ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 5 :: Fortunato ad averla :: D18 ::
CHAPTER 5
::Fortunato ad averla::
::โชคดีที่มีเธอ::
::D18::
::Fortunato ad averla::
::โชคดีที่มีเธอ::
::D18::
*กลับมาพบกันอีกครั้ง เปิดเรื่องที่ 5 คู่ที่ 4 ด้วยพี่โน่น้องฮิ ><
**แต่งเนื่องในวันไวท์เดย์ (ถึงในฟิคจะไม่มีเรื่องไวท์เดย์ก็เหอะ -*-
***ตัวเอียงสีม่วง=ความคิดของฮิ ตัวเอียงสีส้ม=ความคิดของโน่ค่ะ ตัวเอียงสีดำ=นึกย้อนอดีต
**แต่งเนื่องในวันไวท์เดย์ (ถึงในฟิคจะไม่มีเรื่องไวท์เดย์ก็เหอะ -*-
***ตัวเอียงสีม่วง=ความคิดของฮิ ตัวเอียงสีส้ม=ความคิดของโน่ค่ะ ตัวเอียงสีดำ=นึกย้อนอดีต
ยามเช้าอันสดใสที่โรงเรียนมัธยมต้นนามิโมริ ถูกต้อนรับด้วยเสียงนกหลากสายพันธุ์ ตามมาด้วยเสียงพูดคุย
'เบาๆ'ของเด็กนักเรียนที่ทยอยกันมาโรงเรียน'แต่เช้า' (เพื่อความปลอดภัยจากกรรมการคุมกฎ)
ฮิบาริ เคียวยะ หัวหน้าคณะกรรมการคุมกฎโรงเรียนนามิโมริ กำลังยืนมองนักเรียนในโรงเรียนจากหน้าต่างใน
ห้องรับแขก อีกไม่นานเขาจะต้องไปเดินตรวจตราโรงเรียนในตอนเช้าอย่างที่ทำเป็นประจำในทุกๆ วัน...และก็คงได้ขย้ำพวก
นักเรียนที่เจ้าตัวเรียกว่าสัตว์กินพืชอีกตามเคย
"คุณเคียวครับ ได้เวลาเดินตรวจโรงเรียนแล้วนะครับ" คุซาคาเบะบอก
"อืม...ผมรู้แล้ว" ฮิบาริคว้าเสื้อกักคุรันที่พาดอยู่บนเก้าอี้นวมที่ประจำของตนขึ้นมาสวมไว้ที่ไหล่ ก่อนเดินออกไป
จากห้องรับแขกวันนี้สัตว์กินพืชพวกนั้นก็ยังสุมหัวกันไม่เลิกสินะ ฮิบาริคิด เมื่อเห็นนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งจับกลุ่ม (หรือ
สุมหัว) อยู่ไม่ไกลจากห้องรับแขก...ซึ่งจากนี้ก็คงรู้กันอยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เมื่อฮิบาริจัดการขย้ำผู้เคราะห์ร้ายกลุ่มแรกของวัน และเดินตรวจโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินกลับมายังห้อง
รับแขกอีกครั้ง เพื่อสะสางงานที่กองสุมอยู่บนโต๊ะให้เสร็จก่อนเวลาเข้าเรียน ไม่น่าเชื่อว่างานที่กองอยู่แทบล้นโต๊ะก่อนหน้านี้ จะ
เสร็จลงภายในเวลาไม่ถึง 30 นาทีคาบแรก...ภาษาอังกฤษ ฮิบาริคิดขณะเดินไปที่ห้องเรียนของตน น่าเบื่อสิ้นดี...คาบแรกของวันนี้
เป็นวิชาที่เขาเกลียดที่สุด และอาจารย์ที่เขาเกลียดที่สุด
"จากนี้ไป ฉันจะมาเป็นครูสอนพิเศษของนายนะ เคียวยะ..."
"ฉันชื่อดีโน่ จะมาเป็นครูภาษาอังกฤษให้พวกเธอตั้งแต่วันนี้ ฝากตัวด้วยนะ"
มาเป็นครูสอนพิเศษยังไม่พอ ดันปลอมตัวมาเป็นอาจารย์ภาษาอังกฤษอีก...มันทำให้เขาเกลียดวิชานี้มากขึ้นไป
อีก และคนๆ นี้ที่พูดคำว่า 'รัก' กับเขา
ฮิบาริเดินตรงไปยังที่นั่งของตน แล้วนั่งลงอย่างเบื่อหน่าย หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องได้ถูกเปิดออก อาจารย์
หนุ่มชาวอิตาลีก้าวเข้ามาในห้องเรียน "อรุณสวัสดิ์ทุกคน" ดีโน่กล่าวทักทายนักเรียนในห้อง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว้างทำให้ดูมี
เสน่ห์ดึงดูดใจอย่างน่าประหลาด อาจารย์หนุ่มเริ่มต้นบทเรียนเมื่อเห็นว่านักเรียนมากันจนครบแล้ว
1 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว คาบภาษาอังกฤษจบลงโดยที่ฮิบาริไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย วิชาอื่นๆ ก็เหมือน
จะผ่านไปอย่างรวดเร็วในความคิดของฮิบาริ เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงพักกลางวัน นักเรียนเริ่มทยอยออกจากห้องเรียน เสียงคุยใน
ห้องเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย แต่เสียงเหล่านั้นจำต้องเงียบลงทันทีเมื่อกรรมการคุมกฎสุดโหดลุกขึ้นจากที่นั่งตรงมุมห้องแล้วเดินออก
จากห้องไป
....ห้องรับแขก....
"อ๊ะ...เคียวยะ" ดีโน่นั่งอยู่ในห้องรับแขก พลางส่งยิ้มกว้างให้กับเจ้าของห้องที่เพิ่งเข้ามา "คุณมาทำอะไรในนี้?"
ฮิบาริถาม ไม่มีใครที่กล้าเข้ามาในห้องนี้ตอนที่เขาไม่อยู่ หรือเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต...นอกจากหมอนี่!! "อะไรกัน ถ้าไม่มีธุระก็
มารอเคียวยะไม่ได้เหรอไง หืม?" ดีโน่ลอบสวมกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง " !....คุณมีเรื่องจะคุยกับผมแน่ๆ แล้วก็ปล่อยผมด้วย"
ฮิบาริวีนขึ้นเบาๆ พลางพยายามแกะมือปลาหมึกของอีกคนออก "อา...เคียวยะรู้ได้ไงเนี่ย ว่าฉันมีเรื่องจะพูด" ดีโน่พูดขึ้นหลังจาก
ปล่อยมือออกจากลูกศิษย์ที่รัก(?)ของตนแล้ว ฮิบาริไม่ตอบ เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตน เริ่มเปิดแฟ้มรายงานที่คุซาคาเบะนำมา
ให้ บางครั้งเขาก็รู้สึกว่างานของกรรมการคุมกฎมันมีเยอะไปจริงๆ ดีโน่เดินมานั่งที่โซฟาที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน
"เย็นนี้ไปเที่ยวกันนะ? เคียวยะ" ดีโน่เอ่ยชวน "คุณคิดว่าผมว่างขนาดนั้นเหรอ?"
"ก็เคียวยะทำงานมาเยอะแล้วนี่ นานๆ ทีถือซะว่าพักเรื่องหนักหัวบ้างละกันนะ"
"งั้นคุณรอดูเย็นนี้ 'ถ้า'งานของผมเสร็จ ก็'อาจจะ'ไปกับคุณ"
"จริงนะ! เคียวยะน่ารักที่สุดเลย~" ดีโน่โผเข้ามาทางโต๊ะทำงาน หมายจะรวบตัวอีกคนเข้ามากอด แต่ฮิบาริเองก็
ไวพอที่จะเรียกทอนฟาขึ้นมากันตัวเองไว้ "แต่ถ้าคุณแตะต้องตัวผมแม้แต่ปลายเล็บ สัญญาเมื่อกี้ถือเป็นโมฆะ!" "หวา~แบบนั้นไม่
เอานะเคียวยะ~" ดีโน่หยุดกึกในทันที ที่เขากลัว ไม่ใช่เพราะทอนฟา แต่กลัวสัญญาจะถูกยกเลิก..."งั้นเย็นนี้ฉันรอเคียวยะใต้ตึก
นะ^^"
....หลังเลิกเรียน....
ฮิบาริเคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด ร่างบางเดินลงมาจากบันได สายตาสะดุดเข้ากับอาจารย์หนุ่ม กับกลุ่มนักเรียน
หญิง 3-4 คน หนึ่งในนั้นกำลังร้องไห้...ใบหน้าของเธอซบอยู่ที่แผ่นอกของดีโน่...
แม้จะไม่ได้ยินเสียงที่พวกเขาคุยกัน แต่ภาพแบบนั้น...
................................
"นี่! มิมาตะคุง...เธอใจเย็นๆ ก่อนสิ ค่อยๆ พูด" ดีโน่บอกกับเด็กหญิงคนที่กำลังร้องไห้ แต่เหมือนจะไม่เป็นผล เขา
จึงหันไปถามเพื่อนๆ ของเธอแทน เพื่อนของเด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า "คือ...ที่บ้านของอายะจังเข้มงวดเรื่องการเรียนมาก แต่
คะแนนวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ของอายะจังไม่ค่อยดีน่ะค่ะ...ก็เลย" ดีโน่จับไหล่ของเด็กหญิงที่ชื่อมิมาตะ อายะเบาๆ ก่อนประคองให้
ออกห่างจากตนเล็กน้อย หลังเรียบเรียงคำพูดปลอบใจได้แล้ว จึงพูดขึ้น "นี่ เธอทำดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ ครูว่า ถ้าเธออธิบายให้
พ่อแม่ฟัง พวกท่านคงไม่โกรธเธอหรอก" อายะสูดลมหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนพูดขึ้น "เข้าใจแล้วค่ะ!" เธอปาดน้ำตาออก
"ขอบคุณมากนะคะอาจารย์ดีโน่" อายะโค้งขอบคุณดีโน่ ก่อนหันกลับไปหากลุ่มเพื่อน แล้ววิ่งออกจากโรงเรียนไป
ดีโน่ยิ้มให้กับภาพนั้น ก่อนที่จะเห็นใครบางคนยืนอยู่ตรงบันไดอีกฟากของตึกเคียวยะ!?!
ฮิบาริกำมือแน่น ปลายเล็บจิกลงบนฝ่ามือจนเป็นรอยแดง แต่สำหรับเขา แค่นี้ไม่ได้รู้สึกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขา
วิ่งออกไปตามทางเดินอีกฟากของตึก ดีโน่เห็นท่าไม่ดี ขายาวเริ่มออกวิ่งตามเคียวยะ...นายกำลังเข้าใจผิด...
"เคียวยะ! เดี๋ยวสิ" ดีโน่เอื้อมมือไปคว้าแขนอีกคนไว้ ก่อนดึงตัวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กันจะพยศหนีไปอีก
"ปล่อยผม ม้าพยศ!"
"เคียวยะ! ฟังกันก่อนสิ"
"ทำไมผมต้องฟังคุณ!?!"
"เด็กคนนั้นเขากลุ้มใจเรื่องคะแนนสอบ ฉันก็เลยช่วยปลอบเขาเท่านั้นเอง!"
"......"
"นายก็รู้...ฉันไม่มีใครอีกนอกจากเคียวยะนะ" ดีโน่คลายอ้อมกอดออก เมื่อเห็นว่าฮิบาริเริ่มสงบลงแล้ว
"ผมจะขย้ำคุณให้ตาย!!"
"ห๊ะ!?! ด...เดี๋ยว...เดี๋ยวสิเคียวยะ!"
'ตูม!' ควันสีขาวลอยคลุ้งไปทั่วจุดที่ฮิบาริยืนอยู่ เมื่อควันจางลงบุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้น......
....ใช่ เขาคือฮิบาริ เคียวยะ...แต่เป็นฮิบาริ'10 ปีข้างหน้า' "อา...ม้าพยศ 10 ปีที่แล้ว...ไม่ได้เห็นหน้าคุณตอนยังเด็ก
แบบนี้มานานแล้วนะ" ฮิบาริในอนาคตกล่าวทักทายดีโน่ที่ยืนอยู่ใกล้ "เคียวยะ..ทำไมนายถึง..." "ก็รู้ๆ กันอยู่ บาซูก้าทศวรรษ" ฮิ
บาริเฉลยคำตอบ ก่อนที่ดีโน่จะถามจบ ".....นี่ เคียวยะ ถามอะไรหน่อยสิ" ดีโน่พูดขึ้น หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง "10 ปีหลังจากนี้น่ะ
ความสัมพันธ์ของฉันกับเคียวยะ เป็นยังไงเหรอ?" ฮิบาริมองหน้าดีโน่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ "หึ...เป็นอย่างที่คุณคิด
ดีโน่ คาบัคโรเน่..."
'ตูม' ควันจากบาซูก้าทศวรรษปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก่อนฮิบาริในยุคปัจจุบันจะกลับมาอีกครั้ง "เคียวยะ!" ดีโน่วิ่งไป
กอดคนตรงหน้าอย่างดีใจ แต่กลับโดนผลักออกเบาๆ คาบัคโรเน่ รุ่นที่สิบรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจางๆ จากคนตัวเล็กกว่า "นี่ ม้าพยศ"
"หืม?..ม....มีอะไรเคียวยะ?"
"เรื่องในอนาคตมันหมายความว่ายังไง"
"แล้วฉันจะรู้ได้ไงอ่า ฉันไม่ได้ไปอนาคตมาซะหน่อย"
"เรื่องที่ว่า...ฉันเป็น'นายหญิงของคาบัคโรเน่'มันหมายความว่ายังไง!!"
"ก...ก็ ตามนั้นไง" เรื่องจริงใช่มั้ยเนี่ย
"มันก็หมายความว่า...อีก 10 ปีข้างหน้า เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมไง" เมื่อได้โอกาสดีโน่ใช้แขนปัดทอนฟา
ของฮิบาริออกไป ก่อนรวบตัวมาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง "นายไม่ดีใจเลยหรอเคียวยะ?"
"เรื่องนั้น..." ฮิบาริในตอนนี้ ดูเหมือนลูกแมวเชื่องๆ ตัวนึงไปแล้วสำหรับดีโน่ ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดจางๆ "ใครจะไป
ดีใจกัน...เรื่องพรรค์นั้น" คำพูดที่ออกมาเหมือนจะอวดดีอยู่นิดๆ แต่เสียงกลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดีโน่โน้มใบหน้าลงไปที่ข้างใบหู
เล็ก ก่อนกระซิบถ้อยคำบางอย่าง...
'เบาๆ'ของเด็กนักเรียนที่ทยอยกันมาโรงเรียน'แต่เช้า' (เพื่อความปลอดภัยจากกรรมการคุมกฎ)
ฮิบาริ เคียวยะ หัวหน้าคณะกรรมการคุมกฎโรงเรียนนามิโมริ กำลังยืนมองนักเรียนในโรงเรียนจากหน้าต่างใน
ห้องรับแขก อีกไม่นานเขาจะต้องไปเดินตรวจตราโรงเรียนในตอนเช้าอย่างที่ทำเป็นประจำในทุกๆ วัน...และก็คงได้ขย้ำพวก
นักเรียนที่เจ้าตัวเรียกว่าสัตว์กินพืชอีกตามเคย
"คุณเคียวครับ ได้เวลาเดินตรวจโรงเรียนแล้วนะครับ" คุซาคาเบะบอก
"อืม...ผมรู้แล้ว" ฮิบาริคว้าเสื้อกักคุรันที่พาดอยู่บนเก้าอี้นวมที่ประจำของตนขึ้นมาสวมไว้ที่ไหล่ ก่อนเดินออกไป
จากห้องรับแขกวันนี้สัตว์กินพืชพวกนั้นก็ยังสุมหัวกันไม่เลิกสินะ ฮิบาริคิด เมื่อเห็นนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งจับกลุ่ม (หรือ
สุมหัว) อยู่ไม่ไกลจากห้องรับแขก...ซึ่งจากนี้ก็คงรู้กันอยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เมื่อฮิบาริจัดการขย้ำผู้เคราะห์ร้ายกลุ่มแรกของวัน และเดินตรวจโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินกลับมายังห้อง
รับแขกอีกครั้ง เพื่อสะสางงานที่กองสุมอยู่บนโต๊ะให้เสร็จก่อนเวลาเข้าเรียน ไม่น่าเชื่อว่างานที่กองอยู่แทบล้นโต๊ะก่อนหน้านี้ จะ
เสร็จลงภายในเวลาไม่ถึง 30 นาทีคาบแรก...ภาษาอังกฤษ ฮิบาริคิดขณะเดินไปที่ห้องเรียนของตน น่าเบื่อสิ้นดี...คาบแรกของวันนี้
เป็นวิชาที่เขาเกลียดที่สุด และอาจารย์ที่เขาเกลียดที่สุด
"จากนี้ไป ฉันจะมาเป็นครูสอนพิเศษของนายนะ เคียวยะ..."
"ฉันชื่อดีโน่ จะมาเป็นครูภาษาอังกฤษให้พวกเธอตั้งแต่วันนี้ ฝากตัวด้วยนะ"
มาเป็นครูสอนพิเศษยังไม่พอ ดันปลอมตัวมาเป็นอาจารย์ภาษาอังกฤษอีก...มันทำให้เขาเกลียดวิชานี้มากขึ้นไป
อีก และคนๆ นี้ที่พูดคำว่า 'รัก' กับเขา
ฮิบาริเดินตรงไปยังที่นั่งของตน แล้วนั่งลงอย่างเบื่อหน่าย หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องได้ถูกเปิดออก อาจารย์
หนุ่มชาวอิตาลีก้าวเข้ามาในห้องเรียน "อรุณสวัสดิ์ทุกคน" ดีโน่กล่าวทักทายนักเรียนในห้อง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว้างทำให้ดูมี
เสน่ห์ดึงดูดใจอย่างน่าประหลาด อาจารย์หนุ่มเริ่มต้นบทเรียนเมื่อเห็นว่านักเรียนมากันจนครบแล้ว
1 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว คาบภาษาอังกฤษจบลงโดยที่ฮิบาริไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย วิชาอื่นๆ ก็เหมือน
จะผ่านไปอย่างรวดเร็วในความคิดของฮิบาริ เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงพักกลางวัน นักเรียนเริ่มทยอยออกจากห้องเรียน เสียงคุยใน
ห้องเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย แต่เสียงเหล่านั้นจำต้องเงียบลงทันทีเมื่อกรรมการคุมกฎสุดโหดลุกขึ้นจากที่นั่งตรงมุมห้องแล้วเดินออก
จากห้องไป
....ห้องรับแขก....
"อ๊ะ...เคียวยะ" ดีโน่นั่งอยู่ในห้องรับแขก พลางส่งยิ้มกว้างให้กับเจ้าของห้องที่เพิ่งเข้ามา "คุณมาทำอะไรในนี้?"
ฮิบาริถาม ไม่มีใครที่กล้าเข้ามาในห้องนี้ตอนที่เขาไม่อยู่ หรือเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต...นอกจากหมอนี่!! "อะไรกัน ถ้าไม่มีธุระก็
มารอเคียวยะไม่ได้เหรอไง หืม?" ดีโน่ลอบสวมกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง " !....คุณมีเรื่องจะคุยกับผมแน่ๆ แล้วก็ปล่อยผมด้วย"
ฮิบาริวีนขึ้นเบาๆ พลางพยายามแกะมือปลาหมึกของอีกคนออก "อา...เคียวยะรู้ได้ไงเนี่ย ว่าฉันมีเรื่องจะพูด" ดีโน่พูดขึ้นหลังจาก
ปล่อยมือออกจากลูกศิษย์ที่รัก(?)ของตนแล้ว ฮิบาริไม่ตอบ เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตน เริ่มเปิดแฟ้มรายงานที่คุซาคาเบะนำมา
ให้ บางครั้งเขาก็รู้สึกว่างานของกรรมการคุมกฎมันมีเยอะไปจริงๆ ดีโน่เดินมานั่งที่โซฟาที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน
"เย็นนี้ไปเที่ยวกันนะ? เคียวยะ" ดีโน่เอ่ยชวน "คุณคิดว่าผมว่างขนาดนั้นเหรอ?"
"ก็เคียวยะทำงานมาเยอะแล้วนี่ นานๆ ทีถือซะว่าพักเรื่องหนักหัวบ้างละกันนะ"
"งั้นคุณรอดูเย็นนี้ 'ถ้า'งานของผมเสร็จ ก็'อาจจะ'ไปกับคุณ"
"จริงนะ! เคียวยะน่ารักที่สุดเลย~" ดีโน่โผเข้ามาทางโต๊ะทำงาน หมายจะรวบตัวอีกคนเข้ามากอด แต่ฮิบาริเองก็
ไวพอที่จะเรียกทอนฟาขึ้นมากันตัวเองไว้ "แต่ถ้าคุณแตะต้องตัวผมแม้แต่ปลายเล็บ สัญญาเมื่อกี้ถือเป็นโมฆะ!" "หวา~แบบนั้นไม่
เอานะเคียวยะ~" ดีโน่หยุดกึกในทันที ที่เขากลัว ไม่ใช่เพราะทอนฟา แต่กลัวสัญญาจะถูกยกเลิก..."งั้นเย็นนี้ฉันรอเคียวยะใต้ตึก
นะ^^"
....หลังเลิกเรียน....
ฮิบาริเคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด ร่างบางเดินลงมาจากบันได สายตาสะดุดเข้ากับอาจารย์หนุ่ม กับกลุ่มนักเรียน
หญิง 3-4 คน หนึ่งในนั้นกำลังร้องไห้...ใบหน้าของเธอซบอยู่ที่แผ่นอกของดีโน่...
แม้จะไม่ได้ยินเสียงที่พวกเขาคุยกัน แต่ภาพแบบนั้น...
................................
"นี่! มิมาตะคุง...เธอใจเย็นๆ ก่อนสิ ค่อยๆ พูด" ดีโน่บอกกับเด็กหญิงคนที่กำลังร้องไห้ แต่เหมือนจะไม่เป็นผล เขา
จึงหันไปถามเพื่อนๆ ของเธอแทน เพื่อนของเด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า "คือ...ที่บ้านของอายะจังเข้มงวดเรื่องการเรียนมาก แต่
คะแนนวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ของอายะจังไม่ค่อยดีน่ะค่ะ...ก็เลย" ดีโน่จับไหล่ของเด็กหญิงที่ชื่อมิมาตะ อายะเบาๆ ก่อนประคองให้
ออกห่างจากตนเล็กน้อย หลังเรียบเรียงคำพูดปลอบใจได้แล้ว จึงพูดขึ้น "นี่ เธอทำดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ ครูว่า ถ้าเธออธิบายให้
พ่อแม่ฟัง พวกท่านคงไม่โกรธเธอหรอก" อายะสูดลมหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนพูดขึ้น "เข้าใจแล้วค่ะ!" เธอปาดน้ำตาออก
"ขอบคุณมากนะคะอาจารย์ดีโน่" อายะโค้งขอบคุณดีโน่ ก่อนหันกลับไปหากลุ่มเพื่อน แล้ววิ่งออกจากโรงเรียนไป
ดีโน่ยิ้มให้กับภาพนั้น ก่อนที่จะเห็นใครบางคนยืนอยู่ตรงบันไดอีกฟากของตึกเคียวยะ!?!
ฮิบาริกำมือแน่น ปลายเล็บจิกลงบนฝ่ามือจนเป็นรอยแดง แต่สำหรับเขา แค่นี้ไม่ได้รู้สึกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขา
วิ่งออกไปตามทางเดินอีกฟากของตึก ดีโน่เห็นท่าไม่ดี ขายาวเริ่มออกวิ่งตามเคียวยะ...นายกำลังเข้าใจผิด...
"เคียวยะ! เดี๋ยวสิ" ดีโน่เอื้อมมือไปคว้าแขนอีกคนไว้ ก่อนดึงตัวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กันจะพยศหนีไปอีก
"ปล่อยผม ม้าพยศ!"
"เคียวยะ! ฟังกันก่อนสิ"
"ทำไมผมต้องฟังคุณ!?!"
"เด็กคนนั้นเขากลุ้มใจเรื่องคะแนนสอบ ฉันก็เลยช่วยปลอบเขาเท่านั้นเอง!"
"......"
"นายก็รู้...ฉันไม่มีใครอีกนอกจากเคียวยะนะ" ดีโน่คลายอ้อมกอดออก เมื่อเห็นว่าฮิบาริเริ่มสงบลงแล้ว
"ผมจะขย้ำคุณให้ตาย!!"
"ห๊ะ!?! ด...เดี๋ยว...เดี๋ยวสิเคียวยะ!"
'ตูม!' ควันสีขาวลอยคลุ้งไปทั่วจุดที่ฮิบาริยืนอยู่ เมื่อควันจางลงบุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้น......
....ใช่ เขาคือฮิบาริ เคียวยะ...แต่เป็นฮิบาริ'10 ปีข้างหน้า' "อา...ม้าพยศ 10 ปีที่แล้ว...ไม่ได้เห็นหน้าคุณตอนยังเด็ก
แบบนี้มานานแล้วนะ" ฮิบาริในอนาคตกล่าวทักทายดีโน่ที่ยืนอยู่ใกล้ "เคียวยะ..ทำไมนายถึง..." "ก็รู้ๆ กันอยู่ บาซูก้าทศวรรษ" ฮิ
บาริเฉลยคำตอบ ก่อนที่ดีโน่จะถามจบ ".....นี่ เคียวยะ ถามอะไรหน่อยสิ" ดีโน่พูดขึ้น หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง "10 ปีหลังจากนี้น่ะ
ความสัมพันธ์ของฉันกับเคียวยะ เป็นยังไงเหรอ?" ฮิบาริมองหน้าดีโน่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ "หึ...เป็นอย่างที่คุณคิด
ดีโน่ คาบัคโรเน่..."
'ตูม' ควันจากบาซูก้าทศวรรษปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก่อนฮิบาริในยุคปัจจุบันจะกลับมาอีกครั้ง "เคียวยะ!" ดีโน่วิ่งไป
กอดคนตรงหน้าอย่างดีใจ แต่กลับโดนผลักออกเบาๆ คาบัคโรเน่ รุ่นที่สิบรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจางๆ จากคนตัวเล็กกว่า "นี่ ม้าพยศ"
"หืม?..ม....มีอะไรเคียวยะ?"
"เรื่องในอนาคตมันหมายความว่ายังไง"
"แล้วฉันจะรู้ได้ไงอ่า ฉันไม่ได้ไปอนาคตมาซะหน่อย"
"เรื่องที่ว่า...ฉันเป็น'นายหญิงของคาบัคโรเน่'มันหมายความว่ายังไง!!"
"ก...ก็ ตามนั้นไง" เรื่องจริงใช่มั้ยเนี่ย
"มันก็หมายความว่า...อีก 10 ปีข้างหน้า เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมไง" เมื่อได้โอกาสดีโน่ใช้แขนปัดทอนฟา
ของฮิบาริออกไป ก่อนรวบตัวมาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง "นายไม่ดีใจเลยหรอเคียวยะ?"
"เรื่องนั้น..." ฮิบาริในตอนนี้ ดูเหมือนลูกแมวเชื่องๆ ตัวนึงไปแล้วสำหรับดีโน่ ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดจางๆ "ใครจะไป
ดีใจกัน...เรื่องพรรค์นั้น" คำพูดที่ออกมาเหมือนจะอวดดีอยู่นิดๆ แต่เสียงกลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดีโน่โน้มใบหน้าลงไปที่ข้างใบหู
เล็ก ก่อนกระซิบถ้อยคำบางอย่าง...
"Tu sai che io sono molto felice di vedere l'amore del signor Kyoya."
(นายรู้ไหม ฉันดีใจมากแค่ไหน ที่ได้เจอกับนาย แล้วก็ได้รักนาย)
(นายรู้ไหม ฉันดีใจมากแค่ไหน ที่ได้เจอกับนาย แล้วก็ได้รักนาย)
"o////o ม...ไอ้ม้าบ้า...."
จะอีกกี่ปี ฉันก็ยังรักแกงั้นหรอ...ดีโน่
เราจะรักกันตลอดไปใช่มั้ย...เคียวยะ
จะอีกกี่ปี ฉันก็ยังรักแกงั้นหรอ...ดีโน่
เราจะรักกันตลอดไปใช่มั้ย...เคียวยะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จ...จบแล้วววว เหนื่อยจัง
เนปเปียแต่งไปฟังเพลง khr ไป เริ่มแต่งตอน 2 ทุ่ม แต่งเสร็จตอน ตี 1 ครึ่ง
ตอนนี้แต่งสดค่ะ งงๆ แปลกๆ ขออภัยด้วย -*-;;
ประโยคที่ดีโน่พูดภาษาอิตาลีในตอนนี้ เป็นประโยคภาษาต่างประเทศที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยแต่งแล้ว
ตอนที่อายะร้องไห้ เนปเปียดัดแปลงมาจากชีวิตจริงด้วยแหละ คุฟุฟุ
วันนี้เนปเปียไปแล้วนะคะ ดึกแร้วว
1 comment = 1 inspiration
จ...จบแล้วววว เหนื่อยจัง
เนปเปียแต่งไปฟังเพลง khr ไป เริ่มแต่งตอน 2 ทุ่ม แต่งเสร็จตอน ตี 1 ครึ่ง
ตอนนี้แต่งสดค่ะ งงๆ แปลกๆ ขออภัยด้วย -*-;;
ประโยคที่ดีโน่พูดภาษาอิตาลีในตอนนี้ เป็นประโยคภาษาต่างประเทศที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยแต่งแล้ว
ตอนที่อายะร้องไห้ เนปเปียดัดแปลงมาจากชีวิตจริงด้วยแหละ คุฟุฟุ
วันนี้เนปเปียไปแล้วนะคะ ดึกแร้วว
1 comment = 1 inspiration
By : FraN Di NebbiA
My id.http://my.dek-d.com/blacx-lotus/
แอดได้ me ไม่กัด :)
My id.http://my.dek-d.com/blacx-lotus/
แอดได้ me ไม่กัด :)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น