ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Question to you ( 2U )

    ลำดับตอนที่ #4 : The Second Question : WHAT : WHAT IS YOUR NAME?

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 55



    คำถามที่สอง What เป็นคนละเรื่องกับ Who นะคะ

    Enjoy Reading ค่ะ 




    --------------------


    WHAT IS YOUR NAME?









                     “เชิญครับ” การ์ดร่างใหญ่หน้าผับหรูเปิดประตูเชื้อเชิญให้กับร่างบางขาประจำด้วยความอ่อนน้อม ใบหน้าหวานพยักพเยิดเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเซงๆเหมือนทุกๆวัน เสียงดนตรีที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นแต่สำหรับเขาแล้วมันก็แค่เสียงที่เปิดปกคลุมความเงียบเท่านั้น


                    “เหมือนเดิมนะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยถามร่างบางที่นั่งลงด้านหน้าตนเอง ใบหน้าหวานพยักรับก่อนมองไปรอบๆแล้วถอนหายใจออกมา


                    “ดื่มหนักแบบนี้ดูแลสุขภาพบ้างก็ดีนะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มวางเครื่องดื่มสีสวยลงตรงหน้าของร่างบาง ปากอิ่มยกยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเท้าคางมองหน้าบาร์เทนเดอร์สุดหล่อที่ตนมักเจอเป็นประจำ ใบหน้าหล่อเหลาที่ดึงดูดสายตาเขาได้มากทีเดียว


                    “ก็อยากเจอชางมินทุกวันนี่นา” บาร์เทนเดอร์หนุ่มสุดหล่อนามว่าชางมินถึงกับหลุดขำออกมา เมื่อได้ยินคำพูดหวานจากร่างบางตรงหน้า ดวงตาหวานเยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าทำให้ใครๆหลงใหลได้ไม่ยาก


                    “เจอกันที่อื่นก็ได้นี่ครับ” ชางมินพูดเพราะเป็นห่วงร่างบาง เครื่องดื่มที่ร่างบางสั่งมาดื่มทุกวันก็ใช่ว่าจะเบาเสียเมื่อไหร่ แถมการมาในทุกค่ำคืนของร่างบางเวลากลับออกไปมักจะไม่ใช่เพียงแค่ร่างบางคนเดียวอีกต่างหาก แต่จะให้เขาไปยุ่งเรื่องลูกค้ามากก็คงจะไม่ได้ เขาเพียงได้แค่เป็นเพื่อนคุยที่ดีในยามที่เขาอาจต้องการก็เท่านั้นเอง


                    “ได้จริงน่ะหรอ” ยืดตัวเข้าไปใกล้กับชางมิน ใบหน้าหวานอมยิ้มมองชางมินอย่างมีเลศนัย แทนที่ชางมินเล่นด้วยกับเขากลับหัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น


                    “เหอะ” แล้วร่างบางก็ต้องผละตัวออกมา มือเรียวคว้าเอาแก้วที่บรรจุน้ำสีสวยยกขึ้นดื่มจนหมด ใบหน้าหวานเหยเกแม้รสชาติจะหวานแต่ออกจาดคอนิดๆเมื่อส่วนผสมของมันแรงใช่ย่อย


                    “วันนี้คนเยอะจัง” มองไปรอบๆในบรรยากาศที่แสนน่าเบื่อแต่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย


                    “เป็นช่วงนักท่องเที่ยวมาลงแล้วนี่ครับ คุณยูชอนเที่ยวจนลืมวันลืมคืนไปแล้วหรอเนี่ย” ร่างบางเบ้ปากคว้าแก้วค็อกเทลแก้วใหม่ขึ้นดื่มไม่สนใจคำกระแนะกะแหนของชางมิน ดวงตาหวานมองไปรอบๆ ผู้คนมากมาย รอยยิ้มท่ากลางความสนุกสนานในวงเหล้า ชายหญิงหลายคู่ที่กระซิบกระซาบทำความรู้จักกันใหม่ๆ


                    “เฮ้ยพี่ไปทางนั้นดิ สาวเยอะดีนะ” เสียงของใครบางคนตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดอยู่ ร่างบางตื่นจากภวังค์ความคิดจนต้องหันไปมองบังเอิญสบตาเข้ากับชายหนุ่มร่างใหญ่ที่หย่อนตัวนั่งลงถัดจากเขาไป
    ร่างบางส่งยิ้มบางๆให้ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับเครื่องดื่มแก้วใหม่ที่บาร์เทนเดอร์สุดหล่อวางลงตรงหน้า


                    “พวกนายไปเถอะ ฉันไม่ชอบคนเยอะ” ชายหนุ่มร่างใหญ่บอกอย่างนั้นสายตายังชำเลืองมองร่างบางด้านข้างอยู่อย่างสนใจ ตาคมมองมือเรียวที่ค่อยๆยกแก้วจรดริมฝีปากอิ่มก่อนจะค่อยๆละเลียดน้ำสีสวยลงลำคอยาวระหง


                    “พี่ยุนโฮ
    !” มือใหญ่ของรุ่นน้องตบเข้าที่แขนแกร่งจนเขาตื่นจากภวังค์ที่เหมือนกับตัวเองถูกตรึงเอาไว้กับภาพเมื่อครู่

     
                   “งั้นพวกผมไปตรงนู้นนะพี่ ถ้าเหงาก็เดินไปได้นะ” รุ่นน้องร่างใหญ่ยักคิ้วหลิ่วตาให้ยุนโฮ ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองร่างบางแล้วเริ่มสั่งเครื่องดื่มให้กับตนเอง
    วิสกี้ชั้นดีตระกูล JW ถูกรินลงในแก้วใสที่บรรจุน้ำแข็งอยู่สองสามก้อน


                    “การกินวิสกี้ให้ได้รสชาติดีที่สุดน่ะ” ร่างบางที่อยู่ด้านข้างหันมาพูดกับเขา ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าหวานที่ส่งยิ้มมาให้ตนเอง มือเรียวขาวยกส่งสัญญาณให้ชางมินหนุ่มบาร์เทนเดอร์เป็นที่รู้กัน แก้วใสบรรจุวิสกี้เพียวๆวางลงตรงหน้าร่างบาง พร้อมกับแก้วใสอีกแก้วที่บรรจุน้ำแข็งสองก้อน


                    “เราต้องอมน้ำแข็งไว้แล้วรอให้มันละลายเพื่อให้เกิดความเย็นในปาก” ว่าแล้วร่างบางก็ยกแก้วน้ำแข็งขึ้นส่งก้อนน้ำแข็งเล็กพอดีคำเข้าปาก อมยิ้มหันไปมองทางยุนโฮ


                    “พอละลายแล้วทีนี้เราก็ค่อยๆจิบวิสกี้ลงไป” ยุนโฮมองทุกการกระทำอย่างหลงใหล น้ำเสียงแหบพร่าแต่น่าฟัง ใบหน้าหวานชวนฝัน ลงมาที่ลำคอระหง หุ่นอ้อนแอ้นบอบบาง ผิวขาวน่าสัมผัส


                    “อา..ดีสุดๆไปเลยล่ะ ลองดื่มแบบนี้ดูนะครับ ของดีๆต้องดื่มให้สมกับที่เป็นของดี” แนะนำจบก็ยกของตนเองดื่มเข้าไปจนหมดแก้ว ไม่รอละเลียดอย่างเคย


                    “ผมดื่มไม่บ่อยนักหรอกครับ” ร่างบางหันไปมองยุนโฮ ชายหนุ่มพูดออกมาก่อนจะค่อยๆจิบวิสกี้ของตนเอง


                    “แต่ไว้ผมจะไปลองดู” ยุนโฮยิ้มให้กับร่างบาง สองคนยิ้มให้กัน มือขาวส่งสัญญาณให้กับบาร์เทนเดอร์อีกครั้ง ชายหนุ่ม
    เดินมารินวิสกี้ให้กับร่างบาง


                    “ดูเหมือนคุณจะไม่ใช่คนที่นี่” ร่างบางพูดพร้อมจิบวิสกี้ลงคอ
    คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง


                    “ก็ถ้าคุณเป็นคนที่นี่คุณคงรู้จักผมและก็คงไม่นั่งให้ห่างจากผมแบบนี้แน่ๆ” ร่างบางว่ายิ้มๆ ยุนโฮไม่รอช้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเดิมย้ายไปนั่งตัวที่ติดกับร่างบาง


                    “ชอง ยุนโฮ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ร่างบางเท้าแขนมองคนที่ย้ายมานั่งใกล้ๆตนเอง ก่อนจะมองที่มือใหญ่ที่ยื่นมาขอทำความรู้จัก


                    “ปาร์ค ยูชอนครับ” มือบางยกขึ้นไปจับทำความรู้จักนิ้วเรียวไล้ไปตามหลังมือของชายหนุ่มอย่างมีความหมายบางอย่าง ก่อนจะผละมือออก สองคนนั่งคุยกันด้วยระยะที่ใกล้กันกว่าเดิม เวลาผ่านไปยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ เสียงเพลงยิ่งดังเร้าให้ผู้คนสนุกสนานไปกับบรรยากาศในผับ จากที่นั่งคุยกันอยู่ปกติตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นกระซิบเพื่อให้ได้ยินอีกคนพูด อาจจะเพราะเสียงเพลงที่ดังขึ้น หรือไม่ก็อาจจะอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาสองคนใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงหัวเราะต่อกระซิกที่มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ได้ยิน ดวงตาคมจับจ้องที่ใบหน้าหวาน ปากอิ่มเอื้อนเอ่ยขยับช้าๆ มือบางไล้ไปตามแขนกำยำเริ่มที่จะทำความคุ้นเคยกับร่างกายของคนตรงหน้ามากขึ้น 


                    “ผมคงเมาแล้ว” มือเรียวไต่จากแขนขึ้นไปคล้องที่รอบคอของยุนโฮ ชายหนุ่มโน้มหน้าลงไปกระซิบอะไรบางอย่างแต่มันเรียกเสียงหัวเราะจากร่างบางออกมาได้ไม่ยาก สองคนจ้องมองเหมือนพูดอะไรกันสักอย่างผ่านดวงตา

     

     

     

     

     

                    “อือ...” เสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ใบหน้าคมซุกไซร้อยู่ที่ลำคอยาวระหง มือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อบางลูบไล้ไปทั่วกายอ้อนแอ้นแต่เนียนน่าสัมผัส ปากหยักได้รูปจูบลงไปที่กลีบเนื้ออิ่มสีวาว คนตัวบางเองก็ไม่ยอม มือเรียวพยายามปลดตะขอกางเกงของชายหนุ่มร่างใหญ่ลงอย่างรีบร้อย ปากยังพัวพันกันและกันดูดดื่มความหอมหวานภายใน


                    “อือ...ยุนโฮ” ครางออกมาเมื่อชายหนุ่มโน้มหน้าลงมากัดที่ยอดอกผ่านเนื้อผ้าบาง สองมือเรียวขยุ้มอยู่ที่กลุ่มผมหนา สองแขนกำยำอุ้มตัวของร่างบางขึ้น สองขาเรียวเกี่ยวกะหวัดคนตัวใหญ่ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่ห้องนอน ร่างบางถูกวางลงบนเตียงอย่างเบามือ ก่อนที่ร่างใหญ่จะค่อยๆทาบทับตามลงไป


                    เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นร่างกายเปล่าเปลือยนอนบดเบียดแนบเนื้อกันอย่างรุ่มร้อน เหงื่อกาฬชื้นไปทั่วทั้งตัว ลมหายใจรดรินกันและกัน กลีบเนื้อนุ่มถูกดูดกลืนครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางไต่ไปตามร่างกายกำยำที่น่าลุ่มหลง ผิวสีแทนตัดกับผิวของร่างกายนั้นช่างดูดีเหลือเกิน ดวงตาคมกล้าที่จ้องมองลงมาที่เขานั้นทำให้เขารู้สึกอยากจะถูกครอบครองมากกว่านี้


                    “ยูชอน” กระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา สะโพกหนาเน้นย้ำแกนกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรัดรึงครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนาลูบไล้กายบางที่เขาอยากจะสัมผัสตั้งแต่เห็นครั้งแรก เขาไม่รู้ว่าทำไมคนใต้ล่างถึงดึงดูดให้เขาสนใจได้มากขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีเขาก็ไม่สามารถที่จะถอนสายตาจากร่างบางตรงหน้าได้แล้ว


                    “นายดูดีมาก” จูบไปทั่วลาดไหล่ผอมบางที่แค่จะสัมผัสเขายังต้องทำเพียงแผ่วเบากลัวว่าคนใต้ร่างจะแตกหักไป เสียงหัวเราะน่ารักดังออกมาเมื่อตนเองถูกชม มือบางเลื่อนไปเกี่ยวลำคอหนา


                    “ทั้งๆที่ผมไม่ได้ใส่อะไรเนี่ยน่ะหรอ” พูดจากระเซ้าทำหน้าน่ารักน่าหยิก ยุนโฮแนบริมฝีปากลงบนกลีบเนื้อที่เจรจาคำน่ารักออกมาอย่างเอ็นดู ดูดกลืนแลกหยาดน้ำของกันและกัน มือใหญ่สอดเข้าไปใต้ร่างกอดกับร่างบางแนบแน่น เสียงครางแห่งความสุขของสองคนผลัดกับหัวเราะต่อกระซิกกันดูท่าว่าค่ำคืนที่ว่ายาวนานอาจจะไม่เพียงพอ

     

     

     

     

     


                    ร่างใหญ่บนเตียงขยับกายใต้ผ้าห่ม ยืดแขนอ้ากว้างพาดกับที่นอนกว้าง มือหนาแตะลงบนพื้นที่นอนก่อนจะค่อยๆลืมตามองเมื่อคนข้างกายหายไป ร่างใหญ่ค่อยๆยันกายลุกขึ้นมองไปรอบๆห้อง


                    “หึ”สองมือยกขึ้นลูบใบหน้าตัวเอง เมื่อคืนช่างมีความสุข ใบหน้าสวยของชายหนุ่มร่างบอบบาง เสียงครางหวานพึงพอใจในยามร่วมรักนั้นมันช่างน่าจดจำจริงๆ


                    “โดนฟันแล้วทิ้งหรอวะเนี่ย” ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาปากหยักยกยิ้มอย่างไม่คิดอะไรมาก ก็เข้าใจอยู่หรอกนะไอ้
    one night stand คืนเดียวจบอะไรนั่นอ่ะแต่เขาคงไม่อาจลืมความสุขที่มีกับคนเมื่อคืนได้จริงๆ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบชุดคลุมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระร่างกายกลับที่พักเสียที

     

     

     

     

     

                    “โอเค ผมรู้แล้ว พี่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กำลังจะออกไปกินข้าวอ่ะ ไว้คุยกันนะ” ร่างบางตัดบทกับคนปลายสายก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย มือเรียวหยิบแว่นดำขึ้นมาสวมยืนรอลิฟท์ เสียงเตือนของลิฟท์เมื่อถึงชั้นหมาย ใบหน้าหวานภายใต้แว่นดำเงยหน้าขึ้นก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อพบว่าใครอยู่ในลิฟท์


                    “คุณ
    !


                    “ยูชอน” ร่างสูงในลิฟท์เองก็ตกใจไม่แพ้คนร่างบางที่ก้าวเข้ามา ยูชอนถอดแว่นออกกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย


                    “คุณพักที่นี่
    ?” ร่างสูงพยักหน้า


                    “โลกกลมไปมั้ยเนี่ย” พูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าหวานดูไม่ได้ดีใจอะไรนักที่เจอเขา ผิดกับร่างสูงที่ยิ้มซะกว้างอย่างปิดไม่มิด
    เขาดีใจที่ได้เจอกับยูชอนอีก นี่ถือว่าเป็นโชคดีมากทีเดียวทั้งๆที่เขาเพิ่งกลับเข้ามาแล้วเพื่อนโทรมาตามให้ออกไปทานข้าวข้างนอกด้วยกัน ไม่งั้นคงไม่รู้แน่ๆว่าพักอยู่ที่เดียวกันนี้


                    “ไม่คิดบ้างหรอว่าอาจจะเป็นพรมลิขิตก็ได้นะ” โน้มหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างใบหู ยูชอนถึงกับสะดุ้งตัวออกห่าง


                    “ให้มันน้อยๆหน่อย ผมไม่คิดจะสานสัมพันธ์ต่อกับคนที่มีอะไรกันแค่คืนเดียวหรอกนะ” เชิดหน้าเขยิบตัวออกห่าง

                    “งั้นเราก็มาทำให้มันไม่ใช่แค่คืนเดียวซิ” พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าหายูชอนทันที ทำเอายูชอนถอยหลังรูดไปติดลิฟท์ มือเรียวยันแผ่นอกกว้างเอาไว้


                    “ได้กันแล้วทิ้งไปแบบนี้ นิสัยไม่ดีเลยน๊า” จมูกโด่งไล้ที่แก้มใส ร่างสูงไม่คิดจะอายใครแม้จะเป็นที่สาธารณะก็ตามก็ใครอยากให้ร่างบางทำตัวน่ารักไม่เลือกเวลา ใบหน้างองอนเชิดอย่างนั้นมันน่าแกล้งนักเชียว แถมยังทำเป็นว่าไม่อยากจะสานสัมพันธ์ต่อกับเขาอีกน่ะ หึ รู้จักคนอย่างชอง ยุนโฮน้องไปซะแล้วเด็กน้อย


                    “คุณจะบ้าหรอ
    ! นี่มันในลิฟท์นะ!” กำปั้นเล็กดันคนตัวใหญ่ออกห่างแต่ไร้ผล


                    “จำชื่อกันไม่ได้ด้วยซ้ำหรอเนี่ย มันน่าจับไปทำโทษจริงๆ ทั้งที่เมื่อคืนเรียกชื่อฉันซะหวานเชียว” ปากอิ่มเม้มแน่น ก่อนจะฟาดกำปั้นเล็กลงบนอกแกร่งกล้ามเนื้อแน่นนั่น เสียงลิฟท์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นหมาย ยุนโฮผละตัวออก ยูชอนรีบเดินจ้ำหนีออกจากลิฟท์ทันที ยุนโฮมองตามก่อนจะก้าวเดินตามออกไปติดๆ


                    “รอกันก่อนซิยูชอน” เมื่อไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ยุนโฮจึงต้องเอ่ยรั้งไว้พร้อมกับยึดแขนเรียวดึงคนตัวบางให้หยุดเดิน ปากอิ่มสีอ่อนเชิดขึ้นท้าทายสายตา ยุนโฮยิ้มออกมาส่ายหน้าไล่ความคิดลามกออกจากหัว พร้อมก่นด่าตัวเองในใจว่าทำไมถึงได้คิดแต่เรื่องพรรค์นี้อยู่ได้ตลอดเลย รู้สึกไม่เป็นตัวเองจริงๆ


                    “มีอะไรอีก ผมบอกแล้วไง วัน ไนท์ สแตนน่ะ
    ! ไม่เข้าใจหรอ” ยูชอนหันไปตวาดใส่คนที่รั้งตนเองเอาไว้ ใบหน้าหวานแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ยุนโฮได้แต่เงียบแล้วกำแขนเรียวนั้นเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาทำหน้าสลดลง ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวาน


                    “เหอะ” ร่างบางแค่นลมหายใจออกมา


                    “ถึงเมื่อคืนผมจะเป็นฝ่ายชวนคุณก็เถอะนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะง่ายกับคุณทุกครั้ง” บอกกับยุนโฮ แววตาดูจริงจังจ้องมองชายหนุ่มที่หล่อเหลาถูกตาต้องใจในแรกเห็น


                    “ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะยูชอน”


                    “ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วตามมาอีกทำไม
    !


                    “ผมก็แค่ อยากเป็นเพื่อนกับยูชอนเท่านั้นเอง” พูดเสียงอ่อยๆ พยายามดึงคนตัวบาให้มาประชิดตัวเอง


                    “ผมมีเพื่อนเยอะแล้ว
    !” ว่าแล้วจะสะบัดตัวจะเดินหนีแต่ยุนโฮก็ดึงตัวยูชอนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดซะอย่างนั้น ท่าทางเจ้าเล่ห์แต่หน้าตาเศร้าๆมันช่างไม่เข้ากันเลยจริงๆ


                    “ผมเป็นคนต่างเมือง ไม่รู้จักอะไรที่นี่สักอย่าง ยูชอนเป็นเพื่อนผมหน่อย...นะครับ” ยูชอนเบือนหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากมองหน้าตาหล่อๆทำอ้อนวอนตนเอง ก่อนจะเห็นสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมามองมาทางตนเอง


                    “ปล่อยผมก่อนได้มั้ย คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว” เสียงอ้อมแอ้มกับกิริยาท่าทางน่ารัก ทำเอายุนโฮอดยิ้มออกมาไม่ได้ ร่างสูงปล่อยให้คนตัวบางออกจากอ้อมกอดแต่ยังจับมือของยูชอนเอาไว้


                    “เฮ้อ
    ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ ถ้าคุณไปเที่ยวอีกคืนนี้นะ ขี้คร้านจะมีแต่คนมาขอพาคุณไปทุกที่” ยูชอนพูดออกมาประโยคที่ราวกับว่าจะเอ่ยชมคนตรงหน้าว่าหน้าตาดีจนใครๆก็ต้องเข้าหา ทำให้ยุนโฮขำออกมา ร่างบางเลิกคิ้วหลิ่วตามองคนตัวใหญ่ที่หัวเราะ


                    “แต่ผมอยากได้ยูชอนมากที่สุดนี่นา ไหนๆบังเอิญเจอกันเมื่อคืน แถมเราก็ยังมีความสุขมากด้วยกัน บังเอิญมาพักที่เดียวกันอีก ถือซะว่าเราชะตาต้องกันแล้วกันนะ” โน้มหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ


                    “เหอะ
    ! โบราณชะมัด” ยูชอนหันหน้าหนี พยายามจะเดินออกห่างแต่มือหนากลับไม่ยอมปล่อยมือเขาออก ใบหน้าหวานมองคนที่ยืนทำหน้าเว้าวอนอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจออกมา


                    “เอาเถอะ คุณคงอยู่ไม่นานนักหรอก ควงคนหล่อแบบคุณสักพักก็คงไม่เป็นไร” ทำหน้าทำตาทะเล้นน่ารักทำเอาหัวใจคนฟังเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว


                    “แล้วนี่ยูชอนจะไปไหนล่ะ ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย” มือบางยกขึ้นส่ายไปมา


                    “ผมจะไปหาอะไรกิน คุณกินอะไรรึยังล่ะ ไปทานด้วยกันเลยมั้ย” ไม่รอให้เสียเวลา ยูชอนทำหน้าที่เป็นเพื่อนที่ดีตั้งแต่วินาทีนี้กันเลยเชียว แล้วมีหรือที่ยุนโฮจะปฏิเสธชายหนุ่มรีบพยักหน้าเดินตามการนำพาของร่างบางไปอย่างเต็มใจ


                    “ร้านนี้ก็อร่อยนะ” สองคนพากันเดินตามย่านร้านอาหารแสนอร่อย เข้าร้านนั้นออกร้านนี้พากันกินเป็นว่าเล่น  ร่างบางทำตัวเป็นไกด์นำเที่ยวก็ไม่ปาน ทั้งแนะนำสอนวิธีกินให้กับหนุ่มตรงหน้าคอยดูแลเป็นอย่างดี จนมารู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็ลาลับเข้าค่ำมืดเสียแล้ว


                    “โอยยยย อิ่มจนพุงจะแตก” ยุนโฮมองคนที่เดินเคียงข้างตัวเองยิ้มระบายไปทั่วใบหน้าหล่อ บดจะเซ็กซี่ก็เกินใจจะอดทน พอบดจะไร้เดียงสาก็น่าเอ็นดูซะจริงๆ


                    “มองอะไร ยังไม่อิ่มหรอ” เอียงคอถามน่ารักทีเดียว


                    “อิ่มซิ ยูชอนพาไปทานตั้งเยอะ ทำไมจะไม่อิ่มล่ะ แน่นไปหมดแล้วเนี่ย” พูดไปก็ลูบท้องตัวเองไป ยูชอนกอดอกยิ้มมองคนหล่อ ก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าเลื่อนตัวเข้าไปแนบชิด สองแขนเรียวเลื่อนขึ้นโอบรอลำคอหนา


                    “งั้น เราไปออกกำลังกันหน่อยดีมั้ย” ว่ายิ้มๆ สายตาดูเจ้าเล่ห์มากทีเดียว ยุนโฮหรี่ตาลงมองอย่างสงสัยก็ไหนว่าแค่คืนเดียวไง


                    “ว่าแต่ บอกชื่อผมอีกทีได้มั้ย” ยุนโฮถอนหายใจ มองใบหน้าน่ารักที่ลอยไปมา คือทั้งวันมานี่ที่เรียกคุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้นี่เพราะจำชื่อเขาไม่ได้อย่างนั้นซินะ


                    “ทั้งๆที่เมื่อคืนเรียกชื่อเราซะหวานแท้ๆ” พูดลอยหน้าลอยตา ร่างบางผละวงแขนออกจากคนตัวใหญ่แต่ก็ถูกลำแขนแกร่งรั้งเอวบางเอาไว้ ใบหน้าคมโน้มลงไปแนบชิดก่อนกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพาใจสั่น

                    “ฉันชื่อยุนโฮ ชอง ยุนโฮ คราวนี้ก็จำไว้ให้ดีล่ะ คุณปาร์ค ยูชอน” ร่างบางหันไปมองหน้าร่างสูงไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะจำทั้งชื่อและสกุลของเขาได้ สองตาประสานมองกัน ยุนโฮไม่เข้าใจตัวเองเท่าไร่ อะไรทำให้เขารู้สึกถูกดึงดูดขนาดนี้จากคนๆนี้และอะไรทำให้เขาปล่อยคนนี้ไปไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขามีอะไรกันในคืนเดียวแต่เขารู้สึกถูกใจยูชอนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในผับ ดวงตาที่แฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ใบหน้าหวานชวนมองที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปได้ ร่างกายหอมหวานเชิญชวน 





    TBC.....


    คำถามข้อที่สอง หวังว่าทุกคนจะไม่งงกันนะค๊า


    ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×