ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [1D Fiction] Watch out! รักนี้ต้องระวัง!

    ลำดับตอนที่ #11 : -10- The mask

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 55


    Chapter 10 : The mask

    “เซน”

     

    “หือ?”

     

    ตอนนี้เขากับเลียมนั่งอยู่หลังห้องเรียนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คุณหนูทั้งสองคนกำลังเรียนไปชมนกชมไม้ไปอยู่ (อย่ามาว่าคุณหนูผมนะ...ผมรู้ว่าพวกคุณเองก็เคยทำ ไอ้เรียนไปชมธรรมชาติไปเนี่ย)

     

    “นายจะทำอย่างไงกับงานเลี้ยงเย็นนี้น่ะ”

     

    “ก็จะให้ทำไงล่ะ?...ก็ต้องตามคุณหนูของเราไปน่ะสิ”

     

    “เรื่องนั้นฉันรู้น่า....ที่ถามนี่หมายถึงเรื่องที่จะทำให้คุณหนูสองคนอยู่ให้ครบสองชั่วโมงต่างหาก ไนออลบอกฉันว่าสถิติที่อยู่นานที่สุดของทั้งสองคนคือแค่สิบห้านาที...จะทำยังไง...”

     

    “ไม่ต้องทำอย่างไงทั้งนั้นแหละ”

     

    “เอ๋?” เลียมพูดขึ้นด้วยเสียงงงๆ “ไม่ต้องทำอะไรได้ไงล่ะ สองคนนั้นหนีออกจากงานทุกครั้งเลยนะ”

     

    “ก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่ดี เพราะคราวนี้ทั้งสองคนจะไม่หนีออกจากงานจนกว่าจะครบสองชั่วโมงแน่นอน” เซนพูดพลางยักคิ้วอย่างเป็นต่อให้กับเพื่อนที่ยังทำหน้างงไม่หาย

     

    “หา? แสดงว่านายมีวิธีให้แฮร์รี่อยู่ครบสองชั่วโมงแล้วหรอ? เพราะถ้าแฮร์รี่อยู่ครบ...รับรองด้วยหัวของฉันเลยว่าไนออลก็ต้องอยู่ครบด้วยแน่นอน แฮร์รี่ว่าไงไนออลก็ว่าตามอยู่แล้ว”

     

    “ช่ายยยย เรียบร้อยแล้ว”

     

    “จริงดิ? นายนี่เก่งกว่าที่ฉันคิดหลายอย่างแล้วนะ” เลียมบอกเพื่อนอย่างชื่นชม เซนยิ้มกว้าง “ว่าแต่...ไปอิท่าไหนคุณหนูจอมเฮี้ยวถึงยอมเชื่อคุณบอดี้การ์ดคนนี้ได้ล่ะ?”

     

    เซนเล่าถึงเรื่องรายงานประวัติศาสตร์ให้เลียมฟัง พอเลียมฟังจบเจ้าตัวก็ยิ้มกว้าง “งั้นก็ดีเลย งานเลี้ยงเย็นนี้เราสองคนจะได้ไปอย่างสบายใจ ไม่กังวลว่านกน้อยสองตัวจะบินหนีไปไหน....”

     

    “นกน้อย?”

     

    “ก็หมายถึงไนออลกับแฮร์รี่ไง เขาชอบเปรียบกันว่าพวกคุณหนูเหมือนนกน้อยในกรงทองนี่นา อืม...แต่เอาเข้าจริง....” เลียมหัวเราะคิกคัก เซนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เลียมเลยอธิบายต่อ “....เอาเข้าจริงฉันว่าไนออลไม่เหมือนนกน้อยหรอก...เหมือนอะไรดีน้า....”

     

    “ตัวอะไรซักอย่างที่กินเยอะๆ กินไม่หยุดป้ะ?”

     

    “มาว่าคุณหนูฉัน” เลียมพูดดุๆ แต่ก็ไม่จริงจังนักเพราะรอยยิ้มยังคงอยู่ที่ริมฝีปาก

     

    “อืม...แต่เอาเข้าจริงฉันก็ไม่คิดว่าไอ้เปี๊ยกนั่นเหมือนนกน้อยเท่าไหร่หรอก..ฉันว่าน่าจะเป็น อืมมมม....ลูกแมวมากกว่า” เซนพูดก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้มจางๆบนริมฝีปาก ถึงจะเป็นแค่รอยยิ้มจางๆแต่ก็ดูเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่ได้คิดว่าไอ้เปี๊ยกที่เจ้าตัวพูดเหมือนอะไร....

     

    และก็ทำเอาคนข้างๆที่มองอยู่เจ็บจี๊ดๆเลยทีเดียว

     

    .

    .

    .

    .

     

    งานเลี้ยง (หรืองานกะลาดินเนอร์อย่างที่คุณหนูว่า) เริ่มตอนสองทุ่ม ดังนั้น พวกเขาควรจะออกจากบ้านไม่เกินทุ่มครึ่ง...

     

    เซนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู.....อีกสิบห้านาทีทุ่มครึ่งแล้ว ทำไมคุณหนูของเขายังไม่ยอมลงมาอีกเนี่ย? หรือว่าจะเบี้ยวไม่ยอมไป? ไม่ได้เด็ดขาด! เขาอุตส่าห์เจียดเวลาทำรายงานไปให้แล้วตั้งครึ่งเล่มเชียวนะ!!

     

    เซนในชุดสูทอย่างดีคิดได้แบบนั้นก็เดินเร็วๆไปยังหน้าห้องของแฮร์รี่ (วิ่งไม่ได้ เดี๋ยวเสื้อผ้าหน้าผมที่เซ็ตมาอย่างดีจะกระจุยก่อนไปงานเลี้ยง) ยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วส่งเสียงเข้าไป “คุณหนู”

     

    “หา?”

     

    “มันจะทุ่มครึ่งแล้วนะครับ...”

     

    “เออออ รู้แล้วววว ไม่ต้องเร่งน่า แต่งตัวเสร็จแล้วจะออกไป ฉันไม่เบี้ยวนายตั้งแต่ตอนนี้หรอก” (แต่จะไปเบี้ยวทีหลังแทน)

     

    “ได้ยินคำยืนยันแบบนี้แล้วค่อยชื่นใจหน่อย”

     

    “เฮอะ.....”

     

    “งั้นเดี๋ยวผมลงไปรอข้างล่าง...”

     

    “เดี๋ยว!

     

    “ทำไมครับ?”

     

    “ฉัน...ผูกเนคไทด์ไม่ได้อ่ะ...” เสียงพูดเก้ๆกังๆมาพร้อมกับหัวหยิกๆที่โผล่ออกมาจากประตูห้อง หน้ามุ่ยสนิทแบบที่แฮร์รี่กำลังเป็นทำให้เซนเดาได้ง่ายๆเลยว่าเจ้าตัวคงพยายามมานานแล้ว แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เซนกลั้นหัวเราะ (อืมมม..ทำไมหมู่นี้อยากหัวเราะบ่อยจริงแฮะ?) ก่อนจะถามกลับไป

     

    “ผูกไม่ได้แล้วทำไมล่ะครับ?” รู้หรอกว่าอยากให้ช่วยผูก....แต่ขอแกล้งหน่อยเหอะ ขอนิสัยเสียเป็นคนชอบแกล้งเด็กซักวันละกัน :P แฮร์รี่เม้มปากแน่น

     

    “ถามได้! ก็จะให้ช่วยผูกให้หน่อยน่ะสิ!!

     

    “นี่คุณหนูขอให้คนช่วยแบบนี้หรออออออ? ผมเป็นบอดี้การ์ดนะ ไม่ใช่คนใช้” ที่จริงก็อยากจะเดินเข้าไปผูกให้เลยอ่ะนะ แต่เห็นหน้าหงิกๆงอนๆแบบนั้นแล้วอดใจไม่ไหวอ่ะ ขอแกล้งต่อหน่อยเถอะ!....นั่นไง หน้าหงิกกว่าเดิมอีก เหมือนเด็กโดนขัดใจจริงๆเลยแฮะ

     

    “งั้นฉันไปให้พ่อบ้านช่วย....”

     

    “โอ๋ๆ ไม่ต้องหรอกครับ เมื่อกี๊ผมแกล้งเล่นๆ คุณหนูขอให้ช่วย บอดี้การ์ดอย่างผมก็ต้องช่วยอยู่แล้วแหละ”

     

    “ไม่ต้องมาโอ๋ ฉันไม่ใช่เด็กๆ!” พูดเสียงสูงด้วยความโมโห แต่ก็เปิดประตูกว้างขึ้นอีกหน่อยเพื่อให้เขาเข้าไปในห้อง เซนเดินเข้าไป ปิดประตูตามหลังแล้วสำรวจรอบห้อง...ก็อย่างว่า ห้องเด็กผู้ชาย จะให้สะอาดเอี่ยมก็กระไรอยู่ (ขนาดห้องผู้หญิงอย่างคนแต่งยังรกเลย 5555 - - ไม่เกี่ยว) แต่มันก็ไม่รกมากอย่างที่เขาคิดไว้ ห้องตกแต่งอย่างธรรมดา ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าเป็นห้องคุณหนูมีเงิน....แต่ก็ยังมีของที่ทำให้เซนสะดุดตาอยู่นะ...เช่นแมวเต็มห้อง ไม่ได้หมายถึงแมวจริงๆนะ แต่หมายถึงตุ๊กตาแมว มีทั้งแบบนิ่มๆกอดได้ แบบเป็นแก้วไว้แต่งห้อง แบบเป็นกระเบื้อง เป็นเซรามิค เป็นปูนปลาสเตอร์.....แล้วอีกอย่างที่เต็มห้องไปแพ้แมวก็คือแว่นตาเรย์แบนด์ อืมมม...ถ้าจะมีตรงไหนสมเป็นห้องคุณหนูก็คงเป็นตรงนี้เนี่ยแหละ

     

    “ให้มาช่วยผูกเนคไทด์นะ ไม่ได้ให้มาสำรวจห้องฉัน ไร้มารยาท” มันกลับมาอีกแล้วครับ คำนี้...แต่เซนก็ชินเกินกว่าที่จะโมโห หรือที่จริง...ที่เขาไม่โมโหเพราะแววตาของแฮร์รี่เวลาด่าเขามันไม่เหมือนเมื่อก่อน คือแต่ก่อนนี่ คำด่ามาพร้อมแววตาจิกกัด แต่ตอนนี้ ถึงจะด่าเขาแต่แววตาแฮร์รี่ก็ดูปกติ เหมือนด่าไปงั้นๆไม่ได้หมายความจริงๆอย่างที่พูดไป..แล้วจะให้เขาโมโหได้ไงล่ะ

     

    “คร้าบบบบ ขอโทษคร้าบบบบ” เซนพูดก่อนจะหันไปหาคุณหนูของเขาที่ยืนหน้าบึ้ง ในมือถือแถบผ้าสีดำยาว แฮร์รี่ส่งเนคไทด์ให้เขาที่รับมาถือ “เอ้า!....”

     

    “เอ้าอะไร...ส่งให้แล้วก็ช่วยผูกให้หน่อยจะเป็นพระคุณ!

     

    “ผมเองก็อยากผูก....แต่ยืนอยู่ห่างขนาดนี้ผมจะผูกให้ยังไง?” เซนเลิกคิ้วถาม พลางโบกมือไปมาระหว่างที่ว่างระหว่างตัวเขาเองกับแฮร์รี่ เมื่อได้ยินแบบนั้นแฮร์รี่ก็เลยขยับมาหน่อย “ห่างอยู่ดี”

     

    “ห่างอย่างไง? แขนนายไม่ได้สั้นซักหน่อย นี่ก็ระยะเอื้อมนายไม่ใช่รึไง?”

     

    “เอื้อมถึงแต่มันไม่ใกล้พอ ผูกไกลๆผมจะผูกให้มันสวยได้ไง”

     

    “เอ่อ....ก็.....” แฮร์รี่เริ่มไปไม่ถูก ก็รู้หรอกว่าควรจะขยับไปใกล้ๆถึงจะผูกสวย แต่ไม่อยากเข้าไปใกล้หมอนั่นนี่นา ไม่รู้ทำไม แต่ไม่อยากเข้าใกล้อ่ะ....มันรู้สึกแปลกๆ....

     

    เซนเลิกคิ้วมองคุณหนูตัวแสบอีกทีก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดู “จะทุ่มครึ่งแล้ว ขออภัยนะครับ”

     

    “หา...อะไร เฮ้!” ไม่ทันที่แฮร์รี่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้ เซนก็ขยับเข้ามาใกล้ ก้มตัวลงแล้วเอาแถบเนคไทด์มาสวมให้ ผูกไปผูกมา พันไปพันมาในแบบที่แฮร์รี่ไม่เคยจะทำได้ แฮร์รี่เลยก้มมองด้วยความสนใจ และความสนใจนั้นก็มากพอให้เขาลืมความรู้สึกแปลกๆที่เกิดจากการที่เซนเข้ามาใกล้ตอนแรกไป “โห.....ผูกสวยแฮะ”

     

    “ยังไม่เสร็จเลยบอกสวยซะแล้วหรอ”

     

    “อย่างน้อยก็สวยกว่าฉันละกัน ฉันผูกได้สองจึ้กก็เลิกแล้ว”

     

    “อ่ะเสร็จแล้ว” เซนพูด เงยหน้าขึ้นพอดีกับเสียงที่ดังขึ้นว่า

     

    “ไหนดูหน่อย....” พร้อมการก้มหัวลงมาดูอีกของแฮร์รี่ ก็เลย....

     

    โป้กกกกกกกกกกกก!

     

    “โอ้ยยยยยย” ...เป็นที่มาขอเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและการกระตุกหัวไปข้างหลังของคนทั้งคู่ เซนและแฮร์รี่ลูบหน้าผากของตัวเองที่ถูกกระแทกกันพักใหญ่ เซนเป็นคนเลิกลูบไปก่อน (เจ็บแค่นี้มันจิ๊บๆ ตอนเรียนอยู่เจ็บมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า) เขามองไปยังแฮร์รี่ที่ยังลูบหน้าผากตัวเองไม่เลิก ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เท่ากับตอนที่ช่วยผูกไทค์

     

    “มันไม่เจ็บขนาดนั้นหรอกน่า...” แล้วก็บ่นซักที ลูบไปลูบมาอยู่นั่นแหละ

     

    “นายอาจจะถึกจนไม่เจ็บ แต่ฉันเจ็บ! คนอะไร หัวแข็งเป็นบ้า กินหินแทนข้าวหรอ?” แฮร์รี่พูดเสียงขุ่น เหลือบตามองบอดี้การ์ดตัวเองอย่างเคืองๆ เซนยิ้มก่อนจะดึงมือที่ลูบไปลูบมานั้นลงแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆ

     

    “ไหน ผมดูให้...”

     

    “ดูแล้วช่วยอะไรได้! ถ้าฉันหัวโน ฉันไม่ยอมไปงานกะลาแน่ๆจะบอก”

     

    “ไม่โนหรอกน่า ถึงโนผมก็ทำให้หายได้ ถ้าคุณหนูไม่ได้ไปเพราะผม ผมคงโดนคุณท่านไล่ออกอ่ะ....ที่โรงเรียนบอดี้การ์ดเขาสอนวิธีพยาบาลคนเจ็บด้วย เชื่อมือผมเถอะ...” พอพูดให้ความมั่นใจไป แฮร์รี่เองก็ดูจะวางใจมากขึ้น เขายอมให้เซนดึงมือออกจากหน้าผากของตัวเอง “ไม่เท่าไหร่หรอก แป๊ปเดียวก็หาย”

     

    “แป๊ปเดียว? แล้วทำไมฉันเจ็บแบบนี้ล่ะ หา?”

     

    “โอเคๆ งั้นเดี๋ยวผมรักษาให้ก็ได้ หลับตาก่อน”

     

    “หลับทำไม?”

     

    “เดี๋ยวยาเข้าตา”

     

    “อ่ะ...โอเคๆ” พูดจบตาสีเขียวก็หลับลง เซนอมยิ้มก่อนจะ.....

     

    ............................

    .....................

    .............

     

    “เพี้ยงงงงง...”

     

    “เห?...”

     

    ตาสีเขียวลืมขึ้นมา ฉายแววงุนงงอย่างปิดไม่มิด...คิดถูกแล้วล่ะที่คิดว่าแฮร์รี่เหมือนลูกแมว “นี่นายทำอะไร?”

     

    “ก็เป่าไง ก็มันไม่ร้ายแรงถึงขั้นต้องใช้ยาจริงๆนี่นา....ทีนี้โอเครึยัง หายเจ็บแล้วนะ?”

     

    “ไม่หายหรอก” แฮร์รี่พูด หน้ามุ่ยเหมือนเดิม ยกมือขึ้นลูบผมอีกครั้ง “แต่ก็ไม่ต้องทำแบบเมื่อกี๊อีกเลยนะ....ยิ้มอะไร? จะไม่ไปแล้วใช่ไหมไอ้งานเลี้ยงเนี่ย! ยืนยิ้มอยู่ได้!!

     

    “ไปครับ ไปๆ” เซนพูด กุลีกุจอไปเปิดประตูให้แฮร์รี่ที่เดินกระแทกเท้าตึงๆออกไป....

     

    อืม...ทำไมเขาถึงยิ้มค้างจนแฮร์รี่โมโหน่ะหรอ?

    ก็หน้าแดงขนาดนั้น ไม่ให้ยิ้มไม่ได้แล้วล่ะ

     

    .

    .

     

    มาทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กเล็กๆไปได้ เป่าเพี้ยงเนี่ยนะ!~ เจ้าบ้าเซนเอ้ย!!

     

    แฮร์รี่ยกมือขึ้นลูบผมอีกครั้ง...เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะลูบผมหรอก เขาตั้งใจจะลูบหน้าผากที่โดนกระแทกซึ่งโดนผมปิดอยู่ต่างหาก

     

    เซนบ้าแต่เขาบ้ากว่า

     

    บ้าที่รู้สึกว่าไอ้เพี้ยงเมื่อกี๊...มันอบอุ่นดี..อบอุ่นค้างมาถึงตอนนี้เลยด้วยซ้ำไป

     

    .

    .

    .

    .

     

    “นี่นายแน่ใจนะว่าตัวเองอยู่ในงานเลี้ยง...ฉันว่าสภาพนายเหมือนเพิ่งตะลุยสงครามอิรักมามากกว่า”

     

    “เงียบไปน่า ไนออล นายไม่เป็นฉันนายไม่มีทางรู้สึกแล้ว...ฉันรำคาญจะแย่อยู่แล้วนะ รู้ไหม?”

     

    “โอ๋ๆ อย่าทำหน้างอแบบนั้นสิคร้าบบบ คุณหนูสไตล์...เดี๋ยวสาวๆเผ่นหมดน้า”

     

    “สาวแบบนี้ฉันไม่ต้องการหรอก ไนออล เผ่นไปให้หมดเลยยิ่งดี....ฉันเองก็อยากเผ่น....”

     

    “จุ๊ๆ....”

     

    “จุ๊อะไร นายเป็นจิ้งจกหรือบอดี้การ์ด!

     

    “บอดี้การ์ดครับ”

     

    “แล้วจุ๊ทำไม!

     

    “แค่อยากจะจุ๊เตือนว่ายังเผ่นไม่ได้ครับ ตอนนี้ยังไม่ครบสองชั่วโมงเลย....เพิ่งผ่านไปชั่วโมงเดียวเอง”

     

    “เอออออออออ ไม่ต้องย้ำ!” แฮร์รี่ตวัดเสียงใส่เซนอย่างอารมณ์บูด “ไนออล ไปหาไรกินเพิ่มกันเหอะ.....ฉันเห็นมีผู้หญิงคนนึงกำลังปรี่เข้ามา เผ่นไปหาไรกินท่าทางจะดี”

     

    “โอเค ฉันยินดีไปไหนไปกันกับนายเสมอ”

     

    “โดยเฉพาะไปหาของกินใช่ไหมล่ะ?”

     

    “แหมมมม เพื่อนใคร รู้ใจกันดีจัง” ไนออลพูดแล้วยิ้มกว้างใส่แฮร์รี่ที่ส่งยิ้มกว้างกลับมา คุณหนูสองคนลุกขึ้นไปที่โต๊ะบุฟเฟ่ต์ ทิ้งบอดี้การ์ดสองคนให้ยืนมองตามหลัง พอไปถึงที่ซุ้มคานาเป้ (แฮร์รี่เดินมามุมนี้เพราะเล็งแล้วว่าไม่มีสาวๆรักเธอเสนอตัวอยู่ซักคน) แฮร์รี่ก็ดึงมือไนออลที่กำลังจะเอื้อมไปคว้าของกินไว้ ไนออลหันมามอง

     

    “ที่ว่าไปไหนไปกันน่ะ หมายถึงทุกๆที่ใช่ไหม?”

     

    เมื่อเห็นตาสีเขียวของเพื่อนรักทอประกายต่างไปจากเดิม ไนออลก็รู้ทันทีว่าในหัวของแฮร์รี่ตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ก็อย่างว่านะ...เพื่อนรักกันนี่นา ไนออลดึงมือของตัวเองออกจากมือแฮร์รี่ หยิบคานาเป้มาถือ (เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ!) ก่อนจะถามเพื่อนตัวแสบ “จะชวนฉันไปไหนล่ะ?”

     

    “ไปป่ะล่ะ?”

     

    “โหหหหห....มีครั้งไหนที่นายชวนแล้วฉันไม่ไปหรอ? ถามทำม๊ายยยยย.....” ไนออลว่ายิ้มๆ ก่อนจะกัดคานาเป้เข้าปาก พลางเคี้ยวด้วยท่าทางอร่อย แฮร์รี่ยิ้มกว้างกว่าเก่า

     

    “สรุปว่าไป?”

     

    ไนออลไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นทำท่าเครื่องหมายถูก แฮร์รี่ยกมือขึ้นกอดคอเพื่อนเบาๆก่อนจะกระซิบ “งั้น......เราหนีออกจากงานนี้กันเต๊อะ!

     

    ไนออลไม่ตอบ....แต่ยกมือขึ้นทำเครื่องหมายถูกอีกที

     

    .

    .

    .

    .

     

    “วันนี้ท่าทางคุณหนูของเราคงจะอยู่ครบสองชั่วโมงนะ” เซนพูดกับเลียมที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเอง สายตามองไปยังแผ่นหลังของแฮร์รี่กับไนออลที่ยืนอยู่หน้าซุ้มคานาเป้นานมาก.....สงสัยคงมีหลายแบบให้เลือกละมั้ง

     

    “อื้อ ดูทั้งสองคนเป็นเด็กดีมาก...อืม....ฉันคิดว่าดีเกินไปซะด้วยซ้ำ”

     

    “ดีเกินไป? หมายความว่าไง??”

     

    “ก็ดีมากไปจนแปลกๆน่ะซี.....” เลียมว่า มีแววกังวลเล็กๆในน้ำเสียง ทำให้เซนต้องหันไปมอง....ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ แต่พอเขาหันไปปุ๊ป เลียมก็รีบก้มหน้าปั๊ป...ท่าทางคล้ายๆแฮร์รี่ตอนเจอลูอีใหม่ๆอย่างไงก็ไม่รู้....มองอยู่อย่างนั้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเงยหน้ามาพูดต่อกับเขา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมเงย เขาเลยเบือนสายตากลับไปที่เดิมพลางพูด

     

    “ไม่แปลก....” แล้วก็เงียบไปซะงั้น....เงียบแบบผิดปกติจนเลียมต้องเงยหน้าขึ้นมอง เซนไม่ได้มองมาทางเขา แต่มองตรงไปยังซุ้มคานาเป้....ที่ไร้เงาคุณหนูทั้งสองแล้ว เลียมพูดต่อจากเซนที่เงียบไปทันทีว่า

     

    “.....ที่ทั้งสองคนจะหายไปแล้ว”

     

    Continue -11-

    Talk

    หายไปนานมากอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ! แบบว่าช่วงนี้ยุ่งหัวหมุนจริงๆ ต้องไปค้างคืนที่นู่น ที่นี่ กว่าจะฟื้นสังขารกลับมาอัพได้นี่ก็กินเวลาไม่ใช่เล่นเลย ขอโทษอีกทีนะคะ T T

    แล้วก็ต้องขอโทษเป็นครั้งที่สาม เพราะอาทิตย์หน้าไรท์ก็เปิดเรียนแล้ววววว ภาระและสิ่งที่ต้องทำคงเพิ่มขึ้นมาในอัตราเร็วเท่ากับการหนีของแฮร์รี่กับไนออล (ไม่เกี่ยวแล้ว!) อาจจะไม่มีเวลามานั่งคิด นั่งพิมพ์ฟิคนานๆแบบนี้อีก ดังนั้นแต่ละตอนก็อาจจะทิ้งช่วงห่างกันเพิ่มมากขึ้น TAT แต่ก็จะไม่ทิ้งเรื่องนี้ค่ะ! ว่างเมื่อไหร่จะปั่นแล้วรีบส่งมาให้ทุกคนอ่านด่วนที่สวด การอ่านเม้นเป็นหนึ่งในกกำลังใจที่ใช้ดำรงชีพของเรา 555555

    เวิ่นมาซะยาว เพื่อเป็นการไถ่โทษ เราจะบอกว่าตอนหน้าจะเริ่มมีแอ๊คชั่นเบาๆ (ย้ำว่าเบาๆ) มาให้อ่านเล่นๆกันเป็นตอนแรกแล้ว!~ ฉะนั้น อย่าลืมแวะมาชมดูอ่านกันนะฮ๊าบบบบ

    ขอบคุณทุกอ่านทุกคลิ๊ก เอ็นจอยวิทฟิคค่าาาาา~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×