ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Marry You, Marry me

    ลำดับตอนที่ #3 : :Married 2:

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57


     

                ในที่สุดวันหยุดที่แสนจะน่าเบื่อก็มาถึง ซึ่งโดยปกติผมก็คงจะนอนตีพุงหรือไม่ก็หาเรื่องให้พ่อกับพี่จุนด่าอยู่ที่บ้าน แต่สำหรับวันนี้ผมตื่นเต้นสุดๆจนนั่งแทบไม่ติดเบาะรถ เพราะกำลังจะได้เห็นหน้าหวานๆของพี่ชายสุดที่เลิฟอย่างพี่ลู่สักที หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลยเกือบเดือนตั้งแต่ที่พี่ลู่ถูกบังคับแต่งงาน

                    แต่มันจะดีมากๆเป็นล้านๆเท่าเลย ถ้าไม่ต้องไปเหยียบที่บ้านของไอ้บ้าเซฮุน!!!

     

                    “ซื้ออะไรไปฝากหน่อยมั้ย!” ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆพี่จุนก็ถามขึ้น ผมพยักหน้ารับ

                    ซื้อไปเยอะๆเลยนะ แต่ซื้อให้แค่พี่ลู่คนเดียวก็พอ ที่เหลือช่างหัวมัน!” ผมตอบก่อนจะโดนพี่จุนค้อนขวับ ผมไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อยนี่หว่า มีปัญญาก็หากินกันเอาเองดิ ไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนสักหน่อยทำไมต้องหาของไปบูชาด้วย -3-

                    พี่จุนเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า จัดการล็อครถอย่างแน่นหนาแล้วพากันเดินเข้าไปข้างในห้างที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำต่างกับอากาศภายนอกโดยสิ้นเชิง ผมกับพี่ชายแยกกันไปคนละทางเพื่อหาของใช้ต่างๆที่จำเป็นและของฝากไปให้พี่ลู่

                    ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆด้วยความเพลิดเพลินโดยไม่คิดจะหยิบจะจับอะไรสักอย่าง จนกระทั่งสายตาที่ติดเลด้าตรวจจับคนสวยมันหันไปเห็นคนๆนึงซึ่งใครเห็นแล้วต้องร้องว่า... โอ้ว!!! นี่มันคนหรือนางฟ้า ความงดงามของเธอมันช่างแสบตาเหลือเกิน ใครคือผู้โชคดีที่จะได้ครอบครองหัวใจเธอกันนะ

                    ผัวะ!!!

                    ความเพ้อฝันต้องจบลงเมื่อหัวคะมำ เล่นเอาซะเห็นดาวตอนกลางวันเลย ไอ้หน้าไหนมันกล้ามาเล่นหัวจื่อเทาคนนี้วะ พ่อจะซัดให้หมอบเลย!!!

                    ผมหันขวับกลับไปมองทางด้านหลังด้วยความเร็วแสง ก่อนที่สีหน้าของผมจะเป็นแบบนี้=_= ในโลกนี้นอกจากพี่ลู่พี่จุนแล้วก็แม่ ผมก็ไม่เคยยอมให้ใครเล่นหัว แต่จะมีหมาอยู่ตัวนึงที่ห้ามเท่าไรก็ไม่ยอมฟัง ชอบเห็นหัวคนอื่นเป็นของเล่น นึกอยากจะตบเมื่อไหร่ก็ตบจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของมันไปแล้ว จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากไอ้เตี้ยแบคฮยอน

                    มองเหี้ยไรมึง!” มันถามหน้าตาย ในมือของมันถือถุงข้าวของต่างๆมากมาย แต่ส่วนใหญ่มันเป็นของที่พวกผู้หญิงใช้ไม่ใช่หรอว่ะ หรือเพื่อนตูจะกลายพันธ์แล้วล่ะเนี่ย =.,=

                    “เรื่องของกู!”

                    อย่าให้กูรู้นะว่ามึงแอบมองผู้หญิงคนนั้นอยู่!” มันชี้หน้าผมแล้วมองไปทางคุณคนสวยที่ยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่ในร้าน

                    แล้วถ้ากูมอง มึงจะทำไมกู!” ผมท้าวเอวมองหน้ามันอย่างท้าทาย

                    กูก็จะควักลูกตาของมึงออกมาโยนให้หมาแดกไง!” มันยกสองนิ้วขึ้นมาทำท่าจะจิ้มตาผม ก่อนจะเดินตึงตังเข้าไปในร้านที่คนสวยยืนอยู่ มันเดินตรงเข้าไปหาคุณคนสวยอย่างไม่ลังเล ลูกกะตาของผมแทบจะทะลักออกนอกเบ้าเมื่อมือที่ถือถุงต่างๆของมันโอบเอวบางๆไว้อย่างเป็นเจ้าของ แล้วหันมาแสยะยิ้มให้ผม

                    นี่คงไม่ได้หมายความว่ามันเป็น... กับคุณคนสวยหรอกนะ!!!

                    ผมกระดี๊บๆเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว ทำทีเป็นลูกค้าที่มาซื้อของค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้ๆสองคนนั้น ก่อนจะเงี่ยหูฟังบทสนทนาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

                    ชุดนี้สวยมั้ยค่ะแบคกี้!” บะ แบคกี้หรอO0O!! ไอ้สรรพมานนี่มันอะไรกัน นี่แสดงว่าเป็นแฟนกันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย!!!

                    “มินนี่ของผมใส่อะไรก็สวยหมดนั่นแหละค้าบ!” เป็นไปบ่ได้ มันจิมีแฟนก่อนผมได้ยังไงแถมสวยวิ้งขนาดนั้นมันไปขุดมาจากหลุมไหน ทำไมคนหล่อๆอย่างผมถึงไม่มีใครเลย แต่ไอ้เตี้ยมันหน้าตาอย่างกับตุ๊ดทำไมมันถึงหาแฟนได้แจ่มขนาดนี้ว้า >0<

                    “คุณลูกค้าเป็นอะไรรึป่าวค่ะ!” ขณะที่ผมกำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่พื้น พี่สาวที่เป็นพนักงานในร้านก็เดินมาถามผม

                    เป็นคนไม่มีแฟนครับT_T!” พูดจบก็เดินตายซากออกมาจากร้าน ทนอยู่กับบรรยากาศหวานแหววแบบนั้นไม่ไหวหรอก มันอิจฉาอยากจะกระโดดเข้าไปแทรกตรงกลาง TwT

                    ไม่ได้ๆ จะยอมไม่ได้เด็ดขาด เราจะต้องหาแฟนให้ได้แจ่มโบ๊ะกว่ามัน ไฟท์ติ้ง >0<

                    ผมรู้สึกว่าผมจะจริงจังกับเรื่องไร้สาระไปหน่อยรึป่าวเนี่ย-_- แต่ช่างเหอะ! เรื่องหาแฟนเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ต้องหาซื้อของให้พี่ลู่ก่อน เดินมาครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ได้อะไรเลยสักอย่างเดียว

     

                   Baby don’t cry, tonight 어둠이 걷히고 나면...

                    เสียงริงโทนเพลงโปรดจากศิลปินที่ดังเปรี้ยงป้างเป็นพุแตกแถมโคตรหล่อหาใดปานโดยเฉพาะมักเน่ฝั่งเอ็มที่รู้สึกจะหล่อที่สุด(?) ผมควักโทรศัพท์ออกมาดูรายชื่อก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่ามันเป็นชื่อของพี่ลู่

                    ค้าบพี่ชายสุดที่รัก!”

                    (ปากหวานจริงนะเรา) แค่ได้ยินเสียงใสๆของพี่ลู่ผมก็ชื่นใจแล้ว ^w^

                    “ผมกำลังจะไปหาพี่แล้วนะ!”

                    (อืม! จุนมยอนโทรมาบอกแล้วล่ะ แต่ที่จริงให้พี่ออกไปหาก็ได้นะ ไม่เห็นจะต้องลำบากมากันเองเลย)

                    ไม่เอาอ่ะ ถ้าพี่มาหามันก็หมายความว่าไอ้เซฮุนมันก็ต้องมาด้วยใช่มั้ยล่ะ สู้ผมไปหาพี่เองโอกาสเจอไอ้เซฮุนมันยังน้อยกว่าอีก-3-”

                    (วันนี้หมอนั่นไม่อยู่หรอก กลับมาอีกทีก็ดึกๆน่ะ)

                    ว่าแต่พี่เถอะ ไอ้เซฮุนมันทำอะไรพี่รึป่าว มันแกล้งพี่ใช่มั้ยผมรู้นะ

                    (ไม่หรอกๆ ก็ปกติดีนี่น่า)

                    เป็นไปไม่ได้หรอก มันเกลียดพี่จะตาย ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่

                    (...ก็นะ! ที่เซฮุนเป็นแบบนั้นก็เพราะพี่นี่น่า หมอนั่นไม่ผิดหรอกนะ)

                    ก็พี่ใจดีแบบนี้ไง ไอ้เซฮุนมันถึงได้ใจ หัดสู้มันบ้างก็ได้นะพี่ กระซวกไส้มันไปเลย

                    (จ้าๆพ่อคนเลือดร้อน!)

                    ผมเดินไปคุยไปอย่างสนุกปาก เจอร้านไหนถูกใจก็เดินเข้าไปเลือกๆแล้วก็ซื้อมา รู้ตัวอีกทีของก็เต็มมือไปหมดแต่ก็ยังไม่ยอมวางโทรศัพท์สักที จนกระทั่ง! สายตาของผมเหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจับมือกันอยู่ในร้านเสื้อผ้า มันคุ้นมากๆถึงจะยืนหันหลังให้ผมก็เถอะ แต่รูปร่างแบบนั้นมันคุ้นๆนะ

                    แค่นี้ก่อนนะครับ พอดีแบตจะหมดแล้วอ่ะ

                    (จ้าๆ แล้วเจอกันนะน้องชาย)

                    ค้าบฮยองผมวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนจะเดินแบบเนียนๆตามทั้งสองคนนั้นที่ออกจากร้านไป

                    นั่นมันไอ้เซฮุนนี่หว่า ที่พี่ลู่บอกไม่อยู่เพราะแบบนี้เองซินะ เลวบัดซบเลยไอ้นี่ ทั้งที่แต่งงานแล้วแท้ๆยังจะมีหน้าไปอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนอื่นอีกนะ แบบนี้ต้องจัดการสักหน่อยแล้ว หึหึ *.,*

                    ผมเฝ้าสังเกตการอยู่สักพักจนไอ้เซฮุนมันแยกตัวออกไปไหนสักที่ ผมเลยเดินเข้าไปหาเธอคนนั้นที่กำลังยืนดูเครื่องประดับอยู่

                    สวัสดีครับ!” เปิดฉากด้วยการทำหน้าหล่อเข้าไปทักทาย

                    ค่ะ!” เธอยิ้ม

                    มาคนเดียวหรอครับ!” ถ้าบอกมาคนเดียวพ่อจะกระทืบไอ้เซฮุนโชว์เลยคอยดู =_=

                    “ป่าวค่ะ! มากับแฟน แฟนหรอ

                    แล้วแฟนไปไหนหรอครับ!”

                    ไปเข้าห้องน้ำค่ะ!”

                    เออ! พอจะมีรูปแฟนมั้ยครับ พอดีผมเห็นหลังไวๆ มันคุ้นๆเหมือนไอ้เซฮุนเพื่อนของผมน่ะครับเลยอยากรู้ว่าใช่รึป่าว

                    “คุณเป็นเพื่อนของเซฮุนหรอค่ะ!” เธอถามขึ้นพลางโชว์รูปถ่ายคู่ในมือถือให้ดู

                    ครับ^^” ซะที่ไหนล่ะ -*-

                    ผมรับโทรศัพท์จากมือของเธอมาเลื่อนดู ผลปรากฏว่า... ชัดเลยพี่น้อง ยัยนี่เป็นแฟนกะไอ้เซฮุนจริงๆด้วย O0O!!!

                    นี่คุณเป็นแฟนกะไอ้เซฮุนหรอครับ!” ผมแกล้งทำหน้าตาตื่นมองหน้าเธอ

                    ค่ะ! มีอะไรรึป่าวค่ะO_O?”

                    “ผมก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะครับ กลัวว่าคุณกับมันจะมีปัญหากัน เพราะว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่คุณรับไม่ได้ ไอ้เซฮุนเลยสั่งห้ามไม่ให้ผมพูดน่ะครับ!” เริ่มแผนการเป่าหูคุณฟอแฟนไอ้เซฮุน ให้มันเลิกกันไปเลย 555+

                    เรื่องอะไรหรอค่ะ!”

                    ผมพูดไม่ได้หรอกครับ ถ้ามันรู้มันเอาผมตายแน่

                    บอกมาเถอะค่ะ ฉันไม่บอกเซฮุนหรอก

                    อย่าไปบอกมันนะครับ!”

                    ค่ะ

                    พอดีว่าไอ้เซฮุนน่ะ ที่จริงแล้วมันแต่งงานแล้วน่ะครับ จะครบเดือนแล้วด้วย

                    “O_O!!!” สีหน้าเธอตอนนี้บอกได้เลยว่า หน้าเสียสุดๆ ดูเธอจะตกใจไม่น้อยเลย คิดไว้แล้วเชียวว่าเธอคงจะไม่รู้เรื่อง เสร็จตูแน่ ฮ่าๆๆ ^3^

                    “ผมอยากจะเตือนคุณไว้นะครับ มันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คุณคิดหรอก แฟนคนก่อนนู้นก็เหมือนคุณนี่แหละครับ ทีแรกก็หวานดีแต่พอมันเบื่อก็ไล่เหมือนหมูเหมือนหมาเลย ผมตีเศร้ามองหน้าเธอ

                    เรื่องจริงหรอค่ะ!” เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เต็มที่เลย เห็นแล้วสงสาร

                    ครับ!” ผมเหลือบไปเห็นไอ้เซฮุนอยู่ริบๆ รู้สึกมันจะยังไม่เห็น ผมเลยต้องรีบชิ่งออกมารอดูสถานการณ์ไกลๆ

                    ทันทีที่ไอ้เซฮุนเดินไปถึงเธอคนนั้น ฝ่ามือเรียวก็ประทับลงบนหน้าของมันเต็มๆเสียงดัง สนั่นจนคนที่อยู่รอบๆหันมามองเป็นตาเดียว ดูแล้วมันคงจะยังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามจะตามง้อเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

                    หึหึ!” รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าของผม ถึงจะรู้สึกผิดต่อเธอคนนั้น แต่มันก็สะใจที่ได้เห็นไอ้เซฮุนร้อนรนแบบนั้น

                    ริอาจมารังแกพี่ลู่ของตู เอ็งก็ต้องเจอแบบนี้แหละ โอเซฮุน!!!

     

    .....................................................................................................

     

                    รถของผมเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านหลังใหญ่ก่อนที่มันจะจอดสนิทที่หน้าบ้าน ผมพุ่งตัวออกไปกระโดดกอดบุคคลที่ยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าประตูทันทีด้วยความคิดถึง มือเล็กของพี่ลู่ลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน พี่จุนเดินมารวบกอดทั้งผมทั้งพี่ลู่จนหายคิดถึงก็พากันเดินเข้าบ้านมาอย่างอารมณ์ดี

                    ผมเลือกที่จะไม่ไปนั่งในห้องรับแขกเพราะไม่อยากจะเจอใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้ พี่ลู่เลยพามานั่งเล่นในห้องแทน

                    พี่นอนคนเดียวรึป่าวอ่ะผมถามขณะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงสีขาวนุ่นๆ

                    อืม!” พยักหน้ารับแล้วหันไปคุยอะไรสักอย่างกับพี่จุนต่อ

                    บ้านนี้อยู่กันกี่คนหรอพี่!” ผมลุกเดินไปทิ้งตัวลงนอนหนุนตักพี่ลู่บนโซฟาข้างๆ

                    ถ้าไม่รวมพี่กับพวกคนสวน คนงาน คนรับใช้ ก็ทั้งหมดสามคน

                    ถ้าไม่รวมพี่ก็สามคน คือไอ้เซฮุน กับ........... กับใครอีกอ่ะ ผมเด้งตัวลุกขึ้นมองหน้าพี่ลู่ด้วยความสงสัย จะว่าพ่อแม่ของไอ้เซฮุนคงไม่ใช่เพราะอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง แล้วใครฟะ

                    พี่ชายของหมอนั่นอีกสองคนน่ะ!”

                    พี่ชาย... หมอนั่นไม่ใช่ลูกคนเดียวหรอO_O?” งงครับพี่น้อง

                    พี่ไม่เคยเล่าให้ฟังหรอ พี่ลู่เบิกตามอง ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

                    ก็ไม่แปลกหรอกที่นายจะไม่รู้ ก็สองคนนั้นไปอยู่แคนนาดาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะกลับมาเรียนต่อที่มหาลัยโซลได้แค่ปีเดียวเอง แล้วตอนงานแต่งเสี่ยวลู่ก็ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย พี่จุนอธิบายเสริม

                    งี้นี่เอง! มิน่าตูถึงไม่รู้เรื่องเลย =_=

                    “พี่ชายคงจะเหมือนน้องชายแน่ๆเลย!”

                    ถ้าคริสที่เป็นพี่คนโตละก็เหมือนอยู่นะ ส่วนคยองซูเขาน่ารักมากคอยช่วยเหลือพี่ตลอดเลยล่ะ

                    คริสหรอ!” ทำไมชื่อมันคุ้นๆชอบกลวะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย

                    นั่งนึกไปนึกมา จู่ๆหน้าของไอ้เงิงก็ลอยเข้ามาในสมองโดยไม่ทราบสาเหตุจนต้องสะบัดหัวไล่ภาพอุบาศๆออกไปจากสมอง

                    เออ... คริสที่ว่าเนี่ย ใช่ไอ้คนที่ฟันล้ำหน้ารึป่าวอ่ะ!”

                    ฟันล้ำหน้าหรอ...พี่ลู่กับพี่จุนมองหน้ากันแล้วหันมามองผม

                    จะว่าใช่ก็ใช่น่ะแหละ แต่หมอนั่นหล่อมากเลยนะเป็นถึงเดือนคณะเลยล่ะ พี่จุนยิ้ม

                    เทารู้จักด้วยหรอ!”

                    ก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันรึป่าวอ่ะ แต่ขออย่าให้ใช่เลยเถอะ!” ผมทำหน้าเซ็งโลกแล้วเดินออกมาที่ระเบียงห้องที่ทอดยาวออกด้านนอก

                    สวนบ้านนี้ใหญ่ดีแท้ จะเอาไว้ให้ควายวิ่งเล่นรึไงก็ไม่รู้ =_=

                    ขณะที่ผมกำลังวิพากษ์วิจารณ์สวนหน้าบ้านของคนอื่น รถสปอร์ตสีดำสนิทคันหนึ่งก็เลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านตรงมาจอดที่หน้าประตู และคนที่เปิดประตูออกมาจากฝั่งคนขับนั่นก็คือ...

                    ไอ้เซฮุน!” ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง มันดูจะอารมณ์เสียสุดๆเลยวุ้ย ทำหน้าบอกบุญไม่รับเต็มที่เลย ท่าทางจะเคลียกับคุณแฟนไม่ได้แน่ๆ

                    ผมเหลือบไปมองพี่ลู่ที่กำลังคุยสนุกปากอยู่กับพี่จุน ก่อนจะค่อยๆเดินไปแง้มประตูดูข้างนอก ทางเดินยังคงว่างเปล่าอยู่เหมือนเดิมแต่เสียงของใครบางคนกับดังก้องมาเข้าหูของผม เสียงที่คุ้นหู เสียงของไอ้เซฮุน

                    ไอ้เพื่อนที่คุณว่ามันเป็นใคร!” ผมรีบปิดประตูห้องทันทีเมื่อร่างของไอ้เซฮุนปรากฏขึ้น แต่หูก็ยังคงแนบกับประตูแอบฟังบทสนทนาระหว่างคู่รักที่กำลังจะได้เลิกกันเร็วๆนี้

                    คุณหยุดร้องไห้ก่อนได้มั้ย ผมฟังไม่รู้เรื่อง เธอร้องไห้ด้วยวุ้ย รู้สึกผิดชิบ =_=

                    “เลิกงี่เง่าเมื่อไรเดี๋ยวผมโทรไปแล้วกัน!” และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนเสียงทุกอย่างจะหายไป

                   

                    ปัง!!!

                    และไม่ทันให้ผมได้ถอยหนีประตูก็กระแทกเข้ามาอย่างแรง แถมมันฟาดหน้าผมจังๆหงายเงิบลงไปนอนนับดาวอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ข้างหน้าผมมันดูมืดไปหมด มีแต่นกน้อยกับดวงดาวลอยอยู่เต็มหน้า แถมรู้สึกเหมือนมันมีอะไรหนืดๆไหลออกมาจากจมูกด้วยแหละ

                    ...เทา เทา เสียงของพี่จุนดังขึ้น แต่สำหรับผมมันเหมือนดังมาจากอีกโลกหนึ่ง ผมที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นห้องฝืนลืมตาขึ้น รู้สึกหัวหมุนติ้ว เหมือนตอนโดนอาจารย์ทำโทษให้ปั่นจิ้งหรีดไม่มีผิด

                    เป็นไงบ้าง มือใครสักคนโบกไปมาตรงหน้าผม

                    เทา มีกี่นิ้ว

                    “สะ...สิบนิ้ว...

                    พี่ชูแค่สองนิ้ว!” เสียงตะโกนดังลั่นสะเทือนฟ้าดิน ทำให้ผมปวดหัวหนักมากกว่าเก่า เลยนอนหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น ร่างของผมถูกอุ้มขึ้นมาโดยคนที่น่าจะเป็นพี่จุนก่อนจะแบกมาทิ้งลงบนเตียง เลือดที่ไหลออกมากจมูกถูกเช็ดออกไป

                    ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย เปิดเข้ามาดีๆไม่เป็นรึไงเสียงพี่ลู่หันไปโวยวายใส่ใครสักคน ผมลืมตาขึ้นก็พบว่ามันเป็นไอ้เซฮุนนั่นเอง นี่มันคงไม่ได้แก้แค้นที่ผมไปยุแฟนมันหรอกใช่มั้ย =_=

                    “ก็ใครใช้ให้โง่ไปยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ!”

                    หน็อย! อย่าให้ตูลุกขึ้นไปได้นะเฟ้ย พ่อจะซัดให้กินข้าวไม่ได้เลย!!!

                    “ขอโทษสักคำน่ะมีมั้ย!” คราวนี้เป็นพี่จุนของผมเอง

                    ไม่จำเป็น!” แล้วมันก็เดินออกไปน่าตาเฉย พี่จุนทำท่าจะตามไปเอาเรื่องแต่โดนพี่ลู่คว้าแขนเอาไว้ก่อน

                    “เป็นไงบ้าง พี่ลู่กับพี่จุนพยุงตัวผมขึ้นนั่ง

                    ไม่เป็นไรแล้ว!” ผมส่ายหัวไปมาเพื่อไล่อาการมึนงงที่ยังตกค้างอยู่
                   
    กลับบ้านไปพักก่อนดีกว่ามั้ย พี่ลู่ยกมือขึ้นปัดเส้นผมที่มันลงมาปรกหน้าของผมออกก่อนจะหันไปมองหน้าพี่จุน

                    ไม่เอาอ่า ผมอยากอยู่กะพี่ลู่นี่น่า!”

                    อย่าลืมสิว่าตัวเองโดนกระแทกแรงๆไม่ได้น่ะ ทางที่ดีกลับไปพักก่อนเถอะนะ!” พี่ลู่ลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน ก็จริงอยู่ที่ถ้าผมโดนกระแทกแรงๆแล้วสมองมันจะรวนไปหมดจนประมวลผมแทบไม่ได้ แต่ผมก็อยากอยู่ให้นานๆกว่านี้นี่น่า -3-

                    เดี๋ยววันหลังพี่พามาใหม่ก็ได้น่า อย่าทำให้เสี่ยวลู่ลำบากใจสิ!” พี่จุนเสริมทัพ

                    -3-

                    เทา!”

                    -3-

                    อย่าดื้อสิ

                    -3-

                    “=_=”

                    “ก็ได้-3-ผมต้องยอมอย่างเสียไม่ได้เพราะสีหน้าพี่จุนเริ่มน่ากลัวขึ้นมาแล้ว

                    ผมเดินไม่ไหวอ่า อุ้มหน่อยดิ!” ผมหันไปอ้อนพี่จุน แต่ผมไม่ได้โม้นะ หัวของผมมันยังหมุนไม่หยุดจริงๆ

                    ผมขี่หลังพี่จุนออกมาจากห้องแล้วออกไปที่รถที่จอดอยู่หน้าบ้าน  ตัวของผมถูกปล่อยลงทันทีเมื่อเดินมาถึงและตามมาด้วยเสียงครวญครางของพี่จุนที่บ่นว่าผมตัวหนัก ทั้งๆที่ผมตัวผอมเพรียวจะตายไป -3-

                    ขับรถดีๆนะจุน พี่ลู่บอก พี่จุนพยักหน้าแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถ

                    ดูแลตัวเองดีๆนะพี่ลู่ อย่าให้ไอ้หน้าหมาตัวไหนมารังแกพี่ได้ล่ะ

                    จ้า^^”

                    ใบหน้ายิ้มแย้มของพี่ลู่ทำให้ผมใจหายเมื่อคิดว่าบ้านหลังนี้ยังมีไอ้เซฮุนอยู่ ถึงพี่จะยิ้มแต่ผมรู้ว่าในใจพี่คงกำลังร้องไห้อยู่แน่ๆ เมื่อไรนะพี่จะเลิกทำเป็นเข้มแข็งสักที หรือพี่คิดว่าเป็นพี่แล้วต้องเข้มแข็งให้น้องเห็นงั้นหรอ ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่น่า

                   

    ..............................................................................................

     

                    สายตาที่นิ่งเฉยมองรถสีดำขับออกไป ก่อนจะเบนสายตาไปมองที่ถุงข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเป็นของจุนมยอนและจื่อเทา ใบหน้าเกลี้ยงเกลากระตุกยิ้มอย่างเยือกเย็นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถุงส่วนใหญ่เป็นของห้างสรรพสินค้าที่เขาพึ่งพาแฟนสาวไปมาดๆก่อนที่จะทะเลาะกัน และสมองก็ประมวลออกมาได้อย่างรวดเร็ว

                    หนึ่งในสองคนนั้นอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง!

                    จุนมยอน!”

                    พี่ชายคนกลาง... ถึงจะรักพี่น้องแค่ไหน แต่นิสัยก็ไม่ได้ร้ายกาจถึงขนาดลอบกัดคนอื่นได้เจ็บแสบขนาดนี้ ส่วนใหญ่จะชอบสู้ตรงๆเลยมากกว่า...

                    จื่อเทา!”

                    น้องสุดท้อง... หวงพี่ชายตัวเองมากถึงขนาดไม่ยอมให้ใครแตะต้อง เอาแต่ใจ ร้ายลึก ทำได้ทุกอย่างเพื่อความสะใจของตัวเอง ถนัดสู้ตรงๆและ... ลอบกัด!

                    หึ! แถมกัดเจ็บซะด้วยสิรอยยิ้มเยือกเย็นผุดขึ้นมาอีกครั้ง มือกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บแค้น

     

                    แกร็ก!

                    ประตูห้องที่เคยปิดสนิทถูกเปิดเข้ามาอย่างเบามือ ลู่หานถึงกับชะงักเมื่อเห็นบุคคลที่ไม่อยากเข้าใกล้มากที่สุดในชีวิตยืนจ้องตัวเองอยู่ที่หน้าต่าง ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มที่สดใสมอบให้น้องชายมันหายไปแล้ว เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วเดินมาเก็บข้าวของต่างๆที่น้องชายทั้งสองซื้อมาฝากไปเก็บให้เรียบร้อย โดยมีสายตาของเซฮุนมองอยู่ตลอดเวลา

                    รักกันดีซะเหลือเกินนะ เสียงเย็นแทรกผ่านความเงียบเข้ามา ลู่หานถึงกับสะดุ้งจนเผลอทำของหล่นพื้นแต่ก็ยังไม่ยอมปริปากพูดอะไรสักคำ

                    น้องชายของนายเล่นฉันไว้เจ็บแสบมากเลยนะคราวนี้!” เซฮุนเดินไปกระชากข้อมือของลู่หานเอาไว้ก่อนจะกระแทกเข้ากับตู้เสื้อผ้าอย่างแรงจนเปิดปากร้องออกมา

                    สองคนนั้นไปทำอะไรให้นาย!” ลู่หานพยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่อีกฝ่ายยกมือขึ้นกันเอาไว้

                    ไม่ใช่สอง! แต่คือคนที่นายก็รู้ว่าใครเซฮุนโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหู

                    เทาหรอ!” ลู่หานพึมพำ

                    ถูกต้อง! และฉันจะไม่ยอมอยู่เฉยๆให้มันทำฝ่ายเดียวหรอก มันเจอฉันแน่!” ลู่หานถึงกับหน้าถอดสี เขารู้ดีว่าคนคนนี้สามารถทำอะไรก็ได้แค่เอ่ยปาก เรื่องที่เขาต้องแต่งงานก็เป็นเพราะคนๆนี้นี่แหละ

                    นายจะทำอะไร!”

                    นั่นสิ! ทำอะไรดีล่ะ... อนาคตที่กำลังรุ่งของเด็กปีสองในมหาลัยโซล ถ้าโดนไล่ออกจะเป็นยังไงน้า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุกขึ้นบนใบหน้าเซฮุน ลู่หานเบิกตากว้างหน้าแทบจะไม่มีสีเลือด ความรู้สึกกลัวเริ่มกัดกินจิตใจที่สั่นไหว เขากลัว กลัวคนคนนี้ กลัวว่าเขาจะทำมันจริงๆ

                    เทาไปทำอะไรให้นาย!” ลู่หานถามเสียงสั่น

                    อยากรู้ก็ไปถามมันดูเซ่!!!” ร่างเล็กถูกกระแทกอีกครั้งก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหันหลังเดินหนีไป เขารีบวิ่งไปคว้าแขนของเซฮุนเอาไว้ทันที

                    อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ฉันขอร้อง!”

                    แล้วทำไมฉันต้องฟัง!” เซฮุนสะบัดแขนอย่างแรง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมแพ้เข้าไปกอดแขนของเซฮุนเอาไว้แน่น

                    อย่าทำอะไรเด็กคนนั้นเลย ทำฉันแทนเถอะ!!!” สายตาอ้อนวอนและคำพูดของลู่หานทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาอีกครั้ง มือขวายกขึ้นลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลอย่างเบามือส่วนมือซ้ายโอบเอวบางไว้

                    ทำอะไรดีล่ะ ลู่หานเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเมื่อมือทั้งสองข้างของเซฮุนเริ่มลูบไล้ไปทั่ว พยายามใช้มือเล็กๆดันอกของคนตรงหน้าออกแต่ก็โดนอีกฝ่ายจับเอาไว้

                    นะ... นายจะทำอะไร!” ใบหน้าของเซฮุนโน้มลงมาเรื่อยๆจนปลายจมูกชนกัน ริมฝีปากของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ลู่หานตัวแข็งทื่อหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนกพยายามเบือนหน้าหนี

                    แล้วนายคิดว่าคนเป็นสามีภรรยากัน... ควรจะทำอะไรล่ะ!”

                    “อย่านะ!!!”

                    ลู่หานสะดุ้งโหยงเมื่อริมฝีปากอุ่นๆของเซฮุนสัมผัสโดนลำคอของตัวเอง ก่อนที่จะไล่คลอเคลียไปเรื่อยๆจากต้นคอขาวเนียนขึ้นไปถึงใบหูอย่างเชื่องช้า ส่วนคนที่ไม่เคยโดนสัมผัสมาก่อนในชีวิตอย่างลู่หานก็แทบจะหยุดหายใจ พยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีดันร่างของเซฮุนออก แต่ก็ต้องโดนกำราบด้วยการกัดที่ใบหูจนไม่กล้าจะขยับตัวไปไหน

                   

                    ครืด!!! ครืด!!! ครืด!!!

                    การกระทำทุกอย่างเป็นอันต้องหยุดลงเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเซฮุนสั่นขึ้นมา ลู่หานถือโอกาสผลักร่างของคนตรงหน้าอย่างแรงแล้วรีบเดินออกมาห่างๆ เซฮุนจ้องหน้าลู่หานสักพักก่อนจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายด้วยความนิ่งเฉย

                    ฮัลโหล!... ว่าอะไรนะ... เลิกหรอ.... นี่คุณพูดอะไรของคุณน่ะ!!!” ลู่หานเหลือบมองเซฮุนด้วยความสงสัย

                    รออยู่นั่นนะเดี๋ยวผมไปหา!” เซฮุนเหลือบมองลู่หานแว็บหนึ่งก่อนจะรีบพรวดพราดออกจากห้องไป ทิ้งให้ลู่หานยืนอยู่กับความเงียบเพียงลำพังในห้อง

     

    ………………………………………………………….

     

                    01.45 น.

                    เวลาล่วงเลยมานานมากตั้งแต่เซฮุนออกไป แล้วเขาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วคยองซูกับคริสก็ออกไปตามหาเพราะกลัวว่าจะไปมีเรื่องหรือเกิดอะไรขึ้นหรือป่าว ส่วนลู่หานก็ได้แต่นั่งคอยการกลับมาของคนทั้งสามอย่างใจจดใจจ่อไม่ยอมหลับเลยแม้แต่นาทีเดียว อย่างน้อยเซฮุนก็เคยเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ถึงแม้ตอนนี้มันจะเปลี่ยนไปหมดแล้วก็ตาม แต่ความห่วงใยที่เคยมีให้ในฐานะเพื่อนมันก็ยังไม่หายไปไหนอยู่ดี

                    ลู่หาน!”

                    ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมๆกับร่างของคยองซูที่เดินเข้ามาก่อนเป็นคนแรกและตามด้วยคริสที่มีเซฮุนหิ้วติดมือมาด้วย ก่อนที่จะเดินไปทิ้งไว้บนเตียง

                    ไปเจอมันในผับ เมาจนพูดไม่เป็นภาษาเลย เอาแต่เพ้อถึงยัยจูลี่อย่างเดียว แถมยังเกือบโดนกระทืบอีกต่างหาก ดีนะที่ไปทัน!” คริสพูดขณะมองน้องชายของตัวเองที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง

                    ขอโทษนะที่ทำให้ไม่ได้นอน!” คยองซูหันมาโค้งให้ลู่หานน้อยๆ

                    ไม่เป็นไรๆ^^”

                    “ยังไงก็ฝากนายดูมันหน่อยก็แล้วกันนะ ฉันไม่ไหวแล้วง่วงโคตรเลย!” คริสพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหาวออกจากห้องไป

                    “ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ!” คยองซูยิ้มแห้งๆก่อนจะขอตัวไปนอนอีกคน

                    ลู่หานยืนมองร่างที่หลับใหลอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปหาผ้าและกะละมังใส่น้ำมาเพื่อเช็ดตัวให้ กลิ่นเหล้าเบียร์ที่คละคลุ้งมันทำให้เขาที่แพ้แอลกอฮอล์ถึงกับเวียนหัวจนต้องใช้มือปิดจมูกเอาไว้ แล้วค่อยๆใช้ผ้าที่บิดหมาดๆเช็ดเบาๆไปตามใบหน้าที่แดงด่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

                    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจะต้องคอยเช็ดตัวให้เซฮุนเวลาเมา เมื่อก่อนเวลาเมาจนกลับบ้านไม่ได้เซฮุนก็มักจะนอนบ้านลู่หานประจำและคนที่คอยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อให้ก็คือลู่หาน ซึ่งทุกครั้งเขาก็จะวิ่งออกมาอวกเพราะทนกลิ่นเหล้าไม่ไหว มันเป็นความทรงจำที่ดีจริงๆถ้าเทียบกับตอนนี้ คิดแล้วก็ได้แต่ถอดหายใจ

                    ลู่หานบรรจงปลดกระดุมเสื้อออกอย่างเบามือกลัวว่าเซฮุนจะตื่น แต่มันคงไม่เบาพอ มือของเขาถูกดึงลงไปอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันด้วยมือของคนที่เคยหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนหน้า เซฮุนพลิกตัวกลับขึ้นมาด้านบนแล้วดันร่างของลู่หานลงติดกับเตียง

                    จูลี่!” เสียงที่เลื่อนลอยดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แววตาของคนตรงหน้าแดงก่ำเจือปนไปด้วยความรู้สึกมากมาย

                    จูลี่!... ใบหน้าของเซฮุนโน้มลงมา ก่อนที่ริมฝีปากของลู่หานจะถูกประกบมาอย่างรวดเร็ว เขาพยายามจะเบือนหน้าหนีแต่ก็โดยริมฝีปากของเซฮุนกดลงมาอย่างหนักหน่วงจนหันไปไหนไม่ได้

                    อืม!” ลู่หานร้องประท้วงเมื่อลิ้นร้อนที่เต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์พยายามจะรุกเข้ามา เขาขบฟันแน่น หัวเริ่มหมุนเมื่อกลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวของเซฮุนลอย มือข้างหนึ่งของเซฮุนยกขึ้นมาบีบจมูกของลู่หานเอาไว้เพื่อปิดช่องทางการหายใจ จนร่างเล็กเผลออ้าปากเพื่อหวังจะหาอากาศเข้าปอดตามสัญชาตญาณของมนุษย์ มันเลยทำให้เซฮุนลุกล้ำเข้ามาได้

                    อะ อืม!!!” ฝ่ามือเล็กๆพยายามดันคนตรงหน้าออกอย่างยากลำบาก มือของเซฮุนเริ่มไม่อยู่สุขมันสอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีขาวของลู่หานก่อนจะลูบไล้ไปทั่ว จนคนถูกกระทำถึงกับเสียวสันหลังวูบ

                    ซะ... เซฮุน!!!” ริมฝีปากบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่เซฮุนยังไม่ยอมหยุด ริมฝีปากพรมจูบต้นคอขาวฝากรอยเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของ มือทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อร่างเล็กออกทีละเม็ดๆ

                    จูลี่!” เสียงของเซฮุนลอยเข้าหูลู่หานอย่างแผ่วเบา

                    “ปล่อยฉัน! ฉันไม่ใช่ตัวแทนของผู้หญิงที่ชื่อจูลี่นะ!!!” ลู่หานตวาดลั่น การกระทำอย่างของเซฮุนหยุดลงทันที เขาเงยหน้าขึ้นมามองร่างเล็กที่อยู่ข้างล่างอย่างนิ่งเฉย

                    ลู่... หาน!” เซฮุนจ้องมองร่างเล็กที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำตา ไล่ลงไปถึงลำคอระหงที่เกิดรอยแดงเป็นจ้ำเพราะการกระทำของตัวเอง

                    พอสักที!”

                    เสียงสะอื้นดังเข้าหูทำให้เซฮุนได้สติ เขาพลิกตัวขึ้นนั่งกุมขมับ ก่อนจะลุกพรวดเดินโซซัดโซเซออกจากห้องไป ลู่หานยันตัวลุกขึ้นก่อนจะใช้มือถูปากตัวเองไปมาจนมันแดงไป หยดน้ำตาเม็ดเล็กไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ อ้อมแขนเล็กๆกอดปลอบใจตัวเอง เสียงสะอื้นน้อยๆดังอย่างแผ่วเบาในห้องที่ถูกความเงียบปกคลุม

     

                                    

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×