ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Lost On You [ChanKai]

    ลำดับตอนที่ #6 : Lost On You 6

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 59


    Lost on You

    [6]

     

     

    หน้าหนาวปีที่สิบสี่อันแสนอบอุ่น ไม่สิ ยิ่งกว่าอบอุ่นซะอีก

     

    พี่ชายสุดที่รักยิ่งนับวันผมก็เหมือนจะรักน้อยลงทุกวันเพราะนิสัยกวนโอ๊ยน่ารำคาญ แต่ก็เป็นคนที่ถึงจะอยากเกลียดก็เกลียดไม่ลงอยู่ดี ผมกับแทมินพอขึ้นมัธยมพ่อกับแม่ก็จับให้เรียนโรงเรียนเดียวกัน เราสองพี่น้องเห็นด้วย แม้จะเพิ่งเจอกันแค่สองปีแต่เหมือนเรารู้จักกันตั้งแต่เกิด อยู่กับแทมินผมสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง เป็นทั้งพี่และเพื่อนสนิท นิสัยเราดูภายนอกอาจจะแตกต่าง แทมินมีเพื่อนฝูงเยอะแยะ เป็นจุดศูนย์กลางของเพื่อนๆ มีรอยยิ้มที่ทำให้เข้าถึงได้ง่าย เทียบกับแทมินแล้วผมดูเป็นคนพูดน้อย เข้าถึงได้ยากกว่า แต่ก็มีกลุ่มเพื่อนๆที่สนิทกันอยู่สี่ห้าคนซึ่งรวมแทมินอยู่ด้วย ถ้าอยู่ในกลุ่มนั้นผมก็จะคึกคะนองตามประสาเด็กผู้ชายย่างเข้าวัยรุ่น และเริ่มเรียนรู้อะไรต่างๆจากความคะนองเหล่านั้น

     

    กลับก่อน ไว้เจอกัน” มุนคยูเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มบอกก่อนจะลุกขึ้น พวกเราที่เหลือมองหน้ากันยิ้มๆหันไปมองนักเรียนหญิงรุ่นพี่ที่มายืนรออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พวกเรามองจนคนทั้งคู่เดินห่างออกไปสักระยะ

     

    ตาม”

     

    ไม่บอกผมก็รู้ว่าแทมินกำลังจะพูดคำนี้ พวกเราอยากรู้อยากเห็นเรื่องมุนคยูมาพักใหญ่ๆ แต่ถามอะไรมันก็ไม่เคยเล่า วันนี้ก็เลยถือเป็นโอกาสเหมาะ พวกเราพากันลุกเดินตามไปห่างๆ พอออกนอกรั้วโรงเรียนฝ่ายรุ่นพี่ก็เอื้อมมือมาจับมือมุนคยู ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรแต่สำหรับพวกเราที่ยังไม่เคยริมีแฟนก็อดจ้องมองการกระทำพวกนั้นไม่ได้

     

    อย่างงี้ถ้าเป็นพ่อจะว่าแก่แดด” ราวี่เพื่อนอีกคนของพวกเราพูด ผมไม่มีความคิดเห็นอะไร เพราะว่ากันเรื่องแบบนี้ในโรงเรียนแม้ยังไม่ถึงวัยก็จะเห็นพวกคู่รักรุ่นพี่มาก่อนทั้งนั้น

    อยากกินไอติม” ผมบอก ละความสนใจจากเพื่อนกับรุ่นพี่ไปมองร้านไอศกรีมที่เดินผ่าน

    หนาวจะตายอยู่แล้ว แต่อยากกินก็กิน” แทมินว่าเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่ก็ยอมตลอดไม่ว่าผมจะบอกว่าอยากได้อะไร พวกเราปล่อยมุนคยูไปแล้วเลี้ยวเข้าร้านไปนั่งกินไอศกรีมแทน

     

    ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาอยู่โรงเรียนเดียวกับแทมินพ่ออนุญาตให้ผมกลับบ้านเองได้ ผมกับแทมินเลยชอบเถลไถลกันก่อนจะเข้าบริษัทพ่อไปซ้อมเต้น ตอนนี้ค่ายเพลงของพ่อขยายใหญ่ขึ้นเพราะวงที่พ่อกับเพื่อนร่วมกันปั้นเกิดดังขึ้นมาชั่วข้ามคืน จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เวลานี้พ่อผมจึงกลายเป็นผู้บริหารค่ายควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ อาอีทึก อาเยซอง อาชานยอลก็ด้วย ส่วนใหญ่ผมจะเจออาชานยอลที่บริษัท แต่เพราะเขายุ่งๆกับงาน และผมโตพอจะดูแลตัวเองได้แล้วเราเลยไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เราห่างกันจนบางทีแม้ผมอยากจะเจอ อยากคุยกับอาผมก็นึกเกรงใจไม่กล้าขึ้นไปหาที่ห้องเพราะกลัวว่าจะรบกวน

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ผมถามตัวเองอยู่บ่อยๆ

     

    ไปสตูกันเถอะ” แทมินชวน เรากินไอศกรีมเสร็จนั่งพูดคุยกันเพลินจนเริ่มเย็นก็ถึงเวลาแยกย้าย

     

    ผมกับแทมินไปถึงบริษัทก็พากันเข้าห้องซ้อมห้องเล็กที่พ่อทำให้สำหรับเราสองคนโดยเฉพาะ จากที่เรียนบัลเล่ต์มาพอเจอแทมินเขาก็พาผมเปิดโลกการเต้นให้กว้างขึ้น แทมินไม่ได้เรียนบัลเล่ต์แต่เรียกเต้นแบบฟรีสไตล์ เขาเต้นได้หลายแบบและมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผมสนุกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เราเรียนเต้นกันสองวันต่ออาทิตย์กับครูที่นี่ที่ฝึกพวกบรรดาศิลปินฝึกหัด แต่ผมกับแทมินไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นศิลปินหรืออะไร เราแค่หลงใหลการเต้นกันก็เท่านั้น

     

    จงอิน”

    หืม” แทมินเรียก เราต่างคนต่างยืดเส้น ผมขานรับ ตอนแรกไม่ได้หันไปมอง แต่แทมินเรียกแล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรผมเลยเงยหน้ามองผ่านกระจก แทมินทำหน้าเหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่ยอมพูดสักที

    มีอะไร” ผมถามอีก

    รู้จักคนที่ชื่อยุนอาไหม”

    รุ่นพี่ที่โรงเรียนน่ะเหรอ”

    อืม”

    ถามทำไม” ผมถาม อมยิ้มนิดหน่อยเมื่อเดาอะไรออก ยุนอาที่แทมินถามเป็นรุ่นพี่พวกเราหนึ่งปี ที่สำคัญคือสวยมาก ผมคิดว่าผู้ชายกว่าครึ่งโรงเรียนชอบผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง แต่ไม่คิดมาก่อนว่าแทมินจะชอบด้วยเหมือนกัน

    จีบดีไหม”

    กล้าก็ลองดู”

    ทำไมจะไม่กล้า” แทมินว่า

    เคยจีบผู้หญิงเหรอ” ผมถาม

    ไม่เคย แต่ยุนอาน่ารักดีว่าไหม”

    ก็ดี” แทมินอาจไม่ได้ต้องการความเห็นแต่คงต้องการจะบอกความในใจให้ผมรู้ซะมากกว่า

    พรุ่งนี้จะลองดู”

    จะคอยดู”

     

    ผมว่าต่อเหมือนท้าทาย หยิบรีโมทมากดเปลี่ยนเพลงแล้วเริ่มซ้อม กว่าสองชั่วโมงที่เต้นอยู่ในห้องผมเห็นอาชานยอลมายืนดูหน้าห้องอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ทันที่ผมจะหยุดเต้นอาก็ไปซะแล้ว บางทีผมก็น้อยใจหน่อยๆที่อาไม่รอ และคิดไปว่าเขาคงแวะมาดูเฉยๆไม่ได้อยากพูดคุยหรือคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงอา

     

     

    แทมินทำอย่างที่ว่าจริงๆที่บอกจะจีบรุ่นพี่ยุนอาดาวเด่นของโรงเรียน แต่ที่เหนือการคาดหมายไปกว่านั้นก็คือพี่ชายฝาแฝดผมจีบติด

     

    ดีใจผมก็ดีใจด้วยอยู่ แต่พออินเลิฟหนักๆเข้าจากที่เคยตัวติดกับผม แทมินดันตัวติดกันพี่ยุนอาแทน ที่เพื่อนเคยบอกว่าผมเป็นจุดศูนย์กลางของแทมินตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่แล้ว ผมเข้าใจในระดับหนึ่ง ไม่ได้คิดอะไรมากแค่อยู่กับเพื่อนมากขึ้น ซ้อนเต้นคนเดียวบ่อยขึ้น แม้จะรู้สึกเหงาอยู่นิดหน่อย และไอ้ช่วงเหงาที่ว่านั่นผมก็ดันติดสินใจทำเรื่องที่ไม่เคยคิดจะทำอย่างการตอบตกลงคบกับผู้หญิงในห้องคนหนึ่งที่มาสารภาพรัก

     

    ผมคบกับเธอได้เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้นเพราะไปต่อไม่ไหว ผมไม่ได้ชอบเธอมาก่อน ในอนาคตก็คงไม่ชอบ ลองจูบกันครั้งหนึ่งทำให้เข้าใจอะไรหลายอย่างทีเดียว ไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่แทมินเคยเล่าเลยสักนิด ผมอยากมีประสบการณ์ความรักแบบแทมินบ้างแต่ทำอย่างไรก็ไม่เหมือน ก็เลยต้องแยกย้ายกลับมาอยู่ตัวคนเดียวเหมือนเดิม จบกันง่ายๆแบบนั้นแบบที่ต่างคนต่างเข้าใจ

     

    ทำไมวันนี้อยู่ดึก”

     

    ประตูห้องซ้อมเปิดออกพร้อมใบหน้าคุ้นตาของอาชานยอล ผมหยุดเต้นคว้ารีโมทมากดหยุดเพลงแล้วเดินไปหาเขา

     

    พรุ่งนี้โรงเรียนหยุด”

    แทมินล่ะ พักนี้ทำไมไม่เห็น”

    ไปกับแฟน”

    มีแฟนกันแล้วรึไง” อาชานยอลทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมพยักหน้า ไม่กล้าพูดอะไร

    จงอินก็มีกับเขาด้วยเหรอ” เขาถามต่อ

    ไม่มี” ผมตอบ อาชานยอลค่อยคลายหัวคิ้ว

    ดีแล้ว…ซ้อมจะเสร็จรึยัง ให้อารอกลับพร้อมกันไหม”

    เสร็จแล้ว กลับเลยก็ได้ครับ” ผมบอก เขาจึงออกไปรอผมเก็บของที่หน้าห้อง

     

    ผมเดินตามเขาไปขึ้นรถ เกิดความเงียบขึ้นเล็กน้อยราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่กำลังสรรหาเรื่องมาคุย ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้ ไม่ชอบให้อาชานยอลเงียบขรึมกับผมเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่น

     

    เรียนเป็นยังไงบ้าง”

    ก็ดีครับ อาถามเหมือนพ่อเลย”

    มีเพื่อนเยอะรึเปล่า”

    มีสนิทๆไม่กี่คน…อาล่ะ กลับดึกทุกวันรึเปล่า ผมไม่ค่อยเจออาที่คอนโดเลย”

    ก็กลับประมาณนี้แหละ ปกติจงอินก็กลับไปแล้ว…ไหนเล่าเรื่องช่วงนี้ให้อาฟังบ้างซิ”

    เรื่องอะไรครับ”

    เรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเล่า เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังทุกวัน”

     

    ผมหันไปมองก่อนที่จะเล่าอะไร คำพูดของเขาเหมือนเป็นการบอกว่าเขาก็คิดถึงผม มันทำให้ผมยิ้ม

     

    ผมจะเล่าเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังให้อาฟัง”

    เคยเล่าให้แทมินฟังรึเปล่า”

    ไม่เคย”

    เล่ามาสิ”

    อาทิตย์ที่แล้ว…ผมจูบกับผู้หญิงคนนึง…” รถกระตุกจนหน้าเกือบทิ่มทั้งๆที่ยังพูดไม่จบประโยค

    ไหนบอกว่ายังไม่มีแฟน” อาชานยอลถาม ออกรถต่อนิ่มๆ ผมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเล่า

    ตอนนี้ไม่มี เลิกแล้ว จริงๆไม่ได้ตั้งใจคบตั้งแต่แรก”

    แล้วไปจูบกันได้ยังไง”

    แค่ลองดูเฉยๆ แทมินบอกว่ารู้สึกดี แต่ผมไม่ได้รู้สึกดี”

    ไม่ใช่เรื่องจะทำกับใครก็ได้ ยังเด็กอยู่ไม่ควรคิดเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ” อาชานยอลพูดเสียงเข้ม

    เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะแปลก ในโรงเรียนมีเยอะแยะ”

     

    อาชานยอลจอดรถเมื่อมาถึงคอนโด เขาหันมาจ้องผมแม้จะมีแค่แสงไฟสลัวๆในลานจอด

     

    ดื้อแบบนี้ เป็นวัยรุ่นแล้วสิ” ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะดื้อตรงไหน

    ผมโตแล้ว”

    โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เขายังคงตั้งข้อสงสัย มีอะไรอยู่ในความคิดเขาบ้างก็ไม่รู้

    พรุ่งนี้เลิกเรียนกี่โมง” อาชานยอลถาม เราเดินขึ้นมาอยู่ที่หน้าห้องของผมแล้ว

    สามโมง”

    จะมาซ้อมที่บริษัทไหม จะไปรับ”

    มาครับ แต่อาว่างเหรอ”

    ว่าง รออยู่ที่โรงเรียนแล้วกัน”

     

    ผมแปลกใจมากที่อยู่ๆอาชานยอลจะมารับ เขาไม่เคยมารับตั้งแต่ผมขึ้นมัธยม นานมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่จำได้ ไม่รู้ว่าอาชานยอลอยู่ในอารมณ์ไหนเหมือนกันแต่วันถัดมาทั้งวันผมก็รอให้ถึงเวลาเลิกเรียน พอออดดังผมก็บอกลาแทมินกับเพื่อนรีบออกมาหน้าโรงเรียน

     

    อาชานยอลยืนพิงรถรออยู่อีกฝั่งของถนนทั้งที่อากาศหนาวแสนหนาว พอเห็นผมเดินออกมาทำท่าจะก้าวข้ามถนนเขาก็โบกมือให้ผมหยุดรออยู่ตรงนั้น เขาข้ามถนนมาหาผม จับมือผมพาข้ามกลับไปด้วยกัน

     

    ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กๆ อบอุ่นใจเหมือนเมื่อก่อนที่มีอาอยู่ด้วยไม่ว่าเวลาไหน เป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนเวลาอยู่กับใคร

     

    มารับผมทุกวันได้ไหม” ผมถามอาหลังขึ้นรถ รอยยิ้มของอาหลังคำถามของผมนั้นดูอ่อนโยน

    ทำไมจะไม่ได้”

    ทำไมอยู่ๆถึงใจดี”

    กับจงอินอาก็ใจดีแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”

     

    ผมรู้ว่าอาก็เป็นแบบนี้ แต่แปลกที่อยู่ๆก็หน้าร้อนใจเต้นแรงขึ้นมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

     

     

    ประมาณเดือนกว่าหลังจากนั้นแทมินก็เลิกกับพี่ยุนอาโดยให้เหตุผลว่าเบื่อ ไม่น่าเชื่อว่ารักแรกของแทมินจะจืดจางลงง่ายดายถึงเพียงนี้ แทมินกลับมาเอาจริงเอาจังกับการเต้นเหมือนเดิมหลังจากมาซ้อมบ้างไม่มาบ้าง ผมได้ฝาแฝดผมกลับมาเป็นคู่หูเหมือนเดิม ส่วนอาชานยอลก็ยังมารับมาส่งผมอย่างสม่ำเสมอ พอแทมินกลับมาซ้อมด้วยเขาก็ไปส่งแทมินที่บ้านทุกวันก่อนเราจะกลับคอนโดด้วยกัน พ่อผมเตือนๆอาชานยอลอยู่เหมือนกันว่าทำให้ผมเคยตัว แต่อาชานยอลก็ไม่ฟังสักเท่าไหร่ ซึ่งก็ดีแล้วที่เขาไม่ฟัง เพราะผมไม่อยากให้อาชานยอลห่างไปเหมือนเมื่อก่อน

     

    อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมวันเกิด” อาชานยอลเหมือนนึกขึ้นได้ อีกไม่กี่วันก็วันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบห้าปีของผมแล้ว ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ

    ตามใจน้องผมจัง วันเกิดผมเหมือนกันนะครับอา ไม่ถามผมบ้าง” แทมินที่นั่งอยู่เบาะหลังส่งเสียงแทรกขึ้นมา

    อยากได้อะไรล่ะ”

    อยากได้รถ” แทมินพูดจริง แต่อาชานยอลคิดว่าพูดเล่น แทมินบอกกับผมบ่อยๆว่าอยากได้รถ มอเตอร์ไซค์ก็ยังดีไว้เราขับไปไหนมาไหนกัน แทมินไม่ได้สนิทกับอาชานยอลอย่างผม ก็เลยอดเกรงใจไม่ได้ที่ไปส่งที่บ้านทุกวัน

    ขอแม่ยังไม่ได้เหรอ” ผมถาม พวกเรายังอยู่แยกกันเหมือนเดิมแม้พ่อกับแม่จะกลับมาคบกับ คุยกันว่าคงอีกสักพักถึงย้ายมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งผมกับแทมินก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

    แม่ไม่ให้ พ่อก็ไม่ให้ บอกว่าโตกว่านี้อีกหน่อย” แทมินทำหน้าบูดบึ้ง

    รออีกสองสามปี” อาชานยอลบอก

    ผมกับจงอินก็คงต้องกวนอาไปอีกสองสามปี” แทมินพูด อาชานยอลเหลือบมองผมนิดหน่อยโดยไม่ได้ตอบอะไร

     

    แม้จะสนิทกับอาชานยอลแต่มาถึงตอนนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้เป็นครั้งคราวว่าทำไมอาชานยอลถึงตามใจผม ผมได้แต่สงสัยเงียบๆไม่กล้าจะถามเพราะไม่รู้คำถามจะออกมาแบบไหน และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคาดหวังอะไรอยู่

     

    เมื่อถึงวันเกิดของผมกับแทมิน ครอบครัวผมจัดงานเล็กๆที่คอนโด มีพ่อ แม่ ผม แทมินกับบรรดาคุณอาซึ่งเป็นเหมือนครอบครัวของเรา พวกเราได้รับของขวัญเล็กๆน้อยๆ พ่อให้บัตรคอนเสิร์ตแถวหน้าวงที่เราอยากดู แม่ให้รองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ล่าสุด อาชานยอลให้โมเดลรถกับแทมิน แต่กลับบอกว่าไม่มีของขวัญให้สำหรับผมเพราะผมบอกว่าไม่อยากได้อะไร ผมผิดหวังแต่ทำเป็นไม่ผิดหวัง ฝืนยิ้มนิดหน่อยให้เขา พูดไม่ออกสักคำ

     

    ของขวัญจงอินอยู่บนห้อง” อาชานยอลแอบกระซิบบอกตอนกำลังจะแยกย้ายกันกลับ ผมกับพ่อมาส่งทุกคนหน้าห้อง

    ขึ้นมาเอาไหม” เขาถาม ผมพยักหน้าแล้วบอกพ่อว่าจะขึ้นไปเอาของขวัญที่ห้องอาชานยอล

    ทำไมถึงไม่เอาลงมาให้ตั้งแต่แรก” แม่ผมถามขึ้นมา

    แกล้งจงอินเล่น” แม่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับอาชานยอลสักเท่าไหร่ มักจะสงสัยในเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างเช่นเรื่องนี้เป็นต้น

    จะเอาก็รีบไปเอาแล้วกลับมา” พ่อบอก ผมกับอาเลยรีบออกมาก่อนที่แม่จะถามอะไรจู้จี้จุกจิก

     

    ของขวัญของอาชานยอลไม่ได้พิเศษอะไร เป็นแค่ผ้าพันคอไหมพรมสีเทาผืนยาวผืนหนึ่ง แต่มันมีคุณค่าต่อจิตใจของผมมาก ผมดีใจมากที่ได้รับมัน

     

    สุขสันต์วันเกิด”

     

    เขาพันผ้าพันคอให้ผมหลายทบ ผมเงยหน้ามองเขาระหว่างนั้น เขายืนอยู่ใกล้ผมมาก มองตาผม ยิ้มให้บางๆ ใบหน้าอยู่ใกล้จนผมเผลอกลั้นหายใจ อีกครั้งที่เขาทำให้ใบหน้าผมเห่อร้อน…

     

    ผมต้องหลับตาลง

     

    แต่ไม่มีอะไรพิเศษที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น



     




    #FicLostonYou



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    P.S. จงอิน 15 อาชานยอล 30 แล้วค่ะ 

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×