ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Heart in the Cage [CHANKAI]

    ลำดับตอนที่ #8 : Heart in the Cage 8

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.27K
      106
      8 เม.ย. 61

    Heart in the Cage

    -8-






    หลังหายป่วยดีแล้วสองสามวัน จงอินเก็บของลงกระเป๋าเดินทางใบเล็กในเช้าวันหนึ่ง ไม่ได้วางแผนว่าจะไปกี่วันจึงเตรียมพร้อมขนทั้งงานและคอมพิวเตอร์ขึ้นรถไปด้วย เสื้อผ้าเตรียมไปไม่เท่าไหร่กับพวกของใช้จำเป็น บอกแม่บ้านไว้ว่าคงไม่อยู่หลายวัน เผื่อถ้าแม่กลับมาแล้วถามหาก็ให้บอกไปอย่างนั้น จากนั้นก็ขับรถออกมา


    จุดหมายที่เขากำลังไปไม่ไกลสักเท่าไหร่ รถช่วงเช้าบนถนนแน่น ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง


    จงอินโทรบอกคนที่เขาตั้งใจมาหาว่ามาถึงแล้ว คนคนนั้นจึงลงมาช่วยเขาขนของลงจากรถ


    ว่าไงน้องรัก” คิม จงแดทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เป็นรอยยิ้มอบอุ่นที่จงอินคุ้นเคยดี เขายิ้มตอบ

    พี่ ผมเอาคอมมาด้วย ขนไปตั้งห้องพี่ได้รึเปล่า”

    ได้…แต่นายกะมาอยู่กี่วัน โดนไล่ออกจากบ้านมาเหรอ”

    ไม่ได้โดนไล่แต่หนีออกมา ยังไม่รู้จะกวนพี่กี่วัน”

    โตป่านนี้ยังหนีออกจากบ้าน”


    จงแดรู้ว่าจงอินพูดเล่น เขาเข้าไปช่วยยกของ เดินนำไปที่ลิฟต์พากันขึ้นไปยังห้องของเขา ถามไถ่กันมาตลอดทาง พวกเขาไม่ได้เจอกันนาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดระยะห่าง สำหรับจงอิน จงแดเป็นคนที่เขาสนิทด้วยที่สุด เหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆที่คอยช่วยเหลือเขาหลายๆอย่าง รู้จักกันสมัยที่อยู่โรงเรียนเดียวกันตอนมัธยมปลาย สนิทกันจากการพูดคุยเรื่องงานศิลปะในชมรม พวกเขาชอบวาดรูป ชอบอ่านการ์ตูน มีอะไรมาแลกเปลี่ยนกันเสมอๆ แต่ที่ทำให้สนิทกันมากเป็นเพราะจงแดมีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ เวลาจงอินมีปัญหาจึงเลือกที่จะปรึกษาจงแดเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่ปัญหาครอบครัว ไปจนถึงเรื่องรสนิยมทางเพศ


    ล่าสุดที่ได้คุยกันจงแดรับรู้แค่ว่าจงอินย้ายไปอยู่บ้านพ่อเลี้ยงคนใหม่โดยไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากขัดใจแม่มากมาย ตั้งแต่ย้ายไปอยู่ก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร เขาติดตามการ์ตูนที่จงอินเขียนอยู่ตลอด รู้ว่าจงอินทำงานหนัก แต่นั่นไม่น่าจะใช่สาเหตุที่จงอินมาหาเขา ไม่ใช่ปัญหาธรรมดาที่มาเพื่อปรึกษาพูดคุยแล้วก็กลับ จงอินขนข้าวของมาเหมือนหนีออกจากบ้านมาจริงๆ คงจะหนีปัญหาอะไรบางอย่าง


    พี่รีบไปทำงานรึเปล่า” ทั้งสองคนวางของในห้อง คอนโดของจงแดกว้างขวาง แต่ไม่เท่าคอนโดของใครบางคนที่เขาเคยอยู่ พอคิดถึงเรื่องคอนโดก็ยังหน่วงในอก เขาพยายามปัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป

    ไม่รีบเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวก็ต้องเข้าไป นายจะอยู่ที่นี่หรืออยากไปด้วยกันไหม ไปนั่งเล่นที่ออฟฟิศพี่ก็ได้ เผื่อจะเปลี่ยนใจอยากมาทำงานด้วยกัน”

    วันนี้ขอไปกวนพี่ดีกว่า แต่จะดึงผมไปทำงานด้วยคงยาก”

    ก็ชวนไปอย่างงั้น รู้ว่าชอบทำงานคนเดียว ทำตัวติสไปวันๆ” จงแดว่า เขารู้ดีกว่าใครว่าจงอินเป็นคนอย่างไร มั่นใจในตัวเองสูงขนาดนั้น เก่ง แถมยังดื้อ ได้มาทำงานด้วยกันคงปวดหัว


    ออฟฟิศของจงแดอยู่ใกล้ๆ ขับรถพาจงอินมาด้วยกันไม่ถึงสิบนาที ปกติเขาจะขี่จักรยานไปทำงาน เขาชอบเพราะมันสะดวกกว่า เป็นคนเรียบง่ายสบายๆเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากที่จงอินรู้จัก จงอินเคยมาตอนที่จงแดเปิดบริษัทใหม่ๆครั้งหนึ่ง เริ่มต้นด้วยกันเช่าสำนักงานเล็กๆบนตึกนี้ ได้กลับมาอีกครั้งถึงเพิ่งรู้ว่าบริษัทเติบโตขึ้นมาก ขยายพื้นที่เป็นสองชั้น พนักงานหลายสิบคนเดินสวนทักทาย จงแดยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี ขอบคุณหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินเอากาแฟมาให้ เธอมองจงอิน ยิ้มถามว่าจงอินต้องการอะไรหรือไม่ จงแดจึงสั่งให้แทน


    บริษัทของจงแดเป็นสตูดิโอผลิตการ์ตูนแอนิเมชัน เขาเริ่มต้นจากการทำงานคนเดียว ทำในสิ่งที่เขารักและหลงใหล แต่ความฝันของเขามันใหญ่ เขาจึงค่อยๆสร้างทีมทำงานขึ้นมา ขยายต่อยอดออกมาเรื่อยๆ จงอินไม่แปลกใจเลย เพราะเขาเชื่อว่ามันจะเติบโตได้มากขึ้นกว่านี้อีก


    ปีหน้านะ อย่างที่คุยกันไว้ ห้ามขายการ์ตูนของนายให้สตูดิโออื่นเด็ดขาดนะเว้ย”

    พี่จองไว้ตั้งแต่ผมยังไม่ออกเล่มแรก ผมจะไปขายคนอื่นได้ไง” ถ้าเขาขายคงมีได้ตัดขาดกันแน่ๆ จงอินนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานรุ่นพี่ หมุนเก้าอี้ไปมา มองออกไปนอกห้องทำงานเห็นพนักงานบางคนนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ใจจดใจจ่อ สวมหูฟัง ในจอมีตัวการ์ตูนเคลื่อนไหวอยู่กลับไปกลับมา ต่างคนตัดขาดจากโลกภายนอก สภาพยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อคืนยังไม่ได้กลับบ้าน

    อยากออกไปเดินดูอะไรก็ได้นะ เดี๋ยวให้แทยงพาไป หรือถ้ารอได้พี่ขอเคลียร์งานแป๊บนึงจะพาเดินดู”


    จงอินพยักหน้า เขาไม่ได้เร่งรีบไปไหนจึงนั่งรอ มองเหม่อพลางคิดอะไรไปเรื่อย ที่นี่มีคนเยอะแยะให้เขาสังเกต ทำให้เขาคิดถึงเรื่องอื่นๆได้นอกจากคนคนนั้น การที่ชานยอลมาที่บ้านทุกวันรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าเขารอการมาถึงโดยไม่รู้ตัว อยากจะไม่สนใจ แต่ใจก็นึกคาดเดาไปเองว่าวันนี้ชานยอลจะมากี่โมง จะอยู่กี่ชั่วโมง จะกลับไปตอนกี่โมง อย่าว่าแต่ตัดใจ ทำให้ไม่คิดถึงสักวันยังทำไม่ได้เลย อยากจะทำใจแข็งเดินออกไปไล่ แต่ก็กลัวการเจอหน้ากันจะทำในสิ่งตรงกันข้าม ทำในสิ่งคุ้นชินในการเจอกันทุกครั้งตลอดระยะเวลาหลายเดือน


    จงอินถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว อีกคนเหลือบตาจากจอคอมพิวเตอร์มองเงียบๆ สงสัยว่ามีอะไรหนักอกหนักใจนัก เขาไม่ค่อยเห็นจงอินเก็บอะไรมาคิดมาก นี่ไม่ใช่ท่าทีหงุดหงิดรำคาญเวลามีคนมากวนใจด้วย ดูเหมือนคนคิดไม่ตกมากกว่า จงแดยังเดาไม่ออกว่าเรื่องอะไร


    เขาชวนจงอินไปดูงานในแผนกต่างๆของบริษัทหลังเคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว เขาถามความคิดเห็นจงอินหลายอย่าง พูดคุยเรื่องงานกันไม่หยุด ทั้งโปรเจคที่กำลังทำ และโปรเจคการ์ตูนของจงอินที่จะทำเป็นการ์ตูนแอนิเมชัน พวกเขาลงมาทานอาหารกลางวันด้วยกัน หลังจากนั้นจงอินก็คิดว่าจะหาอะไรทำแถวๆนี้ไม่รบกวนการทำงานของจงแดจึงขอตัวแยกออกมา


    ที่ใกล้ๆบริษัทมีร้านกาแฟอยู่หลายร้าน จงอินเลือกร้านที่ดูพลุกพล่านน้อยที่สุด สั่งเครื่องดื่ม เลือกโต๊ะริมหน้าต่างตรงมุมในสุด จากนั้นก็นั่งฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ เขาพกสมุดสเก็ตติดตัวมาเล่มหนึ่ง นั่งวาดภาพพลางมองออกไปข้างนอก เมื่อก่อนเขาทำแบบนี้บ่อยๆเป็นการพักผ่อน ชอบอยู่คนเดียว คิดอะไรคนเดียว ไม่รู้จักความเหงา


    ด้วยรูปลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้เขาดึงดูดสายตาผู้คน ลูกค้าในร้านบางคนจ้องมองจงอินไม่วางตา เขามองผ่าน เป็นเรื่องธรรมดาที่เจอจนชิน จงอินไม่รู้ตัวว่าตัวเขาต่างจากเมื่อก่อน ไม่บริหารเสน่ห์ด้วยการเล่นหูเล่นตาหรือยิ้มให้ ดูเป็นคนเย็นชาที่มีเสน่ห์เข้าถึงยากในอีกแบบ


    สองสามชั่วโมงผ่านไป จงอินออกจากร้านกาแฟ เขาหาโรงหนังที่อยู่ใกล้ที่สุด ไปดูหนังสักเรื่อง แล้วคิดว่าจะกลับไปหาจงแดที่บริษัท


    ทั้งๆที่ทำอะไรคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน แต่เวลาที่อยู่คนเดียว จงอินรู้สึกเหงา เขารู้จักชานยอลหลายเดือนแต่ก็ไม่ถึงปี ทำไมช่วงเวลาไม่ถึงปีนั้นถึงได้มีอิทธิพลกับเขามากนัก ชานยอลทำให้เขาเคยตัวที่มีคนขับรถพาไปไหนมาไหน ชอบพาเขาออกไปข้างนอก ทำกิจกรรมร้อยแปดอย่างในวันที่เขาพักจากการทำงาน ช่วงไหนที่เขายุ่งก็จะมาเฝ้าอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ พอคิดถึงช่วงเวลานั้นแล้ว คิดถึงเหตุผลว่าชานยอลทำเพราะอะไร หัวใจแข็งแรงแค่ไหนก็ยังรู้สึกเจ็บ



    อกหักเหรอ”


    จงแดเปิดปากถาม หลังผ่านการสังเกตมาห้าวัน จงอินปิดปากเงียบ บ่อยครั้งถอนหายใจ ไม่เอ่ยถามไถ่ปรึกษาเขาสักคำเดียว


    จงอินไม่ตอบโดยทันที เขานั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ อ่านนิตยสาร ขณะที่จงแดกำลังเข้าครัวทำมื้อเย็น พอได้ยินคำถามจงอินก็เงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ คิดหาคำอธิบาย


    ผมเหมือนคนอกหักเหรอ” จงอินถามกลับ

    เหมือน…ดูซึมๆ ใจลอย” จงแดใส่เส้นเฟตตูชินีลงหม้อ เปิดตูเย็นหยิบเห็ดออกมาแล้วเอามาหั่นตรงหน้าจงอิน

    จะว่าอย่างงั้นก็ได้มั้ง”


    พอได้ยิน จงแดก็มองอีกคนด้วยความประหลาดใจ เมื่อก่อนนี้เป็นเขาที่ต้องคอยเตือนว่าอย่าทำเล่นไปทั่ว ไม่คิดว่าจะเห็นจงอินจริงจังเรื่องแบบนี้กับใครสักคนขึ้นมา เป็นคนแบบไหนที่ทำให้จงอินหยุดเล่นได้ เขานึกสงสัย


    หนีเขามาเหรอ”

    อืม”

    มีอะไรก็ระบายมาเถอะน่า ถ้าพี่ช่วยไม่ได้ก็อาจสบายใจขึ้นบ้างก็ได้”

    อยากรู้ล่ะสิ”


    จงอินยิ้มอย่างคนรู้ทัน ทำเหมือนจะไม่บอก ก้มหน้าดูหนังสือต่อ แต่แล้วอยู่ๆก็เริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง จงแดเงียบฟังระหว่างทำอาหารจนเอามาเสิร์ฟ นั่งทานข้าวเย็นด้วยกันโดยมีเรื่องราวของจงอินเป็นบทสนทนาหลัก


    เขายังมาหานายอยู่เหรอ” จงแดถามถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น

    เกือบทุกวัน”

    แล้วนายทำยังไง”

    ไม่ได้ทำอะไร เขาไม่ได้ลงมาหา”

    ยังโกรธอยู่รึเปล่า”


    จงอินส่ายหน้า ความโกรธอยู่กับเขาชั่วครู่เท่านั้น ที่หลงเหลืออยู่คือความเสียใจ ถ้าว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว โดนทำแบบนี้ควรตัดขาดกันไป วิธีแก้ปัญหาง่ายที่สุด แต่มันกลับไม่เรียบง่ายแบบนั้น ตอนนี้มันยุ่งเหยิง ไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิดอยากเป็น ที่ชานยอลมาหา มันทำให้สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำล้มเหลว นานวันเข้า เขากลัวตัวเองทนไม่ไหว


    อยากลบความทรงจำตัวเอง ลืมคนคนนั้นไปเลย”

    จงอิน…ถ้านายไม่รักเขามากๆคงไม่มีวันพูดแบบนี้ออกมาหรอก”

    พี่ว่าผมโง่ไหม”

    จะโง่ได้ยังไง ใครจะรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เท่าที่ฟังเขาก็รักนายเหมือนกัน เขาก็คงไม่รู้ ถ้าเขารู้ว่าสุดท้ายนายจะโกรธก็คงไม่รับคำท้าตั้งแต่แรก”

    แล้วผมควรทำยังไง”

    นายรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร แค่ไม่กล้าทำ”

    ทำไมพี่รู้ดีจังวะ” จงแดหัวเราะเบาๆ เรื่องแบบนี้มันธรรมดาจะตายไป

    ในมุมคนนอกก็รู้ดีแบบนี้แหละ”

    แสดงว่าเคยมีประสบการณ์มาแล้ว”

    มีแต่นายที่อ่อนหัด เรื่องอื่นล่ะเก่งนัก ตอนหวั่นไหวกับเขาก็คงไม่รู้ตัวล่ะสิ”

    จะว่ารู้ก็รู้…เวลาอยู่กับเขามันดีกว่าอยู่คนเดียว”

    ลองดูใหม่ก็ไม่น่าเสียหายหรอก ถ้าเขาตั้งใจหลอกจริงๆ พี่ว่านายน่าจะรู้ตั้งแต่แรก”

    นี่พูดเพื่อให้ผมกลับไปรึเปล่า”

    พูดเพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้น อยากอยู่นี่ก็ตามสบาย แต่อย่าเฉาตายไปก่อนล่ะ”


    จงอินเก็บจานไปล้างให้ ส่วนจงแดเข้าห้องนอนของตัวเองไป ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว ให้มีเวลาได้คิด แต่เขาก็ยังไม่ตัดสินใจทำอะไร ยังไม่กลับไปจนกระทั่งผ่านไปหลังจากวันที่คุยกันอีกสามวัน



    ในวันแรกที่ชานยอลเห็นจงอินไม่อยู่บ้าน เขาไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านขนข้าวของไปด้วย แค่คิดว่าจงอินอาจไปธุระข้างนอก รอจนดึกดื่นไม่เห็นกลับมาก็เริ่มร้อนรุ่มในใจ คิดไปต่างๆนานาว่าอยู่ที่ไหน นอนกับใคร ทำไมถึงไม่กลับบ้าน


    ชานยอลจินตนาการไปจนนึกหึงหวง โกรธทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์ ฉุนเฉียวอยู่เป็นวัน วันที่สองเมื่อจงอินยังไม่กลับมาเขาจึงถามหากับแม่บ้านว่าจงอินไปไหน พอรู้ว่าจะไม่อยู่หลายวันจากความโกรธก็กลายเป็นความทรมานใจที่เขาไม่รู้อะไรเลย ได้แต่เฝ้ารอเท่านั้น


    มีอยู่วันหนึ่งที่เซฮุนกลับมาเห็นชานยอลนั่งรออยู่ในรถ เซฮุนจึงบอกให้แม่บ้านมาเปิดบ้านจงอินให้ชานยอลเข้าไป เซฮุนบอกให้เขาอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจงอินจะกลับมา ไม่กลัวหรอกว่าจงอินจะว่าเขาที่ถือวิสาสะให้ชานยอลเข้ามา จงอินรู้ว่าเซฮุนมีสิทธิ์สั่งให้ทำอะไรก็ได้ในบ้านหลังนี้ ถ้าไม่จำเป็นเซฮุนจะไม่เข้ามาวุ่นวายยุ่งเกี่ยว แต่นี่มันก็เป็นความผิดของเขาด้วยที่ทำให้พี่ชายเป็นบ้าเทียวไปเทียวมาที่นี่ทุกวัน ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกผิด ถ้าช่วยอะไรได้บ้างเขาก็ยินดีช่วย


    ชานยอลพาตัวเองเข้าไปอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชั้นบน แค่มานอนรอบนโซฟาในบ้านแทนนอนบนรถ ความรู้สึกของการเฝ้ารอไม่ได้ทรมานต่างกัน เขากลัวจงอินจะหนีไปทำใจไกลๆ พอไม่เจอเขา จงอินก็จะลืม จะไม่รู้สึกอย่างที่เคยรู้สึก


    หนึ่งอาทิตย์กว่าที่จงอินหายไปยาวนานที่สุด ชานยอลเกือบจะถอดใจ ถ้านานกว่านี้เขาไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร แต่โชคดีที่จงอินกลับมา


    ชานยอลนึกว่าตัวเองหูฝาดในทีแรกที่ได้ยินเสียงรถจงอินขับเข้ามากลางดึก เขาลุกขึ้นไปยืนหน้าประตูกระจก พอเห็นว่าเป็นรถจงอินจริงๆจึงเปิดประตูออกไปข้างนอก จงอินต้องเห็นเขาแน่นอน จะโกรธ ไม่อยากเห็นหน้ากันยังไงก็ตาม เขาจะต้องคุยกับจงอินให้ได้


    เขากำลังจะเดินเข้าไปหาเมื่อประตูรถเปิดออก แต่เมื่อเห็นว่าไม่ใช่จงอินก็ชะงักเท้า มองชายแปลกหน้าด้วยสายตาดุดัน ชายคนนั้นเมื่อเห็นเขามีท่าทีตรงกันข้าม ส่งยิ้มมาให้ ไม่สะทกสะท้านสายตาของชานยอลเลย เดินอ้อมไปเปิดประตูให้จงอิน เขาเพิ่งเห็นว่าจงอินกำลังหลับอยู่ตอนที่ผู้ชายคนนั้นเขย่าตัวปลุก จงอินงัวเงีย ออกมาจากรถตามแรงดึง เซนิดหน่อย


    จงแดจับรุ่นน้องของเขาให้ยืนดีๆ อยากกลับคอนโดเต็มแก่เพราะเขาก็ง่วงเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าไปดื่มกับจงอินแล้วอีกฝ่ายเมามายร้องบอกกับเขาว่าอยากกลับบ้านคงไม่ต้องพากันขนของกลับมาส่งดึกดื่นป่านนี้


    สายตาชานยอลทำจงแดร้อนๆหนาวๆเขาจึงยิ้มให้ตามประสาคนมนุษยสัมพันธ์ดี ตอนแรกเขานึกภาพผู้ชายที่จงอินตกหลุมรักไม่ออก แต่พอเห็นผู้ชายตัวใหญ่คนนี้ค่อยเข้าใจขึ้นมาหน่อยว่าเป็นคนแบบไหน มีส่วนเหมือนจงอินคือแรงดึงดูดทางเพศ มีเสน่ห์แบบอันตราย คงจะดึงดูดกันและกัน หลงเสน่ห์กันเองจนถอนตัวไม่ขึ้น น่าจะเป็นอย่างนั้น


    จงแดบอกลา รุ่นน้องเขางอแงตามประสาคนเมานิดหน่อยบอกว่าจะเดินออกไปส่งทั้งที่ตัวเองแค่ยืนยังเซ เขายืนยันว่ากลับเองได้ ปล่อยมือจากจงอินเมื่อชานยอลเข้ามาประคองแทน แท็กซี่ที่เขาเรียกมารับจอดรออยู่หน้าบ้าน เขาก้มหัวให้ชานยอลเล็กน้อยโดยไม่ได้พูดอะไรและกลับไป


    เมื่อเหลือกันอยู่สองคน ชานยอลจูงแขนจงอินให้เข้าบ้านไปด้วยกัน คิดไว้ว่าถ้าจงอินสะบัดออกก็คงไม่ปล่อย ถ้าด่าว่าไล่ให้กลับก็คงไม่กลับ แต่ผิดคาดที่จงอินเดินโงนเงนตามเขามาไม่ต่อต้าน ได้กลิ่นเหล้าบางเบาจากตัว คงเมาจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเขาก็ได้


    ชานยอลไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอะไรในตอนนี้กันแน่ แต่ไวกว่าความคิด เมื่อก้าวพ้นประตูบ้านเข้ามา เขาก็ดึงจงอินเข้ามากอด โอบแขนรัดจนคนตัวบางๆแทบกลืนเป็นร่างเดียวกับเขา


    จงอินเกือบร้องไห้ เขากลั้นเอาไว้ หลับตาซึมซับความรู้สึกเวลาที่ถูกคนคนนี้กอด หัวใจเต้นแรง อึดอัดทรมาน ขณะเดียวกันก็มีความสุข


    เขากอดตอบ ไม่ได้แน่นเท่าที่ชานยอลกอดเขา แต่แค่แรงกอดบางเบาแค่นั้นชานยอลก็ดีใจแล้ว ยืนนิ่งกันจนชานยอลพอใจคลายแรงออก จงอินซบตรงอกไม่เงยหน้าขึ้น แสร้งทำเมามาย หลับตาเมื่อชานยอลเรียกชื่อเขาเบาๆ เมื่อโดนจับใบหน้าให้เงยขึ้นก็ค่อยๆปรือตามอง ชานยอลมองเขา เรียกชื่อเขาอีกครั้ง จงอินไม่ตอบรับ ยังเสียใจอยู่ แต่ก็คิดถึงจนไม่อยากปฏิเสธ


    จงอินหลอกชานยอลจนเชื่อว่าเขากำลังเมา และชานยอลก็ฉวยโอกาสด้วยการกดจูบลงมาบนริมฝีปาก จูบหนึ่งครั้ง ผละออกมามอง จูบครั้งที่สอง ผละออกเล็กน้อย ก่อบจูบครั้งที่สาม จงอินเลื่อนมือไปโอบรอบคอเอาไว้ เผยอริมฝีปากขึ้นให้จูบครั้งที่สี่ร้อนแรงขึ้น ชานยอลดันแผ่นหลังจงอินเข้ากับกระจก


    ขณะนั้นลิ้นของพวกเขาก็พบกัน เกี่ยวพัน ดูดดื่ม ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่ยอมผละออกจากกัน











    #FicHeartintheCage



    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×