ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend Of War Online : อภินิหารสงครามแห่งเกรียน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 - สู่เกมส์ออนไลนน์ ตอนต้น

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 56


    Legend Of War Online
     
         วายุลืมตาเบิกกว้างก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่พื้นอะไร สักอย่างแข็งมากสีขาว ตอนนี้วายุมึนหัวเล็กน้อยแล้วอาการก็ค่อยๆคลายลง วายุลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสีเหลี่ยมสีขาว ไม่มีแม้แต่ฝุ่น เป็นเพียงห้องธรรมดาๆ แต่ไม่มีประตูก็เท่านั้นเอง
         “ที่ไหนวะเนี๊ย…”วายุพูดกับตัวเอง แล้วทันใดนั้นก็มีประตูเลื้อนเปิดแบบเซเว่น ออกมาจากห้องสีขาว
         วายุขเม็งไปที่ประตูนั่น แล้วทันใดนั้นก็มีมือสีเทาจับที่ขอบประตูแล้วค่อยๆ ออกมาอย่างเชืองช้า วายุนั้นก้มหน้าก้มตาลงโดยไม่มองเหตุการณ์อะไร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “คะ คะ คะ ใครครับ ?” วายุไม่ได้สบตากับคนๆนั้นที่พึ่งออกมาจากประตูที่ผนังสีขาว
         วี๊ด เสียงประตูปิดลงอย่างช้าๆ
         ตึก ตึก ตึก วายุหลับตา แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขาตัวสั่นเป็นลูกหมาตกน้ำ วายุเริ่มมองตั้งแต่เท้าขึ้นไปหัว
         เท้าของคนๆนี้รับรองได้เลยว่าเป็นผู้ชายเพราะเท้านั้นหยาบมากๆ
         วายุค่อยๆเงยหน้ามองทีละส่วน จนถึงระหว่างช่วงตัวของชายปริศนา วายุก็อึ้งไปเลยเพราะว่า ชายคนนี้บังเอิญว่า สูงเกินคนไปแล้ว เพราะตัววายุนั้นสูงถึง 185 ซม แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเค้านั้นช่วงตัว ยังสูงถึง 185 ซม. แล้วถ้ารวมกับขนาดส่วนสูงทั้งหมดจะไม่สูง 2 กว่าเมตรเลยเหรอ
         วายุกลืนน้ำลายเสียงดัง อึก อึก
         “ข้า ชื่อ สเลน...”ชายปริศนายังไม่ได้แนะนำตัว ก็มีเสียงดังตัดเขาเสียแล้ว “อ๊าก!!!ผีหลอก”
         “อย่าทำอะไรผมเลยครับ...ลูกช้างจะเอาหัวเพนกวินมาถวายให้เลย” วายุพูดพร้อมพนมมือสั่นๆ
         “อะ เอ่อ...คือ ผมเป็น NPC ครับ” ทันใดนั้นวายุก็รีบลุกขึ้น แล้วทำท่าปัดฝุ่นขอบเสื้อ พร้อมเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง แต่วายุต้องเขินอีกครั้งเพราะว่า กางเกงที่เขาใส่นั้นไม่มีกระเป๋า วายุเลยเปลี่ยนท่าใหม่เป็นกอดอกแทน
         “แล้วทำไม ? ไม่บอกให้เร็วกว่านี้” วายุทำเสียงขลึม
         “อ๋อ คือ ผมเห็นกระเทย...กรี๊ด...อ่ะครับ เลยแนะนำตัวไม่ทัน” NPC สเลนตอบเรียบๆ แต่แทงใจดำวายุกันเลยทีเดียว คำๆนี้เกือบทำให้วายุกระอักเลือด แต่วายุก็ทำหน้าเนียนไม่รู้เรื่องก่อน
         สเลน เอ๋ยปากพูดอีกครั้ง “เอาล่ะ ก่อนอื่น คือ ผมจะบอกไว้ก่อนนะ ว่าผมน่ะเป็น NPC จริงๆ ส่วนที่พูดโต้ตอบได้ขนาดนี้เพราะผมถูกลงโปรแกรมด้วยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ครับ” วายุนั้นตีหน้าไม่รู้เรื่อง
         “ขั้นแรกก่อนเข้าเกมส์นะครับ ให้คุณตั้งชื่อตัวละครก่อน” สเลนพูดจบ ก็มีหน้าต่างสีใส ปรากฎอยู่ตรงหน้าวายุซะแล้ว
         วายุนั้นเคยเล่นเกมส์มาก่อนจึงพอรู้ว่าต้องทำยังไง วายุนั้นพยายามมองหาคีย์บอร์ดแต่ไม่มีจึงพูดออกมาเป็นเสียงแทน “วายุ” หน้าต่างหายไปทันทีที่พูดจบ แล้วก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้เขียนแบบเดิม ‘ยืนยันตัวละคร หรือไม่?’ วายุคิดว่าเกมส์นี้สั่งการด้วยระบบเสียงได้จึงตอบกลับไปว่า “ยืนยัน” หน้าต่างยืนยันหายไปอีกครั้ง แล้วมีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “ผู้เล่นใหม่ วายุ ทำการตั้งชื่อตัวละครเสร็จสิ้น”
         วายุขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองหน้าสเลน “ไงต่อล่ะ?” สเลนไม่ได้ตอบ แต่ค่อยๆชูมือขึ้นช้าๆ จนกระทั้ง นิ้วกลางกับนิ้วโป่งชนกันเสียงดัง ‘เปาะ’ ทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้นก็มีกระจกบานใหญ่ อันนึงปรากฏอยู่ตรงหน้าของวายุ วายุนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วไม่พูดอะไร
         “นั้นคือ หน้าต่างเปลี่ยนตัวละครครับ คุณวายุสามารถเปลี่ยนรูปร่าง หน้าตา ความสูง ผิวพรรณ บลา ๆ ได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และ เมื่อปรับเสร็จแล้วหน้าตาในเกมส์ของคุณก็จะเปลี่ยนไปด้วย แต่ไม่มีผลต่อบนโลกจริงๆ นะครับ” สเลนพูดเสร็จก็ถอนหายใจยาว
         “ยืนยันครับ”วายุนั้นเขารู้ตัวเองดีว่าการปรับตัวละครนั้นทำให้ยากต่อการค้นหาพี่สาว และ น้องๆ ตัวเอง จึงไม่คิดจะปรับอะไร 
         10 นาทีต่อมา
         สเลนนั้นเงียบยาวจนกระทั้งความเงียบถูกทำลายลง “เมื่อไหร่ ผมจะได้เข้าเกมส์” วายุพูดพร้อมกับเอานิ้วมาแคะขี้มูกไปด้วย
         สเลนหันมามองหน้าวายุแล้วตอบเรียบๆ “ประมาณ 3-4 นาทีครับ ระบบกำลังเช็คความปลอดภัยอยู่ครับ แต่ว่าเนื่องจากผู้เล่นในเกมส์มีมากเกินความคาดหมายของเรา ดังนั้นเมื่อคุณเข้าเกมส์ไปแล้ว คุณอาจจะไม่ได้เกิดเมืองเริ่มต้นนะครับ อาจจะไปเกิดในป่า ในดันเจี้ยน หรือ พวกเมืองใหญ่ๆ ครับ”
         วายุพยักหน้ารับแล้วถามต่อ “แล้วถ้าฆ่าตัวตายในเกมส์ จะสามารถไป Spawn ในเมืองเริ่มต้นได้ไหมครับ”
         สเลนเงียบไปพักหนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “ได้ครับ แต่ระบบเกมส์ยังมีบัคอยู่ดังนั้น เวลาคุณโดนแทงด้วยมีด คุณก็จะมีความรู้สึกแบบเจ็บจริงๆครับ พูดง่ายๆ ก็คือ ในเกมส์กับโลกจริง นั้นเจ็บเท่ากัน”
         วายุกลืนน้ำลายเสียงดัง แล้วเงียบไปพักใหญ่
         “อีก 20 วินาที จะเริ่มต้นเกมส์ LOWO” เสียงระบบดังขึ้นอีกครั้ง
         “ถึงเวลาแล้วครับ คุณวายุ” แล้วสเลนก็หันหลังเดินกลับไปที่ประตูเลื้อนอีกครั้ง
         วายุพยักหน้าตอบ
         “แล้วในเกมส์ผมต้องทำยังไงบ้างล่ะครับ” วายุทำเสียงเคร่งเครียด
         สเลนหันกลับมามองหน้าวายุ พร้อมเสียงนับถอยหลัง 10...9...8...“อยู่รอดให้ได้ครับ แล้วอย่ารีบตาย เพราะถ้าตายคุณจะต้องรอเวลาในการเกิดใหม่อีกเกือบ 3 ชม. ในเกมส์ครับ”
         วายุพยักหน้ารับ แล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างจ้า เข้าดวงตาวายุอีกครั้ง วายุพยายามเอามือบังแสงแล้วหลังจากนั้นแสงก็หายไป
         วายุลดมือลงแล้วมองรอบๆ วายุอ้าปากค้าง และ เบิกตากว้าง เพราะรู้สึกปลื้มในเกมส์นี้มากๆ เขารู้สึกเหมือนกับเขาอยู่ในที่ๆ ไม่มีในโลกจริงอีกแล้ว ทั้งสายลมที่สัมผัสร่างแบบอ่อนๆ อากาศสดชื้นไม่มีมลพิษ หญ้าบนพื้นสะบัดไปมาดุจสายน้ำ
         ตอนนี้วายุนั่งอยู่ในทุ้งหญ้าแห่งหนึ่งในเกมส์ มีหญ้าสีเขียวสดโดยรอบ แต่ว่าตอนนี้วายุเริ่มทำสีหน้าเบื่อหน่ายขึ้นเรื่อยๆ แล้วพูดในใจว่า ‘บ้าเอ้ย...ไม่ได้เกิดเมืองเริ่มต้น แล้วตูจะไปหาฆ่ามอนเตอร์กากๆ ได้ที่ไหนเนี๊ย’
         และแล้วไม่ทันไรก็เริ่มมีผู้คนหลายร้อย พัน ปรากฏตัวออกมาจากชานป่าฝั่งข้างๆทุ่งหญ้า บางคนก็พึ่งสร้างตัวละครเสร็จ เพราะเมื่อเกิดใหม่นั้นจะมีแสงอยู่รอบๆตัวประมาณ 3 วิแล้วหายไป ทุกคนในระแวกนั้นใส่เสื้อผ้าเหมือนกันหมดรวมถึงเขาด้วย
         วายุนั้นมีมีดแนบอยู่เอว 1 อันเหมือนคนอื่น วายุนั้นสำรวจตัวเองก็พบว่าเขานั้น ใส่เสื้อสีน้ำตาล กางเกงสีครีม รองเท้าผ้าใบสีดำ พร้อมเกราะที่รูปร่างแสนจะบอบบาง แต่น้ำหนักมันนั้นเหมือนแบกกระสอบทรายอยู่
         วายุทนไม่ได้กับน้ำหนัก จึงถอดเกราะออกโดยวิธีการเอามีดมากรีดเชือกที่รัดระหว่างเกราะที่หน้าอก และ หลัง ของตัวเขา
         คนอื่นๆ ในระแวงนั้นก็ทำตามบ้าง ไม่ทำบ้าง จนวายุคิดว่าตัวเองนั้น คือ ผู้นำเทรนด์เลยทีเดียว วายุมองซ้าย ขวา หน้า หลัง แล้วสังเกตดูชัดๆ ว่าระแวกนี้ปลอดภัยไหม
         วายุมองพลางๆ ก็ว่าที่นี้ปลอดภัยและอันตรายที่สุดในบางสถานการณ์ เพราะว่า ทางทิศใต้นั้นมีเพียงสไลม์เท่านั้น ส่วนทิศเหนือนั้นก็เป็นป่าใหญ่ ทิศตะวันตกนั้นมีเหวอยู่ ส่วนทิศตะวันออกนั้นก็มีสไลม์เหมือนๆกัน แต่บางทีก็มีพวกกระต่าย ไก่ มาปนอยู่ด้วย วายุคิดว่าที่นี้คงจะอยู่ใกล้เมืองเริ่มต้นพอสมควร เนื่องจากมีเพียงสไลม์ และ สัตว์อ่อนๆ เท่านั้น จึงไม่ได้กลัวเกรงอะไรมากมาย
         ผู้เล่นหลายคนนั้นพยายามจับกลุ่มกันทันที บางก็กำลังสู้สไลม์ตัวต่อตัว บางก็เดินลุยป่าหายไป บางก็นั่งเล่นเหมือนเขา ตัววายุนั้นก็ไม่ค่อยอยากสู้สักเท่าไหร่จึงถือโอกาสหลับเลยละกัน เพราะเดิมทีเวลาในเกมส์ตอนนี้ก็น่าจะราวๆ ตี 5 กว่าๆเอง ดวงอาทิตย์ยังขึ้นไม่เต็มดวงเลย หลังจกานั้นวายุก็เข้าสู่ภวังค์ทันที 
         3 ชั่วโมงผ่านไป
         “เอ้า ล่ะทุกคน!!!” เสียงตะโกนดังลั่นทุ่งโล่ง
         วายุสะดุ้ง ตื่นขึ้นมาแล้วมองไปที่ข้างหลังของตนก็พบว่า มีผู้เล่นหลายคนยืนชุมนุมกันที่ข้างๆเขาพอดีเลย วายุรีบเช็ดน้ำลายแล้วรีบลุกขึ้นมายืนเหมือนคนอื่นๆ
         “พวกเรา คือ สมาชิกทีมเสี้ยวจันทรา เมื่อเราออกไปจากที่ทุ่งนี้ได้เราจะตั้งกิลด์ขึ้น และ ผมขอให้ทุกคนช่วยๆกันทำงาน แบ่งทีมกันหาอาหาร น้ำ นะครับ ส่วนเรื่องวัสดุทำแคมป์อะไรอย่างนี้ผมเตรียมไว้แล้ว” ชายร่างสูง คนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น
         ทันใดนั้นก็มีอีกชายคนหนึ่งรูปร่างเตี๊ยแต่ไม่มากก้าวออกมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “ตอนนี้เราน่าจะอยู่ทุ่งแห่งสัตว์ครับ ซึ่งก่อนเริ่มเกมส์ผมอ่านมาแล้วผมจึงพอเดาได้ ทางทิศตะวันออกนั้น คือ เมืองเริ่มต้นครับ แต่เราต้องฝ่าป่าเข้าไป ถึงจะไปเมืองเริ่มต้นได้ ซึ่งระหว่างทางไปให้ระวังเรื่องบอส ให้ดีด้วยเพราะว่า อาจจะมีบอสมาเกิดก็ได้นะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะแคมป์กันที่นี้ก่อน ผู้เล่นที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้มีทั้งหมด 526 คนครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานได้”
         หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป บางคนก็ปิ้งเนื้อกระต่ายแล้วเอามาให้คนอื่นกิน บางก็ล่าสัตว์อยู่ แต่วายุนั้นเล่นงีบหลับไปจึงไม่รู้บทบาทของตนเอง ทำให้วายุนั้นรู้สึกระอายใจนิดๆเหมือนกัน 
         “งั้นขอลองฆ่ากระต่ายสักตัวดีกว่า”วายุเห็นกระต่ายตัวหนึ่งหลับอยู่กับฝูงจึงใส่สปีดขั้นเทพ พุ่งเข้าหาร่างกระต่าย ทันทีที่มีดแทงเข้าร่างกระต่ายตัวนี้ กระต่ายยังไม่ได้ขยับหรือร้องเลย ร่างของมันก็ขาดสองท่อนแล้ว
         วายุเห็นเป็นเรื่องสนุกจึงวิ่งไปไล่ฆ่าทั้งกระต่าย และ สไลม์ เรื่อยๆอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นเป็นที่จับตามองมากที่สุด
         วายุนั้นแทงเข้าไปที่กระต่ายข้างแคมป์ แล้วเลือดมันดันไปถูกแคมป์ชายร่างสูงที่พูดเมื่อกี้ “อ๊าก!!!! อะไรวะเนี๊ย!!!!” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากในแคมป์ วายุทะยานร่างไปหลบในแคมป์ใครไม่รู้ แล้วก็ถอนหายใจดัง “เกือบแล้วเรา อิอิอิ”วายุกำลังจะหัวเราะดังลั่น เขาก็พบว่าตนเองนั้นกระโดดมาหลบในเต้นคนที่ตัวเล็กๆ ที่พูดเมื่อกี้ แถมคนๆนี้ไม่ได้หลับด้วย เขามองหน้าวายุด้วยแววตาเรียบเฉย แล้วส่ายหน้า สองสามที
         “คือว่า...แบบ...อ่อ”วายุพูดตะกุกตะกัก
         “555+ ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้สบายไอ้น้องเอ้ย อยากนอนแคมป์พี่ก็ไม่บอก มาๆ น้องนอนเลยเดี๋ยวพี่ไปนอนกับเพื่อนก็ได้” วายุรู้สึกดีใจที่พี่คนนี้เป็นมิตรขนาดนี้ แม้ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตาม
         “ไม่เป็นไรครับ ผมแค่…”วายุกำลังจะบอกเรื่องเลือดแล้วอธิบาย...แต่ว่าทันใดนั้น
     
         เสียงระบบดังขึ้น
    บอส-อัศวินทุ่งแห่งสัตว์  ชั้น-อัศวิน ระดับ-1000
    ระดับพลัง HP 5000/5000 ระดับพลัง MP 840/840
    ระดับความอันตราย - ปานกลาง
    ระดับวิธีการรับมือ – ยากมาก
    สกิล – ไม่ปรากฏ
         วายุตาค้าง แล้วมองไปที่หน้าชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าในแคมป์
         “ชั้น อัศ...อัศวิน ยังงั้นหรอ?...”ชายร่างเล็กคนนี้กระโดดออกมาจากแคมป์แล้วจ้องมองไปที่ป่าทิศเหนือ แล้วตาค้างเบิกกว้าง
         วายุทะยานร่างออกมาแล้วยืนตีคู่ ชายร่างสูงที่เขาทำแคมป์เปื้อนเลือดกระต่ายใส่
         วายุมองไปที่ป่าใหญ่แล้วตกตะลึงไปเลย ถึงคนเขาจะเหลือเป็นร้อยแต่ว่า ไอ้ตัวนี้สักสองหมื่อนคนจะไหวไหมเนี๊ย
         วายุพูดลอยๆขึ้นมาพร้อมน้ำเสียงสั่นๆ “สู้...กับ...บอส งั้นเหรอ ?”
         “ทุกคน!!ถอยก่อนตั้งหลักแล้วค่อยสู้!!!”
         ทันทีทันใดทุกๆคนก็วิ่งกับมาที่แคมป์แล้วมองตัวมันจากแคมป์ถึงแม้จะห่างไกลกันไม่มาก แต่อย่างน้อยมันก็เคลื่อนที่ช้ามากพอที่จะมาไม่ถึงแคมป์โดยทันที
         ทุกๆคนได้เห็นทั้งขนาดและสัดส่วนมันจริงๆ มีเพียงเสียงเดียวของผู้เล่นที่รอดมาได้ พูดเบาๆลอยๆขึ้นมา แต่มันดันได้ยินจนทั่วถึง “บ้าน่ะ...สูงเกือบ 15 เมตร แต่ว่ารับมือยากขนาดนี้ มัน มันไม่ใช่...สไลม์หรอกน่า!!!!”
         “ทุกๆคน เตรียมอาวุธให้พร้อม มันหันตัวมาทางนี้แล้ว!!!”
         วายุคิดว่ามันบ้าสิ้นดี มีดน้อยจะสู้กับค้อนใหญ่ได้ไง แต่ดูเหมือนว่าพี่คนที่คุยกับเขาจะดูสีหน้าออกจึงพูดเพียงคำคมสั้นๆ ให้ขวัญกำลังใจผู้เล่นคนอื่นๆ และ ให้กระทบความคิดของวายุด้วย
          “เกมส์ยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร!!!”ชายร่างเล็กตะโกนดังลั่นดุจราชสีห์ แล้วหยิบมีดที่แนบอกชูขึ้นฟ้า
         วายุตลึงแล้วยิ้มกว้าง “เอาก็เอาวะ สู้ตายกู!!!” วายุพูดจบก็ชูมีดขึ้นฟ้าเช่นกัน
         “เห๊ ลุยมัน ฆ่ามันเลย เพื่อชัยชนะ ไปๆๆๆ!!!” ทุกๆคนที่เหลือรอดอยู่ราวๆ 400 กว่าคน วิ่งประจัญบานยังกะกองทัพในหนังสงคราม อย่างไม่เกร็งกลัวสไลม์อีกต่อไป !!!
         
     
    โปรดติดตามชมในตอนหน้า!!!
    EP.2
            
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×