ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    A Lot Like 88 [Sekai,etc...]

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] I Wanna Be Yours [พี่การ์ด x 88]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 58


    I Wanna Be Yours

    [พี่การ์ด x 88]

     

    มารับหน่อย’

     

    คยองฮุนเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมาตอนดึกดื่น เขาเกือบจะหลับไปแล้ว แต่แสงไฟหน้าจอมือถือที่สว่างขึ้นและเสียงแจ้งเตือนทำให้เขาต้องหยิบขึ้นมาดู

     

    อยู่ไหน’

     

    เขาส่งข้อความถามกลับไป ไม่นานชื่อสถานที่ก็ถูกส่งมา

     

    รออยู่ตรงนั้นแหละ’

     

    เขากดส่งแล้วลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปรับศิลปินเอาแต่ใจที่อยู่ในความดูแลของเขาตามคำขอ

     

     

    กลางดึกสงัดรถบนถนนบางตา แสงไฟเป็นดวงๆตามรายทางดูเปลี่ยวและอันตราย คยองฮุนเร่งความเร็วขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศแบบนี้ นึกเป็นห่วงคนที่กำลังรอเขาอยู่

     

    ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงสถานที่นัดพบ เขามองเห็นแล้วว่าเด็กคนนั้นอยู่ตรงไหน แถมยังมีคนแปลกหน้าสองคนที่ยืนตรงนั้นด้วย ท่าทางเหมือนกำลังมาหาเรื่อง คยองฮุนเหยียบเบรกจนมิดแล้วรีบลงจากรถ มุ่งตรงไปที่พวกนั้นก่อนจะกระชากคอเสื้อหนึ่งในนั้นให้ออกห่างจากเด็กของเขา

     

    อะไรวะ!” หนึ่งในนั้นโวยวายหันมามอง คยองฮุนยืนนิ่ง รูปร่างสูงใหญ่และท่าทางของเขาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความกดดันและคุกคาม ยืนจ้องกันนิ่งๆสักพัก หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พากันถอยกลับ ยอมรามือจากไปง่ายๆ

     

    คยองฮุนถอนหายใจที่ไม่ถึงกับต้องลงไม้ลงมือ ไม่อยากเหนื่อยเปล่า เขาอยากจะเอาเรื่องกับคนตรงหน้ามากกว่า

     

    มาทำอะไรอยู่นี่” เขาถามคิมจงอิน นักร้องบอยแบนด์ที่กำลังโด่งดัง ไม่รู้ทำไมถึงไม่คิดระวังตัว กล้าออกมาข้างนอกคนเดียวดึกๆดื่นๆ

    เดินเล่น”

    ตอนนี้เนี่ยนะ”

    ตอนแรกมากับแทมิน แต่มันต้องกลับก่อน” คยองฮุนหันมองซ้ายมองขวา พวกเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากริมแม่น้ำ พื้นที่เปิดโล่งอย่างนี้อาจจะมีปาปารัซซี่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าโดนถ่ายรูปเข้า

    ขึ้นรถก่อนค่อยคุยกัน”

     

    จงอินทำตาม เดินไปขึ้นรถของคนที่มีหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด แล้วก็นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาเป็นตุ๊กตาเพราะกลัวพูดออกมาแล้วจะโดนเทศน์ เขาขี้เกียจฟัง จงอินค่อยๆเอื้อมมือไปกดกระจกลง อยากรับลมเพื่อคลายความอึดอัดสักนิด

     

    อย่าเพิ่งไปส่งผมที่หอได้รึเปล่า” จงอินเอ่ยหลังจากที่ไม่มีใครพูดอะไรมาสักพัก ไม่ได้หันมามองคนที่กำลังขับรถ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาหรี่ปรือจากสายลมเย็นๆที่ตีพัด

    ทำไม”

    ก็ยังไม่อยากกลับ”

    พรุ่งนี้มีงานตอนบ่ายใช่ว่าจะเถลไถลได้”

    พี่จู้จี้กว่าผู้จัดการอีกรู้ตัวรึเปล่า”

    เรื่องของนายแล้วกันถ้าอย่างนั้น” จงอินถอนใจ ทำไมต้องทำตัวเคร่งเครียดตลอดเวลาก็ไม่รู้ คอยแต่จะห่วงนั่นห่วงนี่อยู่ตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่จงอินทั้งชอบและไม่ชอบ เขาไม่ชอบที่หลายๆครั้งเป็นห่วงมากจนเกินเหตุ แต่ก็ชอบที่ความเป็นห่วงนี้ของคยองฮุนเพราะเขาได้รับมันมากกว่าคนอื่นในวง เขารู้สึกได้ และเพราะอย่างนี้จงอินก็เลยรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ ไม่ค่อยเกรงใจที่จะเรียกหานอกเวลางานแบบนี้

    เรื่องของผม…งั้น…คืนนี้ขอค้างกับพี่ได้ไหม” คยองฮุนนิ่งแต่ใจถึงเต้นแรงขึ้นมา เขาหันไปมองเด็กที่นั่งอยู่ข้างๆแว่บหนึ่ง

    มีปัญหาอะไรกับเพื่อนรึเปล่า”

    นิดหน่อย” จงอินโกหก จริงๆแล้วเขาไม่ได้มีปัญหากับใคร แต่เขาอยากเจอคยองฮุนต่างหาก เขาอยากรู้ อยากทดสอบอะไรบางอย่าง

    ถึงมีก็ควรจะกลับหอ เดี๋ยวจะไปส่ง”

    ผมไม่อยากกลับจริงๆ”

    อย่าดื้อ”

    พูดเหมือนผมเป็นเด็ก”

    ดูไม่ได้ต่างเลย” คยองฮุนยิ้มนิดๆ จงอินดูไม่ได้ต่างเลยจริงๆ แถมยังเป็นเด็กเอาแต่ใจ ต้องการคนเอาใจ…ต้องการคนดูแล

    ตกลงจะให้ผมไปค้างด้วยไหม”

     

    บรรยากาศเงียบลงอีกครั้งหลังคำถาม คยองฮุนคิดวุ่นวายไปหมด จริงๆแล้วเขาควรจะไปส่งจงอินที่หอ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่จงอินก็ทำให้มันยากกับคำขอร้อง ทั้งยากที่จะตอบรับ และยากที่จะปฏิเสธ

     

    จงอินอดทนรอ มองเหม่อออกไปข้างนอกเรื่อยๆ ต่างคนต่างคิด ผ่านไปสักพักเขาก็ยิ้ม เพราะนี่ไม่ใช่เส้นทางกลับหอ

     

    สุดท้ายก็แพ้เขาอยู่ดี

     

    จงอินหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความหาซูโฮว่าวันนี้เขาจะไม่กลับหอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง คยองฮุนเหลือบมองเล็กน้อย มองใบหน้าด้านข้างของอีกคนที่กำลังจ้องหน้าจอโทรศัพท์ ขณะที่มองเขาก็คิดถึงหน้าที่การงาน คิดถึงความเหมาะสมที่ดูไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่ แต่ถึงรู้ทั้งรู้ พอจงอินยื่นโอกาสให้ได้ใกล้ชิด เขาก็โยนเหตุผลต่างๆทิ้งไปหมดจนได้

     

    มองอะไรครับ” จงอินถาม ยังคงจ้องมือถือ แต่รู้ว่ามีสายตาคยองฮุนจ้องอยู่ทั้งที่น่าจะมองถนน

     

    คยองฮุนหันกลับไปมองข้างหน้า ไม่ได้ตอบ หักเลี้ยวพวงมาลัยเมื่อถึงคอนโดพอดี

     

    ผมไม่ได้มากวนพี่ใช่ไหม” เมื่อคยองฮุนเปิดประตูห้องให้จงอินก็ถาม อยู่ๆก็ลังเลใจ

    มาถามอะไรตอนนี้”

    ไม่อยากให้ผมกลับแล้วล่ะสิ” คยองฮุนถอนใจแรงๆ ตั้งแต่ไปรับจงอินไม่รู้ว่าเขาถอนหายใจไปกี่รอบแล้ว

    อาบน้ำเปลี่ยนชุดไป จะได้นอน” จงอินพยักหน้าอย่างว่าง่าย มาตอนนี้ก็เริ่มเกรงใจหน่อยๆ ดูท่าว่าอีกคนจะเหนื่อย ตอนที่เขาเรียกให้ไปรับอาจจะนอนไปแล้วก็ได้

     

    คยองฮุนเตรียมเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูให้จงอินเงียบๆ หลังจงอินเข้าห้องน้ำไปเขาก็ยืนนิ่งอยู่ในห้องนอนตัวเอง ใจยังคงเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ และไม่ใช่แค่ใจที่ต้องควบคุม ยิ่งกว่าใจก็คืออารมณ์ของเขาที่กำลังพุ่งพล่าน กลัวเหลือเกินว่าจะควบคุมมันไม่อยู่ เขาที่คิดไม่ซื่อกับจงอินไม่รู้เลยว่าควรจักการความรู้สึกที่เป็นอยู่นี้ยังไง แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าจงอินกำลังคิดอะไรอยู่ถึงพาตัวเองมาอยู่ที่นี่…กับเขา

     

    คยองฮุนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง เสยผมที่ไม่ได้เซ็ตเป็นทรงเหมือนตอนปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะทิ้งตัวนอนหงาย ความอดทนของเขากำลังจะหมดลงแล้ว

     

    แต่ไหนแต่ไรเขาดูแลศิลปินมาก็ตั้งเยอะ ทั้งไอดอลหญิงและชายที่โด่งดังมีชื่อเสียง ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะรู้สึกอื่นใดกับใคร แค่ดูแลตามหน้าที่คือรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด ทีมของเขาทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม จนกระทั่งได้เข้ามาดูแลวงเอ็กโซนี่แหละที่เขาคิดว่ามันยาก เมื่อเขาได้เจอเด็กที่ชื่อคิมจงอิน

     

    คิมจงอินหรือไคในฐานะสมาชิกของวงไม่ได้โดดเด่นในสายตาของเขาในตอนแรก แต่พอถูกจัดหน้าที่ให้ต้องดูแลในคอนเสิร์ต ได้มองเห็นเด็กคนนั้นกลางแสงไฟยามเคลื่อนไหว เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่วงท่าเหล่านั้นมีเสน่ห์สะกดสายตา เขาหลงเสน่ห์จงอินแบบที่หาไม่ได้จากใคร มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขายืนมองจากข้างล่าง เงยขึ้นมองแล้วจงอินก็ก้มลงมาสบตาพอดี จงอินยิ้มให้เขาจนถึงดวงตาขณะที่เต้น วินาทีนั้นเองจากที่ไม่เคยรู้สึกอะไร ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จงอินทำให้เขาคอยแต่จะมองหา ทำให้อยากดูแลโดยไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ ทำให้เป็นห่วง หรือแม้กระทั่งหวง

     

    เขาแสดงออกชัดเจนจนเพื่อนในทีมรู้กันหมดทั้งๆที่ก็ไม่เคยจะยอมรับ

     

    ยกให้มึงดูแลไปเลยแล้วกันคนนี้”

     

    พวกในทีมสามัคคีกันทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องของเขา ซึ่งการที่เขาไม่ปฏิเสธอะไรเลยก็เท่ากับยอมรับว่าเขาสนใจเด็กคนนั้นจริงๆ

     

    แต่ถึงจะสนใจขนาดไหน เขาไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดมากไปกว่านั้น ก็แค่ดูแลให้ดีเท่าที่มีโอกาส แค่นี้ก็น่าจะพอ แต่ที่จะไม่พอก็เพราะจงอินนั่นแหละที่ชอบล่วงล้ำเข้ามาใกล้เกินไป ชอบแกล้ง ชอบเห็นเขาหงุดหงิดหัวเสียเพราะตัวเอง ชอบทำให้เขาใจสั่นจากความใกล้ชิด ชอบก้มลงมาสบตาและยิ้มให้ ทำให้เขาละสายตาไปไหนไม่ได้

     

    แล้วยิ่งวันนี้ ตอนนี้ จงอินก็ล่วงล้ำเข้ามาถึงพื้นที่ส่วนตัวของเขาแล้ว ซึ่งเขาเองแม้จะอยากปฏิเสธแต่ก็เป็นคนพาเข้ามาเองอย่างไม่อาจห้ามใจ

     

    แต่เขาก็ต้องห้ามใจ?

     

    ความคิดสับสนไปหมด คยองฮุนนอนกุมศีรษะตัวเองอย่างนั้นจนจงอินเดินออกมาจากห้องน้ำ ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆเขา จากที่นอนอยู่คยองฮุนก็ลุกขึ้น

     

    นอนซะ” เขาบอก ไม่ได้หันไปมองเลยสักนิดเดียว จงอินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมอันตรายเกินไป

    พี่จะไปไหน”

    นอนไป อย่าถาม”

    พี่จะไปนอนข้างนอกเหรอ”

    จงอิน นอน อย่าให้พูดซ้ำ”

     

    นอกจากจะทำเหมือนจงอินเป็นผู้หญิงแล้วก็ยังทำเหมือนเป็นเด็กที่ต้องพูดจาซ้ำๆ จงอินเลยเลิกเถียง ดึงผ้าห่มขึ้นแล้วสอดตัวเข้าไปนอนบนเตียงของคยองฮุน ที่นึกอยากจะทดสอบก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าต้องการให้มันเป็นอย่างไร แต่เขาไม่ชอบเลยที่คยองฮุนเฉยชากับเขากว่ายามปกติ แทบไม่มองเลยด้วยซ้ำในตอนนี้

     

    ช่างเถอะ

     

    จงอินไม่อยากใส่ใจ เขาอาจจะคิดไปเอง หรือใครๆอาจจะคิดผิด ความจริงแล้วเขาไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำในตอนแรก แค่คุ้นหน้าคุ้นตากันเพราะอยู่ในทีมซีคิวริตี้เวลาที่ต้องออกงาน ที่สนามบิน หรือคอนเสิร์ต ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วก็เริ่มบ่อยขึ้นในระยะหลัง แล้วพวกเพื่อนในวงก็ชอบพูดถึงว่าพี่คยองฮุนดูแลเขาพิเศษกว่าใคร ทำเหมือนว่าเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวอะไรอย่างนั้น ทำให้เขาที่ไม่เคยสังเกตหรือรู้สึกผิดสังเกตเริ่มสงสัย

     

    คงจะเป็นตอนนั้นที่เขาเพิ่งจะรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งคอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลา จับทุกความเคลื่อนไหว รับรู้เป็นคนแรกว่าเขาต้องการอะไร หากกำลังร้อนก็จะส่งผ้ามาให้ มีขวดน้ำของเขาติดตัวอยู่ตลอดเวลา เขาไม่เคยโดยผู้คนเบียดเสียดภายใต้การปกป้องของคนๆนี้ พี่คยองฮุนเป็นคนตัวใหญ่ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย อาจเป็นไปด้วยหน้าที่ แต่บางครั้งก็เหมือนจะมากกว่านั้น ดูจะห่วงมากมายเกินไป ดูแลเขาแต่เพียงคนเดียวไม่เคยห่าง

     

    และอาจจะมีเพียงจงอินคนเดียวก็ได้ที่เห็นว่าภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยดูสุขุมใจเย็นนั้น แอบซ่อนแววตาร้อนแรงเอาไว้ เวลาที่จงอินโดนจ้องในระยะใกล้ ได้เห็นแววตานั้นชัดๆ อดไม่ได้จะหายใจติดขัดจนร่างกายและใบหน้าร้อนผ่าว

     

    จงอินกระสับกระส่ายในความมืด นึกคิดถึงคนที่นอนอยู่ข้างนอก ใช้เวลาเป็นชั่วโมงถึงหลับลงได้

     

    ไม่นานนักหลังจากหลับไปจงอินก็สะดุ้งตื่นอีกครั้ง เขารู้สึกตัวจากสัมผัส มองเห็นเงาดำของคนๆหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆบนเตียง ฝ่ามืออบอุ่นลูบใบหน้าเขาแผ่วเบา กับดวงตาวาววับที่กำลังจับจ้อง

     

    พี่คยองฮุน…” จงอินเรียก ยังคงงัวเงียกึ่งหลับกึ่งตื่น ไม่แน่ใจว่าคือความจริงหรือกำลังฝัน

     

    ฝ่ามือที่ลูบแก้มอยู่เลื่อนลงมาเกลี่ยที่ริมฝีปาก เป็นสัมผัสแผ่วเบานุ่มนวลที่สื่อชัดถึงความต้องการ จงอินนอนนิ่ง รอดูว่าอีกคนจะทำอย่างไรกับเขา เขาค่อยๆตื่นเต็มตา ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่อาจเป็นสิ่งที่จงอินรออยู่…เขาอยากเห็นความต้องการที่แท้จริงของคยองฮุน

     

    จงอินตอบสนองนิ้วมือที่กำลังไล้อยู่บนริมฝีปากด้วยการจูบ ก่อนเผยออ้าปากออกน้อยๆแล้วงับนิ้วเอาไว้ จากนั้นก็แตะปลายลิ้นหยอกล้อ…ดูดเลียเบาๆ

     

    คยองฮุนไม่คิดว่าเขาจะควบคุมตัวเองได้ ตั้งแต่เดินเขามาในห้องเขาก็แพ้แล้ว แพ้ต่อสิ่งที่ต้องการลึกๆที่เก็บกดเอาไว้ แพ้ต่อแรงดึงดูดของคนที่นอนอยู่บนเตียงของเขา แพ้อย่างหมดรูปต่อคิมจงอิน

     

    ในห้องเงียบสงบเขาได้ยินเสียงริมฝีปากของจงอินที่กำลังหยอกเย้าอยู่กับนิ้วของเขา ความร้อนจากปลายลิ้นทำให้ร่างกายตื่นตัวจนรู้สึกปวดไปหมด จงอินกำลังปลุกปั่นทุกประสาทสัมผัสของเขาจากแค่การดูดนิ้วเท่านั้น

     

    คยองฮุนดึงนิ้วของตัวเองออกเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว เวลานี้เขาจะโยนทิ้งคำว่าสิ่งที่ควรทำ ทิ้งหน้าที่การงานและความเหมาะสม

     

    เขาจะทำ เขาตัดสินใจแล้ว แม้แต่จงอินก็คงห้ามเขาไม่ได้

     

    เงาดำที่จงอินมองอยู่เคลื่อนเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนรดใบหน้า หายใจถี่ในจังหวะไม่มั่นคง ตัวเขาเองก็เป็นเหมือนกัน

     

    คงเตรียมใจไว้แล้วนะ” จงอินได้ยินเสียงกระซิบ ก่อนที่ริมฝีกปากเขาจะถูกครอบครอง

     

    จูบนั้นให้ความรู้สึกวาบหวาม บดเบียดแนบชิด ได้ยินเสียงริมฝีปากของพวกเขาชัดเจนยิ่งเร้าอารมณ์ จงอินโน้มคอให้ก้มลงมาเพราะติดใจรสสัมผัส เพียงแค่มองจากสายตา จงอินก็รู้แล้วว่าคนๆนี้ร้อนแรงแค่ไหน

     

    คยองฮุนช้อนตัวจงอินขึ้นนั่ง จับถอดเสื้อผ้าอย่างง่ายดาย ส่วนจงอินก็ดึงเสื้อของเขาขึ้นถอดให้ ผละจูบออกและจูบกันใหม่ ต่างคนต่างตื่นเต้น รีบเร่ง กอดเกี่ยวเหนี่ยวรั้ง ลูบไล้พัวพันผิวเปลือยเปล่าที่กำลังร้อนรุ่ม จงอินครางเบาๆเมื่อเขาทั้งคู่ไม่มีเสื้อผ้าติดกาย เขาถูกวงแขนอีกคนกอดรัดกดลงกับเตียง จากนั้นร่างกายสูงใหญ่ก็ทาบทับลงมา เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนตุ๊กตายัดนุ่น ตัวเบาโหวง ถูกจับนั่งหรือจับนอนก็ได้ตามแต่ใจ แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่อะไร นึกชอบด้วยซ้ำกับความแข็งแรงของคนที่กำลังทาบทับ

     

    ซอกคอของจงอินโดนซุกไซ้ อารมณ์ถูกปลุกปั่นได้ง่ายดายแค่ริมฝีปากนั้นลากไล้ไปทั่วร่างกาย

     

    อย่าทำรอยนะ” จงอินเอ่ยเตือน แม้จะตกอยู่ในภวังค์ก็ยังไม่ลืมว่าร่างกายของเขาสำคัญแค่ไหน

    รู้…” คยองฮุนแทบไม่เงยหน้าตอนที่พูด ตัวเขาก็พยายามไม่กัดลงไปบนผิวเนียนๆของจงอิน เขาชอบสีผิวแบบนี้ ยิ่งในเวลาแบบนี้ก็ยิ่งชอบ เขาชอบเวลาที่ร่างกายจงอินเต็มไปด้วยเหงื่อ เหมือนกับบนเวทีนั่น

     

    จงอินชอบทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องหลายครั้งกับการแสดงบนเวที ชอบให้คิดไปไกล คิดว่าได้ทำแบบที่กำลังทำอยู่

     

    อืม…” จงอินบิดกาย ขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อเขากดนิ้วเข้าไป คยองฮุนเปลี่ยนมาเล้าโลมข้างหน้าสลับกับจูบ ทำให้จงอินค่อยๆเคลิ้มไปกับสัมผัส เขาต้องเตรียมพร้อมให้จงอินอย่างเต็มที่ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรับเขาเข้าไปได้

    พี่คยองฮุน…” จงอินเรียกแต่ไม่สบตา รู้สึกร้อนไปหมดเมื่ออีกคนจับขาเขาดันแยกออก เพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปจนอึดอัดไปหมด

    เจ็บรึเปล่าครับ” คำพูดนั้นทำให้จงอินหน้าร้อนกว่าเก่า

    นิดหน่อย…” พอได้ยินคยองฮุนก็จูบพร้อมกับปลุกเร้า ค่อยๆใช้เวลาอย่างใจเย็นทั้งๆที่เขาพร้อมมานานแล้ว พร้อมจนทรมานไปหมด

    อื้ม…” จงอินคราง แอ่นกายเข้าหามือของเขา ความเจ็บปวดดูเหมือนจะจางหายไปแล้ว ในตอนนี้เหมือนจงอินกำลังทรมานเช่นเดียวกับเขา ต้องการสัมผัสมากกว่านี้

    เจ็บเมื่อไหร่ก็บอกนะ” จงอินพยักหน้า คยองฮุนดึงนิ้วออก จับส่วนนั้นของตัวเองแล้วค่อยๆกดเข้าไปช้าๆ จงอินสูดหายใจลึก รู้สึกเจ็บแต่เขาก็พยายามผ่อนคลาย เอามือยันหน้าท้องคยองฮุนไว้เมื่อมันเจ็บเกินไป ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ทรมานทั้งคนกระทำและคนถูกกระทำ สุดท้ายแล้วเขาก็กลืนรับอีกฝ่ายเข้ามาได้ทั้งหมด

     

    จงอินเห็นคยองฮุนกัดฟันแน่นอย่างข่มอารมณ์จึงขยับกายเข้าหาเป็นการเชื้อเชิญ

     

    คยองฮุนแทบทนไม่ไหวกับการกระทำนั้น ความอุ่นร้อนในกายจงอินกำลังจะทำให้ความอดทนของเขาลดลงสู่จุดต่ำสุด รู้สึกดีจนอยากจะฝังกายซ้ำๆในความอบอุ่นนี้ทั้งคืน

     

    คนด้านบนขยับกายอย่างหนักหน่วงหนึ่งครั้ง จงอินร้องครางตัวสั่น เสียวซ่านแปลบปลาบผสมกับความอึดอัดและความเจ็บ คยองฮุนทำซ้ำอีกครั้ง ช้าๆแต่หนักแน่น ค่อยๆซึมซับความรู้สึกที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้จากจงอิน มันอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับพวกเขาก็ได้ เขาถึงอยากซึมซับทุกความรู้สึกเอาไว้ กอดเอาไว้ให้นานที่สุด

     

    อืม…พี่…” จงอินเรียกเขาอย่างเว้าวอน สองมือจิกเกร็งอยู่ที่แขนของเขา แขนที่บางทีจงอินก็ชอบมาลูบจับเล่น กลั่นแกล้งเขาโดยการแตะเนื้อต้องตัว แล้วก็บอกว่าชอบกล้ามแขนของเขา ซึ่งดูจะไม่ใช่เรื่องโกหก

    จงอิน…” เขาอดเรียกไม่ได้ สวนกายเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง

    พี่คยอง…ฮุน…”

    ครับ…” คยองฮุนกระซิบตอบรับ เสียงทุ้มต่ำสั่นพร่า เขาช้อนสะโพกจงอินยกขึ้นดึงเข้าหาตัว จงอินร้องด้วยความตกใจเมื่อมันลึกเข้ามามากกว่าเดิม มือข้างหนึ่งปล่อยจากแขนคยองฮุนยกขึ้นเหนือศีรษะจิกหมอนไว้แน่น

    อื้อ…ลึกไป”

    เดี๋ยวก็ชิน…”

     

    ไม่ จงอินไม่ชิน

     

    เขาตัวโยกไหวด้วยแรงอารมณ์ของอีกคน เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากส่งเสียงร้อง อ้าปากหายใจ หลับตาแน่น คิ้วสองข้างกดลงชิดกัน เป็นใบหน้าที่ทำให้คนมองมีแต่จะเพิ่มแรงมากขึ้น เขายังคงเจ็บ แต่ก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน มันดีมากจนเขาลืมความเจ็บปวดไป แอ่นตัวเข้าหาอย่างห้ามใจไม่ได้

     

    มือที่มักจะแตะต้องตัวเขาอย่างอ่อนโยนและแขนที่เคยปกป้อง ตะโบมลูบ บีบขยำไปทั่ว รั้งสะโพกจงอินเข้าไปหาครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คืออารมณ์ที่คยองฮุนเก็บเอาไว้ จงอินชอบทั้งสองแบบ ทั้งแบบอ่อนโยน และแบบหนักหน่วงร้อนแรง

     

    แต่ ณ เวลานี้สิ่งที่เขาชอบไม่มีอะไรมากไปความเร่าร้อนในห้วงอารมณ์รัก เขาตกอยู่ในการควบคุมของอีกฝ่าย เหมือนกำลังโดนสัตว์ป่าขย่ำ ฉีกร่างกายออกออกเป็นชิ้นๆและกลืนกิน

     

    เป็นความรู้สึกที่ดีมาก ดีกว่าที่เคยคิดเอาไว้ยามได้สบตาจ้องมองกัน

     

    คยองฮุนยิ้มเล็กน้อยเมื่อจงอินค่อยๆปรือตาขึ้นมอง เขาผ่อนแรงลงขณะที่จงอินปล่อยมือจากหมอนเอื้อมมือมาโน้มคอเขาเข้าไปหา คยองฮุนกัดปากริมฝีปากที่เปล่งเสียงครางเบาๆก่อนเริ่มกระแทกตัวหนักๆอีกครั้ง

     

    อะ!” จงอินร้องเมื่อจุดอ่อนไหวโดนกระทำซ้ำๆ เขาจิกเล็บลากลงที่ลำคอ คยองฮุนรู้สึกแสบเมื่อบาดแผลผสมกับหยาดเหงื่อแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น

     

    เขาจับตัวจงอินพลิกกลับหลัง รวบเอวให้ชันเข่ายกสะโพกขึ้น บีบบั้นท้ายตบแรงๆหนึ่งครั้ง กระชับช่วงเอวก่อนจะสวนกายเข้าไปใหม่อย่างดุดัน

     

    จงอินซุกหน้าลงกับหมอน กัดมันสกัดกั้นเสียงร้องเมื่อเจอแรงกระแทก ตัวของเขารวมทั้งเตียงโยกสั่น ร่างกายร้อนผ่าววูบวาบ คนข้างหลังโน้มตัวลงมาแนบชิดกับแผ่นหลัง ขับเคลื่อนด้วยจังหวะเร็วขึ้น จงอินได้ยินเสียงหอบหายใจกับเสียงทุ้มต่ำใกล้ๆ จมูกกับริมฝีปากซุกไซ้อยู่ตรงบ่า

     

    อืม…จงอิน…” จงอินไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้ น้ำเสียงสั่นน้อยๆยามเรียกชื่อ ทุ้มต่ำอย่างออดอ้อนอ่อนโยนผิดกับการกระทำ

    อา…” จงอินครางตอบรับ ในหัวเขาไม่มีอะไรทั้งนั้น มือปัดป่ายไปทั่วหาหลักยึด

    น่ารัก” คยองฮุนกอดรัด เขากำลังจะทนไม่ไหว จงอินที่ได้ยินคำพูดฝังใบหน้าลงกับหมอน ไม่รู้ว่าอายหรือพยายามกลั้นเสียงร้อง

     

    อารมณ์ต่างๆใกล้ถึงจุดปะทุเมื่อคยองฮุนเร่งเร้าจังหวะ จุดหมายค่อยๆใกล้เข้ามาเสียงครางยิ่งถี่กระชั้น จงอินถึงกับเอ่ยเร่งในช่วงท้ายก่อนจะถึงจุดนั้นไปก่อน ร่ายกายเกร็งกระตุกสั่นไม่เว้นแม้แต่ภายใน คยองฮุนครางในลำคอ ขยับกายแรงๆอีกเพียงไม่กี่ครั้งอารมณ์ก็พุ่งสู่จุดสูงสุด เขาหยุดนิ่งในความอบอุ่นของจงอินและปลดปล่อย กอดร่างอ่อนระทวยหมดแรงของอีกคนไว้

     

    คยองฮุนค่อยๆคลายกอดหลังผ่านไปพักหนึ่ง จงอินพลิกตัวหันกลับมามอง คยองฮุนเสยผมชื้นเหงื่อของจงอินขึ้นเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้ จงอินขี้ร้อน หลายครั้งที่เขาอยากจะทำแบบนี้ให้ อยากซับผ้าขนหนูบนใบหน้านี้ แต่ความเหมาะสมทำให้เขาได้แต่คิดเท่านั้น

     

    จงอินหรี่ตาลง คยองฮุนกลับมาเป็นคนเดิมหลังจากห้วงอารมณ์นั้นผ่านไป กลับมาเป็นคนที่อ่อนโยนและใส่ใจ เขาชอบการกระทำพวกนี้จนอดยิ้มไม่ได้

     

    เหนื่อย” จงอินบอก กะพริบตาช้าๆเหมือนกำลังจะหลับ

    เจ็บไหม”

    เจ็บ…แต่ไม่เป็นไร” คยองฮุนก้มลงจูบจงอินเบาๆอย่างนุ่มนวล ริมฝีปากจงอินเป็นแผลเล็กๆแดงเป็นสีเลือดเพราะโดนเขากัดก่อนหน้านี้

    ขอโทษนะ” เขาพูดขณะจูบย้ำไม่หยุด

    รู้สึกผิดเหรอ”

    เปล่า...แต่ขอโทษที่ห้ามใจไม่ได้…”

    ผมก็ห้ามใจไม่ได้…ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ได้ผิดอะไรเลย”

     

    คยองฮุนจูบหน้าผาก จากนั้นก็ลุกขึ้นสำรวจร่างกายที่ถูกเขากระทำเมื่อครู่ว่ามีตรงไหนบุบสลายไปหรือเปล่า…โดยเฉพาะตรงนั้น

     

    จงอินพยายามหนีบขาตัวเองไว้เมื่อคยองฮุนจับเรียวขาเขาแยกออกอีกครั้ง

     

    อะไรเล่า” จงอินปัดมือออกกระถดตัวหนีคนที่กำลังสำรวจร่างกายเขา

    เฉยๆสิ ขอดูหน่อย”

    พี่คยองฮุน! ผมไม่เป็นไร”

    ไม่มีทาง ทำแรงขนาดนั้น…”

     

    จงอินเม้มปากแน่น ไม่อยากพูดอะไรให้เห็นภาพชัดไปกว่านี้ เขาถอยจนจนมุมสุดท้ายก็ขืนแรงคยองฮุนไม่ได้ ปล่อยให้อีกคนสำรวจตรงนั้น หน้าร้อนแทบเป็นลมยิ่งกว่าตอนมีอะไรกัน

     

    แดงมากแต่ไม่เป็นแผล…”

    จะพูดทำไม” จงอินรีบสวน ผลักคนตัวใหญ่ออกไปแล้วเอาผ้าห่มคลุมตัว

     

    คยองฮุนหัวเราะอย่างเอ็นดู ลูบหัวจงอินสองสามครั้งจงอินก็ตาปรือทำท่าจะหลับอีกแล้ว เห็นอย่างนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง กระเถิบตัวกำลังจะลงจากเตียงแต่ถูกยื้อแขนไว้ก่อน

     

    ไปไหน ไปนอนข้างนอกเหรอ”

    เปล่าครับ ไปห้องน้ำ จะเช็ดตัวให้จะได้นอนสบายๆ”

    ไม่ต้องหรอก” จงอินพูดงัวเงีย อยากจะนอนเต็มทนแล้ว

    นอนไปเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” คยองฮุนบอกก่อนลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไป กลับออกมาอีกทีจงอินก็หลับไปแล้วอย่างง่ายได้ เขาดูแลจงอินเหมือนที่เคยดูแลมาตลอด ได้ทำสิ่งที่อยากทำมานาน ลูบผ้าขนหนูไปบนใบหน้าชื้นเหงื่อนี้ที่เขาชอบมองซ้ำๆ มือเบามากจนจงอินแทบไม่รู้สึก

     

    เขาจัดการจนเรียบร้อยก็กลับมานอนบนเตียงของตัวเอง ช้อนคนที่นอนหลับไปแล้วเข้ามากอด แม้จงอินจะไม่ได้สติก็ซุกไซ้เข้าหาอกเขา คยองฮุนห่มผ้าให้พวกเขาทั้งสอง ค่อยๆหลับตามจงอินไปอีกคน

     

     

    ตื่นครับ”

    อือ” จงอินได้ยินแต่ยังไม่อยากลืมตา หันหน้าหนีไปทางอื่น

    เร็ว เดี๋ยวจะไปส่งที่หอ”

    อื้อ…” คยองฮุนนั่งมองเด็กขี้เซาอย่างอ่อนใจ เห็นง่วงแบบนี้เขาก็อยากจะให้นอน ไม่ได้อยากปลุกเลย ติดอยู่อย่างเดียวที่พวกเขามีงานรออยู่ในช่วงบ่าย

    จงอิน…”

    ขอสิบนาที” จงอินดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัวพูดพึมพำ เห็นแล้วคยองฮุนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้ตามที่จงอินขอ ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่

     

    คยองฮุนเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วจึงออกมาปลุกจงอินอีกครั้ง เขาดึงผ้าห่มออก เห็นคนที่นอนหลับอยู่ขดตัวกลมอยู่ข้างใต้ สภาพนอนหลับแทบจะกลืนร่างไปกับเตียงดูไปก็ทำใจยากที่จะปลุก

     

    ต้องไปแล้วนะ” เขาลูบผมจงอินที่ยุ่งเหยิง จงอินครางเบาๆค่อยๆลืมตา กระเถิบเข้ามาใกล้วาดแขนกอดเอวซบลงกับตัก คยองฮุนนั่งตัวแข็งที่โดนคลอเคลียแบบนี้ เขาเริ่มไม่อยากไปทำงานแล้วอีกคน

    ง่วง…”

    รู้แล้ว แต่ต้องรีบแล้วนะ”

    เดินไม่ไหว…”

     

    พูดจบไม่ทันไรจงอินก็ถูกอุ้มขึ้นจากเตียง เขากอดคออีกคนโดยทันที ซบหน้าตรงบ่าแล้วทำท่าว่าจะหลับแต่ก็ถูกวางให้นั่งตรงขอบอ่างในห้องน้ำเสียก่อน

     

    เตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว อย่าหลับในห้องน้ำนะ” คยองฮุนยื่นแปรงสีฟันที่บีบยาเรียบร้อยส่งให้ จงอินพยักหน้ารับมาแม้จะยังง่วงและอ่อนเพลีย

     

    คยองฮุนปล่อยให้จงอินอาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อย จงอินใช้เวลาไม่นานเพราะเป็นความเร่งรีบที่เคยชิน ทำเวลาได้ดีซะจนคยองฮุนแปลกใจ

     

    เสร็จแล้ว” จงอินเดินมาสวมกอดบอดี้การ์ดของเขาจากข้างหลัง คยองฮุนละมือจากเสื้อสูทที่เขากำลังจัดให้เข้าที่หันมาหาจงอินแล้วรั้งตัวเข้ามาหา

     

    จงอินเงยหน้าขึ้นมอง เขาไม่ค่อยมีอารมณ์แบบเวลานี้ แบบที่อยากอยู่กับใครสักคนไม่อยากไปไหน อยากจะอ้อนคนที่ชอบตามใจจนเขาเริ่มเสียคน

     

    คยองฮุนก็เช่นกัน เขาไม่อยากปล่อยจงอินออกจากห้องตัวเองเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ที่เขาจะแตะต้องจงอินได้ตามใจแบบนี้ นึกแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบริมฝีปากที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาจูบกันนานเป็นนาที เป็นรสชาติของอีกคนที่ต่างก็ติดใจ

     

    การเตรียมตัวไม่ได้ทำให้เสียเวลาเท่ากับการล่ำลา กว่าจะผละออกจากกันได้ก็เสียเวลาไปมากมายทั้งที่อีกเดี๋ยวก็เจอกันในตอนบ่าย คยองฮุนขับรถมาส่งจงอินแถวๆหอพัก จงอินกลับไปทันเวลาที่ผู้จัดการเรียกรวมตัวกันพอดี ไม่ทันได้ทำอะไรเขาก็ต้องออกไปเตรียมตัวเพื่องานแจกลายเซ็นบ่ายนี้

     

    เมื่อคืนไปนอนไหน” ซูโฮถามระหว่างเดินทางไปที่บริษัท

    กับแทมิน”

    จงอิน”

    ไว้เดี๋ยวค่อยบอกแล้วกัน” จงอินบอกปัด แม้จะพูดคุยกันเบาๆแต่มันก็ดังพอที่ทุกคนรวมทั้งผู้จัดการจะได้ยิน เขาไม่ได้คิดจะปิดบังซูโฮ แต่กับคนอื่นคงต้องระวัง

    เดี๋ยวนี้หัดมีความลับ” จงอินหลับตาพิงกระจก ไม่สนใจเสียงจากคนที่นั่งข้างหลัง เขาไม่เถียงหรอกว่าเขากำลังมีความลับ มีความสัมพันธ์ลับๆกับใครคนหนึ่ง

     

    บ่ายนั้นงานแจกลายเซ็นเป็นไปได้ด้วยดี ความอ่อนเพลียจากเมื่อคืนไม่ได้ทำให้มีผลกระทบกับงานเลยแม้แต่น้อยถึงจะง่วงอยู่ตลอดเวลาก็เป็นเรื่องปกติ ที่ผิดปกติอย่างเดียวก็คือจงอินอารมณ์ดีมากแทบจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา

     

    คยองฮุนเหลือบมองจงอินเป็นระยะ ยังคนวนเวียนอยู่กับคนที่เขาต้องการดูแล ไม่ได้ทำตัวห่างเหินหรือใกล้ชิดใดๆผิดไปจากปกติ จะมีก็แต่ลอบสบตากันบ้าง สังเกตการกระทำของกันและกันอยู่เงียบๆ

     

    ขวดน้ำขวดหนึ่งถูกยื่นให้จงอินขณะที่กำลังมีช่วงว่างระหว่างรอคนแฟนๆชุดใหม่ขึ้นมา ในช่วงชุลมุนนั้นคยองฮุนยื่นน้ำให้แทนที่จะวางไว้บนโต๊ะ จงอินเงยหน้าขึ้นมอง ทำสีหน้าปกติที่สุดขณะที่รับมา แต่ก็แทบหลุดยิ้มออกมาเมื่อนิ้วของคยองฮุนเกี่ยวสัมผัสกับนิ้วของเขายื้อไว้ครู่หนึ่ง จงอินรู้สึกว่าปลายนิ้วที่แตะต้องกันนั้นร้อนผ่าววูบวาบ เหตุการณ์เมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวอย่างช่วยไม่ได้

     

    จงอินกระดกน้ำขึ้นดื่มเมื่อคอแห้งผากขึ้นมากะทันหัน แล้วถ้ามองไม่ผิดเหมือนเขาจะเห็นว่าคยองฮุนกำลังยิ้มอยู่ ใครมองก็คงไม่รู้ แต่จงอินรู้ว่านั่นคือรอยยิ้มแน่ๆ

     

    ร้อนเหรอ” เซฮุนหันมาถามจงอินที่เอาแต่กระดกน้ำ มีเหงื่อซึมตามตามไรผม

    อืม…”

     

    จงอินตอบไม่สบตา เขาไม่มองไปที่คยองฮุนอีก พยายามตั้งสมาธิกับการทำงานเท่านั้น

     

     

    หลังจากวันนั้นชีวิตจงอินก็ยุ่งยากขึ้นมาอีกหน่อย เมื่อเขาซึ่งเป็นศิลปินแอบมีความสัมพันธ์กับบอดี้การ์ดที่ดูแลอยู่ ต้องคอยหลบซ่อนทั้งจากผู้คนและเพื่อนๆในวง แต่ปิดมาได้สักพักเพื่อนๆก็รู้อยู่ดี รับรู้แบบเงียบๆ สังเกตกันอยู่เงียบๆ แต่นอกจากความวุ่นวายเหล่านั้นแล้วจงอินก็มีความสุขดี

     

    เสียงข้อความเตือนดังขึ้นตอนที่จงอินกลับมาถึงหอไม่นาน ไปคอนเสิร์ตที่จีนคราวนี้บอดี้การ์ดของเขาไม่ได้ไปด้วย จงอินที่กำลังคิดถึงคยองฮุนพอดียิ้มเมื่อได้อ่านข้อความนั้น เป็นรอยยิ้มน่ารักในแบบที่ทำให้เพื่อนในวงมองด้วยความหมั่นไส้

     

    จงอินหยิบมาสก์กับหมวกที่เพิ่งถอดออกมาสวมใหม่ ไม่ลังเลรอช้าเดินออกจากห้องลงไปหาคนที่ส่งข้อความมาบอกเขาว่ากำลังรออยู่ข้างล่าง

     

     

    ...

     



    #alotlike88

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×