ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Lost On You [ChanKai]

    ลำดับตอนที่ #19 : Lost On You 19

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 60


    Lost on You

    [19]

     

     

     

    เรื่องเซ็กซ์ไม่ได้อยู่ในหัวสมองผมมากเท่าไหร่นักก่อนหน้านี้

     

    ผมรักอาโดยไม่ได้มีเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง มันเริ่มจากความคุ้นเคย ความไว้วางใจ ผูกพัน อบอุ่นใจ ความรู้สึกพัฒนาไปเรื่องๆโดยที่ผมไม่ได้จับจ้องมองดูยามที่มันเปลี่ยนไปจนเป็นความรักในรูปแบบนี้

     

    ผมไม่เคยรู้และไม่เคยคิดว่าเซ็กซ์กับความรักจะเกี่ยวข้องกัน จนอาค่อยๆสอนให้ผมรู้จักกับมัน ผมจึงค่อยๆเรียนรู้ว่ามันเป็นตัวแปรตัวหนึ่งที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ ผมไม่อยากนิยามว่ามันเป็นของคู่กันกับความรัก แต่เมื่อมันมาเกี่ยวของกับความสัมพันธ์ของผมกับอาแล้ว ผมก็ดำดิ่งลงไป ความรู้สึกเคลิ้มลอยชั่วครู่ชั่วยามนั้น จริงๆแล้วมันลึกซึ้งมาก และมีผมกระทบต่อจิตใจผมอย่างหนักหน่วง

     

    เรายังไม่ได้ลึกซึ้งกันถึงขึ้นนั้นก็จริงอยู่ ที่ผ่านมาผมแทบขาดเขาไม่ได้ ผมว่านั่นมันก็มากมายแล้ว แต่ที่มากกว่านั้นในตอนนี้ก็คือ ผมรู้สึกต้องการเขา ผมแอบโทษว่าเป็นความผิดของอาที่ทำให้ผมคิดอะไรอย่างนี้ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยจะคิด ทำให้ผมต้องหลบตาอาบ่อยๆเพราะกลัวเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

     

    “คิดอะไรอยู่”

     

    คนคุ้นเคยนั่งลงตรงข้ามผม ผมนั่งรอแทมินเล่นบาสที่โต๊ะตัวประจำใต้อาคาร ตอนนี้เพื่อนๆอยู่ในโรงยิม ผมเล่นไปแค่แป๊บเดียวก็เลิก นั่งฟังเพลงรอฆ่าเวลาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียว

     

    “มาอีกแล้ว” ผมทักพี่คยองซู เขาเรียนจบไปแล้วขณะที่ผมเรียนอยู่มัธยมปีสุดท้าย ผมเจอพี่คยองซูประมาณอาทิตย์ละครั้ง เขายังคงเอาของฝากติดไม้ติดมือมาให้ วันนี้เขายื่นกล่องคุกกี้กล่องเล็กให้ผม ผมรับมาแล้วกล่าวขอบคุณ

    “อยากเจอก็เลยมา”

    “พี่เป็นคนดื้อนะ รู้ตัวไหม”

    “เขาเรียกว่ามีความพยายาม”

    “ความพยายามน่าจะใช้กับสิ่งที่มองเห็นความหวัง ที่ผมบอกว่าดื้อคือพยายามทั้งๆที่ไม่ควรหวังแล้ว”

     

    พี่คยองซูจ้องผม ก่อนค่อยๆคลี่ยิ้ม

     

    “พี่ล้อเล่นน่ะ อยากมาหาแค่นั้นเองจริงๆ”

    “แถมยังไม่ลืมเอาขนมมาให้อีก”

    “ก็เห็นว่าชอบนี่ จงอิน วันนี้ต้องรอใครมารับรึเปล่า ไปกินข้าวกันไหม” พี่คยองซูถาม เขาเป็นคนท่าทางใจดี ถึงจะเป็นคำถามที่ชวนอึดอัด แต่ก็ไม่ทำให้ผมลำบากใจที่จะปฏิเสธ

    “ไม่ได้รอใครมารับ รอแทมินเล่นบาสเสร็จค่อยกลับด้วยกัน วันนี้คงไปไม่ได้หรอกครับ”

    “ถ้างั้นวันอื่นล่ะ”ผมคิดนาน ทั้งอยากปฏิเสธ ทั้งไม่อยากปฏิเสธ

    “วันอื่นพี่ค่อยมาชวนผมใหม่” เขาพยักหน้า อมยิ้มนิดๆ

    “ก็ได้”

    “แต่ผมว่าพี่น่าจะยุ่งนะ เห็นคนพูดถึงว่าพี่กำลังถ่ายละคร”

    “ใช่ บทเล็กๆ ไม่ได้ยุ่งขนาดมากินข้าวกับจงอินไม่ได้หรอก”

    “เรียนที่มหาลัยไม่ยุ่งเหรอ”

    “ไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นอยู่ดี”

     

    ผมยกมือยอมแพ้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา เรานั่งคุยกันต่อเรื่องอื่นอีกสักพักจนแทมินเล่นบาสเสร็จเหงื่อโทรมเดินเข้ามาหา พี่คยองซูกับแทมินทักกันคนละคำสองคำก่อนพี่คยองซูจะขอตัวกลับ

     

    “จะฟ้องอา” แทมินพูดกวนประสาท รู้ว่าพูดเล่นๆแต่คิดว่าถ้าอารู้ว่าพี่คยองซูมาหาบ่อยๆคงหนีไม่พ้นได้ทะเลาะกัน

    “พูดเล่นได้แต่อย่าฟ้องจริง”

    “กลัวอะดิ”

    “อือ กลัว ไม่อยากทะเลาะ”

    “เห็นช่วงนี้แฮปปี้ดีจนน่าอิจฉา”

    “อิจฉาทำไม ไปหาสาวๆของนายไป”

    “เออ ไม่ต้องไล่ก็ไปอยู่แล้ว แต่วันนี้ไม่เข้าบริษัทแล้วได้ไหม เหนื่อย ขี้เกียจเข้าไปแล้ว อยากกลับบ้านเลย”

    “บอกอาไว้แล้วว่าจะเข้าไป”

    “งั้นก็แยกกัน อย่ากลับบ้านดึกนะ ขี้เกียจตอบคำถามแม่ หลังๆพ่อก็ถามบ่อยด้วย กลับบ้านช้าทุกวัน”

    “อืม จะรีบกลับ”

     

    ผมบอก แต่พอเจออาทีไรก็ความตั้งใจจะกลับบ้านเร็วๆก็หายหมดทุกที

     

     

    ผมเข้าบริษัทมาหาอาเกือบทุกวัน อาเลิกไปรับผมที่โรงเรียนแต่เป็นคนส่งผมกลับบ้าน ผมคิดว่ามันอาจจะทำให้พ่อกับแม่สงสัย แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเราอยากเจอกัน ผมมาแค่เจออา ส่วนใหญ่มานั่งดูเขาทำงาน วันไหนที่อาไม่ยุ่งก็จะดีหน่อย เขาจะพาผมไปกินข้าว หรือพาผมไปที่คอนโดเขาแล้วค่อยมาส่งที่บ้านตอนดึกๆ แต่วันนี้พอเข้ามาหาเห็นอาเคร่งเครียดกับงานอยู่ก็รู้ว่าคงไม่ได้ไปไหน คงได้แต่นั่งเฝ้าอาทำงานจนกว่าจะถึงเวลากลับบ้าน

     

    ผมเข้าไปหาอาโดยที่เขาไม่ต้องเรียก เห็นหน้าเครียดๆก็เลยกอดคอเขาจากข้างหลังแล้วหอมแก้มหนึ่งที อาสมาธิดีมาก เขานั่งเฉยจดจ่อกับงานไม่สนใจผม ผมเลยเกลี่ยจมูกไปมากับแก้มของเขาเล่น

     

    “อย่าเพิ่งซน”

    “หิว”

    “แล้วไม่หาอะไรกินก่อน” เขาหันหน้ามาหา แววตาดุเล็กน้อยปนกับความเป็นห่วง

    “ก็ไม่รู้ว่าวันนี้อางานยุ่ง”

    “สั่งมากินแล้วกัน สั่งเผื่ออาด้วย”

    “พิซซ่านะ”

    “ตามใจเลย”

     

    อาจุ๊บปากผมก่อนหยิบกระเป๋าตังค์ให้ ผมเอามันมาถือไว้ โทรสั่งพิซซ่าแล้วนั่งรอเฉยๆโดยไม่รบกวนอาทำงาน เปิดดูคลิปเต้นเพลินๆไม่นานเท่าไหร่พิซซ่าก็มาส่ง ผมออกไปเอาให้อาข้างล่างตึก หยิบเงินในกระเป๋าเขาจ่าย

     

    ผมควรจะชินกับถุงยางในกระเป๋าตังค์อาแต่ก็ไม่ บ่อยๆที่เขาให้กระเป๋าตังค์กับผมให้หยิบบัตรไปจ่ายตามสบาย ผมเห็นมันแล้วก็คิดมากทุกที ผมพยายามทำใจกับมันมานานแล้ว แต่มันก็ทำไม่ได้ง่ายๆในเมื่อความสัมพันธ์ของเราไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

     

    ผมนั่งกินพิซซ่าไปคิดไป มันไม่อร่อยเหมือนเคย ออกจะฝืดคอด้วยซ้ำเมื่อมีปัญหาคาใจ

     

    “ไหนว่าหิว ทำไมกินไปนิดเดียว”

    “ค่อยๆกิน”

    “เป็นอะไร” เขานั่งลงข้างๆ หยิบพิซซ่ามากินบ้าง ผมมีความคิดอยากถามอาเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเริ่มเรื่องนี้ยังไง

    “อา

    “หืม”  

    “ผมเห็นถุงยางในกระเป๋าตังค์อา”

    ….

     

    อาชานยอลวางพิซซ่าที่เพิ่งหยิบลงที่เดิม เขาเงียบผมก็ยิ่งรอฟัง อยากให้เขาพูดอะไรก็ได้ที่ทำให้ผมสบายใจ

     

    “อย่าคิดมาก”

    “ผมคิดมาก ห้ามตัวเองไม่ให้คิดไม่ได้ด้วย”

    “แค่พกไว้เฉยๆแค่นั้น”

    “ผมก็อยากคิดให้อาพกไว้เฉยๆแค่นั้น”

     

    จะหวงหรือหึง ผมก็ไม่กล้าแสดงออกความเป็นเจ้าของกับอาอยู่ดี ผมก็เลยได้แต่เงียบ ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะพกมันไว้เฉยๆ จะพกไว้ทำไมถ้าไม่ได้ใช้ ตรรกะง่ายๆ แต่ถ้าเขาใช้มันกับคนอื่น แล้วผมล่ะ?

     

    ผมเริ่มไม่มั่นใจกับความรู้สึกที่เขามีต่อผม

     

    “คิดไปถึงไหนแล้ว หน้าเรามันฟ้อง”

    “ผมคิดว่าถ้าผมพกถุงยางบ้าง อาจะว่ายังไง” อาชานยอลดูไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

    “อย่าหาเรื่อง”

    “ผมเปล่า”

    “ถ้าจงอินมีปัญหาตรงนั้น อาก็จะไม่พก”

    “อาเอามันไว้ใช้กับใคร” ผมหลุดถามไป เขาเงียบ สบตาผมก่อนหันมองไปทางอื่น “ไม่ต้องตอบก็ได้ จริงๆผมก็ไม่อยากรู้หรอก”

    “เรื่องพวกนี้มันไม่สำคัญหรอก” อาบอก

    “งั้นผมจะมีอะไรกับใครก็ได้รึเปล่า มันสำคัญกับอาไหม”

    “จงอิน”

     

    อาเรียกผมเสียงแข็ง ประชดกันมันไม่ดีหรอก ผมรู้ แต่ก็อดไม่ได้ เขาจะว่าผมชวนทะเลาะก็ได้ เพราะถ้าให้ผมเก็บไว้ตอนนี้มันก็อึดอัดเกินไป และผมก็อยากให้เขารู้ว่าเขากำลังทำให้ผมเจ็บ ผมเป็นเด็กเอาแต่ใจที่อยากให้เขาเป็นของผมคนเดียว

     

    “มาใกล้ๆอานี่มา” อาถอนใจยาว พอเขาเริ่มอ่อนลง ผมก็น้ำตาซึม ผมวางพิซซ่าที่ถือค้างไว้นานแล้วก่อนขยับหันหน้าเข้าหาเขา

    “ดีแล้วที่จงอินถามถ้ามันทำให้ไม่สบายใจ อาไม่ได้ใช้มันมาสักพักแล้ว เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำกับใครก็ได้แล้ว เข้าใจไหม”

     

    ผมพยักหน้า เขาบังคับให้ผมมองเขา ผมก็เชื่อตามที่เขาพูด ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อเขาก็จูบผม

     

    “อาจะจูบผมคนเดียวใช่ไหม”

    “ใช่” เขาตอบเบาๆ จูบย้ำๆที่ริมฝีปากผม

     

    ผมคล้อยตามริมฝีปากของเขา เวลาที่เขาจูบทำให้ผมลืมทุกอย่าง ผมกับเขาห่างชั้นกันมาก ด้วยอายุที่ห่างกันกับประสบการณ์ที่ห่างกัน ไม่มีอะไรที่ผมสู้เขาได้เลย

     

    เราจูบกันนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จนถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู อาสั่งให้ผมล็อกห้องอยู่แล้วเราถึงแค่ตกใจผละออกจากกัน เรารอสักพัก พอตั้งสติได้อาก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู

     

    “ทำไมต้องล็อกห้อง” ผมได้ยินเสียงพ่อ ยกมือปาดริมฝีปากโดยอัตโนมัติแล้วหยิบพิซซ่ามากิน

    “คงเผลอล็อก”

    “ว่าแล้วว่าจงอินต้องอยู่นี่ มาแอบกินพิซซ่าอยู่นี่เอง”

    “พ่อตามหาผมเหรอ”

    “ใช่ แม่โทรมาบอกว่าแทมินกลับบ้านแล้วแต่จงอินยังไม่กลับ เขาเป็นห่วงว่าอยู่ที่ไหน”

    “แม่ก็ห่วงมากไปเอง ผมไม่ได้ไปเหลวไหลที่ไหนสักหน่อย”

    “แล้วทำไมไม่ยอมกลับไปกินข้าวที่บ้านบ้าง กลับดึกๆทุกวันชานยอล มึงเอาลูกกูมาเก็บไว้ทุกวันเหรอ”

    “ผมก็เอาไปส่งบ้านให้นี่”

    “เมื่อไหร่มึงจะมีเมีย กูเริ่มกลุ้มใจกับมึงแล้วนะ ติดกับลูกกูแบบนี้” ผมแอบสะดุ้ง เหลือบมองหน้าอาก็เห็นเขานิ่ง

    “พี่จะกลุ้มใจทำไม”

    “กลุ้มใจว่า จงอินก็โตขนาดนี้ จะเข้ามหาลัยอยู่แล้ว แทนที่จะห่างกลับดูยิ่งสนิท”

     

    พ่อพูด พ่อไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ดุ ปกติพ่อไม่ค่อยทำหน้าแบบนี้ ส่วนใหญ่คำพูดของพ่อจะมีรอยยิ้มติดมาเสมอ และเพราะผมกับอาไม่บริสุทธิ์ใจ ผมก็เลยเริ่มกลัวว่าพ่อจะมองเห็น

     

    “พ่อน้อยใจเหรอ วันนี้ผมกลับบ้านกับพ่อก็ได้ แต่ขอกินพิซซ่าให้อิ่มก่อน”

    “อยากกินอะไรก็บอกแม่ก็ได้” พ่อพูด จ้องผม เลื่อนสายตาลงมามองที่ริมฝีปากแล้วขมวดคิ้ว ผมเม้มปากหยิบพิซซ่าขึ้นมากัด

    “ครับ ผมจะบอกแม่ก็แล้วกัน”

    “มึงก็ยุ่งนี่ช่วงนี้ ถ้าจงอินมากวนก็บอกให้กลับบ้านไปก็ได้ อย่าไปตามใจ”

    “มีจงอินอยู่ก็ไม่ได้กวน ไม่เหงาดีด้วยมีเพื่อนกินข้าว” อาชานยอลว่า

    “ถึงบอกให้มึงหาเมียไง เลิกเล่นไปทั่ว”

    “พี่ก็พูดเกินไป”

     

    ผมไม่มองอาไม่มองพ่อ นั่งจ้องพิซซ่าในถาด

     

    “ไม่เกินไปหรอก ก็เห็นๆกันอยู่”

    “เห็นอะไรเหรอพ่อ”

    “เห็นคนเจ้าชู้ไง”

     

    อาปิดปากเงียบ ผมก็เงียบ พ่อเลยบอกให้ผมกินเร็วๆจะได้กลับบ้าน

     

    “อิ่มแล้ว”

     

    ผมวางมันลงเพราะเริ่มกินไม่ลงอีก ไม่อยากจะคิดมากอะไรก็แต่กินไม่ลง อาชานยอลมองผม มองตามผมลุกขึ้นเดินตามพ่อออกจากห้องกลับบ้านโดยที่เราไม่ได้ล่ำลากันสักคำ

     

     



     





    #FicLostonYou

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×