เหล็ก
“เคียวโซ่!!!” สิ่งที่เห็นนั้นคือเคียวโซ่ ด้านบนของเคียวเป็นสีแดงปนเขียว ด้านล่างเป็นฟ้าปนเขียว ตรงกลางที่เป็นโซ่นั้น มีออร่าสีเขียวอยู่
“สุดยอดไปเลย...อาวุธนี้มัน สุดยอด!!!” วายุลองขว้าง ลองเหวี่ยง อยู่ตลอดเวลาก็พบว่าตัวโซ่มันพอดีมือเขา แถมน้ำหนักยังเบาสุดๆด้วย
ในขณะที่วายุกำลังดีใจอยู่เสียงระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ผู้เล่น วายุ สำเร็จภารกิจลับ สังหารอัศวินแห่งทุ่ง และ สุ่มได้เคียวปีศาจอามาดอน
ผู้เล่นวายุได้รับทักษะ เหยียบเมฆา ระดับ 1
ผู้เล่นวายุได้รับเฉพาะอาวุธ สลายพลังปริดชีพ ระดับ 1 [สกิลติดตัว]
ผู้เล่นวายุได้รับไอเท็มพิเศษ – ใบกลับเมืองเริ่มต้น,อัญมณีเอมเมอรัล
***ผู้เล่นวายุ สามารถใช้ไอเอมพวกนี้ได้โดยการคิดแล้วหน้าต่างระบบจะขึ้นให้อัตโนมัติค่ะ
“คิดงั้นเหรอ ?” วายุพูดกับตัวเองแล้วลองคิดในใจดูว่า หน้าต่างระบบ ทันใดนั้นก็มีหน้าต่างระบบสีฟ้าอ่อนโผล่ขึ้นมาข้างหน้าวายุ บนหน้าต่างระบบประกอบไปด้วย ออกจากเกมส์,ปรับระดับความเจ็บปวด,เพื่อน,ปาร์ตี้,กระเป๋า
“งั้นเอา...กระเป๋าละกัน วายุเอานิ้วไปจิ้มที่รูปกระเป๋า แล้ววายุก็ตะลึงเล็กน้อยเพราะหน้าต่างระบบเป็นรูปเขา แล้วเขียนประวัติโดยย่อให้
ผู้เล่น วายุ ระดับ 1000 ชั้น ทหาร อาชีพ –
พลังชีวิต 2000/2000 พลังมานา 500/500
พลังปราณ 100/100 พลังเวทย์ 100/100 พลังจิต 100/100
วายุจิ้มไปที่กระดาษแผ่นสีเขียวแผ่นหนึ่ง แล้วก็มีตัวหนังสือเด้งขึ้นมาแจ้งอีกทีว่า ‘ยืนยัน หรือ ไม่ ว่าจะกลับเมืองเริ่มต้น วายุไม่ลังเลแล้วกดไปที่ยืนยัน ร่างของเขาก็หายไป พร้อมเคียวที่ถืออยู่เป็นอาวุธคู่กาย ส่วนอาวุธที่ดรอปอยู่ในหลุมนั้นก็เป็นเพียงซากที่ไม่มีใครเก็บเท่านั้น
แว๊ป แว๊ป ร่างของวายุปรากฏอยู่กลางเมืองสมัยช่วงยุคกลาง
“มาถึงแล้วซินะ ได้เล่นจริงๆ สักที...”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น