คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 02 70%
เจสันค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ได้ฮัมเพลงดังขนาดนั้น
แค่ทิวทัศน์จากมุมนี้มันทำให้เขาเพลินใจ จบลงที่การขลุกอยู่นี่ทั้งวัน เท่านั้นเอง
เจสันมองบ้านหลังเล็กที่ทาสีดำ รอบๆบ้านมีผีเสื้อสีฟ้าเรืองแสงบินว่อนไปมาหลายตัวเมื่อพลบค่ำ จากการมานั่งเล่นดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่นี่ทุกวันทำให้เขารู้ว่าผีเสื้อพวกนั้นจะตายลงเมื่อตะวันขึ้น กลายเป็นซากผีเสื้อปีกขาวซีด ก่อนจะค่อยๆคืนชีวิตเมื่ออัสดง
“ไม่กินข้าวเย็นหรือไง ?” เจสันปีนลงจากต้นไม้ก่อนจะปีนอีครั้งไปบนขอบหน้าต่าง เจ้าของบ้านล็อกประตู
“...” นิโคไม่ตอบก่อนจะกระแทกปิดหน้าต่างจนมันมาชนจมูกเขาให้ร้อง โอ๊ย ดังลั่น เจสันถอนหายใจ เขาไม่ควรไปหวังอะไรนักกับเด็กคนนี้
เสียงตุบเบาๆดังขึ้นเมื่อเจสันก้าวเท้าออกไป มันดังมาจากในบ้านที่มีเด็กชายเจ้าของผมรองทรงต่ำยุ่งๆเป็นเจ้าของ
รอยไถบากทางด้านซ้ายของหัวเจสันเริ่มมีผมปกคลุมจนเนียนดีแล้วว่าเขาไม่เคยพลาดท่าระหว่างการเดินทางจนผมหายไปเป็นแถบมาก่อน ไพเพอร์ยังคงรู้สึกผิดต่อเขาแม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร
เธอเพิ่งค้นพบตัวเองว่าอยากเดินตามทางแห่งเหล่าพรานและไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว แต่ชาวค่ายดันไปเอาเหตุผลเพี้ยนๆอย่างเช่น เขาชอบบินหนีไประหว่างเถียงหรือเขาชอบเอาดาบมาตัดขนจมูกจนทำให้เธอรับไม่ได้ ไม่แน่ว่าเหตุผลบ้าๆมันอาจมาจากเพอร์ซีย์ หมอนี่ชอบแกล้งเขาทุกครั้งที่มีโอกาส
เจสันไม่ได้เฮิร์ทอะไรนัก เขาแค่ไม่ค่อยมีอะไรทำ ศาลบูชาเทพเจ้าทุกองค์ตอนนี้รอแค่คนงานและวัสดุก่อสร้าง คีโมโพเลีย เทพีแห่งทะเลพิโรธเป็นจอมเรื่องมากอันดับต้นๆที่ต้องการให้ศาลบูชาของเธอมีคอนเซ็ปที่โฉบเฉี่ยวแต่เรียบง่ายในเวลาเดียวกัน
โอเค ไม่ต่างกับน้ำและน้ำมันที่รวมกันยากเหลือเกิน
อ่าฮะ แต่มันก็ยังมีสบู่ที่จะไว้ผสม อันนี้เจสันจำได้จากการเรียนเคมีกับไครอน
เจสันนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะของบ้านหมายเลขหนึ่ง จ้วงทุกอย่างเข้าปากอย่างเพลิดเพลิน เจสันมั่นใจว่าเขากับเพอร์ซีย์มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างเดียวคือรักการกินอาหารในค่ายนี้เหลือเกิน มันอร่อยสุดๆ
ยัดทุกอย่างเข้าปากพลางแอบเหลือบไปมองโต๊ะหมายเลขสิบสาม หมอนั่นไม่มากินข้าวเย็นจริงๆด้วย
40 %
เจสันพบว่าเขาลืมหมวกแก๊ปทีมแยงกี้ส์ที่แอบหยิบของแอนนาเบ็ธมาเล่นไว้บนต้นไม้หลังบ้านหมายเลขสิบสาม หากพวกไนแอ็ดเอาไปเล่นมันคงแย่ทีเดียว แอนนาเบ็ธคงระเบิดเขาและหมวกให้เป็นจุนโดยใช้แค่ดวงตาสีเทานั่น
เจสันรีบลุกขึ้นจากเตียงนุ่มๆที่นอนอยู่ นอกบ้านมันดูเหมาะกับการเป็นบุตรแห่งซุส แต่ในบ้านมันดันกลายเป็นห้องของเด็กติดเกมงอมแงม ของสะสมของเจสันวางเรียงกันในตู้จนไม่มีที่ว่าง
เจสันคว้าเสื้อกันหนาวสีดำมาสวมก่อนจะค่อยๆเปิดประตูออกไป พวกฮาร์ปี้คอยเฝ้ายามอย่างเคร่งครัด วันนี้เขาอาจจะกินเยอะไปหน่อย จานสีขาวในมือที่สวมถุงมือล้างจานของพวกมันยังขัดไม่หยุดเลย
เจสันลัดเลาะไปเรื่อย พยายามไม่ให้ตัวเองอยู่เหนือลม ฮาร์ปี้เหล่านั้นต้องได้กลิ่นเขาแน่
จนกระทั่งมาถึงบ้านหลังที่สิบสามที่มีอะไรแปลกไปกว่าเดิม
ผีเสื้อสีฟ้ากำลังงอตัวอยู่บนพื้น ปีของมันแทบจะอับแสง พวกมันดิ้นไปมาราวกับทรมานเหลือเกิน
เจสันลองเคาะประตูเพื่อจะถามด้วยความสงสัย แต่ไม่มีคำตอบ
“นิโค” เจสันเรียกไม่ดังมากนัก “นายอยู่หรือเปล่า ?”
แต่ไร้เสียงตอบรับ
ด้วยความสงสัย(จะเรียกว่าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาก็ไม่ขัด เรียกๆไปเถอะ)มือของเขาเลยเอื้อมไปบิดลูกบิด มันไม่ได้ล็อก
เจสันค่อยๆเปิดเข้าไปโดยแอบหวั่นใจว่าฮาเดสคงจะไม่ระเบิดเขาจากการก้าวเข้ามาในที่ของเทพเจ้าองค์ที่ไม่ใช่พ่อของตัวเอง แต่โอเค เขายังไม่ระเบิด และนิโคก็นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น
เขาอดคิดไม่ได้ว่าคนแปลกๆอย่างเด็กคนนี้อาจจะนึกอินดี้อยากนอนเล่นตรงพื้น แต่นอนท่านี้ก็ค่อนข้างแปลกทีเดียว
“นิโค” เจสันเรียก แต่เจ้าของบ้านไม่ขยับผิวสีโอลีฟที่ค่อนข้างจะซีดทำให้เจสันไม่แน่ใจว่าเด็กนี่ตัวซีดเป็นประจำหรือมันผิดปกติ
เขาคงต้องสังเกตคนรอบตัวให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
ตัวของนิโคเย็นเฉียบ แต่เจสันไม่รู้ว่ามันคือปกติของบุตรแห่งความตายหรือเปล่า
เจสันไม่รู้ ไม่รู้ และไม่รู้
เขาเริ่มหงุดหงิดว่าเขารู้อะไรบ้าง
“นิโค นายหลับอยู่ใช่ไหม ?” เจสันยังคงพยายามเรียกต่อไป “ได้โปรดเถอะ ตื่นขึ้นมาตอบฉันก่อนจะหลับต่อก็ได้ ?” ตัวเย็นเฉียบ เย็นแบบที่เขารู้สึกยะเยือกยามสัมผัส
ใครๆก็บอกว่าเจสันน่ะเหมือนมหาสมุทรมากกว่าเพอร์ซีย์ เพอร์ซีย์เหมือนทะเลที่มีพายุเข้าตลอดเวลา แต่เจสันเหมือนมหาสมุทร คือนิ่งได้ แต่ไม่นานหรอกนะ
“แม่งเอ้ย ...” สบถภาษาละตินสั้นๆก่อนจะช้อนร่างขาวซีดและเย็นเฉียบเพื่ออกวิ่งไปยังบ้านใหญ่ ที่ที่จะมีไครอนกับโรลม้วนผมตรงหางม้างัวเงียมาเปิดประตูเพื่อที่จะตำหนิว่าอย่ามารบกวนเขาในเวลาดึกและไม่ควรออกนอกบ้านพักยามวิกาล
เจสันคิดไม่ผิด
โรลม้วนผมตรงหางม้านั่นเป็นสีชมพูเข้ากันดีกับชุดนอนมายลิตเติ้ลโพนี่สีม่วงอ่อน แต่ก่อนที่จะถูกบ่นอะไรด้วยเสียงม้าๆนั่น เจสันก็แทรกตัวเข้าไปวางนิโคลงบนโซฟา
“ผมปลุกเขาไม่ตื่นครับ ไครอน”
“เขาอาจกำลังท่องไปในความฝัน” ไครอนเดา “นิโคจะฝันอะไรหลายๆอย่างกว่าพวกเธอมาก เด็กเอย”
“ผมไม่แน่ใจว่าสมองผมจะเข้าใจมันได้ ไครอน” เป็นการยอมรับกลายๆว่า โอ้ ผมฟังคำพูดยากๆแบบนั้นไม่ออกครับ ไครอน
“นิโคอาจจะกำลังฝันถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือสิ่งที่เขาเจอมาตลอดชีวิตนี้ หรือเขาอาจจะกำลังไปท่องความฝันใครสักคนและแกล้งให้พวกเขากลัวอยู่ก็ได้ อย่าห่วงไปเลย” ไครอนอธิบาย “โอ้ ดึกมากแล้วนะ เธอควรกลับไป ระวังฮาร์ปี้ด้วยล่ะเจสัน พวกมันดูหิวเป็นพิเศษเลยวันนี้”
เจสันจะทำอะไรได้เล่า ? อาจเป็นการชักดาบทองสัมฤทธิ์ขึ้นมาจ่อหน้าไครอนพร้อมบอกว่า ผมจะไม่มีทางไปไหน ! หรือดื้อด้านอยู่ที่นี่ต่อไป
แต่เจสันก็ตอบเพียง “ครับ ไครอน”
เขาได้แต่คิด ว่านิโคคงไม่เป็นอะไรมาก
เจสันเดินออกมา รีบพึ่งตัวกลับบ้านหมายเลขหนึ่งก่อนจะถูกอสุรกายครึ่งนกโฉบไปกินแทนมื้อดึก วางเรื่องนิโคทิ้งไว้ที่บ้านใหญ่และหลับตาลง จมลงไปกับความนุ่มของเตียงที่ทำให้เขาหลับสบาย
ลืมหมวกแก๊ปทีมแยงกี้ส์ของแอนนาเบ็ธที่ตั้งใจไปหยิบเพราะลืมไว้เสียสนิทเลย
70%
ความคิดเห็น