ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Lost On You [ChanKai]

    ลำดับตอนที่ #10 : Lost On You 10

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 59


    Lost on You

    [10]

     

     

     

    ผมนั่งแท็กซี่กลับบ้าน กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้อาอาจจะตามออกมาทัน

     

    ผมไม่เคยหนีออกมาแบบนี้ ผมไม่เคยหนีเขา มีแต่จะดีใจที่เห็นเขา อาชานยอลอาจจะไม่ได้ยินที่ผมเคาะบอกหน้าห้องน้ำ พอออกมาไม่เจอผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน แต่ผมแน่ใจว่าเขาต้องโกรธแน่ๆ รู้ทั้งรู้ผมก็ยังหนีออกมา

     

    มือถือผมดังตอนใกล้จะถึงบ้าน ผมไม่รับเพราะกลัว กำมือถือไว้แน่นรอให้สายตัด ผมต้องการเวลาทำความเข้าใจความรู้สึกตัวเองและทำใจกับสิ่งที่เห็น มันต้องใช้เวลา นั่นคือเหตุผล

     

    ถุงยางอนามัยในกระเป๋าตังค์ของอาสะกิดใจให้ผมนึกย้อนความทรงจำ นึกย้อนไปตอนที่ยังไม่ประสีประสา ผมเคยเห็นอาชานยอลกับผู้หญิงหลายคน ผมเห็นแค่ตอนที่พวกเธอมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ผมเข้าใจว่าเป็นคนรู้จัก เป็นแฟนเพลง เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่มีความสำคัญสักเท่าไหร่มันจึงเป็นแค่ความทรงจำรางๆ แต่จู่ๆมันก็เกิดชัดเจนขึ้นมา ยิ่งตอนที่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องของอาและห้ามผมเข้าไป ผมก็เพิ่งรู้ว่าทำไมอาถึงห้าม ผมคงจะไปขัดจังหวะพวกเขา

     

    ผมไม่ชอบความคิดตัวเองตอนนี้เลย

     

    อ้าว”

     

    แทมินแปลกใจที่เห็นผมเปิดประตูบ้านเข้าไป พ่อเงยหน้าจากแล็ปท็อปขึ้นมอง ผมไม่เห็นแม่อยู่แถวนั้น น่าจะอยู่ชั้นบน ผมไม่พูดอะไร เดินผ่านทั้งสองคนกำลังจะขึ้นชั้นบนพ่อก็เรียกผมไว้

     

    ไหนบอกว่าจะค้างกับชานยอล”

    นึกขึ้นได้ว่ามีงานค้างอยู่ ต้องส่งพรุ่งนี้ด้วย” แทมินรู้โดยทันทีว่าผมโกหกแต่ไม่ได้พูดอะไร

    งั้นก็รีบไปทำ ดึกแล้วนะ รีบนอน”

    ครับ”

     

    พ่อมองตามผมขึ้นบันได แทมินก็เดินตามผมขึ้นมาถึงบนห้อง

     

    ไม่รับเหรอโทรศัพท์” มือถือผมยังดังไม่หยุด ผมก้มมองมันก่อนจะยื่นให้แทมิน

    บอกอาให้หน่อยว่านอนแล้ว”

    ทำไม?” แทมินถามนิ่ง มองหน้าผม

    เถอะน่า” ผมยัดมันใส่มือพี่

    ก็ได้…”

     

    แทมินทำอย่างที่ผมบอก บอกอาชานยอลว่าผมนอนแล้ว อาคงถามว่าผมกลับมานานรึยัง แทมินก็เลยตอบไป โดนซักไซ้อยู่สักพักก็วางแล้วยื่นมือถือคืนให้ผม

     

    ขอบใจ” ผมบอก วางทุกอย่างลงแล้วทิ้งตัวนอนบนเตียง แทมินนั่งลงตามข้างๆ

    รู้ไหมจงอิน…ไม่ว่าความลับอะไรนายก็บอกฉันได้ เพราะถึงนายไม่บอก ฉันก็รู้อยู่ดี”

    รู้เหรอ”

    อืม…รู้” ผมมองตาฝาแฝด แทมินไม่ได้ทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นกวนๆเหมือนเวลาปกติที่ถาม แต่มองผมอย่างเป็นห่วง ทำให้ขอบตาผมร้อนๆต้องกะพริบตาถี่ๆหลายครั้ง

    ไม่เล่าอะไรตอนนี้ได้ไหม เหนื่อยมากเลย”

    อืม…แต่นายหนีกลับมาแบบนี้คิดดีแล้วหรือไง อาชานยอลตะคอกซะหูเกือบหนวก”

    เขาโกรธเหรอ”

    ก็น่าจะรู้ดี”

    หน้าตาคงจะน่ากลัว” แค่คิดก็กลัวแล้ว ไม่อยากเจอเลย

    น่ากลัวว่าจะตามมาที่บ้านมากกว่า”

    ไม่มาหรอก”

    ระวังไว้เถอะ” แทมินกดหน้าผมกับหมอน แกล้งผมเล่นนิดหน่อยก่อนจะปล่อย

    คืนนี้นอนเป็นเพื่อนหน่อย” ผมขอ แทมินก็พยักหน้า

     

    ถ้าผมอยู่คนเดียวผมคงฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ ยังดีที่แทมินไม่ถามอะไร คอยอยู่ข้างๆแค่นั้นที่ผมต้องการ ผมนึกไปถึงวันพรุ่งนี้ว่าถ้าเจออาชานยอลจะเป็นอย่างไร ผมคงต้องเจอหน้าอาทั้งที่ยังจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ นึกโทษของบ้าๆนั่นที่ไปอยู่ในกระเป๋าตังค์ของอา ผมไม่น่าเป็นเจอมันเลยจริงๆ

     

     

    อาชานยอลนั่งหน้าตาถมึงทึงอยู่ข้างล่างตั้งแต่เช้า ผมลงมาก็เจอเขานั่งรออยู่ ปกติจะรออยู่ในรถ คงกะไม่ให้ผมหนีไปไหนได้ถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ พ่อผมยังไม่ตื่น มีแต่แม่ที่กำลังเตรียมอาหารเช้าให้ ผมนั่งลงที่โต๊ะอาหารเงียบๆ ไม่นานแทมินก็ลงตามมา ผมกับอาไม่ได้ทักทายกัน มีแต่แทมินที่กล่าวทัก อาพยักหน้าให้เล็กๆ ยกแก้วกาแฟที่แม่ชงไว้ให้ขึ้นดื่ม สายตาเขาจับจ้องที่ผม

     

    วันนี้แปลก มารอจงอินแต่เช้า” แม่พูดกับอาชานยอล

    ตื่นเร็ว ก็เลยออกมาเลย” แม่กับอาชานยอลอายุพอๆกัน ผมไม่ค่อยเห็นพวกเขาคุยกันตรงๆ แต่วันนี้แม่คงสงสัยก็เลยถาม

    เด็กๆก็โตแล้ว ปล่อยไปโรงเรียนเองบ้างก็ได้ ไม่ต้องมารับทุกวันหรอกค่ะ”

    ไปเป็นไร” อาชานยอลบอกแค่นั้น ดื่มกาแฟจนหมด ผมกัดแซนวิชเคี้ยวช้าๆ กินไม่ค่อยลงสักเท่าไหร่

    จงอินไม่หิวเหรอลูก” ผมพยักหน้าให้แม่ แม่ก็ไม่ได้บังคับให้ผมกิน บอกให้ดื่มน้ำส้มคั้นแทนก่อนไป

     

    ผมเดินมาขึ้นรถอาชานยอลแต่โดยดีแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร แทมินนั่งข้างหลังเสียบหูฟังเหมือนทุกเช้า ผมมองออกนอกหน้าต่าง อยากให้ถึงโรงเรียนเร็วๆ ไม่อยากอยู่กับความกดดันของอา

     

    เมื่อคืนทำไมต้องหนีกลับ โทรศัพท์ก็ไม่รับ” เขาถามขึ้นมาก่อน ดูเหมือนจะกำลังระงับอารมณ์อยู่มากทีเดียว

    ผมแค่อยากกลับบ้าน”

    เป็นอะไร อธิบายให้อาเข้าใจซิ” ผมอธิบายให้อาฟังไม่ได้ก็เลยเงียบ

    ตอบ”

    อยากกลับบ้านแค่นั้นจริงๆครับ” อาชานยอลถอนหายใจยาว

    คราวหลังอาจะถามความสมัครใจของจงอินก่อนแล้วกัน”

     

    ผมแปลกใจที่อาชานยอลพูดอย่างนั้น เขาไม่รู้ว่าทำไม และคงคิดเอาว่าเป็นความผิดของเขาที่บังคับผมไปผมถึงหนีกลับ

     

    ผมปล่อยให้เขาคิดไปแบบนั้นดีกว่าบอกความจริง อาชานยอลจอดรถที่เดิมหน้าโรงเรียน แทมินบอกขอบคุณอาแล้วลงไปก่อน ผมยังนั่งอยู่ อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร

     

    ตอนเย็นให้มารับไหม” เขาถาม แทนที่จะบอกว่าจะมารับให้ผมรอเหมือนทุกที

    ผม…กลับเองดีกว่า”

     

    ผมลังเลแต่ก็บอกไปแบบนั้น ผมอาจจะต้องลองถอยห่างจากอาออกมาหน่อย จะได้ไม่คิดมากไป หวังมากไป และเจ็บมากเกินไปหากมันไม่เป็นอย่างที่ผมหวัง

     

     

    อาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์อาชานยอลเลยไม่ได้มารับมาส่ง ที่โรงเรียนผมได้รับดอกไม้กับขนมทุกวัน คนเอามาให้ก็ไม่ซ้ำหน้า แทมินมองว่ามันเป็นเรื่องลึกลับน่าสนุกที่ต้องตามสืบให้รู้เรื่องให้ได้ พวกเพื่อนในกลุ่มก็อยากรู้ไม่ต่างกันพวกมันเลยตามจนได้เรื่อง

     

    ของที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นของเล็กๆน้อยๆผมจึงรับไว้ ไม่ได้รู้สึกว่าโดนคุกคามอะไรนักเพราะคนให้ทำตัวลึกลับเสียเหลือเกิน ตอนแรกผมคิดว่าผู้หญิงเป็นคนให้ ตอนหลังผมถึงสงสัยว่าเป็นผู้ชาย เพื่อนๆผมเองก็คิดอย่างนั้น

     

    โด คยองซู”

     

    มุนคยูพูดชื่อนี้ขึ้นมาในวันหนึ่ง ผมหันไปถามว่าใคร มันถึงบอกว่าเป็นบุคคลลึกลับที่คอยส่งของให้ผม

     

    รู้มาจากไหน” แทมินถาม

    ก็รุ่นน้องที่เคยไปถาม มันไปสืบให้ถึงร้านดอกไม้ แล้วไปเจอรุ่นพี่คยองซูที่อยู่โรงเรียนเราคนนี้เข้าพอดี มันสงสัยก็เลยตามดูให้ ปรากฏว่าใช่ คนนี้เป็นคนฝากของมาให้จงอิน”

    เอาแล้วไง” แทมินส่ายหน้า

    เอาอะไร” ราวี่ถาม

    น้องกูโดนผู้ชายจีบ…อีกแล้ว…” ท้ายเสียงคำว่าอีกแล้วเบาจนเพื่อนๆไม่ได้ยิน

    รุ่นพี่เหรอ” ผมสงสัย อยากรู้ขึ้นมาว่าเป็นคนแบบไหน

    รุ่นพี่…ตัวเล็กๆ ดูเงียบๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาชอบมึงได้ยังไง คุ้นชื่อบ้างรึเปล่า”

     

    ผมนึก แต่ก็ไม่คุ้น มุนคยูเลยบอกว่าจะพาพวกผมไปดูตอนพักกลางวัน

     

    พอผมเห็นหน้า ผมก็จำได้ว่าเคยเจอรุ่นพี่คยองซูที่ไหน เขาเป็นนักร้องของโรงเรียน เคยเจอตอนซ้อมเวลามีงาน สวนกันไปมาด้านหลังเวที แทมินก็คุ้นหน้า เพียงแต่ไม่รู้ชื่อ และไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนๆนี้

     

    ที่เขาฝากของมาให้คงไม่อยากเปิดเผยตัว ผมก็เลยทำเป็นไม่รู้ ได้ของมาก็รับไว้ ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆอย่างนี้ก็ดี เป็นความรู้สึกที่ดี ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดใจอะไร

     

    สิ่งที่ทำให้ผมอึดอัดใจก็คงจะมีอยู่เรื่องเดียว เรื่องอาชานยอล

     

    ผ่านมาสองอาทิตย์ที่อาชานยอลไม่ได้มารับมาส่ง เราก็แทบไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน ผมอึดอัดขึ้นทุกทีเวลาที่เจอ ผมคิดถึง อยากกลับไปอยู่ใกล้ๆ ความคิดของผมเริ่มตกตะกอนจากวันนั้น ผมพอจะเข้าใจระยะห่างของวัยระหว่างผมกับอาชานยอล มันมีคำว่าเด็กกับผู้ใหญ่กั้น ผมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมยอมรับที่มันเป็นแบบนั้นได้สักเท่าไหร่

     

    แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญในตอนนี้ สิ่งสำคัญก็คือผมเป็นคนผลักอาให้ออกห่างไปเอง และตอนนี้เขาก็ห่างออกไปมากจนผมกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราจะกลายเป็นเพียงแค่คนรู้จัก

     

    จะไปหาอาชานยอลไหม” แทมินปิดไฟห้องซ้อม ออกมานอกห้องผมก็เห็นอาชานยอลอยู่ไกลๆ เขากำลังคุยอยู่กับใครสักคน ผมเหม่อมองจนกระทั่งแทมินถาม

    ก็อยากไปหา”

    อยากไปก็ไป จะรออะไร เห็นเป็นแบบนี้มาอาทิตย์นึงแล้ว”

    แทมิน นายไม่เข้าใจ”

    ไม่ต้องสนหรอกว่าฉันจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ คิดแต่เรื่องของนายเถอะ”

     

    ระหว่างที่คุยกับแทมินผมมองไปที่อาตลอดเวลา ตอนนี้เขาปลีกตัวออกมาแล้วและกำลังเดินไปที่ลิฟต์

     

    ไปๆ” แทมินดันผมไปข้างหน้า ผมเลยออกวิ่งตรงไปที่ลิฟต์ แต่ก็ช้าเกินไป ผมวิ่งไปไม่ทัน

    จะไปหาอาชานยอลที่คอนโดนะ คืนนี้อาจจะไม่กลับ” ผมเดินกลับมาบอกแทมิน

    อย่าหนีกลับมาอีกล่ะ” ผมยิ้มให้แทมินแทนคำตอบ ครั้งนี้คงไม่หนีกลับยกเว้นแต่จะเห็นอะไรบาดตาบาดใจเข้าให้อีก

    อืม ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วย”

    ต้องตอบคำถามแม่อีกแล้ว”

    ก็บอกไปตามจริง อยู่กับอาชานยอลพ่อคงไม่เป็นห่วง”

    พ่อน่ะไม่ห่วง แต่แม่นี่สิ”

     

    แทมินถอนใจหนัก ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่ผมหนีอาชานยอลกลับมาที่แทมินพูดเหมือนรู้ ผมก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังสักเท่าไหร่ แทมินก็ไม่ได้ซักถามละเอียด แต่ผมก็แน่ใจว่าความรู้สึกของผมที่มีต่ออาชานยอลนั้นไม่ได้เป็นความลับที่เก็บไว้คนเดียวอีกแล้ว

     

    ผมออกมาจากบริษัทนั่งรถกลับคอนโดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านเก่า อาชานยอลเลิกงานค่อนข้างเป็นเวลา ผมกะเวลาไปถึงก่อนแล้วรอเขาที่หน้าห้อง ขณะรอผมก็คิดว่าตัวเองเหมือนเด็กเอาแต่ใจ คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป คิดมากไปเองอยู่คนเดียวโดยที่อาชานยอลไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย ก็ไม่แปลกที่เขาจะโมโหที่ผมไม่มีคำอธิบาย

     

    จงอิน” เสียงคุ้นเคยเรียก ผมเงยหน้าที่ซุกกับหัวเข่าขึ้นมอง ผมนั่งพิงประตูห้องเขารอจนเกือบหลับ

    อา…”

    มานั่งทำอะไรตรงนี้”

    มารออา”

    แล้วมารออะไรที่นี่ ลุกขึ้น” อาชานยอลทำหน้ายุ่ง ดึงแขนผมให้ลุกขึ้น

    คืนนี้ผมค้างกับอานะ” ผมบอกความต้องการของตัวเอง

    เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า” อาถาม ดันประตูเปิดออกให้ผมเดินเข้าไป

    เปล่า…ผมแค่อยากมาหา”

     

    เขามองผม ก่อนมืออุ่นๆของเขาจะจับมือผมจูงเข้ามาในห้องนอน

     

    ไปอาบน้ำก่อนไป จะได้ไม่หนีอากลับไปอีก”

    ผมไม่หนีแล้ว” อาเงียบ เหมือนกำลังตีความคำที่ผมพูด

    ไม่พอใจอะไรก็บอก แต่ห้ามหนี เข้าใจไหม”

    ครับ ผมขอโทษ”

     

    อาชานยอลยิ้มบางๆแบบที่เขาชอบยิ้มให้ผม ผมคิดถึงรอยยิ้มนี้ของอาจริงๆ เห็นแล้วผมก็ยิ้มตามเขา

     

    ผมใจกระตุกนิดหน่อยเมื่ออยู่ๆอาชานยอลเอื้อมมือมาหา เขาจับแก้มผม เกลี่ยนิ้วเหนือมุมปากผมที่เป็นรอยลักยิ้มเล็กๆ เมื่อก่อนเขาชอบแกล้งจิ้มมันบ่อยๆเวลาที่เห็นผมหัวเราะ

     

    ไม่เห็นตั้งนาน” เขากำลังบอกว่าคิดถึงรอยยิ้มของผมเหมือนกันหรือเปล่า

    สองอาทิตย์” ผมบอกอา

    นาน”

    ถ้าอาอยากเห็น ผมจะยิ้มให้อาทุกวันเลย”

    พูดเองนะ” เขายังลูบลักยิ้มผมไม่เลิก

     

    ทุกครั้งที่ห่างไปแล้วกลับมาใหม่ ผมรู้สึกว่าเราจะขยับใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยความคิดถึง ผมแทบจะลืมเรื่องที่รับไม่ได้เมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ก็ยังไม่ลืมมันไปทั้งหมด มันยังอยู่ในใจ ผมยังปวดใจเล็กๆขณะมองอาที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตรงนี้

     

    ผมไปอาบน้ำดีกว่า”

     

    อาชานยอลปล่อยมือจากแก้มผมเปลี่ยนเป็นลูบหัวผมเบาๆแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้

     

    บอกพ่อรึยัง” อาถาม

    ฝากแทมินบอกแล้ว”

    เดี๋ยวอาโทรไปบอกอีกทีแล้วกันว่าจงอินอยู่กับอาแล้ว”

    ครับ” ผมแยกมาเข้าห้องน้ำขณะที่เขาโทรศัพท์

     

     

    คืนนั้น ผมหลับไปก่อนที่อาชานยอลจะอาบน้ำเสร็จ ตั้งแต่อาขึ้นมานอนบนเตียงเขาก็ขยับเข้ามากอดผมจากข้างหลัง ผมกำลังสะลึมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่น อากระซิบอะไรบางอย่าง ผมได้ยินแต่จับใจความไม่ได้ ไม่ว่านึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก…

     

    และหลังจากคืนนั้น ผมกับอาชานยอลก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม อาชานยอลพาผมมานอนที่คอนโดเขาอาทิตย์ละครั้ง และผมก็เริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มประหลาดขึ้นทุกที


     

     




    #FicLostonYou

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×