คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :Half-Breed: 1
ภายในห้องที่ถูกความมืดกลืนกิน ทุกทุกอย่างนิ่งสงบไร้การเคลื่อนไหว จะมีก็แต่เสียงลมหายใจแผ่วเบาของร่างที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง ข้าวของเครื่องใช้แม้กระทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นโทนสีดำ ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูมืดมนเข้าไปอีก
แอ็ด!!!
เสียงประตูถูกเปิดอย่างช้าๆ พร้อมกับร่างสูงโปร่งของใครบางคนยืนอยู่หน้าประตู ประสาทการรับรู้ที่รวดเร็วกว่ามนุษย์ธรรมดามันทำหน้าที่ไปกระตุ้นหนังตาที่ปิดสนิทให้ค่อยๆเปิดขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตาสีแดงสดที่สะท้อนในเงามืด กำลังจับจ้องผู้ที่ถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างไม่พอใจ
“หลับลืมวันลืมคืนเลยนะ... เซฮุน!” เสียงเรียบดังมาจากร่างที่ยืนพิงประตูอยู่ เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใคร นัยน์แดงฉานก็ค่อยๆอ่อนลงจนถูกแทนที่ด้วยสีน้ำตาลเข้ม
“ผมเคยบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าเปิดเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าเกิดผมแก้ผ้าอยู่จะทำไง... พี่อี๋ฟาน ไม่สิ! พี่คริส” เด็กหนุ่มเหลือบตามองพี่ชายรวมสายเลือดของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้น
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน...!” กวนโอ๊ยหน้าตาย เซฮุนพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะโต้ตอบเพราะยังไงก็เถียงไม่ชนะอยู่ดี
“หาของเล่นเจอรึป่าวล่ะ!” คริสจ้องหน้าเซฮุน
“ตราบใดที่ยังมีสัญญา! ไม่ว่าหมอนั่นอยู่ที่ไหนผมก็หาเจอ” เซฮุนเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะเดินไปที่ผ้าม่านสีดำสนิทแล้วกระชากเปิดอย่างแรง
“ทำเป็นเล่นไป! ถ้าหมอนั่นโดนไอ้พวกชั้นต่ำคาบไปกินละก็... นายจะขำไม่ออก” คริสพูดทิ้งทายก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“ก็ลองแตะต้องของของฉันดูสิ...” เซฮุนยกยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม พลางมองทิวทัศยามเช้าผ่านหน้าต่าง ในสมองหวนนึกถึงเรื่องราวตอนที่ได้พบกับคนๆนั้น
...เพราะความตายของคนที่รักที่สุดเป็นต้นเหตุ...
...ทำให้ไม่อยากจะเสียอีกหนึ่งคนที่ยังอยู่ไป....
...เพราะกลิ่นอายแห่งแรงปารถนา ที่อยากจะให้น้องชายมีชีวิตรอด...
...ทุกสิ่งทุกอย่างที่หัวใจซึ่งกำลังบอบช้ำสร้างขึ้น...
...มันทำให้ปีศาจที่กระหายความปารถนาของมนุษย์หาเจอ...
‘บอกมาสิ สิ่งที่นายปารถนา!’
เสียงทุ้มนุ่นลึกเอ่ยเรียบๆ พลางจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของร่างเล็ก
‘จื่อเทา... ช่วยเด็กคนนั้นให้มีชีวิตอยู่ต่อไป!’
เสียงเล็กๆตอบกลับ ซึ่งมันเป็นคำตอบที่พอใจเค้าเป็นอย่างมาก โดยไม่ทันให้ตั้งตัวร่างสูงของเซฮุนก็โผล่มายืนอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กกว่าด้วยความรวดเร็วจนคนตรงหน้าสะดุ้งเฮือก ใบหน้าขาวเนียนถูกช้อนขึ้นมาด้วยมือของเค้า ที่ค่อยๆลูบไล่ไปตามข้างแก้มอย่างแผ่วเบา
‘ฉันจะให้ในสิ่งที่นายต้องการ แต่ว่านายเองก็ต้องให้ในสิ่งที่ฉันต้องการเช่นกัน ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน’
ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมือของร่างสูงที่ลูบไปทั่วใบหน้ามาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบาง
‘จะเอาอะไรก็เชิญ ขอแค่เด็กคนนั้นได้มีชีวิต... ฉันให้ได้ทุกอย่าง!’
ริมฝีปากคู่สวยของเซฮุนยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนจะก้มลงจุมพิตอย่างแผ่วเบา
‘ฮึก’ เสียงสะอื้นที่พยายามสะกดเอาไว้เล็ดลอดออกมา พร้อมกับน้ำใสๆที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างสุดกลั้น ริมฝีปากของร่างสูงผละออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตา
‘อีกไม่นานฉันจะมารับ ระหว่างนี้ก็มีความสุขกับน้องชายซะให้เต็มที่’
“เวลาของนายใกล้หมดแล้ว... ลู่หาน!”
......................................................................
“พี่เป็นอะไรมากป่ะเนี่ย!” ผมถามแล้วตักไอศครีมช็อคโกแล็ตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พลางมองพี่ลู่หานที่อยู่ๆก็ขนลุกชันขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ไม่รู้เหมือนกัน!” ผมเลิกคิ้วมองพี่ลู่หานอย่างงงๆ
ช่วงหลังๆมานี่พี่ลู่หานดูไม่ค่อยดีเลย ชอบทำตัวเป็นกังวลตลอดเวลาแถมไปไหนมาไหนยังเหม่อลอยแปลกๆ ทั้งที่ปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยแท้ๆ จนผมที่อยู่ด้วยกันยังอดที่จะรู้สึกไม่ดีตามไปด้วยเลย ... นี่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะดีหรอก!!!
“มีคนกำลังคิดถึงละม้าง!!!” นี่ผมลืมสนิทเลยแหะว่ายังมีมันอยู่ด้วย... แบคฮยอน เจ้าพ่ออายไลเนอร์ที่ก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจใครจนหน้ามันเกือบจะจมลงไปในแก้วไอติม เงยหน้าขึ้นมาแซวก่อนที่สายตามันจะเบนมาทางแก้วของผมที่มีช็อคโกแล็ตก้อนโตนอนอยู่
“อย่าแม้แต่จะคิด!” ผมดึงแก้วไอติมเข้าหาตัวก่อนจะใช้มือปิด
“กับเพื่อนฝูงทำเป็นหวงนะ” มันยู้หน้าก่อนจะกลับไปตักของตัวเองเข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันจะไม่หวงเลย ถ้าเพื่อนคนนั้นไม่ใช่แก-*-
เนื่องด้วยวันนี้มันโคตรว่างและโคตรน่าเบื่อ ผม พี่ลู่หานและ... เอ่อ! อีกคนช่างหัวมันเถอะ เลยพากันมาเปิดหูเปิดตาเที่ยวตะลอนกันไปทั่วทิศทั่วแดน จนสุดท้ายก็มาจบลงที่ห้างสรรพสินค้าติดแอร์เย็นฉ่ำที่อยู่ใกล้ๆบ้าน แล้วดูเหมือนคนที่สนุกที่สุดเห็นทีจะเป็นไอ้คุณเพื่อนของผมที่เดินนำโด่งไม่สนใจอีกสองหน่อที่เดินตามหลังเลย
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเหล่มองคนที่เดินปิดปากเงียบอยู่ข้างๆผม สีหน้าดูดีขึ้นเยอะเลย แถมคิ้วที่ผูกโบว์ตลอดเวลาก็คลายแล้วด้วย สงสัยต้องพาออมาทุกวันซะแล้วแหะ
“เทา!” เสียงเล็กเรียกผมทั้งที่สายตายังมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ผมจึงขานรับเบาๆ
“สมมุตินะ! ถ้าเกิดวันหนึ่งพี่ไม่ได้อยู่กับเทาแล้ว... เทาจะร้องไห้รึป่าว” ผมถึงกับชะงักกับคำถามที่หลุดออกมาจากปากสวยของพี่ชายเพียงคนเดียวของผม ผมไม่ตอบแต่จ้องหน้าพี่ลู่หานเขม็ง
“เทาจะคิดถึงพี่บ้างมั้ย...”
“ทำไมพี่พูดแบบนี้” ผมสวนกลับ
“พี่ก็แค่...”
“พี่มีอะไรปิดบังผมอยู่ใช่มั้ย บอกมาเดี๋ยวนี้เลย!!!” ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะใจร้อนของผม เลยเผลอใส่อารมณ์ไปโดยไม่รู้ตัว
ไม่ชอบเลยแหะที่พี่ลู่หานมาพูดว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้!!!
“เทา! อย่าพึ่งโกรธสิ”
“พี่ก็พูดมาสิ! พูดมาให้หมด!!!”
“พี่....”
ผลัก!!!
ยังไม่ทันที่พี่ลู่หานจะได้พูดอะไร ร่างของผมก็ล้มค่ำลงไปทันทีเพราะถูกแรงกระแทกจากร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือชนเข้าอย่างจัง จนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นด้วยความจุกจนร้องไม่ออก แถมหัวยังไปโขกอะไรไม่รู้แถวๆนั้นรู้สึกโลกหมุนติ่วๆไปหมด
ผมพยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบากโดยมีพี่ลู่หานที่กำลังเดินเข้ามาช่วยพยุงหน้าตาตื่น แต่ก็โดนคนที่ชนผมเมื่อตะกี้ผลักกระเด็นออกไปก่อนจะเดินมากระชากตัวผมขึ้นอย่างไม่ใยดี
“อย่าเข้ามานะเว้ย! ไม่งั้นไอ้เด็กนี่คอขาดแน่!!!” เสียงตะโกนของคนที่ล็อกคอผมอยู่เรียกสติกลับมา รู้สึกตัวอีกทีก็มีแต่คนมุ่งดูเต็มไปหมดแถมมีตำรวจอีกต่างหาก แล้วที่คอก็รู้สึกเย็นๆเมื่อมีโลหะหรืออะไรสักอย่างจ่อที่คอ
นี่หมายความว่าผมโดนจับเป็นตัวประกันใช่มั้ยเนี่ย งงไปหมดแล้วO-O?
“เฮ้ยๆ พี่ชายไปทำอะไรมาล่ะ ถึงได้โดนตามแบบนี้” ผมไม่ได้จะกวนโอ๊ยนะแค่อยากรู้เฉยๆ แต่ดูเหมือนมันจะเข้าใจผิดอย่างแรง เลยกดของที่น่าจะเป็นมีดลงมาที่คอของผม แล้วรู้สึกมันจะเข้าหน่อยๆด้วยอ่ะ!!! (ใจเย็นเกินไปหน่อยรึป่าว แพนด้าเอ้ย-_-)
“ถ้าไม่อยากตายก็หุบปากไปเลย!!!” มันตะคอกด้วยอ่ะ เอาไงล่ะทีนี้! วูซูไร้ประโยชน์ไปเลยเมื่อมีดจ่อคอ ถ้าขัดขืนโดนเฉือดทิ้งจริงๆแน่เรา
ผมมองซ้ายมองขวาหาพี่ลู่หานในฝูงชนที่มามุ่งดูเหตุการณ์ ก่อนจะไปพบกับร่างเล็กที่ยืนต้วสั่นน้ำคลอเบ้าอยู่ข้างๆแบคฮยอนที่ไม่รู้มันกลับมาตอนไหน ผมรู้สึกโล่งอกไปทีที่พี่ชายไม่เป็นอะไร แต่ยังมีน่าไปห่วงคนอื่นอีกนะเรา ไม่รู้จะรอดปลอดภัยไปจากตรงนี้รึป่าวแท้ๆ-__-
“ถอยออกไปห่างๆ!!!” มันตะโกนบอกตำรวจสองนายที่ยืนหน้าเครียดอยู่ช้างหน้า แล้วค่อยๆลากผมออกมาทีละนิดๆ ตรงไปยังประตูทางออก มีดที่ยังจ่ออยู่ที่คอเสียดสีกับผิวหนังไปตามจังหวะการเดิน จนเจ็บจี๊ดแสบไปหมดทั้งคอ
กว่าจะออกได้ ตูคอขาดก่อนพอดี-*-
ปึก!!!
เหมือนด้านหลังจะชนอะไรสักอย่าง กำลังจะเหล่ตามองก็โดนลูกถีบของไอ้บ้าที่จับล็อกคอยันโครมออกมาจนเกือบจะลงไปจูบพื้น แต่ยังดีที่มีมือของใครสักคนคว้าเอวของผมได้ทันแล้วดึงเข้าไปกอด ถึงกับตะลึงตาค้างตัวแข็งไปห้าวินาที
“เสือกหรอมึง!!!” กะจะเงยหน้ามองผู้มีพระคุณสักหน่อย ก็มีตัวขัดอีกแล้วแต่คราวนี้มีดในมือของมันแหวกอากาศตรงมาที่ผมอย่างรวดเร็ว
เฮ้ย!!! ตาเหล่รึไงฟะเนี่ย ทำไมมันพุ่งมาที่หน้าตูเล่า >0<!!!
ผมซุกหน้าลงกับอกกว้างของใครที่ไหนก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ตูไม่ยอมเสียโฉมเด็ดขาด ร่างของผมถูกกอดแน่นขึ้นแล้วดึงไปอีกทางเพื่อคาดว่าน่าจะเป็นการหลบมีดที่ไอ้เหล่มันขว้างมา
“อยากตายก็ไม่บอก!” เสียงทุ้มดังมาจากเหนือหัวผม แต่สิ่งแรกที่ผมมองคือไอ้เหล่ที่ล็อกคอผมก่อนหน้า มันดูนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ดวงตาเบิกกว้างเหมือนคนกำลังเห็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
“อ๊าก!!!!!” พร้อมใจกันตะลึง เมื่ออยู่ดีๆไอ้เหล่ก็ลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่กับพื้นอย่างทรมาน ก่อนคุณตำรวจที่กำลังยืนเอ๋อจะเข้าไปช่วยกันจับตัวมันเอาไว้
บอกตามตรง ตำรวจแม่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยวะ-*-
“จื่อเทา!!!”
“ไอ้หนังเหนียว!!!”
เสียงเล็กที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงกับเสียงของไอ้คุณเพื่อนที่โคตรอยากเอารองเท้ายัดปากดังขึ้นพร้อมกับร่างที่กำลังวิ่งหน้าตื่นตรงมาทางผม กะจะเดินเข้าไปหาแต่ขยับตัวไม่ได้ เพราะอะไรน่ะหรือ....
“ปล่อย!” ผมบอกคนที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนจากเอวของผมสักที ไม่กล้ามองหน้าเพราะอายที่เมื่อตะกี้ไปซุกอกเค้าหน้าตาเฉย แขนที่เอวค่อยๆคลายออกช้าๆจนผมต้องเป็นคนเบี่ยงตัวออกมาเอง
“ตายยากจริงนะแก!” มาถึงก็ให้พรเลยเพื่อนตู-*-
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยน้องของผมไว้!” พี่ลู่หานโค้งน้อยๆให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผม ผมเลยหันไปมองให้เต็มๆตาบ้าง
“ถ้าปล่อยให้ตายก็เสียดายหน้าตาสวยๆหมดสิ” เสียงทุ้มดังจากปากคู่สวยได้รูป ผมนิ่ง อึ้ง ตะลึง อ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าไปเป็นฝูง กับใบหน้ารูปร่างลักษณะที่โคตรดูดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่บนโลก
ร่างสูงโปร่งขายาว ผมทอง หน้าเนียนขาวไร้ที่ติ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ได้ติดกระดุมบนสองเม็ด ทำให้เห็นผิวพรรณที่ดีกว่าผู้หญิงซะอีก... นี่มันคนหรือเทพบุตรO0O!!!
“ให้ผมทำอะไรตอบแทนได้รึป่าวครับ คุณ....?”
“คริส!” ปากตอบพี่ลู่หาน แต่ทำไมสายตามันมามองที่ผมล่ะเนี่ย-_-?
“ผมลู่หานครับ ส่วนนี่แบคฮยอน แล้วก็เด็กหน้าเหวี่ยงนี่ชื่อ จื่อเทาครับ” พี่ลู่หานชี้มาที่ผมนิ้วเกือบทิ่มลูกกะตา แล้วทำไมต้องไปบอกคนอื่นเค้าด้วยเนี่ยไม่เข้าใจ -*-
“จื่อเทาหรอ... น่ารักดีนี่”
“-__-” คำว่าน่ารัก มันสมควรจะใช้กับผู้ชายหรอไง!
“เรียกมันว่าแพนด้าจื่อเทาก็ได้นะ!” ผมแทบจะยันโครมไอ้คุณเพื่อนที่ปากไม่อยู่สุขให้ไปไกลๆ แต่ต้องสงบใจไว้เพราะพี่ลู่หานอยู่เดี๋ยวโดนเทศนา
“ขอตัวก่อนนะพอดีมีธุระ!... ไปก่อนนะแพนด้าน้อย” ประโยคแรกไอ้คนที่ชื่อคริสอะไรนั่นบอกพี่ลู่หาน แต่ประโยคสุดท้ายมันเดินมากระซิบข้างหูผม ทำเอาขนลุกเกรียวทั้งตัว
“คนไรวะ! โคตรดูดีเลย” แบคฮยอนเดินมากระแสะๆข้างผม
“ไม่ต้องมาเนียนเลย!”
“เทา!!!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆพี่ลู่หานก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะจับหน้าของผมให้เงยขึ้น ความเจ็บแสบแล่นขึ้นมาถึงสมอง รู้สึกเหมือนคอกำลังจะขาดไงชอบกล!!!
เอ่อ! มัวแต่ยืนตะลึง ลืมไปเลยแหะว่าโดนมีบาดคอ-__-!
“ต้องรีบไปโรงพยาบาลแล้ว!” แบคฮยอนล้วงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากดลงที่คอของผมอย่างแรง จนผมเผลอยกมือฟาดผัวะลงกบาลของมันเต็มๆด้วยความลืมตัว ก่อนที่มันจะโวยวายใส่ผมเป็นการใหญ่
.....................................................
“น่ารักดีใช่มั้ยล่ะ! ของเล่นของผม” เสียงนิ่งๆของเซฮุนดังทักขึ้นทันที เมื่อเห็นร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องโถงใหญ่ คริสยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง แล้วมองกลับไปที่น้องชายของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง
“เจ้าเด็กหน้าอ่อนนั่นน่ะหรอ!... ก็ไม่เท่าไรนี่ ถ้าเทียบกับอีกคน” เซฮุนเลิกคิ้วด้วยความสงสัย พลางเหล่มองร่างสูงที่นั่งแสยะยิ้มอยู่บนโซฟาอย่างไม่เข้าใจ... ยิ้มงั้นหรอ อี๋ฟานคนนั้นกำลังยิ้มหรอ เป็นไปไม่ได้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเค้ายังไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนั้นเลยสักครั้งนี่น่า แล้วทำไมคราวนี้....
“เด็กที่ชื่อจื่อเทาใช่รึป่าว”
ร่างสูงไม่ตอบ มีเพียงรอยยิ้มเย็นที่ประดับอยู่บนใบหน้าขาวเท่านั้นที่พอจะเป็นคำตอบของคำถามให้เซฮุนได้ เค้าก็พอจะรู้เหตุผลที่พี่ชายของตัวเองถูกใจเด็กหน้าเหวี่ยงนั่น เพราะถ้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาก็เป็นได้แค่แหล่งพลังงานเท่านั้นแหละ อี๋ฟานคนนั้นไม่มีทางชายตามองแน่ๆ แต่สำหรับเด็กนั้นไม่ใช่...
“แล้วเจ้าหน้าเอ๋อไปไหน” คริสหันซ้ายเหล่ขวาหาอีกคนที่หายหน้าหายตาไป
“เห็นบ่นว่าเบื่อ ก็คงจะออกไปข้างนอกล่ะมั้ง” เซฮุนตอบหน้าตาย ร่างสูงพยักหน้ารับเบาๆ อย่างไม่ได้สนใจอะไร ซึ่งต่างจากอีกคนที่ดูจะเป็นกังวลนิดๆ
ถ้าไม่เผลอไปฆ่าใครตายโดยใช่เหตุก็คงจะดีหรอก!
ความคิดเห็น