คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1 : หนังสือพยากรณ์ของเซอร์เมฟีลัส ฟีเลส
หนังสือพยากรณ์ของ เซอร์เมฟีลัส
แฮร์รี่สะดุ้งตื่นขึ้นในตอนเช้าด้วยเสียงโลหะกระทบกันที่ข้างหู เขาผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนควานมือไปบนโต๊ะไม้ข้างเตียงแล้วหยิบแว่นขึ้นมาสวมอย่างเกียจคร้าน เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีเบือนหน้าไปยังร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ข้างเตียงของตน
“ผมจะดีใจมากถ้าพ่อปลุกผมแบบที่คนอื่นเขาทำกัน” เขาพูด
“แบบนั้นก็หมดสนุกสิ” เจมส์ พอตเตอร์พูดพลางระบายรอยยิ้มกว้าง ในมือมีฉาบอันใหญ่ที่เสกขึ้นสดๆ ร้อนๆ “รีบลุก แล้วแต่งตัวซะ จะได้ไปซื้อของกัน” เขาโยนซองจดหมายประทับตราที่คุ้นเคยลงบนเตียงของแฮร์รี่ ซึ่งรับมาเปิดอ่านออกเสียงดังๆ อย่างเกียจคร้าน
“นักเรียนปีห้าต้องมีหนังสือตามรายการต่อไปนี้... ตำราปรุงยาขั้นสูง พืชและเห็ดรามีพิษพันชนิด ประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์ปีห้า ทฤษฎีป้องกันตัวจากศาสตร์มืด...บลา บลา บลา” แฮร์รี่วางจดหมายฉบับแรกไว้ข้างตัว พอเห็นรายชื่อหนังสือที่มากมายแล้วก็อดนึกถึงการสอบว.พ.ร.ส.ที่เฟร็ดกับจอร์จ วีสลีย์เคยบ่นถึงขึ้นมาไม่ได้ (“นายจะแทบคลั่งเลยล่ะพอใกล้วันสอบ—“ เฟร็ดพูด “ถ้านายเป็นพวกรักเรียนล่ะก็นะ”) จดหมายฉบับที่สองบอกให้เขาไปขึ้นรถไฟที่สถานีคิงส์ครอสในวันที่ 1 กันยายนเหมือนปีก่อนๆ และแล้วก็มาถึงจดหมายฉบับสุดท้าย–
เรียน คุณ ฮ. พอตเตอร์
ทางโรงเรียนมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่จะแจ้งให้ทราบว่า คุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ควิดดิชประจำกริฟฟินดอร์ กรุณาติดเข็มกลัดแสดงตำแหน่งที่ได้แนบมาให้แล้วไว้บนเสื้อคลุมนักเรียนในวันที่ 1 กันยายน ด้วย
ศาสตราจารย์ ม. มักกอนนากัล
รองอาจารย์ใหญ่
ปล.การคัดเลือกนักกีฬาประจำบ้านจะมีขึ้นในวันที่ 14 กันยายน
แฮร์รี่ย้อนกลับไปอ่านจดหมายโดยละเอียดใหม่จนแน่ใจว่าเขาเข้าใจไม่ผิดแน่ๆ จึงหันไปเขย่าซองจดหมาย ตราทรงโล่สีแดงพาดทับด้วยตัวหนังสือสีทองเป็นคำว่ากัปตันตกลงมาอยู่บนเตียง แฮร์รี่จำได้ทันทีว่ามันเคยเป็นตราของโอลิเวอร์ วู้ดกัปตันทีมคนก่อน แต่ที่แน่ๆ เขากำลังพยายามห้ามตัวเองไม่ให้กรีดร้องออกมาด้วยความดีใจไปเสียก่อน
“เมอร์ลิน!” เขาอุทาน ใบหน้าระบายรอยยิ้มกว้าง “พ่อฮะ! ดูสิ!”
แฮร์รี่แต่งตัวอย่างรวดเร็วที่สุด เขานัดรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไว้ที่ตรอกไดแอกอนแล้ว แฮร์รี่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เจมส์ถือกระปุกใส่ผงฟลูรอไว้หน้าเตาผิงแล้ว เขาหยิบออกมากำหนึ่ง แล้วส่งต่อให้แฮร์รี่
“พร้อมนะ”
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้นะ พ่อ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน เจมส์โปรยผงฟลูลงไปในเตาผิง ไฟสีเขียวมรกตลุกโพลงสูงขึ้นเหนือหัว เขาก้าวเข้าไปในนั้น ตะโกนว่า “ตรอกไดแอกอน!” แล้วก็หายไป วินาทีต่อมา แฮร์รี่ทำเช่นเดียวกัน เขารู้สึกว่าเปลวไฟสีเขียวอบอุ่นกำลังลามเลียไปทั่วตัว เด็กหนุ่มหลับตาแน่น ปากปิดสนิท แขนขาแนบลำตัว และรู้สึกได้ว่าตัวกำลังหมุนคว้างเข้าไปในเปลวไฟ พริบตาต่อมาเขาพบว่าตัวเองกำลังก้าวออกมาจากเตาผิงในร้านหม้อใหญ่รั่ว
“สวัสดีฮะ ทอม” แฮร์รี่ทักทายเจ้าของร้านชราที่ยิ้มให้เขาอย่างใจดีจากหลังบาร์
“ไง แฮร์รี่” ทอมพูด “บัตเตอร์เบียร์หน่อยไหม”
“ไว้จะกลับมากินนะ” เจมส์เหวี่ยงแขนโอบรอบบ่าแฮร์รี่หลังผละออกจากโต๊ะกลมตัวหนึ่ง(แม่มดสาวๆ กำลังล้อมวงกันอยู่) “แล้วเจอกัน” เขายิ้ม โบกมือให้ทอม ซึ่งโบกมือตอบ ขณะเสิร์ฟวิสกี้ไฟให้ลูกค้าคนหนึ่ง
เจมส์กับแฮร์รี่เดินเข้าไปในตรอกไดแอกอนที่คุ้นเคย
“ไง คนสวย” เจมส์เอี้ยวตัวไปโบกมือและหลิ่วตาใส่แม่มดสาวคนหนึ่งที่เดินผ่าน และเธอก็ยิ้มตอบ แฮร์รี่กลอกตาขึ้นอย่างเบื่อหน่าย พึมพำว่า “พ่อครับ...พอเถอะ” ก๊อบลินสองตัวที่หน้าธนาคารกริงกอตส์โค้งต่ำให้เมื่อพวกเขาเดินผ่าน เจมส์ผลักประตูสีขาวเปิดออก ครอบครัววีสลีย์มาถึงก่อนแล้ว รอนโบกมือทักแฮร์รี่ทันที
“ไง มอลลี่!” เจมส์ทักนางวีสลีย์ ที่ยืนอยูตรงนั้นมีเธอ รอน และจินนี่ “พ่อฝาแฝดตัวแสบกับอาเธอร์ไปไหนล่ะ”
“ดี เจมส์ เฟร็ดกับจอร์จเผ่นไปร้านขายของตลกเรียบร้อยแล้วล่ะ” นางวีสลีย์บอก “ส่วนอาเธอร์ติดงาน ตอนนี้ที่กระทรวงฯ ยุ่งมาก เห็นว่าจะมีนโยบายใหม่ออกมา แต่รู้สึกจะไม่เกี่ยวกับกองของอาเธอร์นะ” ใบหน้าของเธอยู่ลง ราวกับเหนื่อยแทนสามี “ไงจ๊ะ แฮร์รี่ จะไปเดินเล่นกับรอนกับจินนี่มั้ย”
“แน่นอนฮะ” แฮร์รี่พยักหน้า
แฮร์รี่ซื้อไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ราดเนยถั่วจากร้านไอศกรีมของฟอเตสคิวมาสามถ้วย เขา รอน และจินนี่กินกันคนละถ้วยอย่างมีความสุข แฮร์รี่เล่าให้พวกเขาฟังว่าเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมควิดดิช และก็ได้ตกใจแทบหัวใจวาย เมื่อรู้ว่ารอนได้เป็นพรีเฟ็ค (“ดัมเบิลดอร์เพี้ยนหรือเปล่า ให้นายเป็นพรีเฟ็คเนี่ย”) จนเมื่อแฮร์รี่นึกออกว่าขาดใครไป “เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ ยังไม่มาหรือ” เขาถาม ขณะเดินผ่านร้านตัวบบรจงและหยดหมึก รอนตอบว่า “ไม่รู้สิ ไปเดทตำราเล่มยักษ์อยู่มั้ง” แล้วทั้งสามก็หัวเราะ “เออ นี่ ฉันว่าฉันต้องซื้อเสื้อคลุมใหม่ล่ะ มันสั้นขึ้นตั้งห้านิ้ว” เขาว่า
“เพราะพี่สูงเอาสูงเอาแบบนี้น่ะสิ บ้านเราถึงได้จน” จินนี่แซว
“ช่างฉันน่า!”
“มีอะไรให้รับใช้จ๊ะ ที่รัก” มาดามมัลกิ้นทักทายเมื่อพวกเขาเข้าไปในร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น “เสื้อคลุมนักเรียนฮอกวอตส์ครับ” รอนพูด “มันสั้นแล้ว”
“ตายจริง! สาบานได้ว่าหน้าร้อนที่แล้วเธอเพิ่งซื้อตัวใหม่ไป” เธอยิ้ม แล้วพารอนไปที่แป้นรองเท้าหน้ากระจกบานใหญ่ แฮร์รี่กับจินนี่พาตัวเองออกมาจากร้านที่มีแต่กลิ่นอับของผ้า จินนี่หยิบอาร์โนลด์ ตัวพิกมี่พัฟของเธอออกมาลูบเล่น พลางมองไปรอบๆ สายตาของเธอสะดุดอยู่ที่ข้างหลังแฮร์รี่
“ฮ—แฮร์รี่” เธอพูดตะกุกตะกัก ชี้นิ้วมือสั่นเทาข้ามไหล่แฮร์รี่ไป
แฮร์รี่มองไปตามทิศนั้น ก่อนผงะไปด้านหลังเมื่อใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากใครบางคนไปเพียงไม่กี่นิ้ว นัยน์ตาสีมรกตสำรวจคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
พ่อมดชราตรงหน้าตัวเตี้ย หลังโก่ง ใบหน้าเหี่ยวย่น และมีริ้วรอยเต็มหน้า ปากบางๆ บิดเบี้ยว ผมสีขาวขึ้นอยู่เป็นกระจุกบนศีรษะโล้น ดวงตาสีแดงสดกลอกไปมาอย่างเลื่อนลอย ขาโก่ง สวมเสื้อผ้ามอซอ ดูอย่างไรก็ไม่ใช่พ่อมดที่ปกติแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง แฮร์รี่คิดว่าเขาหลุดออกมาจากเซนต์มังโกด้วยซ้ำ “แฮร์รี่ ดูสิ...เข็มกลัด กับหนังสือนั่น” จินนี่กระซิบมาจากด้านหลัง ใช่...ของสองสิ่งที่ดูไม่เข้าพวกที่สุด
หนังสือเล่มหนาหุ้มปกหนังสีแดงอย่างดีในแขนขวาของพ่อมดชรา และล็อกเก็ตสีทองที่ห้อยอยู่บนคอ ของทั้งสองสิ่งมีรอยสลักด้วยตัวอักษรย่ออย่างวิจิตรบรรจง เป็นคำว่า ม.ฟ.
“แฮร์รี่! แฮร์รี่ พอตเตอร์!” เสียงแหลมเล็กชวนให้แสบแก้วหูดังขึ้นไม่ไกล แฮร์รี่คิดว่าเขาได้ยินเสียงนั้นดังมาจากชายชราตรงหน้า แต่มันยากที่เขาจะเชื่อว่าชายชราคนหนึ่งจะสามารถพูดเสียงแหลมโดยไม่ขยับปากเลยได้ และจินนี่เองก็คงคิดเช่นเดียวกัน เขาเห็นเธอถอยหลังไปอีกก้าว “คุณคือคนในคำทำนาย!” เสียงนั้นยังคงดังต่อไป
คำทำนาย? เด็กหนุ่มสงสัย
ถึงตอนนี้ แฮร์รี่ตระหนักได้แล้วว่า เสียงบาดแก้วหูนั้นไม่ได้ออกจากปากของชายชราปริศนาเลยแม้แต่น้อย แต่มันออกจากหนังสือเล่มหนาหุ้มปกสีแดงในมือของพ่อมดชรา หนังสือขยับเปิดเล็กน้อยเมื่อมันกรีดเสียงแหลมอีกครั้ง
“ปีนี้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะได้พบกับสิ่ง-ที่-คุณ-ไม่-คาด-ฝัน จากคน-ที่-คุณ-ไม่-คาด-คิด” มันเน้นทุกพยางค์อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ ดวงตาของแฮร์รี่เบิกกว้าง เมื่อเห็นอะไรบางอย่างพุ่งออกจากหนังสือตรงมาทางเขาด้วยความเร็วสูง แวบหนึ่งเขาคิดว่ามันเป็นลูกบลัดเจอร์ที่รูปร่างผิดปกติ แต่วินาทีต่อมาเขาก็ตระหนักได้ว่ามันคือลูกศรอันหนึ่ง ซึ่งหัวลูกศรสีแดงแจ๋ของมันปักอยู่บนต้นแขนของเขา!
แฮร์รี่ยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีกเมื่อจู่ๆ ลูกศรนั้นกลับสลายกลายเป็นผงธุลีสีทองเล็กๆ ลอยสูงขึ้นไปในอากาศ และสลายไป
แฮร์รี่ และจินนี่ยืนค้างอยู่หลายวินาที ถึงแม้จะอยู่ในโลกเวทย์มนตร์มาสิบกว่าปี แต่พวกเขายังไม่เคยเห็นอะไรที่พิลึกพิลั่นเช่นนี้มาก่อน
ชายชราขยับปากพูด—แต่เปล่า เสียงที่ออกมาไม่ใช่เสียงของชายวัยเก้าสิบเศษๆ แน่นอน มันเป็นเสียงทุ้มนุ่มของชายวัยกลางคน “ขอให้เป็นเทอมที่สนุกนะครับ หวังว่าคุณจะได้อะไรหลายๆ อย่างในปีนี้” เขาเหยียดยิ้มกว้างอย่างไม่น่าดู มันทำให้ใบหน้าตกกระเหี่ยวย่นนั่นบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด “แล้วคงได้เจอกันอีกนะครับ...หึ หึ หึ...” เขาหัวเราะในลำคอ หมุนตัวสามครั้ง และหายตัวไป...
เสียงอุทานที่คุ้นเคยดังมาจากในร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้นที่ด้านหลังแฮร์รี่ ปลุกให้ทั้งสองตื่นจากภวังค์ แฮร์รี่กับจินนี่มองสบตากันเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งเข้าไปในร้าน
“รอน! พี่เป็นอะไรไปน่ะ” จินนี่ถามรอนที่กำลังอ้าปากค้าง
“เกิดอะไรขึ้น—เฮอร์ไมโอนี่!” แล้วแฮร์รี่ก็เห็นเธอ...ที่แทบไม่เหมือนเดิม ยืนอยู่หน้าห้องแต่งตัว ใบหน้ายิ้มแย้ม มาดามมัลกิ้นกำลังฉีกยิ้มกว้างให้กับฝีมือการแปลงโฉมให้เด็กสาวคงแก่เรียนอย่างเฮอร์ไมโอนี่ให้กลายเป็นสาวงามได้ในพริบตา
“เฮอร์ไมโอนี่!” จินนี่พูด “เธอ...เธอสวยมากเลยล่ะ”
“ขอบใจ จินนี่” คนถูกชมยิ้มกว้าง เธออยู่ในชุดราตรียาวสีม่วงอ่อน ผมสีน้ำตาลฟูฟ่องถูกรวบเป็นมวยสูงเรียบตึงอยู่ด้านหลัง เป็นภาพที่สวยงามหน้าดูทีเดียว “ไง! รอน แฮร์รี่” เธอทัก
“ไง” แฮร์รี่พูด “ไม่คิดว่าจะเจอเธอในนี้นะ เธอดูดีมากเลย” แฮร์รี่คิดว่าเขาคงเจอกับสายตาขวางๆ ของรอน แต่เปล่า รอนทำเพียงแค่ยืนค้างอยู่แบบนั้น และพยักหน้าช้าๆ อย่างเห็นด้วยกับแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ดูไม่พอใจเล็กน้อยที่ไม่ได้รับคำวิจารณ์จากรอน แฮร์รี่จึงจำต้องเป็นพ่อสื่อเฉพาะกิจให้ “นายว่าเธอเป็นไง รอน”
“อ...เอ่อ—ก็ดี—ฉันหมายความว่า...เธอ...สวยมาก” รอนตอบฝันๆ “แทบจำไม่ได้”
“งั้นหนูเอาชุดนี้แหละค่ะ มาดาม” เฮอร์ไมโอนี่บอก มาดามมัลกิ้นโบกไม้กายสิทธิ์เล็กน้อย พึมพำคาถาสองสามคำ แล้วชุดราตรีของเฮอร์ไมโอนี่ก็ลอยเข้าไปอยู่ในถุงกระดาษ เธอกลับมาอยู่ในชุดเสื้อคลุมนักเรียนฮอกวอตส์อีกครั้ง เด็กสาววางเงินสองเกลเลียนลงบนเคาท์เตอร์ และหันมาพูดกับพวกแฮร์รี่ว่า “เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอให้ช่วยอะไรหน่อย”
“ขึ้นอยู่กับว่ามันคืออะไร” รอนว่า พลางยักไหล่
“เราไม่ควรคุยกันที่นี่” เธอรับถุงใส่เสื้อคลุมมาจากมาดามมัลกิ้น แล้วนำพวกเขาออกจากร้าน “สาบานนะว่าจะไม่บอกใคร” เฮอร์ไมโอนี่กึ่งลากกึ่งจูงทั้งสามมายังซอกเล็กๆ ระหว่างร้านค้า ก่อนพูดด้วยเสียงที่แทบไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบว่า “ฟังนะ ช่วงฤดูร้อนนี่ ฉันกำลังทดลองปรุงยาตัวนึงอยู่—โอ๊ย! ไม่เอาน่า รอน เธอก็รู้การปรุงยาแทบไม่ต้องใช้เวทย์มนตร์—ยานั่นไว้ใช้กับเอลฟ์ประจำบ้าน พวกมันแทบไม่ได้พักผ่อนเลยตลอดชีวิต ถึงมันจะไม่ใช่ทางที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะพอช่วยได้ ยาตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายผ่อนคลายลง” เธอพูดทั้งหมดโดยแทบไม่หยุดหายใจ “ส่วนผสมที่สำคัญคือเลือดของเอลฟ์”
แฮร์รี่ รอน และจินนี่มองหน้ากันด้วยความฉงน
“เป็นหนึ่งในโครงการของสรร-สอรึเปล่า” รอนถาม
“ใช่...แต่ รอน! ได้โปรดเถอะ มันคือ ส.ร.ร.ส.อ. สมาคมเรียกร้องสิทธิเอลฟ์ประจำบ้าน! ไม่ใช่ สรร-สออะไรนั่น” เธอแก้ไข “ฉันรู้ว่าเธอแปลกใจที่ฉันใช้เลือดของพวกเขามาเป็นส่วนผสม แต่นั่นเป็นเลือดของเอลฟ์ที่ตายแล้ว—ฉันหมายความว่า พวกมันคงดีใจที่ได้เป็นประโยชน์กับเอลฟ์ตัวอื่นๆ” เธออธิบายอย่างรวดเร็ว
“แล้วเธอจะให้เราช่วยอะไร” แฮร์รี่ถาม
“เข้าไปในตรอกน็อกเทิร์นกับฉัน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
“แต่เราไม่ควร—“ จินนี่ว่า
“ฉันรู้ แต่ฉันใช้เวลาทั้งเช้าหาซื้อมันในตรอกไดแอกอน แล้วพ่อมดแก่ๆ คนหนึ่งบอกฉันว่ามันขายอยู่ในร้านที่มีชื่อเป็นภาษารูณในตรอกน็อกเทิร์น แล้วเธอก็รู้ ว่าตรอกนั่นเป็นยังไง ฉันไม่อยากไปคนเดียว”
พวกเขาใช้เวลากว่ายี่สิบนาทีเพื่อหลบหลีกบรรดาพ่อมดแม่มดฝ่ายมืดที่มักจะเข้ามารุมล้อมพวกเขาราวกับเป็นตัวประหลาด อีกสิบนาทีเพื่อเพ่งสายตามองหาร้านที่ชื่อเป็นภาษารูณ เมื่อหาเจอเฮร์ไมโอนี่หงุดหงิดมาก เมื่อบอกพวกเขาว่าชื่อร้านแปลว่า เอลฟ์สมองโทรลล์ (“พวกเขาไม่มีสิทธิ์เรียกพวกมันแบบนั้น ตราบใดที่ยังให้เอลฟ์ทำอาหารเย็นให้!”) สุดท้ายก็เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์กับการขอต่อรองราคาเลือดเอลฟ์ เฮอร์ไมโอนี่หัวเสียอีกครั้ง (“ใช้งานเอลฟ์อย่างกับทาส! ทีเลือดไม่กี่ออนซ์ราคาตั้งสิบเกลเลียน!!”) แต่ในที่สุดเธอก็จำใจควักกระเป๋าสตางค์ซื้อมันไป
ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยังบ่นเรื่องเอลฟ์ต่อไป แฮร์รี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาเหลัยวหลังไปมองยังจุดที่เดินผ่านมา แล้วเขาก็เห็น...
เด็กชายผิวขาวซีด โครงหน้าเสี้ยมแหลม และใบหน้าหยิ่งที่มักจะมองผู้อื่นอย่างเหยียดหยามเสมอ...เดรโก มัลฟอย...เขายืนอยู่หน้าร้านบอร์เจ็นและเบิร์ก กำลังตะโกนใส่พ่อมดชราที่แฮร์รี่เจอในตรอกไดแอกอน และแฮร์รี่สาบานได้ว่าเขาเห็นลูกศรสีแดงเพลิงบนแขนของมัลฟอยกลายเป็นธุลีเล็กๆ ไปเช่นกัน
“คำทำนายอะไรกัน! ปัญญาอ่อนน่า!” มัลฟอยตะเบ็งเสียง
แฮร์รี่เดินเข้าไปใกล้ทั้งคู่มากขึ้น จนได้ยินบทสนทนาชัดเจน—แน่นอนว่าอยู่นอกรัศมีการมองเห็นของทั้งคู่
“ไม่เชื่อก็ตามใจนะครับคุณชาย” พ่อมดชรายิ้ม “จำคำของเซอร์ เมฟีลัสไว้ ทองคู่กับเงิน ร้อนคู่กับเย็น ไฟกับน้ำแข๊ง...” ตอนนี้สายตาของพ่อมดชราหยุดอยู่ที่ต้นแขนของมัลฟอย “และตะวัน...กับจันทรา”
เซอร์เมฟีลัสหมุนตัวสามครั้ง และหายตัวไป ทิ้งไว้เพียงความสงสัยของคนสองคน
Gift Picture
James Potter & Severus Snape
Talk with Nebbia_GS!!
เป็นไงบ้าง ชอบรูปแถมในตอนนี้รึเปล่า??? รูปเจมส์เนปวัยเรียนค่า~ ส่วนตัวชอบคู่นี้มากๆ เผลอๆ จะมากกว่าแฮร์โกซะอีก แหะๆ มันได้หลากอารมณ์อ่ะ สารภาพเลยว่าที่ชอบคู่นี้เพราะโดจินเรื่อง the world ของนักวาดชาวญี่ปุ่นคนนึง ฉากเรทเยอะ เส้นสวย มีฉากหวานๆ น่ารักๆ และดราม่าค่อนข้างเยอะ แต่ชอบมากๆ ค่ะ ใครสนใจเข้าไปหาอ่านใน djfarm เว็บเอ็กซ์ทีนได้นะคะ ^^ *สครีม*
ส่วนเนื้อเรื่องตอนนี้ ให้เพื่อนที่รร.ซีนดู ปรากฏ เพื่อนบอกว่ามันแอบมีคู่ JP/HP ด้วย! T^T เปล่าน้า~ เค้ายังไม่แต่งฟิคผิดศีลธรรมขนาดนั้น ฮือๆ (ใครที่เห็นคู่นี้อีกลองทายกันซิว่าอยู่ตรงไหน? อิอิ)
เอาล่ะ! เวิ่นเว้อมามากพอ เอาเป็นว่า วันนี้ลากันแค่นี้ล่ะค่ะ J แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
เอ้ออ ลืมบอก! ในการแต่งฟิคแฮร์รี่ เนปเปียจะเปลี่ยนนามปากกาจาก Nebbia*Nero มาเป็น Nebbia_GS นะคะ ซึ่ง GS ก็มาจาก โกลเด้นสนิชนั่นเอง! เค้าจะได้อยู่ในมือของแฮร์รี่ตลอดไป~(?) แล้วก็มี 2 หนุ่มรี่กับเดรมาแย่งจับ อรั๊ยยยย คิดแล้วฟิน! (โดนรีดถีบ)
[สีแตงโมมากมาย =w=”]สิบคะแนนให้กริฟฟินดอร์! บายค่า~!
ความคิดเห็น