คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : -10- The mask
Chapter 10 : The mask
“เซน”
“หือ?”
ตอนนี้เขากับเลียมนั่งอยู่หลังห้องเรียนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คุณหนูทั้งสองคนกำลังเรียนไปชมนกชมไม้ไปอยู่ (อย่ามาว่าคุณหนูผมนะ...ผมรู้ว่าพวกคุณเองก็เคยทำ ไอ้เรียนไปชมธรรมชาติไปเนี่ย)
“นายจะทำอย่างไงกับงานเลี้ยงเย็นนี้น่ะ”
“ก็จะให้ทำไงล่ะ?...ก็ต้องตามคุณหนูของเราไปน่ะสิ”
“เรื่องนั้นฉันรู้น่า....ที่ถามนี่หมายถึงเรื่องที่จะทำให้คุณหนูสองคนอยู่ให้ครบสองชั่วโมงต่างหาก ไนออลบอกฉันว่าสถิติที่อยู่นานที่สุดของทั้งสองคนคือแค่สิบห้านาที...จะทำยังไง...”
“ไม่ต้องทำอย่างไงทั้งนั้นแหละ”
“เอ๋?” เลียมพูดขึ้นด้วยเสียงงงๆ “ไม่ต้องทำอะไรได้ไงล่ะ สองคนนั้นหนีออกจากงานทุกครั้งเลยนะ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่ดี เพราะคราวนี้ทั้งสองคนจะไม่หนีออกจากงานจนกว่าจะครบสองชั่วโมงแน่นอน” เซนพูดพลางยักคิ้วอย่างเป็นต่อให้กับเพื่อนที่ยังทำหน้างงไม่หาย
“หา? แสดงว่านายมีวิธีให้แฮร์รี่อยู่ครบสองชั่วโมงแล้วหรอ? เพราะถ้าแฮร์รี่อยู่ครบ...รับรองด้วยหัวของฉันเลยว่าไนออลก็ต้องอยู่ครบด้วยแน่นอน แฮร์รี่ว่าไงไนออลก็ว่าตามอยู่แล้ว”
“ช่ายยยย เรียบร้อยแล้ว”
“จริงดิ? นายนี่เก่งกว่าที่ฉันคิดหลายอย่างแล้วนะ” เลียมบอกเพื่อนอย่างชื่นชม เซนยิ้มกว้าง “ว่าแต่...ไปอิท่าไหนคุณหนูจอมเฮี้ยวถึงยอมเชื่อคุณบอดี้การ์ดคนนี้ได้ล่ะ?”
เซนเล่าถึงเรื่องรายงานประวัติศาสตร์ให้เลียมฟัง พอเลียมฟังจบเจ้าตัวก็ยิ้มกว้าง “งั้นก็ดีเลย งานเลี้ยงเย็นนี้เราสองคนจะได้ไปอย่างสบายใจ ไม่กังวลว่านกน้อยสองตัวจะบินหนีไปไหน....”
“นกน้อย?”
“ก็หมายถึงไนออลกับแฮร์รี่ไง เขาชอบเปรียบกันว่าพวกคุณหนูเหมือนนกน้อยในกรงทองนี่นา อืม...แต่เอาเข้าจริง....” เลียมหัวเราะคิกคัก เซนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เลียมเลยอธิบายต่อ “....เอาเข้าจริงฉันว่าไนออลไม่เหมือนนกน้อยหรอก...เหมือนอะไรดีน้า....”
“ตัวอะไรซักอย่างที่กินเยอะๆ กินไม่หยุดป้ะ?”
“มาว่าคุณหนูฉัน” เลียมพูดดุๆ แต่ก็ไม่จริงจังนักเพราะรอยยิ้มยังคงอยู่ที่ริมฝีปาก
“อืม...แต่เอาเข้าจริงฉันก็ไม่คิดว่าไอ้เปี๊ยกนั่นเหมือนนกน้อยเท่าไหร่หรอก..ฉันว่าน่าจะเป็น อืมมมม....ลูกแมวมากกว่า” เซนพูดก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้มจางๆบนริมฝีปาก ถึงจะเป็นแค่รอยยิ้มจางๆแต่ก็ดูเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่ได้คิดว่าไอ้เปี๊ยกที่เจ้าตัวพูดเหมือนอะไร....
…และก็ทำเอาคนข้างๆที่มองอยู่เจ็บจี๊ดๆเลยทีเดียว
.
.
.
.
งานเลี้ยง (หรืองานกะลาดินเนอร์อย่างที่คุณหนูว่า) เริ่มตอนสองทุ่ม ดังนั้น พวกเขาควรจะออกจากบ้านไม่เกินทุ่มครึ่ง...
เซนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู.....อีกสิบห้านาทีทุ่มครึ่งแล้ว ทำไมคุณหนูของเขายังไม่ยอมลงมาอีกเนี่ย? หรือว่าจะเบี้ยวไม่ยอมไป? ไม่ได้เด็ดขาด! เขาอุตส่าห์เจียดเวลาทำรายงานไปให้แล้วตั้งครึ่งเล่มเชียวนะ!!
เซนในชุดสูทอย่างดีคิดได้แบบนั้นก็เดินเร็วๆไปยังหน้าห้องของแฮร์รี่ (วิ่งไม่ได้ เดี๋ยวเสื้อผ้าหน้าผมที่เซ็ตมาอย่างดีจะกระจุยก่อนไปงานเลี้ยง) ยกมือขึ้นเคาะประตูแล้วส่งเสียงเข้าไป “คุณหนู”
“หา?”
“มันจะทุ่มครึ่งแล้วนะครับ...”
“เออออ รู้แล้วววว ไม่ต้องเร่งน่า แต่งตัวเสร็จแล้วจะออกไป ฉันไม่เบี้ยวนายตั้งแต่ตอนนี้หรอก” (แต่จะไปเบี้ยวทีหลังแทน)
“ได้ยินคำยืนยันแบบนี้แล้วค่อยชื่นใจหน่อย”
“เฮอะ.....”
“งั้นเดี๋ยวผมลงไปรอข้างล่าง...”
“เดี๋ยว!”
“ทำไมครับ?”
“ฉัน...ผูกเนคไทด์ไม่ได้อ่ะ...” เสียงพูดเก้ๆกังๆมาพร้อมกับหัวหยิกๆที่โผล่ออกมาจากประตูห้อง หน้ามุ่ยสนิทแบบที่แฮร์รี่กำลังเป็นทำให้เซนเดาได้ง่ายๆเลยว่าเจ้าตัวคงพยายามมานานแล้ว แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เซนกลั้นหัวเราะ (อืมมม..ทำไมหมู่นี้อยากหัวเราะบ่อยจริงแฮะ?) ก่อนจะถามกลับไป
“ผูกไม่ได้แล้วทำไมล่ะครับ?” รู้หรอกว่าอยากให้ช่วยผูก....แต่ขอแกล้งหน่อยเหอะ ขอนิสัยเสียเป็นคนชอบแกล้งเด็กซักวันละกัน :P แฮร์รี่เม้มปากแน่น
“ถามได้! ก็จะให้ช่วยผูกให้หน่อยน่ะสิ!!”
“นี่คุณหนูขอให้คนช่วยแบบนี้หรออออออ? ผมเป็นบอดี้การ์ดนะ ไม่ใช่คนใช้” ที่จริงก็อยากจะเดินเข้าไปผูกให้เลยอ่ะนะ แต่เห็นหน้าหงิกๆงอนๆแบบนั้นแล้วอดใจไม่ไหวอ่ะ ขอแกล้งต่อหน่อยเถอะ!....นั่นไง หน้าหงิกกว่าเดิมอีก เหมือนเด็กโดนขัดใจจริงๆเลยแฮะ
“งั้นฉันไปให้พ่อบ้านช่วย....”
“โอ๋ๆ ไม่ต้องหรอกครับ เมื่อกี๊ผมแกล้งเล่นๆ คุณหนูขอให้ช่วย บอดี้การ์ดอย่างผมก็ต้องช่วยอยู่แล้วแหละ”
“ไม่ต้องมาโอ๋ ฉันไม่ใช่เด็กๆ!” พูดเสียงสูงด้วยความโมโห แต่ก็เปิดประตูกว้างขึ้นอีกหน่อยเพื่อให้เขาเข้าไปในห้อง เซนเดินเข้าไป ปิดประตูตามหลังแล้วสำรวจรอบห้อง...ก็อย่างว่า ห้องเด็กผู้ชาย จะให้สะอาดเอี่ยมก็กระไรอยู่ (ขนาดห้องผู้หญิงอย่างคนแต่งยังรกเลย 5555 - - ไม่เกี่ยว) แต่มันก็ไม่รกมากอย่างที่เขาคิดไว้ ห้องตกแต่งอย่างธรรมดา ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าเป็นห้องคุณหนูมีเงิน....แต่ก็ยังมีของที่ทำให้เซนสะดุดตาอยู่นะ...เช่นแมวเต็มห้อง ไม่ได้หมายถึงแมวจริงๆนะ แต่หมายถึงตุ๊กตาแมว มีทั้งแบบนิ่มๆกอดได้ แบบเป็นแก้วไว้แต่งห้อง แบบเป็นกระเบื้อง เป็นเซรามิค เป็นปูนปลาสเตอร์.....แล้วอีกอย่างที่เต็มห้องไปแพ้แมวก็คือแว่นตาเรย์แบนด์ อืมมม...ถ้าจะมีตรงไหนสมเป็นห้องคุณหนูก็คงเป็นตรงนี้เนี่ยแหละ
“ให้มาช่วยผูกเนคไทด์นะ ไม่ได้ให้มาสำรวจห้องฉัน ไร้มารยาท” มันกลับมาอีกแล้วครับ คำนี้...แต่เซนก็ชินเกินกว่าที่จะโมโห หรือที่จริง...ที่เขาไม่โมโหเพราะแววตาของแฮร์รี่เวลาด่าเขามันไม่เหมือนเมื่อก่อน คือแต่ก่อนนี่ คำด่ามาพร้อมแววตาจิกกัด แต่ตอนนี้ ถึงจะด่าเขาแต่แววตาแฮร์รี่ก็ดูปกติ เหมือนด่าไปงั้นๆไม่ได้หมายความจริงๆอย่างที่พูดไป..แล้วจะให้เขาโมโหได้ไงล่ะ
“คร้าบบบบ ขอโทษคร้าบบบบ” เซนพูดก่อนจะหันไปหาคุณหนูของเขาที่ยืนหน้าบึ้ง ในมือถือแถบผ้าสีดำยาว แฮร์รี่ส่งเนคไทด์ให้เขาที่รับมาถือ “เอ้า!....”
“เอ้าอะไร...ส่งให้แล้วก็ช่วยผูกให้หน่อยจะเป็นพระคุณ!”
“ผมเองก็อยากผูก....แต่ยืนอยู่ห่างขนาดนี้ผมจะผูกให้ยังไง?” เซนเลิกคิ้วถาม พลางโบกมือไปมาระหว่างที่ว่างระหว่างตัวเขาเองกับแฮร์รี่ เมื่อได้ยินแบบนั้นแฮร์รี่ก็เลยขยับมาหน่อย “ห่างอยู่ดี”
“ห่างอย่างไง? แขนนายไม่ได้สั้นซักหน่อย นี่ก็ระยะเอื้อมนายไม่ใช่รึไง?”
“เอื้อมถึงแต่มันไม่ใกล้พอ ผูกไกลๆผมจะผูกให้มันสวยได้ไง”
“เอ่อ....ก็.....” แฮร์รี่เริ่มไปไม่ถูก ก็รู้หรอกว่าควรจะขยับไปใกล้ๆถึงจะผูกสวย แต่ไม่อยากเข้าไปใกล้หมอนั่นนี่นา ไม่รู้ทำไม แต่ไม่อยากเข้าใกล้อ่ะ....มันรู้สึกแปลกๆ....
เซนเลิกคิ้วมองคุณหนูตัวแสบอีกทีก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดู “จะทุ่มครึ่งแล้ว ขออภัยนะครับ”
“หา...อะไร เฮ้!” ไม่ทันที่แฮร์รี่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้ เซนก็ขยับเข้ามาใกล้ ก้มตัวลงแล้วเอาแถบเนคไทด์มาสวมให้ ผูกไปผูกมา พันไปพันมาในแบบที่แฮร์รี่ไม่เคยจะทำได้ แฮร์รี่เลยก้มมองด้วยความสนใจ และความสนใจนั้นก็มากพอให้เขาลืมความรู้สึกแปลกๆที่เกิดจากการที่เซนเข้ามาใกล้ตอนแรกไป “โห.....ผูกสวยแฮะ”
“ยังไม่เสร็จเลยบอกสวยซะแล้วหรอ”
“อย่างน้อยก็สวยกว่าฉันละกัน ฉันผูกได้สองจึ้กก็เลิกแล้ว”
“อ่ะเสร็จแล้ว” เซนพูด เงยหน้าขึ้นพอดีกับเสียงที่ดังขึ้นว่า
“ไหนดูหน่อย....” พร้อมการก้มหัวลงมาดูอีกของแฮร์รี่ ก็เลย....
โป้กกกกกกกกกกกก!
“โอ้ยยยยยย” ...เป็นที่มาขอเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและการกระตุกหัวไปข้างหลังของคนทั้งคู่ เซนและแฮร์รี่ลูบหน้าผากของตัวเองที่ถูกกระแทกกันพักใหญ่ เซนเป็นคนเลิกลูบไปก่อน (เจ็บแค่นี้มันจิ๊บๆ ตอนเรียนอยู่เจ็บมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า) เขามองไปยังแฮร์รี่ที่ยังลูบหน้าผากตัวเองไม่เลิก ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เท่ากับตอนที่ช่วยผูกไทค์
“มันไม่เจ็บขนาดนั้นหรอกน่า...” แล้วก็บ่นซักที ลูบไปลูบมาอยู่นั่นแหละ
“นายอาจจะถึกจนไม่เจ็บ แต่ฉันเจ็บ! คนอะไร หัวแข็งเป็นบ้า กินหินแทนข้าวหรอ?” แฮร์รี่พูดเสียงขุ่น เหลือบตามองบอดี้การ์ดตัวเองอย่างเคืองๆ เซนยิ้มก่อนจะดึงมือที่ลูบไปลูบมานั้นลงแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆ
“ไหน ผมดูให้...”
“ดูแล้วช่วยอะไรได้! ถ้าฉันหัวโน ฉันไม่ยอมไปงานกะลาแน่ๆจะบอก”
“ไม่โนหรอกน่า ถึงโนผมก็ทำให้หายได้ ถ้าคุณหนูไม่ได้ไปเพราะผม ผมคงโดนคุณท่านไล่ออกอ่ะ....ที่โรงเรียนบอดี้การ์ดเขาสอนวิธีพยาบาลคนเจ็บด้วย เชื่อมือผมเถอะ...” พอพูดให้ความมั่นใจไป แฮร์รี่เองก็ดูจะวางใจมากขึ้น เขายอมให้เซนดึงมือออกจากหน้าผากของตัวเอง “ไม่เท่าไหร่หรอก แป๊ปเดียวก็หาย”
“แป๊ปเดียว? แล้วทำไมฉันเจ็บแบบนี้ล่ะ หา?”
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวผมรักษาให้ก็ได้ หลับตาก่อน”
“หลับทำไม?”
“เดี๋ยวยาเข้าตา”
“อ่ะ...โอเคๆ” พูดจบตาสีเขียวก็หลับลง เซนอมยิ้มก่อนจะ.....
............................
.....................
.............
“เพี้ยงงงงง...”
“เห?...”
ตาสีเขียวลืมขึ้นมา ฉายแววงุนงงอย่างปิดไม่มิด...คิดถูกแล้วล่ะที่คิดว่าแฮร์รี่เหมือนลูกแมว “นี่นายทำอะไร?”
“ก็เป่าไง ก็มันไม่ร้ายแรงถึงขั้นต้องใช้ยาจริงๆนี่นา....ทีนี้โอเครึยัง หายเจ็บแล้วนะ?”
“ไม่หายหรอก” แฮร์รี่พูด หน้ามุ่ยเหมือนเดิม ยกมือขึ้นลูบผมอีกครั้ง “แต่ก็ไม่ต้องทำแบบเมื่อกี๊อีกเลยนะ....ยิ้มอะไร? จะไม่ไปแล้วใช่ไหมไอ้งานเลี้ยงเนี่ย! ยืนยิ้มอยู่ได้!!”
“ไปครับ ไปๆ” เซนพูด กุลีกุจอไปเปิดประตูให้แฮร์รี่ที่เดินกระแทกเท้าตึงๆออกไป....
อืม...ทำไมเขาถึงยิ้มค้างจนแฮร์รี่โมโหน่ะหรอ?
ก็หน้าแดงขนาดนั้น ไม่ให้ยิ้มไม่ได้แล้วล่ะ
.
.
มาทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กเล็กๆไปได้ เป่าเพี้ยงเนี่ยนะ!~ เจ้าบ้าเซนเอ้ย!!
แฮร์รี่ยกมือขึ้นลูบผมอีกครั้ง...เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะลูบผมหรอก เขาตั้งใจจะลูบหน้าผากที่โดนกระแทกซึ่งโดนผมปิดอยู่ต่างหาก
เซนบ้าแต่เขาบ้ากว่า
บ้าที่รู้สึกว่าไอ้เพี้ยงเมื่อกี๊...มันอบอุ่นดี..อบอุ่นค้างมาถึงตอนนี้เลยด้วยซ้ำไป
.
.
.
.
“นี่นายแน่ใจนะว่าตัวเองอยู่ในงานเลี้ยง...ฉันว่าสภาพนายเหมือนเพิ่งตะลุยสงครามอิรักมามากกว่า”
“เงียบไปน่า ไนออล นายไม่เป็นฉันนายไม่มีทางรู้สึกแล้ว...ฉันรำคาญจะแย่อยู่แล้วนะ รู้ไหม?”
“โอ๋ๆ อย่าทำหน้างอแบบนั้นสิคร้าบบบ คุณหนูสไตล์...เดี๋ยวสาวๆเผ่นหมดน้า”
“สาวแบบนี้ฉันไม่ต้องการหรอก ไนออล เผ่นไปให้หมดเลยยิ่งดี....ฉันเองก็อยากเผ่น....”
“จุ๊ๆ....”
“จุ๊อะไร นายเป็นจิ้งจกหรือบอดี้การ์ด!”
“บอดี้การ์ดครับ”
“แล้วจุ๊ทำไม!”
“แค่อยากจะจุ๊เตือนว่ายังเผ่นไม่ได้ครับ ตอนนี้ยังไม่ครบสองชั่วโมงเลย....เพิ่งผ่านไปชั่วโมงเดียวเอง”
“เอออออออออ ไม่ต้องย้ำ!” แฮร์รี่ตวัดเสียงใส่เซนอย่างอารมณ์บูด “ไนออล ไปหาไรกินเพิ่มกันเหอะ.....ฉันเห็นมีผู้หญิงคนนึงกำลังปรี่เข้ามา เผ่นไปหาไรกินท่าทางจะดี”
“โอเค ฉันยินดีไปไหนไปกันกับนายเสมอ”
“โดยเฉพาะไปหาของกินใช่ไหมล่ะ?”
“แหมมมม เพื่อนใคร รู้ใจกันดีจัง” ไนออลพูดแล้วยิ้มกว้างใส่แฮร์รี่ที่ส่งยิ้มกว้างกลับมา คุณหนูสองคนลุกขึ้นไปที่โต๊ะบุฟเฟ่ต์ ทิ้งบอดี้การ์ดสองคนให้ยืนมองตามหลัง พอไปถึงที่ซุ้มคานาเป้ (แฮร์รี่เดินมามุมนี้เพราะเล็งแล้วว่าไม่มีสาวๆรักเธอเสนอตัวอยู่ซักคน) แฮร์รี่ก็ดึงมือไนออลที่กำลังจะเอื้อมไปคว้าของกินไว้ ไนออลหันมามอง
“ที่ว่าไปไหนไปกันน่ะ หมายถึงทุกๆที่ใช่ไหม?”
เมื่อเห็นตาสีเขียวของเพื่อนรักทอประกายต่างไปจากเดิม ไนออลก็รู้ทันทีว่าในหัวของแฮร์รี่ตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ก็อย่างว่านะ...เพื่อนรักกันนี่นา ไนออลดึงมือของตัวเองออกจากมือแฮร์รี่ หยิบคานาเป้มาถือ (เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ!) ก่อนจะถามเพื่อนตัวแสบ “จะชวนฉันไปไหนล่ะ?”
“ไปป่ะล่ะ?”
“โหหหหห....มีครั้งไหนที่นายชวนแล้วฉันไม่ไปหรอ? ถามทำม๊ายยยยย.....” ไนออลว่ายิ้มๆ ก่อนจะกัดคานาเป้เข้าปาก พลางเคี้ยวด้วยท่าทางอร่อย แฮร์รี่ยิ้มกว้างกว่าเก่า
“สรุปว่าไป?”
ไนออลไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นทำท่าเครื่องหมายถูก แฮร์รี่ยกมือขึ้นกอดคอเพื่อนเบาๆก่อนจะกระซิบ “งั้น......เราหนีออกจากงานนี้กันเต๊อะ!”
ไนออลไม่ตอบ....แต่ยกมือขึ้นทำเครื่องหมายถูกอีกที
.
.
.
.
“วันนี้ท่าทางคุณหนูของเราคงจะอยู่ครบสองชั่วโมงนะ” เซนพูดกับเลียมที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเอง สายตามองไปยังแผ่นหลังของแฮร์รี่กับไนออลที่ยืนอยู่หน้าซุ้มคานาเป้นานมาก.....สงสัยคงมีหลายแบบให้เลือกละมั้ง
“อื้อ ดูทั้งสองคนเป็นเด็กดีมาก...อืม....ฉันคิดว่าดีเกินไปซะด้วยซ้ำ”
“ดีเกินไป? หมายความว่าไง??”
“ก็ดีมากไปจนแปลกๆน่ะซี.....” เลียมว่า มีแววกังวลเล็กๆในน้ำเสียง ทำให้เซนต้องหันไปมอง....ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ แต่พอเขาหันไปปุ๊ป เลียมก็รีบก้มหน้าปั๊ป...ท่าทางคล้ายๆแฮร์รี่ตอนเจอลูอีใหม่ๆอย่างไงก็ไม่รู้....มองอยู่อย่างนั้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเงยหน้ามาพูดต่อกับเขา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมเงย เขาเลยเบือนสายตากลับไปที่เดิมพลางพูด
“ไม่แปลก....” แล้วก็เงียบไปซะงั้น....เงียบแบบผิดปกติจนเลียมต้องเงยหน้าขึ้นมอง เซนไม่ได้มองมาทางเขา แต่มองตรงไปยังซุ้มคานาเป้....ที่ไร้เงาคุณหนูทั้งสองแล้ว เลียมพูดต่อจากเซนที่เงียบไปทันทีว่า
“.....ที่ทั้งสองคนจะหายไปแล้ว”
Continue -11-
Talk
หายไปนานมากอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ! แบบว่าช่วงนี้ยุ่งหัวหมุนจริงๆ ต้องไปค้างคืนที่นู่น ที่นี่ กว่าจะฟื้นสังขารกลับมาอัพได้นี่ก็กินเวลาไม่ใช่เล่นเลย ขอโทษอีกทีนะคะ T T
แล้วก็ต้องขอโทษเป็นครั้งที่สาม เพราะอาทิตย์หน้าไรท์ก็เปิดเรียนแล้ววววว ภาระและสิ่งที่ต้องทำคงเพิ่มขึ้นมาในอัตราเร็วเท่ากับการหนีของแฮร์รี่กับไนออล (ไม่เกี่ยวแล้ว!) อาจจะไม่มีเวลามานั่งคิด นั่งพิมพ์ฟิคนานๆแบบนี้อีก ดังนั้นแต่ละตอนก็อาจจะทิ้งช่วงห่างกันเพิ่มมากขึ้น TAT แต่ก็จะไม่ทิ้งเรื่องนี้ค่ะ! ว่างเมื่อไหร่จะปั่นแล้วรีบส่งมาให้ทุกคนอ่านด่วนที่สวด การอ่านเม้นเป็นหนึ่งในกกำลังใจที่ใช้ดำรงชีพของเรา 555555
เวิ่นมาซะยาว เพื่อเป็นการไถ่โทษ เราจะบอกว่าตอนหน้าจะเริ่มมีแอ๊คชั่นเบาๆ (ย้ำว่าเบาๆ) มาให้อ่านเล่นๆกันเป็นตอนแรกแล้ว!~ ฉะนั้น อย่าลืมแวะมาชมดูอ่านกันนะฮ๊าบบบบ
ขอบคุณทุกอ่านทุกคลิ๊ก เอ็นจอยวิทฟิคค่าาาาา~
ความคิดเห็น