ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : " เสี้ยววินาทีที่ฟ้าลิขิต "
เรื่องราวของหนุ่มสาวสองคน
ปิลันธนี จารยะพันธุ์ , 31 ปี, ผู้ช่วยฝ่ายโปรโมชั่น
ทะนง พาณิชพัฒน์ , 29 ปี, พิธีกรถ่ายทอดสดสารคดี
" ถ้าเราไม่หันมาเจอกันวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ "
เรื่องบังเอิญของหนุ่มสาวที่เคยเจอกันในคอร์สเรียน แต่ไม่เคยคุยกันเลย จนมาพบกันโดยบังเอิญที่ตลาดนัด เพียงเสี้ยววินาทีที่สายตาสองคู่ประสานกันก่อเกิดตำนานรักจนถึงวันนี้
ต๊อด
" ตอนนั้นบริษัทส่งต๊อดไปอบรมเพิ่มเติม ส่วนเขาก็สมัครไปอบรมคอร์สเดียวกัน จริงๆแล้วเราก็เคยเจอกัน แต่ไม่เคยคุยกัน วันหนึ่งไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดแถวๆ หลังกระทรวงการคลัง ตอนกำลังจะกลับก็บังเอิญนึกได้ว่าลืมกระเป๋าสตางค์ เลยจะเดินกลับไปเอากระเป๋า จังหวะนั้นไม่รู้ว่านึกยังไง อยู่ๆ ก็หันหลังไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมา ก็เลยเจอกันพอดี แล้วเขาก็ขอเบอร์โทรศัพท์ไป
" พอตอนเย็นเขาก็ส่งข้อความมาชวนไปดูหนัง แต่เราตอนนั้นไม่สนใจก็เลยไม่ได้ตอบ จากนั้ันอีก 3-4 วัน เขาก็โทรมาชวนไปกินข้าว ตอนนั้นคิดว่าไปแบบเพื่อน ก็เฉยๆ จนตอนหลังเขาบอกว่าวันนั้นเราทำตัวเป็นเพื่อนมาก ทำเป็นไม่รู้ว่าเขาจีบ
" วันนั้นต่างคนต่างก็ไม่ประทับใจกัน จนเขาโทรมาคุยอีก คราวนี้คุยกันแล้วรู้สึกดีประทับใจมากขึ้น จากนั้นก็คุยกันเรื่อยๆ แล้วเราก็โทรไปขอเพลงเขา เพราะเขาจัดรายการวิทยุ เขาก็เปิดให้แล้วส่งข้อความมาบอกว่าเปิดให้แล้วนะ บางทีพอรู้ว่าเราฟังรายการอยู่เขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าเพลงนี้ Just for you นะ
" เริ่มชอบเขาเพราะไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เคยมาจีบ เขาเป็นคนจริงจัง มีความรับผิดชอบ เขาแก้ไขปัญหาต่างๆให้เราได้ ดูแลเราได้
" ตอนที่จีบเราใหม่ๆ เขาก็เป็นตัวของตัวเองมาก ไม่เคยตามใจเราเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ตอนจีบใหม่ๆ ต้องตามใจเรา
" เขาบอกว่าเขาจะไม่ทำอะไรที่ถ้าอีกหน่อยเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเขาทำไม่ได้ เราก็เห็นว่าเขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเรา
" คบกันได้ 2 ปีกว่าๆ เขาก็บอกว่าถ้าเรายังดีๆ กันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็แต่งงานกันได้แล้วนะ ตอนแต่งงานยังลอกประโยคที่เคยจดไว้ในไดอารี่ตัวเองมาใส่ไว้ในการ์ดแต่งงานด้วยเลย เขียนว่า ' ถ้าเราต่างไม่หันมามอง... พลาดทุกอย่างเพียงเสี้ยววินที ถ้าไม่ถูกขีดไว้ให้เป็นอย่างนี้ เราจะมาเจอกันได้ไหม ? '"
บุ้ง
" ผมสนใจเธอมาตั้งแต่ตอนอบรมแล้วล่ะ รู้สึกว่าคาแร็กเตอร์เธอไม่เหมือนใคร น่าสนใจ แต่ตอนนั้นไม่เคยคุยกัน เพราะเธอไปกับเพื่อนๆ ส่วนผมไปคนเดียว เลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย แต่ก็แอบชอบเธอมาตลอด
" ที่แปลกคือผมก็รู้จักน้องคนที่ไปอบรมกับเธอ สืบรู้มาบ้างว่าเวลาว่างเธอชอบไปนั่งที่ร้านไหนประจำ ผมก็จะแอบไปนั่งร้านนั้นเผื่อว่าจะได้เจอกัน แต่ก็ไม่เคยเจอ ไม่ว่าจะไปที่ไหนที่รู้ว่าเธอชอบไปก็ไม่เคยเจอเลย
" จนกระทั่งรู้สึกว่าคงจะไม่ได้เจอกันแล้ว พอดีวันนั้นผมไปทำธุระแถวกรมประชาสัมพันธ์ เสร็จธุระแล้วก็ไปเดินเล่นแถวๆ นั้น อยู่ๆ ก็บังเอิญหันหน้าไปเจอเธอพอดี ผมก็ดีใจและงงด้วยว่ามาเจอกันที่นี่ได้ยังไง ที่ที่ไม่คิดว่าจะเจอกลับเจอ แต่ที่ที่ตั้งใจไปเจอกลับไม่เคยเจอ เลยรีบขอเบอร์โทรเธอไว้เลย
" พอคบกันสักพักหนึ่งเห็นว่าเราเข้ากันได้ ผมก็เลยขอเธอแต่งงาน ทุกวันนี้ผมยังเชื่อว่าต้องมีเหตุให้เราหันมาเจอกันในวันนั้น "
credit: marie claire
.
ปิลันธนี จารยะพันธุ์ , 31 ปี, ผู้ช่วยฝ่ายโปรโมชั่น
ทะนง พาณิชพัฒน์ , 29 ปี, พิธีกรถ่ายทอดสดสารคดี
" ถ้าเราไม่หันมาเจอกันวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ "
เรื่องบังเอิญของหนุ่มสาวที่เคยเจอกันในคอร์สเรียน แต่ไม่เคยคุยกันเลย จนมาพบกันโดยบังเอิญที่ตลาดนัด เพียงเสี้ยววินาทีที่สายตาสองคู่ประสานกันก่อเกิดตำนานรักจนถึงวันนี้
ต๊อด
" ตอนนั้นบริษัทส่งต๊อดไปอบรมเพิ่มเติม ส่วนเขาก็สมัครไปอบรมคอร์สเดียวกัน จริงๆแล้วเราก็เคยเจอกัน แต่ไม่เคยคุยกัน วันหนึ่งไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดแถวๆ หลังกระทรวงการคลัง ตอนกำลังจะกลับก็บังเอิญนึกได้ว่าลืมกระเป๋าสตางค์ เลยจะเดินกลับไปเอากระเป๋า จังหวะนั้นไม่รู้ว่านึกยังไง อยู่ๆ ก็หันหลังไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันมา ก็เลยเจอกันพอดี แล้วเขาก็ขอเบอร์โทรศัพท์ไป
" พอตอนเย็นเขาก็ส่งข้อความมาชวนไปดูหนัง แต่เราตอนนั้นไม่สนใจก็เลยไม่ได้ตอบ จากนั้ันอีก 3-4 วัน เขาก็โทรมาชวนไปกินข้าว ตอนนั้นคิดว่าไปแบบเพื่อน ก็เฉยๆ จนตอนหลังเขาบอกว่าวันนั้นเราทำตัวเป็นเพื่อนมาก ทำเป็นไม่รู้ว่าเขาจีบ
" วันนั้นต่างคนต่างก็ไม่ประทับใจกัน จนเขาโทรมาคุยอีก คราวนี้คุยกันแล้วรู้สึกดีประทับใจมากขึ้น จากนั้นก็คุยกันเรื่อยๆ แล้วเราก็โทรไปขอเพลงเขา เพราะเขาจัดรายการวิทยุ เขาก็เปิดให้แล้วส่งข้อความมาบอกว่าเปิดให้แล้วนะ บางทีพอรู้ว่าเราฟังรายการอยู่เขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าเพลงนี้ Just for you นะ
" เริ่มชอบเขาเพราะไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เคยมาจีบ เขาเป็นคนจริงจัง มีความรับผิดชอบ เขาแก้ไขปัญหาต่างๆให้เราได้ ดูแลเราได้
" ตอนที่จีบเราใหม่ๆ เขาก็เป็นตัวของตัวเองมาก ไม่เคยตามใจเราเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ตอนจีบใหม่ๆ ต้องตามใจเรา
" เขาบอกว่าเขาจะไม่ทำอะไรที่ถ้าอีกหน่อยเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเขาทำไม่ได้ เราก็เห็นว่าเขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเรา
" คบกันได้ 2 ปีกว่าๆ เขาก็บอกว่าถ้าเรายังดีๆ กันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็แต่งงานกันได้แล้วนะ ตอนแต่งงานยังลอกประโยคที่เคยจดไว้ในไดอารี่ตัวเองมาใส่ไว้ในการ์ดแต่งงานด้วยเลย เขียนว่า ' ถ้าเราต่างไม่หันมามอง... พลาดทุกอย่างเพียงเสี้ยววินที ถ้าไม่ถูกขีดไว้ให้เป็นอย่างนี้ เราจะมาเจอกันได้ไหม ? '"
บุ้ง
" ผมสนใจเธอมาตั้งแต่ตอนอบรมแล้วล่ะ รู้สึกว่าคาแร็กเตอร์เธอไม่เหมือนใคร น่าสนใจ แต่ตอนนั้นไม่เคยคุยกัน เพราะเธอไปกับเพื่อนๆ ส่วนผมไปคนเดียว เลยไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย แต่ก็แอบชอบเธอมาตลอด
" ที่แปลกคือผมก็รู้จักน้องคนที่ไปอบรมกับเธอ สืบรู้มาบ้างว่าเวลาว่างเธอชอบไปนั่งที่ร้านไหนประจำ ผมก็จะแอบไปนั่งร้านนั้นเผื่อว่าจะได้เจอกัน แต่ก็ไม่เคยเจอ ไม่ว่าจะไปที่ไหนที่รู้ว่าเธอชอบไปก็ไม่เคยเจอเลย
" จนกระทั่งรู้สึกว่าคงจะไม่ได้เจอกันแล้ว พอดีวันนั้นผมไปทำธุระแถวกรมประชาสัมพันธ์ เสร็จธุระแล้วก็ไปเดินเล่นแถวๆ นั้น อยู่ๆ ก็บังเอิญหันหน้าไปเจอเธอพอดี ผมก็ดีใจและงงด้วยว่ามาเจอกันที่นี่ได้ยังไง ที่ที่ไม่คิดว่าจะเจอกลับเจอ แต่ที่ที่ตั้งใจไปเจอกลับไม่เคยเจอ เลยรีบขอเบอร์โทรเธอไว้เลย
" พอคบกันสักพักหนึ่งเห็นว่าเราเข้ากันได้ ผมก็เลยขอเธอแต่งงาน ทุกวันนี้ผมยังเชื่อว่าต้องมีเหตุให้เราหันมาเจอกันในวันนั้น "
credit: marie claire
.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น