คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -5- What's the .......
Chapter 5 : What’s the…….
“เลียม!”
เสียงเรียกชื่อเขาของไนออลดังขึ้นมาอย่างตกใจ แต่เชื่อเหอะ ถึงตอนนี้ไนออลจะตกใจขนาดไหนก็ไม่ได้ครึ่งของความตกใจของเขาที่เจอเจ้าศัตรูตัวฉกาจมาอยู่ตรงหน้าหรอก!
เปล่า ไม่ได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้าย โจรป่า ซาไก หรือคุณครูที่ชอบกอดคะแนนสมัยไฮสคูลมายืนอยู่ตรงหน้าเขาหรอก แต่เป็นคนพวกนั้นจริงๆเขาคงพอใช้วิชาบอดี้การ์ดรับมือได้ แต่กับศัตรูอย่างนี้ ใช้อะไรก็รับมือไม่ได้ทั้งนั้นแหละ...เพราะมันคือช้อน!
ใช่ ช้อนนนนนนนนนนนนนนนน T____________________________T
เลียม เพย์นโคตรกลัวช้อนเลยให้ตายสิ ฮืออออออออออออออออออออออ
แต่ก็โทษใครไม่ได้หรอกนะที่ช้อนมันมาอยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีใครรู้นี่นาว่าเขากลัวช้อน ยกเว้นที่บ้านกับเซนน่ะ (ก็เป็นรูมเมทกันตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนบอดี้การ์ดนี่นา)
“นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมอยู่ดีๆก็ตกลงไป...” ไนออลว่า ก่อนจะวางเก้าอี้ให้เข้าที่เดิมแล้วประคองบอดี้การ์ดตัวเองที่ยังท่าทางเสียศูนย์ไม่หายให้ขึ้นไปนั่ง “....ฉันตกใจแทบแย่ เกินอะไรขึ้นหรอ?”
“ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร” เลียมตอบตะกุกตะกัก จะให้บอกรึไงว่ากลัวช้อน? น่าอายจะตาย ขนาดเซนที่เป็นเพื่อนกันตอนรู้ครั้งแรกยังขำจนตกเตียงไปเลย แล้วกับคุณหนูยิ้มเก่งอย่างไนออลนี่ไม่ขำจนขาดอากาศหายใจไปเลยเรอะ?
ไนออลหรี่ตามอง “ไม่เชื่อหรอก ไม่มีอะไรแล้วจะตกเก้าอี้ได้ไง...ฉันว่าบอดี้การ์ดฉันไม่ซุ่มซ่ามถึงขั้นอยู่ดีๆก็ตกเก้าอี้หรอกนะ”
“กะ...ก็ไม่มีอะไรจริงๆนะ ไม่มีๆ” สงสัยเมื่อกี๊ไม่น่าเชื่อถือพอ ครั้งนี้เลียมก็เลยโบกไม้โบกมือเป็นทำนองว่าไม่ช๊ายยย ไม่ใช่แถมไปด้วยซะเลย...อืม แต่ดูท่าทางยังไม่พอให้ไนออลเชื่อแฮะ ทำไงได้ล่ะ กลัวจริงๆนี่นา ฮืออออ T T
“จะตอบดีๆหรือต้องใช้วิธีรุนแรง?” เห้ย? อะไรนะ? พาร์ดอนมี? ขอฟังประโยคเมื่อกี๊ใหม่หน่อย
“อะ...อะไรนะ?”
“จะตอบดีๆหรือต้องบังคับ?....”
“อะ...เอ่อ...”
“อันที่จริงฉันไม่ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ทำตัวเป็นเจ้านายหรอกนะ แต่ถ้านายไม่ตอบดีๆ ฉันจะใช้อำนาจในฐานะคุณหนูบังคับล่ะนะ” โอ่ยยย...นึกว่าจะบังคับแบบโหดๆซะอีก ถ้าเป็นแค่นี้ก็โชคดีไป....
“สรุปคือยังไงๆก็ต้องตอบใช่ไหม?...” โชคดีอีกอย่างที่กลั้นคำว่าครับไม่ให้หลุดออกจากปากทัน
“เข้าใจง่ายดีมาก...ถ้านายไม่ตอบฉันจะไม่กินข้าว!” ยืนยันการพูดจริงทำจริงโดยการวางเจ้าศัตรูตัวฉกาจของเขาลงกับโต๊ะ เลียมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...คุณหนูของเขาคนนี่ช่างเป็นวันเดอร์ บอยซะจริง อยู่กันไม่ถึงวันเขายอมไปกี่อย่างแล้วเนี่ย?
“คือ...ที่ผมตกเก้าอี้ไปก็เพราะ....”
“เพราะ???????” ลากเสียงยาวแล้วทำหน้าตาสงสั๊ย สงสัยจนเลียมอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ เมื่อได้ยินเลียมหัวเราะ ไนออลเองก็หัวเราะออกมาบ้าง “...โอเค ถ้ายังหัวเราะออกก็แสดงว่ายังตกใจไม่ถึงขั้นร้ายแรง”
“ก็ถ้ามันไม่ร้ายแรง ไม่บอกไม่ได้หรอว่าตกใจอะไร?” เลียมต่อรอง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคืนตาสีฟ้าที่จ้องมา อ่านได้ว่า ‘ไม่ได้!’ เลียมถอนหายใจ
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้ามันบอกไม่ได้จริงๆก็ไม่ต้องบอกละกัน ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่กินข้าวหรอก เพราะยังไงๆก็ต้องกิน...อืม....”
“................”
“...ที่ถามนี่เพราะห่วงหรอกนะ ไหนๆนายก็จะมาดูแลฉันแล้ว ฉันก็ควรจะดูแลนายกลับบ้าง ไม่ใช่หรอ?” พูดจบก็เกาหัวแกรกๆเป็นเชิงเขินๆ เลียมอมยิ้ม ถ้าบอกเหตุผลแบบนี้มาแล้ว...เขาก็คงจะบอกได้สินะว่าตกใจเพราะอะไร
“คือ...ผ...เอ้ย ฉันตกใจกลัวน่ะ”
“กลัว? กลัวอะไร? ฉันว่าห้องกินข้าวบ้านฉันสะอาดพอนะ ไม่มีมด หนู แมลงสาบ ทาก ตะขาบ แย้...”
“เอ่อ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่กลัวอะไรพวกนั้น”
“แล้วเป็นอะไรล่ะ?” ไนออลว่า กอดอก ขมวดคิ้ว กวาดตามองรอบๆ...มันไม่มีอะไรให้น่ากลัวจริงๆนะ? ยกเว้นแต่เลียมจะกลัวช้อน กลัวส้อม ซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้...
“ฉันกลัวช้อนน่ะ”
....แต่ก็เป็นไปแล้ว
“หา?” ไนออลพอจะรู้ตัวว่าหน้าเขาตอนนี้มันคงตลกน่าดู แต่...กลัวช้อนเนี่ยนะ?
“อื้ม” พยักหน้ายืนยัน
“จริงดิ่?”
“จริง”
“ไม่ได้ล้อกันเล่น?”
“เปล่า”
“ไม่ได้เป็นมุกตลก”
“ไม่ได้เป็น” เลียมเน้นเสียงหนัก “ฉันกลัวช้อนจริงๆ”
หลังจากได้รับคำยืนยันที่ดูแน่นอนเอามากๆจากปากเลียม ตาสีฟ้าท้องฟ้ากับสีน้ำตาลช็อกโกแลตก็จ้องกันในความเงียบ โดยมีอาหารเย็นเป็นพยานยืนยัน หลายวินาทีผ่านไป จน.....
“อุ่บ....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังลั่นระเบิดขึ้นมานั่นแหละ!
“กะ...กลัวช้อนเนี่ยนะ? ฮ่าๆ โอย ตลกอ่ะ...เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเห็นใครกลัวอะไรแปลกๆแบนี้มาก่อนเลยอ่ะ ตลกชะมัดยาด ขอขำหน่อยนะ ฮ่าๆๆๆๆ” ว่าแล้วก็ขำออกมาชุดใหญ่ ขำจนน้ำตาไหลต้องยกมือขึ้นมาปาดกันเลยที่เดียว
รอยยิ้มบางๆบนหน้าเลียมหายไปโดยไม่รู้ตัว เจ้าตัวเอาทิชชู่ห่อช้อนแล้วเอาไปวางให้ไกลตัว ก่อนจะหยิบมีดกับส้อมมาเริ่มกินอาหารเย็นของตัวเองอย่างเงียบๆ เงียบจนไนออลเริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติ เขาก็เลยหยุดขำ (แอบ)เช็ดน้ำตาก่อนจะมองเลียมที่กินเอาๆ
“เฮ้”
“..............” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนยิ้มหวานๆที่ท่านเรียก
“เลียม”
“................” กินเอาๆ กับข้าววันนี้มันอร่อยมากรึไง? เดี๋ยวคงต้องลองชิมมั่ง
“เลียม เพย์น” เต็มยศซะเลย
“.................” ไม่ตอบเหมือนเดิม แถมวางมีดกับส้อม ยกแก้วน้ำมาดื่มอีก สงสัยต้องใช้ท่าไม้ตาย
“งอนหรอ?”
“อุ่บ...แค่กๆ...” ได้ผลชะงัดครับ สำลักน้ำชนิดที่ว่าหลับหูหลับตากันเลยทีเดียว ไนออลรีบยื่นทิชชู่ส่งไปให้เจ้าตัวที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งเช็ดปากตัวเอง อีกครึ่งเช็ดโต๊ะ....ช่างมีมารยาทและอนามัยจัดจริงๆ
“หายสำลักรึยัง? เอาทิชชู่อีกไหม”
“อีกหน่อยก็ดี ขอบคุณ...” พูดจบก็รับทิชชู่ไปจากเขาอีก อันที่จริงที่เขาดึงให้เมื่อกี๊มันพอที่จะใช้เช็ดปากอย่างเดียวนะ แต่เลียมดันเอามันไปเช็ดโต๊ะด้วยก็เลยต้องเอาไปใหม่อีกรอบ เมื่อเห็นว่าเลียมกลับสู่สภาวะปกติแล้วไนออลเลยถามใหม่อีกที
“สรุปงอนรึเปล่า?”
“เปล่า” เลียมตอบ เสียงแข็งขึ้นมานิดๆ แต่แข็งในแบบที่ไนออลอยากจะยิ้ม ไม่ใช่อยากจะกลัว “จะงอนเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องกลัวช้อนของนายน่ะสิ”
“ไม่งอนหรอก...” แต่เสียงอุบอิบๆเชียว
“ไม่งอนก็ไม่งอนอ่ะ แต่ยังไงๆฉันก็ต้องขอโทษอยู่ดีนะ คือเรื่องความกลัวของแต่ละคนมันไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะเยาะหรอก แต่กับของนาย เอ่อ...อืม...มัน ไม่เหมือนใครน่ะ แปลกใจก็เลยหัวเราะออกมา จะพยายามไม่ทำอีก ขอโทษนะ”
คือแค่คำว่าขอโทษเลียมก็พร้อมยกโทษให้แล้วนะ เพราะเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบเอาคืนใคร (ไม่เหมือนเซน) แต่ทั้งคำขอโทษและการเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาจับแสดงถึงความจริงใจด้วยเนี่ยสิ....ไม่ยกโทษให้คงดูใจจืดใจดำน่าดู
“อือ...อันที่จริงไม่ต้องขอโทษก็ได้ ไม่ได้โกรธ...”
“เออ ว่าแต่” ไนออลตัดบท “กลัวช้อน? ถ้านายกลัวช้อนแล้วเวลากินซุปทำไงอ่ะ? โชคดีนะที่วันนี้ไม่มีซุป ไม่งั้นนายลำบากแย่”
“อ๊ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ” เยสสสสส! มันกลับมาแล้วครับ! ยิ้มหวานๆของเลียม!
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกน่า” ไนออลยิ้มกว้างกลับไป “บอกแล้ว นายดูแลฉัน ฉันดูแลนาย ต่างฝ่ายต่างทำให้กัน แฟร์ๆและมีความสุขดี...หรือนายคิดไม่เหมือนฉัน?”
เลียมอมยิ้ม “เหมือนสิ”
“งั้นก็ดี....แต่กลับมาที่คำถามเดิม...”
“อ่อ เวลากินซุปน่ะหรอ? ก็...ใช้ส้อมกินเอา”
ไนออลขมวดคิ้ว “ใช้ส้อมกิน? ทำอย่างไง? เดี๋ยววันหลังจะขอให้ทำให้ดูหน่อย ลำบากแย่เลยสิ”
“ก็ลำบาก แต่ทำไงได้ ถ้าให้เลือกใช้ช้อนกับลำบาก เลือกอย่างหลังดีกว่า”
หลังจากฟังคำตอบของเลียมจบ ไนออลก็กัดปากตัวเองแรงๆไม่ให้หลุดคำว่าพิลึกคนออกไป ไม่เอาๆ ถ้าพูดออกไปแล้วเลียมงอนอีกทีไม่คุ้มแน่ คือง้อน่ะ ไม่ลำบากหรอก แต่ที่เขาไม่อยากทำให้เลียมงอนเพราะเขาไม่ชอบจริงๆเวลาที่หน้าของเลียมไม่มีรอยยิ้มน่ะ มันไม่เหมาะเลยซักนิด
ฉับพลัน ความคิดนึงแว่บเข้ามาในหัวไนออลทำให้เขาต้องดีดนิ้วดังเป๊าะ เลียมทำตาโตมองอย่างงงๆ ไนออลยิ้มให้กับสีหน้านั้นก่อนจะพูด “ฉันว่าอย่างแรกที่ฉันควรจะดูแลเทคแคร์นาย...ก็คือการทำให้นายหายกลัวช้อนนี่แหละ!”
.
.
.
.
เซนเป็นคนชอบส่องกระจก ชอบมากถึงมากที่สุด ไม่รู้เป็นอะไร แต่ถ้าไม่ได้ส่องกระจกซักหนในวันหนึ่งเขารู้สึกเหมือนจะตาย (ไม่เว่อร์นะ เอาจริง!) ไม่เคยมีวันไหนที่เขาคิดจะไม่ส่องกระจก.....ยกเว้นวันนี้เนี่ยแหละ!!!
ตอนนี้ประมาณหกโมงเช้านิดๆ เซนยังไม่ได้อาบน้ำ แต่ก็ยืนมองตัวเองหน้ากระจกอยู่ในห้องน้ำแล้ว เงาที่สะท้อนกลับมาแทนที่จะเป็นเขาคนเดิม แต่มันไม่ใช่! ที่สะท้อนกลับมานั่นมันคือตัวอะไรไม่รู้วววววววววววววววววววว!
หัวเขาโนขึ้นมานิดๆ...เพราะเมื่อวานตอนจะเข้าไปทำธุระก่อนนอนนิดหน่อยในห้องน้ำดันลื่น ไม่ใช่ลื่นน้ำธรรมดาๆด้วยนะ แต่ลื่นน้ำมัน!!! แล้วน้ำมันมันมาอยู่ในห้องน้ำได้ไงล่ะวะ! ฮึ่มมมมมม! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝีมือใคร!!
พอล้มตัวลงนอน นั่นไง...นอนไม่ได้อีก ดันมีคนเปิดเพลงของมิค แจกเกอร์โครมๆอยู่ โว้ยยยยย เปิดดังขนาดนี้ก็ไปตั้งผับดีกว่าครับน้อง!...แล้วถ้าเครื่องเสียงมันดีขนาดแผดดังลั่นได้ขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องบอกอีกเหมือนกันว่าเครื่องเสียงใคร!
นานโคตรกว่าเพลงมิค แจกเกอร์จะเงียบไป (คาดว่ามันเล่นจนหมดแผ่น ไม่ใช่เจ้าของใจดีลุกขึ้นมาปิดหรอก) เขาก็เกิดปัญหากับตัวเองซะงั้น คือนอนไม่หลับ! ในหัวมัวแต่คิดเรื่องชะตากรรมอันน่าปวดใจแล้วก็แผนแก้แค้นคุณหนูจอมเฮี้ยวที่เจ็บแสบแต่ไม่อันตราย ไปๆมาๆ....ตีสองถึงได้นอน
พอตีห้า....เพิ่งหลับตาได้แค่สามชั่วโมง แม่งงงงงง.....
....มิค แจกเกอร์มาอีกแล้วครับท่านนนนนนนน!!!!!
จากทั้งหมดทั้งมวลเมื่อคืน เงาที่สะท้อนออกมาจากกระจกตอนนี้ก็สรุปได้ว่าหัวโน ตาโหล คล้ำแล้วก็แดงเพราะนอนไม่พอ โชคดีนะท้องไม่เสียเพราะไอ้เกรวี่สุดพิเศษนั่นอีกอย่าง ไม่งั้นก็ไม่ต้องไปทำงานหรอก ไปฝังศพกันเลยดีกว่า!
ก๊อกๆ...
“ครับ” สงสัยจะเป็นแม่บ้านมาปลุก
“คุณบอดี้การ์ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~”
คิ้วกระตุกเลย ให้ตายเซ่!
“ทำไมครับ คุณหนู?”
“ผมไปต้องไปมหาลัยตอนแปดโมงเช้านะครับ ถ้าไม่รีบก็จะรถติด ถ้าไม่รีบก็จะสาย...แล้วก็.......”
เซนรู้สึกได้เลยว่าคิ้วเขากระตุกหนักกว่าเดิม ในขณะที่รอให้ไอ้เปี๊ยกนั่นพูดต่อ
“....ถ้าไม่รีบ ฉันอาจจะมีเวลาไปทำเกรวี่สูตรพิเศษแกล้งนายอีกก็ได้น้า ใครจะไปรู้ววววว” พูดจบก็ได้ยินเสียงหัวเราะแสดงความเบิกบานใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ตามด้วยเสียงลงบันไดไปตึงๆ ชนิดต่อให้หนูที่นอนอยู่ในรูก็น่าจะตื่นเพราะเสียงนี้ได้เลยล่ะ
เซนสลัดหัวไล่ความง่วง รีบคว้าผ้าเช็ดตัวทันที
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาห่วงหนูที่ไหน ควรจะห่วงตัวเองและท้องไส้มากกว่า...ถ้าลงไปช้าแล้วไอ้คุณหนูมฤตยูนั่นมีเวลาทำอะไรแผลงๆมาให้เขากินอีกล่ะก็.....โลงศพอยู่แค่เอื้อมเลยล่ะ!
.
.
.
.
พอเข้าลงไปที่ห้องกินข้าว ก็พบว่ามีจานว่างๆใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ....ไอ้คุณหนูมฤตยูนั่นกินเสร็จแล้วหรอ?
ก็ดีเหมือนกัน...จะได้กินเงียบๆ ว่าแต่...กินเสร็จแล้วไปไหนล่ะ?
ก็ไม่ได้ห่วงอะไรมากหรอก แต่...เป็นบอดี้การ์ดก็ควรจะให้คุณหนูอยู่ในสายตา ไม่ใช่รึไง?
เซนเลยรีบกิน กินไปได้เกือบครึ่งแม่บ้านก็เดินเข้ามาเก็บจานว่างๆของแฮร์รี่ เขาเลยถือโอกาสถาม
“คุณหนูล่ะครับ?”
“ออกไปเดินเล่นที่สวนน่ะค่ะ” เธอตอบอย่างสุภาพ เซนมองหน้าเธออย่างผิดสังเกต เอ...แปลกๆ...
วางใจได้ คราวนี้ไม่ได้แปลกเหมือนโดนใครสั่งให้มาแกล้งเขาหรอก แต่แปลกเพราะเธอดูสดชื่น ท่าทางไม่เหมือนคนนอนไม่พอเลยซักนิด ทั้งๆที่เขาคิดว่าเพลงของมิค แจกเกอร์น่าจะแผดลั่นกวนคนทั้งบ้านจนนอนไม่พอเหมือนเขาแน่ๆ
“เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ?”
“คะ?” เธอหันมามองเซนงงๆก่อนจะตอบ “ก็...สบายดีนี่คะ”
“ไม่ได้ยินเสียงเพลงหรอครับ?”
“เพลง...เพลงอะไรหรอคะ?” เธอทำหน้างงอย่างสุดซึ้ง...เอ่อ เซนเองก็งงตามล่ะนะ
“คือเมื่อวาน...ผมว่าคุณหนูแฮร์รี่เปิดเพลงฟังก่อนนอนน่ะครับ แล้วก็เปิดดังไปหน่อย...” หน่อยเดี๊ยวเอง จริงจริ๊งงงงง เซนแอบคิดอย่างโมโหๆในใจ “....ผมก็เลยสงสัยว่าคุณหลับสบายรึเปล่า?”
“อ๋อออ...” แม่บ้านสาวทำท่าเข้าใจขึ้นมาทันที “...ไม่ได้ยินหรอกค่ะ”
“........”
“เพราะก่อนนอน คุณหนูมาแจกที่อุดหูพวกเราถึงห้องเลย บอกว่าถ้าไม่ใส่จะฟ้องคุณท่านให้หักเงินเดือนพวกเรา เรื่องแบบนี้คุณหนูพูดจริงทำจริงตลอด พวกเราก็เลยเอาใส่ไว้ทุกคน ไม่มีใครได้ยินเสียงหรอกค่ะ...คุณหนูไม่ได้เอาไปให้คุณหรอคะ?”
“ปะ....เปล่าครับ”
“งั้นคุณหนูคงลืมละมังคะ...เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ” พูดจบเธอก็ค้อมตัวให้เซนแล้วเดินออกไปจากห้อง แต่พอเธอเดินลับตาไป...เซนก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย เขาเขี่ยอาหารในจานไปมา ไม่ใช่ไม่อยากกินหรอกนะ แต่มันต้องคิดจนกินไปคิดไปไม่ได้ต่างหาก...
แจกที่อุดหู.....หมายความว่าตั้งใจจะแกล้งเขาคนเดียว?
แล้วก็อาจจะหมายความว่า เป็นห่วงคนอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมาย กลัวจะนอนไม่พอ???
ไอ้เปี๊ยกนั่น...รู้จักคิดแบบนี้ด้วยหรอ? สงสัยจริงๆ.....
.
.
.
.
เขายืนมองข้อมูลเกี่ยวกับลูกศิษย์คนใหม่ของเขาที่อยู่ในกระดาษเอสี่ ออกจะแปลกซักหน่อยที่เขาอ่านจากล่างย้อนขึ้นไปบน เขาเริ่มอ่านจากวิชาที่ต้องการให้เน้น ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ...ยิ่งไล่ขึ้นไปมากเท่าไหร่ รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
และมันกลายเป็นยิ้มที่กว้างมากๆเมื่อเขาอ่านไปถึงตรงที่มีชื่อเขียนอยู่ พึมพำกับตัวเองเบาๆด้วยเสียงที่ดูจะมีความสุข
“แฮร์รี่ สไตล์งั้นหรอ.....”
เขาเงยหน้าให้กับกระดาษ ยิ้มให้กับแสงแดดของลอนดอนที่ดูจะสดใสกว่าทุกวัน เขาไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า...แต่เขารู้สึกว่าสดใสจริงๆ...บางทีอาจจะเป็นเพราะชื่อที่เขาอ่านไปเมื่อครู่ก็ได้ล่ะมั้ง
เขายิ้มอีกนิดก่อนจะพูดกับตัวเองอีกหน
“ไม่รู้จะจำกันได้รึเปล่า....”
Continue -6-
Talk
สุขสันต์วันสงกรานต์ย้อนหลังค่า ^_____________________^
ส่วนตัวเราคิดว่าสงกรานต์ปีนี้ทั้งสนุกจริงและร้อนจริง ร้อนซะตื๋ออออ แต่งฟิคไม่ค่อยจะออกกันเลยทีเดียว ตอนนี้เลยสั้นหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ!
ก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก นอกจากร้ากรากกรัก! คนเม้นและคนอ่านจริงๆเลย ฮุฮิ <3
สปอยล์ตอนหน้า - - คู่บอดี้การ์ดคุณหนูทั้งสองจะโคจรมาเจอกันล้ะ อยากรู้ว่าจะป่วนหนักกว่าเก่าไหมก็รอลุ้นกันเน้อออออ!~
สนุกกับฟิคค่า~
ความคิดเห็น