ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Lost On You [ChanKai]

    ลำดับตอนที่ #17 : Lost On You 17

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 60


    Lost on You

    [17]

     

     

     

    ชีวิตของเด็กนักเรียนเหมือนจะซ้ำซากจำเจน่าเบื่อ ไปโรงเรียน สอบ ปิดเทอม วนเวียนกันไป แต่ทุกๆปีที่เราเติบโตมีเรื่องราวมากมายระหว่างนั้น ช่วงวัยรุ่นจึงมีสีสัน บางคนใช้ช่วงเวลานี้อย่างโลดโผน มีอะไรให้เรียนรู้และก้าวผ่าน

     

    ชีวิตของผมไม่นับว่าโลดโผนนัก ผมไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวนอกกรอบหรือมีความคิดต่อต้าน ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆในแบบของมัน อาจเพราะผมค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วจึงมุ่งมั่นอยู่กับมัน ทุ่มเทในสิ่งที่ตัวเองรัก กับคนที่ตัวเองรักก็ด้วย

     

    ไม่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นแบบไหน ผมก็ทุ่มเทให้กับอาเต็มที่ รักแบบหมดหัวใจ ยิ่งเขาให้ ผมก็ยิ่งอยากเรียกร้องให้มากกว่านั้น เขาเองก็เรียกร้องอะไรมากมายจากผม เขาไม่ต้องการให้ผมใจดีกับคนที่เข้ามาหา ต้องการให้ผมเอาตัวออกห่าง ห้ามขาดไม่ให้ผมโกหกหรือปิดบังอะไรเมื่อเขาถาม ซึ่งเมื่อเขาถามและผมตอบไปตามตรง พอไม่ใช่คำตอบที่อยากฟัง บรรยากาศก็อึมครึมจนน่าอึดอัด

     

    เราไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง เขากดดันผมด้วยความเงียบ ด้วยความคิดมากมายที่อยู่ในหัวของเขาที่ผมไม่รู้ มันน่าอึดอัดจนผมต้องถอยหนี และบางทีก็ร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา

     

    ผมรักช่วงเวลาที่เราไม่มีเรื่องผิดใจกัน รักความอ่อนโยนของเขา จูบของเขา กอดของเขา แววตาของเขา การกระทำเล็กๆน้อยๆที่เขาทำให้ เขาทำให้ผมมีความสุขได้มากกว่าใคร แล้วก็ทำให้ผมร้องไห้ได้มากกว่าใครๆด้วย

     

    นั่งซึมทั้งวัน”

     

    ผมได้ยินเสียงพ่อจึงละสายตาออกจากหน้าต่าง ในมือถือหนังสือวิชาที่ต้องสอบวันพรุ่งนี้ ผมจมตัวอยู่กับโซฟาที่บ้านอ่านหนังสือ แต่พอเผลอก็มองออกไปนอกหน้าต่าง มองฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับตัวบ้านที่เป็นที่จอดรถประจำของอา ผมคิดถึงจูบแรกของเราบนรถวันนั้น แล้วก็คิดถึงอา

     

    ได้อ่านบ้างรึเปล่าหนังสือ” พ่อถามต่อ

    อ่านสิ ผมแค่พักสายตา”

    เห็นพักอยู่นานแล้ว ช่วงนี้มีปัญหาอะไรรึเปล่า” ผมส่ายหน้าเล็กน้อย พ่อมานั่งที่โซฟาอีกตัว วันนี้พ่อก็อยู่บ้าน แทมินอ่านหนังสืออยู่บนห้อง ส่วนแม่คงกำลังช้อปปิ้งอยู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆเพื่อซื้อของมาทำอาหารให้กับพวกเราที่อยู่พร้อมหน้าในเย็นนี้

    ไม่มีอะไรนี่ครับ”

    พ่อไม่ถามต่อหรอกว่าเรื่องอะไรถ้าเราไม่อยากบอก…แต่ดูหน้าก็รู้แล้วว่ามีเรื่องไม่สบายใจ”

     

    ผมยิ้มฝืนๆให้พ่อ ที่ผมอยู่บ้านวันนี้ก็เพราะพ่ออยู่ ไม่รู้ว่าทำไมเวลามีปัญหากับอาผมถึงอยากอยู่กับพ่อทุกทีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงตอนนี้จะเล่าให้ฟังไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่าคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว

     

    ช่วงนี้ได้เจอชานยอลบ้างรึเปล่า ไม่เห็นเราไปอยู่ที่สตูดิโอเท่าไหร่”

    ก็…เจอบ้างครับ” ผมตอบอย่างระมัดระวัง ทั้งๆที่พ่อก็ถามความเป็นไปตามปกติธรรมดา

    เลิกติดอาได้แล้วเหรอ”

     

    ผมเงียบ ไม่รู้จะตอบพ่อว่าอะไร จริงๆผมกับอาก็เจอกันบ่อย แต่อยู่นอกสายตาของพ่อ ผมขอให้อาไปรับไปส่งน้อยลง ไม่ค่อยเข้าไปขลุกตัวอยู่ในสตูดิโอ พอความสัมพันธ์เป็นแบบนี้ ผมก็ไม่กล้าเข้าใกล้อา ผมกลัวว่าพ่อจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงระหว่างเรา ส่วนใหญ่ผมกับอาจะไปกินข้าวด้วยกัน วันหยุดอาจะพาไปขับรถเล่น อยู่ด้วยกันบนรถ คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย ถ้าเป็นวันที่ผมไปค้างกับอาเราก็จะไม่ไปไหน นอนเล่นอยู่ที่ห้องอาทั้งวัน

     

    ติดอาน่าจะใช้กับตอนเป็นเด็กนะพ่อ”

    โตแล้วว่าอย่างงั้นเถอะ แต่ก็ดี แม่เขาจะได้ไม่ต้องกังวล”

    ทำไมแม่ต้องกังวลด้วย”

    เขาก็ห่วงเราไปตามประสา พ่อเห็นเรากับอามาตั้งแต่เด็กๆ แต่แม่เขาไม่ได้เห็น เลยไม่เข้าใจว่าชานยอลก็เหมือนคนในครอบครัวเรา”

     

    ผมนั่งจ้องพ่อ วูบหนึ่งผมอยากสารภาพกับพ่อ มันจะเป็นยังไงถ้าผมบอก พ่อจะผิดหวังไหม จะบอกให้ผมห้ามเจออาหรือเปล่า หรือพ่อจะบอกผมว่ามันไม่เป็นไร ผมหวังอยากให้พ่อพูดกับผมแบบนั้น แต่ในเมื่อพ่อไว้ใจอา ไว้ใจผม ไม่เคยกังวล ไม่เคยระแวง ถ้าพ่อรู้ผมกลัวว่าจะทำให้พ่อเสียใจ

     

    เป็นอะไร หืม” พ่อถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คงเพราะผมจ้องพ่อนานเกินไป

    พ่อเคยผิดหวังในตัวผมไหม” ผมถาม รอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ

    ไม่เคยเลย”

    ถ้าผมทำให้พ่อผิดหวังในตัวผมล่ะ”

    เช่นเรื่องอะไรล่ะ”

    เรื่องอะไรก็ตาม ถ้ามีสักเรื่องหนึ่ง”

    กลัวอะไรอยู่ บอกพ่อซิ”

     

    ทุกอย่างมันอัดแน่นอยู่ในอก ผมไม่กล้าบอกพ่อ กลัวจะทำให้ทุกอย่างมันพัง มันอาจจะมีสักวันที่พ่อรู้ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้

     

    ไม่มีอะไรหรอกพ่อ ผมพูดเผื่อไว้ก่อน” ผมยิ้ม พยายามผ่อนคลายบรรยากาศ

    มีปัญหาอะไรบอกพ่อได้ พ่อไม่เคยดุจงอินแบบไร้เหตุผล”

    ครับ ผมรู้ ผมถึงรักพ่อที่สุด”

     

    พ่อยิ้ม มองผมด้วยแววตาอบอุ่น ขณะเดียวกันก็สงสัยใคร่รู้ถึงสิ่งที่ผมปกปิดเอาไว้ แน่นอนพ่อต้องรู้ว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจ แต่พ่อก็ให้พื้นที่ส่วนตัวแก่ผม หากไม่บอก พ่อก็จะแค่มองดูอยู่ห่างๆอย่างเป็นห่วง

     

    ผมมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งเมื่อบทสนทนาของเราจบลง พ่อเปิดทีวีดู ผมถือหนังสือแต่มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม ยังไม่เห็นรถคุ้นตา ที่ตรงนั้นยังว่างเปล่า

     

    เมื่อวานนี้ผมมีเรื่องกับอานิดหน่อย เราไม่เชิงว่าทะเลาะกัน แต่ก็ยังไม่ได้เคลียร์ ผมผิดเองที่ไม่ได้บอกอาว่าปิดเทอมนี้จะไปอเมริกาอีก ผมตกลงกับแทมินแล้ว ติดต่อไปที่ที่อยากไปเรียนแล้ว พอแทมินชวน เปิดคลิปให้ดู ความตื่นเต้นก็พลุ่งพล่าน การเต้นเป็นสิ่งที่ผมหลงใหล ผมมีมันเป็นเป้าหมายของชีวิต ถ้าผมอยากไปผมก็จะไป มันเป็นการตัดสินใจของผม

     

    อาชานยอลไม่ได้โกรธที่ผมไป แต่โกรธที่ผมไม่บอก หรือบอกเขาช้าเกินไป เขารู้จากแทมิน ได้ยินเราคุยกันเรื่องอเมริกาตอนออกจากห้องซ้อม อามารับผมไปกินข้าว พอได้ยินเขาก็ถามว่าผมจะไปอเมริกาเมื่อไหร่ ทำไมเขาถึงไม่รู้

     

    ผมยังไม่มีจังหวะได้บอก ผมต้องบอกเขาแน่อยู่แล้ว อาชานยอลเงียบไปเมื่อผมเล่าให้ฟัง ผมบอกเขาว่ามันก็เหมือนกับครั้งที่แล้ว ไปสองเดือน คราวนี้เรียนที่สถาบันค่อนข้างมีชื่อเสียง ผมตื่นเต้นเหมือนทุกที แต่อาไม่ได้ตื่นเต้นไปกับผมด้วย เขาเงียบมาจนถึงตอนนี้

     

    แทมินเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของผมกับอา เห็นผมมีปัญหากับอาบ่อย แทมินบอกว่าอาเป็นพวกขี้หึงขี้หวงจนหน้ามืด เรื่องใจร้อนใครๆก็รู้ คนอื่นแทบไม่อยู่ในสายตาของอา แต่ถ้าเป็นผม อาก็ต้องรู้ทุกเรื่อง ไม่แปลกที่อาจะไม่พอใจที่เพิ่งมารู้ ผมอาจจะต้องง้ออาหน่อย หรือไม่ก็รอให้อาหายโกรธแล้วมาหาเอง จะช้าหรือเร็วเดี๋ยวก็คืนดีกัน แทมินเห็นจนชิน และผมก็รู้ดีทุกอย่างที่แทมินพูด แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ใจผมสงบลง เวลาทะเลาะกันมันทำใจให้สบายไม่ได้หรอก มีแต่จะคิดฟุ้งซ่าน

     

    วันนั้นผมรออาทั้งวันเขาก็ไม่มาหา ไม่ติดต่อมา

     

    วันรุ่งขึ้นอีกวันพอสอบเสร็จผมก็เลยไปหาเขาที่บริษัท เข้าไปในห้องทำงานเห็นอาหลับตานอนฟังเพลงอยู่ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆอาก็ลืมตาขึ้น พอเห็นว่าเป็นผม เขาก็เพียงมองเงียบๆ

     

    ยังโกรธผมอยู่เหรอ”

    เปล่า”

    อาหายไปเลย”

    ช่วงสอบไม่ใช่เหรอ”

    ช่วงสอบก็ช่วงสอบ อาเป็นแบบนี้ผมไม่สบายใจ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกอาเรื่องนั้น”

    จงอินขอโทษไปแล้ว อาไม่ได้โกรธ”

    แล้วทำไมถึงหายไป”

    ไม่ได้หายไปไหนเลย”

     

    อาชานยอลจับมือผม ดึงให้นั่งลงข้างๆ จากนั้นเราก็กอดกัน แล้วความไม่สบายใจตลอดวันที่ผ่านมาก็ถูกปัดเป่าให้หายไป

     

     

    ก่อนไปอเมริกาหนึ่งวัน อาชานยอลบอกว่าจะพาผมไปเที่ยว

     

    เขาไม่บอกว่าจะพาผมไปไหน ได้แต่นั่งรถไปเรื่อยๆ คิดเดาไปต่างๆนานา ที่หมายที่อาพาไปไม่ไกลนัก ไม่นานผมก็ได้คำตอบ

     

    อาชานยอลพาผมมาที่สวนสนุก เมื่อก่อนพ่อกับอาเคยพามาหลายครั้ง เป็นที่ที่ผมชอบที่สุด ถึงตอนนี้ก็ยังชอบ ผมชอบบรรยากาศครึกครื้นสนุกสนาน แล้วก็ชอบที่ได้มากับอา

     

    อากับพ่อเลิกพามาตั้งแต่ผมโตถึงอายุเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ผมอยากเล่นพวกรถไฟเหาะที่ตอนเด็กๆไม่ได้เล่น ผมชวนอา แล้วก็ต้องแปลกใจที่เขาเล่นเป็นเพื่อนผมทุกอย่าง ผมไม่เคยเห็นเขาในมุมแบบนี้เลย

     

    ตอนเด็กอาได้มาเที่ยวบ่อยไหม”

    ไม่ พ่อแม่อาไม่ใจดีอย่างพี่คังอิน”

    พ่อแม่ของอาเป็นยังไง” ผมถือโคนกินไอศกรีมช็อกโกแลตที่อาซื้อให้ เขารู้ทุกอย่างว่าผมชอบอะไร เราเล่นเครื่องเล่นที่อยากจนพอใจแล้ว ตอนนี้ก็เลยพากันเดินเล่น

    อาไม่รู้จักพ่อแม่ตัวเองดีเท่าไหร่ ได้ฟังแต่เรื่องที่ทะเลาะกัน ด่ากันแต่ละวัน ออกมาอยู่เองได้ก็ไม่เคยกลับไป”

    เขาไม่ตามอากลับบ้านเหรอ”

    หลังอาออกมาเขาก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”

    เหรอครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ กินไอศกรีมไปก็คิดไปว่าน่าเสียดายที่อาไม่มีความทรงจำดีๆกับครอบครัวเลย

    เราแยกย้ายกันไปคนละทาง ก็ดีเหมือนกัน”

     

    อาชานยอลยกมือถือขึ้นถ่ายรูปผมไปหลายรูประหว่างที่เขาพูด ผมยิ้มให้ตากล้องประจำตัวของผม เดินเข้าไปหาแล้วยื่นไอศกรีมให้เขากิน

     

    เราเดินด้วยกันช้าๆ เขาจับมือผม พาเดินไปเรื่อย ผมเงยหน้ามองเครื่องเล่นที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆตัว ไม่ได้อยากเล่นเหมือนตอกแรกที่มาถึง แค่อยากอยู่กับอาแบบนี้จนกว่าจะหมดวัน คิดถึงวันพรุ่งนี้ที่ต้องเดินทางแล้วก็รู้สึกเศร้า

     

    ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ที่ไปอเมริกา ผมคิดอย่างนี้จริงๆ มันคงทรมานมาก ผมคงคิดถึงอา คิดถึงมากมายกว่าปีที่แล้วไม่รู้กี่เท่า

     

    อยู่ดีๆผมก็ไม่อยากไปแล้ว” ผมบอกเขา

    ทำไมล่ะ”

    เพราะอาไง เพราะผมคงคิดถึงอา”

    จงอินบอกเองว่ามันแค่สองเดือน”

    ใช่…”

    ตัดสินใจไปแล้ว ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำให้เต็มที่ แล้วรีบๆกลับมาหาอาเร็วๆก็แล้วกัน”

    อาต้องคิดถึงผมนะ”

     

    เขากระชับมือผมแทนคำตอบ ไม่หันหน้ามาสบตาผม

     

    เราอยู่ที่สวนสนุกทั้งวันจนมืด อาชานยอลพาผมไปขึ้นม้าหมุน ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนชอบมันมาก และก็ต้องขึ้นม้าหมุนเป็นอย่างสุดท้ายก่อนกลับ ถึงมันจะเป็นของเล่นเด็กๆ แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็ยังชอบเล่น รวมทั้งผมด้วย ตอนตัวเล็กๆอาจะอุ้มผมขึ้นมานั่ง แต่ตอนนี้ผมขึ้นเองได้แล้ว ผมเลือกม้าตัวหนึ่ง อาชานยอลเดินตามมายืนเฝ้าข้างๆเหมือนผมเป็นเด็ก เขาถ่ายรูปผม ผมก็มองเขา แสงไฟบนนี้สวยดี มีดนตรีชวนฝันดังอยู่รอบตัว แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากเขา

     

    อา ถ่ายรูปกัน”

     

    ผมหยิบมือถือตัวเองออกมา กระโดดลงจากม้าไปยืนข้างๆ แต่อาดึงผมไปยืนข้างหน้า เขากอดกระชับเอวผม เอาคางวางไว้บนบ่าให้ใบหน้าเราอยู่ใกล้ๆกัน

     

    ผมยิ้มให้กล้อง อายิ้มนิดๆตามแบบของเขา

     

    รูปถ่ายรูปนั้นที่สวนสนุกเป็นรูปของเราที่ผมชอบที่สุด ผมตั้งมันเอาไว้บนหน้าจอมือถือตลอดสองเดือนที่อยู่อเมริกา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมคิดถึงอาน้อยลงได้สักนิดเลย




     




    #FicLostonYou




    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    แจ้งข่าวรีปริ้น CHANKAI ALBUM #เรื่องสั้นชานไค

    เล่มละ 350- ใครสนใจอีเมลมานะคะ blackstarsecret1@gmail.com ปิดจอง 10 ก.พ. ค่ะ




    แล้วก็ขอแจ้งข่าว

    งาน Meeting Chankai #มีต6188

    งานจัดวันที่ 11 มีนาคม รายละเอียด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×